ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic-SNSD] G-A-M-E [yuri]

    ลำดับตอนที่ #2 : Scene: 2

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 54


    กรุ๊ง กริ๊ง ~.

     

    “ยินดีต้อนรับครับ” ประโยคเดิมที่ได้ยินทุกครั้งดังขึ้นมา พร้อมกับไปหน้าของพนักงานคิดเงินคนเดิมที่ส่งยิ้มมาให้คุณลูกค้าก่อนจะทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย เมื่อเห็นหน้าลูกค้าประจำเดินเข้าร้านมาด้วยรอยยิ้มประจำตัว

    สองขาก้าวเดินไปยังโต๊ะติดกระจกที่ไม่ว่าจะมากี่ครั้งเธอก็จะนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวนี้  เงยหน้ามองดูนาฬิกาติดผนังที่บ่งบอกเวลาว่าขณะนี้ เป็นเวลาสี่โมงเช้า...อืม ก่อนเวลานัดแค่ 3 ชั่วโมง

     

    ส่วนคนที่โทรไปนัดจะมาหรือเปล่า นั่นก็อีกเรื่อง

     

    ยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นบนหน้า ขณะที่มือก็กำลังเปิดหน้าจอแล็ปท็อปประจำกาย แว่นกรอบดำไร้เลนส์ถูกดันขึ้นเล็กน้อย สายตาจับจ้องไปยังตัวละครในเกม และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ยูริถูกดูดเข้าไปในโลกอีกมิติ

     

     

    “เจส เธออ่านรูปความนี้ทีสิ” เอกสารฉบับหนึ่งถูกยื่นไปตรงหน้าหญิงสาวผมบลอนด์  ก่อนที่จะรับมันไปอ่านสักพัก หญิงสาวผู้ถือตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมายของบริษัทเอกชนรายใหญ่เงยหน้าขึ้นก่อนจะวางกระดาษนั้นลง


    “รูปความไหนคะ” ถามก่อนจะชี้ลงไปบนกระดาษ


    “รูปความนั้นแหละ” ทิฟฟานีตอบก่อนที่จะดันตัวขึ้นมานั่งไขว่ห้างบนโต๊ะทำงานของตัวเองที่อยู่ใกล้ๆกับโต๊ะทำงานของเพื่อนสาวผมบลอนด์


    “รูปความนี้ฉันขอไม่ตอบค่ะคุณฮวัง” เจสสิก้าเอ่ยขึ้นมายิ้มๆอยากเห็นท่าทีของทิฟฟานีเมื่อโดนเธอขัดใจ

    วอนท์มากเลยสินะฟานี่

    “อะไรกัน นี่ก็จะเที่ยงแล้วฉันว่าเราไปหากาแฟทานกันเถอะนะ ร้านตรงข้ามสวนสาธารณะเป็นไง”


    “อยากทานกาแฟหรืออยากเห็นหน้าใครกันแน่ยะ” เจสสิก้าพูดค่อนขอดอย่างรู้ทัน นี่หวังจะให้เธอพาไปดูหน้าคุณควอนสินะ


    ...แล้วรูปความที่ไหนเขาเขียนว่าจะไปตามนัดหรือเปล่ากัน


    “โธ่ เจสซี่ ฉันฟังเธอเล่าเรื่องแล้วเธออ่อยเขามากเลยนะ ก็อยากจะรู้บ้างว่ากิ๊กเธอหน้าตาเป็นไง” ทิฟฟานีอยากรู้แค่นี้จริงๆนะ สาบานได้
    !!


    “ฉันไม่ได้อ่อย
    !!” ตะโกนออกไปเสียงดังก่อนจะรีบหยิบกระเป๋าถือราคาแพงเดินสะบัดออกจากห้องไป


    อ่อย...เธอไม่ได้อ่อยเสียหน่อย เขาเรียกวิธีการทำความรู้จักขั้นพื้นฐานต่างหาก...


    “จะไปไหมล่ะ ร้านกาแฟน่ะ” เสียงแหลมๆดังขึ้นอีกครั้งเป็นเหตุให้คนที่อยู่ในห้องได้แต่ขำคิกคักกับท่าทางของแม่เสือสาวที่อนาคตอาจจะถอดเขี้ยวไปเป็นลูกแมวน้อยขี้อ้อนที่แสนน่ารักน่าชังของเจ้าของก็เป็นได้

    คำพูดอีกอย่าง การกระทำก็อีกอย่างเลยนะเจสสิก้า

     

     

    ดูเวลาก็ผ่านมาสองชั่วโมงแล้ว ยูริจึงตัดสินใจเปิดหน้าจอแล็ปท็อปค้างไว้ ปล่อยให้ระบบออร์โตทำหน้าที่เล่นเกมแทนผู้เล่นจริงๆ
    มือเรียวหยิบกระดาษใบเล็กสีขาวออกมาจากกล่องก่อนจะจดสั่งวาฟเฟิ้ลพร้อมนมสดหนึ่งแก้วอันเป็นที่โปรดปราน ยื่นให้พนักงานที่เดินผ่านมา

    ระหว่างรอก็มองออกไปนอกกระจกร้าน สวนสาธารณะที่เงียบสงบถูกปกคลุมไปด้วยแดดที่สาดส่องอย่างทั่วถึงช่างเป็นบรรยากาศที่น่านอนมากสำหรับยูริ ไอแดดภายนอกเป็นเหมือนตัวดูดเอาพลังงานของเธอให้เหลือน้อยลง

    นี่ก็คงเป็นอีกสาเหตุที่ยูริเลือกจะฝังตัวอยู่แต่ในห้องนอน เล่นเกมไปด้วยแล้วก็เปิดแอร์เย็นฉ่ำทั้งวัน

     

    ...แล้วทำไมเธอถึงไม่ขาวสักทีนะ ?

     

    วาฟเฟิ้ลราดช็อกโกแลตพร้อมนมสดหนึ่งแก้วถูกวางลงบนโต๊ะ โดยที่ยูริก็ไม่ลืมจะพยักหน้าขอบคุณพร้อมรอยยิ้มเหมือนเช่นทุกครั้ง


    วาฟเฟิ้ลขนาดพอดีคำถูกส่งเข้าปากไปอย่างไม่รีบร้อน มือกดคำสั่งยกเลิกการเปิดระบบออร์โตก่อนจะออกเกม เลือกเกมใหม่ที่เพิ่งได้มาเมื่อสี่ห้าวันก่อน


    ลักษณะของเกมเป็นเกมแนวแอทเวนเจอร์ เก็บเลเวลไปเรื่อยๆ กราฟฟิคโอเคแต่ยังมีบางจุดที่ทำออกมาได้ไม่เนียน รวมๆแล้วเต็มสิบเธอให้ห้าคะแนน

     

    เมื่อไหร่นะที่จะมีคนสามารถสร้างเกมที่เธอจะให้คะแนนสิบเต็มสิบได้เสียที

     

    คิดถึงตรงนี้ยูริก็ได้แต่หัวเราะออกมาเบาๆตั้งแต่เธอเริ่มเล่นเกมตั้งแต่ไม่กี่ขวบ คะแนนที่ให้อย่างมากที่สุดก็แค่เจ็ด เล่นมาสิบกว่าปีก็ไม่เห็นมีแววว่าเกมไหนจะได้มากกว่านี้เลย

     

    งานทดสอบหน้าใหม่ของบริษัทปีนี้จะมีอะไรดีไหมนะ

     

     

    กรุ๊ง กริ๊ง ~.

     

    กระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับผู้หญิงสองคนในชุดสูทแบบสาวออฟฟิส กระโปรงสั้นอวดเรียวขาสวยให้หนุ่มตาเป็นมัน คนหนึ่งมีผมสีบลอนด์ทองหน้าตาติดไปทางหยิ่งๆเชิดๆ อีกคนผมดำยาวเหยียดตรงมีหน้ามาปกที่มาพร้อมๆกับตายิ้มสวยใสกระชากใจบุรุษ

    บรรดาหนุ่มๆในร้านทั้งหลายที่ตั้งแต่ทั้งสองสาวก้าวเข้ามาก็พากันค้างตะลึงกับความงามไปเป็นแถบๆ ส่วนสายตาของเหล่าหญิงสาวทั้งหลายก็มองด้วยความอิจฉาตาร้อน


    จะยกเว้นอยู่คนเดียวที่ไม่มีท่าทีตกใจตะลึกค้างหรือส่งสายตาอิจฉาเหมือนคนอื่นๆ ก็ผู้หญิงหน้าสวยคมใส่เสื้อกันหนาวมีฮู้ดสีเทา กับแว่นแฟชั่น ที่นั่งจิ้มวาฟเฟิ้ลราดช็อกโกแลตเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยพร้อมกับยกแก้วนมสดขึ้นมาดื่มจนหมด ปิดท้ายด้วยการหยิบผ้าเช็ดหน้าสีดำสนิทขึ้นมาเช็ดคราบนมที่เพิ่งดื่มไป


    “เจสซี่เธอแน่ใจหรอว่าเขาจีบเธออ่ะ” ทิฟฟานีหันมากระซิบกับเพื่อนสาว หลังจากที่เจสสิก้าชี้ให้ดูตั้งแต่อยู่นอกร้านแล้วว่าคนไหนคือยูริ  เพียงแต่ท่าทางที่เธอเห็นจากผู้หญิงหน้าคมคนนั้นดูจะไม่ได้สนใจเธอและเจสสิก้าเลยแม้แต่น้อย


    แล้วจะเชื่อได้อย่างไร ในเมื่ออีกฝ่ายไม่มีท่าทีสนใจกันแบบนี้


    ว่าไปแล้วก็เห็นยูริสั่งนมสดเพิ่มอีกแก้วกับพนักงานร้านก่อนจะหันกลับไปจ้องแล็ปท็อปเฉียดแสนของตัวเองต่อ


    “เดินตามฉันมาเถอะน่า” เจสสิก้าขมวดคิ้วมองไปที่โต๊ดติดกระจก บอกให้ทิฟฟานีเดินตามตัวเองไปนั่งโต๊ะเดียวกับยูริ


    ตามความคิดของทิฟฟานีแล้วยูริจัดอยู่ในกลุ่มคนหน้าตาดีเลยทีเดียว แต่ติดที่ว่าเจ้าตัวใส่แว่นแฟชั่นตลกๆมาปิดบังไว้เนี่ยสิ


     

    “ขอฉันกับเพื่อนนั่งด้วยคนนะคะ”

    เสียงที่ดังขึ้นช่วยดึงให้ยูริกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงหวานๆนั้น พลันก็กระตุกยิ้มที่มุมปากตามความเคยชินให้กับสองสาวสวย

     

    หากทิฟฟานีมองไม่ผิดเธอเห็นตาของยูริเป็นประกายเมื่อมองเจสสิก้า ไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนจะรู้ตัวบ้างหรือเปล่า

     

    ยูริปิดหน้าจอแล็ปท็อปอีกครั้งก่อนจะหันมาขอบคุณพนักงานที่นำนมสดที่สั่ง มาเสิร์ฟให้

     

    “เจส..คนแบบนี้โลกส่วนตัวสูง ถ้าเธอไม่เอา ฉันขอนะ” ทิฟฟานีกระซิบบอกกับเจสสิก้าอีกครั้งขณะที่ตาก็จ้องมองไปที่ผู้หญิงหน้าคมตรงหน้าที่ยกนมสดแก้วใหม่ขึ้นดื่ม


    “ไหนว่าไม่สนผู้หญิงไงยะ” เจสสิก้ากัดฟันพูดกับทิฟฟานี รอให้ยูริพูดอะไรสักอย่างอีกคนก็ไม่ยอมพูดสักทีจนในที่สุดเจสสิก้าก็ทนไม่ไหว


    “คุณคือควอน ยูริสินะคะ” ยูริยังคงยิ้มแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร


    “ฉันจอง เจสสิก้า ส่วนนี่เพื่อนของฉันฮวัง ทิฟฟานี” ยูริพยักหน้าก่อนจะเริ่มพูดบ้างเพื่อไม่ให้ดูเสียมารยาทเกินไป


    “ยินดีที่ได้รู้จักฉันควอน ยูริ เรียกยูล หรือยูริ ก็ได้ตามสบาย อายุ 23”


    “อ่า งั้นยูริก็อายุน้อยกว่าเราสองปีงั้นสิ เรียกพี่ว่าฟานี่ออนนี่ก็ได้นะจ้ะ” กระดี๊กระด๊าแนะนำตัวเองอย่างสนิทสนม
     


    ดูท่า...ทิฟฟานีคงจะว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองเสียแล้ว

     

    ว่าเพื่อนตัวเองอ่อย แต่ตัวเองดันม่อเสียขนาดนี้ !!


    “ไม่ล่ะ ฉันขอเรียกคุณว่าคุณเหมือนเดิมดีกว่า” หากเจสสิก้าได้ยินไม่ผิดเมื่อครู่เธอได้ยินเสียงของบางอย่างตกแตก


    ยิ้มอย่างสะใจให้ทิฟฟานี รู้เสียบ้างคนนี้ของเธอ
    !!


    “ถ้าอายุ23ก็ยังเรียนอยู่มหา
    ลัยงั้นสินะคะ” เจสสิก้าถาม


    “เปล่าหรอก ฉันไม่ต่อมหา
    ลัยน่ะ”คำตอบของยูริสร้างความประหลาดใจแก่เจสสิก้าและทิฟฟานีเป็นอย่างมาก คิดว่าอย่างยูริจะต้องเป็นพวกเด็กคณะวิศวคอมพิวเตอร์ที่ชอบเล่นเกมอะไรเทือกนั้น


    “แล้วคุณทำอะไรหรอ”เมื่อรู้สึกตัวว่าเป็นการเสียมารยาททิฟฟานีจึงพูดเบี่ยงเบนประเด็นนั้นไป


    “ทำงานให้บริษัทเกมน่ะ” ยูริตอบอย่างฉะฉาน ทิฟฟานีจึงโล่งใจ นึกว่าเพื่อนของเธอ จะได้แฟน(
    ?)เป็นคนไม่มีอนาคตเสียแล้ว


    “แล้ว..คุณสองคน..”


    “พวกเราเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายค่ะ”

    ยูริยิ้มเล็กน้อยตั้งใจฟังที่เจสสิก้าและทิฟฟานีเล่าเรื่องของพวกเธอ


    รู้สึกตัวอีกทีก็ปาเข้าไปสี่โมงเย็นเสียแล้ว

     

    อย่างที่ไอน์สไตน์กล่าวไว้  หากคุณนั่งคุยกับสาวสวยในเวลาหนึ่งชั่งโมง คุณจะรู้สึกว่ามันสั้นเพียงหนึ่งนาที

     

    ตอนนี้สี่ชั่วโมงของยูริที่ได้พูดคุยกับสาวสวยสองคนตรงหน้า เธอรู้สึกเหมือนเวลาเพิ่งผ่านไปเพียงสี่นาที..

     

    “ไปเดินเล่นกันไหม” ยูริเอ่ยชวน

     

    สี่โมงเย็น..เวลาประจำที่เธอจะออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ

    โดยหวังว่า เมื่อใดที่กลับมา เธอจะเห็นหน้าของใครบางคนส่งยิ้มหวานๆมาให้

     

     

    “กลับมาแล้ว” ร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาในบ้านพร้อมส่งเสียงเป็นสัญญาณการกลับมา


    ใบหน้าทะเล้นที่ละม้ายคล้ายคลึงกับตัวเองชะโงกหน้าขึ้นมามองจากโซฟาตัวยาว  เห็นผู้เป็นพี่เดินยิ้มกริ่มมาแต่ไกล


    คงจะเจอเรื่องดีๆมาสินะพี่ยูล

    ………………………………………………………………………………………………………………………………
    ฮ่า ฮ่า ขอบอกไว้ก่อนว่ายูริเรื่องนี้ไม่ธรรมดานะเออ
    มาแบบเมาๆแต่โรแมนติก....รึเปล่า?
    ส่วนคู่หูเจทิ ชีทั้งสองแรง!!~ ได้มากกว่านี้อีก นี่แค่พอหอมปากหอมคอ ฮี่ฮี่ฮี่ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×