คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : บทที่ 21
บทที่ 21
“ข้ากำลังรออยู่เลย เพื่อน”
เอนเดลลิออนยิ้มแผล่ขณะที่เดินเข้ามายืนอยู่เคียงข้างเอรอนพร้อมด้วยดาบคู่สุดที่รักที่เจ้าตัวไม่เคยเอามาใช้เลยสักครั้ง ตามมาด้วยทารีสที่เดินเข้ามาอย่างไม่รีบร้อน ในมือแกร่งมีคทาที่เรืองแสงสีฟ้าอยู่จาง ๆ แต่พลังทำลายล้างไม่ได้จางอย่างที่เห็น ในขณะที่เรอาทำเพียงแค่สิ่งรอยยิ้มเป็นกำลังใจมาให้เนื่องจากตนต้องคอยดูแลม่านมนตรา ทำให้ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้มากนัก
เอรอนมองเพื่อนทั้งสามที่ใบหน้าถูกแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มแม้ในยามนี้พวกเขากำลังจะต้องทำเรื่องบางอย่างที่อาจจะถึงตายก็เป็นได้ แต่ทั้งสามกลับไม่มีแววของความเกรงกลัวปรากฏอยู่บนใบหน้าเลยแม้สักคนเดียว เอรอนรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาทันทีเมื่อรับรู้ว่ามีเพื่อนอีกสามคนคอยเคียงข้างเขา
อย่างนี้สินะ สิ่งที่เรียกว่าเพื่อน...
ความเจ็บปวดยามที่ต้องสูญเสียเพื่อนตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา เพียงพอแล้วสำหรับบทลงโทษของเพื่อนผู้ทรยศ เพียงพอแล้วสำหรับการตลบหลังและล้างแค้น เพียงพอแล้วสำหรับความเศร้าโศกที่ต้องอยู่อย่างเดียวดาย
ในเวลานี้ถึงเวลาที่จะต้องให้อภัยกันเสียที...
แต่ก็ยังมีสิ่งที่ยังค้างคาอยู่อย่างหนึ่ง...
“จะเอายังไงดีล่ะเอรอน”
เสียงของทารีสทำให้เทพหนุ่มหลุดจากภวังค์ เอรอนหันไปมองโครนอนที่กำลังพุ่งตัวมาหาเขาด้วยความเร็วดุจสายลมทำให้เขาต้องเบี่ยงตัวหลบและยกง้าวขึ้นมารับคมดาบอย่างฉิวเฉียด !
“ทำยังไงก็ได้ ให้โครนอนอยู่นิ่ง ๆ สักสิบห้านาที”
เอนรอนบอกพร้อมกับใช้แรงดันดาบของอีกฝ่ายออกไปก่อนที่จะเริ่มเข้าบุกโจมตีบ้าง เอรอนควงง้าวเป็นวงกลมก่อนที่จะควงมันไปรอบตัวด้วยความเร็วที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ด้วยแรงของการควงง้าวทำให้เกิดพายุหมุนขึ้นรอบตัวของเอรอน และมันคงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นถ้านั้นไม่ใช่พายุเพลิงศักดิ์สิทธิ์ !
“เฮ้ย! เจ้าทำบ้าอะไรเนี่ย !”
เอลเดลลิออนโวยวายเมื่อเขาต้องหลบลูกหลงของพายุกันจ้าละหวั่น ก่อนที่จะใช้ดาบคู่เข้าปะทะกับโครนอนตรง ๆ การรุกไล่อย่างหนักหน่วงของเอนเดลลิออนทำให้โครนอนไม่ได้ทันละวังหลัง ซึ่งนั่นเป็นจุดผิดพลาดอย่างร้ายแรงของจอมมาร
เปรี้ยง ! ! !
ลูกบอลน้ำขนาดใหญ่ที่ผสมด้วยสายฟ้าแรงสูงถูกส่งมาจากคทาด้ามสายของทารีสมุ่งตรงเข้าสู่ร่างของคนไม่ทันระวังทันที ส่งผลให้ร่างของโครนอนลอยไปกระแทกกับม่านมนตราอีกฝั่งจนเกิดรอยร้าว
ความรุนแรงของการกระแทกทำให้เรอาที่เป็นผู้ควบคุมม่านมนตราทรุดลงกับพื้นแล้วกระอักเลือดออกมา เจ้าชายจากแดนพสุธาขบกรามแน่นอย่างอดกลั้นเมื่อความเจ็บปวดที่พุ่งขึ้นสู่สมอง แต่เขาก็ยังคงฝืนส่งพลังเข้าไปอุดรอยร้าวของม่านมนตราเพื่อไม่ให้พลังทำลายเล็ดลอดออกไปทำร้ายทหารที่เฝ้ามองอย่างเป็นห่วงอยู่ด้านนอก
ทารีสทำท่าจะเข้าไปช่วยรักษา แต่เรอากลับส่ายหน้าพลางพยักพเยิดไปทางเอนเดลลิออนที่กำลังเข้าฟาดฟันกับจอมมารอยู่เพียงผู้เดียว ทำให้เจ้าชายผู้มีใบหน้าเรียบนิ่งอยู่เป็นนิจขมวดคิ้วมุ่นแต่ก็ยอมเข้าไปร่วมต่อสู้แต่โดยดี
เมื่อเห็นท่าทีเหนื่อยอ่อนของเอนเดลลิออน เทพเอรอนที่บัดนี้มีแต่พายุเพลิงหมุนวนอยู่รอบกายอย่างบ้าคลั่งก็ตะโกนฝ่าเสียงลมออกไปเพื่อเอ่ยเตือนคนที่กำลังต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย
“เอนเดลลิออน ทารีส หลบไป ! !”
สิ้นเสียง ชายผู้ถูกเรียกชื่อทั้งสองก็หลบฉากออกไปอย่างรู้งาน เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เอรอนใช้ปีกอันใหญ่โตกระพือไปทางจอมมารสองสามครั้งเพื่อให้ลมพายุที่เขาเป็นคนสร้างพัดเข้าไปหาอีกฝ่ายโดยกักร่างนั้นไว้ให้อยู่ใจกลางของพายุหมุน
เสียงร้องอันเกรี้ยวกราดที่ดังขึ้นอย่างขัดใจของโครนอน ไม่ทำให้ใครเกรงกลัวได้เท่าใบหน้าอันนิ่งสงบของเอรอนที่กำลังยืนมองร่างของเพื่อนสนิทที่กำลังถูกพายุหมุนดูดกลืนเข้าไปทั้งร่าง เมื่อเห็นว่าจอมมารเข้าไปอยู่ภายในพายุตามแผนที่ได้วางไว้ เอรอนก็บินเข้าตามไปโดยไม่ฟังเสียงทัดทานจากเพื่อนทั้งสามที่ตะโกนห้ามกันสุดเสียง
“คุณ / เอรอน ! อย่า ! !”
“ไอ้บ้าเอ้ย ! คิดจะทำอะไรของเจ้านั่น ! !”
เอรอนแฝงเข้ามาในพายุที่กำลังหมุนวนอย่างรุนแรงพลางสังเกตท่าทางของโครนอนไปด้วย โครนอนในยามนี้กำลังหอบหายใจอย่างรุนแรง เนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลจากไฟลวกและรอยบาดอยู่ทั่วร่างกาย เลือดสีแดงฉานไหลออกมาราวกับทำนบแตกแบบที่หากเขาเป็นคนธรรมดาคงตายไปแล้ว แต่เพราะพลังมืดของจอมมารคอยหล่อเลี้ยงร่างกายของโครนอนเอาไว้ทำให้เทพแห่งท้องนภาไม่ล้มพับไปอย่างที่ควรเป็น
พึบ !
อา.. ยังไม่ทันขาดคำก็ล้มลงไปซะแล้ว
เอรอนส่ายหน้ากับภาพที่เขาเห็น เทพหนุ่มเข้าใจถึงนิสัยของโครนอนดี แม้จะเจ็บเจียนตายแค่ไหนก็ไม่มีทางล้มลงต่อหน้าคู่ต่อสู้เด็ดขาด และดูเหมือนว่านิสัยเสียแบบนี้ก็คงจะยังฝังรากลึกลงเข้าไปในจิตใจแบบที่แม้จะถูกจอมมารครอบงำสติแต่ก็ยังไม่ลืมถึงสัญชาตญาณในข้อนี้
แฮก แฮก
เสียงหอบหายใจอย่างหนักหน่วงทำให้เอรอนแอบคิดว่าพวกเขาลงมือหนักเกินไปรึเปล่า แต่เมื่อเห็นดวงตาสีเลือดที่ยังคงส่องประกายกล้าอย่างไม่ยอมแพ้เขาก็ต้องล้มเลิกความคิดนั้นไปทันที
เอรอนก้าวย่างเข้าไปหาร่างที่ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นด้วยฝีเท้าอันมั่นคงก่อนที่จะหยุดอยู่ตรงหน้าจอมมารนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้น จอมมารเมื่อเห็นร่างของผู้บุกรุกก็ไม่รอช้าลุกขึ้นหยิบดาบขึ้นมาฟาดฟันใส่ฝ่ายตรงข้ามทันที แต่นั่นกลับช้าไปสำหรับเทพผู้ครอบครองสายลม เอรอนเอี้ยวกายหลบเพียงเล็กน้อยก็สามารถรอดพ้นจากคมดาบได้ไม่ยาก จากนั้นจึงสับมือไปที่หลังคอของอีกฝ่ายที่บาดเจ็บสาหัสอยู่ก่อนแล้วให้ทรุดตัวลงไปกับพื้นแบบที่ไม่ให้มีแรงลุกขึ้นมาฟันคนอื่นเข้าเล่นอีกเป็นครั้งที่สอง
“อยู่นิ่ง ๆ แล้วฟังที่ข้าพูดซะ” เอรอนกล่าวเสียงเย็น
“เจ้า...”
จอมมารเหลือบตาขึ้นมามองเอรอนอย่างอาฆาตแค้น ทางฝ่ายคนที่ถูกมองก็ไม่ได้นึกสะเทือนแต่อย่างใด ชายหนุ่มนั่งลงกับพื้นให้สายตาอยู่ระดับเดียวกับจอมมารก่อนที่จะพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“ข้าบอกให้อยู่นิ่ง ๆ”
“...”
“เอาล่ะ เรามาตกลงกันสักทีจอมมาร” เทพหนุ่มนิ่งไปนิดเพื่อคิดหาคำพูดที่เหมาะสม “เจ้าอยู่ในร่างของเพื่อนข้านานเกินไปแล้ว”
“....”
“ถึงเวลาที่เจ้าต้องไปเสียที”
“เพื่อนของเจ้ายินยอมให้ข้าอยู่ไปอาศัยอยู่ด้วยตัวเอง และถึงเจ้าจะกราบแทบเท้าขอร้องอย่างไรข้าก็ไม่ออกไปจากร่างนี้เด็ดขาด ! !”
เปรี้ยง ! !
พูดพร้อมสายฟ้าฟาดลงมายังใจกลางของพายุ เอรอนโบกมือเพียงครั้งเดียวก็สามารถสลายสายอัศนีที่จอมมารจงใจฟาดลงมายังตนได้ นัยน์ตาสีแดงประกายทองของเอรอนจ้องเขม็งไปยังคนที่แม้จะบาดเจ็บแต่ก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์ ก่อนที่จะกระตุกยิ้มมุมปากที่ใครมาเห็นก็คงต้องบอกว่า
เจ้าเล่ห์จนไม่มีใครเกิน
“แล้วถ้าข้าบอกว่า... จะให้เจ้าเข้ามาอาศัยอยู่ในร่างของข้าแทนล่ะ?”
“เจ้าว่าอะไรนะ” จอมมารเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“ข้าบอกว่าถ้ายินยอมให้เจ้าเข้ามาอยู่ในร่างของข้า เจ้าจะยอมออกมาจากร่างของเพื่อนข้าไหม”
รอยยิ้มมุมปากของเอรอนทำให้จอมมารต้องหรี่ตามองด้วยความไม่ไว้ใจ เทพสายลมเป็นเทพที่เจ้าเล่ห์เพอุบายมากที่สุดในสรวงสวรรค์ คำพูดของเขาที่กล่าวออกมาล้วนเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเพียงเท่านั้น
“ว่าอย่างไรล่ะ ข้าเชื่อว่าพลังของข้าในยามนี้มีมากกว่าโครนอนแน่นอน อีกทั้งยังมีตำแหน่งราชาปีศาจ ตำแหน่งเจ้าชายรัชทายาทแห่งเวนเดลล่า คิดว่าคุ้มค่าไหม”
เอรอนพยายามเกลี้ยกล่อมเมื่อเห็นท่าทีอ่อนลงของอีกฝ่าย ใบหน้าครุ่นคิดของจอมมารทำให้เอรอนกระตุกยิ้มเมื่อเดาได้ว่าอีกฝ่ายนั้นตกลงที่เขาขุดเอาไว้เรียบร้อย
จอมมารผู้บ้าอำนาจ ปีศาจผู้เก่งกาจแต่โง่เขลา เมื่อเห็นความยิ่งใหญ่กองอยู่ตรงหน้าก็พร้อมที่จะตะครุบไว้อย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง โง่สิ้นดี
“เงื่อนเขาของเจ้าคืออะไร” จอมมารถามขึ้น
เอรอนยิ้ม ยิ้มที่พยายามทำให้ดูจริงใจที่สุด “แค่ปล่อยเพื่อนของข้า ทำได้ไหม”
“เจ้านี่รักเพื่อนจังเลยนะ” จอมมารแค่นหัวเราะ “ได้ ข้าจะปล่อยเพื่อนของเจ้าไป”
“งั้นก็ปล่อยเสียทีสิ”
เอรอนเร่ง เมื่อเขารู้สึกถึงพลังของเปลวเพลิงและสายน้ำกำลังพุ่งเข้าใส่พายุที่เข้าสร้างขึ้นเอาไว้บังสายตาของคนภายนอก ถ้าหากยังยื้อเวลาออกไปอีกนิด เขาเชื่อว่าทั้งเอนเดลลิออนและทารีสก็คงจะสามารถฝ่าพายุเข้ามาได้แน่ ๆ
จอมมารหลับตาลง ก่อนที่ร่างนั้นจะล้มลงไปนอนกับพื้นไม่ได้สติ เอรอนเห็นร่างโปร่งใสของจอมมารที่มีใบหน้าเหมือนกับโครนอนทุกระเบียบนิ้วลุกขึ้นมาจากร่างของเทพแห่งท้องนภา ก่อนที่ร่างโปรงใสนั้นมีสีเข้มขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่จะกลายเป็นร่างที่มีเนื้อหนังเฉกเช่นเดียวกันกับมนุษย์
เอรอนเบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง
“เจ้า... ทำได้อย่างไรกัน”
“หึ ร่างนี้น่ะหรือ” จอมมารหัวเราะในลำคอ “อย่าคิดว่าหลายพันปีที่ผ่านมาข้าเอาแต่นอนนิ่งอยู่ในร่างเพื่อนเจ้าสิ การรวบรวมพลังกลับมามันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับข้าหรอกนะ”
“งั้นที่เจ้าบอกข้าว่าจะปล่อยเพื่อนข้าไปล่ะ”
“เจ้านั่นมันไม่มีประโยชน์สำหรับข้าอีกต่อไปแล้ว” จอมมารว่าพร้อมปรายตาไปทางโครนอนที่หมดสติอยู่บนพื้น “สิ่งที่ข้าต้องการมีเพียงอย่างเดียว”
เอรอนมองจอมมารด้วยความไม่ไว้ใจ มือแกร่งเผลอกระชับง้าวที่สร้างมาจากเพลิงศักดิ์สิทธิ์แน่น ลางสังหรณ์บางอย่างกำลังเตือนเขาว่าภัยร้ายกำลังคืบคลานเข้ามา ! “เจ้าต้องการอะไร”
หึ หึ หึ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ! !
เคร้ง ! !
ดาบคู่งามกระทบกับง้าวที่ตั้งรับอยู่ก่อนแล้ว เอรอนหลบการโจมตีของจอมมารก่อนที่จะเป็นฝ่ายพุ่งตัวเข้าไปรุกไล่อีกฝ่ายบ้าง แต่ก็ติดขัดเมื่อสถานที่ที่ใช้ในการต่อสู้ข้นข้างแคบ อีกทั้งยังต้องคอยหลบร่างของเพื่อนรักที่นอนนิ่งอยู่กับพื้น
นิ่งจนน่ากลัว
จอมมารที่จับสังเกตได้ว่าเอรอนพยายามที่จะเบี่ยงวิถีการต่อสู้ให้ออกห่างจากโครนอนก็กระตุกยิ้มอย่างไม่น่าไว้ใจ ก่อนที่ร่างนั้นจะพุ่งเข้าหาและตวัดดาบไปยังร่างที่นอนนิ่งอย่างไปออมแรง!
เคร้ง !
อึก ! !
เอรอนกัดฟันแน่น แม้เขาจะสามารถเข้ามากันอีกฝ่ายได้ทันเวลา แต่จังหวะที่เขาเข้ามานั้นก็ทำให้เขนเทพหนุ่มโดนปลายของดาบบาดลึกเป็นทางยาว
“อย่าแตะต้องเพื่อนข้า ! !”
เอรอนตวาดกร้าว จากนั้นจึงดันดาบของอีกฝ่ายออกไปและลุกขึ้นถีบเต็มแรง! ตามด้วยง้าวที่ฟันเข้าใส่จอมมารอย่างไร้การควบคุม แขนข้างที่โดนดาบฟันเสียหายจนใช้การไม่ได้ ทำให้เอรอนจำต้องประคองง้าวด้วยมือเดียว ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ลำบากมากสำหรับอาวุธยาวเช่นนี้ ท่าทางการกวัดแกว่งง้าวราวกับเด็กแกว่งไม้ของเอรอนเป็นการเปิดช่างว่างขนาดใหญ่ให้อีกฝ่าย จอมมารขยับยิ้มเหี้ยมก่อนที่จะตวัดดาบไปที่ข้อมือข้างที่ถือง้าวของเอรอนเต็มแรงจนง้าวเล่มนั้นหลุดมือก่อนที่จะสลายไปที่สุด
ฉึก ! !
ดาบเล่มงามของจอมมารปักเข้าที่หน้าท้องของเอรอนจนมิดด้าม เขางอตัวลงเพื่อลดความเจ็บปวดก่อนที่จะกระตุกเฮือกและกระอักเลือดออกมาเมื่ออีกฝ่ายดึงดาบออกไปอย่างรวดเร็ว เอรอนทรุดตัวลงหายใจรวยรินอยู่กับพื้น เขารู้แล้วว่ายังไงเขาก็ไม่รอด แต่ถ้าจะให้สลายพายุเพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนอีกสามคนที่เหลือยิ่งไม่ได้ใหญ่
เขาไม่ยอมให้พวกนั้นเข้ามาเสี่ยงอันตรายเด็ดขาด...
“เอนด์..ทา..รีส.. เรอา.. หนะ.. หนี.. ไป.. อั่ก !”
ยิ่งพูดก็ยิ่งกระอักเลือดออกมา ความเจ็บปวดทำให้ดวงตาของเขาพร่ามัวลงทุกที
ไม่ ! ! เขาจะไม่ยอมตายง่ายๆเด็ดขาด !
“เห็นใครต่อใครก็บอกว่าเทพสายลมนี้ช่างเก่งกาจ” จอมมารค่อย ๆ เยื้องย่างเข้ามาหาเอรอนที่นอนอยู่ด้วยรอยยิ้ม “ไหนล่ะความเก่งกาจที่ว่า หึ ก็แค่เด็กที่อ่อนต่อโลกคนหนึ่ง”
“ปล่อย... เพื่อนข้า..ไป” เขาพยามเค้นคำพูดออกมา
ไม่ไหวแล้ว.. เขากำลังจะตายใช่ไหม..
“ไม่ต้องห่วงหรอกท่านมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อท่านตายไปแล้ว ท่านจะไม่รู้แล้วล่ะว่าใครได้ตายตามท่านไปบ้าง”
เอรอนหลับตาลงราวกับยอมจำนนต่อโชคชะตา
“ตายซะเถอะเอรอน ! ! ”
ฉึก ! ! / ฉึก ! !
ความเจ็บปวดเล่นจากหน้าอกขึ้นมาสู่สมองของเขา ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะชาลงไปในที่สุด เอรอนพยามลืมตาขึ้นมามองเหตุการณ์เบื้องหน้า
เขาเห็นดาบที่ปักอยู่บนอกของเขา เขาเห็นจอมมารกำลังล้มลงกับพื้นโดยที่หลังของเจ้านั่นมีดาบเล่มงามปักจนทะลุออกมาด้านหน้า ส่วนคนที่อยู่ด้านหลังจอมมารและลงมือสังหารนั่นก็คือ..
โครนอน..
“เอรอน ! ! ! !”
จบแล้วสินะ..
เอนรอนหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า หมดสิ้นสักที่ต่อภาระหน้าที่ตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา หมดสิ้นต่อตำแหน่งหน้าที่ทั้งผู้พิทักษ์งี่เง่านั่น ตำแหน่งราชา และเจ้าชายรัชทายาท หมดสิ้นกันสักที.. ไม่มีอะไรที่ติดค้างอีกต่อไปแล้ว...
. . .
. . .
. . .
. . .
. . .
. . .
ลาก่อน... เพื่อนรักของข้า
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนนี้สั้นไปนิสสสนึง ไม่ว่ากันนะ.. 55555
พอดีไรต์ไม่ถนัดฉากต่อสู้เลย ออกมาได้เท่านี้จริงๆค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ T^T
ตอนหน้าจะเป็นบทส่งท้ายแล้วนะคะ รู้สึกหวิวๆยังไงไม่รู้สิ
อย่าลืมไปอ่าน
King Parsel เปิดตำนานกษัตริย์แห่งฟาเรเซียร์
กันนะคะ ^^
แล้วเจอกันตอนจบจ้าาาา
ความคิดเห็น