ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reyphanos ผู้พิทักษ์แห่งเซซินเนียร์

    ลำดับตอนที่ #22 : บทที่ 21

    • อัปเดตล่าสุด 15 มิ.ย. 58


    บทที่ 21





                    ข้ากำลังรออยู่เลย เพื่อน

                    เอนเดลลิออนยิ้มแผล่ขณะที่เดินเข้ามายืนอยู่เคียงข้างเอรอนพร้อมด้วยดาบคู่สุดที่รักที่เจ้าตัวไม่เคยเอามาใช้เลยสักครั้ง ตามมาด้วยทารีสที่เดินเข้ามาอย่างไม่รีบร้อน ในมือแกร่งมีคทาที่เรืองแสงสีฟ้าอยู่จาง ๆ แต่พลังทำลายล้างไม่ได้จางอย่างที่เห็น ในขณะที่เรอาทำเพียงแค่สิ่งรอยยิ้มเป็นกำลังใจมาให้เนื่องจากตนต้องคอยดูแลม่านมนตรา ทำให้ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้มากนัก 

                    เอรอนมองเพื่อนทั้งสามที่ใบหน้าถูกแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มแม้ในยามนี้พวกเขากำลังจะต้องทำเรื่องบางอย่างที่อาจจะถึงตายก็เป็นได้ แต่ทั้งสามกลับไม่มีแววของความเกรงกลัวปรากฏอยู่บนใบหน้าเลยแม้สักคนเดียว เอรอนรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาทันทีเมื่อรับรู้ว่ามีเพื่อนอีกสามคนคอยเคียงข้างเขา

                    อย่างนี้สินะ สิ่งที่เรียกว่าเพื่อน...

                    ความเจ็บปวดยามที่ต้องสูญเสียเพื่อนตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา เพียงพอแล้วสำหรับบทลงโทษของเพื่อนผู้ทรยศ เพียงพอแล้วสำหรับการตลบหลังและล้างแค้น เพียงพอแล้วสำหรับความเศร้าโศกที่ต้องอยู่อย่างเดียวดาย

                    ในเวลานี้ถึงเวลาที่จะต้องให้อภัยกันเสียที...

                    แต่ก็ยังมีสิ่งที่ยังค้างคาอยู่อย่างหนึ่ง...


                    จะเอายังไงดีล่ะเอรอน

                    เสียงของทารีสทำให้เทพหนุ่มหลุดจากภวังค์ เอรอนหันไปมองโครนอนที่กำลังพุ่งตัวมาหาเขาด้วยความเร็วดุจสายลมทำให้เขาต้องเบี่ยงตัวหลบและยกง้าวขึ้นมารับคมดาบอย่างฉิวเฉียด !


                    “ทำยังไงก็ได้ ให้โครนอนอยู่นิ่ง ๆ สักสิบห้านาที

                    เอนรอนบอกพร้อมกับใช้แรงดันดาบของอีกฝ่ายออกไปก่อนที่จะเริ่มเข้าบุกโจมตีบ้าง เอรอนควงง้าวเป็นวงกลมก่อนที่จะควงมันไปรอบตัวด้วยความเร็วที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า  ด้วยแรงของการควงง้าวทำให้เกิดพายุหมุนขึ้นรอบตัวของเอรอน และมันคงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นถ้านั้นไม่ใช่พายุเพลิงศักดิ์สิทธิ์ !

                    “เฮ้ย! เจ้าทำบ้าอะไรเนี่ย !”

                    เอลเดลลิออนโวยวายเมื่อเขาต้องหลบลูกหลงของพายุกันจ้าละหวั่น ก่อนที่จะใช้ดาบคู่เข้าปะทะกับโครนอนตรง ๆ การรุกไล่อย่างหนักหน่วงของเอนเดลลิออนทำให้โครนอนไม่ได้ทันละวังหลัง ซึ่งนั่นเป็นจุดผิดพลาดอย่างร้ายแรงของจอมมาร

                    เปรี้ยง
    ! ! !

                    ลูกบอลน้ำขนาดใหญ่ที่ผสมด้วยสายฟ้าแรงสูงถูกส่งมาจากคทาด้ามสายของทารีสมุ่งตรงเข้าสู่ร่างของคนไม่ทันระวังทันที ส่งผลให้ร่างของโครนอนลอยไปกระแทกกับม่านมนตราอีกฝั่งจนเกิดรอยร้าว

                    ความรุนแรงของการกระแทกทำให้เรอาที่เป็นผู้ควบคุมม่านมนตราทรุดลงกับพื้นแล้วกระอักเลือดออกมา เจ้าชายจากแดนพสุธาขบกรามแน่นอย่างอดกลั้นเมื่อความเจ็บปวดที่พุ่งขึ้นสู่สมอง  แต่เขาก็ยังคงฝืนส่งพลังเข้าไปอุดรอยร้าวของม่านมนตราเพื่อไม่ให้พลังทำลายเล็ดลอดออกไปทำร้ายทหารที่เฝ้ามองอย่างเป็นห่วงอยู่ด้านนอก

                    ทารีสทำท่าจะเข้าไปช่วยรักษา แต่เรอากลับส่ายหน้าพลางพยักพเยิดไปทางเอนเดลลิออนที่กำลังเข้าฟาดฟันกับจอมมารอยู่เพียงผู้เดียว ทำให้เจ้าชายผู้มีใบหน้าเรียบนิ่งอยู่เป็นนิจขมวดคิ้วมุ่นแต่ก็ยอมเข้าไปร่วมต่อสู้แต่โดยดี

                    เมื่อเห็นท่าทีเหนื่อยอ่อนของเอนเดลลิออน เทพเอรอนที่บัดนี้มีแต่พายุเพลิงหมุนวนอยู่รอบกายอย่างบ้าคลั่งก็ตะโกนฝ่าเสียงลมออกไปเพื่อเอ่ยเตือนคนที่กำลังต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย

                   
    เอนเดลลิออน ทารีส หลบไป ! !”

                    สิ้นเสียง ชายผู้ถูกเรียกชื่อทั้งสองก็หลบฉากออกไปอย่างรู้งาน เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เอรอนใช้ปีกอันใหญ่โตกระพือไปทางจอมมารสองสามครั้งเพื่อให้ลมพายุที่เขาเป็นคนสร้างพัดเข้าไปหาอีกฝ่ายโดยกักร่างนั้นไว้ให้อยู่ใจกลางของพายุหมุน

                    เสียงร้องอันเกรี้ยวกราดที่ดังขึ้นอย่างขัดใจของโครนอน ไม่ทำให้ใครเกรงกลัวได้เท่าใบหน้าอันนิ่งสงบของเอรอนที่กำลังยืนมองร่างของเพื่อนสนิทที่กำลังถูกพายุหมุนดูดกลืนเข้าไปทั้งร่าง เมื่อเห็นว่าจอมมารเข้าไปอยู่ภายในพายุตามแผนที่ได้วางไว้ เอรอนก็บินเข้าตามไปโดยไม่ฟังเสียงทัดทานจากเพื่อนทั้งสามที่ตะโกนห้ามกันสุดเสียง

                   
    คุณ / เอรอน ! อย่า ! !”

                    ไอ้บ้าเอ้ย ! คิดจะทำอะไรของเจ้านั่น ! !”

                    เอรอนแฝงเข้ามาในพายุที่กำลังหมุนวนอย่างรุนแรงพลางสังเกตท่าทางของโครนอนไปด้วย โครนอนในยามนี้กำลังหอบหายใจอย่างรุนแรง เนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลจากไฟลวกและรอยบาดอยู่ทั่วร่างกาย เลือดสีแดงฉานไหลออกมาราวกับทำนบแตกแบบที่หากเขาเป็นคนธรรมดาคงตายไปแล้ว แต่เพราะพลังมืดของจอมมารคอยหล่อเลี้ยงร่างกายของโครนอนเอาไว้ทำให้เทพแห่งท้องนภาไม่ล้มพับไปอย่างที่ควรเป็น

                    พึบ
      !

                    อา.. ยังไม่ทันขาดคำก็ล้มลงไปซะแล้ว

                    เอรอนส่ายหน้ากับภาพที่เขาเห็น เทพหนุ่มเข้าใจถึงนิสัยของโครนอนดี แม้จะเจ็บเจียนตายแค่ไหนก็ไม่มีทางล้มลงต่อหน้าคู่ต่อสู้เด็ดขาด และดูเหมือนว่านิสัยเสียแบบนี้ก็คงจะยังฝังรากลึกลงเข้าไปในจิตใจแบบที่แม้จะถูกจอมมารครอบงำสติแต่ก็ยังไม่ลืมถึงสัญชาตญาณในข้อนี้

                    แฮก แฮก

                    เสียงหอบหายใจอย่างหนักหน่วงทำให้เอรอนแอบคิดว่าพวกเขาลงมือหนักเกินไปรึเปล่า แต่เมื่อเห็นดวงตาสีเลือดที่ยังคงส่องประกายกล้าอย่างไม่ยอมแพ้เขาก็ต้องล้มเลิกความคิดนั้นไปทันที

                    เอรอนก้าวย่างเข้าไปหาร่างที่ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นด้วยฝีเท้าอันมั่นคงก่อนที่จะหยุดอยู่ตรงหน้าจอมมารนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้น จอมมารเมื่อเห็นร่างของผู้บุกรุกก็ไม่รอช้าลุกขึ้นหยิบดาบขึ้นมาฟาดฟันใส่ฝ่ายตรงข้ามทันที แต่นั่นกลับช้าไปสำหรับเทพผู้ครอบครองสายลม เอรอนเอี้ยวกายหลบเพียงเล็กน้อยก็สามารถรอดพ้นจากคมดาบได้ไม่ยาก จากนั้นจึงสับมือไปที่หลังคอของอีกฝ่ายที่บาดเจ็บสาหัสอยู่ก่อนแล้วให้ทรุดตัวลงไปกับพื้นแบบที่ไม่ให้มีแรงลุกขึ้นมาฟันคนอื่นเข้าเล่นอีกเป็นครั้งที่สอง

                   
    อยู่นิ่ง ๆ แล้วฟังที่ข้าพูดซะ เอรอนกล่าวเสียงเย็น

                   
    เจ้า...

                    จอมมารเหลือบตาขึ้นมามองเอรอนอย่างอาฆาตแค้น ทางฝ่ายคนที่ถูกมองก็ไม่ได้นึกสะเทือนแต่อย่างใด ชายหนุ่มนั่งลงกับพื้นให้สายตาอยู่ระดับเดียวกับจอมมารก่อนที่จะพูดขึ้นมาอีกครั้ง

                   
    ข้าบอกให้อยู่นิ่ง ๆ

                    ...

                    เอาล่ะ เรามาตกลงกันสักทีจอมมาร เทพหนุ่มนิ่งไปนิดเพื่อคิดหาคำพูดที่เหมาะสม เจ้าอยู่ในร่างของเพื่อนข้านานเกินไปแล้ว

                    ....

                    “ถึงเวลาที่เจ้าต้องไปเสียที

                    เพื่อนของเจ้ายินยอมให้ข้าอยู่ไปอาศัยอยู่ด้วยตัวเอง และถึงเจ้าจะกราบแทบเท้าขอร้องอย่างไรข้าก็ไม่ออกไปจากร่างนี้เด็ดขาด ! !”

                    เปรี้ยง ! !

                    พูดพร้อมสายฟ้าฟาดลงมายังใจกลางของพายุ เอรอนโบกมือเพียงครั้งเดียวก็สามารถสลายสายอัศนีที่จอมมารจงใจฟาดลงมายังตนได้ นัยน์ตาสีแดงประกายทองของเอรอนจ้องเขม็งไปยังคนที่แม้จะบาดเจ็บแต่ก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์ ก่อนที่จะกระตุกยิ้มมุมปากที่ใครมาเห็นก็คงต้องบอกว่า

                     เจ้าเล่ห์จนไม่มีใครเกิน

                   
    แล้วถ้าข้าบอกว่า... จะให้เจ้าเข้ามาอาศัยอยู่ในร่างของข้าแทนล่ะ?

                    เจ้าว่าอะไรนะ จอมมารเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ

                   
    ข้าบอกว่าถ้ายินยอมให้เจ้าเข้ามาอยู่ในร่างของข้า เจ้าจะยอมออกมาจากร่างของเพื่อนข้าไหม

                    รอยยิ้มมุมปากของเอรอนทำให้จอมมารต้องหรี่ตามองด้วยความไม่ไว้ใจ เทพสายลมเป็นเทพที่เจ้าเล่ห์เพอุบายมากที่สุดในสรวงสวรรค์ คำพูดของเขาที่กล่าวออกมาล้วนเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเพียงเท่านั้น

                   
    ว่าอย่างไรล่ะ ข้าเชื่อว่าพลังของข้าในยามนี้มีมากกว่าโครนอนแน่นอน อีกทั้งยังมีตำแหน่งราชาปีศาจ ตำแหน่งเจ้าชายรัชทายาทแห่งเวนเดลล่า คิดว่าคุ้มค่าไหม

                    เอรอนพยายามเกลี้ยกล่อมเมื่อเห็นท่าทีอ่อนลงของอีกฝ่าย ใบหน้าครุ่นคิดของจอมมารทำให้เอรอนกระตุกยิ้มเมื่อเดาได้ว่าอีกฝ่ายนั้นตกลงที่เขาขุดเอาไว้เรียบร้อย

                    จอมมารผู้บ้าอำนาจ ปีศาจผู้เก่งกาจแต่โง่เขลา เมื่อเห็นความยิ่งใหญ่กองอยู่ตรงหน้าก็พร้อมที่จะตะครุบไว้อย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง โง่สิ้นดี

                   
    เงื่อนเขาของเจ้าคืออะไร จอมมารถามขึ้น

                    เอรอนยิ้ม ยิ้มที่พยายามทำให้ดูจริงใจที่สุด
    แค่ปล่อยเพื่อนของข้า ทำได้ไหม

                    เจ้านี่รักเพื่อนจังเลยนะ จอมมารแค่นหัวเราะ ได้ ข้าจะปล่อยเพื่อนของเจ้าไป

                    “งั้นก็ปล่อยเสียทีสิ

                    เอรอนเร่ง เมื่อเขารู้สึกถึงพลังของเปลวเพลิงและสายน้ำกำลังพุ่งเข้าใส่พายุที่เข้าสร้างขึ้นเอาไว้บังสายตาของคนภายนอก ถ้าหากยังยื้อเวลาออกไปอีกนิด เขาเชื่อว่าทั้งเอนเดลลิออนและทารีสก็คงจะสามารถฝ่าพายุเข้ามาได้แน่ ๆ

                    จอมมารหลับตาลง ก่อนที่ร่างนั้นจะล้มลงไปนอนกับพื้นไม่ได้สติ เอรอนเห็นร่างโปร่งใสของจอมมารที่มีใบหน้าเหมือนกับโครนอนทุกระเบียบนิ้วลุกขึ้นมาจากร่างของเทพแห่งท้องนภา ก่อนที่ร่างโปรงใสนั้นมีสีเข้มขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่จะกลายเป็นร่างที่มีเนื้อหนังเฉกเช่นเดียวกันกับมนุษย์

                    เอรอนเบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง

                   
    เจ้า... ทำได้อย่างไรกัน

                    หึ ร่างนี้น่ะหรือ จอมมารหัวเราะในลำคอ อย่าคิดว่าหลายพันปีที่ผ่านมาข้าเอาแต่นอนนิ่งอยู่ในร่างเพื่อนเจ้าสิ การรวบรวมพลังกลับมามันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับข้าหรอกนะ

                    “งั้นที่เจ้าบอกข้าว่าจะปล่อยเพื่อนข้าไปล่ะ

                    เจ้านั่นมันไม่มีประโยชน์สำหรับข้าอีกต่อไปแล้ว จอมมารว่าพร้อมปรายตาไปทางโครนอนที่หมดสติอยู่บนพื้น สิ่งที่ข้าต้องการมีเพียงอย่างเดียว

                    เอรอนมองจอมมารด้วยความไม่ไว้ใจ มือแกร่งเผลอกระชับง้าวที่สร้างมาจากเพลิงศักดิ์สิทธิ์แน่น ลางสังหรณ์บางอย่างกำลังเตือนเขาว่าภัยร้ายกำลังคืบคลานเข้ามา ! “เจ้าต้องการอะไร





                    หึ หึ หึ  





                    ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
    ! !







                    คนถูกถามหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง สิ่งที่ข้าต้องการน่ะหรือ ! !” นัยน์ตาสีเลือดตวัดมาทางเอรอนอย่างมุ่งร้าย สังหารเจ้าคนเกะกะอย่างเจ้ายังไงล่ะ ! !”





                    เคร้ง ! !





                    ดาบคู่งามกระทบกับง้าวที่ตั้งรับอยู่ก่อนแล้ว เอรอนหลบการโจมตีของจอมมารก่อนที่จะเป็นฝ่ายพุ่งตัวเข้าไปรุกไล่อีกฝ่ายบ้าง แต่ก็ติดขัดเมื่อสถานที่ที่ใช้ในการต่อสู้ข้นข้างแคบ อีกทั้งยังต้องคอยหลบร่างของเพื่อนรักที่นอนนิ่งอยู่กับพื้น

                    นิ่งจนน่ากลัว

                    จอมมารที่จับสังเกตได้ว่าเอรอนพยายามที่จะเบี่ยงวิถีการต่อสู้ให้ออกห่างจากโครนอนก็กระตุกยิ้มอย่างไม่น่าไว้ใจ ก่อนที่ร่างนั้นจะพุ่งเข้าหาและตวัดดาบไปยังร่างที่นอนนิ่งอย่างไปออมแรง
    !





                    เคร้ง !




                    อึก ! !





                    เอรอนกัดฟันแน่น แม้เขาจะสามารถเข้ามากันอีกฝ่ายได้ทันเวลา แต่จังหวะที่เขาเข้ามานั้นก็ทำให้เขนเทพหนุ่มโดนปลายของดาบบาดลึกเป็นทางยาว

                   
    อย่าแตะต้องเพื่อนข้า ! !” 

                    เอรอนตวาดกร้าว จากนั้นจึงดันดาบของอีกฝ่ายออกไปและลุกขึ้นถีบเต็มแรง! ตามด้วยง้าวที่ฟันเข้าใส่จอมมารอย่างไร้การควบคุม แขนข้างที่โดนดาบฟันเสียหายจนใช้การไม่ได้ ทำให้เอรอนจำต้องประคองง้าวด้วยมือเดียว ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ลำบากมากสำหรับอาวุธยาวเช่นนี้ ท่าทางการกวัดแกว่งง้าวราวกับเด็กแกว่งไม้ของเอรอนเป็นการเปิดช่างว่างขนาดใหญ่ให้อีกฝ่าย จอมมารขยับยิ้มเหี้ยมก่อนที่จะตวัดดาบไปที่ข้อมือข้างที่ถือง้าวของเอรอนเต็มแรงจนง้าวเล่มนั้นหลุดมือก่อนที่จะสลายไปที่สุด





                    ฉึก
    ! !







                    ดาบเล่มงามของจอมมารปักเข้าที่หน้าท้องของเอรอนจนมิดด้าม เขางอตัวลงเพื่อลดความเจ็บปวดก่อนที่จะกระตุกเฮือกและกระอักเลือดออกมาเมื่ออีกฝ่ายดึงดาบออกไปอย่างรวดเร็ว เอรอนทรุดตัวลงหายใจรวยรินอยู่กับพื้น  เขารู้แล้วว่ายังไงเขาก็ไม่รอด แต่ถ้าจะให้สลายพายุเพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนอีกสามคนที่เหลือยิ่งไม่ได้ใหญ่



                    เขาไม่ยอมให้พวกนั้นเข้ามาเสี่ยงอันตรายเด็ดขาด...




                    
    เอนด์..ทา..รีส.. เรอา.. หนะ.. หนี.. ไป.. อั่ก !”

                    ยิ่งพูดก็ยิ่งกระอักเลือดออกมา ความเจ็บปวดทำให้ดวงตาของเขาพร่ามัวลงทุกที




                    ไม่
    ! ! เขาจะไม่ยอมตายง่ายๆเด็ดขาด !





                    “เห็นใครต่อใครก็บอกว่าเทพสายลมนี้ช่างเก่งกาจ จอมมารค่อย ๆ เยื้องย่างเข้ามาหาเอรอนที่นอนอยู่ด้วยรอยยิ้ม ไหนล่ะความเก่งกาจที่ว่า หึ ก็แค่เด็กที่อ่อนต่อโลกคนหนึ่ง

                    ปล่อย... เพื่อนข้า..ไป  เขาพยามเค้นคำพูดออกมา

                    ไม่ไหวแล้ว.. เขากำลังจะตายใช่ไหม..

                   
    ไม่ต้องห่วงหรอกท่านมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อท่านตายไปแล้ว ท่านจะไม่รู้แล้วล่ะว่าใครได้ตายตามท่านไปบ้าง

                    เอรอนหลับตาลงราวกับยอมจำนนต่อโชคชะตา

                   
    ตายซะเถอะเอรอน ! ! ”























                    ฉึก ! ! / ฉึก ! !





















                    ความเจ็บปวดเล่นจากหน้าอกขึ้นมาสู่สมองของเขา ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะชาลงไปในที่สุด เอรอนพยามลืมตาขึ้นมามองเหตุการณ์เบื้องหน้า

                    เขาเห็นดาบที่ปักอยู่บนอกของเขา เขาเห็นจอมมารกำลังล้มลงกับพื้นโดยที่หลังของเจ้านั่นมีดาบเล่มงามปักจนทะลุออกมาด้านหน้า ส่วนคนที่อยู่ด้านหลังจอมมารและลงมือสังหารนั่นก็คือ..








                    โครนอน..










                   
    เอรอน ! ! ! !”

                    จบแล้วสินะ..

                    เอนรอนหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า หมดสิ้นสักที่ต่อภาระหน้าที่ตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา หมดสิ้นต่อตำแหน่งหน้าที่ทั้งผู้พิทักษ์งี่เง่านั่น ตำแหน่งราชา และเจ้าชายรัชทายาท หมดสิ้นกันสักที.. ไม่มีอะไรที่ติดค้างอีกต่อไปแล้ว...

                     . . .


                    . . .

                 
                    . . .


                    . . .


                    . . .

     
                    . . .




                     ลาก่อน... เพื่อนรักของข้า

























    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ตอนนี้สั้นไปนิสสสนึง ไม่ว่ากันนะ.. 55555
    พอดีไรต์ไม่ถนัดฉากต่อสู้เลย ออกมาได้เท่านี้จริงๆค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ T^T

    ตอนหน้าจะเป็นบทส่งท้ายแล้วนะคะ รู้สึกหวิวๆยังไงไม่รู้สิ

    อย่าลืมไปอ่าน

    King Parsel เปิดตำนานกษัตริย์แห่งฟาเรเซียร์

    กันนะคะ ^^

    แล้วเจอกันตอนจบจ้าาาา










                   

                    
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×