ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    •][fate or accidentally][••][ลิขิตรักป่วนใจ][•

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter >>2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 19
      0
      11 ธ.ค. 47







    Chapter 2 >> ลีซุนยอง <<







    “เฮ้! เคียงเฮ อันเคียงเฮ ฉันอยู่ตรงนี้”



    ฉันมองกวาดตาไปยังต้นกำเนิดเสียง  



    ให้ตาย!!~~ ยัยเพื่อนรัก แล้วฉันก้อวิ่งไปหาเธอคนนั้นทันที หญิงสาวผมดำขวับ หน้าตาน่ารัก ใส่ชุดนักเรียนที่ฉันไม่คุ้นเคย ยืนอยู่ตรงฝั่งตรงข้ามพลางโบกมือให้ฉันอย่างกระตือรือร้น



    “ลีซุนยอง!!” ฉันตะโกนเรียก ลีซุนยองคือเพื่อนอีกคนที่อังกฤษของฉัน เธอหนีพ่อแม่ไปเรียนที่เดียวกะฉันและกลับมาอยู่เกาหลีเมื่อปีที่ผ่านมา



    เราสองคนโผเข้ากอดกัน แล้วแลกแก้มทักทายกัน



    “ฉันคิดถึงเธอจังเลยเคียงเฮ” ซุนยองพูดเมื่อเราผละออกจากกัน



    “ฉันก้อเหมือนกันจ๊ะ”



    “เธอมานานหรือยังเนี่ย” ซุนยองถาม



    “เธอมาสายมากเลยรู้ไหม ลีซุนยอง!” ฉันพูดเสียงโกรธๆ เพิ่งนึกได้ว่าเธอมาสายนั่นเอง



    “โธ่เคียงเฮ พอฉันเรียนเสร็จก้อรีบมารับเธอเลยนะ” ซุนยองพูดแล้วเข้ามาลูบแขนฉันเป็นเชิงอ้อน



    “เธอเรียนพิเศษด้วยหรอเนี่ย” ฉันถามอย่างไม่เชื่อสายตา เหตุผลที่เธอกลับมาเกาหลีก้อเพราะเธอได้เอฟถึง 4 ตัวน่ะซิ



    “คนอย่างฉันเนี่ยนะจะเรียนพิเศษ ที่เกาหลีน่ะเรียนวันเสาร์ครึ่งวันย่ะ เธอไปอยู่อังกฤษแค่เจ็ดปีก้อลืมซะแระ” แค่เจ็ดปีหรอลีซุนยอง ฉันแทบจะไม่มีความทรงทำในเกาหลีด้วยซ้ำไป



    “อื้ม!” ฉันคำรามในลำคอ



    “นี่แต่ดูเธอเปลี่ยนไปนะเคียงเฮ ดูซิผมก้อเป็นสีทองเลยนะ เมื่อก่อนยังเป็นสีน้ำตาลอยู่นี่” เธอพูดแล้วจับผมฉันอย่างสำรวจ



    “ก้อแค่อยากเปลี่ยนลุคใหม่น่ะ” ฉันตอบเสียงมั่นใจ



    “จ้า… นี่ใส่คอนแทคส์เลนส์ด้วยนี่” เธอถามแล้วจ้องมาที่นัยตาฉัน



    “ใส่สีฟ้าเนี่ยฉันชอบที่สุดเลย”



    “อ้า –O- นี่สูงขึ้นเยอะเลยนะ” ซุนยองยืนข้างๆ ฉันแล้วทำมือเปรียบเทียบ



    “อยู่แล้ว…เออนี่ว่าแต่จะไปกันได้ยังเนี่ย” ฉันเร่งเร้า เพราะมายื่นรอเนี่ยก้อนานอยู่พอสมควร



    “อ่าจ้า…ไปๆ ฉันจะพาเธอไปกินอาหารเกาหลีที่อร่อยที่สุดในโลกเล้ย!” ซุนยองพูดแล้วช่วยฉันถือกระเป๋าพาเดินไปยังรถที่รออยู่



    “ซุนยอง ฉันอยากกินกิมจิอ่ะ คิดถึงเป็นบ้าเลย ต็อกโบกกี เนงมยอน กับโจกพาลด้วยนะ” ฉันพร่ำพรรณนาถึงอาหารนานาอย่าง



    “จ้า…เธอต้องกินให้ตัวเท่าฮิปโปเลยนะ” ซุนยองพูดประชดแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง



    “เกาหลี เกาหลี เกาหลี ลัลลัลล้า” ฉันร้องเพลงอย่างมีความสุข



    “นี่เคียงเฮ นึกยังไงถึงกลับมาละเนี่ย” ซุนยองถามขึ้น



    “ฉันคิดถึง ก้อเลยกลับมา หรือฉันกลับมาไม่ได้” ฉันหันไปมองซุนยอง



    “ได้จ้ะได้… แล้วจะกลับเมื่อไรล่ะ” เธอถามขึ้นอีกครั้ง



    “คงไม่กลับแล้วหละ” ฉันพูดแล้วหันมองออกไปนอกหน้าต่าง



    “ทำไมล่ะ”



    “เดี๋ยวฉันค่อยเล่าให้ฟังได้ไหม”



    “งั้นก็..ตามใจเธอละกัน” ซุนยองพูดสีหน้างอน จนแก้มป่อง



    “โอ๋ๆ เพื่อนจ๋า งอนอีกแระ สัญญาว่าจะเล่าให้ตอนกินข้าวนะจ๊ะ” ฉันพูดแล้วก้อจับแก้มที่ป่องของซุนยองเบาๆ



    “อืมๆ…อ้ะ! ถึงแล้วหละเคียงเฮ” ซุนยองพูดสีหน้ายิ้มแย้ม เดินลงจากรถ  แล้วฉันก้อตามเธอไป



    “อ้าวเคียงเฮ ทำไมกินอย่างกับแมวดมอย่างนั้นล่ะ ไหมบอกว่าคิดถึงอาหารเกาหลีไง” ซุนยองถามฉันแล้วจิ้มกุ้งใส่ปาก



    “กินไม่ลงน่ะ…ก้ออาหารเค้าจัดมาสวยงามจนไม่อยากกินน่ะ” ฉันกินไม่ลงจริงๆ นะ แต่ไม่ใช่เพราะความสวยงามของมันหรอก สายตาฉันน่ะกำลังจ้องอยู่ที่มุมหนึ่งของร้าน



    “มองไรน่ะเคียงเฮ” ซุนยองถามแล้วมองตามสายตาฉันไป



    “...” สายตาฉันยังคงจ้องอยู่ที่เดิม



    “แหม! เค้าสวีทดีเนอะ” เธอพูดพลางมองไปที่หนุ่มสาวที่กำลังหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน



    “อื้ม” ฉันพูดแล้วก้มหน้าลงมองที่จาน



    “เธอไม่เห็นต้องอิจฉาเลย เธอก้อมีเรย์นี่” ฉึก! ฉึก! แทงใจจังเลย เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ฉันก้อกลั้นน้ำตาไม่อยู่



    “อ้าวเคียงเฮ มีอะไรรึป่าว” ซุนยองถามพร้อมกับเขย่าแขนฉันไปด้วย



    TT_TT



    “ซุนยอง ฉันกับเรย์เลิกกันแล้วนะ T/|\\T” ฉันกลั้นน้ำตาแล้วบอกซุนยองออกไป



    “อ้าว! เพิ่งคบกันไม่ใช่หรอ”



    “ก้ออืม” กลั้นน้ำตาไว้ไม่ค่อยอยู่เลยฉัน เกลียดตัวเองจริงๆ ที่ร้องไห้ง่ายอย่างนี้



    “แล้วทำไมเลิกกันเร็วจังล่ะ”



    ฉันเล่าเรื่องทุกอย่างให้ซุนยองฟัง เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับฉัน… และ… เพื่อนทรยศ



    “ฉันก้อไม่ถูกชะตากับยัยแองจี้อะไรนั่นตั้งแต่แรกแล้ว” ซุนยองพูดขึ้นเมื่อฉันเล่าเรื่องทุกอย่างจบ



    “ฉันดูคนแค่ภายนอกจริงๆ” ฉันพูดเสียงเศร้าๆ



    “เพราะนี่ใช่ไหม เธอถึงกลับมาเกาหลีเนี่ย” รู้ทันฉันจริงๆ เลย



    “อืม”



    “โอย! เธอไม่ต้องเสียใจไปหรอก เรื่องแค่นี้เอง คนนี้คนที่เท่าไรแล้วล่ะ” ซุนยองพูดติดตลก แต่ก้อจริงของเธอนะ  ทุกทีที่ฉันอกหัก ฉันก้อเป็นอย่างนี้ แต่พักเดียวมันก้อหายไป



    “ก้อจริงอ่านะ”



    “ตอนนี้เรามาปฏิบัติการตามล่าหาแฟนไหมดีกว่า” ซุนยองพูดเสียงมั่นใจ



    “ใช่แล้วเอาให้สุดยอดไปเลย” ฉันพูดด้วยความมั่นใจเช่นกัน แม้ฉันจะพูดด้วยความมั่นใจ แต่ฉันยังไม่เลิกเสียใจ

    หรอกนะ มันไม่เหมือนกะคราวก่อนๆ คราวนี้มันเป็นเพื่อนสนิท เพื่อนที่ทรยศกัน…



    ติ๊ด!! ติ๊ด!! ติ๊ด!!



    “ใครโทรมาขัดขวางเวลาของเพื่อนๆ นะเนี่ย” ซุนยองบ่นพึมพำ แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า



    “ฮัลโหล”



    “…” เสียงปลายสายพูด



    “ห๊ะ! ฉันไม่ว่าง” เธอคุยโทรศัพท์เสียงดังมากเลยรู้ไหมซุนยอง



    “…”



    “นายจะเอาอะไรนักหนา”



    “…”



    “ฉันบอกว่าไม่ว่างไง”



    “…”



    “ให้ฉันทำธุระเสร็จก่อนแล้วจะไป”



    “…”



    “เออ!” เธอพูดเสียงดัง แล้วปิดโทรศัพท์ดังปัง



    “จะอะไรนักหนาก้อไม่รู้” ซุนยองบ่นพึมพำ



    ^_^*



    “เพื่อนฉันน่ะ” ซุนยองบอก เธอคงสังเกตแหละว่าฉันจ้องเธออยู่



    “ไม่ใช่แฟนหรอ” ฉันถาม



    “โอ้ย ถ้าฉันเป็นแฟนมันละก้อ โง่สิ้นดี”



    “อืม”



    “เออนี่ ฉันว่าฉันจะแนะนำผู้ชายให้เธอรู้จัก” ซุนยองยิ้มมีเลศนัย



    “ห๊ะ! O.O”



    “เค้าเป็นเพื่อนฉันหละ คนเมื่อกี้ไง เค้าเป็นคนดีนะ”



    “คน..คนที่เธอคุยโทรศัพท์ด้วยเมื่อกี้อ่านะ”



    “อื้ม เค้าชื่อ ฮานซองเท” คนดีเหรอ เมื่อกี้เธอยังงบอกว่า ถ้าเป็นแฟนเค้าละก้อโง่สิ้นดี



    “คนนั้นอ่ะหรอ เหอๆ” ฉันหัวเราะแห้งๆ



    “ฉันพูดจริงๆ นะ แล้ววันหลังฉันจะพาไปเจอ” ซุนยองพูดแล้วทำท่าว่าจะลุกไป



    “ไปไหนอ่ะ”



    “ไปหา..เจ้าของร้านน่ะ” เธอบอกแล้วเดินไปยังเคาน์เตอร์ คงเป็นแฟนใหม่เธอแน่ๆ ยัยนี่ชอบคบผู้ชายที่เป็นเจ้าของร้านอาหาร ก้อลีซุนยองคนนี้น่ะเป็นนักกินตัวยงเลยแหละ

    “อืม” ว่าแล้วฉันก้อลงมือกินอาหารต่อ



    อ๊าย!!~~ ปวดฉี่จังเลย ดื่นน้ำเมลอนไปตั้งสามแก้ว ฉันลุกขึ้นแล้วเดินไปห้องน้ำ



    โครม!!!



    “Oh! Sorry / เดินประสาอะไรวะ” ฉันพูดภาษาอังกฤษ เพราะกลัวพูดภาษาเกาหลีแล้วเพี้ยนน่ะซิ แต่ดูนายนั่นพูดจาหยาบคายเป็นบ้าเลย



    “I’m sorry” ฉันพูดขอโทษขอโพย



    “เดินภาษาอะไรฮะ ไม่เห็นคนหรือไง” นายนั่นใส่มาเป็นชุด



    “ -/|\\-”



    “ตาน่ะมีหรือเปล่า จะรีบไปตาม ค ว า ย หรือไงนะ” ผู้ชายอะไรปากจัดเป็นบ้า



    “You’re mad” ฉันว่าแล้วเดินตรงไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว







    “คนอะไรก้อไม่รู้พูดจาหยาบคาย นักเลงจริงๆ เลย” ฉันบ่นกับตัวเองระหว่างทางเดินไปห้องน้ำ



    โครม!!~~



    อ้าย! เจ็บจังเลย นึกแล้วก้อกุมหัวตัวเองที่ปูดโปนจากการถูกกระแทกเมื่อครู่ ใครกันนะเดินไม่ดูทางบ้างเลย ว่าแล้วฉันก้อเงยหน้าขึ้น



    “You / เธอ”









    To be continues…











    *~~--_____--~~* + *~~--_____--~~* | *~~--_____--~~* + *~~--_____--~~*

















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×