ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic-SNSD] G-A-M-E [yuri]

    ลำดับตอนที่ #6 : Scene: 6

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ย. 54


    อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ เพราะถ้าหากรู้อนาคต...

    คงไม่มีใครต้องเจ็บปวด เมื่อพบกับการ ลาจาก...

    สายตาเหม่อลอยมองทอดไปยังบานหน้าต่าง สายลมอ่อนพัดให้ผ้าม่านสีขาวปลิวไสว ก่อนจะสงบลงกลายเป็นอากาศธาตุ เหลือเพียงความว่างเปล่า เคว้งคว้าง กับม่านที่เคลื่อนไหวแผ่วเบา


    หากสายลมสามารถพัดพาสรรพสิ่งทั้งปวงได้ แล้วเหตุใดสายลมไม่เคยพัดพาความทุกข์ออกจากชีวิตเธอเสียที


    หลับตาลงช้าๆ ก่อนที่หญิงสาวจะจมอยู่กับความนึกคิดของตัวเอง เย็นแล้วผู้คนคงกลับจากที่ทำงาน กลับไปหาครอบครัว ใช้ชีวิตสนุกเริงร่า  แล้วเธอล่ะ...เธอยังจะได้กลับไปหาใครอีก แม่ พ่อ หรือชายหนุ่มที่ทิ้งเธอไป


    น้ำตาคงเป็นทางเดียวที่จะระบายความทุกข์ของเธอ
    แต่แม้ว่าจะร้องไห้มากเพียงใด ความทุกข์ก็ไม่เคยหมดไป


    “หน้าสวยๆ ไม่เหมาะกับน้ำตานะรู้ไหม” เสียงหวานเอื้อนเอ่ยกับหญิงสาวบนเตียงด้วยความอ่อนโยนดั่งเช่นทุกครั้ง บุคคลในชุดกราวน์สีขาวเดินเข้ามาใกล้พร้อมร้อยยิ้มสดใส หากนางฟ้ามีจริงคนๆนี้ก็คงจะเป็นนางฟ้าใจดีที่หลุดออกมาจากในนิทาน


    “พี่..หมอ”


    “หมอไม่ชอบจูฮยอนตอนร้องไห้นะรู้ไหม เพราะจูฮยอนร้องไห้ไม่สวย” คุณหมอใจดีเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ขณะลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆเตียงผู้ป่วย

    การมาอยู่เป็นเพื่อนสาวน้อยคนนี้ คงจะเป็นกิจวัตรหนึ่งของเธอไปเสียแล้ว


    “พี่หมอ ไม่กลับบ้านหรอคะ”

    คำถามนี้ คงจะเป็นส่วนหนึ่งของคนป่วยอย่างเธอแล้วเหมือนกัน


    “อยู่กับเด็กขี้แย เผื่อว่าจะเหงา” คุณหมอยุนอายักคิ้วเล็กน้อย ข้อดีของการเอาคนขี้แยสองคนมาอยู่ร่วมกัน ก็เพื่อให้คนขี้แยคนหนึ่งเข้มแข็งขึ้นเพื่อคนขี้แยอีกคน...


    “...” จูฮยอนเลือกที่จะเงียบไม่ตอบอะไร แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพี่หมอของเธอยื่นเครื่องอะไรสักอย่างมาให้ 


    เครื่องบันทึกเทปเก่าๆ ที่ดูไม่น่าใช้งานได้ถูกขุดออกมาจากลังเก็บของในห้องนอน ลังเก็บของรักของหวง


    “คะ”


    “รับไว้สิ หมอให้” ยัดเครื่องบันทึกเทปใส่มือของอีกคนที่ทำหน้าไม่เข้าใจ


    “มือน่ะ...จับปากกาไม่ถนัดใช่ไหม” จูฮยอนพยักหน้าช้าๆ เธอเป็นคนชอบเขียน หากแต่น่าเสียดายเมื่อเวลานี้เธอไม่สามารถบังคับปากกาได้อีกแล้ว


    “เขียนบันทึกไม่ได้ งั้นก็เอานี่ไปพูดแล้วบันทึกไว้ ระบายมันออกมาแทนน้ำตาของเธอเถอะนะจูฮยอน

     

     

    “เจสสิก้า”


    “ยังจำได้ด้วยหรอคะว่าฉันชื่ออะไร” ตอบอย่างประชดประชัน เธอขอตัวมาเข้าห้องน้ำจะได้มาสงบสติอารมณ์แต่ดูเหมือนอารมณ์ตอนนี้กำลังจะระเบิดเมื่อเจอหน้าสาวหน้าคมมายืนทำหน้านิ่งใส่


    ยูริไม่พูดอะไรใช้มือลากเจสสิก้าเข้าไปในห้องน้ำห้องในสุด แม้ว่าสาวเจ้าจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือก็ตามที


    ปัง
    ! ยูริดันเจสสิก้าให้นั่งลงบนฝาชักโครก ไม่ต้องห่วงว่าจะสกปรก เพราะคนลากดึงกระดาษชำระมาเช็ดให้เรียบร้อย ก่อนจะปัดมือตัวเองไปมา


    “คุณจะเอายังไงกันแน่” เจสสิก้าถามหยั่งเชิง


    “ฉันกำลังจีบคุณอยู่” ยูริพูดเรียบๆนิ่งๆพิงประตูมือก็ล้วงกระเป๋าไปด้วย


    “ทำไม จะบอกว่าห้ามฉันไปไหนมาไหนกับแทคยอนหรือไงคะคุณควอน” กอดอกอย่างเชิดๆคิดว่ายูริกำลังหึงตัวเองที่มาทานอาหารเย็นกับแทคยอน แต่ก็ต้องหน้าแตกกลับมาเมื่อยูริปฏิเสธ “เปล่า”


    “นี่อะไรของคุณเนี่ย ถอย
    !


    เจสสิก้าลุกขึ้นมาดันตัวยูริให้ถอยออกมาจากประตู แต่ก็ต้องผงะถอยหลังกลับไปเมื่อยูริดันเธอให้กลับมานั่งที่เดิมแถมยังท้าวแขนกับผนังยื่นหน้ามาหาเธออีก


    ถ้ายูริเป็นผู้ชาย คงเจอเจสสิก้าผ่าหมากไปนานแล้ว


    “จ..จะทำอะไร” เจสสิก้าพูดเสียงสั่นๆเมื่อยูริยื่นหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นอีกจนเกือบจะชิดหน้าเธออยู่แล้ว


    ลมหายใจร้อนๆเป่ารดที่หน้าสวยของเจสสิก้าสร้างความหวั่นไวได้ไม่น้อย  ยิ่งเจ้าตัวจงใจถอดแว่นแฟชั่นออกแบบนี้แล้วมันยิ่งทำให้เจสสิก้าทำตัวไม่ถูก


    เจสสิก้าไม่ใช่เด็กน้อยอมมือ เรื่องจูบกับคนนู้นคนนี้บ้างก็เป็นธรรมดา แต่กับยูริเธอไม่เข้าใจในความรู้สึกนี้เลย


    ระยะห่างของปากยูริห่างจากมุมปากเจสสิก้าเพียงเล็กน้อย ใกล้จนเห็นคราบนมสดที่มุมปากของอีกคนชัดเจน


    นี่มาร้านอาหารแล้วยังสั่งนมสดอีกหรือเนี่ย


    “เจสสิก้าคุณเป็นเกมที่น่าสนใจจริงๆ” ดวงตาสั่นระริกจ้องมองใบหน้าของเจสสิก้า


    “คุณอาจจะไม่ชนะเกมนี้ก็ได้นะคะ” เจสสิก้าใช้มือคล้องคอยูริก่อนจะเอ่ยตอบอย่างท้าทาย เธอได้ยินยูริหัวเราะเบาๆในลำคอ


    “งั้นหรอ คุณดูหึงชัดเจนมากเลยนะ”


    “คุณก็ดูหื่นเงียบเหมือนกันค่ะ”  ยูริตาโตทันทีที่ได้ยินประโยคของเจสสิก้า
    นี่เราหื่นเงียบอย่างนั้นหรือ อะไรกัน...ทำไมไม่เห็นรู้ตัวเลยล่ะ เอ๊ะ หรือเราจะหื่นจริงๆ คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากัน สร้างความขบขันให้เจสสิก้าไม่น้อยผลักไหล่ยูริออกเบาๆ


    “อืม...ผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรกับคุณ” ยูริที่เปลี่ยนกลับมายืนหลังพิงประตูห้องน้ำอีกครั้งหรี่ตามเล็กน้อย ขณะที่มุมปากก็ยังคงรอยยิ้มเอาไว้เช่นเคย


    “ดูๆกันอยู่” ตอบเสียงดังฟังชัดอยากรู้นักว่ายูริจะต่อว่าอย่างไร


    “ดูๆกันอยู่งั้นเหรอ งั้นก็เหมือนฉันกับคุณเลยสิ อ่อ...พี่แทยอนที่มากับฉันเขาเป็นว่าที่หน้าใหม่ที่บริษัท” นอกจากจะทำหน้าตาใสซื่อแล้ว ยูริยังพูดต่อด้วยอารมณ์ขันเล็กๆ


    เจสสิก้าคงจะคิดผิด พื้นฐานเธอเป็นคนชอบเล่นเกม เพราะฉะนั้นเกมที่มันไม่มีความท้าทาย เธอจะเล่นไปทำไมให้เสียเวลา


    “ใครอยากรู้กัน แล้วฉันบอกตอนไหนว่าดูๆกับคุณ” ใบหน้าหวานใสแดงก่ำ


    “อ้าว ไม่รู้ล่ะ แล้วก็...” ยูริเว้นวรรคประโยค หยิบมือเรียวสวยของเจสสิก้าขึ้นมาทาบหน้าอกของตัวเอง


    “ได้ยิน..ไม่สิ รู้สึกหรือเปล่า เท่าๆกับของคุณไหม” จังหวะรัวเร็วที่เจสสิก้ารู้สึกได้จากมือช่างสอดคล้องกับเสียงที่มันดังก้องจากข้างในเสียเหลือเกิน


    ยูริยิ้มให้เจสสิก้าอย่างอ่อนโยนมือลูบศีรษะเล็กที่ปกคลุมด้วยเส้นผมบลอนด์อย่างทะนุถนอม ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป เหลือไว้เพียงความอบอุ่นให้กับอีกคน


     

    “พีแทยอน ยูลจ่ายแล้วกลับก่อนนะ ถ้าทานต่อก็จ่ายเองแล้วกัน”พูดจบยูริก็เดินออกจากร้านไป แทยอนที่ได้ยินก็ทำมือซ้ายรูปโอเคขณะที่มือขวาก็จับตะเกียบคีบเส้นหมี่เข้าปาก


    “น้องๆ เอาหมี่แบบนี้อีกชาม
    !” กวักมือเรียกพนักงานร้าน 'อืม ท่าทางจะต้องมากินบ่อยๆซะแล้วเรา'
    .....................................................................................................................................................................................................
    ยูริชอบเล่นเกมอ่ะนะ ถ้ามันไม่มีอุปสรรคมันก็ไม่สนุกใช่ไหมล่ะ? จึงไม่แปลกที่ยูริดูไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไร
    แต่ก็ถึงกระนั้น เกมกับชีวิตจริงมันไม่เหมือนกัน อาจจะมีดราม่ากันบ้างแต่ก็แบบเมาๆนั่นแหละ โฮะๆ
    ส่วนแทนี่ก็คงจะเร็วๆนี้น้า ม้วฟ ฮี่ฮี่ฮี่

    ปล.ไรเตอร์โดนลูกสุดที่รักบาดเลือดกระฉูด(เว่อร์ไป) หลังจากเล่นกีตาร์โซโล่มันส์ไปหน่อย งือ T T ระวังกันหน่อยนะสายกีต้าร์บาดแล้วเจ็บซี้ดเลยขอบอก (คงมีแค่แกคนเดียวนั่นแหละที่เล่นแล้วโดนบาด)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×