คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : บทที่ 12 (100%)
บทที่ 12
เคร้ง เคร้ง!!
เสียงดาบปะทะดาบดังขึ้นภายในลานฝึกอาวุธของหน่วยพิเศษอย่างต่อเนื่อง เรฟานอสที่กำลังใช้ดาบสีทองใสที่คับคล้ายคับคลาว่าเคยเห็นมาเมื่อคืนตวัดใส่รุ่นพี่ที่มีศักดิ์เป็นหัวหน้าหน่วยอย่างรวดเร็ว เรนเดลพลิกตัวหลบและยกดาบขึ้นมาตั้งรับแรงที่โถมลงมาอย่างฉิวเฉียด
“แรงควายเป็นบ้า” รุ่นพี่บ่นอุบ
“ทำไมพี่ว่าน้องอย่างนี้ล่ะครับ” เรฟานอสหัวเราะอย่างไม่ถือสา แล้วกระโดดถอยออกมาตั้งหลัก จากนั้นจึงพุ่งเข้าไปหาเรนเดลอีกครั้ง เมื่อรุ่นพี่หนุ่มยกดาบขึ้นตั้งรับ เรฟานอสก็พลิกตัวก่อนที่จะเกิดการปะทะ อ้อมไปอยู่ด้านหลังของเรนเดลและวาดดาบใส่คนที่ไม่ทันระวังหลังเต็มแรง!
เคร้ง!!
วิ้วว
“สวยงาม” เรฟานอสผิวปากชมคนที่หันมาต้านดาบของตนไว้ได้ทันเวลา ทำเอาหนุ่มรุ่นพี่ค้อนควับ
“เพราะเจ้าเล่ห์แบบนี้สิ เจ้าคารอสถึงเอาชนะนายไม่ได้สักที” ว่าพร้อมปัดดาบไปด้านข้าง และเริ่มพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายทันที
“เพลงดาบของพี่คารอสมันอ่านง่าย ทื่อและแข็ง จะไปสู้พวกที่พลิกแพลงได้ยังไง” เรฟก้มลงหลบดาบที่หมายจะฟันคอเขาขาดแล้วโวยรุ่นพี่ตัวดีที่ยืนยักคิ้วกวนๆมาให้
“พี่เรนเดลครับ!! กะเอาตายเลยใช่มั๊ยนี่!!”
“ถ้านายตายเจ้าคารอสจะได้ไม่ต้องมาเรียนใหม่เป็นรอบที่ยี่สิบไง”
เอาล่ะเหวย...
อยู่โรงเรียนนี้แล้วอายุสั้นจริงๆด้วย...
“ผมไม่ยอมให้พี่ฆ่าผมหรอกน่า” เรฟานอสถอยออกมาและโยนดาบสีทองในมือทิ้งอย่างไม่ใยดี นิ้วเรียวแตะไปที่จี้สีทองแล้วเรียกชื่อศัตราวุธคู่ใจออกมา
‘ออกมาเล่นด้วยกันสิ เอสตาร์’
วูบ!
แสงสีน้ำเงินสว่างวาบพร้อมกับง้าวเล่มงามปรากฏขึ้นในมือของคนเรียก เรฟานอสยักคิ้วให้รุ่นพี่ที่มองเขาอย่างทึ่งๆอย่างเป็นต่อ
“ผมไม่ยอมแพ้หรอก”
“ต้องอย่านี้สิ” เรนเดลยิ้มกว้าง “อาวุธเจ๋งๆ กับคนเจ๋งๆมาอยู่คู่กันแบบนี้ค่อยน่าสนุกหน่อย!!”
เรฟานอสจับจ้องไปยังหัวหน้าหน่วยที่พุ่งมาหาตัวเองอย่างสบายๆ ทุกทวงท่าของเรนเดลช่างเชื่องช้าราวกับภาพสโลสำหรับเขา แต่อยู่ๆรุ่นพี่หนุ่มก็หายวับไปจากคลองสายตาทำเอาเรฟเบิกตากว้าง สันชาตญาณกำลังบอกเขาถึงอันตรายที่กำลังพุ่งตรงเข้ามา
ด้านหลัง!?
ไม่ ไม่ใช่ ไม่ใช่ด้านหลัง
ด้านบน!!
เคร้ง!!!
เสียงดาบปะทะด้ามของง้าวดาราดังก้องยิ่งกว่าทุกครั้งเรียกความสนใจของคู่อื่นๆที่ซ้อมกันเสร็จแล้วให้หันมามองอย่างง่ายดาย เมื่อเรฟสบเข้ากับนัยน์ตาของรุ่นพี่หนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นหัวหน้าหน่วยพิเศษ เรฟก็ถึงกับผงะไปเล็กน้อยก่อนที่จะยกยิ้มอย่างถูกใจ
เรนเดล แอสม่า กำลังเอาจริง!!
โดยไม่รู้ตัว ดวงตาสีน้ำเงินใสของเรฟก็แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงประกายทอง มือแกร่งควงง้าวด้ามงามเป็นวงกลม ก่อนที่ทุกท่วงท่าที่เคยเป็นไปตามแบบแผนก็กลายเป็นสิ่งที่เคลื่อนไหวไปตามสัญญาณตญาณของสัตว์ป่า!!
เคร้ง!!!
. . .
. . .
. . .
. . .
. . .
. . .
“โอ๊ยยยย ชาตินี้ให้ตายยังไงฉันก็จะไม่สู้กับเจ้าเรฟเด็ดขาด!!”
เสียงฮาคลืนดังขึ้นเมื่อรุ่นพี่หัวหน้าหน่วยพิเศษบ่นขึ้นกลางห้องนั่งเล่นที่พวกรุ่นพี่พากันมานั่งพักและทำแผลหลังซ้อมเสร็จ หลายคนได้แผลฟกช้ำกันไปตามๆกัน แต่ที่หนักหน่อยก็คงจะเป็นคนที่บ่นเสียลั่นห้องที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียวอย่างไม่มีช่องว่างราวกับคู่ต่อสู้ตั้งใจเล็งที่ใบหน้าอย่างไรอย่างนั้น
“แล้วทำไมหน้านายเป็นอย่างนั้นล่ะ” รุ่นพี่ปีสี่คนนึงถามขึ้น
“ก็เจ้าเรฟน่ะสิ เดี๋ยวก็ ‘เผลอ’ เอาศอกมาโดนหน้า เดี๋ยวก็ ‘เผลอ’ เอาด้ามง้าวมาโดนหน้า เดี๋ยวก็ ‘เผลอ’ ทำง้าวหลุดจากมือเลยสอยฉันด้วยหมัดแทนซะอย่างนั้น”
คำว่า ‘เผลอ’ ที่ย้ำเสียหนักแน่นทำเอาคน ‘เผลอ’ ยีผมตัวเองแก้เก้อและแก้ตัวเสียงเบา
“ผมเผลอจริงๆนี่นา”
“อ้อหรอ” เรนเดลแยกเขี้ยวใส่รุ่นน้องอย่างไม่สบอารมณ์ หน้ามีแต่รอยช้ำแบบนี้ก็ไปหาสาวๆไม่ได้น่ะสิ!!
“แผลนิดหน่อยทำเป็นโอดโอย” คารอสแขวะเพื่อนเข้าให้ ก่อนที่จะหันมาทางอาจารย์ในวัยเยาว์
“วันนี้วันหยุด นายจะไปไหนรึเปล่า”
“คิดว่าจะนอนอยู่ในห้องนี่แหละครับ” เรฟยิ้ม “พี่มีอะไรรึเปล่าครับ”
“พวกฉันจะไปตลาด” คารอสตอบกลับเสียงเรียบ เรฟานอสเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ พี่ไปตลาดแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ...
คารอสถอนหายใจอีกครั้ง
“นายจะไปด้วยกันรึเปล่า ชวนเพื่อนไปด้วยก็ได้”
เมื่อได้ยินคำตอบของรุ่นพี่ ดวงตาสีน้ำเงินก็พราวระยับขึ้นอย่างถูกใจ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าตัวสนใจที่จะไปขนาดไหน เห็นทีว่าถ้าคารอสเกิดอยากเปลี่ยนใจไม่ให้ไปกะทันหันก็คงห้ามไม่ได้เสียด้วยซ้ำ
“พี่ไปกันกี่โมงครับ ใครไปบ้าง”
ทำไมคารอสถึงรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเห็นหูและหางกระดิกไปมาจากอาจารย์คนนี้นะ...
“เดี๋ยวขึ้นไปอาบน้ำเสร็จแล้วก็จะไปเลย ประมาณครึ่งชั่วโมง ถ้านายไปก็รีบไปอาบน้ำซะ เหงื่อออกขนาดนี้”
เรฟานอสยิ้มกว้างพยักหน้าขึ้นลงรัวๆและวิ่งขึ้นห้องไปอย่างรวดเร็ว ไอความสุขแผ่กระจายไปทั่วร่างทำเอาคนที่พบเห็นตามทางมองไปยังเจ้าคนผมเงินที่ใบหน้าดูอิ่มเอิบยิ่งกว่าทุกวันอย่างแปลกใจ ไม่ต่างกับเรนเดลและรุ่นพี่ปีสี่ที่มองไปทางคารอสอย่างสงสัยเช่นเดียวกัน
“คารอส ตกลงว่านายมีอาจารย์หรือลูกชายกันแน่น่ะ”
เรื่องนั้นคารอสก็ไม่แน่ใจสักเท่าไหร่เหมือนกัน...
---------------------------------------------------- 40%----------------------------------------------------------------------
“เอนเดลลิออนนนนนนนนนนนนน!!!”
ปึง!!
เสียงประตูถูกถีบจนกระแทกผนังดังสนั่นจนคนที่ยังนอนอืดอยู่บนเตียงผุดลุกขึ้นมาและมองไปยังผู้ประทุษร้ายประตูราคาแพงของคนอย่างตกใจ เจ้าของชื่อมองไปยังเพื่อนผมเงินที่อยู่ในชุดทะมัดทะแมงแต่กระชากใจสาวอย่างงุนงง
“นายมีอะไร”
“ไปเที่ยวกัน!”
ว่าพร้อมรอยยิ้มกว้างเอาเอลเดลลิออนเห็นภาพของเจ้าเพื่อนคนนี้ในสมัยเด็กซ้อนทับขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“อารมณ์ไหนของนายล่ะ เมื่อตอนเช้ายังเครียดอยู่เลย ทำไมพอสายหน่อยถึงทำตัวเป็นลูกหมาได้ของเล่นเสียอย่างนั้น”
เรฟานอสแยกเขี้ยวใส่เพื่อนอย่างไม่สบอารมณ์
พอเครียดก็ไม่ชอบ พออารมณ์ดีก็หาว่าเป็นหมา ไอ้บ้านี่!
“พอดีได้ออกกำลังกายนิดหน่อย” เรฟหมุนหัวไหล่สองสามครั้งเพื่อเป็นการแสดงให้ดูว่าเขารู้สึกดีที่ได้ออกกำลังกายยามเช้าไม่น้อย “พี่คารอสชวนไปตลาด นายจะไปรึเปล่า”
“เสียใจด้วย วันนี้ฉันมีนัดทานข้าวกับพี่อลิเซียหน่วยสอง”
“อะไรนะ? นายไปรู้จักกับพี่เขาตอนไหน” เรฟอ้าปากค้าง เจ้าเพื่อนคนนี้ไปทำความรู้จักมักคุ้นจนต้องไปทานข้าวกับเจ้าแม่ของหน่วยสองตอนไหน เห็นวันๆก็อยู่แต่กับเขาไม่ใช่หรอ
“พอดีมีอุบัติเหตุนิดหน่อย พี่อลิเซียเลยจะเลี้ยงขอโทษ” เอลเดลลิออนยิ้มและโบกมือไล่
“เอาล่ะ ทีนี้นายก็ออกไปได้แล้วฉันจะนอนต่อ ถ้าเหงาก็ไปชวนทารีสสิ เห็นว่าวันนี้ก็ว่างเหมือนกัน”
ให้ชวนเจ้าชายหน้านิ่งไปตลาดเนี่ยนะ...
แต่ก็ช่างเถอะ ถือว่าพาเจ้าชายจากหอคอยงาช้างไปเปิดหูเปิดตาก็แล้วกัน
“งั้นฉันไปละ”
เรฟานอสทิ้งท้ายไว้เท่านั้นและเดินออกมาจากห้องโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูอย่างแรงตามความหมันไส้ที่มีต่อเจ้าของห้องอีกด้วย เรฟทำเป็นไม่สนใจกับเสียงก่นด่าที่ลอยทะลุประตูออกมาและเดินตรงไปยังอีกห้องหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล แต่ก่อนที่เรฟจะได้ยกมือเคาะ ประตูบานนั้นก็ถูกเปิดออกมาจากข้างในเสียก่อน
เจ้าของห้องเลิกคิ้วมาคนที่ยืนอยู่หน้าประตูเป็นเชิงถาม
“สวัสดีทารีส วันนี้นายว่างรึเปล่า”
เจ้าชายทารีสนิ่งไปชั่วครู่ก่อนที่จะพยักหน้า “ก็ว่าง มีอะไรรึเปล่า”
“ดีเลย!” เรฟยิ้มกว้าง “ไปตลาดกัน”
“ตลาด?” ทารีสพึมพำเบาๆ “ก็ได้ แล้วไปกี่โมง”
“ตอนนี้เลย!!”
ทารีสมองหน้าคนที่ร้อยวันพันปีไม่เคยชวนเขาเที่ยวนิ่งๆ ก่อนที่จะถอยหลังเข้าไปในห้องและปิดประตูทำเอาคนชวนอ้าปากค้าง แต่ยังไม่ทันที่เรฟจะเคาะประตูอีกครั้ง ประตูก็ถูกเปิดออกเผยให้เห็นถึงเจ้าชายจากแดนสายน้ำในชุดสบายๆแต่ดูดีไม่หยอกพร้อมเที่ยวยืนอยู่ตรงหน้า
เรฟานอสส่งยิ้มให้อีกฝ่ายที่ถึงจะหน้านิ่งแต่การกระทำไม่นิ่งตามอย่างล้อๆ
“หล่อเชียวนะ”
“จะไปก็รีบไป จะได้ไม่ต้องกลับเย็น” คนโดนหยอกหน้านิ่ง
“ครับผม เชิญก่อนเลยครับคุณชาย”
เรฟผายมือให้อีกฝ่ายเดินนำไปก่อนยิ้มๆและเดินตามลงไปยังชั้นล่างที่มีคารอสและเรนเดลยืนรออยู่แล้ว คารอสเดินตีคู่ไปกับเรนเดลนำไปที่รถม้าที่จอดอยู่หน้าประตูรั้วของโรงเรียน เมื่อขึ้นมาบนรถม้าทั้งหมดก็จับจองพื้นที่นั่งของตัวเอง ก่อนที่คารอสจะเป็นคนไปสั่งคนขับให้ออกรถทันที
สองข้างทางที่รถม้าวิ่งผ่านเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวขจี ดอกไม้หลากลายสีพร้อมใจกันเบ่งบานราวกับรอต้อนรับเหล่านักเดินทางที่ผ่านไปมา บรรยากาศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันร่มรื่นนั้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า โรงเรียนเตรียมอัศวินคาเรเนียสแห่งนี้อยู่ห่างไกลจากผู้คนมากแค่ไหน
“ไม่ทันได้สังเกตเลยนะ ว่าโรงเรียนของเราจะอยู่ไกลจากตลาดขนาดนี้” เรฟยิ้มขณะที่สายตาก็ยังจับจ้องไปยังนอกหน้าต่างที่เต็มไปด้วยเหล่าพฤกษาหลากหลายชนิด
“เขาสร้างไว้กันเด็กหนีเที่ยวตอนกลางคืน” คารอสกล่าวเสียงนิ่งแต่แฝงไปด้วยคำเหน็บแนมอยู่ในที
“มีคนกล้าหนีเที่ยวด้วยหรอครับ”
“มี เป็นเด็กดื้อที่ไม่ยอมฟังคำเตือนของคนรอบข้าง” เรฟานอสหัวเราะเบาๆกับคำพูดของลูกศิษย์ตัวดีที่ตอนนี้มีศักดิ์เป็นถึงรุ่นพี่รองหัวหน้าหน่วยปีศาจที่จงใจพูดเหมือนกระทบเรฟโดยตรง
“มันก็ต้องแล้วแต่ว่าสถานการณ์มันเป็นยังไง”
“พวกนายพูดอะไรกันเนี่ย! ให้ฉันเข้าใจด้วยได้ไหม” เรนเดลโพล่งขึ้นมาขัดอารมณ์สุนทรีของศิษย์อาจารย์ที่กำลังตอบโต้กันอย่างเมามัน คารอสหันไปขมวดคิ้วมุ่นใส่เพื่อนของตนแล้วพูดเสียงเรียบ
“นายน่ะ นั่งเงียบๆไป”
“อูยยย ก็พวกนายพูดอะไรกันก็ไม่รู้ อย่างน้อยก็อธิบายให้ฉันกับทารีสฟังด้วยสิ”
คนที่นั่งเงียบมาตลอดมองคนที่เอาชื่อของตัวเองไปเอี่ยวด้วยปลงๆ
เขาอุตส่านั่งเงียบคิดจะเก็บของมูลของเพื่อนที่เต็มไปด้วยความลับคนนี้แล้วนะ ยังจะมีคนขัดขึ้นมาอีก...
ทารีสไม่สนใจที่เรนเดลพูดสักนิด เขาเลือกที่จะถามสิ่งที่ตัวเองสงสัยมาตลอดออกมา
“นายอยู่แต่กับเอนด์ที่วัง แล้วพ่อแม่นายล่ะ”
“พ่อแม่ก็อยู่บ้านสิ” เรฟานอสหัวเราะ “ที่บ้านฉันยังมีพี่ชายอีกคนนึง ฉันเชื่อว่าเขาดูแลพ่อแม่ได้”
“เลิกเล่นกันได้แล้ว อีกห้านาทีจะถึงตลาดแล้ว”
คารอสเตือนขึ้น เรฟานอส ทารีส และเรนเดลจัดเสื้อผ้าขยับปกเสื้อของตนให้ดูดีพร้อมๆกับรถม้าที่จอดนิ่งสนิท เรนเดลก้าวลงจากรถเป็นคนแรก โดยที่คารอส ทารีส และเรฟานอสลงมาปิดท้าย คารอสเดินไปกระซิบเบาๆกับคนขับรถม้าสั้นๆก่อนที่รถจะวิ่งห่างออกไป
“พวกฉันจะไปซื้อของ พวกนายจะไปด้วยรึเปล่า”
เรนเดลหันมาถามรุ่นน้องที่ยืนนิ่งกันอยู่สองคน ทารีสและเรฟานอสหันมาสบตากันอย่างชั่งใจชั่วครู่ก่อนที่เรฟจะเป็นฝ่ายตอบขึ้นมา
“ไม่เป็นไรครับ พวกผมไปเดินกันเองดีกว่า”
เรนเดลพยักหน้าเข้าใจ “งั้นเจอกันตอนห้าโมงเย็น”
เรฟานอสมองส่งรุ่นพี่ทั้งสองไปจนลับตา ก่อนที่จะหันมาหาเจ้าชายหนุ่มที่ยืนกอดอกหน้านิ่งอยู่ด้านข้าง
“นายอยากซื้ออะไรรึเปล่า”
คนถูกถามส่ายหน้า “ไม่ นายจะไปซื้ออะไรก็นำไปเลย”
“งั้นเดินไปเรื่อยๆแล้วกัน”
เจ้าชายหนุ่มที่ไม่เคยออกมาเปิดหูเปิดตาข้างนอกมองไปตามร้านรวงต่างๆที่ตั้งเรียงรายอยู่เต็มสองข้างทางอย่างสนใจทำเอาเรฟนึกอยากจะหาอะไรมาเก็บภาพเจ้าเพื่อนคนนี้เอาไปไว้ชมเวลาเครียดๆเสียจริง ถึงใบหน้าจะนิ่งเรียบแต่แววตากลับพราวระยับ เดินไปไม่เท่าไหร่ก็หันมาหาเขาแล้วถามไม่หยุด
‘เรฟ นั่นอะไร’
‘เรฟ อันนี้เอาไว้ทำอะไร’
‘เรฟ ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้นล่ะ’
บอกเขาทีว่านี่คือเจ้าชายไม่ใช่เจ้าหนูจำไม...
“เรฟ อันนี้คืออะไร”
เนื้อย่างที่ถูกเสียบด้วยไม้สองสามอันถูกยื่นมาตรงหน้าเรฟานอสทำให้คนที่คิดอะไรเพลินๆหลุดออกจากภวังค์และหันไปมองเจ้าเนื้อเสียบไม้และคนยื่นมาให้สลับกันไปมา
“นายซื้อมาก่อนแล้วค่อยถามเนี่ยนะ”
“อันนี้คืออะไร” เจ้าชายหนุ่มถามย้ำอีกรอบ
“เนื้อเกรนดี้ย่าง ก็อร่อยดีนะ ลองกินดูสิ” เรฟตอบอย่างเอือมๆ แต่ไม้เนื้อย่างที่จ่ออยู่ตรงหน้าของเรฟก็ยังอยู่ที่เดิมทำให้เจ้าตัวเลิกคิ้วมองคนยื่นอย่างสงสัย “ทำไม”
“ของนาย” ทารีสยกเนื้อย่างที่ตัวเองถืออยู่อีกข้างให้ดูเพื่อบอกว่าเขามีอยู่แล้วอีกสามไม้ ทำให้เรฟถึงกับร้องอ้อเบาๆ
ที่แท้ก็ซื้อมาเผื่อ..
ใจดีนะเนี่ย
“ขอบใจ”
เรฟรับเนื้อย่างทั้งสามไม้มากินและพาเจ้าชายจากดินแดนแห่งสายน้ำเดินชมตลาดไปเรื่อยๆ แต่อาจจะเป็นเพราะพวกเขาเดินเข้ามาลึกจนเกินไปหรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้ทั้งสองมาโผล่อยู่ในตรอกเล็กๆที่ดูไม่น่าพิสมัยสักเท่าไหร่
“รู้สึกว่าเราจะมาผิดทางนะ”
เรฟมองไปรอบๆ เมื่อไม่เห็นอะไรน่าสนใจจึงหันหลังเพื่อพาทารีสเดินไปทางอื่นแต่ก็ถูกคว้าข้อมือเอาไว้ก่อน
“มีอะไรรึเปล่า”
“ฉันได้ยินเสียงร้องไห้”
ห้ะ??
คนที่ไม่เคยสนใจสิ่งลี้ลับถึงกับอ้าปากค้าง เรฟมองไปรอบๆอีกครั้งอย่างไม่อยากเชื่อ “เสียงร้องไห้? ที่ไหนล่ะ”
“ทางนั้น” ทารีสชี้เข้าไปในมุมที่เป็นจุดทึบแสงที่สุดก่อนที่จะเดินดุ่มๆเข้าไปโดยที่เรฟก็ห้ามไม่ทัน แต่เมื่อไปถึงทั้งสองก็ต้องอึ้งค้างเมื่อเห็นร่างๆหนึ่งนั่งชันเข่าสะอื้นอยู่เงียบๆ
. . .
. . .
. . .
. . .
. . .
เด็ก!!?
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รู้สึกช่วงนี้ไม่ค่อยมีไฟเลยอาจจะแต่งแปลกๆ ขอโทษรีดทุกคนด้วยนะคะ T^T
ช่วงนี้จะขออัพเป็นเปอร์เซ็นๆไปนะคะเพราะว่าช่วงนี้จะเปิดเทอมแล้ววว
ไรต์ต้องเตรียมแผนรับน้องทำให้ไม่ค่อยว่างเท่าไหร่
ขอโทษอีกครั้งนะคะๆๆๆ
เจอกันตอนหน้าค่ะ ^^
ความคิดเห็น