คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Scene: 4
“พี่ยูล บริษัทพี่เค้าโทรม../ บอกไปว่าพี่ไม่ว่าง” ยูริพูดตัดประโยคของยุนอา มือทั้งสองข้างกดแป้นพิมพ์อย่างเป็นจังหวะ
ยุนอาที่เดินเข้ามาในห้องจึงกลับไปบอกขอโทษแทนพี่สาวที่กำลังทำตัวไม่ว่างอยู่ในห้องนอน
มือข้างขวาควบคุมปุ่มลูกศรทั้งสี่ ส่วนมือข้างซ้ายควบคุมแผงอักขระที่คอยออกคำสั่งต่างๆตามแต่ละตัวอักษร นักเตะเสื้อสีฟ้าพลิกตัวกลับไปอย่างรวดเร็วทันทีที่ยูริใช้นิ้วกดปุ่มลูกศร บอลถูกส่งไปให้ผู้เล่นในทีมเดียวกันที่อยู่ห่างไปเล็กน้อย
สายตาหาช่องทางเลี้ยงลูกให้ไปถึงประตูฝั่งตรงข้าม ขณะที่สมองคิดแผนอยู่นั้น มือก็หาได้หยุดรอคอยคำสั่งจากสมอง บุกฝ่าเข้าไปท่ามกลางนักเตะเสื้อสีขาวสามคน
แต่เหมือนว่ายูริจะกะจังหวะผิดไปเล็กน้อย เมื่อผู้เล่นเสื้อสีขาวสไลด์ตัวเข้ามาตัดบอล เกมจึงผลิกกลับอย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายมีการคุมเกมดีมาก เล่นเกมบุกรวดเร็วปานว่าจะหลอกให้เธอปวดหัวเล่น ซ้ำยังส่งบอลยาวไปให้เพื่อนที่รออยู่หน้าประตู ขีดสีขาวแสดงถึงความแรงในการเตะของฝ่ายตรงข้ามเพิ่มขึ้นที่หน้าจอล่างซ้าย เมื่อนักเตะคนหนึ่งเริ่มง้างเท้าหมายจะยิงประตูตีเสมอ เหงื่อบนใบหน้าคมไหลซึมลงมาทั้งๆที่เครื่องปรับอากาศยังคงทำหน้าที่ของมันไม่ขากตกบกพร่อง
ปี๊ด~~~~
เสียงนกหวีดดังขึ้น ภาพที่ฉายซ้ำขึ้นมาปรากฏภาพของนักเตะเสื้อน้ำเงินของยูริเข้าไปสกัดขาของฝ่ายตรงข้ามจนล้มลงไป ยูริคงจะรู้สึกดีกว่านี้หากได้เพียงใบแดงใบเหลือง ไม่ใช่อีกฝ่ายจะได้ยิงลูกโทษแบบนี้ !! มองเวลาเหลืออีกไม่ถึงนาทีเกมก็จะจบ ขอแค่ลูกนี้ไม่เข้าเธอก็จะเป็นฝ่ายชนะ
มือชื้นเหงื่อเตรียมตัววางตำแหน่งที่แป้นพิมพ์ ส่วนทีมเสื้อสีขาวก็กำลังหมุนจอเลือกตำแหน่งเหมาะๆก่อนจะกดยิงเต็มเหนี่ยว เข้ากรอบประตูไปอย่างสวยงาม
ยูริถอนหายใจเฮือกใหญ่ ยังไม่ได้เตะคืนสักประตูเวลาก็หมดลงเสียแล้ว ครั้นพอวัดกันที่เตะลูกโทษก็กลายเป็นว่าเสมอกันเสียอย่างนั้น ตัวเลขตัวไม่ใหญ่มากขึ้นมายังหน้าจอ 1-1
ตอนนี้ภาพสนามกลับมาเป็นภาพผู้เล่นของทีมสองทีมข้างหนึ่งสีน้ำเงินอีกข้างหนึ่งสีแดง หรือที่เรียกกันว่าห้องพักนักกีฬา รอให้คนคลิ้กเข้ามาแข่งด้วย
นิ้วเรียวของยูริพิมพ์ลงไปบนแป้นพิมพ์ก่อนจะกด Enter ส่งข้อความถึงบุคคลที่เพิ่งร่วมเล่นเกมด้วยเมื่อครู่
ลิงกินกล้วย Says: สนุกมาก
ไม่นานเกินรออีกฝ่ายก็ส่งข้อความตอบกลับมา
ลูกหมาสีขาว Says: เหมือนกัน ^ ^
ลิงกินกล้วย Says: ไปและ ไว้โอกาสหน้านายเตรียมตัวแพ้ได้เลย
ยูริเลือกใช้คำว่านายเพราะจะมีผู้หญิงกี่คนกันจะเล่นเกมแบบนี้ แถมยังเทพแบบนี้เสียด้วย !!
ลูกหมาสีขาว Says: บาย จะรอแข่งแพ้นะ ปล.มันคงไม่มีวันนั้น
รอยยิ้มถูกกระตุกขึ้นที่มุมปากอีกครั้งกดปุ่ม ESC ออกเกม
‘เฮ้อ เสมอเหรอ ฝีมือแบบนี้หายากนะเนี่ย แข่งคราวหน้าจะเอาให้อ่วมเลย’
แกร็ก
ยูริปิดประตูห้องของตัวเองลง เดินยืดเส้นยืดสายมายังห้องนั่งเล่นเห็นน้องสาวตัวเองนั่งเคร่งอยู่กับตำราหนังสือต่างๆ
“เป็นหมอต้องอ่านขนาดนี้เลยหรอยุน ยังไงยุนก็เก่งอยู่แล้วนี่นา” นั่งมองยุนอาที่ไม่มีท่าทีสนใจอะไรเลยนอกจากตัวอักษรภาษาอังกฤษชวนหน้ามืดในหนังสือ น้องเธอทนอ่านไปได้อย่างไรนะ แค่เธอจับขึ้นมาอ่านหนึ่งบรรทัดแรกไข้ก็จะขึ้นแล้ว
“อืม...โรคเกี่ยวกับระบบประสาทมันซับซ้อนมากน่ะพี่ยูล ยุนอยากจะศึกษาให้ละเอียด” นี่ยังไม่ละเอียดอีกหรือ !! ยูริได้แต่แย้งในใจ นึกค่อนขอดว่าขี้แยขนาดนี้จะกล้าฉีดยาคนไข้ไหมเนี่ย
“เฮ้อ จะดูแลผู้ป่วย ก็อย่าลืมดูแลตัวเองล่ะ”
“อยู่แล้วน่า ยุนแข็งแรงจะตาย ดูดิๆ” ยุนอาเลิกแขนเสื้อเบ่งกล้ามโชว์ยูริ แต่ในสายตายูริเห็นว่ามันเป็นก้างมากกว่ากล้าม
“พอเหอะ เดี๋ยวเหม่งบวม แล้วนึกไงมาฟิตอ่านเป็นตั้งๆแบบนี้ล่ะ” ยูริถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก แม้ยุนอาจะทำงานเป็นแพทย์ก็จริง แต่ต้องอ่านเยอะถึงขนาดนี้เชียวหรือ
นี่ขนาดไม่ต้องเข้าเวรตั้งหลายวันแล้วยังจะขยันอีก
“พี่ยูลรู้เปล่า ยุนจะได้ดูแลคนไข้เดี่ยวๆเอง ไม่ว่างเหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว” ยุนอาอธิบายให้ฟัง เมื่อก่อนที่เธอไม่ค่อยมีงาน มีก็เข้าเวรไม่ดึกมากเท่าไร ก็เพราะเธอยังเป็นแค่ผู้ช่วยของอาจารย์หมอ แต่ตอนนี้เธอต้องรับผิดชอบคนไข้เดี่ยวรายแรก ถ้ารักษาผิดพลาดขึ้นมาเธฮจะเอาอะไรไปรับผิดชอบชีวิตเขาล่ะ
“คนไข้เป็นไงบ้างล่ะ”
“ก็ดี น่ารักดี...เย้ย ! ไม่ใช่ ! อาการยังไม่กำเริบเท่าไหร่ ดีที่มารับการรักษาไว” ยุนอาแก้ตัวเป็นพัลวัน มือสะบัดไล่ความร้อนที่ใบหน้า ให้ตายสินี่เธอเป็นอะไรของเธอเนี่ย ทำตัวให้ดูน่าเชื่อถือหน่อย!!
“ฮ่า ฮ่า จ้าๆ พี่จะไปข้างนอกเอาอะไรไหม ?” ยูริเดินไปหยิบเสื้อกันหนาวของตัวเองทันทีที่ยุนอาส่ายหน้าเป็นเชิงไม่เอาอะไร ก่อนจะหยิบแว่นตาแฟชั่นตลกๆของตัวเองขึ้นมาใส่
บ้านของยูริอยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะสักเท่าไหร่ เธอจึงเลือกเดินเท้าแทนการขับรถออกมา สายตามองทิวทัศน์ข้างทางไปเรื่อย อากาศช่วงกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวที่เริ่มเย็นลงส่งผลให้ยูริจำต้องใส่ถุงมือออกมาด้วย แม้ว่าความจริงแล้วจะไม่อยากใส่เพราะมันไม่สะดวกที่จะเล่นเกมก็ตาม
หยุดมองต้นไม้ต้นใหญ่ข้างทางที่อยู่ติดกับพื้นหญ้าราดลงสู่แม่น้ำ ยืนต้นโชว์กิ่งก้านสาขาใหญ่โตที่มีใบหรอมแหรม ยูริจำได้ว่าเมื่อฤดูร้อนที่แล้วต้นไม้ต้นนี้ผลิดอกสีสวยออกมาหยอกล้อกับแสงอาทิยต์ยามเย็น และประกายสีทองจากแม่น้ำก็ชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย ยูริยังจำได้อีกว่าก่อนที่ร้านกาแฟร้านประจำของเธอจะเปิดกิจการ เธอชอบมานั่งเล่นเกมที่ต้นไม้ต้นนี้
ต้นไม้ที่แม้ว่าจะไม่รู้ว่าชื่ออะไร แต่เธอก็ชอบมัน
สองเท้าเริ่มขยับอีกครั้งเดินต่อไปข้างหน้าพบกับสะพานคอนกรีตพาดผ่านแม่น้ำสายเดียวกันกับเมื่อครู่ ครั้งนี้ยูริไม่หยุดเท้าฝีลงแต่อย่างใด เดินต่อไปเรื่อยๆเห็นทางแยกสี่ทาง ตรงไปด้านขวาเป็นสวนสาธารณะ ด้านซ้ายเป็นร้านกาแฟและฟิตเนส
เมื่อสีของไฟจราจรเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียว ยูริจึงเดินข้ามถนนไปพร้อมๆกับคนอีกสองสามคน จุดมุ่งหมายคือสวนสาธารณะ
เย็นนี้ยูริไม่ได้พกแล็ปท็อปติดตัวมาด้วย และวันนี้ไม่ใช่วันเสาร์เจสสิก้าก็คงจะไม่มา
“สิก้า เย็นนี้ไปทานข้าวกับผมนะครับ” แทคยอนเอ่ยปากชวนเจสสิก้าที่เพิ่งจะเลิกงาน
“วันนี้สิก้าไม่ว่างค่ะ” เจสสิก้าตอบอย่างเฉยเมย สร้างความหงุดหงิดภายในใจของแทคยอน ทว่าชายหนุ่มหุ่นล่ำผู้นี้จะหมดความพยายามเสียเมื่อไหร่ ถ้าวันนี้เจสสิก้าไม่ไปทานอาหารเย็นกับเขา เขาก็จะตื้อมันอยู่อย่างนี้แหละ
“นะสิก้า ผมอยากให้สิก้าไปด้วยจริงๆนะ”
“ไม่!!”
“เจสสิก...”
“ฉัน-ไม่-ไป”
“โธ่ สิก้าช่วงนี้เราไม่ค่อยได้ไปไหนด้วยกันเลยนะ”
“เคยมีช่วงที่ฉันไปไหนด้วยกันกับคุณด้วยหรอคะ จำไม่ได้” หากเจสสิก้าก็ยังคงเฉยไม่ใส่ใจอีกคน จนแทคยอนเริ่มจะเย็นไม่ไหวคว้าข้อมือของเจสสิก้าให้หันกลับมาหาตัวเอง
แรงของเจสสิก้าเมื่อเทียบกับผู้ชายแข็งแรงอย่างแทคยอนมันช่างน้อยนิด ไม่ว่าจะสะบัดข้อมืออย่างไรแทคยอนก็ไม่ยอมปล่อยเธอสักที กลับกันยิ่งเธอสะบัดแรงมากเท่าไรแขนขาวๆของเธอก็ยิ่งแดงมากขึ้น
“คุณจะเอายังไง เราตกลงกันแล้วนี่ เรื่องของเรามันแค่เล่นๆ !!” เจสสิก้ามองตาขวาง เธอไม่ชอบให้ใครมาเรียกร้อง ไม่ชอบให้ใครมาทำตัวเป็นเจ้าของเธอ
แทคยอนพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะปล่อยมือของเจสสิก้าลง พร้อมกับชูมือยอมแพ้
“ผมรู้ แต่ให้โอกาสผมได้ไหม แรกๆผมยอมรับว่าผมเองก็เล่นๆ แต่ตอนนี้ผมจริงจังกับคุณมากนะ” ส่งสายตาเว้าวอนไปให้เจสสิก้าที่ยังคงนิ่งไม่พูดอะไร
“ผมอาจจะอารมณ์ร้อน แต่ผมมั่นใจว่าเปลี่ยนแปลงตัวเองได้” เจสสิก้ายังคงนิ่งต่อไป คิ้วสวยขมวดมุ่นหากันราวกับมี่สิ่งครุ่นคิดในใจ
“ขอเวลาให้ผมได้ทำอะไรบ้างได้ไหม ถ้าถึงตอนนั้นคุณไม่รู้สึกอะไรผมจะเลิกยุ่งกั.../ 3 เดือน” พูดจบเจสสิก้าก็รีบเดินหนีไป ทิ้งไว้เพียงชายหนุ่มที่ยืนค้าง
นี่เจสสิก้ากำลังให้โอกาสเขาใช่ไหม !!
“ขอบคุณมากนะสิก้า !!” ตะโกนออกไปแม้รู้ว่าอีกคนจะไปแล้ว
...แค่ 3 เดือน เขาจะทำให้เจสสิก้าหันมารักเขาให้ได้
เจสสิก้าหลับตานั่งอยู่ในรถ เมื่อครู่เธอเพิ่งได้คุยกับแทคยอนและบอกให้เวลาเขาพิสูจน์ตัวเองภายในเวลาที่เธอกำหนด เธอไม่ได้อยากท้าทาย ไม่ได้อยากที่จะเอาชนะ
คงเหมือนที่ทิฟฟานี่เคยพูดกับเธอว่า...เธอเปลี่ยนไป
ใช่ !! เจสสิก้ายอมรับว่าเธอเปลี่ยน
เธอเหนื่อยที่จะคบใครหลายๆคน
เธออยากจะเริ่มจริงจังกับใครสักคนหนึ่งในชีวิต
เพียงแต่เจสสิก้าก็ยังคงเป็นเจสสิก้า อาจจะดูเห็นแก่ตัว แต่คงไม่ผิดถ้าเธอจะมีตัวเลือกสองทาง ไว้เลือก ...แทคยอน...ยูริ...
สำหรับแทคยอนเขาเป็นคนดีมากคนหนึ่ง ไม่สุภาพเกินไป ไม่รุ่มร่ามเกินไป เป็นผู้ชายที่ตรงกับสเป็คที่เคยตั้งไว้แม้จะไม่ตรงไปซะทีเดียว แต่ก็นับว่าตรง ถ้าไม่นับเรื่องอาการหึงหวง ชอบทำตัวเป็นเจ้าของเธอ ถือว่าเป็ฯทางเลือกที่ดี
เธอจึงลองให้โอกาสแทคยอนดูสักครั้ง..มันก็ไม่ได้เลวร้าย..หากจะมีชายหนุ่มที่รักเราจริงอยู่ข้างกาย
สำหรับยูริ เธอแก่กว่าเขาถึงสองปี แต่ยูริดูมีความเป็นผู้นำ แลดูอบอุ่น และมีเสน่ห์ แม้เธอจะไม่เคยคบกับผู้หญิงแต่เธอก็เชื่อว่ายูริจะปกป้องเธอได้
แต่ก็ใช่ว่ายูริจะดีไปเสียทุกอย่าง เธอรู้ว่ายูริเป็นคนติดเกม ทำงานให้กับบริษัทเกม ถ้าสักวันเธอได้คบกับยูริ เธอจะแน่ใจได้อย่างไรว่ายูริจะไม่ลืมเธอเพราะเกม และอีกข้อเสียใหญ่คือ ยูริดูไม่ค่อยจริงจังกับเธอ ไม่ค่อยให้ความใส่ใจ ตรงข้ามกับแทคยอนที่ใส่ใจเธอทุกอย่าง
บางทีการที่เธอให้โอกาสแทคยอน ก็เพื่ออยากจะทำให้ใครบางคนได้รู้สึกตัวทำอะไรเสียบ้าง
..........................................................................................................................................................................................
เจสสิก้าคิดได้แล้วนะ ทุกคน โฮะๆๆ
ความจริงแทคยอนก็เป็นคนดีนะ แทคไม่ร้ายมากหรอก(มั้ง แย้ก! ใครเอารองเท้ามาเนี่ย!)
อีกอย่างยูลจะได้รู้ตัวสักที สวยๆแบบเจสสิก้ามีมาไม่เยอะหรอกนะ -*-
ความคิดเห็น