ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จักรพรรดิ ออนไลน์ (online)

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 59
      2
      15 พ.ย. 57

    บทนำ

     

               

    “เอาละค่ะ วันนี้เรามาชมภาพการชิงเมืองของกิลด์ อักษรสวรรค์ ซึ่งว่ากันว่าติด 1 ใน 10 กิลด์อันดับกิลด์ในตอนนี้เลยทีเดียว แหม เขาเลือกตีเมืองขนาดไม่ใหญ่มากในครั้งนี้ ทำให้หลายคนต่างก็ผิดหวังที่จะได้เห็นสงครามอันยิ่งใหญ่ซะแล้วซิครับ”

    เสียงพิธีกรรายงานการชิงเมืองของเกมที่โด่งดังที่สุดตั้งแต่มีการสร้างเกมขึ้นมา

    ภาพคนนับแสนเอาล้อมเมืองไว้ พร้อมกับอาวุธครบมือช่างเป็นภาพที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน ชายหนุ่มได้เพียงแต่มองมันด้วยแววตาเศร้าๆ คงจะมีซักวันที่เขาได้เข้าไปสัมผัสในโลกแห่งนั้น

    ภาพในอดีตหวนเข้ามาถึงชีวิตในวัยเด็ก ที่นาคินเด็กน้อยวัยเพียง7 ขวบ มองร่างไร้ชีวิตของบิดา มารดาที่ห้อยอยู่  ไม่มีอะไรเหลือสำหรับเขาในตอนนั้น ทรัพย์สมบัติที่เคยมีถูกยึดไปเพื่อปลดนี้ของครอบครัว เหลือไว้เพียงกระดาษแผ่นน้อยที่เขียนถ้อยคำล่ำลาไว้ พร้อมกับข้อความสุดท้ายที่ว่า

    “พ่อกับแม่ช่างเป็นคนที่อาภัพนัก ไม่อาจเห็นการเจริญเติบโตของลูกได้  ต้องขอโทษที่ต้องจากไปอย่างไม่อาจหวนคืน พ่อกับแม่หูเบาเกินไปเชื่อใจไว้ใจมันนึกว่าหวังดี แต่สุดท้ายมันก็โกงทุกอย่างไป มันเลว เลวที่สุด ลูกจงจำมันไว้ให้ดี

    ภาพหงสวรรค์

    มันคือพวกที่ทำลายเรา แต่ยังไงซะจงมีชีวิตอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายแห่งนี้ให้ได้ ถึงมันจะเป็นเพียงคำพูดของคนที่อ่อนแออย่างพ่อกับแม่ แต่มันก็มีเพียงเหตุผลเดียว นั้นคือความรักที่มีต่อลูกเท่านั้น” นั้นคือจดหมายฉบับสุดท้ายที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้เขา

     

    หลังจากนั้นเขาก็ถูกรับไปเลี่ยงดูโดยสถานสงเคราะห์แห่งหนึ่ง ซึ่งมีผู้ร่วมชะตากรรมเช่นเขาไม่น้อย มันไม่ได้สบายเหมือนอยู่กับบ้านของตัวเอง แต่ก็ยังดีที่ยังได้รับความรัก จากแม่ใหญ่ผู้ที่คอยดูแลพวกเขามา ถึงมันจะเป็นความรักที่ค่อนข้างจะลำบากไปบ้าง สุดท้ายมันก็คือความรัก

    วันแล้ววันเล่าผ่านไป เรื่องราวต่างๆค่อยจางหายไปตามกาลเวลา เพราะเขาไม่สามารถมานั่งจำจำอะไรได้มากนัก  เขาไม่เคยมีเงินพกติดตัวซักบาทตั้งแต่นั้น ถึงแม้จะทำงานพิเศษหาเงินได้บ้างเล็กน้อย แต่ทว่าก็ต้องมอบให้แม่ใหญ่ เพื่อดูแลน้องๆรุ่นหลังซึ่งประสบชะตากรรมไม่ต่างกัน บ้านพักที่เคยอาศัยมาเริ่มทรุดโทรมจึงต้องแลกมันด้วยความสุขที่ควรได้รับ คงมีเพียงร้านเกมแถวนั้นที่พอจะให้ความบันเทิงกับเขาได้ถึงแม้ได้แค่ยืนดูก็ตามที

     

    นาคินถอนหายใจ สะบัดภาพในหัวทิ้งไป ตอนนี้เขาอายุ 20 แล้วมีงานที่พอจะดูแลบ้านหลังนั้นได้ ซึ่งมันก็เป็นไปด้วยดีเพราะเพื่อนๆที่อาศัยมาพร้อมกันต่างช่วยเหลือกัน ทุกคนต่างไม่จดจำภาพในอดีต เริ่มเดินทางสู่วันใหม่กันอีกครั้ง ไม่ใช่เพื่อใครเพื่อตัวพวกเขาเอง

    หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จอาหารสำเร็จรูปก็ถูกนำเข้าไมโครเวฟในทันที ก่อนจะมีเสียงบ่งบอกถึงเวลาที่ได้กำหนดไว้ เกี้ยวน้ำร้อนๆถูกซดไปจนหมดภายในเวลาไม่นาน  

    เสื้อยีนต์ตัวเก่งถูกนำมาสวมพร้อมกับแว่นตาดำที่ถูกหยิบมา ก่อนเข้าจะออกจากห้องเพื่อไปยังสถานที่นัดหมายที่ถูกนัดไว้กับเพื่อนร่วมงาน

     

    “สวัสดีครับพี่เมฆ”นาคินยกมือไว้รุ่นพี่ที่ทำงานรวมกันมากว่าทุก 2 ปี ถึงจะเจอหน้ากันเกือบทุกวัน แต่การรู้จักสัมมาคารวะบ้างก็เป็นการดีไม่น้อย

    “ไงคิน พี่นึกว่าจะไม่ตื่นซะแล้ว ได้ข่าวช่วงนี้สนใจจะเล่นเกมนิ”เมฆชายมาดนักเลงเอ่ยแซวรุ่นน้องด้วยความสนิทสนม

    “ก็ว่าไปพี่ ผมคงไม่มีเงินซื้อหรอกพี่ เครื่องตั้ง 50,000 แน่ะ พี่ก็รู้ภาระผมเยอะ ถ้าพอมีสปอนเซอร์ใจดีซื้อให้ก็ดีสิพี่”เขาพูดยิ้มๆพลางส่งสายตาไปยังรุ่นพี่ที่ทำงานร่วมกันมาเกือบ 3ปี

    นาคินเริ่มงานนี้ตั้งแต่อายุ 17 ปีซึ่งเจ๊ที่เขารู้จักได้รับเข้าทำงาน ตอนเริ่มทำงานก็ได้เมฆคอยเป็นพี่เลี้ยงจนสุดท้ายจึงต้องร่วมหัวจมท้ายทำงานร่วมกันมาจนถึงตอนนี้

    “เอ๊ยอย่ามองด้วยสายตาอย่างนี้สิวะ เดี๋ยวพ่อตบหน้าคว่ำ  อย่างเอ็งไม่ได้เห็นขาขาวข้าหรอก อีกอย่างเงินที่ได้แต่และเดือนก็ไม่ใช่น้อยๆ เก็บไว้ซักหน่อยที่นั้นเขาไม่เดือดร้อนหรอก” เข้ายอกล้อกับรุ่นน้องอย่างอารมณ์ดี  ด้วยนิสัยของนาคิน ทำให้เมฆรู้สึกรักคนๆเหมือนกับเป็นน้องแท้ๆเลยทีเดียว

    “ผมล้อเล่นพี่ แล้วนี่เรามีงานกี่ที่กันพี่?”นาคินเอ่ยถามถึงจำนวนงานที่ต้องทำในวันนี้

    “ก็ประมาณ 15 ที่ หวังว่าคงใช้เวลาไม่นาน”พูดจบเมฆก็หยิบหมวกกันน็อคสีดำ ซึ่งก็เข้ากับสีของรถ ดูคาติ สีดำของเขา โยนให้กับคิน ก่อนจะหยิบของตัวเองคุณมาสวม

    เมื่อใส่หมวกกันน็อคเรียบร้อยแล้ว นาคินก็กระโจนซ้อนท้ายรถรุ่นพี่ทันที ก่อนจะมีเสียงกระหึ่มของ ดูคาติดังขึ้นพร้อมกับพุ่งออกไป

     

    หญิงวัยกลางคนลุกออกจากที่นอนเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องของตน

    “ใครมาแต่เช้าเชียว”

    แต่เมื่อเปิดประตูออกไปก็แทบอยากจะปิดประตูในทันทีเพราะ 2 คนตรงหน้าไม่ใช้ใคร เป็นญาติสนิทที่มาเรี่ยไร เงินเธอทุกๆครั้งที่มา

    “บ้าเอ๋ยลืมไป วันนี้จ่ายหนี้นี่หว่า” เธอพึมพำเสียงแผ่วเบา ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงเข้มดังแทรกขึ้นมา

    “ว่าไงนะป้า แล้ววันนี้ว่าไงพลัดไปหลายรอบแล้วนะ รึจะจ่ายดอกเป็นตู้เย็นกับทีวีดีล่ะ” ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน พร้อมกับสายตาที่ตอนนี้ปราศจากแว่นดำมาปิดกั้นถูกส่งไปยังป้าด้วยความเยือกเย็น

    “คินใจเย็นซิไอ้หนู ป้าคงเตรียมไว้ให้แล้วละ ใช่ไหมครับคุณป้า”เมฆพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าสุภาพที่สุด แต่ทว่ามันกลับเป็นน้ำเสียงที่คล้ายกับฆาตกรโรคจิตในหนังสยองขวัญสำหรับหญิงตรงหน้า

    “โธ่ พ่อคุณ เดือนนี้ป้าไม่ค่อยดีเลยลูก ค่าใช้จ่ายก็สูงขึ้นทุกวันป้าก็ดันเป็นแค่คนหาเช้ากินค่ำ ภาระก็เยอะขึ้นเป็นเงาตามตัวเลย เศรฐ..”

    “คิน เดี๋ยวยกทีวี กับตู้เย็น ออกมาเลย พี่จะติดต่อให้คนมารับไป”เสียงเข้มสวนขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่ใครเป็เมฆที่กำลังทำหน้าเซ็งสุดๆเมื่อต้องมาฟังเรื่องเดิมๆไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว

    ไม่รอช้า นาคินรับมุกทันที ด้วยการขยับตัวเหมือนจะเข้าไปในห้อง ก่อนที่จะหยุดลง

    “เดี๋ยวก่อนพ่อคุณ อย่าใจร้ายนักเลย เห็นใจคนแก่บ้างเถอะป้าจะเป็นล้มแล้ว”หญิงวัยกลางคนทำท่าจะถลาล้มลงสู่พื้นแต่ทว่า

    “คิน เร็วสิ”

    เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผล เธอจึงต้องจำยอม

    “ ได้ได้ เดี๋ยวไปเอาให้ โธ่คนอะไรใจร้ายใจดำ ระวังเถอะจะตกนรกหมกไหม้”หญิงวัยกลางคนสะบัดร่างเข้าไปในห้อง ก่อนจะกลับมาพร้อมกับเงินในมือ

    “นี่เงินป้าเตรียมไว้ให้พอดี ใครจะกล้าไม่จ่ายละจ๊ะ ใจร้ายขนาดนี้” เธอบ่นกระปิดกระปอดพลางมองเงินที่ถูกเอาไปด้วยสายตาเศร้าๆ

     

    นาคินรับมาก่อนจะตรวจเช็คจำนวนเงินที่ได้รับ “ 20000 พอดีครับพี่เมฆ”

    “ดีแล้วนะป้า ถ้าคุยกันง่ายๆอะไรๆมันก็จะง่ายไปด้วย พวกผมก็ไม่ได้อยากเอาหน้ายักษ์มาเจอหน้าเหี่ยวๆของป้าทุกวันหรอกนะ ยังไงซะก็รีบหาเงินมาจ่ายให้ครบจะได้จบๆไป ไม่อย่างนั้นมันก็ทบต้นทบดอกไปเรื่อยๆอย่างนี้แหละ”

     เมฆพูดสอนป้าที่ยืนก้มหน้าหมดอาลัย ความจริงเขาก็ไม่อยากมาเห็นใครแสดงอาการอย่างนี้ต่อหน้าซักเท่าไหร่หรอก แต่ด้วยอาชีพที่ทำอยู่มันบีบให้ต้องใจแข็งจนมันเริ่มชินชาไปแล้ว

    เมื่อตอนมาเริ่มกู้เงินใหม่ ลูกหนี้ทั้งหลายกลับยินยอมรับสัญญาทุกอย่างด้วยความเต็มใจ แต่พอเอาจริงๆตอนจ่ายหนี้กับอิดออด ทำให้พวกเขาต้องมาทำอาชีพทวงเงินตามบัญชีที่เข้าของเงินส่งให้ หรือจะเอาง่ายก็พวกเก็บเงินกู้นั้นแหละ ถึงแม้มันจะดูเป็นคนเลวในสายตาคนอื่นก็ตามที แต่มันก็ยังดีที่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ในสภาพสังคมเช่นนี้

    “เหลือที่สุดท้ายแล้วนะพี่เมฆ” เสียงเซ็งๆ เพราะไปที่บ้านนี้ทีไรก็ต้องเกิดอาการดาม่าทุกที

     

    มอเตอร์ไซคันโก้ จอดลงตรงบ้าน 2 ชั้นที่มีความกว้างพอสมควร ถ้าเอาจริงๆก็บ้านคนที่จะมีอันจะกินพอสมควรเลยละ  นาคินลงจากรถไปกดกริ่งที่อยู่หน้าบ้าน เพียงไม่นาน ก็มีคนออกมาจากตัวบ้าน

    หญิงสาวที่น่าจะอายุ 18-19 เดินออกมา ก่อนจะถามขึ้นด้วยสำเนียงแปร่งๆ แต่ก็พอรู้ความหมาย

    “มีอะไรค่ะ”

    นาคินจึงเป็นทำหน้าที่เจรจา

    “ผมมาหาเจ้าของบ้านนี้ครับ”

    “เจ้านาย ไม่อยู่ ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไร” เธอพูดขึ้นซึ่งดูเหมือนจะถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว

    “ถ้าอย่างนั้นก็น่าเสียดาย ถ้ายังไงฝากบอกเจ้านายคุณด้วยนะว่าผมจะรอที่นี่ และอีกไม่นานคงมีตำรวจตามมา” นาคินพูดขึ้นอย่างรู้ทัน

    “มาทำไม” หญิงตรงหน้าซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นสาวใช้พูดขึ้นด้วยความตกใจ

    นาคินพูดขึ้นด้วยเสียงอันดังเพื่อเป็นการบอกคนที่น่าจะอยู่ในบ้าน

    “ก็นะ สัญญากู้หนี้ก็มี มีการเซ็นตกลงกันเป็นรายลักษณ์อักษร ก็มีสงสัยคราวนี้คงต้องฟ้องร้องกันบ้างละ”

    ในแต่ละคนจำเป็นต้องหาวิธีที่เหมาะสมเพื่อหาจุดอ่อนของอีกฝ่าย นั้นเป็นคำสอนของเมฆตั้งแต่เริ่มงานนี้ใหม่ๆซึ่งนาคินก็จดจำมันได้อย่างดี คนประเภทมีความรู้มากๆอย่างพวกนี้จำเป็นต้องใช้ข้อกฎหมาย เพราะการข่มขู่หรือใช้กำลังไม่มีผลกับคนพวกนี้ และอีกอย่างเจ้านายของเขาปล่อยกู้ในอัตราที่อยู่ในการบังคับของกฎหมายทำให้ง่ายต่อการทวงเป็นอย่างมาก ถึงแม้ดอกเบี้ยมันจะสูงที่สุดสุดเท่าที่กำหนดไว้ก็ตามที

     

    เพียงไม่นาน ชายหญิงคู่หนึ่งก็ก้าวออกมา ด้วยท่าทางอารมณ์เสีย ทั้งคู่แต่งตัวเต็มยศ ฝ่ายชายมีทองเส้นใหญ่อยู่ที่คอ  และแหวนทองเต็มนิ้ว ส่วนฝ่ายหญิงก็มีสร้อยเพชร แหวนเพชรส่องประกายเต็มไปหมด  ซึ่งแสดงถึงฐานะที่ร่ำรวยพอสมควร

     

    เมื่อฝ่ายหญิงมาถึงก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเต็มที่

    “มีอะไรอีก นี่ก็พึ่งจ่ายไปหยกๆเองไม่ใช่เหรอ”

    “ก็แหม่  ที่พึ่งจ่ายไปมันเป็นของเดือนที่แล้วหนิครับ” นาคินพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ

    “แล้วยังไง” ฝ่ายชายพูดขึ้นมาบ้าง

    “ก็เดือนนี้มันจะสิ้นเดือนอยู่แล้ว ท่านทั้งสองจะเอาไงละครับ”

    “แล้ว มันเท่าไหร่ละทั้งหมดตอนนี้”ชายที่น่าจะอารมณ์เย็นกว่าภรรยาพูดขึ้นอีก

    “ ก็ทั้งต้นทั้งดอกตอนนี้ก็ ห้าล้านห้าแสนพอดีครับ ”

    “อะไรกัน โกงรึเปล่า จ่ายไปตั้งเยอะแล้วทำไมไม่ลดเลยล่ะ”เขาเริ่มขึ้นเสียงด้วยความไม่พอใจ

    “คุณก็กลับไปดูสัญญาซิครับ รึว่าต้องให้ผมเรียกเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ” ใบหน้าตายด้านไร้ความรู้สึกของนาคินถูกแสดงออกพร้อมกับน้ำเสียงไร้อารมณ์

     

    “เอาๆนี่จะได้จบเรื่องซะทีเสียเวลาทำมาหากิน”

    “เอะ แสนห้านี่ครับนี่มันแสนสามเอง คงไม่ได้หรอกครับ” นาคินมองหน้าพร้อมกับยื่นเช็คคืน

    “อะไรกัน แค่ 2 หมื่นเอง จะอะไรนักหนากับเงินแค่นั้น”คุณนายเจ้าของบ้านพูดเสียงดังต่างจากท่าทีที่เหมือนจะเป็นผู้ดี

    “โธ่ เจ๊ แค่ สองหมื่น ก็จ่ายมาสิ ผมจะได้ไป”นาคินพูดขึ้นมาบ้าง

                เมื่อดูท่าทางว่า 2 คนตรงหน้าคงไม่ยอมจริงๆสุดท้ายชายผู้เป็นผู้นำครอบครัวจึงต้องตัดสินใจ

                “มะขิน  ไปเอาเครื่องเล่นเกมยัยดาวมา”

                “แต่คุณดาวเธอ”

                “ยัย ขินรีบไปเอามา ลูกดาวอาบน้ำอยู่ รีบไปเอาเถอะ”คุณนายพูดเสริม

     

                เพียงไม่นาน เครื่องลักษณะคล้ายหมวกกันน็อค ก็ถูกหิ้วออกมา

                “นี่เครื่องเล่นเกมน่าจะพอกับเงิน สองหมื่นนะ เอาไปไปก่อนแล้วกัน” ชายคนนั้นพูดเหมือนกับว่าอยากให้มันผ่านไปซักที

                “เอาไงครับพี่เมฆ”

                “ก็คงต้องอย่างนั้นแหละ ดีกว่าได้ไม่ครบ”

     

                เมื่อได้รับการอนุมัติจากรุ่นพี่นาคินก็รับเครื่องเล่นเกมมา ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปที่รถ           แต่ทว่าเสียงดังขึ้นตามหลังมาทำให้เขาต้องหันกลับไปดู

                “อย่าพึ่งไปนั้นมันของฉันนะ” เสียงหญิงสาวดังขึ้นเมื่อเห็นชายหนุ่มวัยไล่เรี่ยกำลังถือ เครื่องเล่นของตนไป

                “ยัยดาว หยุดนะ” เสียงผู้เป็นแม่เอ่ยปราม

                หญิงสาวร่างเล็กแต่อวัยวะด้านหน้าไม่เล็กตามเอ่ยสวนทันควัน

                “นี่แม่เอาของ ของหนูไปขัดดอกอีกแล้วเหรอค่ะ” เธอพูดราวกับว่าเหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

                “นั้นก็รถของหนู”เธอชี้ไปยังรถที่เมฆนั่งอยู่

                เมฆเมื่อเห็นว่าตัวเองถูกพาดพิงจึงเถียงขึ้น

                “นี่มันรถผมนะ คุณหนูแตงโม”  ถึงแม้มันจะเคยเป็นของเธอก็เถอะ

                “ฉันชื่อดาว ไม่ใช่แตงโม”

                “ก็แหม อย่างกับลูกแตงโมเชียว”

                หางตาของเมฆมองไปยังภูเขา 2 ลูกที่อยู่ตรงหน้า

                “ไอ้พวก .....”เธอหันมาพูดอะไรซักอย่างกับชายทั้งคู่ก่อนจะหันกลับไปคุยกับแม่

                “ไอ้คิน ดูซิเธอชมเราว่าพวกเรา วัยทีนว่ะ” เมฆพูดขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ โดยมีนาคินส่ายหน้าอย่างระอา

                “แม่ค่ะ เครื่องนั้นหนูเก็บเงินซื้อเองนะคะ”

                “แล้วไง ค่ากิน ค่าใช้ที่แม่เลี้ยงแกมาก็ไม่ใช้น้อยๆ เครื่องราคาแค่นั้นจะอะไรหนักหนา” มารดาพูดขึ้นพลางหลบสายตาลูกสาว

                “แม่ หนูขอไปอยู่กับย่าแล้วกัน” เธอพูดจบก็วิ่งร้องให้ขึ้นไปบนบ้าน ท่ามกลางความรู้สึกแปลกๆของนาคิน

     

                “คินกลับกันเถอะวะ อย่าคิดมากเรื่องแค่นี้น่าจะชินได้แล้ว”เมฆพูดขึ้นพร้อมกับสวมหมวกกันน็อครอหน้าคินที่กำลังเดินมาถึง

     

                “เจ๊ ผมมาแล้ว”เมฆถลาตัวเข้าหา เจ๊วัย 35 ที่หุ่นยังดีมากๆอยู่

                “ไอ้เมฆ อย่ากวนทีน”เจ๊พูดขึ้น

                “เฮ้อ สงสัยผมหน้าเก็กมีแต่คนบอกผม วัยทีน” เมฆพูดขึ้นด้วยความเข้าข้างตัวเองเป็นที่สุด

                เจ๊ ได้แต่ส่ายหน้ากับการแถไปเรื่อยของเมฆ  แล้วจึงหันมาคุยกับคนที่น่าจะเป็นงานเป็นมากกว่าอย่างนาคิน

                “เป็นไงคิน วันนี้”

                “ก็นะเจ๊ เก็บได้เกือบครบ ขาด 2หมื่นบ้าหลังนั้นแหละครับ” เขาพูดถึงบ้านหลังสุดท้ายที่พึ่งจากมา

                “เฮ้ยแล้วยอมได้ไง” เธอรู้ว่าถ้าไม่มีเหตุขัดข้อง ทั้งสองไม่เคยพลาดแม้แต่งานเดียว

                “ก็เขาให้อันนี้มา” นาคินยกเครื่องเล่นเกมขึ้นมาโชว์

                เจ๊ ส่งยิ่มออกมา “งั้นก็กำไร 2 หมื่นสิ เครื่องมือ 2 น่าจะขายได้ประมาณ 4หมื่น”

                “เอ่อเจ๊ครับ” เขาพูดขึ้น

                “พูดมาเถอะคิน อย่าเกรงใจ”

                “ผมอยากได้เจ้าเครื่องนี้ ขอซื้อต่อได้ไหมครับ แต่ว่า”

                “ได้สิ แต่อะไรละ”

                “ผมขอผ่อนเรื่อยๆได้ไหมครับ เจ๊ก็หักเงินเดือนผมจนครบ สี่หมื่น แต่ขออย่าหักเกินเดือนละ 2000 นะครับ”

                นาคินเริ่มต่อรองเพราะไม่อยากให้มันกระทบเงินหลักที่ต้องส่งให้แม่ใหญ่ของเขา

                เจ๊นิ่งซักพัก ก่อนจะพูดขึ้น

                “เอาอย่างนี้ไหมคิน เจ๊จะหักจากโบนัส สิ้นปี”

                “เออแล้วผมจะเหลือโบนัสเท่าไรครับ” นาคินถามเสียงอ่อย

                “ คงประมาณ  สองแสน”

                เมฆ ผวา เข้าเกาะขา อาเจ๊ที่รักทันที  เพราะถ้านาคินได้ขนาดนั้น เขาก็คงได้มากกว่าแน่นอน

                “เยอะไปเมฆ” เธอก้มลงไปมองชายหนุ่มวัย 27 ด้วยสายตาขำๆก่อนจะหันกลับมาคุยกับนาคิน

                “เราจะเล่นเกมเหรอคิน”

                “ครับ แต่ผมจะไม่ทำให้เสียงานครับ”

                “เจ๊ รู้ แต่ยังไงให้ลูกสาวเจ๊ช่วยอะไรไหม เห็นขานั้นเขาบอกเขาเก่งอยู่นะ”

                “ฟิวส์ ก็เล่นเหรอครับ” นาคินถามขึ้นด้วยความสนใจ

                “ฮั่นแน่ คิดอะไรกับลูกสาวเจ๊ป่ะเนี้ย เดี๋ยวติดต่อให้ ไม่ดีกว่าถ้าคินมีเงินในบัญชีถึง สิบร้านเมื่อไร เจ๊ยกให้ฟรีๆเลยเอาไหม”เธอถามทีเล่น ทีจริง

                “ไอ้คิน อย่าหลวมตัว เจ๊มีลูกสาวที่ไหนมีแต่ลูกชาย”เมฆพูดสวนขึ้นทันที

                “เดี๋ยวปัดเตะ ไอ้เมฆ ลูกฉันเป็นผู้หญิงเต็มตัวย่ะ” น้ำเสียงของเธอเบาลงเมื่อนึกถึงลูกสาวสุดที่รักที่อยู่ในสภาพผมสั้น ห้าวๆ พร้อมกับหน้าอกที่แบนเป็นไม้กระดาน

               

                “สวัสดีฮะ แม่” คนร่างเล็กผมสั่น ใบหน้าได้รูป พร้อมกับผิวขาวๆซึ่งมองยังไงก็เป็นผู้หญิงเพียงแต่กิริยาที่ห้าวๆกับขนาดของทั้งคู่ที่ไม่มี ทำให้หลายคนกลับเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ชายหน้าหวานไป

                “อ้าวลูกกลับมาเร็วจังวันนี้”

                “เลิกไว หน่ะแม่ อีกอย่างวันนี้มีตีบอสต้องรีบไปเตรียมความพร้อมหน่อย พี่เมฆก็อย่าช้าละ” เธอพูดกับมารดาก่อนจะหันไปพูดกับเมฆ

                “ครับลูกหัวรอง” เมฆ ทำท่าก้มหัวรับคำสั่งเหมือนในเกมที่ ฟิวส์เป็นรองหัวหน้ากิลด์ที่เข้าสังกัดอยู่

                “ดีมากลูกน้อง” ฟิวส์พูดจบก็ชายตามองนาคิน ก่อนจะเดินหายไป

     

                หลังจากรับเครื่องเล่นพร้อมกับเงินโบนัส ที่เจ๊ ใจดีให้ล่วงหน้าทั้งคู่ก็ออกมาโวยกวยเตี๋ยวปากซอยร้านเดิม

    “พี่เมฆ เล่นเกมด้วยเหรอ ทำไม่ยักจะบอก?”นาคินถามเพื่อนรุ่นพี่

    “เออ ก็กะจะให้นายตกใจเล่นๆ ตอนนี้พี่ก็ระดับ 55 คลาส 3 แล้วละ ถ้าไม่ติดต้องคอยตาม คุณหนูฟิวส์ของเราพี่ก็ระดับเยอะกว่านี้แล้ว” เมฆพูดยิ้ม

    “แล้วคุณฟิวส์ละพี่” แบล็คถามอีกครั้ง

    “ขานั้น เขาขาห้าวทำตัวเป็นผู้ชาย ลุยดะ นี่ก็ ระดับ 14 คลาส 4 แล้วมั่ง”

    “ออ”

    “ขาละหมั่นไส้ ถือว่าเป็นรองหัวกิลด์สั่งข้ายังกะทาส”เมฆบ่น

    “นี่คิน”

    “อะไรพี่”

    “พี่รู้นะ เอ็งคิดอะไรกับคุณหนูฟิวส์ พี่ว่าจับกดเลยดีกว่าวะ สิบล้านใครจะหาได้”เมฆแนะนำสีหน้าจริงจัง

    “จับกดเลยเหรอพี่”เมฆถามยิ้มๆเพราะรู้ว่าเมฆพูดเล่น

    “เออ สิวะ เชื่อดิ กลายเป็นผู้หญิงในพริบตา ติดเอ็งแจแน่นอน”

    “ขนาดนั้นเลยเหรอพี่”

    “เออ กด กดอย่างเดียวเว้ย”

     

    ทั้งคู่คุยกันอย่างสนุกสนานก่อนที่เมฆจะไปส่งคินแล้วแยกตัวไป

     

    นาคิน เมื่อกลับถึงบ้านก็เป็นเวลา4โมงเย็น เขาจัดการธุระสวนตัวก่อนจะหยิบเครื่องเล่นเกมขึ้นมาสวม

    “แล้วเจอกัน จักรพรรดิ ออนไลน์"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×