ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Alive

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 2 BARRY

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ค. 52


    หลังจากที่เก่งได้เอาชีวิตรอดและสามารถกลับบ้านได้แล้ว ทว่าสิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่กลับมีเพียงความเจ็บปวดเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เปลี่ยนเขาไปชั่วชีวิต และเขาไม่มีวันแก้ไขได้ แม้กระทั่งความตายที่เขาต้องการเขาก็มิอาจเอามาได้ แต่ทว่าท่ามกลางความมืดนั่นมีความหวังอันเรือนลางอยู่ เก่งจึงได้ตัดสินใจอยู่เพื่อสิ่งนั่นและสัญญาว่าจะทำทุกวิธีทางเพื่อ ให้สิ่งนั่นปลอดภัย
    ......และชตาได้นำพาให้เขาได้พบ ผู้ที่มอบพลังให้แก่เขา......

    เพลงประกอบครับจะเปิดหรือไม่เปิดก็ได้ ขอบคุณที่อ่าน

    Chapter 2

     

    Barry

     

     

    ............ซ่า......... น้ำสะอาดได้ไหลหลิน ผ่านมือคู่นั้น มันจึงได้ถูกย้อมไห้กลายเป็นสีแดง

                    สายตาที่สะท้อนออกมาจากกระจกในห้องน้ำนั้น มันมีแต่ความเกลียดชัง โกรธแค้น สิ้นหวัง และแดงก่ำ แต่ถ้าเพียงสังเกตบริเวณรอบดวงตานั้นมันช้ำด้วยความเจ็บปวด จากการร้องไห้จนไม่มีหยดน้ำตาหลั่งรินออกมาได้อีก

                    ...........ซ่า..........น้ำที่ผ่านมือของเด็กหนุ่มได้ชะล้างมือที่เปื้อนเลือดนั้นจนอ่างสีขาว กลายเป็นอ่างสีแดงฉานที่ดูน่าสยดสยอง ถึงแม้มันจะออกมามากเพียงใดแต่ดูเหมือนว่าน้ำนั้นไม่สามารถชะล้างมือที่เปื้อนเลือดของเด็กหนุ่มหมดไปได้เสียที

                    ปืนสีดำกระบอกโตนั้นวางไว้ที่ชั้นตรงหน้าของเด็กหนุ่ม ถ้ามองดีๆจะเห็นลอยเลือดเต็มไปหมดโดยเฉพาะที่ไกของปืน เลือดแข็งเป็นตัวจนเห็นได้ชัด

                    เด็กหนุ่มยืนจ้องดวงตาในกระจกนั้น มันช่างไร้วิญญาณและเด็กหนุ่มหวังว่าร่างนั้นจะไร้วิญญาณจริงๆ ถ้ากระสุนปืนนั้นไม่มี เขาคงใช้มันฆ่าตัวตายไปแล้ว ถ้าเขามีความกล้ากว่านี้ เขาคงใช้มีดในห้องครัวฆ่าตัวตายไปแล้ว

                    ถ้าเพียงแต่.........เขาไม่ขี้ขลาด

                    ถ้าเพียงแต่.........เขาไม่มีเหตุจำเป็นที่จะมีชีวิตอยู่

                    .....ใช่เขายังคงจำได้ดี ถึงคำสั่งเสียของแม่ ผู้ซึ่งเขาได้ปิดชีพลง

              ..........เขาจำเป็นต้อง ปกป้องน้องของตน และนั้นเป็นสิ่งเดียวที่ไม่ทำไห้เขาเสียสติ

                    หลังจากที่เด็กหนุ่มได้สติจากการกระทำของตน เขาพึ่งสังเกตว่า นิ้วของ แม่นั้นชี้ไปยังบางสิ่ง มันชี้ไปยังห้องอีกห้องหนึ่ง เด็กหนุ่มรู้ได้ทันทีว่านั้นหมายถึงอะไร

                    เขาจึงได้มาล้างหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดของ ผู้เป็นพ่อ

                    และล้างมือที่เต็มไปด้วยเลือดจากการโอบกอดของ ผู้เป็นแม่

                    เขาจำเป็นที่จะต้องดูปกติที่ สุด เขาจำเป็นที่จะต้องแสร้งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                    เขาจำเป็นที่จะต้องทำสิ่งเหล่านี้ เพื่อน้องของตน

                    ..........ตุบ......ตุบ....ตุบ....

                    เด็กสาวได้ยินเสียงฝีเท้าอย่างชัดเจน เธอได้ยินทั้งเสียงปืน และเสียงกรีดร้องอันเจ็บปวด แต่นั้นไม่อาจทำไห้เธอรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก แต่เธอรู้สึกได้ว่าคงมีสิ่งที่เลวร้ายมากเกิดขึ้น

                    .......ตุบ..ตุบ..ตุบ.......

                    เสียงฝีเท้านั้นดังมากขึ้นเรื่อยๆ เธอกำมีดในมือไว้แน่น สายตาจับจ้องไปยังแสงที่ลอดเข้ามาเพียงเล็กน้อยอย่างจดจ่อ

                    ..........ครืด.......... ตู้นั้นได้ถูกเปิดออก แสงเข้าตาเด็กสาว จนเธอไม่สามารถเห็นสิ่งไดได้ชัดเจน ถึงกระนั้นเธอดีดตัวสุดแรงและใช้มีดในมือแทงไปที่คนข้างหน้า

                   

    ........หมับ..........มันไร้ผล.....ข้อมือของเธอโดนจับไว้แน่น ไม่ว่าเธอจะสะบัดแรงแค่ไหนมือข้างนั้น ก็ไม่ยอมปล่อย   ปล่อยนะ เธอตะโกนลั่น

    ปล่อย..........

    แอน.............

    ปล่อยนะ.........

    แอน...........พี่เอง

    ....ปล่.........พี่.........เก่ง เด็กสาวหยุดดิ้น เธอเริ่มตั้งสติและมองหน้าคนตรงหน้า

    พี่.................พี่..........เก่ง เด็กสาวสวมกอดพี่ชายของตนไว้แน่น ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยทำมาก่อน มันช่างอบอุ่นและ ปลอดภัย แต่พี่ชายของเธอนั้นกลับแทบไม่มีปฏิกิริยาใดๆทั้งสิ้น เขาเพียงแต่ใช้มือขวาของตนลูบหัวเธอเท่านั้น แต่เพียงแค่นั้นก็ทำไห้จิตใจของเด็กสาวเย็นลง

    แม่ละ...........พ่อละ.........พี่เก่งเจอพวกเขารึป่าว........ เด็กสาวกล่าวขึ้น แต่ไร้เสียงตอบรับเธอพยายามจะถอนหน้าออกจากอ้อมอกของพี่ชายแต่ กับโดนกดไว้แน่น

    หลับตาซะ............

    แต่ว่า...............

    แอน......ต้องเชื่อพี่นะหลับตาซะและเดินตามพี่มา

    แต่ว่า.............

    อย่าเถียง....... เด็กหนุ่มกระแทกเสียงอย่างแรง นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กสาวถูกพี่ชายตะคอกเธอตกใจอย่างมาก

    เชื่อพี่สิ......แล้วทุกอย่างจะดีเอง เสียงของเด็กหนุ่มอ่อนโยนลงแต่แฝงด้วยความเจ็บปวด

    อืม............ เด็กสาวกำมือพี่ชายไว้แน่น และปิดตาจนสนิทด้วยมืออีกข้างหนึ่งตามที่พี่ชายบอก

    ก้าวตามที่พี่บอกนะ เด็กสาวเชื่อตามที่พี่ชายตนเองพูดโดยไม่โต้เถียงอะไร จนพวกเขาทั้งสองได้เดินออกมาข้างนอก

    ลืมตาได้แล้ว.....นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เด็กสาวได้เห็นพี่ชายของตนเองครั้งนี้เธอเห็นเขาได้ชัดขึ้นเธอเห็นลอยแผลที่มือของเขา เลือดที่เต็มเสื้อ รวมทั้งกระเปาสีดำใบใหญ่ที่น่าจะมีของใส่ไว้จนเต็มและไฟแช็คราคาแพงแบบฝรั่งที่เธอจำได้ว่านั้นเป็นของ พ่อตนเอง แต่ขณะนี้มันอยู่ในมือพี่ชายของตน และมันได้ถูกเปิดออกจนติดไฟ เธอมีหลายสิ่งหลายอย่างอยากถามพี่ชายของตน แต่เธอไม่รู้ว่าควรถามสิ่งใดก่อน

    แอนต่อจากนี้ไป ลืมบ้านหลังนี้ซะ เด็กหนุ่มพูดด้วยเสียงที่ราบเรียบ

    แต่ว่า...................... เด็กสาวพยายามจะกล่าว เธอเริ่มได้กล่นบางอย่าง

    ต่อจากนี้เราไม่มีบ้านไห้กลับอีกแล้ว กลิ่นนั้นเธอจำได้ทุกครั้งที่เธอไปปั้มน้ำมันเธอมักจะได้กลิ่นนี้

    .............ฟรุบ..........เด็กหนุ่มใช้ผ้าที่อยู่ในมืออีกข้างมาอิงกับไฟแช็ค จนมันลุกไหม้ เขาโยนมันไปที่หน้าประตูรั้วซึ่งนองไปด้วยน้ำ

    ไม่นะ.............เด็กสาวแทบไม่เชื่อตาของตนเอง เพราะบ้านของเธอกำลังไหม้ มันถูกเผาด้วยน้ำมือพี่ชายของเธอเอง เธอพยายามที่จะวิ่งเข้าไป แต่ไม่ได้ผล มือของเธอถูกคว้าเอาไว้แน่น

    ปล่อยนะ..........พี่........บ้าไปแล้วหรือไง

    ............................

    ปล่อยสิ..............พ่อกับแม่ยังอยู่ในนั้นนะ...........ปล่อย

    .......................

    พี่เป็นบ้าไปแล้วหรือไง.......ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ....................

    พ่อ...........กับ...........แม่...........ตายแล้ว...

    พรึบ...............พรึบ........... ไฟลุกโหมพัดพาทุกสิ่งไปจนหมดไม่ว่าจะเป็น อดีต ปัจจุบันหรือ อนาคต

    ………………………………….

                    เก่งกับแอนเดินจูงมือไปบนถนน อย่างเชื่องช้าเพราะเขาไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนละไม่มีที่ไห้กลับไปอีกแล้ว เหลือเพียงแต่ชีวิตและอนาคตที่มืดมน ถึงแม้แอนจะจับมือพี่ชายของตนไว้แน่นแต่มันไม่ได้แสดงถึงความสุขเลยสักนิดเห็นได้จากการที่เธอจิกมันอย่างแรงเพราะไม่ว่าเธอจะถามสิ่งใด พี่ชายของเธอ ไม่ได้ให้คำตอบที่เด่นชัดเลยแม้แต่ข้อเดียว พอเธอถามถึง พ่อกับแม่ว่าพวกเขาตายอย่างไร พี่ชายของเขากับตอบเพียงว่าพอเขามาถึงพวกเขาได้ตายไปหมดแล้ว

                    เด็กหนุ่มรู้ดีว่า สิ่งที่ตนบอกน้องสาวนั้นล้วนเป็นเรื่องโกหก แต่แล้วไงละ เขาคิดถ้าบอกความจริงไปมันจะได้อะไรขึ้นมา มันเพียงแต่จะสร้างความเจ็บปวด ร้าวฉานและยุ่งยากให้มากขึ้นเท่านั้น รวมทั้งมันคงทำไห้น้องสาวของเขาเสียสติ พร้อมทั้งคิดที่จะฆ่าเขาอย่างแน่นอน เขาจึงตรัสสินใจที่จะ โกหก และเก็บเรื่องราวนี้ไว้กับเขาจนวันตาย ตอนนี้เขาหวังเพียงว่าหาที่ๆปลอดภัยไห้น้องสาวและหวังอีกว่าเธอจะหยุดร้องไห้ซะที

                    แอนยังคงร้องไห้ไม่หยุด มันเป็นสิ่งหนึ่งที่เธอเห็นว่าสมควรทำ เพราะพ่อกับแม่ของเธอได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่เธอกับสังเกตว่าพี่เธอนั้นไม่มีแม้น้ำตาสักหยดหรือแสดงท่าทางใดๆเลย มันทำไห้เธอรู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก เธอเริ่มสงสัยว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้ใช่พี่ชายที่เธอเคยรู้จักหรือเปล่าเพราะเขาช่างดูหยาบกระด้างและเย็นชา เหมือนคนตาย เดินได้ เธอจึงตัดสินใจถามพี่ชายของเธอว่าเกิดอะไรขึ้น

                    หยุดก่อน พี่ของเด็กหญิงกล่าวขึ้น เขาดึงเธอไปซ่อน อยู่ที่มุมตึก ที่เขาทำอย่างนั้นเพราะเขาเห็น แสงไฟสองดวงมาจากถนนข้างหน้านั้น ที่ๆพวกเขาอยู่นั้น เป็นถนนเล็กๆที่อยู่ในหมู่บ้าน เหตุที่ไม่มีรถจอดอยู่เลยเพราะคนที่รู้ข่าวทุกคนน่าจะขับรถออกไปถนนใหญ่กันหมดแล้วและไม่น่าจะมีใครเข้ามาในนี้อีกนั้นคือสิ่งที่เขาคิด นอกเสียจากคนๆนั้นมาตามหาใครสักคน

              รถคันนั้นจอดลงห่างจากทู่พี่น้องอยู่ประมาณ 10 ฟุตแสงไฟที่ส่องมานั้นสว่างจ้าในความมืดมิดมันทำให้สายตาของเก่งพร่ามัวไปชั่วขณะสิ่งที่เด็กหนุ่มเห็นจากซอกมุมตึก ประตูรถกระบะ สีแดงคันใหญ่ถูกเปิดออก

    ชายรูปร่างสูงใหญ่ก้าวออกมาเขาสวมกางเกงยีนสีฟ้าอ่อน สวมเสื้อติดกระดุมสีแดงพาดดำรูปตารางหมากรุกซึ่งแขนเสื้อมันถูกพันขึ้นจนเห็นขนที่ดกหนาของเขาได้อย่างชัดเจนแต่กระนั้นมันยังคงไม่สามารถปิดความใหญ่ของกล้ามเนื้อของเขาได้ชัดเจน แต่สิ่งที่ดูเด่นชัดที่สุดคือผมสีทองแซมขาวของเขา ถึงแม้มันจะไม่ยาวมากแต่ดูเข้ากับรูปร่างของเขา

                    “Anyone there” ชานนั้นกล่าวออกมาเป็นภาษอังกฤษเสียงของเขาก้องกังวานและเข้มสามารถบอกถึงอายุของเขาว่าน่าจะประมาณ 40-45ปี แต่เก่งยังคงลังเลที่จะออกไปไม่มีหลักประกันเลยว่าชายฉกรรจ์คนนั้นจะไม่ทำร้ายเขาหรือน้องสาวของเขา ซึ่งแอนสามารถรับรู้ถึงวามรู้สึกของเก่งได้ดีจากแรงบีบที่มือของเธอ แอนจึงตัดสินใจรอการตัดสินใจของพี่ชายเธอเพราะบนโลกนี้ มีพี่เธอเท่านั้นที่เธอเชื่อใจถึงแม้เธอจะเกลียดเขาสักเพียงใดหรือไม่สามารถเข้าใจเขาได้เลย

                    เมื่อกี้ผมเห็นนะครับว่ามีคนอยู่ ออกมาเถอะผมไม่ทำอะไรหรอก ชายฉกรรจ์คนนั้นเริ่มพูดภาษาไทยเขาพูดได้ชัดเสียด้วย แต่ถึงกระนั้นเก่งยังคงซ่อนตัวอยู่ที่หลังมุมตึก ในสถานการณ์อย่างนี้มันยากเหลือเกินที่จะเชื่อใจใครเพราะเมื่อไร้กฎหมายควบคุมทุกคนล้วนทำได้ทุกอย่าง แต่เขาเพียงคนเดียวคงไม่สามารถปกป้องน้องของตนเองได้ ถือว่าโชคดีมากแล้วทั้งเขาเดินออกจากบ้านมา พวกเขาทั้งสองไม่เจอพวกซอมบี้นั้นเลย และในสถานการณ์อย่างนี้รถยนต์มีค่ามากถ้าเขาจะไปยังที่ๆเข้าองการอย่างน้อยมันคงปลอดภัยกว่าการเดินอย่างแน่นอน

    ที่สำคัญถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเขายังคงมี ปืน 9.มม ที่เหน็บอยู่รงข้างเอวเขา เขาจับมันแน่นพอๆกับที่จับมือน้องสาวเขา

    เก่ง่อยๆก้าวออกมาจากมุมมืดอย่างช้าๆ พอชายคนนั้นเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้น

              หยุดนะ!” เก่งตะโกนจนสุดเสียงพร้อมทั้งชักปืนออกมา จนชายคนนั้นหยุดเดินเข้ามา มันทำไห้น้องสาวเขาสะดุ้งด้วยความตกใจ เธอรีบกดแขนที่ชักปืนออกมาของพี่ชายเธอลง

                    พี่ทำอะไรนะหยุดนะ เธอตะคอกใส่พี่ชายของเธอ

                    ใจเย็นไว้ก่อน ไอ้หนูไม่ได้มาทำร้ายเธอหรอกนะ เขาพูดพร้อมก้าวถอยหลังออกไป

                    ใช่แล้วพี่ เขาไม่ทำอะไรหรอก น้องสาวเขาพยายามกล่อมไห้เขาเชื่อใจชายคนนี้ แต่สำหรับเก่งมันไม่ง่ายเลยหลังเหตุการณ์ก่อนหน้านี้มันสอนให้เก่งรู้ว่ามนุษย์เมื่อถึงยามคับขัน นั้นมักจะเห็นแก่ตัวและเลือดเย็นอย่างถึงที่สุด อย่างไรก็ตามเก่งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเชื่อใจชายคนนี้ ถ้าเขาอยากจะช่วยชีวิตน้องเขา เขาจำเป็นต้องเชื่อใจชายคนนี้

                    คุณกำลังจะไปไหนหรอ เก่งถามชายคนนั้นพร้อมกับเก็บปืนเข้าซอง มันทำไห้ชายฉกรรจ์ใจเย็นลง

                    ฉันกำลังจะออกจากที่นี้นะ เธอจะไปด้วยไหม เออแล้วเธอเรียกฉันว่า ลุงแบร์รี่ก็ได้นะ

    …………………………

                    ตอนนี้ทั้งสองได้มาอยู่ หลังรถกระบะที่แล่นไปตามถนน ซึ่งโล่งอย่างน่าประหลาดใจ เก่งมีท่าทางสนใจของที่อยู่ในกระเป๋าสะพายหลังรถมากเพราะมันเต็มไปด้วยปืน และมีดทหาร สิ่งที่เก่งสนใจที่สุดมีสองอย่าง นั้นคือมีดทหารและ*ปืนไรเฟิล เก่าๆกระบอกหนึ่งซึ่งตัวปืนนั้นเป็นสีน้ำตาลทำจากไม้และตรงส่วนบนมีลำกล้องขนาดใหญ่ติดอยู่ ที่เก่งชอบมันนั้นเพราะว่าถึงมันจะเก่าแต่มันยังคงใช้ได้ดีไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านมานานเพียงใด สำหรับเก่งมันคือ ความน่าหลงใหล

              มันเป็นครั้งแรกที่แอนเห็นพี่ชายกลับมาเป็นคนเดิมก่อนเกิดเหตุการณ์ขึ้น พี่ที่เป็นคนร่าเริงและเวลาเห็นสิ่งที่ตนสนใจจะดีใจเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่

                    นี่พี่เก่ง สอนแอนใช้ของพวกนี้บ้างสิ แอนขอร้องเก่งไห้ช่วยสอนวิธีใช้ปืน เพราะเธออยากจะหัดลองปกป้องตัวเองบ้าง เธอไม่อยากที่จะคอยแต่หลบอีกแล้ว

                    อืม งั้น ลองกระบอกนี้ดูสิ เก่งหยิบปืนกระบอกหนึ่งขึ้นมา มันซื่อ เลดี้สมิธ .357 แม้กนั่มมันมีรูปร่างคล้าย ลูกโม่แต่กระบอกมันเล็กกว่ามาก ขนาดของมันใหญ่เพียงเท่าฝ่ามือเท่านั้นเองด้ามจับทำจากพลาสติกสีดำ และตัวปืนเป็นเหล็กสีเงินเพราะรูปร่างขนาดเล็กจึงทำไห้น้ำหนักปืนนั้นเบาพอสมควร มันเลยไม่ยากเลยที่แอนจะใช้ปืนกระบอกนี้

                    ใช้มือข้างหนึ่ง ดันตรงที่ใส่กระสุนออกมา เพื่อดูไห้แน่ชัดว่ามันมีกระสุนอยู่ไม่ ถ้าไม่มี ก็บรรจุเข้าไป ปืนนี้มันมีกระสุน 6 นัด และน้ำหนักเบานี่แหละ เพราะถ้าแอนใช้ปืนพกพี่กลัวว่า แอนจะไม่มีแรงขึ้นไกนะ แต่ปืนลูกโม่ นี้มันดีตรงที่มันใช้ง่ายนี่ ดูนะ เอากระสุนใส่เข้าที่เดิม เห็นที่อยู่ตรงด้านหลังนี้ไหม มันเรียกว่าหงอนนก แอนแค่ดึงมันลงจนสุด แล้วเล็ง หลังจากนั้นก็เหนี่ยวไก แค่นี้เองขนาดเด็กยังใช้ได้เลย ถึงแม้เก่งจะอธิบายละเอียดแค่ไหน แอนยังคงไม่สามารถเข้าใจได้หมด เก่งส่งปืนไห้น้องสาวของเขา ได้ทำความรู้จักกับปืนกระบอกนี้ จำไว้ไม่ว่ายังไงห้ามหันมาทางนี้ และหันใส่ตัวเองเด็ดขาดนะที่เขากล่าวอย่างนั้นเพราะพวกมือใหม่มักจะทำปืนลั่นใส่ตัวเองบางครั้ง สามารถทำไห้ถึงตายได้เลย 

                    ว่าแต่ทำไมคุณถึงมีปืนพวกนี้หรอครับ เก่งถามแบร์รี่ ที่ตอนนี้กำลังขับรถอยู่

                    ฉันเคยเป็นทหารผ่านศึกนะ เขาเล่าเรื่องตั้งแต่สมัยเขายังหนุ่มช่วงนั้นประมาณปี 1960-1970 ด้วยความคึกคะนองของวัยหนุ่มเขาเข้าร่วมกับกองทัพและไปรบ ที่เวียดนาม ตอนที่เขาเจอเก่งครั้งแรก มันทำไห้เขานึกถึงช่วงเวลานั้น ตอนเขาเจอเด็กเวียดนาม จ่อปืนใส่ตัวเองเพราะพยายามปกป้องครอบครัวของตน แต่เหตุการณ์ในตอนนั้นแตกต่างจากตอนนี้เพราะเขาได้ยิงเด็กคนนั้นกับครอบครัวจนตายหมดสิ้น เพราะความกลัว มันทำไห้เขารู้ได้ทันทีว่าสงครามครั้งนี้มันช่างโง่เขลา และมันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่สุดในชีวิตของเขา หลังจากสงครามจบลงเขาไม่บินกลับประเทศเพราะเขาเอาแต่ดื่มเหล้าและเมายาเพื่อลืมเหตุการณ์ในวันนั้น วันที่เขายิงเด็กคนนั้นตาย ทุกครั้งที่เขาหลับเขาจะต้องเห็นเหตุการณ์นั้นซ้ำไปซ้ำมา มีแต่เหล้ากับยาเท่านั้นที่ทำไห้มันดีขึ้น แต่พอพวกมันหมดฤทธิ์  มันก็มาหลอกหลอนเขาอีก จนเขาต้องเข้าโรงบาลเพื่อบำบัด ในตอนนั้นเองที่เขาเจอภรรยาของเขา เธอทำไห้เขากลับมาเข้าร่อยเข้ารอยอีกครั้ง ความเจ็บปวดเหล่านั้นถูกบรรเทาลงไปเรื่อยๆจนในที่สุด ตอนเขาหลับเขาเลิกฝันเห็นสิ่งเลวร้ายที่เขาเคยทำแต่ถึงกระนั้นเขายังคงตระหนักถึงมันทุกวัน และเหมือนกับว่าบาปกรรมนั้นตามทัน เขากับภรรยาไม่อาจสามารถมีลูกได้ พอเขาเล่าจบ บรรยากาศถูกปกคลุมด้วยความเงียบ ด้วยความไม่ทันคิด เก่งจึงถามออกไปว่า

                    แล้วภรรยาคุณเขาหายไปไหนละครับ เพราะตั้งแต่ที่เก่งเจอ แบร์รี่นั้นเขาไม่เห็นใครอื่นอยู่ด้วยเลย

                    เธอตายแล้วนะ เธอพยายามจะช่วยเด็กคนหนึ่ง เลยถูกเด็กคนนั้นกัดเข้าหลังจากนั้น......

                    ไม่ต้องเล่าแล้วละครับ.....ผมเข้าใจแล้ว ขอโทษนะครับที่ถามเรื่องไม่เป็นเรื่อง เก่งรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ถามคำถามโง่ๆไป

                    ฮ่าๆๆๆ... ไม่เป็นไรหรอก ในถ้าเธอไม่เข้าไปช่วยละก็คงไม่ใช่เธอแล้วละ ในเหตุการณ์แบบนี้มีใครมั่งละไม่สูญเสียนะจริงไหม สิ่งที่แบร์รี่นั้นพูดถึงแม้มันจะน่าเศร้าแต่มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องเพราะทุกคนต่างสูญเสีย

                    แล้วทำไมเธอถึงอยากไปที่สถานีตำรวจกันละ

                    ผมคิดว่ามันน่าจะปลอดภัยที่สุดนะครับ บางทีตำรวจอาจช่วยคุ้มครองน้องผมได้ เพราะเก่งเชื่อว่ากำลังของเขาเพียงคนเดียวคงไม่สามารถปกป้องน้องเขาได้

                    เธอนี้รักน้องจริงๆนะ แบร์รี่ถามเด็กหนุ่มเพราะเขารู้สึกอย่างนั้นจากสายตาของเด็กหนุ่มที่มองน้องสาว

                    ใช่ครับถ้าไม่มีเธอผมคงฆ่าตัวตายไปนานแล้ว ถึงแม้แบร์รี่จะสงสัยกับคำตอบของเด็กหนุ่มแต่เขาตัดสินใจที่จะไม่ถามออกไปเพราะคำตอบมันคงมีแต่ความเจ็บปวดเขารู้สึกอย่างนั้น

                    .............ปัง.......... เสียงปืนดังขึ้นจากข้างหลัง เก่งขึ้นไกปืนพกอย่างรวดเร็วแบร์รี่ รีบเหยียบเบรกทันที ขอโทษ ขอโทษคะปืนมันลั่น เสียงปืนดังมาจากน้องสาวของเก่งนี่เองในขณะที่เก่งกับแบร์รี่คุยกันอยู่นั้นแอนกำลังทำความรู้จักกับของเล่นชิ้นใหม่อยู่ แล้วเผลอเหนี่ยวไกมันเข้า

                    ฮ่าๆๆๆๆๆ....หัวใจแทบวายแหนะฉัน แบร์รี่หัวเราะเสียงดังจนทำไห้เก่งหัวเราะตามไปด้วย

                    เอางี้ละกันถ้าเธอชอบปืนกระบอกไหน เอาไปได้เลยฉันไห้

    ......................................................................

                    ในขณะที่เก่งใช้สายตามองผ่านกล้องที่ติดกับปืนอยู่นั้น มันทำไห้เก่งรู้สึกว่าตัวเองมีพลัง มีอำนาจที่จะสั่งไห้ใครสักคน หรือสิ่งมีชีวิตบางชนิดจบชีวิตลงได้ ด้วยการเหนี่ยวไกปืนเพียงครั้งเดียว เขารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองนั้นเป็น พระเจ้า ใช่ พระเจ้าแห่งความตาย

                    พี่เก่ง ไอ้พวกนั้นมันเป็นตัวอะไรหรอ แอนถามเก่งในขณะที่จับปืนในมือไว้แน่น

                    ไอ้พวกซอมบี้นั้นหรอ เก่งตอบโดยที่ตัวเองยังคงใช้สายตามองผ่านกล้องนั้นอยู่

                    อืม....พี่ว่าพวกมันเกิดขึ้นได้ยังไงหรอ

                    พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกันเก่งโกหก อีกครั้งเพราะโดยส่วนตัวแล้วเขารู้สึกสงสัย หินยักษ์ สีดำที่อยู่กลางเมือง ที่เขาโกหกเพราะไม่อยากไห้น้องสาวของตัวเองถามไห้มากความ

                    หรอ....นั้นสินะแต่ถ้าหนูรู้ละก็มันเกิดจากอะไร หนูจะฆ่ามัน จะฆ่ามันไห้หมดเลย มือที่ถือปืนของแอนสั่นเทาด้วยความโกรธแค้น ที่ขบฟันอย่างแรงจนมีเสียงเบาๆดังออกมา น้ำตาเริ่มนองหน้าเธออีกครั้ง เพราะความแค้น ความแค้นที่มีต่อสิ่งที่ฆ่าพ่อแม่ของเธอ แต่เธอเริ่มสงบลงเพราะมือของพี่ชายของเธอลูบบนศีรษะเธอเบาๆด้วยความอ่อนโยน

                    ไม่ต้องห่วงหรอกนะ พี่จะจัดการเอง จัดการฆ่า สิ่ง ที่ฆ่าพ่อกับแม่เองถึงแม่เก่งจะพูดอย่างอ่อนโยน แต่ในใจของเขานั้นมันเจ็บปวดเหมือนมีมีดที่กรีดลึกอยู่ข้างในจิตใจ เพราะ เขาโกหกและเขาคือคนที่น้องสาวอยาก แก้แค้น ที่แท้จริง เขาโกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อตัวแอนเอง ถึงแม้มันจะดูเหมือนคำแก้ตัวสำหรับเขา แต่เขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

                    เก่งกลับไปส่องกล้องอีกครั้งที่เขาทำอย่างนี้มันไม่ได้ไร้เหตุผลไปซะทั้งหมด เพราะเขาทำมันเพื่อระวัง ระวังเจ้าพวก กินคน เนื่องจากเขาเริ่มขับเข้าถนนใหญ่และเริ่มเห็นรถ ร้างที่ชนข้างทางและเห็นซากศพ บางคนที่นอนแน่นิ่งและไม่ยืนขึ้นมา แอนเองสังเกตเห็นเช่นกัน เธอจึงมีท่าทีพะอืดพะอมอย่างเห็นได้ชัด และสิ่งที่เก่งคิดว่าจะเกิดมัน ก็เกิดขึ้นจริง

                  
                  
    หยุดรถเร็ว แบร์รี่ เก่งตะโกนผ่านกระจกที่กั้น แบร์รี่รีบเหยียบเบรกทันที

                    รีบดับไฟเร็วก่อนพวก มัน จะเห็นเรา แบร์รี่ทำตามที่เด็กหนุ่มบอกโดยไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย เพราะเขารู้ดีว่า พวกมัน คืออะไร

                    พวกมันอยู่เต็มไปหมดเลยดูสิ แบร์รี่เด็กหนุ่มยื่นปืนไรเฟิลในมือไห้ แบร์รี่ดู ในตอนนั้นเองเขารู้ทันทีว่าทำไมเด็กหนุ่มถึงไห้หยุดรถ ทั้งที่เขาสามารถขับชนผ่านมัน ไปได้ถ้ามันมีจำนวนไม่มาก แต่นี้มันมีเป็นกองทัพแถมยังมีรถขวางถนนเต็มไปหมด พวกมันพยายามที่จะเดินไปข้างหน้าแต่มันไม่สามารถทำได้เพราะมีรถบรรทุกขวางกั้นอยู่ และตรงข้างรถบรรทุกนั้นมีซากศพอยู่เป็นจำนวนมาก คนตาย เหล่านั้นคงที่จะพยายามข้ามรถบรรทุกนั้นเหมือนกัน แต่ทำไม่สำเร็จ มันเลยกลายเป็น โรงอาหารสำหรับเหล่าคนตายไปโดยปริยาย

                    เราควรทำไงดีละ เธอคิดอะไรออกบ้างไหม แบร์รี่หันมาถามเด็กหนุ่มพร้อมทั้งยื่นปืนไรเฟิลกับคืนไป ที่เขาถามเพราะเขาเอง จนปัญญาเช่นกัน รถของเขานั้นคงมีกำลังไม่พอที่จะขับฝ่าไป

              ขับรถย้อนกับไป เก่งตอบ

                    หา!” แอนกับแบร์รี่ถามพร้อมกัน

                    เมือกี้ตอนขับผ่านมาผมสังเกตเห็นซอยเล็กๆอยู่บางทีมันอาจจะมีทางขับอ้อมไปได้ เด็กหนุ่มตอบ

                    แต่มันเสี่ยงอยู่เหมือนกัน เพราะบางทีในนั้นเองคงมีพวกมันอยู่เหมือนกันและถ้า.....มีรถ ขวางอยู่ละก็ที่แห่งนั้นคงกลายเป็นสุสานของเรา ที่เก่งพูดนั้นมันคือความจริงเพราะซอยที่เก่งเห็นนั้นมันกว้างพอไห้รถผ่านไปได้แค่ สองคันเท่านั้น และมันไม่ห่างจากที่ซอมบี้อยู่กันเป็นฝูงไม่มากนัก มีโอกาสอย่างมากที่จะมีพวกมันอยู่ในซอยนั้น ความเงียบปกคุมบรรยากาศไปซักพัก จนเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นอีกครั้ง แต่มันไม่ได้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า แต่มันกำลังถอยหลัง

                    ดูเหมือน เราจะมีทางเลือกไม่มากนักนะ แบร์รี่ตอบพร้อมควัก**ปืนลูกโม่สีเงินกระบอกโตออกมาจากข้างหลังที่เหน็บอยู่ในกางเกงยีนสีฟ้าของตน แกร็ก เสียงขึ้นไกดังขึ้น และเสียงขึ้นไกอีก สองกระบอกดังขึ้นตาม ทันไดนั้นแสงไฟหน้ารถได้ติดขึ้นมาอีกครั้ง ส่องไห้เห็นเส้นทางที่คับแคบและความมืดมิดที่ซ่อน บางอย่างที่น่าสะพรึงกลัวอยู่ พวกเขารู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในความมืดนั้น แต่ไม่มีทางไห้ถอยกับอีกแล้ว ต้องไปข้างหน้าเท่านั้นและหวังว่า มันจะเป็นทาง รอด ไม่ใช่ทาง ตาย

                    แสงไฟสาดส่องผ่าน เส้นทางแคบๆเหล่านั้นมันทำไห้คนทั้ง สามเห็นเส้นทางได้อย่างชัดเจนและมันทำไห้พวกเขาเห็นในสิ่งที่ไม่อยากเห็นด้วยเช่นกัน แต่นั้นแหละคือหน้าที่ของแสงสว่างเพราะมันทำไห้คุณเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนแม้กระทั่งสิ่งที่คุณไม่อยากเห็น แต่เก่งเห็นสิ่งเหล่านั้นจนชินเสียแล้วเขาจึงไม่รู้สึกอะไรมากนักเหมือนดูหนังสยองขวัญเรื่องหนึ่งเท่านั้น แต่สำหรับแอนนั้นมันต่างกัน ด้วยอายุเพียง 12 ปีของเธอและเธอไม่ได้ผ่านเรื่องราวมามากมายเหมือนชายทั้ง 2 เธอจึงได้อ้วกออกมา เพราะเส้นทางที่เขาขับผ่านมามันถูกย้อมด้วยสีแดงฉาน และเศษเนื้อ บนพื้นถนนนั้นมีรอยเท้าเปื้อนเลือดเต็มไปหมด พร้อมทั้งมีกลิ่นเน่าเหม็นเหมือนกลิ่นที่โฉยออกมาตอนคุณไปซื้อของในตลาดสด ภาพเหล่านั้นรวมทั้งกลิ่นมันทำไห้แอนไม่สามารถอดกลั้น ความสะอิดสะเอียนได้อีกต่อไป เธออ้วกอยู่เป็นเวลานานจนหมดแรงและเริ่มชินกับกลิ่นเหล่านั้น แต่พวกเขามาได้เพียงไม่กี่กิโลเท่านั้นเพราะ รถที่พวกเขานั่งนั้นเคลื่อนที่ช้ามากเนื่องจาก แบร์รี่ต้องขับรถลอดผ่าน รถที่ขวางอยู่บนถนน เขาพยายามที่จะทำไห้เกิดเสียงน้อยที่สุด เพราะระหว่างทางนั้นเขาได้ยินเสียง ดังมาจากบ้านและอาคารที่อยู่รอบข้างถึงแม้เสียงมันจะเบามาก แต่พวกเขารู้สึกได้ว่ามัน จะต้องไม่ใช่เสียงหนูแน่ๆ

              ในตอนนั้นเองที่เก่งสังเกตเห็น เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอใส่ชุดสีขาวสะอาด ผมยาวจนถึงเอวสีดำซึ่งถูกมัดรวบไว้เป็นเปียยาว ในมือของเธอนั้นถือตุ๊กตาหมี สีน้ำตาบ ที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดอยู่ แบร์รี่จอดรถทันทีที่หญิงสาวนั้นหยุดนิ่ง เสียงเปิดประตูรถดังขึ้นเขาลงจากรถโดยเหน็บปืนไปด้านหลัง เขากำลังจะทักเด็กผู้หญิงคนนั้น

                    หยุดก่อนแบร์รี่ เก่งรีบบอกไห้แบร์รี่หยุดสิ่งที่เขากำลังจะทำ

                    ไม่เป็นไรหรอกน่า เด็กผู้หญิงคนนั้นอาจจะเหมือนพวกเธอก็ได้นะ แบร์รี่หันมาบอกไห้เก่งใจเย็นลง แต่เก่งยังคงเล็งปืนไรเฟิล ไปที่เด็กผู้หญิงคนนั้นเพราะเขารู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ และตอนนั้นเองที่เก่งเห็นหยดเลือด ที่หยดลงตรงพื้น

                    แบร์รี่ รีบขึ้นรถเร็ว เร็วๆสิโว้ย!”เก่งตะโกนดังลั่น เด็กหญิงคนนั้นหันกลับมาอย่างช้าๆ

                    หาทำไมละ แบร์รี่ยังคงสงสัยการกระทำของเด็กหนุ่ม ในขณะที่เด็กหญิงคนนั้นกำลังหันกลับมา และเสียงกรีดร้องได้ดังขึ้น นากรีดร้องด้วยความกลัวและตกใจเพราะใบหน้าของเด็กคนนั้นได้หายเกือบครึ่ง ดวงตาของเธอได้หลุดออกจากเบ้าจนห้อยลงมา ปากของเธอเต็มไปด้วยเลือด และบริเวณเสื้อด้านหน้าของเธอนั้นเป็นสีแดงฉานจากบาดแผลนั้น

                    ทันทีที่แบร์รี่ได้ยินเสียงกรีดร้องของแอนเขารู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เขารีบวิ่งมาที่รถทันที แต่เด็กผู้หญิงคนนั้น ได้เคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน

                    ..............ปัง........... เสียงปืนดังขึ้น กระสุดได้ฉีกกระชากขาอันเลียวเล็กของเด็กหญิง ไห้กระเด็นลอยไปข้างหลังจนเธอล้มลง เลือดสาดกระเซ็นออกมาจากขาข้างขวาของเธอ เด็กหญิงกรีดร้องด้วยเสียงแหลมเล็กออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่เสียงนั้นไม่อาจทำลายสมาธิของเก่ง ที่จะยิงกระสุนสังหารได้

                    ............ปัง............. แผละ.............. ใบหน้าอีกส่วนหนึ่งของเด็กหญิงได้ระเบิดออกด้วยความแรงของกระสุนไรเฟิล ของเด็กหนุ่ม มือของเก่งนั้นไม่สั่นแม้แต่น้อยเพราะเก่งไม่ได้รู้สึกอะไรเลยทั้งสิ้น ทั้งความโกรธ ความเสียใจ หรือความกลัว เขาไม่ลังเลที่จะยิงเลยแม้แต่น้อย เพราะสำหรับเขาแล้ว การยิง ใครซักคนไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปหลังจากเขาได้ยิง พ่อแม่ของตัวเอง

              รีบขึ้นรถเร็ว แบร์รี่ แบร์รี่รีบขึ้นรถตามคำสั่งของเก่งเขารีบเหยียบคันเร่งจนมิด เสียงล้อดังลั่นแต่ไม่อาจกลบเสียงดังของประตูที่ถูกกระแทกออก กับเสียงของกระจกที่แตกที่พวกมันกระแทกออกมาจากบ้านและอาคาร ตอนนี้พวกมันรู้ตัวแล้วว่ามีสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากพวกมัน และพวกมันกำลังหิวมาก

                    ............เอี๊ยด...............เสียงล้อรถขูดกับถนนดังขึ้น มันเหมือนเสียงกรีดร้องด้วยความกลัวของล้อมันมีชีวิต เพราะตอนนี้ ข้างหลังของมัน มีพวกนักล่า อยู่เป็นจำนวนมากและดูเหมือนว่าพวกมันพร้อมที่จะขย้ำทุกสิ่งที่มีชีวิต

                    ........แฮ่...........เสียงขู่คำรามของพวกมันดังขึ้น ตามตัวของพวกมันมีรอยแผลเหวอะหวะมากมาย แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่รู้สึกเจ็บจากบาดแผลเหล่านั้นเลย ขณะที่รถเริ่มเคลื่อนตัวไปข้างหน้า พวกมันเองได้เริ่มวิ่งกรูเข้ามา เช่นกัน แบร์รี่เหยียบคันเร่งเต็มที่ แต่กว่าเครื่องยนต์ของรถกระบะจะเพิ่มความเร็วมันได้สายไปแล้ว มีพวกมันตัวหนึ่งได้มาจับที่ราว ด้านหลังรถไว้ได้

                    ..........ปัง...........เสียงปืนดังขึ้น .............แผละ..........ศีรษะของซอมบี้ตัวนั้นแตกออกเหมือนลูกแตงโมตกลงสู่พื้นจากที่สูง เนื่องจาก มันโดนปืนไรเฟิน ยิงจ่อหัว

                    ยิง ยิงแม่งไห้ตายห่าไห้หมดเลย เก่งตะโกนลั่น แต่น้องสาวของเขายังสั่นไม่หยุดด้วยความกลัว

                    ........ปัง...ปังปังปัง.... เสียงปืนดังขึ้นเป็นชุด บางนัดสามารถปลิดชีพพวกซอมบี้พวกนั้นได้ แต่ส่วนใหญ่กับโดน แต่จุดไม่สำคัญ เก่งรู้ดีว่าต้องยิงที่หัว หรือหัวใจเท่านั้นพวกมันถึงจะตายแต่ตอนนี้ที่เก่งหวัง คือทำไห้พวกมันช้าลงแม้เพียงเสี้ยววิก็ยังดี

              ยิงเซ่ แอน มัวทำอะไรอยู่เล่า!” แอนทำตามที่พี่ชายตัวเองบอกเสียงกระสุนดังขึ้นเป็นชุด แต่เธอยิงไม่โดนเลยสักนัด เพราะมือเธอสั่นด้วยความกลัวและเธอหลับตายิง

                    ในจังหวะนั้นเอง มีซอมบี้พุ่งตัวมาจากซอกตึกมันพุ่งเข้าใส่บริเวณข้างขวาของรถซึ่งเป็นบริเวณที่ แอนอยู่ เธอตกใจมากถึงรีบยิงใส่ทันที แต่มันโดนแค่บริเวณหัวไหล่เท่านั้น ถึงแม้เธอจะยิงมันจากระยะประชิด ซอมบี้ตัวนั้นกรีดร้องด้วยความโกรธเกรี้ยว เธอพยายามจะยิงอีกนัดแต่กระสุนของเธอหมดซะแล้ว

                    ซอมบี้ตัวนั้นพยายามที่จะไต่เข้ามาในตัวรถด้วยความตกใจและความกลัว แอนได้ล้มลงไปกับพื้น ซอมบี้ตัวนั้นจับขาจองเธอไว้ได้

                    ..........ฉับ......... แขนของมันได้ขาดเป็นสองท่อน และโดยไม่ทันที่มันจะได้กรีดร้อง ........ฉั่ว.........ศีรษะของมันก็ได้หลุดกระเด็นออกไปนอกรถพร้อม กับร่างของมัน

                    เก่งใช้มีดสปาตาร์(มีดทางการทหารมีขนาดยาวและคมมาก รูปร่างคล้าย บังตอที่ใช้ตัดหญ้าของบ้านเรา)

    ตัดแขนและหัวของมันขาด เลือดของมันได้ไหลนองเต็มหลังรถกระบะ แอนยังคงล้มลงอยู่ตรงนั้นและไม่ยืนขึ้น เพราะขาของเธอสั่นไม่ยอดหยุดและไร้เรี่ยวแรง เธอไม่สามารถสั่งการมันได้เหมือนกับว่ามันไม่ใช่ขาของเธอเอง

    เก่งเดินเข้าไปใกล้เธอ และยื่นมือออกไป แต่มือคู่นั้นไม่ได้จับที่มือของเธอแต่มันกลับหยิบปืนในมือของออก .....กริ๊กๆๆๆ........ เสียงกระสุนล่วงกราวลงเต็มพื้น แกร๊กๆๆๆๆๆ กระสุนชุดใหม่ได้ถูกบรรจุเข้าไปแถน และเก่งได้ยื่นปืนคืนไปไห้น้องสาวของตน

                    เกือบโดนแล้วหละ ลองใหม่นะ เขาพูดก่อนที่จะหันไปยิง พวกซอมบี้ที่ตามไล่หลังมาอีกครั้ง ทิ้งไห้แอนอยู่กับความมึนงงไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่เธอ จะลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้ง และเธอเริ่มยิงปืนนั้น แต่ครั้งนี้มันแม่นยำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

                    เพราะครั้งแรกนั้นมันยากที่สุด  ครั้งต่อๆมา มันก็จะง่ายขึ้นเอง

    เก่งเลิกใช้ปืนไรเฟิลและหันมาใช้ปืนพกแทน เนื่องจากมันยิงกระสุนได้มากกว่า และในสถานการณ์ ชุลมุนเช่นนี้มันมีประสิทธิภาพมากกว่า  โชคดีในกระเป๋าของแบร์รี่นั้น มีกระสุนปืนอยู่มากมาย และในจำนวนนั้นมีกระสุน ปืน 9 มม. บาเร็ตต้า อยู่พอสมควร

    ยิ่งเก่งยิงมากเท่าไหร่ความแม่นยำและความคล่องตัว ได้เพิ่มมากขึ้น เขาเลิกเล็งยิงที่หัว แต่หันมายิงที่ขาแทนเพราะมันทำไห้เจ้าพวกนั้นเคลื่อนที่ช้าลงไปมาก แอนเองก็สังเกตเห็นที่พี่เธอทำและเริ่มทำตาม ถึงอย่างไรก็ตาม มันยากเหลือเกินที่จะยิงพวกมันให้โดนในขณะที่แบร์รี่ ขับรถซิกแซก ไปมาอย่างนี้

    ถึงแม้แบร์รี่จะเร่งเครื่องแรงแค่ไหนก็ตาม แต่รถนั้นแถบไม่เร็วขึ้นเลย เพราะเขาต้องคอยหลบรถที่จอดขวางถนนไปมายิ่งไปข้างหน้ารถ ยิ่งมากขึ้น

    เก่ง....... แบร์รี่ตะโกนมาจากหน้ารถ

    ระวังข้างหน้า ก่อนรีบหันไปทางหน้ารถทันที แต่มันสายไปซะแล้ว มีซอมบี้ตัวหนึ่ง มันกระโดดเหยียบหน้ารถและกระโดดขย้ำเก่งทันที ยังดีที่เก่งใช้มีด เสียบเข้าที่อกมันทัน แต่เขาพลาด เขาเสียบไม่โดนหัวใจ มันยังคงพยายามตะกุยเข้ามาขย้ำเก่งเหมือนหมาบ้า

    ...........ปัง........ พอเสียงปืนดังขึ้นซอมบี้ตัวนั้น จึงได้หยุดเคลื่อนไหว เพราะแอนยิงหัวมันจากระยะประชิด จนมันได้เพิ่มรูอีกรูหนึ่งขึ้นมาบนหัว

    คราวนี้แหละ ฉันจะปกป้องครอบครัวเอง

     เก่งใช้แรงที่เหลือยันมันออกจากรถไป เขายืนขึ้น เก่งรู้สึกภูมิใจในความกล้าของน้องสาวของตนมากและในขณะที่จะกล่าวชมนั้นเอง

    ........ตึง........ เก่งกับแอนกระเด็นไปกระแทกที่กระจกหลังที่นั่งคนขับ เพราะแบร์รี่ได้ขับรถไปชนรถที่จอดขวางถนนอยู่อย่างแรง จนตอนนี้รถที่พวกนั่งไม่สามารถเลื่อน ตัวไปข้างหน้าได้อีก รวมทั้งเขาไม่สามารถถอยรถไปข้างหลังได้ด้วยเช่นกัน เพราะพวกซอมบี้นั้นได้เริ่มกรูกันเข้ามา แบร์รี่จึงดัดสินใจที่จะเหยียบคันเร่งจนมิดอีกครั้ง

    .............เอี๊ยด..........ครืดดดดดดดดดดด..........เสียดล้อรถกับเสียงรถที่ขวางอยู่ดังขึ้นพร้อมกัน แต่ก็ไม่อาจสูเสียงปืนที่ดังขึ้น จากหลังรถได้ เพราะตอนนี้รถนั้นเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ช้ามาก ซอมบี้ที่ตามมาจากข้างหลัง จึงได้ประชิดมาที่รถได้ด้วยความเร็วที่สูงขึ้นมาก เก่งกับแอนระดมยิงด้วยทุกสิ่งที่มีในถุง แต่ด้วยจำนวนที่มีมากมายของพวกซอมบี้นั้น พวกมันจึงประชิดเข้ามาเรื่อยๆ ในตอนนั้นเอง

    ............เพล้ง........... กระจกข้างคนขับได้ถูกกระแทกจนแตกออก มีซอมบี้ตัวหนึ่งได้พุ่งออกมาจากมุมมืด มันพุ่งตัวอย่างแรงจนกรกได้แตกออก เก่งตกใจกับสิ่งที่เห็นมาก

    แบร์รี่!”เก่งตะโกนลั่น และกราดกระสุนไปบริเวณด้านหลังของซอมบี้ตัวนั้น แต่มันไร้ผล เสียง ตึงตังดังขึ้น ในรถ ซอมบี้ตัวนั้นยังคงเคลื่อนไหวและพยายามที่จะแทรกตัวเข้าไปในรถ เก่งทิ้งปืนทันที เขาใช้ทั้งสองมือจับมีดในมือไว้มั่น

    ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!” เก่งใช้แรงทั้งหมดเสียบไปที่ด้านหลังของซอมบี้ตัวนั้น และดึงมันออกมาจากตัวรถ แต่มันช่างยากเย็นเหลือเกินสำหรับเขา เพราะแรงของซอมบี้ ตัวนั้นมันเยอะเหลือเกิน เก่งดึงมันออกมาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่แค่นั้นมันเพียงพอแล้วสำหรับแบร์รี่ .........ปัง............เสียงปืนดังขึ้น เศษเนื้อกระเด็กออกมาจากหน้าต่างของรถ ซอมบี้ตัวนั้นได้หยุดเคลื่อนไหวลงทันที แต่ไม่ทันที่เก่งจะได้ดีใจที่ได้ช่วยแบร์รี่ไว้ได้ เสียงร้องขอความช่วยเหลือของ น้องสาวได้ดังขึ้น

    พี่ มาช่วยทางนี้หน่อย เก่งรีบคว้าปืนที่ทิ้งไว้แล้วรีบยิงใส่พวกที่ไล่หลังอีกครั้ง แบร์รี่เองก็เหยียบคันเร่งจนมิดอีกครั้ง ในที่สุดรถที่ขวางอยู่ได้ถูกดันออกไปด้านข้าง และพวกเขาได้ออกมาจากซอยนรกแห่งนั้น

    ............................................................................................................................................

    .............ฟึบ.............เครื่องยนต์ได้ดับลง เก่งกับแอนลงมาจากด้านหลังรถ เพราะพวกเขาไม่สามารถใช้รถคันนี้ได้อีกแล้ว เนื่องจากหน้าสถานีตำรวจนั้นมีรถจอดอยู่เป็นจำนวนมากเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะขับรถเข้าไปได้ แต่มันไม่ได้ไกลอะไรมากนัก พวกเขาจึงตัดสินในเดินไป แต่แบร์รี่นั้นยังคงอยู่ในรถ

    เก่งเดินไปที่หน้ารถและเปิดประตูออก ขณะที่น้องของเขาถือของลงมากจากรถ

    แบร์รี่ เราถึงแล้วไปกันเถ........... เก่งพูดไม่ทันจบประโยค ตัวเขาก็แข็งทื่อขึ้นมาทันทีด้วยความตกใจ

    ขอโทษนะฉันคงมาส่ง............พวกเธอได้แค่นี้ แบร์รี่พูดอย่างอ่อนล้าหน้าของเขาซีดเผือก บริเวณแขนของเขามีเลือดไหลออกมาไม่หยุดมันเป็นแผลเหวอะหวะ ขนาดใหญ่เหมือนถูกบางอย่างกัดกระซากออก ใช่แล้วในตอนที่เขาโดนซอมบี้ตัวนั้นพุ่งเจ้าใส่ตรงข้างรถเขาถูกมันกัด

    เร็วๆสิพี่ แบร์รี่เราจะถึงแล้วนะ แอนตะโกนขึ้นเพื่อเร่งคนทั้งสอง

    แอน เดินไปก่อนเลยทิ้งของไว้ตรงนั้นแหละ เก่งตะโกนตอบในมือของเขากำปืนไว้แน่น

    แต่ว่า..........

    เชื่อพี่! เอามือปิดหูไว้ด้วยเข้าใจใหม..........เจ้าใจใหม!” เก่งตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดแต่น้ำเสียงนั้นแฝงความเศร้าไว้ด้วยถึงแม่จะเล็กน้อยก็ตาม

    แต่ว่า.........ฮึก.....แต่ว่า ถึงแม้น้องสาวของเขาจะพูดทั้งน้ำตาก็ตามแต่เธอยอมทำตามคำสั่งของพี่ชาย

    นี่เก่งฉันขออะไรหน่อยได้ไหมแบร์รี่พูดอย่างอ่อนแรงแต่เขายังยิ้มอย่างอ่อนโยน

    ว่ามาสิแบร์รี่........ เก่งตอบ

    ฉันไม่อยากเป็นเหมือนเจ้าพวกนั้น...........เธอช่วยฉันหน่อยได้ไหม.............ฉันอยากจัดการตัวเองเหมือนกันนะมันผิดหลักศาสนาน่ะแต่ถ้าเธอไม่ต้องการฉันทำมันเองเขายื่นปืนและซองปืนไห้เก่ง

    ............... ถึงแม้เก่งจะไม่ตอบอะไรแต่เขาพยักหน้าเพียงเล็กน้อยแทนคำตอบพร้อมทั้งรับปืนและซองปืนนั้นไว้

    ขอโทษนะและ.......ขอบคุณ....................

    ............................................

    .............................................

    ............................................

    .....................ปัง...........................

     

     To be continue...... 

     

                   

                    เกร็ดความรู้

     *ปืนไรเฟิลที่เก่งไช้คือปืน ไรเฟิล รูเกอร์ 96/22 ลูกกรดคานเหวี่ยงกระบอกแรกของรูเกอร์เป้นปืนที่ยิงได้ต่อเนื่องไม่จำเป็นต้องซักกระสุนออกเพราะมันจะดีดออกมาเอง ใช้ซองกระสุนแบบ โรตารี่ 10+1 นัดขนาดจุด 22LR

    **เทารัส โมเดล 689 ขนาด .357 แม้กนั่ม มีลำกล้องยาว 6นิ้ว เป็นเหล็กแสตนเลสส์ ใช้เหมือนกับปืน เลดี้สมิธ .357 แม็กนั่ม ที่แอนใช้รวมทั้งกระสุนด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×