ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จักรพรรดิ ออนไลน์ (online)

    ลำดับตอนที่ #5 : อาณาเขตแห่งความสิ้นหวัง

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 57


    อาณาเขตแห่งความสิ้นหวัง

     

     

     

    ในรอบหลายสัปดาห์มานี้ นาคินต้องใช้เวลาส่วนมากในการจัดการเรื่องภายนอก เขานำเงินที่ได้ส่วนหนึ่งซื้อที่ดินผืนใหญ่  เพื่อดำเนินการสร้างที่อยู่ใหม่ให้กับแม่ใหญ่และน้องๆของเขา รูปแบบที่เขาคิดไว้เขาจะสร้างเป็น สถานสงเคราะห์เด็ก ขนาดใหญ่ โดยจัดสร้างตึกเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย พร้อมกับการติดตามเพื่อนๆกลับมาเพื่อช่วยเหลือในการวางพื้นฐานสำหรับโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นมาในไม่ช้า ถึงแม้แต่ละคนจะลึกลับเกินไปก็ตามที

     

    เขาล้มตัวลงนอน โดยไม่ลืมที่จะสวมเครื่องเล่นเกมไว้ หลังจากที่ผ่านมา 3 สัปดาห์ เขามีเวลาเพียงไม่เท่าไหร่ในการเข้าไปในเกม แต่ก็สามารถเลือกและฝึกทักษะที่มีอยู่ได้อย่างคล่องแคล่ว  แต่ก็ยังไม่ได้ลองใช้กับสิ่งมีชีวิตจริงๆซักครั้ง

     

    แบล็คมองผู้คนที่เดินกันอย่างขวักไขว้เช่นเดิม เมืองเริ่มต้นอโยร์เดีย 1 ใน 4 เมืองเริ่มต้นของจักรพรรดิออนไลน์  และเป็นเมืองเริ่มต้นสำหรับเขา เมืองแห่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยชีวิตชีวาเช่นเดิม แม้ว่าเกมจะผ่านมากี่ปีแล้วก็ตาม

     

    แบล็คมองลอดหน้าต่างของร้านอาหารชื่อดังในเมืองเริ่มต้น โดยไม่สนใจหลายสายตาที่มองมายังเขา มันอาจจะแปลกไปบ้างที่ผู้เล่นที่อยู่ในชุดเริ่มต้นจะมานั่งกินอาหารในร้านหรูหรานี้ และคงคิดแค่ว่าเขาเป็นพวกคนรวยที่เติมเงินเข้ามามากมายเพียงแค่เพื่อความสบายเท่านั้น แต่ใครจะรู้ถึงความสามารถของชุดนี้ที่ไม่ใช่ชุดธรรมดาอย่างชื่อเลย

     

                “เก็บเงินด้วยครับ” แบล็คเรียกพนักงานเก็บเงิน

                “ 420 เงินค่ะ” เธอพูดขึ้น

                แบล็คยื่นบัตรให้กับเธอ ก่อนจะมองตามร่างบางที่เดินไปที่เคาเตอร์ ถึงเขาจะเสียดายเงินอยู่บ้างแต่นานๆกินทีคงไม่เป็นอะไร

     

                ชายหนุ่มเดินออกจากเมืองอย่างช้าๆ จนในที่สุดก็เข้าสู่เขตป่าซึ่งมีผู้เล่นอยู่เพียงบางจุดเท่านั้น สองขาก้าวเดินอย่างช้าๆเหมือนกับกำลังรออะไรซักอย่างอยู่ ก่อนจะ  แสระยิ้มออกมาเมื่อรู้ว่าบางอย่างเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว เขาหยุดเท้าลงพลางเงยหน้ามองท้องฟ้า

                              

                คนจำนวน  5คนกำลังล้อมชายหนุ่มที่อยู่ในชุดเริ่มต้น พร้อมกับกระชับอาวุธในมือ พวกเขาจ้องมองแบล็คด้วยสายตาเรียบเฉยราวกับเรื่องที่กำลังจะทำเป็นเรื่องปกติ

                “ต้องการอะไรครับ”แบล็คเอ่ยขึ้นเมื่อมีชายคนหนึ่งก้าวเดินออกมายืนด้านหน้า

                “นายก็น่าจะรู้นิ” หลังจากติดตามมาตั้งแต่ในเมือง การเคลื่อนที่ของชายตรงหน้าคนนี้มีลักษณะแปลกทำให้เข้าพอจะจับได้ว่าชายหนุ่มรู้ตัวก่อนแล้ว

                “รู้อะไรกันครับ ผมมันก็แค่มือใหม่” แบล็คปฏิเสธด้วยท่าทางยียวน

                “ก็แล้วแต่นะ ยังไงก็ช่วยส่งของที่มีมาให้ด้วย แล้วก็ช่วยตอบคำถามซักหน่อยจะได้ไปเกิดใหม่แบบไม่ทรมาน”

                ชายที่เป็นหัวหน้าของเหล่าโจรพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงคุกคาม

                “โจร กระจอก ชุดเริ่มต้นยังจะปล้นอีก”น้ำเสียงเยาะเย้ยดังขึ้น

                “ลูกพี่ครับ ทรมานมันเลยดีกว่าครับแล้วค่อยบังคับเอาของกับเงินมา” ลูกน้องส่งเสียงกระตุ้นหัวหน้าเพราะเริ่มจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่

                “ไอ้หนู พี่ว่าอย่ามาเล่นลิ้นดีกว่า จะทักษะจะอะไรที่ใช้อยู่ ปิดข้อมูลได้ไม่หมดหรอกนะ”

                “นี่พี่รู้ได้ไงว่าผมมี”แบล็คพูดเสียงสั่นๆ ก่อนจะพูดขึ้นมาอีก “แล้วมีปัญญาเอาไปเหรอครับ”

                ความจริงแบล็คก็รู้ตั้งแต่เริ่มเดินออกจากร้านอาหารแล้วว่ามีคนติดตามมา เขาจึงเดาว่าพวกมันไม่ได้มาดีแน่ แต่ด้วยความอยากลองของจริง จึงลดการปิดบังในส่วนของชุด ในเวลาไม่นานพวกนั้นก็มีคนเพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้า แบล็คได้แต่หวังว่าเขาจะพอได้ลองทักษะบ้าง

                เขามองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาเดือดดาล ก่อนจะออกคำสั่งกับลูกน้อง

               “จัดการมัน”

                 คนอีก 4 คนที่เหลือพุ่งตัวเข้าหาแบล็คในทันที 2 คนแรกเพียงชั่วเวลาก็มาอยู่ที่ด้านหลังของแบล็คเรียบร้อย

                ตอนนี้แบล็คถูกจับไว้ด้วยคน 2 คน แต่เขากับยิ้มขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ

                “จะตายอยู่รอมร่อแล้วยังมายิ้มสงสัยกลัวตายจนเป็นบ้า” หนึ่งใน 4 คนนั้น ยกอาวุธก่อนจะเดินเข้ามาหาแบล็คด้วยมาดราชสีห์

                “ก่อนตายขอถามหน่อย ไอเทม+9 แกไปได้มายังไง” หัวหน้าที่ยังยืนที่เดิม พูดถามขึ้น เพราะที่เขารู้มาตอนนี้ของระบบสามารถตี +ได้เพียง 5 ขั้นเท่านั้น

                “ฝันไปเถอะ”แบล็คพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

                “ปากดีนัก พ่อจะล่อให้หมดตัวเลย จัดการเถอะ”มันสั่งลูกน้องทันทีก่อนจะเดินเข้าไปสัมผัสร่างกายแบล็ค เพราะพวกมันทั้ง 5 มีทักษะสายอาชีพโจรที่สามารถขโมยไอเทมผู้เล่นได้เพียงแต่ต้องสัมผัสร่างกายและรอเวลาทักษะทำงาน 40 นาที ซึ่งเวลาที่นานขนาดนั้นก็เพราะระดับทักษะที่ยังน้อยอยู่

     

                “แหม หมดตัวเลยเหรอครับ” แบล็คที่เคยมีรอยยิ้มเต็มใบหน้า แต่ทว่าตอนนี้มันกลับไร้ความรู้สึกใดๆ

                แบล็คมองพวกมันเขม็งเพราะตอนนี้เขากำลังเลือกทักษะที่จะใช้กับพวกมันให้เหมาะสมที่สุดอยู่ จนในสุดท้ายก็สามารถเลือกได้

                “พวกนายอยู่ดีๆ เคยรู้สึกเหมือนเริ่มต้นใหม่ไหม” อยู่ดีๆแบล็คก็ถามขึ้น

                “คำพูดของคนที่กำลังจะหายไปไม่มีความหมายใดๆหรอก” หัวหน้าโจรตอบกลับ

                แต่ทันใดนั้นพวกมันก็ต้องตกใจเพราะรับรู้ถึงพลังงานบางอย่างที่วิ่งเข้าสู่ร่างกาย

                “หัวหน้าครับทักษะมัน หยุดทำงานไปแล้วครับ”

                “หัวหน้าครับ ทักษะของผมมันถูกทำลาย 1 ไม่สิ 5ทักษะแล้วครับ”

     

                พวกมันถอยร่นห่างจากแบล็คพลางตรวจสอบข้อมูลตนเองอย่างตระหนก

                “นี่นายทำอะไรพวกเรา” เสียงตะกุกตะกักดังออกจากปากหัวหน้าที่ตอนนี้กำลังหน้าถอดสี

                เพราะว่าทักษะแต่ละทักษะกว่าจะมาถึงระดับนี้เขาต้องอดทนอยู่เพียงแค่เมืองเริ่มต้นตลอดตั้งแต่เริ่มเกม  ถ้ามันถูกทำลายเท่ากับว่าทุกสิ่งที่สร้างขึ้นจะหายไปในพริบตา

                “หัวหน้ามันไม่ใช่ผู้เล่นแน่นอน มันเป็นปีศาจชัดๆ ไหนจะชุดเริ่มต้น +9 ไหนจะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปีศาจ”เสียงหวานแบบผู้หญิงดังขึ้นด้วยความสั่นเครือ ซึ่งมาจาก 1 ในกลุ่มโจรนั้น เธอกำลังร้องให้พลางถอยหลังวิ่งหนีออกไป

               

    แบล็คชำเลืองมองร่างหนึ่งที่กำลังห่างออกไป เขาพุ่งตัวไปหาร่างนั้น ขวาน +9 ที่ได้จากบอสหมี ถูกตวัดฟาดฟันไปที่คอของร่างนั้นพร้อมกับอีกทักษะที่ถูกใช้ไป

    คมขวานแทรกผ่านเนื้อสีขาวบริเวณต้นคอ ผ้าที่ถูกคลุมหัวอยู่หลุดออกเผยเห็นหน้าหวานพร้อมกับผมยาวที่ถูกสายลมพัดไสว  แต่คมขวานก็ไม่ได้หยุดลง มันฟันผ่านเนื้อ เพียงชั่วพริบตา ร่างไร้หัวก็ร่วงหล่นลงสู่พื้นเลือดแดงฉาน พุ่งทะลักราวกับน้ำตก

    แบล็คหันไปมองศีรษะที่กลิ้งตกลงแทบเท้าเขา ในตาเบิกโพลนด้วยความกลัวของหญิงสาวยังคงลืมอยู่  เขาจ้องมองลงไปในดวงตานั้นด้วยแววตาสั่นระริก  แต่ทว่าปากรูปกระจับกับแสระยิ้มออกมา เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร แต่ทำไมมันถึงมีความสุขอย่างนี้

     

    4 คนที่เหลือเบิกตามองภาพตรงหน้าด้วยความตื่นกลัว นี่มันเกินไปแล้ว ถึงแม้เพียงเวลาไม่นานภาพที่เกิดขึ้นเมื่อครู่จะหายไป เหลือทิ้งไว้เพียงคราบเลือดปริศนาเท่านั้น  แต่ทว่ารอยยิ้มที่น่ารังเกียจนั้นก็ไม่ได้หายไปจากใบหน้าผู้ที่เขาคิดว่าเป็นเหยื่อที่กลายเป็นผู้ล่า ตัวเองไปซะแล้ว

     

    “ลูกพี่เอาไงครับ”

    “จะเอาไงละ ขนาดยัยนั้นที่เร็วที่สุดในกลุ่มยังไม่รอดแล้วเราละ สุดท้ายก็คงต้องสู้ตาย”

    “ ผมว่าหนีดีกว่าพี่แยกกันหนีต้องมีรอดซักคนละ”

     

    ชายคนนั้นออกตัววิ่งไปอย่างเต็มกำลังท่ามกลางสายตาของพวกมันที่มองตามร่างนั้น โดยที่มันตรงดิ่งไปยังเมืองที่จากมา เพราะว่าเป็นทางเดียวที่จะรอด แต่กระนั้นพวกมันก็ต้องหลับตาลงเมื่อนักฆ่าตัวจริง ทะยานตัวหายไปจากสายตา เพราะว่าพวกมันรู้ดีว่าเป้าหมายคืออะไร

     

    เสียงโวยวายดังขึ้นเพียงชั่วครู่ ก่อนจะเงียบหายไป ทั้ง 3 ลืมตาขึ้นก็พบเพียงรอยเลือดบนพื้นที่บ่งบอกถึงสหายที่ได้ตายจากไปอีกหนึ่งคน

    “ข้ายอมแล้วออกมาเถอะ” เสียงหัวหน้าผู้เคยหยิ่งผยองกลับร้องเรียกราวกับสุนัข มันมองไปรอบตัวเพื่อหาร่างนั้น พลันเสียงดังฉับก็เกิดขึ้น ศีรษะของลูกน้องอีกคนตกลงแทบเท้ามัน ถึงมันจะรู้ว่านี่เป็นแค่เกม แต่ความกลัวก็บดบังสิ่งนั้นไป เหลือไว้เพียงสัญชาตญาณเอาตัวรอดของมนุษย์เท่านั้น

    “คุณจะให้ผมทำยังไงบอกมาผมจะทำ แต่อย่าฆ่าผมเลย” มันวิงวอนกับผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในที่นี้

    “แน่ใจนะ” เสียงดังขึ้นจากชายที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยเลือด ยิ่งทำให้เขาเหมือนเพรชฆาต ที่รอคอยสังหารนักโทษตรงหน้า

    “ครับ ผมมั่นใจ ไว้ชีวิตผมเถอะ”เสียงสั่นระรัวดังร้องขอชีวิต

    “เอาอย่างนี้”ดวงตาดำขวับ จ้องไปยังชายคนนั้น “ พวกแก 2 คน ใครสามารถตัดขาของอีกฝ่ายได้ก่อนชนะ แต่ห้ามให้ถึงตายละ” น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความสนุกสนานดังขึ้น

    “แปลว่ายังไงครับ” เขาพูดกับแบล็คตาสายตาเริ่มมองไปยังลูกน้องที่อยู่ข้าง

    “พี่ อย่ายอมนะพี่ เราอยู่ด้วยกันมานานพี่จะทำกับผมได้ลงเหรอ” ชายคนนั้นต้องผวา เพราะชายอีกคนที่เขาเรียกหัวหน้านั้นเริ่มกระชับดาบในมือ แน่นอนถ้าดูที่ระดับแล้วเขากับหัวหน้าไม่ต่างกันมากนัก แต่ทว่าการที่อยู่ด้วยกันมานาน ทำให้รู้ว่าฝีมือตนยังด้อยกว่าพอสมควร

    “ขอโทษทีว่ะ ข้าจำเป็น อย่าโกรธกันเลยเดี๋ยวค่าประสบการณ์ที่หายไปจะช่วยเก็บคืนทีหลังแล้วกัน”

    “อย่าพี่”

    ถึงมันจะยอมรับว่าสู้ไม่ได้แต่ยังไงซะคงไม่มีใครจะยอมถูกฆ่าง่ายๆแน่ กระบี่ในมือยกขึ้นต้านดาบใหญ่ของหัวหน้าที่จะฆ่าเขา  จนอาวุธของมันกระเด็นหลุดมือไป มันตระหนักได้ว่าไม่รอดแน่
               เท้าขวาที่ว่างอยู่ไม่รอช้าฟาดไปที่ก้านคอของอดีตหัวหน้า ร่างใหญ่กว่าเซถอยหลังไป 2-3ก้าว มันได้จังหวะ ก้มไปหยิบกระบี่ที่หล่นอยู่ ก่อนจะกลิ้งตัวหลบคมดาบที่ถูกฟาดมา หมัดซ้ายที่ว่างอยู่ซัดไปที่หน้าของลูกพี่มันทันที พร้อมกับกระบี่ที่ถูกตะหวัดไปยังขาชายที่กำลังเสียหลักเพราะแรงหมัด
              คมกระบี่เชือนเข้าที่ขาอย่างจัง ร่างใหญ่ของหัวหน้าโจรถึงกลับทรุดลงมันไม่รอช้าเข้าซ้ำที่ขาเดิมอีกครั้ง จนในตอนนี้มันห้อยหรองแหรงอยู่ มีเพียงเศษเหนือเท่านั้นที่ยึดติดขากับร่างกายไว้  

    มันหันกัลับไปหาผู้ที่เป็นเหมือนเจ้าชีวิตของมันก่อนจะพูดขึ้น

    “ผมชนะแล้วนะครับ”

    มันร้องถามแบล็ค แต่ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ ความรู้สึกของมันก็หายไปเฉยๆ พร้อมกับร่างที่ขาดเป็นสองท่อนซึ่งมันไม่ใช่ฝีมือแบล็ค แต่เป็นชายอีกคนที่ใช้ดาบพยุงตัวอยู่

    “ฉันต่างหากที่ชนะ” มันพูดขึ้นด้วยความสะใจ


              “แหมใจร้ายจังนะครับ แต่ถึงยังไงผมก็คิดว่าเขาเป็นชนะ”

    ความโมโหเข้ามาแทนที่เมื่อได้ยินอย่างนั้น หัวหน้าโจรสบทออกมา “มึง กูขอสู้ตาย” มันพูดก่อนจะออกตัวเพื่อวิ่งเข้าหาแบล็ค แค่ด้วยสภาะที่มีทำให้มันสะดุดล้มลง

    ร่างโจรกำลังดิ่งลงสู่พื้นแต่ทว่ามันก็รับรู้ถึงของมีคมที่ฟันสวนขึ้นมา ไม่มีคำใดที่จะได้หลุดออกจากของมัน เพราะตอนนี้ศีรษะของหัวหน้าโจรลอยละลิ้วขึ้นฟ้า ก่อนที่แบล็คจะบรรจงผ่ามันด้วยขวานขนาดยักษ์ มันสมองสีขาวพร้อมกับเลือดสีแดงสดส่งกลิ่นคาวฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ  

     

    แบล็คยืนนิ่งกวาดตาไปที่ชายป่าก่อนจะพึมพำเบาๆ “เบื่อจริงพวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านนิ”

    “ไอ้คนที่อยู่หลังต้นไม้ออกมาเถอะ” แบล็คพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

    ซักพัก ร่างหนึ่งก็ออกมาจากหลังต้นไม้จริงๆ คนๆนั้นก้าวออกมาอย่างช้าๆ ใบหน้าที่แสดงถึงความเป็นชาวอาทิตย์อุทัยฉายออกมาอย่างชัดเจน

    “เฮ้อ รู้ด้วยเหรอเนี้ยอุตส่าห์คิดว่าเนียนแล้วแท้ๆ”คำพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆหลุดออกมาจากปากชายปริศนาเป็นคำแรก

    “มีอะไร”แบล็คถามขึ้นเพราะว่าถ้าบอกมาดูการต่อสู้ มันก็ได้จบไปแล้วไม่สมควรมารั้งรออยู่

    “ แหม แหม จะไม่ทำความรู้จักกันซะหน่อยเหรอครับ รีบไปไหน”

    “ไม่จำเป็น”

    “โธ่อย่าเย็นชานักซิครับ เป็นเด็กทำอย่างนี้ไม่ดีเลยนะ” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยิ้มอันเจ้าเล่ห์ถูกส่งออกมาจากชายปริศนา

    ไม่รู้เป็นเพราะอะไรตอนนี้แบล็คอยากจะฆ่าชายตรงหน้าเหลือเกิน ทั้งที่ปกติเขาค่อนข้างเก็บอารมณ์ได้ดีพอสมควร

    เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ามีท่าทีโมโห ชายปริศนาก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ

    “ถึงจะมีของดีขนาดนั้น แต่ก็นะคุณก็แค่เศษฝุ่นริมทางละครับ”

    “เศษฝุ่นเหรอครับ” แบล็คแค่นเสียง “บางทีเศษฝุ่นเล็กๆถ้ามันโดนจุดสำคัญของร่างกายมันก็อันตรายนะ”

    “อุ้ย กลัวจัง นี่เราโดนผู้เล่นระดับ 1 ขู่ซะแล้วซิ”ชายปริศนายังคงบุคลิกเดิมไม่เสื่อมคลาย

    แบล็คไม่พูดอะไรอีก มีเพียงขวานที่ถูกฟาดฟันเข้าใส่ชายคนนั้น ขณะที่คมขวานกำลังจะสัมผัสกับลำคอขาว แสงจากคฑาที่ชายปริศนาถืออยู่ก็ส่องแสงเป็นประกายก่อนที่จะเกิดเสียงปะทะดังสนั่นหวั่นไหวของคมขวานและทักษะนั้น

    แบล็คซึ่งตอนนี้มีแค่เพียงสิ่งเดียวที่อยู่ในความคิด นั้นคือฆ่าเท่านั้น กระชับขวานในมือ ก่อนจะเรียกทักษะที่เคยฆ่าพวกก่อนหน้ามาเตรียมไว้

    ร่างของแบล็คหายไปจากสายตาของชายปริศนา ชายคนนั้นกระชับคฑาในมือด้วยความระมัดระวัง เพราะรู้ว่าคู่ต่อสู้วันนี้ไม่ธรรมดา เขารอคอยการปรากฏตัวของชายคนนั้นด้วยความระมัดระวัง ก่อนจะเรียกใช้ทักษะ

    “เกราะวายุ” เกราะลมสีใส เกิดขึ้นรอบตัวชายปริศนา แต่ทว่าเพียงชั่วครู่ก็มีคมขวานกระแทกเกราะนั้นแตกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนจะคืบคลานไปยังร่างเป้าหมาย

    “ชิ คงต้องเอาจริง”ชายปริศนา ยกมือเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปาก

    “ทักษะมหาเวทย์ แห่งสายลม จงมาพยัคฆ์วายุ” เขาเรียกใช้ทักษะ  ก่อนที่ลมจะค่อยๆก่อตัวเป็นเสือขนาดใหญ่ขึ้น มันกางกรงเล็บเพื่อข่มขู่ชายตรงหน้า ก่อนจะวิ่งเข้าหาแบล็คด้วยความเร็ว

    แบล็คตั้งท่าเงื้อขวานเพื่อเตรียมต่อสู้กับเสือวายุด้านหน้า เขาใช้ทักษะอีกครั้ง พยัคฆ์วายุเมื่อเห็นว่าคนข้างหน้าไม่เกรงกลัวมันจึงฟาดกรงเล็บลมตรงไปยังแบล็ค อย่างรวดเร็ว แต่แบล็คก็ไม่ยอมฟาดขวานสวนไปทันที 1 สัตว์เวทย์ กับ 1 อาวุธปะทะกันเสียงสนั่นหวั่นไหว แบล็คเซถอยหลัง 3-4 ก้าว  ก่อนที่เสียงระบบจะดังขึ้น

    “ผู้เล่นไม่สามารถทำตามเงื่อนไขทักษะ จะถูกลดระดับตัวละคร 10 ระดับ แต่เนื่องจากผู้เล่นมีระดับที่ต่ำสุดแล้ว เงื่อนไขจึงถูกยกเลิก” แบล็คไม่ได้ยินดีกับเสียงเมื่อครู่เลยซักนิด เพราะมันบ่งบอกถึงความล้มเหลวของเขา แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ ทะยานตัวเข้าหาร่างอสูรสัตว์เวทย์ที่กำลังลุกขึ้นยืน

    กรงเล็บขนาดใหญ่ถูกฟาดอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ง่ายเช่นเดิม แบล็คตีลังกาหลบ

    อย่างสวยงาม พร้อมกับฟันร่างลมของสัตว์เวทย์เข้าอย่างจัง แต่กระนั้นก็ทำได้เพียงสร้างความบาดเจ็บให้มันเท่านั้น

    “อย่าดิ้นรนไปเลยครับ”ชายปริศนาที่ยืนชมการต่อสู้อย่างสบายใจพูดขึ้น

    “แค่เพียงตอบคำถามเกี่ยวกับชุด +9 นั้นมา ผมจะปล่อยคุณไปแล้วกัน”

    “หึหึ มันจะเป็นอย่างนั้นเหรอครับ” แบล็คส่งรอยยิ้มที่ทำให้บรรยากาศรอบๆดูเหน็บหนาวออกมา

    “ถ้ามีปัญญาทำอะไรก็ รีบเถอะ แล้วรีบๆตายฉันจะตามฆ่าแกจนของแกตกหมดตัวเลยละ” ชายปริศนาพูดขึ้นบ้างด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย  ชายตรงหน้าเขามันก็คงหนีไม่พ้นพวกใช้เงินเท่านั้นแต่ปัญหาคือมันสามารถตี+ ชุดได้จนสูงสุดได้ยังไง เพราะถ้ากิลด์ไหนสามารถตี+ถึง +9 ได้นั้น คงไม่ต้องพูดถึงความได้เปรียบที่มีมากมายมหาศาล

    แบล็คขยับขวานในมือ ที่เขาใช้มันโดยตลอด เพราะเขาต้องการฝึกให้ชิน เพราะมันต้องเป็นอาวุธหลักของเขาไปตลอด ไม่ใช่เพราะเขาชอบมันมากหรอก เพียงแต่การจะเป็นที่จดจำนั้นในใจคนนั้น ต้องมีอะไรที่เป็นจุดเด่นบ้าง ซึ่งอาวุธอย่างขวานที่ไม่ค่อยมีผู้เล่นนัก เพราะด้วยความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวจะลดลงแล้วทักษะที่ส่งเสริมมันก็ค่อนข้างหายากพอสมควร

    ทักษะที่เขาใช้ในวันนี้พึ่งผ่านไปแค่ 2 ทักษะเพียงแค่นั้น แต่ทว่าในวันนี้ทักษะที่3 คงต้องถูกใช้ซะทีเพื่อสังหารชายตรงหน้าลงให้ได้ และคงเป็นคอมโบที่สมบูรณ์พอสมควรถ้าทักษะที่ 4 จะถูกใช้ แต่ทว่าชายตรงหน้าสมควรที่จะได้รับโทษที่หนักหนาขนาดนั้นรึเปล่า

     

    ทักษะแรก อาณาเขตแห่งความสิ้นหวัง  ความสามารถของมันคือ สุ่มทำลายทักษะตั้งแต่ 1 ถึง 5 ทักษะ ขึ้นอยู่กับระดับทักษะ การใช้นั้นต้องสัมผัสร่างกายเป้าหมายนานกว่า 10 นาที  ทักษะถึงจะสามารถทำงานได้

    ทักษะที่ 2 ลานประหาร อโยเดียร์ ทักษะเรียกใช้  เมื่อสามารถตัดหัวของเป้าหมายได้ จะสุ่มลดระดับเป้าหมาย 1-100 ระดับ สุ่มทำลายไอเทมสวมใส่ 1-5 ชิ้น

    ขึ้นอยู่กับระดับทักษะ   แต่จะสูญเสียทักษะ 10 ระดับ ถ้าเป้าหมายรอดจากทักษะได้

     

                “ผมจะเอาจริงแล้วนะครับครั้งนี้”น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความสนุกสนานของแบล็คทำให้ชายตรงหน้าเดาะลิ้นด้วยความขัดใจ

                “อย่ามาปากดี ต่อหน้าจอมเวทย์แห่งลมอย่างฉัน”มันพูดออกมาพร้อมๆกับร่างเสือยักษ์ที่ขยายขนาดขึ้นไปอีก

    แบล็คมองภาพตรงหน้าอย่างไม่สะทกสะท้าน ความจริงแล้วทักษะสัตว์เวทย์ที่ชายตรงหน้าใช้เขาก็ย่อมรู้จักจุดอ่อนมันเป็นอย่างดีจากตารางทักษะที่เคยผ่านตามา  คนอย่างแบล็คก็คงไม่ปล่อยให้มันผ่านไป ถึงจะไม่สามารถจดจำได้หมด แต่ทักษะที่ความสามารถค่อนข้างดี เขาก็จดจำได้เกือบหมด

     

    “จอมเวทย์ ไร้สาระอะไร สุดท้ายมันก็ได้แค่นั้นละ” เขาชายตามองชายผู้ที่อ้างว่าเป็นจอมเวทย์อย่างดูแคลน ก่อนที่จะส่งเสียงก้องกังวาลขึ้นอีกครา

     

    “ทักษะ มหาเวทย์ .....”









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×