คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ความซวย
[Aek’side]
กริ๊งๆ
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นในยามเช้า มือหนาถูกยกขึ้นโบกปัดนาฬิกาที่วางอยู่บนหัวเตียงนั่นให้เงียบก่อนจะรีบซุกตัวอยู่ในผ้าห่มต่อ
ตี๊ดๆ
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นยิ่งสร้างความหงุดหงิดให้เจ้าของมากขึ้นเนื่องจากมันมารบกวนการนอนของเขา มือหนากดรับโทรศัพท์ด้วยความงัวเงีย ทำให้เขาไม่ทันสังเกตเห็นว่าคนที่โทรเข้านั้นเป็นใคร
“ ไอ้เหี้ยเอกกก!!!!!!!!!!!!!!” เสียงปลายสายตะโกนผ่านโทรศัพท์ทำให้อีกเด็กหนุ่มถึงกับตาสว่างทันที
“ว่าไงครับที่รัก”ผมพูดอย่างงัวเงียด้วยความที่เพิ่งนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงเพราะมัวแต่นั่งเล่นเกมจนดึก ยังไงก็เถอะผมก็ไม่รู้ว่าปลายสายโทรมาทำไมแต่เช้า
“ที่รักพ่องสิ ไอ้เชี่ยตื่นรึยังเนี่ย” ปลายสายตะโกนด่าผมแล้วด่าผมอีกนี่ผมไม่ตื่นก็คงไม่มาคุยโทรศัพท์กับมึงหรอก
“ตื่นแล้วๆ มึงมีไร” ผมยังคงถามอีกฝ่ายว่าที่โทรมาน่ะโทรมาทำไมแต่เช้า
“ไอ้เหี้ย มึงลืมนัดกูแล้วใช่ไหม ให้กูมารอเก้อที่ห้างเนี่ยนะ กูจะกลับละนะ” ตื๊ด! ปลายสายตะคอกผ่านโทรศัพท์แล้วตัดสายทันที เท่านั้นแหละผมรีบลุกพรวดออกจากเตียงทันที ไม่องไม่อาบน้ำแล้วครับตอนนี้ดิ่งหาเบสอย่างเดียวแล้ว
ผมก็เป็นแค่เด็กหนุ่มที่มีผมสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาเรียวสีแดง เข้ากับใบหน้าหล่อได้รูปของผมได้พอดิบพอดีเลยล่ะ ฮ่าๆ เหมือนผมจะเป็นคนหลงตัวเองสินะ ผมชื่อเอก เป็นคนใจดี ถึงหล่อแต่ก็ไม่เจ้าชู้นะฮะแค่โปรยเสน่ห์ให้คนอื่นเท่านั้นเอง ตอนนี้มัวแต่แนะนำตัวไม่ได้สินะต้องดิ่งไปหาไอ้เบสก่อนเดียวมันงอน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หลังจากที่ผมบึ่งรถมาหาเบสมันถึงห้างที่นัดกันไว้ ผมก็นึกได้ว่าวันนี้เป็นวันที่ผมนัดมันมาดูหนัง ให้ตายสิ ผมส่ายหน้าอย่างหัวเสีย ทั้งที่ตั้งใจจะไม่สายแล้วแท้ๆ ผมก็เจอเด็กหนุ่มผมสีชมพู ดวงตาสีเหลืองทองมองผมด้วยแววตาอาฆาตปานจะฆ่ากันให้ตาย เวรแล้วไงตอนนี้
“ไอ้เหี้ยเอก!!”เบสเดินหน้าบูดบึ้งตรงมาหาผมอย่างรวดเร็ว พร้อมกับซัดหมัดใส่ผมมาเต็มๆหนึ่งหมัด ไอ้สัสโคตรเจ็บ
“มึงต่อยกูทำไมเนี่ย!!!!!” ผมตะโกนใส่เบส ยิ่งทำให้อีกฝ่ายโมโหมากกว่าเดิมและเริ่มซัดหมัดใส่ผมรัวๆแบบไม่คิดให้ผมได้หายใจยิ่งกว่าในเกม
“กูงอนมึงแล่ว!!!!!!!!!” มันจะโกนอัดหน้าผมหลังจากที่มันยืนซัดหมัดรัวๆใส่ผมไม่ยั้งแล้วทำเป็นเดินหนี ผมต้องรีบรับบทพระเอกง้อนางเอกตามละครของช่อง3 ช่อง7ไปง้อมันเลยนะเนี่ย งอนเป็นผู้หญิงไปได้
“เบสคร้าบบบบบ อย่างอนเอกเลยน้า ผมขอโทษ ผมจะไม่สายอีกแล้วครับ นะครับ นะอย่างอนนะ” ผมใช้มือโอบเอวมันไว้แล้วดึงเข้าหาตัว ทำให้คนที่อยู่ภายในอ้อมกอดดิ้นขลุกขลักจะเป็นจะตายอยู่ข้างใน
“เอกปล่อยกู กูไม่เล่น”เบสพูดเสียงเข้ม พร้อมกับส่งสายตาไม่พอใจมาให้ผม คิดว่ากูจะปล่อยมึงเหรอ
“ก็ถ้าเบสไม่หายงอน เอกก็จะกอดเบสแบบนี้แหละ” ผมกระซิบที่ข้างหูอีกฝ่ายทำเอาใบหน้าหวานนั้นขึ้นสีแดงระเรื่อ หึๆก็น่ารักดีนี่หว่า
“เอกกูไม่เล่น ปล่อยกูเดี๋ยวนี้ กูไม่ชอบ” เบสยังคงยืนยันให้ปล่อย แต่ปฏิกิริยาของร่างกายกลับตรงข้ามเพราะเจ้าตัวหยุดดิ้นและหันหน้ามาเผชิญกับผมโดยตรงด้วยหน้าตาที่เหมือนจะงอนและยังคงความน่ารักบนใบหน้า
“ถ้าเบสไม่หายงอนเอกจะจูบเบสแล้วนะ” ผมพูดและโน้มหน้าไปหาอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ อีกฝ่ายหลับตาทันทีและยื่นหน้าเตรียมรับจูบที่ผมกำลังจะมอบให้ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะด้วยความอยากแกล้งของผมนี่สิ
“อ้าว ไม่จูบหรอ” เบสพูดขึ้นหลังจากที่ผมหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าไปนาน
“ไม่อ่ะ ก็เบสบอกว่าไม่ชอบ แต่ตัวเองหลับตาก่อนเค้าอีกนะ อิอิ” ผมพูดโดยตั้งใจให้คำพูดผมมันไปสะกิดต่อมความเขินของไอ้เบส จากที่ตอนแรกหน้าแดงอยู่แล้วตอนนี้มันยิ่งหน้าแดงขึ้นไปอีก มันซุกลงที่อกของผมและใช้มือเล็กๆทุบตีผมไม่ยั้ง มีหรอผมจะสะเทือน ผมโอบเบสให้เข้ามาใกล้อีกแล้วเอาหน้าซุกเรือนผมสีชมพูของมันไว้ ยิ่งทำให้เจ้าของร่างที่ผมกอดอยู่หยุดชะงักการทำร้ายร่างกายแต่เปลี่ยนมากอดผมแทน
“เอกบ้า!!! บ้าที่สุด” เจ้าตัวยังคงบ่นพึมพำอย่างน่ารักในอ้อมกอดผมด้วยความเขินอาย(มั้ง?)
“บ้าแล้วรักมะ?”
“รักดิ ถ้าไม่รักเอกแล้วเค้าจะรักใครอ่ะ”เบสพูดเสียงหวานและเงยหน้ามองผมส่งยิ้มปานนางฟ้าลงมาเกิดให้ก่อนจะรีบซุกหน้าที่อกผมเหมือนเดิม ในที่สุดผมก็ง้อเบสมันได้แล้วดีจัง
“เอ่อ...เบสเราจะกอดกันอีกนานไหม เดี๋ยวเราจะดูหนังไม่ทันนะ” ผมปล่อยมือจากตัวเบสแล้วเริ่มถามอีกฝ่ายที่ตอนนี้รัดผมแน่นซะจนเกือบหายใจไม่ออก
“เอกอ่าปล่อยเค้าก่อนสิ ถ้าเอกไม่ปล่อยเค้าก็ปล่อยเอกไม่ได้หรอกนะ” เบสพูดและยังคงกอดผมไว้เหมือนเดิม ผมหลุดขำไม่ได้เลยจริงๆที่เจ้าตัวไม่รู้ว่าผมปล่อยคุณเธอไปนานแล้ว
“เอ่อ..คือเค้าปล่อยที่รักนานแล้วนะ” แค่ประโยคนี้เบสก็ดีดตัวออกจาผมทันที โอ่ย...น่ารัก เบสถอยห่างและรีบเบือนหน้าหนีจากผมทันที “เบสให้ผมจับมือไหม” ผมถือโอกาสยื่นมือไปจับมือเบสโดยที่เจ้าตัวยังไม่ทันตอบ ผมก็ลากเบสไปซื้อตั๋วหนัง
“ พี่คะๆ พี่ใช่พี่เอกHeartRockerรึเปล่าคะ “ หญิงสาวผมสีน้ำตาลสลวยปล่อยยาวถึงกลางหลัง ใส่คอนแทคเลนสีแดงแจ๊ดน่ากลัวยิ่งกว่าผีสำหรับผมอ่านะ แต่งตัวเสื้อสายเดี่ยวสีขาว กางเกงยีนขาสั้นสีดำ รองเท้าส้นสูงปรี๊ดราวกับจะไปแทงใครงั้นแหละ เธอเดินมาดึงผมออกจากเบสโดนไม่ทันที่ผมจะตอบคำถามเธอเลย เบสมองเธอด้วยแววตาโกรธเคืองเล็กน้อยก่อนจะเดินเชิดไปซื้อตั๋วหนัง
“พวกเราชั้นเจอพี่เอกด้วยล่ะ” น้องแกกระชากผมเดินไปหาวงเพื่อนสาวของเธอที่แต่งตัวเปรี้ยวจัดทุกคน ทุกคนใส่รองเท้าส้นสูงปี๊ดและกางเกงขาสั้นโชว์ขาอ่อนทุกคน และพวกเธอยังทาลิปสติกสีแดงแจ๊ดดดไม่รู้จะแดงไปไหน คงมีแค่น้องที่ควงผมอยู่ตรงนี้ที่ไม่ทาปาก หรือเจ๊แกยังไม่ได้ทา
“ว๊าย!!!!!!! พี่เอกขอถ่ายรูปหน่อยสิคะ” น้องผู้หญิงคนที่คิดว่าน่าจะสวยที่สุดในกลุ่มรองจากน้องคนข้างๆผม ผมลอนสีดำวิ้งวับ สวมเสื้อเกาะอกสีแดง กางเกงขาสั้นพอๆกับใบเตยสีขาว กับรองเท้าส้นสูงสีชมพู ริมฝีปากอ่วมอิ่มสีแดงสดเพราะลิปสติกของเจ๊แก เดินมาซบไหล่ผมด้วยความเร็วอย่างกับปิศาจพร้อมกับกดชัทเตอร์โทรศัพท์รัวๆผ่านแอพcamera360
“ขอหนูมั่งสิ”
“มั่งสิคะ”
“พี่เอกหนูด้วย”
30 นาทีผ่านไป
ผมก็ปลีกตัวออกมาจากแฟนคลับพวกนั้นได้สักที รู้สึกเหมือนตัวเองโดนรุมสะกำทางร่างกายและจิตใจ ผมอยากไปหาเบสสสสสสส ระหว่างที่ผมเดินไปหาเบสก็ถูกมือบุคคลหนึ่งดึงไว้ น้องผู้หญิงที่ลากผมไปหากลุ่มแฟนคลับพวกนั้นนี่เอง เธอใช้มือเข้ามาเกาะแขนผมอย่างชำนาญ
“พี่เอกคะ ขอโทษนะคะที่ทำให้พี่ต้องมาลำบากเพราะพวกหนู หนูชื่อไวน์นะคะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่เอก เราคงจะได้เจอกันใหม่เร็วๆนี้ “ น้องไวน์ประกบริมฝีปากผมกับเธอเข้าหากันอย่างคล่องแคล่ว มือเรียวเธอโอบคอผมไว้ไม่ยอมปล่อย ผมรีบผลักตัวน้องแกออกไปโดยเร็ว น้องแกเผยยิ้มชั่วร้ายเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขอบคุณและเดินจากไปด้วยใบหน้าเขินอาย(?)
ผมหันขวับกลับไปทางเดินที่จะไปหาเบสก็พบว่า เบสน่ะได้ยืนอยู่ข้างหน้าผมแล้ว ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เบสมองผมนิ่งๆก่อนจะฉีกตั๋วหนังทิ้งต่อหน้าต่อตาผมและเดินเอาป๊อปคอร์นไปทิ้งขยะ
“เบส...”
“กูไม่ดูหนังแล้ว กูกลับล่ะ” ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยคำใดๆออกไป เบสก็พูดขัดขึ้นมาทันทีและได้เดินหนีผมไปอย่างรวดเร็ว ผมวิ่งตามเบสไปเรื่อยๆพลางตะโกนเรียกชื่ออีกฝ่าย แต่ไม่มีที่เบสจะหันมามองเลยแม้แต่น้อย ผมวิ่งตามเบสจนหอบแต่อีกฝ่ายก็ไม่หันมาสนใจผมแม้แต่น้อย จนในที่สุดผมก็พลัดหลงกับเบส
ความคิดเห็น