คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2:เปิดเทอมวันแรกที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ (ยาวจัง)
กะ...กริ้งงงงง!
ฉันตื่นขึ้นมาเพราะเสียงดังจากนาฬิกาปลุกที่ดังจนขี้หูฉันเกือบออกมาเต้นระบำเป็นจังหวะเทงโก้ หลายคนคงเกลียดเสียงนาฬิกาปลุกสุดๆและแน่นอนฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น ฉันกดมันอย่างหัวเสียกับขี้ตาก้อนโตที่ติดอยู่ที่ตาของฉันและการที่ฉันยังนอนไม่เต็มอิ่ม - -^^
“ไม่อยากจะเชื่อว่าฉันลืมกดปิดมัน นี่มันเพิ่ง...เที่ยงเองนะ เฮ้อออ”บ้านใครเขาใช้คำว่า ‘เพิ่ง’ กับเวลาเที่ยงกันฟะเนี่ย -*-
ฉันลุกขึ้นเปิดหน้าต่างเพื่อหวังว่ามันจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันตาสว่าง บรึ๋วส์ O_= แต่มัน...หนาวชะมัดเลยแฮะ ฉันรีบปิดหน้าต่างอย่างฉับพลันทันใด และทันทีที่หันหลังกลับมาฉันก็พบกับชุดกระโปรงแบบซูทรีสีชมพู ว่าไงนะ!! สะ...สีชมพูงั้นเหรอ ( ก็ใช่น่ะซิ สี-ชม-พู ) เคยบอกรึยังว่านอกจากที่ฉันจะเกลียดผู้ชายกวนส้นตี-นเป็นงานอดิเรก เกลียดคิตตี้เป็นอาชีพเสริม แล้วฉันยังเกลียดสีชมพูเป็นชีวิตจิตใจอีกด้วย
ใส่ชุดนี้ลงมาข้างล่างนะจ้ะ พ่อกับแม่จะรออยู่ข้างล่าง...โน้ตบ่งบอกว่าเป็นลายมือของคุณนายเสียบอยู่ที่ไม้แขวนเสื้อ ฉันมองมันอย่างพิจารณา ก่อนจะ...ฉันคิดว่าฉันไม่ควรเสี่ยงกับการตกอยู่ในความครอบงำของชุดกระโปรงซูทรีสีชมพูทั้งวันหรอกนะ...ว่ามั๊ย?
ฉันเดินลงมาด้วยเสื้อยืดสีฟ้าตัวเก่งกับกระโปรงยาวเกือบถึงเข่าสีขาว ใครจะว่าอะไรถ้าฉันจะใส่อย่างนี้
“อ้าว...ซูยองทำไมหนูไม่ใส่ชุดที่แม่เตรียมไว้ให้ล่ะจ้ะ O-”
“คุณนายก็รู้ว่าหนูไม่ชอบ เพราะฉะนั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้หนูต้องใส่...หรือคุณนายจะว่าอะไร”
“ก็...ถึงหนูจะไม่ชอบแต่ คีทะ...”
เหมือนว่าแม่จะพูดอะไรบางอย่างแต่จู่ๆก็ชะงักไปเมื่อชุกคิดอะไรบางอย่างได้ อะไรของเขาน้า -.,-
“แม่ว่ารีบไปกันเถอะจ้ะ - -“ ”
“เดี๋ยว! แม่กับพ่อจะพาหนูไปไหนเนี่ย เกี่ยวกับตาคนที่หนูต้องมั่นด้วยรึเปล่า”
“ปะ...เปล่าจ้ะ ไม่เกี่ยวเลย ไม่เกี่ยวเลยจริงๆ เราก็แค่จะพาลูกไปกินข้าวนอกบ้านเท่านั้นเองน่ะจ้ะ ยังไงพรุ่งนี้หนูก็จะเปิดเทอมแล้ว ไม่เกี่ยวจ้ะ ไม่เกี่ยว...”
ปากก็ปฏิเสธกันเข้าไป แต่ท่าทางกับแววตามันส่อพิรุธเต็มที่เลยค่ะคุณน้ายยย -*- แต่เอาเถอะอย่างน้อยก็จะได้ไปข้างนอกกับพ่อแม่ทั้งที ไปก็ไปฟะ ^O^
ฉันเดินมาขึ้นรถอย่าง ( พยายาม ) ไม่เอะใจอะไร และไม่นานคนขับรถก็ออกรถ เอ...ฉันบอกรึยังว่าพ่อกับแม่ฉันเป็นนักธุรกิจใหญ่ ก้ากๆๆๆ พ่อแม่รวยแล้วยังมีลูกน่าตาดีอีก เฮ้อออ ฉันล่ะเบื่อจริงจริ๊งงง O- ( พอดีบ้านของยัยซูยองไม่มีกระจก -.,- ) เอ่อ...เอาจริงๆก็ได้ พ่อฉันเป็นเจ้าของกิจการภัตตาคารหรูอยู่หลายแห่งทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ แม่เองก็ช่วยพ่อด้วยเหมือนกัน ฉันก็...ไม่ค่อยรู้อะไรมากหรอก นอกจากกิจการนี้พ่อฉันเป็นหุ้นส่วนกับเพื่อนพ่ออีก 3 คน ใช่...เพื่อนที่พ่อหมายจะเอาลูกชายของเขามามั่นกับฉันนั่นแหละ
เอี๊ยดดด!!
เมื่อรถจอดสนิทหน้าภัตตาคารหรูแห่งหนึ่งพวกเราจึงลงมาจากรถ ฉันรีบกระโจนเข้าไปในร้านตามการเรียกร้องของน้ำย่อยในกระเพาะอาหารแทบจะทันที
“สวัสดีครับ”
“O_o คะ...ค่ะ”
เสียงทักจากพนักงานต้อนรับชายทำเอาฉันสะดุ้งตัวลอย น่าแปลกที่พนักงานต้อนรับทุกคนต่างก็มองฉันแปลกๆ ฉันหมายถึง เขาจะยิ้มให้ฉันทำไม O_o? โธ่...ไม่น่า...ลูกค้ามาทุกคนก็ต้องต้อนรับอยู่แล้ว ก็เราเอาเงินมาทุ่มใส่หัวให้เขาชัดๆ
“นี่ยัยตัวแสบ มาทางนี้เร็ว มัวแต่ยืนมองอะไรอยู่”
เสียงของพ่อทำเอาฉันตื่นจากภวังค์ เห็นได้ชัดว่าพนักงานต้อนรับคนนี้ยืนหน้าแดงบิดเป็นเกลียวอาจเป็นผลที่ฉันยืนจ้องหน้าเขาอยู่นาน ตาบ้าเอ๊ย!! ฉันก็แค่สงสัย ไม่ได้ชอบนายซะหน่อย v- ฉันรีบเดินไปหาพ่อเมื่อน้ำย่อยในท้องมันเริ่มทักท้วงอีกครั้ง
“ค่า...-O-”
“เข้าไปก่อนนะจ้ะ เดี๋ยวพ่อกับแม่มา^_^”
ฉันก็งงๆอยู่นิดหน่อย แต่ก็ยอมเข้ามานั่งรอแต่โดยดี ห้องนี้สมกับที่เป็นห้องที่เรียกว่า VIP มีโซฟาสีแดงนุ่มสบาย ฉันตัดสินใจนั่งรอแม่กับพ่อบนโซฟา พลางมองไปที่โต๊ะด้านหน้า ถ้าพ่อแม่สั่งไก่งวงมาให้ฉันสักตัวก่อนไปก็คงจะดีไม่น้อย ซึ้ดดดด หิว ( แต่ฉันว่าหน้าตายัยนี่เหมือนต้องการช้างแมมมอธสักตัวมากกว่า - -“ )
10 นาทีผ่านไป...พ่อกับแม่คงเข้าห้องน้ำอยู่มั้ง 20 นาทีผ่านไป...พ่อกับแม่คงกำลังกดชักโครกอยู่มั้ง 30 นาทีผ่านไป แกร๊กกก! เสียงประตูเปิดออกตามด้วยเสียงอึกกระทึกคึกโครม
“นี่ นายกล้าบังคับฉันอย่างนั้นเหรอ ฉันจะฟ้องพ่อกับแม่หลังจากที่ท่านกลับมา นี่!! นาย ปัง!! โธ่เว้ย...ธะ...เธอมัน...ยัยขอทานโดนแฟนทิ้งนี่!!”
“นายก็เหมือนกัน...นะ...นายมันไอ้คนไร้มารยาท!!”
ไม่ผิดหรอก ตาคนที่โหวกเหวกเข้ามาน่ะ ก็คืออีตาคนไร้มารยาทนั่นแหละ ตาคนที่ทำหน้าได้กวนอวัยวะเบื้องล่างสุดๆ!!O_O แล้วดูเหมือนตานี่ก็ตกใจไม่น้อยที่เห็นหน้าสวยๆของฉัน ( ลืมอะไรลืมได้ แต่ไม่เคยลืมชมตัวเอง - - ) โลกอะไรมันชั่งกลมขนาดนี้ ฉันอุตส่าห์เชื่อว่าโลกแบนแล้วนะเนี่ย ผิดคาดแฮะ ว้า...เสียดายจัง ( เห้ย! นอกเรื่องแล้วเว้ย ฮิ้วววว แป้กอีกแย้วว ) แล้วนายนี่มาทำอะไรที่นี่กันเนี่ย ฉันสวยถึงขนาดสะกดรอยตามหาเลยเหรอเนี่ย ( ขออีกที -_-;; )
[ . ]
“เฮ้อออ”
“เฮ้อออ”
ฉันกับตาคนไร้มารยาทนั่นพลัดกันแลกลมหายใจซึ่งกันและกัน ( อ๊ากกก จะพูดให้มันดีๆไม่ได้เหรอ พูดจนคนเขานึกไปถึงสุไหงโกลกแล้วเนี่ย ) ฉันหมายถึงตานั่นกับฉันพลัดกันถอนหายใจกันเฮือกใหญ่บ้างเล็กบ้าง จนฉันเองที่เป็นคนทนไม่ไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ( ความจริงขี้เกียจถอนหายใจ ~ ขนาดถอนหายใจยังขี้เกียจ นางเอกภาษาอะไรฟะ ~ ) ฉันจริงโพลงขึ้นมาก่อน
“นาย มา ที่ นี่ ทำ ไม ห๊า!!”
“...”
“ฉันถามเนี่ยนายไม่ได้ยินเหรอ”
“...”
“นี่!! _-^^”
“ถ้าเธออยากหาเรื่องนะ ฉันไม่มีอารมณ์ ฉันจะบอกให้ก็ได้ถ้ามันจะทำให้เธอหุบปากไปซะที ...ฉัน ถูก บังคับ พ่อบอกให้ฉันมั่น”
มะ...มั่นเหรอ!! อะไรกันอย่าบอกว่าตานี่เป็นคนเดียวกับที่พ่อแม่ฉันพูดถึง เป็นคนที่ต้องมามั่นกับฉัน แสดงว่าพ่อกับแม่วางแผนกัน แล้วก็แสดงว่าฉันต้องมั่นกะอีตาคนที่ฉันหมายหัวไว้ในบัญชีดำของฉันแล้วเนี่ยนะ!O_O!!++
“เธอกำลังคิดอะไรอยู่น่ะ ถ้าคิดว่าฉันยินดีที่จะรู้จักเธอ ...ก็หยุดความคิดไว้แค่นั้นซะเถอะ -*- ”
“หนอย! นายนี่มันนอกจากจะกวนส้นแล้วเนี่ยนะนายยังจะปากปีจออีกต่างหาก O- ^^”
“นี่! เธอ เธอว่าอะไรนะ -_-^^”
“ก็...กำลังพูดความจริงที่จริ๊งจริงๆอยู่น่ะซิ นายนี่มันเข้าใจอะไรอยากจริงๆนะ หรือจะเป็นพวกไอคิวต่ำ”
ก้ากๆๆ ^O^ สะใจเป็นบ้าเลยล่ะ ดูหน้าตานี่ซิ ( ฉัน ~ มองไม่เห็น ) จะอธิบายให้ฟังก็แล้วกัน เส้นเลือดบริเวณขมับปูดออกมาประมาณ 2-3 เส้น ยังไม่นับที่ลำคออีก 4-5 เส้น ระหว่างคิ้วมีรอยย่นประปราย มันน่าขำ ( ตรงไหน )ใช่มั๊ยล่ะ ก้ากๆๆ ^O^
ฉันนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้งหลังจากได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ ( ตรงไหน ) จากการทะเลาะกับตานี่มาครอบครอง ส่วนตานั่นน่ะเหรอก็ยอมนั่งลงอย่างหัวเสีย ( หรือเบื่อเถียงฉันไม่แน่ใจ ) บนโซฟาฝั่งตรงข้าม พอสายตาของสองเรามาจ๊ะกันพอดีเท่านั้นล่ะไฟฟ้าสถิตหลายพันโวลต์ก็กำเนิดเกิดขึ้น -_- + + -_- แต่จู่ๆตานั่นก็โพลงขึ้นมาแบบว่าเปลี่ยนอารมณ์ในฉับพลันทันใด รอยยิ้มนั่น รอยยิ้มของอีตานั่น อ๊ากกกก!!
“เอาล่ะ...ฉันชอย วูฮูค คนที่จะมาเป็นคู่มั่นของเธอ ไงล่ะ เธอไม่คิดจะแนะนำตัวหน่อยเหรอ พอดีพ่อแม่ฉันลืมบอกน่ะว่าเธอชื่ออะไร แล้วที่สำคัญฉันก็ไม่อยากสนใจ O-”
“ฉะ...ฉัน ฮัน ซูยอง”
ฉันตอบออกไปในขณะที่สมองยังคงไม่เข้าที่เข้าทาง แบบว่าตามอารมณ์หมอนี่ไม่ทันน่ะ ท่าทางตานี่จะเพิ่งหมดประจำเดือนถึงได้อารมณ์แปรปปรวนรวดเร็วขนาดนี้ O_o ไม่พูดเปล่าไหงยังยื่นมือมาทำความรู้จักอีกซะนี่ เกิดอาการง.งูสองตัว ( เป็นโรคใหม่ที่ระบาดในหมู่คนที่มีหัวสมองอันน้อยนิด ) ฉันยังยืนกรานไม่ขอจับมือกับตาบ๊องนี่ แต่ไฉนหมอนี่ถึงคว้ามือฉันไปจับโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาติอย่างนี้ล่ะ
“O_O!!”นี่ฉันเอง
“^_+”ส่วนนี่ก็อีตานั่น
“เพื่ออะไร?”เป็นคำถามเดียวที่หลุดออกจากปากอันเรียวบาง + สวย ( ยังจะชมตัวเองอีก - -“ )
“เพื่อฉัน...งงเหรอ ก็มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอไม่มีความสุข ฮ่าๆๆๆ อุวะฮ่ะๆๆๆ ^O^”
“นายนี่ท่าทางจะบ้าแฮะ”
พอฉันทำหน้างง อีตานี่ก็อธิบายให้ฟังอย่างบ้าคลั่ง ท่าทางอีตานี่จะบ้าเนาะ ( - -“ ) แต่พอดีว่าฉันคิดดังไปหน่อยเลยเผลอหลุดปากออกมา ทำเอาค้อนลูกใหญ่ลอยมาอยู่เหนือหัวฉันเตรียมจะฝาดลงมาได้ทุกวินาที อ๊ากกกก! O-
“นี่เธอว่าอะไรนะ! เธอกล้าว่าฉันอย่างนั้นเหรอ - _-^^”ท่าทางเขากำลังโมโหขั้นรุนแรงเลยใช่มั๊ย?
( ก็ใช่น่ะเซ่! )
“คือฉันหมายถึงว่านายนี่มันหล่อเป็นบ้าเลยน่ะ >.<”ตาย ต๊าย ตาย นี่ฉันพูดอะไรออกไป ฉันไปชมไอ้คนที่เป็นศัตรูฉันได้ยังไงเนี่ย ปากหนอปากโธ่ -_-;;
“งั้นเหรอ นั้นก็แล้วไป...นั้นพรุ่งนี้เตรียมตัวเข้ามาอยู่ในบ้านฉันให้ดีก็แล้วกัน ฉันไปก่อนล่ะ”
“เดี๋ยว! นายว่าไงนะ นี่นายจะให้ฉันเข้าไปอยู่บ้านนาย นี่นายจะทำอะไรฉันกันแน่ ไม่น้าาาา สิ่งศักสิทธิ์ช่วยลูกช้างด้วย T-T”
“นี่เธอจะบ้าเหรอฉันจะไปกล้าทำอะไรกับผู้หญิงร่างเท่าตูดช้างอย่างเธอกันเล่า -*-”( ว่าซะนางเอกเสียเลยแฮะ -_-;; )
“นี่นาย!! อีตาบ้านี่!!”
“ฉันก็แค่ทำในสิ่งที่เธอไม่ต้องการจะทำ เอาล่ะ ฉันเสียเวลามามากแล้ว บ๊ายบาย ^_^”วูฮูคพูดจบก็เดินจากไปในกลีบเมฆ ( ความจริงก็ออกทางประตูนั่นแหละ )
อีตาบ้าเอ๊ย!! คิดว่าทำหน้าอย่างนั้นจะหล่อเหรอ แล้วดันมาว่าฉันว่าร่างเท่าตูดช้างอีก โธ่ ฉันออกจะร่างบางอรชรซะขนาดนั้น >.< แต่ฉันจะให้อภัยนายก็ได้ที่ว่าฉันว่าร่างเท่าตูดช้างเพราะฉันก็เบื่อคำด่าคำว่าเก่าๆเดิมๆที่พวกผู้ชายว่าฉันแล้วล่ะ เฉกเช่น หน้าตาดั่งนางฟ้า ดวงตาดั่งพญาหงส์ ทรวดทรงงามสะโอดสะอง ยังคงมีอีกรอยยิ้มที่พริ้มใจ ก้ากๆๆๆๆ ^O^ ^_^ ^O^ ^_^ + + + +
ฉันนั่งคิด ( หลงตัวเอง ) อยู่นานประมาณ 5-10 นาที พ่อกับแม่ก็โผเข้ามาในห้องแล้วนั่งลงข้างๆฉัน...รอยยิ้ม เป็นสิ่งแรกที่ฉันได้จากแม่กับพ่อ ^_^ : ^O^ ...และดวงตาอาฆาตแค้นเพราะความโกรธที่พ่อกับแม่โกหก ( ความจริงโกรธเพราะพ่อกับแม่ไม่ยอมสั่งอาหารให้กิน -_-;; ) เป็นสิ่งแรกที่พ่อกับแม่ได้จากฉัน...-_-^^
“พ่อ กับ แม่ หลอก หนู -_-;;”
“จ้ะ...แต่คือว่าถ้าแม่กับพ่อไม่ทำอย่างนี้หนูก็ไม่ยอมมาอยู่ดี เห็นมั๊ยล่ะจ้ะว่าหนูก็เข้ากับเขาได้ ( ที่ไหนล่ะ )”
“แม่! พ่อ! แต่...”
“เอาเถอะจ้ะ ถ้าหนูยังไม่เข้ากับเขาก็ไม่เป็นไร แต่พรุ่งนี้หนูต้องไปอยู่ที่บ้านเขา ใช้เวลาระหว่างนั้นทำความรู้จักกันก็ได้นี่จ้ะ”
“แต่พ่อคะ...”
“อย่างน้อยเขาก็เป็นรุ่นพี่หนู หนูจะได้มีคนคอยปกป้องยังไงล่ะจ้ะ...”
“ตะ...”
“เอาเถอะจ้ะ พ่อแม่เชื่อว่าหนูต้องเข้ากันได้ดีอย่างกับกิ่งทองใบหยกเลยล่ะจ้ะ...”
ปัดโธ่! นี่จะไม่มีใครคิดจะฟังความคิดเห็นฉันเลยเหรอเนี่ย ใครว่าจะเข้ากันได้ล่ะ เข้ากันอย่างกะส้มตำกับสเต็กล่ะไม่ว่า.... ( วูฮูคเป็นสเต็ก ซูยองเป็นส้มตำ ~บ้านน๊อกก บ้านนอก ~)
ความคิดเห็น