ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    •][fate or accidentally][••][ลิขิตรักป่วนใจ][•

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter >>12

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14
      0
      30 ม.ค. 48





    Chapter >>12<< ความรักไม่เข้าใครออกใคร









    “เป็นแฟนฉันได้มะ”



    O_O



    เมื่อกี้นายว่าไรนะ โอย-O- ฉันละไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย



    “วะ… ว่าไงนะ”



    “ฉันถามว่าเธอเป็นแฟนฉันได้ไหม” เขาพูดย้ำอีกครั้ง



    “……” ฉันไม่ตอบ



    “เธอ เธอ ฉันถามเธอ… ฮันเคียงเฮ!”



    “ฮะ ฮะ ว่าไงนะ” ฉันร้องด้วยความตกใจ



    “เธอ…เป็น…แฟน…”



    “ได้สิ” ซุนยองพูดขึ้นทันทีก่อนที่เขาจะพูดจบด้วยซ้ำไป



    “ฉันถามเพื่อนเธอนะลีซุนยอง”



    “ก้อใช่ไง ฉันตอบแทนเคียงเฮ ^^” ซุนยองพูดด้วยสีหน้าระรื่น



    “แล้วเธอว่าไง” เขาหันมาถามฉัน



    “เอ่อ…” ฉันยังคงอึกอัก จะให้ตอบยังไงละเนี่ย???



    “…“



    “เอ่อ คือฉัน…โอ๊ะ!” ซุนยองหยิกฉันที่ต้นแขนหนึ่งที



    “เธอว่าไง” เขาถามอีกครั้ง



    “ฉัน ไม่… แล้วแต่ซุนยองแล้วกัน” เฮ้อ! -_- ฉันละจนปัญญาจริงๆ โดนบังคับซะขนาดนี้



    ( -_-) ==> หันไปมองซุนยอง สุดแล้วแต่เธอนะ แต่ไม่ต้องบอกก้อคงจะรู้ว่าจะออกหัวหรือก้อย



    “ได้ ฉันให้พวกเธอคบกัน ^-^” ซุนยองสีหน้าแจ่มใสขึ้นกว่าเดิม (มากๆ)



    “ฮ่าๆๆๆๆ ดีมากเลย แปะ แปะ(ตบไหล่ซุนยอง) ตอนนี้ฮันเคียงเฮก้อเป็นของฮานซองเทแล้ว” เขาพูดด้วยสีหน้าระรื่น แล้วหันมายิ้มให้ฉัน ^-^ ฉันก้อยิ้มตอบกลับไปแบบแหยๆ ^_^;; ไม่สามารถทำอะไรได้ แหะๆ แต่ในใจอ่านะ ตบฝังดินไปแล้ว -_-^^



    “โอเค งั้นพวกเธอ ก้อเป็นแฟนกันให้ยั่งยืนนะ ถ้าเลิกกันขึ้นมาละก้อ…ฮึ่ม!” ดูยัยตัวดีเธอพูดเข้า อย่างกับบาทหลวง แล้วดูตอนท้ายซิ อย่างกับฆาตกร -_-



    ^^   สีหน้านายฮานซองเท



    ^-^  สีหน้ายัยเพื่อนตัวดีลีซุนยอง



    -_-;;  สีหน้าฉัน สุดจะทน



    “ได้ งั้นเธอเคียงเฮ กลับเข้าบ้านได้แล้ว แล้วก้อ… ฝันดีนะ^^” เขาถือดียังไงมาเรียกชื่อฉันห้วน



    “อะ…อืม” ฉันรับคำแล้วก้อหันหลังจะเข้าบ้าน



    “อ้าว! เคียงเฮ กลับมาแล้วหรอ ดีใจจัง ^O^” เสียงของซึงโพดังออกมาจากหน้าบ้าน ไงล่ะ รถไฟจะชนกันไหมเนี่ย



    “อ้า –O- จ้ะๆ ฉันกลับมาแล้ว ^^*” ฉันตอบกลับไป



    “งั้นก้อเข้าบ้านซิ ยืนทำอะไรอยู่ล่ะ” ซึงโพถาม แล้วเดินออกมานอกประตู จับมือฉันจะเดินเข้าบ้าน เขามองไปที่ซุนยอง



    “อ่า ซึงโพ นี่ซุนยองเพื่อนฉัน” ฉันแนะนำ



    “อือ ฉันพอจำได้” ซึงโพรับคำ ตอนนี้ซองเทกำลังมองมาที่ฉันตาเขม็ง เพราะตอนนี้ซึงโพกำลังจับมือฉันอยู่



    “แล้วนี่……..” ฉันจะแนะนำซองเท



    “ถ้าร่ำลากันเสร็จแล้ว ก้อเข้าบ้านกันเหอะ” ซึงโพพูดพลางดึงมือฉัน ส่วนอีกมือก้อถือกระเป๋าฉันอยู่



    “ฮันเคียงเฮ!! -_-^” เสียงซองเทตะโกนขึ้นเสียงดัง



    “ฮะ เอ่อ…มีไรหรอ” ฉันถาม ส่วนเขาก้อเดินเข้ามาใกล้ๆ ฉัน พลางล่วงมือลงไปในกระเป๋า แล้วหยิบของบางอย่างออกมา



    “สำหรับแฟนของฉัน!!” เขาพูดน้ำเสียงราวน้ำแข็งแล้วเอื้อมมาสวมสร้อยคอให้ฉัน



    “อ้ะ! อะไรหรอ” ฉันถาม



    O_O ==> สายตาของซุนยองและซึงโพ



    สองคนนี้เค้าเป็นอะไรเนี่ย ตกใจอะไรกันนักหนา  



    “ซองเท อันนั้นเลยหรอ ^^” ซุนยองถามแววตาตกใจ แต่ปากกลับยิ้ม อะไรของแม่นี่นิ่



    “ใช่ อันนี้แหละ” ซองเทตอบ อันนี้ อันนี้ มันหมายความว่ายังไงกันละเนี่ย



    “ฮานซองเท” ซึงโพครางชื่อเขาเบาๆ



    “มันอะไรละเนี่ย???” ฉันถาม



    “เธอเป็นแฟนฉัน นี่ก้อสำหรับคนที่เป็นแฟนฉัน” เสียงของเขายังเยือกเย็นเหมือนเดิม ฉันมองไปยังสร้อยที่เขาสวมให้เมื่อครู่ มันเป็นสร้อยทองคำขาว มีจี้เป็นคำสามคำความหมายกินใจ ‘ซารังแฮโย’ (ที่มี 3 คำเพราะว่าภาษาเกาหลี เขียนแล้วมีตัวอักษร 3 ตัว จ้า (มั้ง) แหะๆ)



    “///O_o///” ทั้งตกใจและหน้าแดงนี่หละสีหน้าฉัน



    “เคียงเฮเข้าบ้าน! -_-^^” ซึงโพพูดด้วยเสียงดุๆ



    “ได้ๆ”



    “ฮันเคียงเฮ!” จะเรียกอะไรนักหนานะ นายซองเทนี่



    “อะไร!” ฉันพูดด้วยเสียงห้วนๆ



    “ฝันดีนะ ^^”



    “อื้ม!!… ระ” ฉันตอบรำคำยังไม่ทันจบประโยค เขาก้อเลื่อนหน้าเข้ามาจุ๊บที่ปากของฉันอย่างแผ่วเบา



    “เฮ้ย! นาย……//////-_-^////////” ฉันจะวีนเขาซะหน่อย แต่พูดไม่ออกแฮะ



    “เคียงเฮ เข้าบ้านเร็วๆ เถอะ” ซึงโพพูด แต่เขาไม่ยอมให้ฉันตอบรับ เขาก้อลากฉันเข้าบ้านไปทันที ส่วนซุนยองก้อหันมามองฉันอย่างงงๆ



    “ยุนซึงโพ” ซองเทเรียก



    “…” เขาหันหน้ามองโดยไม่พูดอะไร



    “พรุ่งนี้เจอกันที่ร้านดอดจ์นะ” ซองเทบอก



    “ไปทำไม” ซึงโพพูดเสียงห้วน



    “มันเป็นปาร์ตี้น่ะ มานะ แล้วฉันก้อมีอะไรจะบอกกับทุกคนด้วย ซุนยองเธอด้วยล่ะ” ซองเทอธิบาย



    “อืม ฉันจะพยายาม” ซึงโพตอบเสียงเหมือนเคย (เย็นชา)



    ส่วนซุนยอง (- -)(_ _)(- -)(_ _) หงึกๆ ==> พยักหน้าอย่างแรง



    “นายต้องไปให้ได้นะเพื่อน” ซองเทตะโกนไล่หลัง เมื่อฉันและซึงโพเดินห่างออกมา



    เพื่อน เพื่อนหรอ ซึงโพ กับอีคาฮานซองเทนั่นเป็นเพื่อนกันหรอ แล้วทำไมเมื่อกี้ซึงโพไม่ทักเขาล่ะ



    “เอ่อ…ซึงโพ นายเป็นเพื่อนกับฮานซองเทหรอ” ฉันถาม



    “…”



    “ซึงโพ!”



    “เมื่อก่อนน่ะใช่ แต่ในอนาคตฉันก้อไม่รู้ -_-” เขาตอบโดยไม่ยิ้มใดใด



    “ทำไมล่ะ?” ฉันถามอีกครั้ง



    “…” เงียบ เงียบ



    “ซึงโพ ทำไม??” ฉันรบเร้า เขาหันมามองหน้าฉันนิดนึง ดวงตากลมโตของเขาเหมือนจะบอกว่า ‘ฉันไม่อยากตอบ’ โอเค ไม่อยากตอบก้ออย่าตอบ



    “อ่า-O- …อื้ม ซึงโพ แล้วไอ้สร้อยนี่(จับสร้อย) นายรู้ไหมมันหมายความว่ายังไง ฉันเห็นนายตาโตเชียวตอนที่เขาเอาออกมา”



    “…” เขาเงียบอีกแล้ว อะไรของเขาเนี่ย ชอบให้ฉันถามครั้งที่ 2 ถึงจะตอบหรือไงนะ



    “ซึง~ โพ” ฉันเรียกเสียงยาว



    ^^ เขาหันมายิ้มกับฉัน



    เหวอ! อะไรของเขาเนี่ย เมื่อกี้บึ้งตึงแต่ตอนนี้



    “เธอขึ้นบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวนะ แล้วลงมาที่สวน เดี๋ยวฉันจะทำไอศกรีมสตอเบอร์รี่สุดอร่อยให้เธอกิน พี่ชายคนนี้ทำอร่อยนะ” เขาพูดแล้วเลี่ยงตัวออกไปทางหลังบ้าน เขาจงใจเลี่ยงที่จะตอบฉันแน่ๆ



    สร้อยนี่ มันคืออะไรนะ???



    ฉันก้มไปมองที่สร้อยอีกครั้ง มันก้อสวยเหมือนกันนะ แหะๆ ^_^;



    “รักฉัน…ไม่ใช่พระอาทิตย์

    ที่มีตกแล้วก้อขึ้นใหม่

    รักฉัน…ไม่ใช่ท้องฟ้า

    เมื่อเมฆฝนจากลาแล้วสดใส

    รักฉันเมื่อจบแล้วไม่มีเริ่มใหม่…”



    ซึงโพกำลังร้องเพลงขณะที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ มันเป็นเพลงเศร้าๆ เขาร้องเพลงเพราะเหมือนกัน เสียงเขานุ่ม ทุ้ม เขาเป็นนักร้องได้เลยทีเดียว



    “อ้าว!เคียงเฮ มานั่งนี่ก่อนมา” ซึงโพเรียกฉันเมื่อฉันมาถึงสวน



    “ร้องเพลงอะไรน่ะ เพราะดีนะ”



    “อื้อ ขอบคุณ”



    “นี่รอแปบนึงนะ เดี๋ยวฉันไปเอาไอศกรีมสุดอร่อยมาให้ ^^” เขาพูดอย่างอารมณ์ดีแล้วหายเข้าไปในครัว



    “มาแล้วคร้าบ!! ไอศกรีมสตอเบอร์รี่ ^-^” ซึงโพเดินออกมาพร้อมไอศกรีมสีชมพูสุดสวยหนึ่งถ้วย ประดับตกแต่งด้วยสตอเบอร์รี่ลูกโต เขายกมาวางไว้ตรงหน้าฉัน



    “ว้าว!>O< น่ากินมากเลย“ ว่าแล้วฉันก้อหยิบช้อนขึ้นมาจะตักของหวานตรงหน้าเข้าปาก



    “อ้ะ –O-” เขาอุทานจนทำให้ฉันชะงักไปเลย



    “แล้วอย่าบอกละว่ามันอร่อยที่สุดในโลกเลย!” เขาพูดพร้อมกับทำตาหวานใส่ฉัน ให้ตายซิซึงโพ ฉันจะละลายเพราะสายตานายแล้วนะ >,<



    “อ่าจ้า~~”



    ง่ำ ง่ำ ง่ำ ง่ำ –O-



    “เคียงเฮ เธออยากรู้ใช่ไหมที่ฉันบอกเธอน่ะ” ซึงโพโผลงถามขึ้นขณะที่ฉันก้อกำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย



    “ฮะ อะไรหรอ ง่ำๆ –O-”



    “หรือเธอไม่อยากรู้แล้ว”



    “อยากรู้สิ ง่ำๆ –O-” แล้วมันเรื่องอะไรนะ ลืมแล้วง่า



    “เรื่องที่เธอถามฉันว่าเป็นเพื่อนกับซองเทหรือเปล่าน่ะ” อ๋อ! นึกว่าเรื่องอะไร



    “อื้มๆ ง่ำๆ –O-” ฉันรับคำแล้วซัดกับไอศกรีมต่อ



    “ฉันบอกว่าเมื่อก่อนน่ะใช่แต่อนาคตฉันไม่รู้ใช่ไหม”



    (- -)(_ _)



    “เธอถามว่าทำไมใช่ไหม”



    “น่านซิ ทำไมหรอ ง่ำๆ” ฉันยังคงไม่ละเว้นจากการกิน



    “เพราะเธอน่ะซิ”



    แค่ก  แค่ก  แค่ก



    ฉันสำลักเลยทีเดียว หมายความไงเนี่ย >_< เพราะฉันหรอ บ้าน่า!! >_<  



    “หมายความว่ายังไงเนี่ย”



    “ก้อเพราะเธอ เธอน่ะทำให้……”



    “เอ่อ ฉันว่าฉันเข้าบ้านก่อนดีกว่านะ” ฉันพูดขัดจังหวะเขา แล้วรีบชิ่งเข้าบ้านไป ไม่อยากจะรับรู้เลย ฉันทำอะไรให้พวกเขากันนะ เฮ้อ!! >,<







    ==<$>==|@|+|@|==<$>==|@|+|@|==<$>==|@|+|@|==<$>==|@|+|@|==<$>==







    ตือตือตือ ตื๋อตือตือ ตื้อตื๊อตือตื่อ ตื้อตื๊อตือตื่อ ตื๋อตือตือ~~





    เสียงของโทรศัพท์มือถือเจ้ากรรมที่เพิ่งเปลี่ยนเสียงใหม่ปลุกให้ฉันตื่นขึ้นจากฝันร้ายที่สุด  ฉันฝันว่าโดนไอศกรีมสตอเบอร์รี่ฉีดใส่ แล้วพอหนีมาก้อยังเจอสร้อยของซองเททับอีก ดีแล้วหละที่ปลุกให้ฉันตื่นจากฝันร้าย~



    ตือตือตือ ตื๋อตือตือ ตื้อตื๊อตือตื่อ ตื้อตื๊อตือตื่อ ตื๋อตือตือ~~



    โอ้ย-O- ใครกันนะโทรมาแต่เช้าเชียว



    “เยาโบเซโย” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย



    “เคียงเฮใช่มะ” เสียงปรายสายตอบกลับมา



    “ใช่ค่ะ”



    “เธอออกมาหาฉันหน่อยได้มะ” ใครกันละเนี่ย????



    “คุณเป็นใครน่ะ  ซึงโพหรอ นายมาเคาะประตูเรียกฉันก้อได้นี่”



    “ยุนซึงโพ?”



    “ใช่ซิ นายจำชื่อตัวเองไม่ได้หรือไง”



    “ฉันไม่ใช่ยุนซึงโพนะ ฉันฮานซองเท” เขาพูดด้วยเสียงโกรธๆ ผ่านทางปรายสาย



    “อ้ะ! ฮานซองเทหรอ ฉันนึกว่า…”



    “ฮันเคียงเฮ!!!” เขาดุฉัน T^T



    “ขอโทษ!” ทำไมฉันต้องขอโทษด้วยนะ ฉันผิดตรงไหน??



    “เธอเป็นแฟนฉัน ห้ามพูดถึงผู้ชายคนอื่น แม้แต่เพื่อน จำไว้เธอเป็นแฟนฉัน ฮันเคียงเฮ!!” เขาตะคอกฉันผ่านทางโทรศัพท์



    ใครอยากเป็นแฟนกับนายกันเล่า เผด็จการที่สุด >,<



    “อ้ะ…แล้วนายโทรมาทำไม นี่มันยังเช้าอยู่เลย”



    “เช้าบ้านเธอซิ นี่มันจะเที่ยงแล้วนะ หัดแหกตาดูนาฬิกาซะบ้างซิ!”



    “ก้อ… ฉันยังง่วงอยู่นี่ ถ้านายจะโทรมาปลุกฉันแค่นี้ละก้อ ฉันวางละนะ”



    “ถ้าเธอวางละก้อเธอตายแน่!”



    “แล้วนายโทรหาฉันทำไมล่ะ”



    “ก้อบอกแล้วไงว่าจะให้เธอออกมาหาฉันข้างนอก”



    “ทำไมฉะ…”



    “ออกมาเดี๋ยวนี้!” เขาตะคอก มันเป็นแฟนฉันหรือพ่อฉันกันแน่นะ Y_Y



    “รู้แล้ว งั้นแค่นี้นะ”



    “เน่! แล้วเธอรู้หรอว่าจะให้ไปไหน” น่านซิ?



    “แหะๆ” -_-*



    “ไม่ต้องมาหัวเราะเสียงแห้ง เธอมาหาฉันที่ร้านดอดจ์” ดอดจ์? ดอดจ์? ดอดจ์? ร้านเดียวกับที่เขาให้ซึงโพไปนี่



    “แล้วไอ้ร้านดอดจ์อะไรเนี่ยมันอยู่ที่ไหนล่ะ -?-”



    “อยู่เกาหลีน่ะซิ ยัยบ๊องส์เอ้ย!” ใครบ๊องส์กันแน่ยะ



    “เฮอะๆ ^_^++”



    “ถ้ามาไม่ถูกก้อโทรไปถามลีซุนยองเอาแล้วกัน” ซะงั้นง่ะ ไอ้ผู้ชายบ้าเอ้ย แทนที่จะมารับเรา



    “อื้อๆ” ฉันตอบรับอย่างเฉื่อยชา



    “แต่งตัวมาให้มันเหมือนคนหน่อยน่ะ อย่าลืมนะ ตอน 3 ทุ่ม” หนอย~~



    “ย่ะ!! แค่นี้นะ! >,<”



    “เดี๋ยว! อย่าลืมใส่สร้อยนั้นมาล่ะ…ปิ๊บ” เขาพูดแค่นั้นก้อวางหูไป สร้อย? ไอ้ซารังแฮโยนั่นน่ะหรอ -_-



    ฉันว่าฉันไปอาบน้ำดีกว่านะ เดี๋ยวอีตานั่นจะมาวีนใส่ฉันอีก -_-



    วันนี้ฉันใส่เสื้อคอปกสีฟ้า กับกระโปรงสีน้ำตาล ใส่รองเท้าผ้าใบ แล้วที่ลืมไม่ได้ แต่อยากลืม สร้อยของอีตานั่นน่ะซิ





    ==<$>==|@|+|@|==<$>==|@|+|@|==<$>==|@|+|@|==<$>==|@|+|@|==<$>==





    ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงหน้าร้านดอดจ์แล้ว เป็นผับกึ่ง Restaurant ในแนวยุโรป เป็นอาคารสองชั้นก่อสร้างด้วยอิฐที่เป็นหิน มีไม้เรื้อยอยู่หน้าประตูให้เหมือนเป็นซุ้มสู่ทางเข้า



    ฉันจะเดินเข้าไปในร้าน  แต่ที่หน้าประตูมีป้ายแขวนไว้ ‘close’ ร้านปิดหรอ แล้วอีตาซองเทนั่นนัดฉันที่นี่ทำไมนะ ถ้ารู้ว่าปิดก้อโทรมาบอกกันหน่อยก้อได้



    “ซองเท!”



    ฉันหันหลังจะเดินกลับ แต่ก้อได้ยินเสียงชื่ออีตาบ้านั่นดังออกมาจากในร้าน เขาอาจจะอยู่ข้างในก้อได้นะ



    กรุ๊งกริ๊ง!!



    เสียงกระดิ่งที่ประตูร้านดังขึ้นเมื่อฉันเปิดประตู



    “มางานนี้หรือป่าวครับ” เสียงบริกรหัวเถิกพูดขึ้น ข้างในร้านจัดเป็นงานปาร์ตี้เล็กๆมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นานายี่ห้อวางอยู่อย่างเรียงราย



    “อ่า คือฉันนัดเพื่อนไว้ที่นี่น่ะค่ะ”



    “ขอทราบชื่อหน่อยครับ” นายบริกรหัวเถิกบอกอีกครั้ง



    “อ่า –O-………” ใช่งานนี้หรือป่าวนะ



    “ฮันเคียงเฮค่ะ” ฉันบอก บริกรคนนั้นกวาดตามองดูรายชื่อในคลิบบอร์ด



    “เอ่อ…ไม่มีชื่อคุณนะครับ”



    “แต่ฉันนัดเพื่อนไว้ที่นี่นะ>O<” ฉันพยายามแย้ง



    “คงผิดวันแล้วมั้งครับ”



    “ไม่นะ เค้าบอกว่าวันนี้”



    “ยุนซึงโพครับ!!” เสียงซึงโพดังขึ้นข้างหลัง



    ซึงโพมางานนี้ด้วยหรอ………. แต่ก้อแหงซิ ซองเทก้อนัดเขามาร้านนี้เหมือนกันนี่



    “ยุนซึงโพ…ยุน…ยุน” บริกรหัวเถิกพูดชื่อเขาเบาๆ แล้วไล่สายตาดูรายชื่อ



    “ยุนซึงโพใช่ไหมครับ งั้นเชิญข้างในเลยครับ” บริกรพูดแล้วผายมือเชิญเขาเข้าประตู



    มับ!



    ซึงโพคว้ามือฉันแล้วลากฉันเข้าไปในงาน



    “คือคุณคนนี้เค้า……” นายบริกรหัวเถิกจะทักท้วง



    “เธอมากับฉัน” ซึงโพพูดเสียงเด็ดขาดแล้วเดินต่อไป



    “แต่ซึงโพ…”



    “ฉันรู้น่าว่าเธอมางานนี้” ขนาดฉันยังไม่รู้ แล้วนายรู้ได้ไงเนี่ย -_-;;;



    “เอ่อ-O-…” แล้วเขาก้อลากฉันเข้าไปในงาน



    “เฮ้ ซองเท เมื่อไหร่เธอจะมาล่ะ” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น



    “เธอมาช้าแล้วทำไม เธอมาช้าแล้วนายจะทำอะไรเธอ” เสียงของซองเทดังตามมา



    “ป๊าว! ก้อไม่มีอะไร”



    “เฮ้! ซึงโพมาแล้วหรอ” ชายปริศนานาย ก. พูด



    “อื้ม” ซึงโพตอบรับแบบเนือยๆ



    “แล้วนั่นพาสาวสวยที่ไหนมาด้วยล่ะ  แฟนหรอ??“ ชายปริศนานาย ข. พูดบ้าง



    เป็นเรื่องแล้วไหมล่ะ ซองเทมองฉันตาเขียวปั้ดเลย  



    “ไม่ใช่ นั่นแฟนฉัน! -^-” ซองเทพูดเสียงเย็นชา น่ากลัว Y^Y



    “ไม่ใช่น่า คนนี้หรอแฟนนาย แล้วทำไมมากับซึงโพล่ะ” ชายปริศนานาย ก. ตัวดีพูด



    “ก้อบอกแล้วไง ว่าเธอเป็นแฟนฉัน!! -_-^^” ซองเทพูดเสียงดังแล้วดึงฉันมาอยู่ข้างตัวเขา



    “พวกนายแค่เจอกันที่หน้างานใช่มะ!?” เขาหันไปถามซึงโพ



    “อือ” ซึงโพพูดแล้วเดินเลี่ยงเข้างานไป



    “เห็นไหมล่ะ” ซองเทพูดอีกครั้งแล้วพาฉันเข้าไป



    “เธอคิดว่าเธอกำลังทำอะไร จะสวมเขาฉันหรือไงนะ!” เขาถามฉันทันทีเมื่ออยู่ในที่ที่คิดว่าไม่มีใครได้ยิน



    “อะไร ฉันไปทำอะไรให้นาย”



    “นึกยังไงเธอถึงมากับยุนซึงโพ หา?-^-” เขาถามเสียงสูง



    “ฉันไม่ได้มากับเขา เราแค่เจอกันข้างหน้า”



    “แล้วไป แต่อย่าให้ฉันรู้ล่ะ!” ทำไมฉันต้องกลัวเขาด้วยล่ะ



    “ทำไมต้องตวาดด้วยล่ะ T^T แล้วนายเป็นพ่อฉันหรือไงนะ สั่งจัง Y^Y”



    “อ้าว-O- เธอเป็นอะไรน่ะ อย่าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เซ่”  



    “ป่าวซะหน่อย T^T”



    “โธ่ เธอน่ะ ฉันขอโทษนะ -/|\\-” เขาพูดเสียงอ้อน



    “ก้อบอกแล้วไงไม่เป็นอะไร”



    “งั้นเข้าไปข้างในกันเถอะ” แล้วเขาก้อจูงมือฉัน



    “อ่า –O- แล้วงานนี้มันคืองานอะไรล่ะ?” ฉันรั้งไว้แล้วถามขึ้น



    “งานของเราไงล่ะ^^” แหะๆ พูดเหมือนเราจะแต่งงานกันอย่างนั้นแหละย่ะ



    “มาเถอะน่า” เขาฉุดฉันเข้าไปในงาน แล้วฉันจะรู้จักใครบ้างเนี่ย



    “เคียงเฮ!! เธอมาช้าจัง มานั่งกับฉันดีกว่า” ซุนยองพูดขึ้นเมื่อฉันเดินเข้ามาในงาน แหะๆ ยังดีที่ยังมีซุนยอง เฮ้อ!



    “อืม ดีเหมือนกัน”



    “อ้อ!ซองเท มินฮุงตามหานายอยู่น่ะ” ซุนยองบอกเขา



    “อื้ม ขอบใจ ฝากเคียงเฮด้วยนะ ดูแลดีๆ ล่ะ”



    “ย่ะ เคียงเฮก้อเพื่อนฉันนะ ^^!” ซุนยองแหว



    “อืม งั้นฉันไปหามินฮุงก่อนแล้วกัน” แล้วซองเทก้อเดินแยกออกไป



    “แหม! เป็นห่วงเป็นใยกันจังเลยเนอะ” ซุนยองแซว



    “เป็นห่วงอะไรกันเล่า เขากลัวฉันจะไปหาผู้ชายอื่นน่ะซิ ผู้ชายก้อเป็นอย่างนี้กันทั้งนั้นแหละ >,<”



    “นั่นหละ เค้าเรียกว่าหึง^-^”



    “หึง เหิงอะไรเล่า ไปไป ไปหาอะไรกินดีกว่า -_-” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่อง



    “เธอจะดื่มอะไรล่ะ”



    “ขอเป็นพั้นซ์แล้วกัน” ฉันบอก



    “ไม่ลองโซจูหน่อยหรอ เธอยังไม่เคยกินนี่”



    “ไม่ดีกว่า เดี๋ยวเมา”



    “แค่เหล้าหวานเองนะ”



    “ไม่เอาอ่ะ” ฉันปฏิเสธ



    “ได้ๆ งั้นเธอไปหาอะไรกินก่อนแล้วกัน เผื่อฉันด้วยนะ” แล้วซุนยองก้อเดินแยกไปเอาเครื่องดื่มอีกด้านนึง



    ฉันเดินไปทางไหนก้อไม่มีคนรู้จักเลย ว้าเหว่ยังไงไม่รู้

    โครม!!!~



    “อ่า –O- …” ใครเนี่ย? ดูสิฉันเปียกหมดเลย



    “นี่เธอ เดินภาษาอะไรกันฮะ ดูสิฉันเปียกหมดแล้ว” ผู้หญิงคนที่เดินชนฉันแว้ดขึ้น ฉันเลยเงยหน้าขึ้นไปมองยัยนั่น



    เธอมีโครงหน้าเรียวสวย แต่ปากที่แดงจัดอย่างกับไปกินเลือดมา ฉันว่าฉันเรียกยัยนี่ว่ายัยปอบดีกว่านะ และสีแก้มที่เข้มทำให้กลบเกลื่อนโครงหน้าสวยๆนั้น เธอผอมแห้ง ผิวขาวซีด ผมหยักโศกสวย (ผมนะ แค่ผม)



    “เอ่อ คุณต่างหากที่ชนฉัน” ฉันแย้งอย่างมีมารยาท ถ้าไม่มีมารยาทก้อคงเป็นประมาณว่า ‘นี่ เธอเดินตาม ค.ว.า.ย อยู่หรือไงนะ ชนฉันน่ะเห็นไม๊? ยัยปอบ’ โฮะๆ ^O^ คิดแล้วสะใจ แต่พูดไม่ได้ต้องรักษาภาพพจน์  



    “นี่เธอ เดินชนฉัน ก้อรับผิดซิ”



    “ก้อบอกแล้วไงว่าไม่ได้ชน ค่ะ >,<”



    “เอ๊ะ! นี่เธอ สวยก้อไม่สวยแล้วยัง p_q” เพื่อนของยัยปอบนั่นพูด ว่าฉันไม่สวยหรอยะ เธอน่ะหน้าตาอย่างกับปลาบู่ชนเขื่อน



    “นี่คุณ! ฉัน… >O<” ฉันจะเถียง



    “เกิดอะไรขึ้นหรอครับ^^” เสียงผู้ชายคนนึงถามขึ้น



    เขาตัวสูง หน้าตาสำอาง ย้อมผมสีน้ำตาลแดงรับกับสีผิวที่ขาวนวล



    “เอ่อ –O- คือ… คุณคนนี้เค้า…”



    “ยัยนี่เดินมาชนฉันน่ะพี่ >O<” ยัยปอบนั่นรีบแย้งฉันพูดทันที



    “เฮ้! คุณ…” ฉันจะแย้ง



    “นี่เขาชนเธอหรือเธอชนเขากันแน่”



    “พี่น่ะ ฉันน้องพี่นะ เข้าข้างกันหน่อยก้อไม่ได้” ยัยปอบนั่นพูด แหม! เป็นพี่น้องกันหรอกหรอ



    “ขอโทษคุณเขาไปเลยนะ”



    “พี่น่ะ…/…ขอโทษ!! -_-^^” ยัยปอบผีฟ้า(เดิมอีกหน่อย) พูดกระแทกเสียง



    “ขอโทษดีๆ ไม่เป็นหรือไง อยากไปไหนก้อไปเลย” พี่ของยัยปอบผีฟ้าไล่ แล้วยัยนั่นก้อเดินไป



    “เอ่อขอบคุณนะคะ ^_^\\\\”



    “ไม่เป็นไรครับ เธอเป็นน้องผมเอง คุณเป็นอะไรมากหรือป่าวครับ ต้องขอโทษแทนเธออีกทีนะครับ” เขาพูดอย่างสุภาพ



    “เสื้อฉันเปื้อนนิดเดียวไม่เป็นไรค่ะ ยังไงก้อต้องขอบคุณ เอ่อ คุณ…”



    “จีจินอูครับ เรียกจีจินอูเฉยๆ ก้อได้”



    “ค่ะ ฉันฮันเคียงเฮค่ะ ขอบคุณคุณจินอูมากนะคะ” ฉันกล่าวแล้วโค้งให้



    “ครับ”



    “อ้าว! เคียงเฮ มาทำอะไรตรงนี้น่ะ” เสียงของซุนยองดังขึ้นข้างหลังฉัน สองมือของเธอมีเครื่องดื่มอยู่ทั้งสองมือ



    “อ๋อ! คือ…”



    “อ๊ะ! O_O รุ่นพี่จินอูมาทำอะไรตรงนี้ล่ะ” ซุนยองพูดแข็ง รุ่นพี่หรอ?



    “หวัดดี ซุนยอง” จินอูพูด



    “คือเค้าช่วย…” ไม่ปล่อยให้ฉันพูดจบเลยนะ



    “รุ่นพี่รู้หรือป่าวน่ะ เคียงเฮเป็นใคร”



    “เป็นเพื่อนเธอใช่ไหมล่ะ^^”เขาพูดยิ้ม



    “ใช่! แล้วเธอน่ะเป็นยังเป็น…”



    “สวัสดีครับท่าผู้มีเกียรติทุกท่าน วันนี้ผมคิมมินฮุง รับหน้าที่เป็นพิธีกรในงานวันนี้ ผมว่าผมไม่พูดมากดีกว่า ขอเชิญทุกท่านพบกับเจ้าของงานเลยครับ ฮานซองเท!” แล้วซองเทก้อเดินออกมาจากหลังเวที แหะๆ เพิ่งสังเกตนะเนี่ยว่ามันนี้เขาดูดีมากทีเดียว



    “ครับ หวัดดีเพื่อนๆ แล้วก้อทุกๆคนนะ วันนี้ฉันเรียกทุกคนมาเพราะมีเรื่องสำคัญจะบอก” ซองเทพูดแล้วกวาดตามองไปรอบๆ



    เกิดเสียงวิจารณ์ขึ้นโดนรอบ



    ~“อะไรกัน นายมีประจำเดือนหรือไงนะ”~



    ~“หรือว่านายมีแขนเพิ่มมาอีกข้าง”~

      

    ~“นายผ่าตัดแปลงเพศหรอ”~ อันนี้น่าเกลียดจัง



    “ถ้าอยากตายก้อเชิญพูดต่อไปเลยนะ -_-^ -_-^^ -_-^^^” ซองเทพูดเสียงโหด



    “เอ่อ-O- แล้วมันอะไรกันล่ะซองเท” พิธีกรที่ชื่อมินฮุงพูดแก้สถานการณ์



    “ฉันมีแฟนแล้ว”



    งุงิ งุงิ งุงิ ~~~~



    มีเสียงพึมพำดังขึ้นระงม



















    ^Converse^



    Night



    Say :



        หวาดดีง้าบ~~ ป๋มมาอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่ตอนนี้มาอัพถึง 3 ครั้งแต่ก้อยังไม่จบซะที วันนี้ก้อปิดตอนไปเรียบร้อยแล้วงับ เพิ่งกลับจากเข้าค่ายเมื่อวันศุกร์ วันเสาร์ก้อเลยนอนๆๆๆๆๆ เหนื่อยมากๆๆแต่ไม่หนุกเลย อยากเป็นเนตรนารีมากๆ เลือกกิจกรรมผิดเจงๆ ผู้บำเพ็ญอย่างเซ็งอ่างับ น้ำก้อไม่ตก เสียเที่ยว อยากเปียกก้อเลยไปเล่น สปริงเกอร์ที่รดน้ำต้นไม้ แหะๆ เปียกสมใจ เดินทางไกลก้อแค่ 5 กิโลเอง เองจริงๆ นะ ไม่ไกลเลย อย่างเน้เค้าเรียกว่าเสียชาติเกิดหรือป่าวเนี่ย แง้~~~~~~~~~~ TT__TT มีฐานตำส้มตำด้วยหละ บรรยากาศดีเปงบ้า ท่ามกลางน้ำตก เสียอย่างเดียววันนี้ท้องเสีย เพราะไอ้ส้มตำนี่แท้ๆ เลย



    ตอนนอนนี่หนุกสุดเลย เพื่อนป๋มมันนอนแต่ละท่า สุดยอด กางขา 120 องศา แล้วยังนอนท่าอย่างกับซุปเปอร์แมน อิอิ^^ บางคนก้อนอนกรน ผู้หญิงนะงับ เชื่อเจ๊แกเลย แล้วมีอยู่คนนึงเจ๊แกไม่หลับไม่นอนเข้านอน ตี 2 พอคนอื่นหลับก้อมานั่งดูคนอื่นนอน มันบอกว่าเห็นคนปล่อยแก๊สพิษออกมา 3 ปูด คนละเมอ แล้วก้อเหงไอ้เพื่อนรักป๋ม2 คนนอนกอดกัน อิอิ^^ ไม่น่าเชื่อ ป๋มเลยล้อให้เค้าแต่งงานกันไปเลย แหะๆ ไอ้พวกไม่เวอร์จิ้น ^O^



    การแสดงก้อหนุกดี ห้องป๋มได้ที่สองเซ็งโคด ซ้อมมา 2 เดือนได้เท่าเนี้ย ไม่เปงไรเราซ้อมกันเอง ไม่ได้ให้อาจารย์ซ้อมให้ ผ.อ. ยังชมเลยว่า อลังการ อิอิ^^ รู้สึกว่าป๋มจะเต้นไปทั้งหมด 10 เพลงได้มั้ง เปิดเพลงไหนเต้นหมด ถือว่าปล่อยผี อิอิ ปีหน้าเหลืออีกปีนึง ปีหน้าทหารฝึกด้วยต้องมันแน่ๆ >,< อยากไปจังเลย อีกหนึ่งปีแน่ะ



    วันนี้ต้องไปสอบเลข&วิทย์อีกแระ หนังสือก้อไม่ได้อ่าน เพิ่งกลับจากเข้าค่ายแท้เลย



    ~ช่วยกันโหวต ช่วยกันเม้นด้วยนะงับ~



    ~รักคนอ่านทุกคนง้าบ~



    บะบาย







    ซายน์ แอม ไอซ์ กิ๊ก

    รักพวกแกนะ

    เพื่อนน่ะ

    ถ้าไม่รักพวกแกแล้วจะรักใครวะ

    เค้าจะงอนให้น้อยลงนะตะเอง

    แต่ถ้างอนก้อง้อกันบ้างนะ

    จะไม่ร้องไห้(บ่อย)

    ถ้าร้องก้อช่วยๆ กันปลอบหน่อยละกัน

    เค้าอ่ะน้ำตามันออกง่าย

    คิดอะไรมันก้อออกมา

    เค้าจะพึ่งพาตัวเอง ไปไหนไปคนเดียว

    จะไม่รบเร้าความลับของคนอื่น(ซายน์)

    อย่าสนิทกับเพื่อนนอกกลุ่มมาก

    (หึงเฟ้ย! หึงเพื่อนแปลกเนอะ เพื่อนกันวุ้ยๆ)

    มันทำให้เค้ารู้สึกเหมือนเป็นคนนอก

    เราคงเป็นคนที่ขาดความรัก ขาดเพื่อนไม่ได้

    พูดอะไรก้อคิดก่อนนะ แทงใจเค้าเสมอเลย

    แบ่งคอนเน่เค้าด้วย

    (วันนั้นกินไม่แบ่งเลย)



    ~รัก รัก รัก รัก รัก ตะเองน้า~





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×