ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF]SEME'N...ThE Bad StoRy...With SuJu

    ลำดับตอนที่ #11 : [Special-SF]The nude of passion….ภาพเปลือยแห่งตัณหา...CH?...[END OF PART!]

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 53


     
    Topic ::  The nude of passion….ภาพเปลือยแห่งตัณหา[END OF PART!]
    Couple :: H e e c h u l   x  H a n g e n g  
    Intro :: เมื่อคิมฮีคนสวยต้องการนายแบบวาดภาพ...แต่มันกลับเป็นภาพนู๊ด~ใครจะยอมละเนี่ย?
    Rate :: NC-17
    TaLk :: ฟิคเรื่องนี้เป็นของเพื่อนไรเตอร์เอง- - มันเป็น ฮีเกิงTT แม่เจ้า~ไรเตอร์จะเป็นลม...
     
     
     
    _________________________________
     
     
     
     
     
     
    “คิบอม! นายมาเป็นแบบให้พี่สุดหล่อคนนี้วาดหน่อยสิ” 
     
     
    คิม คิบอมผู้ซึ่งเป็นผู้ถูกขอร้องเมื่อได้ฟังคำขอร้องแกมบังคับของผู้ที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายแล้วอยากจะเอาหัวโหม่งกับโต๊ะทำงานในห้องนั้นเสียให้ได้   
    ไอ้ที่ขอให้มาเป็นแบบให้ก็ไม่ได้อะไรยังไงอยู่แล้วแต่อยากจะถามพี่ชายของตนนักว่าในห้องนอนพี่ไม่มีกระจกให้ส่องดูหน้าตาตัวเองหรือไง    พูดมาได้ว่าตัวเองหล่อ ถ้าพูดว่า 
     
     
     
    ‘คิบอม มาเป็นแบบให้พี่สุดสวยคนนี้วาดหน่อยสิ’ จะไม่ว่าอะไรเล้ย 
     
     
     
    แต่ถ้าเขาถามไปอย่างนั้นพี่ชายของเขาคนนี้จะปล่อยเอฟเฟ็คต์ใส่เขาเป็นแน่   ซึ่งเขาไม่อยากจะเจอเอฟเฟ็คต์จากพี่ชายสุดสวยของตนหรอก รวมถึงคนอื่นด้วย
     
     
    “พี่ฮีชอล ผมไม่กล้าที่จะเป็นแบบให้พี่แล้ว ครั้งที่แล้วที่พี่ให้ผมเป็นแบบให้น่ะ   พี่ก็ให้ผมนั่งถอดเสื้อเปลือยท่อนบน แล้วให้ผมทำท่าแปลกๆ คราวนี้ผมไม่ยอมหรอกนะหึ” 
     
     
    ตอบผู้เป็นพี่ชายไปอย่างนั้นเพราะตนไม่ยอมเป็นแบบให้แน่ๆ ต่อให้เอาอะไรมาฉุดก็ไม่เป็นแบบให้พี่ตนแน่นอน   บอกได้คำเดียวว่า เข็ด
     
     
     
    “ถ้านายไม่มาเป็นแบบให้ฉันนะ   ฉันจะเอาอี ทงเฮนักเรียนสุดที่รักของนายมาเป็นแบบแต่ฉันก็จะไม่เอาทงเฮมานั่งเป็นแบบเปลือยท่อนบนแบบนายหรอก
     
     
     
     คิบอมที่ทีแรกพี่ของตนบอกว่าจะเอาทงเฮมาเป็นแบบก็รู้สึกหวั่นๆแต่พอบอกว่าจะไม่เอามานั่งเปลือยท่อนบนแบบเขาก็ยิ้มได้    แต่ก็ยิ้มได้ไม่นานก็ต้องหุบยิ้มเมื่อพี่ชายที่เกิดมาจากพ่อแม่เดียวกันพูดประโยคต่อไปที่ทำเอา คิม คิบอมคนนี้ที่ตาตี่ๆผิดกับพี่ชายของตนที่ตากลมโตต้องเบิกตาโต อ้าปากหวอ
     
     
     “แต่ฉันจะให้ทงเฮเปลือยทั้งบนและล่างเลยด้วย”
     
     
     
    “พี่จะบ้าหรือไงฮะ   พี่อย่าเอาทงเฮมาเป็นแบบนะผมขอร้องล่ะ” คิบอมอ้อนวอนผู้เป็นพี่ชาย
     
     
     
    ถ้าให้ทงเฮมานั่งเปลือยท่อนบนท่อนล่างผมไม่ยอมหรอก ผมไม่มีวันให้ใครมาเห็นผิวขาวๆเนียนๆของทงเฮหรอกผมมีสิทธิดูได้คนเดียว
     
     
     
    “งั้นนายก็มาเป็นแบบให้ฉันสิ”
     
     
     
    “ผมไม่มีทางเป็นแบบหี่หรอก”
     
     
     
    “แล้วนายจะเอาไงห๊ะคิม คิบอม ! ฉันจะเอานายมาเป็นแบบนายก็ไม่ยอม พอจะเอาทงเฮมาเป็นแบบนายก็ยังไม่ยอมอีก นายจะเอายังไงกันแน่ห๊ะคิม คิบอม!”ฮีชอลพูดออกมาอย่างอารมณ์เสีย
     
     
    จะอะไรนักหนาว่ะโน่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้   เรื่องมากชิบ
     
     
    “อะ เอ่อ งะ งั้น เดี๋ยวผมหาคนอื่นมาเป็นแบบให้พี่เอง”
     
     
    พูดออกไปโดยลืมไปว่าแล้วใครเขาจะกล้ามาเป็นแบบให้พี่ของตนก็ในเมื่อเคยให้ครูคนอื่นมาเป็นแบบเจ๊แกก็เล่นให้โพสท่าพิสดารๆใครจะกล้ามาเป็นแบบให้อีก แต่ก็นั่นแหละคิม คิบอมลืมจริงๆ
     
     
     
    “แน่ใจนะ” คนเป็นพี่ถามเพื่อความแน่ใจกลัวคนเป็นน้องจะเบี้ยว  
     
     
     
    คงไม่มีใครเขากล้าเบี้ยวเจ๊หรอก   เพราะเขากลัวเจ๊ปล่อยเอ็ฟเฟ็คใส่น่ะสิ
     
     
     
    “แน่ใจฮะ”พูดด้วยความมั่นใจแต่จริงๆในใจนี่ความมั่นใจมันแทบไม่มีหลงเหลืออยู่เลย
     
     
     
    คิบอมก้าวขายาวๆของตนออกจากห้องศิลปะอันเป็นห้องทำงานของผู้เป็นพี่แท้ๆของตนอย่างรวดเร็ว เพื่อไปหาผู้โชค(เกือบ)ดีที่จะมาเป็นแบบให้อาจารย์สอนศิลปะคนสวยวาด
     
     
     
    เวลาผ่านไปสองชั่วโมง   ขายาวๆของคิบอมก็ก้าวเข้ามาในห้องศิลปะอีกครั้ง   จากที่ฮีชอลก้มหน้าตรวจงานของนักเรียนจำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่ามีใครบางคนเข้ามาในห้องทำงานของตน
     
     
     
    “ทำไมทำหน้าอย่างงั้นล่ะคิบอม ทงแซง ของ ฮีชอล ฮยอง”
     
     
     
    ฮีชอลถามแล้วกระตุกยิ้มมุมปากนิดๆเมื่อเห็นสีหน้าของน้องชายที่ดูมุ่ยๆอารมณ์เสียๆ   เขารู้ว่าทำไมคิบอมถึงทำหน้าอย่างงั้นก็เพราะหาใครมาเป็นแบบไม่ได้ แล้วคงเป็นห่วงเด็กนักเรียนสุดที่รักของตนสินะ หึๆ
     
     
     
    “ไม่มีใครอยากเป็นแบบให้พี่น่ะสิ    พอผมไปขอให้มาเป็นแบบให้พี่พวกเขาก็บอกว่า....
     
     
     
    ‘ซีวอนไปเป็นแบบให้พี่ฮีชอลวาดหน่อย’
     
     
    ‘ไม่ๆๆ ครั้งที่แล้วที่ให้ฉันไปเป็นแบบให้พี่ฮีชอลก็ให้ขึ้นไปยืนบนโต๊ะแล้วให้ยืนกระต่ายขาเดียวพร้อมกับกางแขน   พอฉันจะเอาแขนเอาขาลงก็ว๊ากใส่   ฉันปวดแขนปวดขาไปสามสี่วันฉันไม่ไปเป็นแบบให้พี่ฮีชอลอีกแล้ว ไปหาคนอื่นซะ
     
     
    ‘คยูฮยอนนายไปเป็นแบบให้พี่ฮีชอลวาดหน่อย’
     
     
    ‘ไม่ฉันขอบอกคำเดียวว่าไม่ตอนนั้นที่ไปเป็นแบบให้พี่เขาก็ให้ฉันยกเก้าอี้ไว้เหนือหัวจนฉันปวดแขนไปหมดแล้ว ไม่ได้มาสอนตั้งหลายวัน นายไปหาคนอื่นมาเป็นแบบให้พี่ฮีชอลวาดแทนฉันเถอะคิบอม’
     
     
    “ผมว่าพี่วาดพวกดอกไม้ ผีเสื้อ หรืออย่างอื่นที่มันไม่ใช่คนเถอะ
     
     
     
    “ไม่โว้ยยย ยังไงนายต้องหาคนมาเป็นแบบให้ฉันวาดให้ได้เข้าใจมะ   ถ้าหาไม่ได้ฉันจะเอาน้องสะใภ้ในอนาคตอย่างอี ทงเฮมาเป็นแบบ OK มะคิม คิบอมน้องรัก”
     
     
     
    “แล้วผมจะไปหามาจากไหนล่ะ”
     
     
     
    “นั่นมันเรื่องของนาย”
     
     
     
    ฮีชอลตอบแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ และก้มหน้าลงตรวจงานของนักเรียนต่อ
     
     
     
    “วุ้ย! เอาแต่ใจจริงๆเลย”บ่นพึมพำกันตัวเองแต่ผู้เป็นพี่กับหูดีใด้ยินซะได้
     
     
     
    “อืม ฉันยอมรับว่าฉันเอาแต่ใจ ฉันให้เวลานายสองวันในการหาคนมาเป็นแบบให้ฉันวาด   ถ้าหาไม่ได้ฉันก็จะไปฉุดอี ทงเฮมาเป็นแบบ   และไม่รับประกันด้วยว่าทงเฮจะปลอดภัยจากฉันมากน้อยแค่ไหนเพราะว่านักเรียนสุดที่รักของนายก็น่ารักใช่เล่น ตามจริงฉันอยากจะสอยทงเฮมานานแล้วด้วยแต่ยุ่งๆอยู่เลยไม่มีเวลาหึๆ
     
     
     
    ฮีชอลพูดออกไปอย่าไม่ใส่ใจคนฟังที่ตอนนี้ทำหน้าไม่ชอบใจที่พี่ชายพูดออกมาอย่างนั้น
     
     
     
    “อืม ผมจะหาให้ทันภายในสองวัน”
     
     
     
    คิบอมพยายามสะกดกลั้นอารมณ์โกรธเห็นว่าเป็นพี่ชายหรอกนะถ้าไม่ใช่พี่ชายจะต่อยให้ใบหน้าสวยๆนั่นหงายเลย
     
     
     
    ผมไม่ยอมเสียทงเฮให้พี่หรอก ไอ้พี่หน้าเคะ
     
     
     
    “ดีมากคิบอม ทงแซง หาคนมาเป็นแบบให้ทันนะหึๆ”
     
     
     
    ฮีชอลตะโกนไล่หลังของน้องชายที่เดินออกจากห้องไปแล้ว
     
     
     
    หาให้ทันนะคิบอม ถ้าไม่ทันฉันจะไปฉุดอี ทงเฮมาเป็นพี่สะใภ้นายหึๆ
     
     
     
    “ไอ้วอน ไอ้คยู พี่เยซอง ผมจะไปหาใครมาเป็นแบบให้พี่ฮีชอลวาดดีล่ะ ผมไปหาครูคนอื่นที่สนิทๆพวหเขาก็ปฏิเสธกันหมดแล้วผมจะไปหาที่ไหนอีกเนี่ย” คิบอมพูดด้วยสีหน้ากลุ้มใจ
     
     
     
    “หาไม่ได้นายก็ไม่ต้องหาสิ จะเครียดทำไม บางครั้งนายหาไม่ได้พี่ฮีชอลก็ไม่เห็นว่าอะไรเลย อย่าเครียดๆ” ซีวอนพูดขึ้นมา
     
     
     
    “ใช่”คยูฮยอนกับเยซองก็เห็นด้วย
     
     
     
    “มันจำเป็นต้องเครียดซิก็พี่ฮีชอลบอกว่าถ้าหาไม่ได้จะเอาทงเฮไปเป็นแบบ”
     
     
     
    “แล้วยังไงล่ะ”
     
     
     
    คยูฮยอนถามด้วยความสงสัย ไปเป็นแบบก็ไม่เสียหายอะไรนิ่ก็แค่ไปยืนกางแขนกางขาหรือยกโต๊ะยกเก้าอี้ไว้เหนือหัวแค่เนี่ยเอง
     
     
     
    “ก็พี่ฮีชอลจะวาดรูปนู๊ดอ่ะดิ เปลือยล่างเปลือยบนแล้วพวกแกก็รู้ว่าพี่ฮีชอลน่ะเมะ(?)แค่ไหน พี่ฮีชอลยังบอกอีกว่า อยากสอยทงเฮมานานแล้ว แล้วถ้าพี่ฮีชอลอยากสอยซองมิน นายจะไม่เครียดเลยหรอคยู”
     
     
     
    คิบอมพูดอย่างอารมณ์เสีย แล้วประโยคหลังหันไปถามคยูฮยอนที่นั่งอยู่ข้างๆตน
     
     
     
    “ฉันก็ต้องเครียดอยู่แล้ว”
     
     
    “แล้วนายล่ะซีวอนถ้าพี่ฮีชอลบอกว่าอยากสอยฮยอกแจนายจะเครียดมะ”
     
     
     
    เมื่อได้คำตอบจากคยูฮยอนแล้วก็หันไปถามซีวอนที่นั่งเก๊กหน้าหล่ออยู่
     
     
     
    “ฉันก็ต้องเครียดสิถามมาได้”ซีวอนตอบ
     
     
     
    ฮยอกแจออกจะน่ารักน่าก(อ)ดถ้ามีคนจะมาสอยฮยอกแจไปซีวอนคนนี้มีหรอที่จะไม่เครียดไม่โกรธ หึ!
     
    “พี่เยซองล่ะถ้าพี่ฮีชอลอยากสอยรยออุคพี่จะเครียดหรือเปล่าล่ะ”
     
     
     
    ได้คำตอบจากซีวอนก็ถามเยซองที่นั่งอยู่ข้างๆซีวอน
     
     
     
    “หึ! อย่ามาถามฉันเลย ยังไงฉันก็ต้องเครียดอยู่แล้ว”เยซองตอบ
     
     
     
    ถ้าใครหน้าไหนมาสอยรยออุคของฉันนะ...หึๆฉันจะฆ่ามันให้หมดเลย
     
     
     
    “แล้วนายจะเอาไงต่อล่ะ”คยูฮยอนถามขึ้นหลังจากที่เยซองตอบทุคนก็เงียบอยู่นาน
     
     
     
    “ไม่รู้”คิบอมตอบออกมาเรียบๆ
     
     
     
    “ฉันรู้แล้วว่าจะเอาใครมาเป็นแบบให้พี่ฮีชอล แล้วฉันก็มีแผนที่จะทำให้พี่ฮีชอลหันมาเป็นเคะด้วย หึๆ คนนี้เมะแน่นอนร้อยเปอร์เซ็น   เอาพี่ฮีชอลอยู่หมัดแน่นอน
     
     
     
    อยู่ดีๆซีวอนก็พูดขึ้นมาทำให้คิบอม เยซอง คยูฮยอนหันหน้าไปทางซีวอนที่ทำหน้าเจ้าเล่ห์
     
     
     
    “ยังไง”ทั้งสามคนถามขึ้นพร้อมกัน
     
     
     
                “มานี่สิ”ซีวอนพูดและทั้งหมดก็สุมหัวกันฟังแผนการของซีวอนอย่างตั้งใจ
     
     
     
                “แล้วพี่ฮีชอลรู้จะไม่ว๊ากใส่พวกเราหรอ”
     
     
     
    คยูฮยอนถามขึ้นอย่างเป็นห่วงเพราะถ้าฮีชอลจับได้พวกเขาจะได้ฟังเพลงร็อคฟรีๆไม่เสียเงิน   แถมยังได้ฟังบ่อยๆด้วยอย่างนี้หูก็ได้อื้อไปหลายวันแน่ๆ
     
     
     
                “แล้วนายจะเอายังไง มีแผนอื่นหรอ”
     
     
     
    ซีวอนถามด้วยความขัดใจอุตส่าห์คิดแผนซะดิบดีแล้วนนะ
     
     
     
                “หึ! ไม่มี”
     
     
     
                “ถ้างั้นก็ใช้แผนของฉันนะ”
     
     
     
    ซีวอนถามขึ้นอีกครั้งและได้คำตอบคือการพยักหน้าเห็นด้วยของทุกคน
     
     
     
                “งั้นซีวอนกับพี่เยซองไปขอให้อาจารย์ฮันเกิงอาจารย์สอนภาษาจีนมาเป็นแบบให้พี่ฮีชอลนะ    ถ้าอาจารย์ฮันเกิงยอมเป็นแบบให้พี่เยซองกับซีวอนโทรมาบอกฉันด้วย   ฉันจะได้โทรไปถามพี่ฮีชอลว่าจะเริ่มจะเริ่มวาดวันไหน ส่วนคยูนายซื้อยามานะ
     
     
     
    เมื่อคิบอมบอกส่วนที่ทุกคนจะต้องจัดการเสร็จทุคนก็แยกย้ายกันไปทำส่วนที่ได้รับมอบหมาย
     
     
               
                ~Shining Star !! like a little diamond , makes me love เน เกน กุม กยอล กา ทึน ทัล คม ฮัน มี โซ โร นัล พา รา โบ มยอ ซก ซา กยอ ชวอ ฮัง ซัง ฮัม เก ฮัล กอ รา till the end of time~
     
     
     
                เสียงเครื่องมือสื่อสารของคิบอมดังขึ้น คิบอมเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบเครื่องมือสื่อสารเครื่องสวยของตนออกมารับสาย
     
     
     
                “ยอโบเซโย พี่เยซองเป็นไงบ้าง อาจารย์ฮันเกิงเขายอมเป็นแบบให้พี่ฮีชอลวาดหรือเปล่าพี่เยซอง”
     
     
     
    เสียงนุ่มทุ้มกรอกใส่เครื่องมือสือสารของตนเพื่อให้ส่งไปถึงปลายสายเมื่อรู้ว่าคนที่โทรมาเป็นใคร
     
     
     
                ‘สำเร็จคิบอม พี่นายได้สามีแทนที่จะได้เป็นสามีของนักเรียนสุดที่รักของนายแน่’
     
     
     
                “ครับ เดี๋ยวผมจะโทรไปถามพี่ฮีชอลจะวาดวันไหนนะครับ”
     
     
     
                ‘อืม...แค่นี้แหละ ติ๊ด’
     
     
     
    หลังจากวางสายจาเยซองคิบอมก็กดหาเบอร์ของพี่ชายของตนแล้วกดโทรออก รอไม่นานผู้เป็นพี่ก็รับสาย
     
     
     
                ‘มีไรคิบอม’
     
     
     
    คนปลายสายกรอกเสียงใส่โทรศัพท์มือถือด้วยน้ำเสียงที่แสดงให้รู้ว่าอารมณ์ในตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
               
     
     
                “พี่เป็นไรทำไมพูดด้วยน้ำเสียงอย่างนั้น”
     
     
     
    คิบอมถามออกไปอย่างนั้นแหละเพราะเขาก็พอรู้ว่าพี่ชายบังเกิดเกล้าใช้น้ำเสียงแสดงให้รู้ว่าตอนนี้อารมณ์เสียมีสาเหตุมาจากอะไรถ้าไม่ใช่….
     
               
     
    ‘นักเรียนไม่ส่งงานฉันน่ะสิ แล้วนายโทรมามีไรห๊ะหรือว่า...’
     
     
     
    ฮีชอลพูดยังไม่ทันจบคิบอมก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
     
     
     
                “ผมหาคนมาเป็นแบบให้พี่ได้แล้วนะ...แล้วพี่จะวาดวันไหนล่ะผมจะได้บอกคนที่จะมาเป็นแบบให้พี่”
     
     
     
                ‘อืม...งั้นวันพรุ่งนี้ก็แล้วกันตอนเย็นนะ   แล้วนายมีไรอีกหรือเปล่าพี่จะได้สอนต่อ
     
     
     
                “ไม่มีแล้วครับ”
     
     
     
                ‘งั้นบายนะ .....ติ๊ด’
     
     
     
    ปลายสายวางสายไปก่อน   คิบอมยัดโทรศัพท์มือถือเครื่องสวยใส่กระเป๋ากางเกงแล้วก้มหน้าตรวจการบ้านวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียน
     
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
     
     
                วันต่อมา
     
     
                ในช่วงเย็นหลังเลิกเรียนเริ่มร้างผู้คนเพราะนักเรียนพอใด้ยินเสียงออดเลิกเรียนก็พุ่งตัวออกจากห้องเรียนกันด้วยความรวดเร็วทำอย่างกับบ้านจะหนีหายไป   หรือบางคนก็เดินเที่ยวแถวศูนย์การค้า   
    ร่างของอาจารย์หนุ่มสองคน คนนึงสูงกว่าอีกคนนึงนิดหน่อยพากันเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องศิลปะซึ่งเป็นห้องทำงานของอาจารย์สอนศิลปะหน้าสวย    
    คิบอมเคาะประตูสองสามทีเป็นมารยาทก่อนจะเลื่อนประตูนั้น....แต่แทนที่ประตูจะเลื่อนกลับไม่เลื่อนเพราะมันล็อคอยู่....ชายหนุ่มล้วงเครื่องมือสื่อสารที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาเพื่อโทรหาพี่ชายของตน เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้น   ชายหนุ่มรีบกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ทันทีเมื่อคนที่ตนโทรหารับสาย
     
     
     
                “พี่อยู่ไหนน่ะทำไมห้องล็อคล่ะ”ถามอย่างรวดเร็ว
     
     
     
                ‘หืม...นี่ใครเนี่ย’
     
     
     
    ฮีชอลถามอย่าสงสัยเพราะตอนรับไม่ได้ดูหน้าจอว่าใครโทรมาด้วยน้ำเสียงงัวเงีย แต่คิบอมคงไม่สังเกต
     
     
     
                “ผมเองคิบอม แล้วพี่อยู่ไหนทำไมล็อคห้องห๊ะ”
     
     
     
                ‘อ่ะ คิบอมหรอฉันอยู่ในห้องอ่ะนายมาแล้วหรอ งั้นเดี๋ยวฉันล้างหน้าก่อนนะเพิ่งตื่นน่ะเดี๋ยวเปิดประตูให้รอแป๊ปนะ’พูดเสร็จก็ตัดสายไป
     
     
     
                “รอแป๊ปนึงนะครับเดี๋ยวพี่ผมก็จะเปิดประตูให้”
     
     
     
    คิบอมหันมาบอกคนที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยน้ำเสียงสุภาพเล็กน้อยเพราะเพิ่งรู้จักกันวันนี้เอง
     
     
     
                “ครับ”ฮันเกิงตอบรับเพียงเล็กน้อย
     
     
     
                ครืดดดดด!~
     
     
     
                เสียงประตูถูกเลื่อนเปิดออกพร้อมกับเจ้าของห้องที่เดินออกมา
     
     
     
                “คิบอม คนนี้น่ะหรอที่จะมาเป็นแบบให้พี่น่ะ”ถามพรางมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆน้องชายของตน
     
     
     
                “ครับคนนี้แหละเป็นอาจารย์สอนภาษาจีนชื่อฮันเกิงครับ   งั้นเดี๋ยวผมไปซื้อน้ำซื้อขนมให้นะ
     
     
     
                “อืม นายไปเถอะ   ส่วนนายตามฉันมา
     
     
     
    พูดกับน้องชาย แล้วหันไปบอกฮันเกิงคนที่น้องชายให้มาเป็นแบบให้....ทั้งสองเดินเข้ามาในห้อง ฮีชอลนั่งลงที่โซฟาตัวนุ่มและดึงให้ฮันเกิงมานั่งลงที่ตักนุ่มๆของตนแล้วหอมแก้มขาวๆของชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนตักของตน
     
     
     
    “ฮันอดใจรอฮีไม่ไหวถึงขนาดตามฮีมาที่เกาหลีเลยหรอ”
     
     
     
    เอ่ยถามคนที่นั่งอยู่บนตักของตน
     
     
     
                “ก็คิดถึงแล้วก็จะเซอร์ไพรไง ฮีไม่ชอบให้ฮันทำอย่างนี้หรอ”
     
     
     
    ถามคนที่ทำตัวเป็นเก้าอี้ให้เขานั่งอย่างน้อยใจเล็กน้อย
     
     
     
                “ชอบสิ   แต่มันเปลืองเงินฮันนะถ้าคิดถึงมากๆก็โทรหาฮีแล้วบอกว่าให้ฮีไปหา ฮีก็จะรีบไปหาที่จีนฮันจะได้ไม่เปลืองเงินไง”บอกพรางเอาคางเกยไหลของฮันเกิง
     
     
     
                “อืม ฮันก็แค่อยากเป็นฝ่ายมาหาฮีเองบ้างอ่ะ”
     
     
     
    พูดแล้วก็ทำแก้มป่องๆแต่ก็คงไม่ป่องเท่าแก้มของน้องชายของฮีชอล   คนที่ทำตัวเป็นเก้าอี้กดสันจมูกลงกับแก้มนุ่มๆของฮันเกิงอีกครั้ง...... อย่าทำตัวน่ารักสิเดี๋ยวทนไม่ไหว
     
     
     
                “อ่ะ จ๊ะไม่เถียงแล้ว ฮัน.... ฮีขอไรอย่านึงสิ”
     
     
     
    พูดเสร็จก็กระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ที่คนที่นั่งอยู่บนตักไม่ทันสังเกตเห็น
     
     
     
                “จะขอไรฮันล่ะ”ถามอย่างสงสัย....จะขอไรเราเนี่ย
     
     
     
                “ขอจูบที่นึงนะ   คิดถึงฮันอ่ะ
     
     
     
    เมื่อพูดขอจบคนบนตักยังไม่ทันอนุญาตก็ประกบปากของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วลิ้นเรียวไล่เลียริมฝีปากสีสวยแล้วส่งลิ้นเข้าไปในช่องปากของคนที่นั่งบนตัก กวาดเอาความหอมหวานจากช่องปากนั้นอย่างนุ่มนวล...ใช้มือกดท้ายทอยของฮันเกิงเพื่อให้ได้รับจูบที่นุ่มนวลนั้นมากขึ้น  
     จากนุ่มนวลเป็นร้อนแรงสองลิ้นเกี่ยวกระหวัดอย่างโหยหาเพราะความที่คิดถึงกันเมื่อไม่ได้เจอหน้ากันเกือบเดือน...ฮีชอลผละออกจากปากของอีกฝ่ายอย่างเสียดายเพราะอีกฝ่ายเริ่มขาดอากาศหายใจ    นิ้วหัวแม่มือปาดเช็ดน้ำสีใสออกจากริมฝีปากสีสวยของคนที่นั่งอยู่บนตัก
     
     
     
                “ขออีกรอบนะฮัน”
     
     
     
    พูดจบก็เตรียมประกบปากของอีกฝ่าย   แต่มือของฮันเกิงก็ดันหน้าของฮีชอลซะก่อน
     
     
     
                “พอแล้วฮันเขิลจะตายอยู่แล้วนะ”
     
     
     
    บอกคนที่เป็นเก้าอี้ให้เขานั่งตัก    แก้มขาวๆเป็นสีมะเขือเทศ    สันจมูกของฮีชอลกดลงบนแก้มขาวๆนั่นอีกครั้งอย่าหมั่นเขี้ยว.....น่ารักอีกแล้วนะฮันเกิง
     
     
     
                “อ่า...ฮีเห็นคิบอมบอกว่าจะให้ผมมาเป็นแบบให้ฮีวาดนี่”เมื่อหายเขิลแล้วก็พูดขึ้น
     
     
     
                “อ่าใช่สิฮีเกือบลืมไปเลยงั้นฮันถอดทั้งเสื้อแล้วกางเกงรอเลยนะเดี๋ยวฮีไปเอาอุปกรณ์ก่อน”
     
     
     
    พูดจบก็ให้คนรักลงไปนังที่โซฟาตัวนุ่มแล้วเดินไปเอาอุปกรณ์ แต่ยังไม่ทันเดินฮันเกิงก็จับข้อมือไว้ซะก่อนแล้วส่งแววตาเป็นคำถามไปให้คนรัก....ทำไมต้องถอด   ฮีชอลยิ้มออกมานิดนึงแล้วตอบคำถามของคนรัก
     
     
     
    “ก็วาดรูปไง   ทีแรกฮีกะจะแค่หลอกน้องเท่านั้นเองว่าจะวาดรูปนู๊ด   แต่พอเห็นคนที่เป็นแบบก็เปลี่ยนใจไม่หลอกน้องแล้วแต่เอาจริงๆเลยไงหึๆ  ถอดเสื้อผ้ารอนะฮันไม่ต้องอายเพราะยังไงฮีก็เคยเห็นของฮันหมดทุกซอกทุกมุมแล้ว ไม่ต้องอายหรอก
     
     
     
    พูดด้วยสีหน้าทะเล้นๆแล้วเดินไปเอาอุปกรณ์ ปล่อยให้อีกฝ่ายนั่งหน้าแดงอยู่บนโซฟา
     
     
     
                ฮีชอลเดินกลับมาที่โซฟาพร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการวาดภาพ   เมื่อเห็นว่าคนรักยังไม่ถอดเสื้อผ้าก็แซวอีกครัง
     
     
     
                “อายหรอ ไม่ต้องอายเดี๋ยวฮีถอดให้นะ”
     
     
     
    พูดจบก็เดินมาถอดเสื้อของคนรักที่หน้าแดงอีกครั้ง
     
     
     
     “ฮันนั่งดีๆนะฮีจะวาดแล้วนะ”
     
     
     
    เมื่อถอดเสื้อผ้าคนรักเสร็จเตรียมอุปกรณ์ในการวาดภาพเสร็จก็สั่งให้คนรักนั่งดีๆ   แล้วลงมือร่างภาพคราวๆก่อน   สักพักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ฮีชอลหันไปที่ประตูแล้วเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าน้องจะเอาขนมกับน้ำมาให้แล้วเดินไปที่ประตูเปิดประตูเล็กน้อย
     
     
     
                “พี่ฮีชอล อ่ะ ผมซื้อขนมกับน้ำมาให้แล้ว”พูดพรางส่งถาดที่มีแก้วใส่น้ำส้มอยู่สองใบกับจานใส่ขนมให้ผู้เป็นพี่
     
     
     
    “พี่พรุ่งนี้วันเสาร์ผมไปนอนบ้านทงเฮนะ”
     
     
     
                “หึ! บ้านมีไม่กลับแกจะไปค้างบ้านไอ้หมวยข้างบ้านก็ไปเลยเรื่องของแกเถอะ”พูดเสร็จก็ปิดประตูห้อง
     
     
     
                “อ่ะ ฮันกินน้ำกินขนมก่อนนะนี้เย็นแล้วกินรองท้องไปก่อน เดี๋ยวฮีไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
     
     
     
    ก่อนจะเดินออกไปเข้าห้องน้ำก็เอาเสื้อคุมตัวให้คนรัก   แล้วจึงไปห้องน้ำตามที่ตนบอกคนรัก
     
     
     
                ฮีชอลเดินกลับเข้ามาในห้องเมื่อไปเข้าห้องน้ำมาแล้ว    เมื่อเห็นคนรักกินเสร็จก็เอาเสื้อที่คุมตัวคนรักออกแล้ววาดรูปต่อวาดไปได้สักพักก็รู้สึกว่าคนรักที่นั่งอยู่นิ่งๆเริ่มอยู่ไม่สุขก็เดินเข้าไปหา
     
     
     
                “ฮันเป็นไรน่ะ”ถามอย่างเป็นห่วง
     
     
     
                “มะ...มัน รู้   สึกร้อนๆ น่ะ ฮี ช่วยฮัน ด้วย นะ
     
     
     
    พูดอย่างลำบาก ฮีชอลมองอาการแปลกๆของคนรักก่อนที่จะใช้สมองคิด.....หรือว่า    แล้วตากลมโตของฮีชอลก็ประทะเข้ากับน้ำส้มที่คิบอมเอามาให้......   
     
     
     
    โ ธ่!          ไอ้ตี๋บอมแม่งวางยาหรอ?
     
     
     
    ฮีชอลรีบเอาเสื้อกับกางเกงมาใส่ให้คนรักแต่ก็ลำบากในที่สุดก็ใส่จนเสร็จ   และรีบเก็บของของตน    แล้วพาคนรักไปที่รถ
     
     
                รถคันหรูจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ฮีชอลส่งกุญแจให้คนรถที่บ้านแล้วรีบเปิดประตูข้างคนขับแล้วอุ้มคนรักของตนไปที่ห้องที่อยู่ชั้นสองของบ้าน...กว่าจะขึ้นมาถึงห้องก็แทบตายเพราะเดี๋ยวฮันเกิงก็คว้าคอของฮีชอลให้รับรสจูบบ้างล่ะ   ลูบไปตามร่างกายของฮีชอลบ้างล่ะมันลำบากนะรู้ไหมเข้าก็ต้องระงับอารมณ์ของเขาด้วย   
    ถ้าทำตรงห้องนั่งเล่นที่อยู่ชั้นล่างได้เขาก็คงทำไปแล้ว....ฮีชอลให้คนรับใช้ที่อยู่แถวนั้นเปิดประตูห้องให้   พอเข้าห้องมาได้ก็รีบนำร่างของคนรักวางบนเตียง   แล้ววิ่งไปล็อคประตูห้องของตนอย่างเร็ว   
     
     
     
                “ฮะ   ฮี ฮัน ร้อน อ่ะ
     
     
     
    ปากก็พูด มือก็แกะกระดมเสื้อของตัวเองจนหลุดออกหมด   ฮีชอลเดินมานั่งบนเตียงนอน
     
     
     
                “เดี๋ยวฮีจะช่วยให้หายร้อนเองนะ”
     
     
     
    ว่าแล้วก็ขึ้นคร่อมร่างของคนรักของตนแล้วริมฝีปากสีสวยประกบกันลิ้นร้อนลุกเข้ากวาดความหวานของคนที่อยู่ใต้ร่าง   จากนุ่มนวลเป็นร้อนแรงสองลิ้นเกี่ยวกระหวัดแลกเปลี่ยนความหวานกันไปมา   ฮันเกิงครางในลำคอ   ริมฝีปากของฮีชอลผละออกจากริมฝีปากสีสวยของฮันเกิงเปลี่ยนมาทำรอยรักสีสวยที่ลำคอขาวของคนรัก   มือก็เค้นคลึงปุ่มนูนทั้งสองข้างสลับไปมา
     
     
     
                “อา...ฮี...”
               
     
     
    คนใต้ร่างของฮีชอลครางออกมาอย่างสุขสม   ริมฝีปากลากผ่านมาที่ปุ่มนูนลิ้นร้อนไล่เลียอย่างเอร็ดอร่อย....แล้วลากมาที่หน้าท้องขาวๆลิ้นร้อนเลียวนไปวนมาอยู่ที่ท้องจนท้องของคนที่อยู่ใต้ร่างหดเกร็งด้วยความเสียว....มือขยุ้มผมนุ่มๆของฮีชอลเพื่อระบายความรู้สึกเสียว    มือเรียวๆของฮีชอลแกะตะขอกางเกงของคนที่อยู่ใต้ร่างร่นกางเกงลงมาจนถึงปลายเท้า   นิ้วเรียวเกี่ยวชั้นในสีขาวร่นมาอยู่ที่ปลายเท้าเช่นกัน    เผยให้เห็นของลับที่ตั้งผงาดต้านแรงโน้มถ่วงของโลก     ปากสวยๆรับเอาแท่งเนื้อที่พองเอาเข้าปากดูดเหมือนกับมันเป็นอมยิ้มแสนอร่อย
     
     
     
                “อาาาาา......ฮะ....ฮี.......รู้.....สึก......ดี.....จะ...จัง”
     
     
     
    คนที่ถูกปรนเปรอครางออกมาไม่เป็นศัพท์ มือเรียวขยุ้มผมของคนที่ปรนเปรอตนอย่างระบายอารมณ์
     
     
     
                “อาาาา......ฮี....มะ...ไม่.....ไหว.....ละ....แล้ว....อาาาาาา”
     
     
     
    น้ำขุ่นๆฉีดออกมาจากปลายแท่งเนื้อฮีชอลกลืนมันลงไปแล้วขึ้นมาประกบจูบให้คนใต้ร่างได้รับรู้รสชาติของมัน    แล้วรีบถอดเสื้อของเผยให้เห็นผิวขาวๆ   ถอดกางเกงยีนและชั้นในออกเผยให้เห็นแท่งเนื้อที่ผงาด     มือเรียวจับขาเรียวๆของคนรักพาดบ่าของตน   นิ้วเรียวๆของฮีชอลใส่เข้าไปในช่องทางรักของคนรักไปหนึ่งนิ้วก่อนเป็นการเบิกทาง
     
     
     
                “อ่ะ! จะ....เจ็บ ฮี ....ฮัน.....เจ็บ....อ่ะ”
     
     
     
    เมื่อได้ยินดังนั้นก็ใช้มืออีกข้างลูบหัวคนรักด้วยท่าทีที่อ่อนโยน...ริมฝีปากสีสวยของฮีชอลประกบกับริมฝีปากสีสวยของฮันเกิง   ลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันอย่างเร่าร้อน...นิ้วของฮีชอลสอดเข้าไปในช่องทางรักอีกนิ้วแล้วนิ้วที่สามก็ตามมาควานหาจุดกระสันจนหาเจอ ร่างทั้งร่างของฮันเกิงกระตุกเล็กน้อย แล้วเอานิ้วออก   ผละริมฝีปากแล้วไปสร้างรอยรักที่ซอกคอขาวอีกครั้ง    มือเรียวจับแท่งเนื้อที่รอการปลดปล่อยเข้าไปในช่องทางสีสวย
     
     
     
                “อ่ะ.....จะ...เจ็บ...จัง....ฮี”
     
     
     
    รู้สึกเจ็บขึ้นมาอีกครั้งเมื่อมีของที่ใหญ่(?)กว่าเข้ามาแทนที่นิ้วเรียว    รู้สึกเจ็บจนน้ำตาไหลสะอื้นเล็กน้อย    ฮีชอลจูบซับน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาที่ไม่กลมโตเท่าดวงตาของเขา 
     
     
     
                “อย่าเกร็งนะฮันเดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้วนะ”
     
     
     
    พูดจบก็ประกบริมฝีปากของฝ่ายที่อยู่ใต้ร่างอีกครั้งเพื่อให้คนรักลืมความเจ็บปวด    จนช่องทางรักที่เคยเกร็งคลายลงฮีชอลดันแท่งเนื้อเข้าไปจนสุดแช่ไว้เพื่อให้คนใต้ร่างของตนคุ้นชิน   ก่อนที่จะขยับเข้าออกอย่างช้าๆ   และเริ่มเร็วขึ้นๆ มือของฮันเกิงปัดป่ายไปทั่วหลังของคนรัก    มือของฮีชอลกอบกุมแท่งเนื้อของคนรักแล้วรูดขึ้นรูดลง    ทั้งคู่ครางออกมาไม่เป็นศัพท์   ร่างของทั้งคู่กระตุกปลดปล่อยน้ำแห่งความรักออกมาพร้อมกัน น้ำขุ่นๆของคนใต้ร่างฉีดออกมาจนเลอะมือและหน้าท้องขาวๆของฮีชอล    ส่วนแห่งความรักของคนที่อยู่ข้างบนก็ปลดปล่อยออกมาเต็มช่องทางรักสีสวยจนทะลักเปรอะโคนขาขาวๆของฮันเกิง
     
     
     
                “อ่า..... อ่า .....อาาาาาา...”
     
     
     
                “อ่า....อาาาาา......”
     
     
     
    คนหน้าสวยเอาแท่งเนื้อของตนออกจากช่องทางรักของคนรักแล้วหยิบผ้าห่มสีแดงสดขึ้นมาห่มตนและคนรักที่หลับไปเพราะความเหนื่อย  มือสวยคว้าเอวของคนรักมากอดแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราตามคนรักของตนไป
     
     
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
     
     
                เช้าวันรุ่งขึ้น
     
     
     
                “อ่ะ..ตื่นแล้วหรอ”
     
     
     
    ฮีชอลที่เปิดประตูเข้ามาในห้องทักคนรักที่เอามือขึ้นมาขยี้ตาเมื่อแสงแดดกระทบกับตา   คนถูกถามพยักหน้าเล็กน้อย
     
     
     
    “งั้นเดี๋ยวฮีพาไปอาบน้ำนะ จะได้กินข้าวฮีสั่งคนให้ทำแล้ว” 
     
     
     
    เดินมาเตรียมจะอุ้มคนที่นอนอยู่บนเตียง   แต่ฮันเกิงกลับส่ายหน้า
     
     
     
                “เดี๋ยวฮันไปอาบเองก็ได้”
     
     
     
    บอกแล้วขยับตัวเพื่อลงจากเตียงนอนที่แสนแต่ก็ต้องนิ่วหน้าเพราะรู้สึกเจ็บที่สะโพก
     
     
     
                “หึ  เดี๋ยวฮีพาไปอาบน้ำนะอย่าดื้อ”
     
     
     
    คนที่นอนอยู่บนที่นอนเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย   ฮีชอลช้อนตัวคนรักขึ้นมาแนบอก   ฮันเกิงตวัดแขนโอบรอบคอของอีกฝ่ายเพราะกลัวตกแค่นี้ก็เจ็บแล้วไม่อยากเจ็บมากกว่านี้หรอกนะ    ร่างสูงโปร่งของฮีชอลสาวเท้าเข้าไปในห้องน้ำ   พอชำระร่างกายของคนรักเสร็จก็แต่งตัวให้    
     
     
     
                ฮีชอลพยุงฮันเกิงลงมายังชั้นล่างของบ้าน   แล้วตรงไปยังโต๊ะอาหารทั้งคู่กินข้าวต้มกุ้งที่ส่งกลิ่นหอมพร้อมกัน    
     
     
     
                “กินเสร็จแล้วจะขึ้นห้องไปนอนพักต่อหรือจะนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นก่อน”
     
     
     
    ฮีชอลถามคนรักเมื่อกินข้าวเสร็จเรียบร้อยกันทั้งสองคนแล้ว
     
     
     
                “อยากไปห้องนั่งเล่นอ่ะ   ไม่อยากหมกตัวอยู่แต่ในห้องนอนน่ะ
     
     
     
    เมื่อได้รับคำตอบจากคนรักก็ลุกจากเก้าอี้ตรงมาพยุงฮันเกิงไปห้องนั่งเล่น   ทั้งคู่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่โซฟาตัวนุ่มสีครีมหัวของฮันเกิงพิงกับไหล่ของฮีชอล   สายตาจ้องมองภาพที่เล่นบนจอโทรทัศน์ข้างหน้า   สักพักจากที่เคยเห็นดวงตาข้างในตอนนี้กลับมีเปลือกตาปิดลงมา   ฮีชอลก้มมองหน้าคนรักที่เอาหัวพิงไหล่ของตนก็ยิ้มบางๆแล้วหันไปสนใจภาพตรงหน้าต่อ
     
     
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
     
     
     
                เช้าวันจันทร์ที่แสนสดใสคราคร่ำไปด้วยนักเรียนที่นั่งจับกลุ่มกันคุยกันทั้งข้างสนามที่มีต้นไม้ในแต่ละจุดเพื่อให้นักเรียนนั่งพักสูดอากาศที่บริสุทธิ์     บางคนก็ขึ้นไปนั่งบนห้องเรียนของตน   ร่างสูงโปร่งสาวเท้าเข้ามาในห้องพักของอาจารย์ฝ่ายภาษาต่างประเทศ    ก็เห็นอาจารย์หนุ่มสี่คนนั่งสุมหัวคุยกันไม่ได้สนใจใครจนต้องเรียกร้องความสนใจโดยการใช้มือเรียวๆตบไปที่หัวของแต่ละคน  
     
     
     
                “โอ้ย!”
     
     
     
    คิบอม ซีวอน เยซอง คยูฮยอน ร้องโอกโอยกัน
     
     
     
                “คิบอม นายเอายาปลุกใส่ในน้ำส้มใช่ไหม”
     
     
     
    ฮีชอลเอ่ยปากถามผู้เป็นน้องของตน
     
     
     
                “กะ..ก็ไอ้วอนมันให้เอาใส่อ่ะ” บอกผู้เป็นพี่แล้วโบ้ยไปให้ซีวอน ฮีชอลตวัดสายตามองซีวอน
     
     
     
                “เอิ่ม ก็ คิบอมมาปรึกษาพวกผมว่าจะหาใครไปเป็นแบบให้พี่ดี    แล้วก็เล่าว่าถ้าหาไม่ได้พี่จะเอาทงเฮของมันมาเป็นแบบนู๊ดแล้วก็ไม่รับประกันความปลอดภัย แล้วมันยังบอกว่าพี่น่ะก็อยากจะสอยทงเฮมาเป็ภรรยาของพี่    ผมก็เลยบอกให้เอาอาจารย์ฮันเกิงมาเป็นแบบ แล้วเรื่องที่ใส่ยาปลุกก็เพราะว่าจะให้อาจารย์ฮันเกิงกดพี่ พี่จะได้เป็นเคะ   เพราะผมคิดว่าเขาน่าจะเมะกว่าพี่นี่หน่า” ซีวอนสารภาพออกมา
     
     
     
                “เหอะ พวกแกนี่นะ”
     
     
     
                “แล้วพี่ถูกกดป่ะล่ะ” คยูฮยอนถามออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ
     
     
     
                “ถูกกด....อาจารย์ฮันเกิงถูกฉันกด เอ้อ ฉันอยากจะขอบคุณพวกนายนะที่เอาแฟนฉันมาส่งให้ฉันถึงห้องน่ะ”
     
     
     
                “ห๊ะ! แฟน”ทั้งสี่คนอุทานออกมาอย่างตกใจ
     
     
     
                “อาจารย์ฮันเกิงเป็นแฟนพี่หรอ   ทำไมผมไม่รู้เรื่องเลยล่ะฮะ
     
     
     
    คิบอมถามอย่างสงสัยก็พี่ฮีชอลไม่เคยพามาให้เขารู้จักเลยนิ่ยังเห็นเขาเป็นน้องหรือเปล่าเนี่ยไม่บอกสักคำว่ามีแฟน
     
     
     
                “แกเคยสนใจพี่ชายแกหรอ   พอฉันชวนแกไปจีนแกก็บอกไม่ไปจะอยู่กับอาหมวยข้างบ้านนั่นน่ะ รู้แล้วใช่ไหมว่าทำไม่แกถึงไม่รู้ว่าพี่มีแฟนเป็นฮันเกิง    อ้อ คิบอมวันนี้ฉันจะไปจีนนะตามจริงจะมาบอกแค่นี้แหละ บาย” พูดแกแจงให้น้องบังเกิดเกล้าฟังเสร็จก็สาวเท้าเดินออกจากห้อง
     
     
     
                “แล้วพี่จะกลับเมื่อไหร่   บอกพ่อยัง
     
     
     
    คิบอมตะโกนถามผู้เป็นพี่    ก่อนที่ผู้เป็นพี่จะก้าวพ้นประตู ฮีชอลชะงักเท้าแล้วหันมาตอบน้องชาย
     
     
     
                “ก็น่าจะกลับอีกสองอาทิตย์หรือไม่ก็อาจจะอยู่ที่โน่นนานกว่านั้นยังไม่แน่นอน   ก็ต้องบอกสิพ่อจะได้หาอาจารย์มาสอนแทนฉัน    ถ้าไม่บอกพ่อก็ด่าสิขี้เกียจฟัง    ไปล่ะ
     
     
     
    ตอบคำถามของน้องก็เดินออกจากห้องไป
     
     
     
                “ชีวอน คยูฮยอน พี่เยซอง ผมได้พี่สะใภ้อ่ะ”
     
     
     
    หันมาบอกเพื่อนกับพี่   แล้วหันไปถามซีวอนว่า 
     
     
     
    “ไหนนายบอกว่าอาจารย์ฮันเกิงเมะแน่นอนไง”
     
     
     
                “เอ้า    ก็ไม่คิดนิ่ว่าจะเป็นเคะอ่ะ   ทั้งการแต่งตัวนิสัยอีก   ยังไงก็ช่างเถอะอาหมวยของแกก็ปลอดภัยแล้วจะยังไงอีกล่ะ
     
     
     
                “เออ ไปหาทงเฮดีกว่า”
     
     
     
    พูดเสร็จก็ลุกเดินออกจากห้องไปปล่อยให้เพื่อนและพี่มองตาปริบๆ สักพักก็แยกย้ายกันไป
     
     
     
     
     
     
    THE END.
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×