คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : สัญญาของสองฝ่าย
“นี่ไหนๆลูกของเราก็เกิดมาแล้ว ลูกของพี่ก็ชาย ลูกของนายก็หญิง ทำไมเราไม่จับหมั้นกันเลยล่ะ”
“ใช่...ผมก็คิดว่าอย่างนั้นเหมือนกันแหละ”
“ใช่ค่ะเดี๊ยนยังปรึกษากับคุณยุทธอยู่เลยค่ะ คุณพี่เห็นด้วยมั้ยค่ะ”
“มันก็ไม่เลวหรอกนะ แต่ติดอยู่ที่ว่าลูกของเราทั้ง 2 คนจะรักกันรึเปล่าน่ะสิ”
“ไม่เห็นเป็นอะไรนี่คุณ เราหมั้นกันไว้ก่อนก็ได้ไม่ใช่เหรอเรื่องรักไม่รักก้อแล้วแต่พวกเขาเถอะ”
“ใช่ พี่เห็นด้วยกับนายนะยุทธ ถ้ารักกันก็แต่งถ้าไม่รักก็ถอนหมั้นซะ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”
“ถ้างั้นตกลงตามนี้ล่ะกัน หมั้นกันซะพรุ่งนี้เลยเป็นไงค่ะ”
“อืม ดีเพราะพรุ่งนี้ก็เป็นฤกษ์ดีด้วย แหม่..ช่างเหมาะอะไรเช่นนี้”
ผู้ใหญ่ของทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายตกลงกันว่าจะจับลูกหมั้นแบบคลุมถุงชน ( ดูซิ เด็กอายุแค่ 2-3 ขวบก็มีคู่หมั้น กะเค้าด้วย เฮ้อประเทศไทย )
~ เช้าวันรุ่งขึ้น ~
“อ้าวนี่ลูกสองคนต่อไปนี้ลูกคือคู่หมั้นระหว่างกันนะ ไนน์ดูแลน้องด้วยนะลูก”
“ครับ พ่อ”เด็กชายวัย 3 ขวบตอบรับพ่อด้วยความไร้เดียงสาและไม่รู้ว่าอนาคตต่อไปตนจะต้องมีคู่หมั้น
“ไนน์อาฝากดูแลไทน์ด้วยนะ แล้วอย่าทะเลาะกันล่ะเข้าใจมั้ย”
“ครับ”
โป๊กกก..!! แน่นอนว่าต้องมีเสียงตามหลังมา โอ๊ยยย *o*!!!
“แม่ครับน้องตีหัวผม”
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ ฮึๆๆ”
“นี่ยังไม่ทันไร หนูไทน์ก็แสบตั้งแต่เล็กเลยนะเนี่ยฮึๆๆ”
~ 5 ปีต่อมา ~
“พี่ครับ ธุรกิจผมย่ำแย่มากเลยครับ ผมขอลาพี่ไปตั้งตัวอยู่ที่เนเธอร์แลนด์สักระยะหนึ่งนะครับ”
“พี่รู้ว่านายนะต้องการตั้งตัวแต่เงินนายนะคงไม่พอ อะ นี่คือเงินก้อนหนึ่งถือซะว่าพี่ให้นายไปตั้งตัวล่ะกัน”วัฒน์เศรษฐีผู้ทั้งเงินทอง ชื่อเสียงและขนหน้าแข้งที่ไม่มีวันจะร่วง ยื่นเงินปึกหนาให้กับเพื่อนรุ่นน้องที่อาการของเงินกำลังย่ำแย่
“พี่ครับแต่ผมรับไว้ไม่ได้หรอก เท่าที่ผมมีก็น่าจะพอนะครับ”
“แล้วไทน์ล่ะ จะอยู่จะกินยังไง ถือว่าพี่ให้หลานกันนะ”
“เอาไปเถอะยุทธ พี่เชื่อว่าเงินที่เธอมีน่ะไม่พอเลี้ยงลูกนะเอาไปเถอะ”
“ขอบคุณครับพี่พิม พี่วัฒน์ผมจะไม่ลืมคุณเลย”
“เดี๊ยนก็ขอขอบคุณด้วยนะค่ะพี่พิม พี่วัฒน์หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีกนะค่ะ”
“อ้าว ทำไมล่ะ จะไม่กลับเมืองไทยอีกเหรอ”
“กลับครับ แต่กว่าจะกลับก็คงอีกนาน”
“อืม งั้นโชคดีนะ”
โป๊กกก...ต้องมีเสียงตามมาอีกแน่นอนแต่คราวนี้กลับเป็นเสียงร้องไห้แทน ฮือๆๆToT
“พ่อครับน้องไทน์ เอาไม้ตีหัวผมครับฮือๆๆToT”
“เอาอีกแล้วนะไทน์ลูกดื้ออีกแล้วต่อไปอย่าตีหัวพี่เค้าอีกนะ ลาพี่เค้าซะลูก”
“ค่ะแม่ พี่ไนน์บ๊าย บายถ้ามีโอกาสจะกลับมาตีหัวอีกนะค่ะ”เด็กหญิงเสียงใสสั่งลาด้วยความสะใจ
“อืม ถ้างั้นต่อไม่ต้องกลับหรอกบาย”เด็กชายโบกมือลาเด็กหญิงด้วยสีหน้าที่มีแต่เลือดแผ่รังสีไปทั่วหน้า
เมื่อทั้งสองครอบครัวสั่งลากันแล้ว ครอบครัวของยุทธ ไพบูลย์ธนา ผู้เคยเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยแต่ต้องระหกระเหินไปอยู่ต่างแดนเพราะธุรกิจของครอบครัวย่ำแย่ โดยมีลูกสาว ไทน์ลูกสาวทายาทสุดที่รักคนเดียวของตระกูลไพบูลย์ธนาตามติดไปด้วย
~ ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ~
“พ่อค่ะ เราจะกลับเมืองไทยอีกตอนไหนค่ะ”
“ทำไมเหรอลูก คิดถึงเมืองไทยล่ะสิ ไม่ต้องคิดถึงหรอกถึงยังไงเราก็พูดภาษาไทย ถ้าวันไหนอยากกินอาหารไทยก็ไปไปที่ร้านอาหารไทยก็ได้นี่ลูก”
“เปล่าค่ะ หนูอยากตีหัว พี่ไนน์ค่ะ”
“-_-;นี่ลูกจ๊ะ รอเรามีเงินตั้งตัวได้ก่อนนะแล้วแม่จะพาหนูกลับเมืองไทยนะจ๊ะ”
“ค่ะคุณแม่”เด็กหญิงตอบรับคุณแม่ด้วยความหวังที่จะได้กลับเมืองไทยไปตีหัวพี่ชายของเธออีกครั้ง
หลังจากที่เด็กหญิงได้ไปอยู่ที่เมืองนอก เธอก็เรียนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งเธออายุ 17 พ่อแม่ของเธอก็มีเงินและมีฐานะที่พอสมควร แล้วพ่อของเธอก็ได้ตัดสินใจมาทำธุรกิจที่ประเทศไทย บ้านเกิดของตน และกลับมาเพื่อทดแทนบุญคุณของวัฒน์ เพื่อนที่มีมิตรภาพที่ดีต่อกันตลอดมา.....
~10 ปีผ่านไปไวเพราะโกหก ~
“แม่ค่ะ หนูไม่อยากเข้าโรงเรียนนี้เลยเปลี่ยนโรงเรียนใหม่เถอะนะค่ะ แม่”
“ทำไมล่ะลูกมีแต่คนอยากเข้าโรงเรียนนี้ทั้งนั้นล่ะ โรงเรียนนี้น่ะดังที่สุดในกรุงเทพฯแล้วนะ”
“ก็ต้องดังสิค่ะ แม่ดูชื่อโรงเรียนดิ โรงเรียนเต่าตุ่นวิทยาลัย ช่างมีชื่อเสียงจริงๆ -_-;;”
“งั้นก็ได้ พรุ่งนี้เราค่อยไปหาโรงเรียนใหม่ละกัน เพราะแม่ไม่ได้มาเมืองไทยนานแล้ว กรุงเทพฯก็เปลี่ยนไปมากแม่ว่าจะเอาลูกไปเรียนโรงเรียนเดียวกับพี่ไนน์แต่ติดต่อลุงวัฒน์กับป้าพิมก็ไม่ได้ งั้นคงต้องหาโรงเรียนเองแล้วล่ะ”
ใช่ค่ะเปลี่ยนโรงเรียนเถอะค่ะตั้งมาได้ยังไง เต่าตุ่นวิทยาลัย หวังว่าโรงเรียนต่อไปคงไม่ชื่อ โรงเรียนซื่อบื้อพิทยาคมที่คนคิดชื่อโรงเรียนคงใช้ความฉลาดอันน้อยนิดของตัวเองมาเป็นชื่อของโรงเรียนหรอกนะ
~ เช้าวันต่อมา ~
“ไทน์...ไทน์จ๊ะ”
“คะแม่ มีอะไรหรอค่ะ”
“ไปซื้อน้ำมันทอดไก่ที่เซเว่นปากซอยมาให้แม่หน่อยจ๊ะ”
“ค่ะแม่” แม่ค่ะต่อไปแม่เข้าเทสโก้โลตัสก็ช่วยหนูประหยัดพลังงานในการขี่รถไปซื้อของหน่อยนะค่ะแม่น้ำมันมันแพงนะคะ เพราะมันใช้พลังงานไม่เท่าไรหรอกแค่เซเว่นปากซอย 1.324 กม.เท่านั้นเอง -_-;; (วัดมาแล้วเหรอ ละเอียดเชียว)แล้วไก่ที่แม่จะทอดน่ะ ทอดให้สุกๆเหลืองกรอบ (ไหม้เลยก็ได้)หน่อยนะค่ะหนูกลัวไข้หวัดไก่ค่ะ (อ้าวก็เชื้อโรคมันอยู่ที่ไก่ทำไมต้องเรียกไข้หวัดนกอ่ะ อยู่กับไก่ก็ต้องเรียกว่าไข้หวัดไก่สิจริงมั้ย -.,-) ตอนที่ฉันกำลังพลางคิดจินตนาการ พลางขี่รถ Mio สุดเท่อยู่นั้นเหตุการณ์ที่ฉันไม่อยากฝันและไม่อยากให้เกิดมันก็เกิดขึ้น ใช่สิเราต้องตื่น ตื่นสิตื่นๆๆ
แว้กก..-O- เอี๊ยดดด..ครืดดดด.... ฉันเอาแฮนด์รถของฉันไปขูดกับรถเบ๊นซ์เปิดประทุนคันโก้ราคาที่คงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแม่ค้าในตลาดคงไม่มีปัญญาจะซื้อ แต่ฉันกลับทำสีรถเบ๊นซ์ที่สีขาวสะอาดไร้ร่องรอยการขูดขีดกลายเป็นรถเปิดประทุนที่มีลายขีดยาว แต่ฉันก็เป็นคนที่ขูดรถได้อย่างมีศิลปะจริงๆช่างสวยงามจนฉันไม่อยากจะเห็นหน้าคนที่เป็นเจ้าของรถเลย เอ้อ...แล้วเจ้าของรถล่ะไม่ได้ๆเราต้องรีบเผ่นไปจากที่นี่ก่อนที่เจ้าของรถจะมาไม่งั้นฉันต้องหาเงินมาตกแต่งรถเฮงซวยคันนี้แน่ โฮ้ย... -_-;;!!ฉันไม่เข้าใจเลยทำไมฉันต้องมีเรื่องซวยๆเกิดขึ้นในชีวิตอย่างนี้ด้วยเนี่ยฉันล่ะไม่เข้าใจเลยจริงๆ แต่ช่างเถอะหนีมาแล้ว ซื้อน้ำมันให้แม่ดีกว่า
“33 บาทค่ะ”
“นี่ค่ะ”
“โอกาสหน้าเชิญใหม่น่ะค่ะ” ค่ะไม่ต้องบอกก็ได้ค่ะยังไงก็ต้องมีคนมาซื้ออยู่แล้วล่ะค่ะก็ร้านพี่เปิดทุก 24 ชั่วโมงอยู่แล้วนี่ค่ะไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้ขายหรอกค่ะ พอซื้อของเสร็จเราจะอยู่ทำไมก็กลับบ้านสิ แต่ระหว่างทางที่กลับบ้านฉันก็เจอคนคนนึงกำลังเดินรอบๆรถแล้วก็บ่นขยับปากขยุบขยิบหรือเขากำลังจะ...โอ้...ไม่นะนั่นเค้ากำลังจะท่องมนต์ให้รถลอยขึ้นมันคงจะเป็นกายกรรมที่เด่นดังที่สุดในรอบปี แต่รถคันนี้คุ้นๆนะ อ๊ากกก...+O+ นั่นมัน...นั่นมัน...รถที่ฉันขับรถไปขูดสีนี่
!!!! ไม่ได้ๆฉันต้องทำตัวเป็นปกติไม่มีพิรุธเดี๋ยวเขาจะจับได้ว่าฉันเป็นคนทำ แล้วทำไมฉันต้องตื่นเต้นแล้วก็สั่นงี้ด้วยเนี่ยตายทำไมเป็นยังงี้ล่ะ อย่าสั่นสิเดี๋ยวเขาก็รู้หรอกว่าเราทำ ไม่นะ -_-;;!!!!
“ใครว่ะกล้ามาก...มาขูดรถฉันซะเป็นรอยยาว อย่าให้เจอตัวนะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าให้ตายเลยคอยดู”เสียงชายคนหนึ่งท่าทางโกรธและไม่พอใจเป็นอย่างมากพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ขนแขนสแตนอัพเลยToT ก็แล้วจะใครล่ะค่ะก็เจ้าของรถที่ฉันขี่รถไปขูดสีเขานั่นล่ะ แล้วเขาก็บอกว่าเขาจะให้ค่าขนมด้วย (คิดไปได้ไงคอจะขาดแล้วยังไม่รู้ตัว -_-;; ) ฉันได้ยินถูกใช่มั้ยว่าเขาจะให้ค่าขนมใช่มั้ยค่ะ
ขณะที่ฉันกำลังขี่รถไปพลางปลอบใจตัวเองไป พลันฉันก็ขี่รถผ่านรถเบ๊นซ์เพ้นท์ศิลปะ ด้วยความสยดสยองก็ไม่ให้สยองได้ไงดูหน้านายนั่นสิ เลือดงี้อัดฉีดเข้าเส้นเลือดฝอยทุกอณูของใบหน้า หน้าของนายนั่นก็เลยแดงเหมือนโดนเลือดสาดมา มันเป็นภาพที่ทำให้ฉันอยากตาบอดเลย คนอะไรหน้าตาก็ดีแต่เวลาโกรธงี้ฉันเชื่อว่าแม้แต่สุนัขยังบอกว่าอย่ามองมาทางผมนะผมไม่เกี่ยว แต่ช่างเถอะไหนๆก็ไหนๆแล้ว ฉันว่าคนดีก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำจริงมั้ย สังคมถึงจะเจริญ ฉันก็เป็นคนดีคนนึงเหมือนกันแต่วันนี้ขอเถอะ สังคมค่อยเจริญวันหลังวันนี้ขอเผ่นก่อนล่ะกันขอโทษนะค่ะคุณเจ้าของรถเบ๊นซ์ที่ฉันเพ้นท์ด้วยความสามารถที่มันบังเอิญมามีตอนนั้นบ๊ายบายก่อนนะค่ะ โชคดีค่ะ *O*;;
~ วันอาทิตย์ที่แสนจะสดใส ( รึเปล่า ) ~
ตื่นเช้าขึ้นมางัวเงีย เล็กน้อย เพราะเมื่อคืนคิดไงไม่รู้ ฝันว่า ตัวเองมีแฟนแล้วไม่ยอมแต่งงานกับพี่ไนน์ ( คู่หมั้น ) แต่ทำไมฉันไม่เห็นแฟนของฉันด้วย เพราะอะไร ( ดูในกระจกสิ เค้าอยากเห็นหน้าเธอรึป่าว ) เสียงใครฟ่ะ - -*
“แม่ค่ะเราติดต่อลุงวัฒน์กับป้าพิมไม่ได้เลยหรอค่ะ”
“ไม่ได้เลยลูก แม่โทรไปหลายครั้งแต่ก็ไม่ติดสักที เค้าคงเปลี่ยนเบอร์แล้วมั้งลูก”
“ถ้าเราไม่ติดต่อกับเค้าเลย เราจะเป็นอะไรมั้ยค่ะ”
“ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ลูก”
“งั้นเราก็ไม่เห็นต้องติดต่อให้เสียเวลาเลยนี่ค่ะ”
“แต่ครอบครัวของเราเป็นเพื่อนสนิทกันมานานน่ะลูก พ่อคิดว่าน่าจะติดต่อให้เค้ารู้บ้างก็ดีว่าเรากลับเมืองไทยแล้วน่ะลูก”
“งั้นหรอค่ะ แล้วหนูยังต้องแต่งงานกับพี่ไนน์อยู่รึเปล่าค่ะ”
“ทำไมถามอย่างงั้นล่ะลูก รึว่าลูกมีแฟนแล้ว”
“แม่รู้ได้ไง หนูล้อเล่นค่ะยังไม่มีหรอกแต่ถ้าแม่ต้องการเดี๋ยวหนูจัดให้”
“ไม่ต้องหรอกจ้ะ อย่าลืมสิหนูน่ะมีคู่หมั้นแล้วนะ”
“คู่หมั้น แค่หมั้นเฉยๆค่ะถอนก็ได้”
“ไทน์นี่ พูดอะไรยังงั้น”
“ล้อเล่นค่ะ” แต่ใจจริงของหนูอ่ะ คิดถึงแล้วก็อยากตีหัวพี่ไนน์จะตายอยู่แล้วค่ะคุณแม่สุดที่รักขา ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะว่าอยากจะถอนหมั้น แต่เรื่องแต่งงานเนี่ยสิฉันน่ะคิดกับพี่ไนน์แค่พี่ชายแล้วเราจะแต่งงานได้ไงล่ะเนี่ย เฮ้อกลุ้มค่ะพี่น้อง -_-;
แล้วคืนนั้นฉันก็นอนหลับอย่างสบายกายแต่ไม่สบายใจ เพราะถ้าเกิดคุณแม่ติดต่อกับครอบครัวพี่ไนน์ได้ฉันก็อาจจะต้องแต่งงานกับพี่ไนน์ แล้วถ้าเกิดฉันปิ๊งใครสักคนขึ้นมาล่ะ แล้วคู่หมั่นของฉันล่ะ หน้าตาศักดิ์ศรีแล้วก็คำหมั้นสัญญาที่ให้ไว้กับลุงวัฒน์ล่ะ โฮ้ยยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้มนี่ฉันเพิ่งอายุ 17 ต้นๆน่ะเนี่ยทำไมต้องคิดเรื่องแต่งงงแต่งงานก่อนวัยอันสมควรด้วยเนี่ย โฮ้ย...ชีวิตฉ้านนน....น่าเบื่อที่สุด -_-;;; ครอกกก...ฟี้...Zzzzz
~ โรงเรียนใหม่ มีชื่อสวยหรูว่าโรงเรียนรุ่งริ่งวิทยาลัย ( ไม่ทราบว่าหรูตรงส่วนใด ) ~
“ตั้งใจเรียนนะลูก ขับรถระวังด้วยการจราจรที่นี่ไม่เหมือนเนเธอร์แลนด์นะลูก รถเยอะแล้วที่สำคัญอย่าประมาทนะจ้ะ”
“ค่ะ สวัสดีค่ะคุณแม่ ตอนเย็นจะกลับมากินของอร่อยๆน่ะค่ะ” แล้วฉันก็หอมแก้มคุณแม่ที่รักฟอดนึงแล้วก็รีบบึ่งรถ Mio คันเก่งที่เพิ่งขับไปขูดรถเบ๊นซ์คันสวยหรูมาหมาดๆไปโรงเรียนเพราะนี่มัน 7.39 น.แล้วไปล่ะ
[Nine Time]
ฟังยัยบ้านั่นมามากพอล่ะคราวนี้ตาผมได้ Say Hi กับท่านผู้อ่านบ้างล่ะ วันนี้ผมก็มาโรงเรียนตามปกติแต่ที่ไม่ปกติก็คือว่ารถเบ๊นซ์คันสวยของผมที่ผมเอามาให้พวกบ้านนอกได้อิจฉาตาเป็นไฟกันเล่นๆมันถูก คนที่ผมไม่พึงประสงค์จะเห็นใบหน้าสักเท่าไหร่แต่ถ้าได้เห็นล่ะก็เตรียมใส่เกียร์เสือชีต้าร์ไว้รอเลย ก็ใครไม่รู้สิครับมันมาขูดรถผมจนด้านคนขับเป็นรอยยาวเลย วันนี้ผมก็เลยเอารถของลูกน้องพ่อผมมาใช้ ยี่ห้อออดี้แต่ไม่รู้รุ่นอะไรแต่ช่างเถอะ มันก็พอขับได้
“ไนน์ค่ะ ทำไมวันนี้มาเช้าจังปกติ 7 โมง 59 ถึงจะลงรถไม่ใช่หรอแต่นี่มันเพิ่ง 7 โมง 46 เองนะ” คนที่พูดกะผมตอนนี้เธอชื่อ อั้ม เป็นเด็กของผมครับ สวยเซ็กซี่ แต่เห็นแก่เงินไม่ใช่เล่น
“ก็วันนี้ คุณพ่อของผมให้คนใช้เอารถที่โดนขูดวันก่อนไปซ่อม แล้วก็ให้ผมไปเอารถที่ทำงานพ่อ ผมกลัวว่าจะสายก็เลยตื่นเช้า”
“เออ แล้วแกเจอคนที่ขูดรถแกยังว่ะไอ้ไนน์”เพื่อนผมครับไอ้เจ ชื่อจริงของมันเอาซะสวยหรู ไปให้พระวัดไหนแต่งให้ว่ะ เจตดนัย เราเป็นกันเพราะว่าทางบ้านของเราสองคนมีธุรกิจร่วมกันก็เลย ต้องรู้จักกัน เพื่ออะไรสักอย่างที่บ้านมันและบ้านผมต้องการ ( มันคืออะไรล่ะครับ ) เรารู้จักกันนานแล้วครับ ตั้งแต่เราอยู่ ประถมปลายๆแน่ะ ตอนนี้สนิทกันจนจะเป็นแฟนกันได้แล้ว ( ใช่มั้ยตัวเอง ) -_-;;; เกย์ซะงั้น
“เจอก็ดีเดะ ไอ้เจ แต่ที่ฉันสันนิษฐานไว้ มันไม่น่าจะเป็นรอยคนขูดนะเว้ย มันเหมือนรอยแฮนด์รถไถมากกว่าว่ะ”
“แล้วไนน์คิดว่ามีคนขับรถมาขูดงั้นหรอค่ะ”
“คงใช่มั้ง เอ้อ...แล้วทำไมวันนี้เพื่อนอั้มไม่มาห้อมล้อมไอ้เจ ไอ้วีเหมือนทุกวันล่ะ ทำไมเธอมาคนเดียว”
ผมถามเธอเพราะปรกติยัยนี่มักจะพาสาวๆ (เด็กๆของพวกไอ้เจ กะไอ้ วี ) ลืมๆๆแนะนำไอ้วี มันคือ นาย
“นั่นสิ น้องส้มกับน้องพิมไปไหนฉันคิดถึงจะตายอยู่แล้วเนี่ย”
“อ๋อ วันนี้ส้มกับพิมเค้าถูกอาจารย์เรียกไปหา เรื่องที่จะมีเด็กใหม่ มาจากเนเธอร์แลนด์น่ะ สงสัยคงให้ส้มกับพิมเป็นคนดูแลเด็กใหม่มั้ง”
“นี่ถ้าเด็กใหม่คนนั้นน่ารักก็พามาแนะนำให้รู้จักหน่อยนะ เพราะไอ้ไผ่มันยังไม่มีเด็กดูแลเลย แล้ววันนี้ไอ้ไผ่หายหัวไปไหนว่ะไม่เห็นมาสักที” ดูครับ ไม่ค่อยเท่าไรเลย เด็กตัวเองอยู่นี่ทั้งคน ยังจะหัวงูอีก ( เอ้า หล่อเลือกได้ ทำไงได้ว่ะ ) -*-;;;
“นี่ พวกเธอน่ะ รีบๆขึ้นห้องเร็วโรงเรียนเข้าแล้ว”
“ครับ/ค่ะ อาจารย์” พอเราพูดกันได้สักพักนึงโรงเรียนก็เข้า ว่าแต่มีเด็กใหม่หรอ...?? ผมชักอยากจะเห็นหน้าแล้วสิได้ยินว่าเป็นผู้หญิงมาจากต่างประเทศซะด้วยยัยส้มกะยัยพิมต้องพามาแน่ ผมอยากจะรู้จักซะแล้วสิเพราะนานๆทีโรงเรียนนี้ถึงจะมีเด็กใหม่เข้ามาเพราะโรงเรียนนี้มีแต่ลูกไฮโซแสดงว่ายัยนี่ก็ต้องมีฐานะพอสมควร แต่เราก็มีอั้มอยู่แล้วนี่หว่าจะอยากรู้จักยัยนั่นไปทำไมล่ะ แต่ถ้าได้รู้จักก็คงดีจะได้มีสมาชิกเพิ่มอีกสักคนเอาไว้มาดูแลไอ้ไผ่ซะหน่อย ไอ้ไผ่มันจะได้ไม่เหงา รักเพื่อนจริงน่ะเรา ( รักเพื่อนหรืออยากเอาเด็กใหม่มาแทนอั้มกันแน่ )
ความคิดเห็น