คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Scene: 6
อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ เพราะถ้าหากรู้อนาคต...
คงไม่มีใครต้องเจ็บปวด เมื่อพบกับการ ลาจาก...
สายตาเหม่อลอยมองทอดไปยังบานหน้าต่าง สายลมอ่อนพัดให้ผ้าม่านสีขาวปลิวไสว ก่อนจะสงบลงกลายเป็นอากาศธาตุ เหลือเพียงความว่างเปล่า เคว้งคว้าง กับม่านที่เคลื่อนไหวแผ่วเบา
หากสายลมสามารถพัดพาสรรพสิ่งทั้งปวงได้ แล้วเหตุใดสายลมไม่เคยพัดพาความทุกข์ออกจากชีวิตเธอเสียที
หลับตาลงช้าๆ ก่อนที่หญิงสาวจะจมอยู่กับความนึกคิดของตัวเอง เย็นแล้วผู้คนคงกลับจากที่ทำงาน กลับไปหาครอบครัว ใช้ชีวิตสนุกเริงร่า แล้วเธอล่ะ...เธอยังจะได้กลับไปหาใครอีก แม่ พ่อ หรือชายหนุ่มที่ทิ้งเธอไป
น้ำตาคงเป็นทางเดียวที่จะระบายความทุกข์ของเธอ แต่แม้ว่าจะร้องไห้มากเพียงใด ความทุกข์ก็ไม่เคยหมดไป
“หน้าสวยๆ ไม่เหมาะกับน้ำตานะรู้ไหม” เสียงหวานเอื้อนเอ่ยกับหญิงสาวบนเตียงด้วยความอ่อนโยนดั่งเช่นทุกครั้ง บุคคลในชุดกราวน์สีขาวเดินเข้ามาใกล้พร้อมร้อยยิ้มสดใส หากนางฟ้ามีจริงคนๆนี้ก็คงจะเป็นนางฟ้าใจดีที่หลุดออกมาจากในนิทาน
“พี่..หมอ”
“หมอไม่ชอบจูฮยอนตอนร้องไห้นะรู้ไหม เพราะจูฮยอนร้องไห้ไม่สวย” คุณหมอใจดีเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ขณะลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆเตียงผู้ป่วย
การมาอยู่เป็นเพื่อนสาวน้อยคนนี้ คงจะเป็นกิจวัตรหนึ่งของเธอไปเสียแล้ว
“พี่หมอ ไม่กลับบ้านหรอคะ”
คำถามนี้ คงจะเป็นส่วนหนึ่งของคนป่วยอย่างเธอแล้วเหมือนกัน
“อยู่กับเด็กขี้แย เผื่อว่าจะเหงา” คุณหมอยุนอายักคิ้วเล็กน้อย ข้อดีของการเอาคนขี้แยสองคนมาอยู่ร่วมกัน ก็เพื่อให้คนขี้แยคนหนึ่งเข้มแข็งขึ้นเพื่อคนขี้แยอีกคน...
“...” จูฮยอนเลือกที่จะเงียบไม่ตอบอะไร แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพี่หมอของเธอยื่นเครื่องอะไรสักอย่างมาให้
เครื่องบันทึกเทปเก่าๆ ที่ดูไม่น่าใช้งานได้ถูกขุดออกมาจากลังเก็บของในห้องนอน ลังเก็บของรักของหวง
“คะ”
“รับไว้สิ หมอให้” ยัดเครื่องบันทึกเทปใส่มือของอีกคนที่ทำหน้าไม่เข้าใจ
“มือน่ะ...จับปากกาไม่ถนัดใช่ไหม” จูฮยอนพยักหน้าช้าๆ เธอเป็นคนชอบเขียน หากแต่น่าเสียดายเมื่อเวลานี้เธอไม่สามารถบังคับปากกาได้อีกแล้ว
“เขียนบันทึกไม่ได้ งั้นก็เอานี่ไปพูดแล้วบันทึกไว้ ระบายมันออกมาแทนน้ำตาของเธอเถอะนะจูฮยอน”
“เจสสิก้า”
“ยังจำได้ด้วยหรอคะว่าฉันชื่ออะไร” ตอบอย่างประชดประชัน เธอขอตัวมาเข้าห้องน้ำจะได้มาสงบสติอารมณ์แต่ดูเหมือนอารมณ์ตอนนี้กำลังจะระเบิดเมื่อเจอหน้าสาวหน้าคมมายืนทำหน้านิ่งใส่
ยูริไม่พูดอะไรใช้มือลากเจสสิก้าเข้าไปในห้องน้ำห้องในสุด แม้ว่าสาวเจ้าจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือก็ตามที
ปัง! ยูริดันเจสสิก้าให้นั่งลงบนฝาชักโครก ไม่ต้องห่วงว่าจะสกปรก เพราะคนลากดึงกระดาษชำระมาเช็ดให้เรียบร้อย ก่อนจะปัดมือตัวเองไปมา
“คุณจะเอายังไงกันแน่” เจสสิก้าถามหยั่งเชิง
“ฉันกำลังจีบคุณอยู่” ยูริพูดเรียบๆนิ่งๆพิงประตูมือก็ล้วงกระเป๋าไปด้วย
“ทำไม จะบอกว่าห้ามฉันไปไหนมาไหนกับแทคยอนหรือไงคะคุณควอน” กอดอกอย่างเชิดๆคิดว่ายูริกำลังหึงตัวเองที่มาทานอาหารเย็นกับแทคยอน แต่ก็ต้องหน้าแตกกลับมาเมื่อยูริปฏิเสธ “เปล่า”
“นี่อะไรของคุณเนี่ย ถอย!”
เจสสิก้าลุกขึ้นมาดันตัวยูริให้ถอยออกมาจากประตู แต่ก็ต้องผงะถอยหลังกลับไปเมื่อยูริดันเธอให้กลับมานั่งที่เดิมแถมยังท้าวแขนกับผนังยื่นหน้ามาหาเธออีก
ถ้ายูริเป็นผู้ชาย คงเจอเจสสิก้าผ่าหมากไปนานแล้ว
“จ..จะทำอะไร” เจสสิก้าพูดเสียงสั่นๆเมื่อยูริยื่นหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นอีกจนเกือบจะชิดหน้าเธออยู่แล้ว
ลมหายใจร้อนๆเป่ารดที่หน้าสวยของเจสสิก้าสร้างความหวั่นไวได้ไม่น้อย ยิ่งเจ้าตัวจงใจถอดแว่นแฟชั่นออกแบบนี้แล้วมันยิ่งทำให้เจสสิก้าทำตัวไม่ถูก
เจสสิก้าไม่ใช่เด็กน้อยอมมือ เรื่องจูบกับคนนู้นคนนี้บ้างก็เป็นธรรมดา แต่กับยูริเธอไม่เข้าใจในความรู้สึกนี้เลย
ระยะห่างของปากยูริห่างจากมุมปากเจสสิก้าเพียงเล็กน้อย ใกล้จนเห็นคราบนมสดที่มุมปากของอีกคนชัดเจน
‘นี่มาร้านอาหารแล้วยังสั่งนมสดอีกหรือเนี่ย’
“เจสสิก้าคุณเป็นเกมที่น่าสนใจจริงๆ” ดวงตาสั่นระริกจ้องมองใบหน้าของเจสสิก้า
“คุณอาจจะไม่ชนะเกมนี้ก็ได้นะคะ” เจสสิก้าใช้มือคล้องคอยูริก่อนจะเอ่ยตอบอย่างท้าทาย เธอได้ยินยูริหัวเราะเบาๆในลำคอ
“งั้นหรอ คุณดูหึงชัดเจนมากเลยนะ”
“คุณก็ดูหื่นเงียบเหมือนกันค่ะ” ยูริตาโตทันทีที่ได้ยินประโยคของเจสสิก้า ‘นี่เราหื่นเงียบอย่างนั้นหรือ อะไรกัน...ทำไมไม่เห็นรู้ตัวเลยล่ะ เอ๊ะ หรือเราจะหื่นจริงๆ’ คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากัน สร้างความขบขันให้เจสสิก้าไม่น้อยผลักไหล่ยูริออกเบาๆ
“อืม...ผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรกับคุณ” ยูริที่เปลี่ยนกลับมายืนหลังพิงประตูห้องน้ำอีกครั้งหรี่ตามเล็กน้อย ขณะที่มุมปากก็ยังคงรอยยิ้มเอาไว้เช่นเคย
“ดูๆกันอยู่” ตอบเสียงดังฟังชัดอยากรู้นักว่ายูริจะต่อว่าอย่างไร
“ดูๆกันอยู่งั้นเหรอ งั้นก็เหมือนฉันกับคุณเลยสิ อ่อ...พี่แทยอนที่มากับฉันเขาเป็นว่าที่หน้าใหม่ที่บริษัท” นอกจากจะทำหน้าตาใสซื่อแล้ว ยูริยังพูดต่อด้วยอารมณ์ขันเล็กๆ
เจสสิก้าคงจะคิดผิด พื้นฐานเธอเป็นคนชอบเล่นเกม เพราะฉะนั้นเกมที่มันไม่มีความท้าทาย เธอจะเล่นไปทำไมให้เสียเวลา
“ใครอยากรู้กัน แล้วฉันบอกตอนไหนว่าดูๆกับคุณ” ใบหน้าหวานใสแดงก่ำ
“อ้าว ไม่รู้ล่ะ แล้วก็...” ยูริเว้นวรรคประโยค หยิบมือเรียวสวยของเจสสิก้าขึ้นมาทาบหน้าอกของตัวเอง
“ได้ยิน..ไม่สิ รู้สึกหรือเปล่า เท่าๆกับของคุณไหม” จังหวะรัวเร็วที่เจสสิก้ารู้สึกได้จากมือช่างสอดคล้องกับเสียงที่มันดังก้องจากข้างในเสียเหลือเกิน
ยูริยิ้มให้เจสสิก้าอย่างอ่อนโยนมือลูบศีรษะเล็กที่ปกคลุมด้วยเส้นผมบลอนด์อย่างทะนุถนอม ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป เหลือไว้เพียงความอบอุ่นให้กับอีกคน
“พีแทยอน ยูลจ่ายแล้วกลับก่อนนะ ถ้าทานต่อก็จ่ายเองแล้วกัน”พูดจบยูริก็เดินออกจากร้านไป แทยอนที่ได้ยินก็ทำมือซ้ายรูปโอเคขณะที่มือขวาก็จับตะเกียบคีบเส้นหมี่เข้าปาก
“น้องๆ เอาหมี่แบบนี้อีกชาม!” กวักมือเรียกพนักงานร้าน 'อืม ท่าทางจะต้องมากินบ่อยๆซะแล้วเรา'
.....................................................................................................................................................................................................
ยูริชอบเล่นเกมอ่ะนะ ถ้ามันไม่มีอุปสรรคมันก็ไม่สนุกใช่ไหมล่ะ? จึงไม่แปลกที่ยูริดูไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไร
แต่ก็ถึงกระนั้น เกมกับชีวิตจริงมันไม่เหมือนกัน อาจจะมีดราม่ากันบ้างแต่ก็แบบเมาๆนั่นแหละ โฮะๆ
ส่วนแทนี่ก็คงจะเร็วๆนี้น้า ม้วฟ ฮี่ฮี่ฮี่
ปล.ไรเตอร์โดนลูกสุดที่รักบาดเลือดกระฉูด(เว่อร์ไป) หลังจากเล่นกีตาร์โซโล่มันส์ไปหน่อย งือ T T ระวังกันหน่อยนะสายกีต้าร์บาดแล้วเจ็บซี้ดเลยขอบอก (คงมีแค่แกคนเดียวนั่นแหละที่เล่นแล้วโดนบาด)
ความคิดเห็น