ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~สะดุดใจ...นายสุดเฮี้ยว~

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1:คลุมถุงชน!?!

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 49



    ฮ่า...เรียบร้อย ^O^”ฉันพูดเมื่อหยิบหมวกไหมพรมสีแดงที่ ชิน  อึนซองคนที่ฉันเรียกว่าเป็นแฟนซื้อให้เสร็จแล้ว ( เขาเป็นคนที่โชคร้ายที่สุดน่ะ -*- )  แล้ววันนี้ก็เป็นวันสำคัญของฉันกับชิน  อึนซองด้วย  อย่าเพิ่งสงสัยก็มันเป็นวันครบรอบ 1 ปีที่เราคบกันไงเล่า  ฉันเดินเริงร่าออกมาจากบ้านโดยไม่ลืมหยิบของขวัญที่จะให้อึนซองมาด้วย  ฮ่าๆๆ เขาภูมิใจแน่ที่ได้ฉันเป็นแฟนน่ะ  อิอิ ^O^ ( อารมณ์ดี๊  อารมณ์ดี )

     

                   ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะ  ฉัน...ฮัน  ซูยอง  หญิงสาววัยเพียง 15 ปีเศษ...หรือมีนามว่า

     

    ยัยเด็กบ้า ในบรรดาป้าๆยายๆแถวบ้าน  แต่ฉันก็เป็นที่รักแก่ทุกคนนะจะบอกให้ ^-^ ( ที่รักษาความสะอาดส้วมบ้านเค้าน่ะซิ -_-;; )

     

    ยัยปากปีจอ,ยัยตัวกวน ( อวัยวะเบื้องล่าง )ในบรรดาพวกมนุษย์มนาที่เกิดมามีอวัยวะเพิ่มมาอีก 1 อย่างคือ...นอหรือที่ฉันเรียกว่ายัยพวกขวางโลก

     

    ยัยตัวแสบในบรรดาญาติโกโหติกาทั้งหลาย  รวมทั้งพ่อและแม่ที่น่าร้ากก

     

    ซูยองสุดสวยในบรรดานักเรียนผู้ชายรวมถึงพวกผู้ชายที่แบบว่าไม่มีอะไรจะทำนอกจากมองหาแต่ผู้หญิง  แต่อย่างน้อยพวกนี้ก็ยังฉลาดน่า...ก็ที่มองว่าฉันสวยไง -.,-

     

    และสุดท้ายฮัน  ซูยอง...อึนซองเรียกฉันแบบนี้...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมสิ่งที่เขาเรียกมันจึงดูห่างเหินขนาดนั้นเพราะอย่างน้อยเราก็เป็นคนที่เรียกว่าแฟนกันน่ะนะ  เขาน่าจะเรียกให้มันสนิทสนมกว่าที่น่ะอย่างน้อยก็ตัดนามสกุลออกไปบ้าง  อ่า...แต่ชั่งมันเถอะน่าอึนซองเป็นผู้ชายของฉันก็แล้วกัน...^-^

     

                   ในที่สุดฉันก็เดินมาถึงหน้าร้านคอฟฟี่ช๊อปเล็กๆตรงมุมซอย...ที่ที่ฉันนัดอึนซองไว้  ฉันเผลอยิ้มให้กับเขาที่นั่งหันหลังรอแล้วอยู่ในร้าน  เขา...เป็นคนดีมาก  แต่ฉันมักจะหัวเสียสุดๆเมื่อพวกขวางโลกชอบเรียกเขาว่านายเฉิ่ม - -^  และในขณะที่ฉันกำลังจะเดินเข้าไปหาเขาก็มีอีตามารยาททรามแซงเข้าไปในร้านซะก่อน 

     

    โอ๊ย!!  โอ๊ยยยยยยย!!!

     

    ในเมื่อฉันอุทานแล้วเขายังไม่ยอมหันมาสนใจ  ฉันจึงร้องให้ดังกว่าเดิมอีกหลายเท่าเพื่อเรียกร้องความสนใจเล็กน้อย ( แปดหลอดอย่างนี้เรียกว่าเล็กน้อยเหรอเนี่ย -*- )  ได้ผลเขาหันมาในฉับพลันทันใด  แต่มันจะดีนะถ้าคนทั้งร้านไม่หันมามองฉันด้วยน่ะ!! ตายๆๆฉันอยากจะแทรกแผ่นดินหนีจัง –O- ( ไม่ทันแล้วโว้ย!! )  อ้าวเหรอ O_o!?

     

    มีปัญหาเหรอ O_o?”ตาคนไร้มารยาทนั่นหันมาถามฉันอย่างงงๆ  แต่สำหรับฉันแล้วนายมันกำลังหาเรื่องฉันอยู่!!

     

    แค่เดินชนสุภาพสตรีเข้าอย่างจังจนสุภาพสตรีสุดสวยแถบกระเด็นเนี๊ยะ!  นายคิดว่าไงล่ะ

     

                   เขายืนนิ่งอย่างครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะล้วงมือเขาไปหยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋า  และในเมื่อเขาหาเจอเขาจึงหยิบมันออกมา  และทำให้สุภาพสตรีสุดสวยอย่างฉันได้รู้ว่าตานี่กระเป๋าหนักเป็นบ้า  แต่ฉะไหนจู่ๆเขาจึงควักเงินที่มีทั้งหมดออกมาขว้างทิ้ง  จะบ้าเหรอ!! เขายื่นให้ฉันต่างหากล่ะ $-$ นี่ถ้าไม่ติดไอ้คำว่า...ศอ-ไม้หันอากาศ-กอ-ศัก-ศอ-รอ-สระอี-ดอ-สระอิ-ตัวการันต์-ศรีดิ์ ( แล้วจะสะกดให้มันยากทำไมเนี่ย -*- ) ล่ะก็ฉันเอายัดใส่ปากอมไปฝากพ่อกับแม่ที่บ้านแล้ว 

     

    ทำอย่างนี้หมายความว่ายังไง -^-”

     

    ก็...เธออยากได้นักไม่ใช่เหรอ  ฮึๆอย่าทำลูกเล่นน่าฉันเจอมาบ่อยแล้ว  ไอ้พวกที่ทำกระเซอะกระแซะแต่ที่แท้ก็อยากได้เงินเนี่ย

     

                   อีตาบ้าเอ๊ย!! ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ  อย่างน้อยฉันก็เป็นเพศเดียวกับแม่นายนะยะ

     

    เอาล่ะ  ถ้าไม่เอาฉันก็เก็บ  ไว้วันหลังถ้าฉันว่างๆฉันจะมาให้เธอทะเลาะก็แล้วกันเพราะพอดีวันนี้เป็นวันครบรอบวันที่ฉันคบกับแฟนน่ะ  บ๊ายบาย

     

                   เขาโบกมือด้วยมาดกวนอวัยวะเบื้องล่างสุดๆก่อนจะเดินเขาไปนั่งที่โต๊ะที่มีสาวสวยคนหนึ่งที่ฉันคาดว่าคงเป็นคนที่โชคร้ายที่สุดในรอบปีที่มาคบกับตานี่นั่งรออยู่แล้ว  แล้วทำไมตานี่ต้องนั่งใกล้โต๊ะฉันด้วยนะ - -^^

     

    หวัดดีอึนซอง  ขอโทษนะที่ทำให้นายรอนาน  พอดีว่ามีหมาแถวหน้าร้านมันจะกัดฉันน่ะฉันเลยไม่กล้าเข้ามาฉันพยายามเน้นเสียงให้ดังพอที่ตาคนไร้มารยาทนั่นได้ยิน  และมันก็ได้ผลไม่น้อยเพราะเห็นจากที่ตานั่นโกรธจนฟันขบกันดังกรอดๆ  ฮ่าๆๆ...ฉันชนะ ^O^ โย่!

     

    ไม่เป็นไร  ผมรอได้  ว่าแต่ตอนเข้ามาผมยังไม่เห็นสุนัขสักตัวเลยนี่ครับ

     

    ชั่งมันเถอะ  ว่าแต่นายนั่นแหละเราคบกันมาจนครบ 1 ปีแล้วนะ  ฉันบอกนายกี่รอบแล้วว่าฉันน่ะเป็นแฟนนายนะไม่ใช่แม่นาย  คำว่า  ครับ  กับ ผม เนี่ย  เปลี่ยนเป็นไม่ต้องมีกับฉัน ( ตามลำดับ ) จะได้มั๊ย

     

    คือ...มันไม่ชินน่ะ  ว่าแต่ ผะ...เอ่อ ฉะ..ฉันสั่งโกโก้ปั่นให้ คุณ เอ่อหมายถึง ให้เธอแล้วนะอย่างน้อยเขาก็พยายามน่า...แต่ก็นั่นแหละสายตาเขามันบอกว่ากลัวฉันตลอดเวลา

     

    ขอบใจที่นายยังจำได้ไม่นานโกโก้ปั่นและคาปูชิโน่ก็ถูกเสิร์ฟโดยพี่พนักงานสาวสวย  ซู้ดดฉันดูดอย่างชื่นอกชื่นใจ  แต่ดูเหมือนเสียงดังไปหน่อยเลยส่งผลให้อึนซองสะดุ้งเล็กน้อย  และตาบ้านั่นหันมามองอย่างแบบว่า

    +ยัยบ้านี่เป็นคนกำลังดูดโกโก้ปั่นหรือช้างดูดน้ำเปล่ากันแน่+

     

    เกือบลืมแน่ะ ฉันเอาของขวัญวันครบรอบมาให้นายด้วย  เปิดดูซิ ^-^”หลังจากอึนซองรับของขวัญจากฉันไปแล้ว  สิ่งที่ฉันหวังก็คือกล่องของขวัญจากเขาบ้าง  แต่ชะเง้อคอเท่าไหร่ก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะหยิบมันขึ้นมาเลย T^Tซื้ดด... ว้า  น่าน้อยใจจัง  นายไม่มีของขวัญมาให้ฉันเลยซักนิด

     

    ขะ...ขอโทษนะ ฮัน  ซูยองเมื่อเขาเริ่มก้มหน้าหัวสมองฉันก็เริ่มทำงาน  นี่เขาเป็นอะไรเหรอ...ไม่น่าคงไม่ใช่อย่างที่เราคิด...แต่ตาขวาฉันกระตุกตั้งแต่เช้าเลยนะ...ยังไงเขาก็คงไม่...ใช่มั๊ย

     

    นะ...นายเป็นอะไรหา!!”

     

    คะ...คือว่าผะ...ผม  ขะ...ขอโทษเอาแล้วซิ  ลางสังหรณ์ฉันชักจะถูกแล้วซิ  ไม่น้า...T-T

     

    นายกำลังจะบอกว่าอะไร...T-T”เสียงฉันเย็นชาขึ้นทุกที  แต่ใครจะรู้ไหมว่าฉัน...กำลังร้องไห้

     

    เรา...เลิกกันเถอะ

     

                   สิ้นประโยคนั้น  เหมือนหัวฉันโดนค้อนทุบเข้าอย่างจัง  ทำเอาตัวชาและมึนไปหมด  มันเจ็บแปล๊บเขาที่หัวใจดวงน้อยจนสุดขั้ว...ใครจะรู้ว่าฉันก็เสียใจเป็น

     

    บอกเหตุผลมา...ฉันยังนั่งก้มหน้าไม่เลิก  เพียงเพราะว่าฉันไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตา

     

    คะ...คือว่า  ยังไงเราต้องจากกันอยู่ดี  คุณก็ต้องไปเรียนม.ปลายที่อื่น  ผมเองก็เหมือนกัน  เราตัดจากกันซะตอนนี้จะดีกว่า

     

                   ครืดดด...ฉันลุกขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้ทุกคนในร้านหันมามอง  แต่มันไม่สำคัญอยู่แล้วนี่  สิ่งที่ฉันต้องการคือ  คำตอบที่มีเหตุผลมากกว่านี้จากเขา...

     

    แค่นี้ใช่มั๊ย  ที่เป็นเหตุผลที่ทำให้นายต้องเลิกกับฉัน  มีเหตุผลบ้าบออะไรอีกที่นายต้องทำแบบนี้!! บอกฉันมาเซ่!!”

     

    เธออยากรู้ใช่มั๊ย!!  เพราะเธอชอบแคะขี้มูกเวลาฉันก้มหยิบตะเกียบที่ฉันทำหล่น  แค่เธอแอบผายลมในลิฟท์แล้วทำหน้าไขสือจนฉันต้องตกเป็นแพะรับบาป  แค่...

     

                   ฉันรีบยกมือขึ้นห้ามเขาทันที  เพราะขืนให้เขาพูดต่อไปฉันคงไม่เหลือหน้าไว้ให้ขายเป็นแน่  แต่เขาเห็น  รู้  จริงๆเหรอ  ตายจริง //-.,-// ฉันจะเอาหน้าไปไว้ไหนเนี่ย  อ่ะ! ลืมตัวกำลังอยู่ในอารมณ์เศร้าเคล้าน้ำตา

     

    ก็ได้...ฉันจะถือว่าฉันโชคดีที่ไม่มีแฟนอย่างนายอีก  ฉันจะลบนายออกจากความทรงจำ  นายเองก็เหมือนกัน...อย่างน้อยเราก็เป็นคนจากไปน่า...ไม่ค่อยเสียฟอร์มเท่าไหร่  เหอะๆๆ  นี่...นายไม่คิดจะเรียกฉันเลยใช่มั๊ย  อย่างน้อยนายก็ควรจะตะโกนเรียกฉันแล้วพูดว่า ซูยอง  ฉันขอโทษ  ฉันมันโง่เองที่บอกเลิกเธอ เรียกซิโว้ยยย  ฉันพยายามเดินแบบสโลโมชั่นที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วน้า ( -*- )

     

    เดี๋ยวก่อน!!”นั่นไงเขาเรียกแล้ว  ใครจะไปลืมคนน่ารักๆอย่างฉันลงล่ะ  จริงมะ ^O^

     

    มีอะไรน้ำเสียงเย็นชาตามมาหลังจากที่ฉันใช้สายตาเย็นชานั่นหันไปมองเขา  คึกๆๆสำนึกผิดแล้วล่ะซิ

     

    เธอ...ลืมของ

     

                   อะไรนะ!! หวังว่าฉันคงไม่ฟังผิดนะ  แทนที่จะมีคำว่าขอโทษ  กลับเป็นคำตอกย้ำซะนี่  อีตาบ้าเอ๊ย!!

     

    นายก็ทิ้งเองซิ  ฉันไม่ใช่ยายแจ๋วที่บ้านนายซะหน่อยฉันรีบวิ่งออกมานอกร้านในฉับพลันทันใด  รู้สึกว่าวันนี้หน้าฉันจะขายดีเป็นพิเศษ  ( อ่าวงงอีก  ก็...ขายหน้าไง  หูยๆๆ  อ่าวไม่ขำเหรอ )

     

                   ฉันไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี  บ้านเหรอ...กลับไปก็นอนร้องไห้อยู่ดี  ฉันไม่กลับดีกว่า  ฉันยังเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้หนทาง  จนมาถึงดาดฟ้าแห่งหนึ่ง ( ขนาดไม่รู้หนทางยังอุตส่าห์เดินขึ้นบันไดมาได้นะเนี่ย -_-;; )

     

    ไอ้ผู้ชายเฮงซวย!!!  นายคิดว่านายดีกว่าฉันนักเหรอไง  ห๊า!!”ฉันตะโกนด่าท้องฟ้าโดยคิดว่ามันก็คือนาย ชิน  อึนซอง ผู้ชายที่เฮงซวยที่สุด

     

    ฉันน่ะดีกว่าเธอหลายเท่าอยู่แล้วล่ะ  ที่สำคัญฉันน่ะมีแฟนใหม่แล้วด้วย  สงสัยล่ะซิว่าใคร  ตอนแรกเขาเป็นกิ๊กฉันน่ะ  กิ๊กเข้าใจมั๊ย  แต่ตอนนี้เธอไปแล้ว  ฉันจะได้ให้เขามาเป็นแฟนเต็มตัวกับฉันซะที!!”เสียงปริศนาตอบกลับมา

     

    “O_o? ตาบ้านี่ใครเนี่ย...อ๋อเหรอ  ฉันต่างหากที่ต้องพูดประโยคนั้น  นายหน้าหล่อดูรวยคนนั้นไงเล่าที่เป็นแฟนฉัน  คิดไม่ออกล่ะซิ  คนที่ฉันคุยด้วยไงล่ะ  หล่อกว่านายมากมายหลายเท่า!!”

     

    คิดว่าเธอมีได้คนเดียวเหรอ  แฟนฉันก็คนที่ฉันคุยด้วยก่อนจะเข้ามาไงล่ะ  อ่อแล้วคนที่ฉันยื่นเงินให้ด้วยพอดีว่าฉันให้เป็นค่านมลูกน่ะ  แต่ภรรยาฉันไม่รับ  ฉันก็เลยไม่ถือสา  เป็นไงล่ะแฟน...ไม่ซิภรรยาฉัน  คนดีระดับแชมป์เปี่ยนเลยล่ะ!!”

     

                   ว้ายยย!! ถึงขั้นมีลูกเลยเหรอ  แต่ไอ้ที่ตานี่พูดมันดูคุ้นหูชอบกล  ฉันจึงตัดสินใจหันไปหาต้นตอของเสียงที่อยู่ด้านหลัง  และก่อนที่จะอย่างนู้น  ก่อนที่จะอย่างนี้  และก่อนที่จะ...อ๊ากกกกก!!!O_O

     

     

    นายมัน...ไอ้คนไร้มารยาทนี่O_O!!”

     

    เธอก็คือ...ยัยขอทานโดนแฟนบอกเลิกนี่!!O_o”

     

    [……………….……]

     

                   สวรรค์ทรงโปรด...ฉันกำลังเดินกลับบ้านด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวสุดๆไปเลย  จะเพราะอะไรซะอีกล่ะ  ถ้าไม่ใช่เพราะ...เฮ้อ   ฉันไม่อยากจะเอ่ยเรียกตาบ้านั่นเลยด้วยซ้ำ  ก็ตาคนไร้มารยาทไงล่ะ...ประเด็นก็คือ

                  

    นายกล้าดียังไงถือวิสาสะว่าฉันเป็นแฟนไม่ซิภรรยานายน่ะ  นายนี่มัน...

     

    คิดว่าฉันอยากอย่างนั้นเหรอ  ไม่มีทาง  แต่...คนที่อ้างฉันเป็นแฟนก่อนมันไม่ใช่เธอหรอกเหรอ...

     

                   ตาคนไร้มารยาทนั่นตอบด้วยสีหน้ากวนบาทาซูปเปอร์สุดๆ  ฉันอยากจะตั๊นหน้าตานี่จริงๆ  ถ้าไม่ติดที่ว่าที่เขาพูดมันเป็นความจริง  อะไรกัน!!  นะ...นี่ฉันพูดอะไรออกไป  คนผิดคือตานั่นต่างหาก  ฉันไม่มีทางยอมรับหรอก  เหอะๆๆ -O- ( อนิจจาหนอคนเรา  -*- )  ต่อจากนั้นฉันก็เดินออกมาอย่างหัวเสีย  ฉันเบื่อที่จะเถียงกับตานั่นเต็มทน ( ที่แท้ก็หาข้ออ้างไม่ได้ [ ปัดโธ่!! จะบอกเค้าทำไมเนี่ย –.,-] )

                   เอาเถอะๆ  ไหนๆฉันก็มาถึงบ้านแล้ว  แล้วสิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจไปยิ่งกว่าการที่นายอึนซองเฮงซวยบอกเลิก  ก็คือสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร  มันคืออาหารอันโอชา  ซื้ดดด... ( น้ำลายเยิ้มเล็กน้อย - - )

     

    หวัดดีจ้ะ  คุณนาย  และ  คุณชายยยอ้ะๆ  อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าฉันเป็นคนรับใช้บ้านนี้ล่ะ  เพราะมันเป็นแค่คำสรรพนามที่ฉันใช้เรียกแทนพ่อและแม่...เท่านั้นเอง

     

    จ้ะ  ตัวแสบของพ่อ/จ้ะ

     

                   ฉันเดินขึ้นมาบนห้องเพื่อเก็บกระเป๋า...แต่ตาเจ้ากรรมก็ดันไปสะดุดเข้ากับรูปรูปหนึ่งซะนี่  ไม่อยากจะเชื่อนะว่าเขากับฉันจะมาเป็นแฟนกันได้  แต่ฉันเชื่อนะว่า...บางครั้งความรักก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดเกิดขึ้นได้  ( T^T ซาบซึ้งอย่างแรง )  ฉันคว่ำรูปใครบางคนลงบนโต๊ะ  ใครบางคนที่ฉันเคยคิดว่าใช่  และตอนนี้มันเป็นใครบางคนที่มันไม่ใช่...ชิน  อึนซอง

     

    บางทีฉันอาจจะต้องเก็บรูปพวกนี้ทิ้งซะ...

     

                   ฉันพูดกับตัวเองก่อนจะเผลอยิ้มออกมา  ทั้งๆที่ก็ไม่รู้ว่ารอยยิ้มนั้นหมายความว่ายังไงกันแน่  ฉันตัดสินใจเดินลงมาข้างล่างเพื่อจัดการมื้อค่ำที่พ่อกับแม่สั่งให้ป้านอมทำพิเศษให้  แต่เนื่องในโอกาสอะไรก็ไม่รู้แฮะ -_-;;

     

    คุณนายวันนี้มีอะไรพิเศษเหรอถึงได้ทำกับข้าวซะเยอะแยะไปหมดอย่างนี้น่ะ  ...ไม่ตอบเหรอ  นั้นถามคุณชายก็ได้  ว่าไงจ้ะ  ทำอย่างนี้หมายความว่าอะไร  ...ยิ้มอีก  มันงงนะเนี่ย

     

                   ในเมื่อแม่ไม่มีทีท่าว่าจะตอบมัวแต่ยิ้มแก้มปริเหมือนอมความลับไว้อย่างนั้นแหละ  ฉันจึงตัดสินใจหันไปถามพ่อบ้าง  คำตอบคือ  ...รอยยิ้มกับหนวดที่อยู่เหนือปาก  ( พ่อมีบททั้งที  พรรณนาให้มันดีกว่านี้ไม่ได้เหรอเนี่ย  -_-;; )

     

    เอางั้นก็ได้  ไม่มีใครบอกหนูก็จะไม่กิน  เชอะ!”

     

    บอกจ้ะบอก  แต่ก่อนอื่นหนูกินข้าวก่อนนะจ้ะ  เดี๋ยวแม่บอกแน่

     

    “OK! เอางั้นก็ได้เพราะฉันเองก็ไม่อยากเรื่องมากเหมือนกัน ( ความจริงหิว -*- )

     

                   พอฉันเริ่มลงมือกิน ( ~สวาปาม~ ) พ่อกับแม่ก็นั่งมอง  อ๊ากกก! ฉันหยุดกระทันหันฉับพลันทันใด  เมื่อเห็นสายตาของคุณนายและคุณชายที่กำลังจับจ้องมองฉันเป็นตาเดียว

     

    อะ...เอ่อ  มีอะไรกันหรือเปล่า...คะ

     

    เล็กน้อยน่ะจ้ะ

     

                   พ่อเป็นคนตอบ  ทำเอาฉันเริ่มใจไม่ดี  แต่ถ้าดูจากสีหน้าพ่อกับแม่แล้ว  คงจะเป็นเรื่องดีไม่ใช่น้อย  แต่นั่นแหละคือมหันตภัยครั้งใหญ่!  ถ้าเป็นเรื่องดีสำหรับพ่อแม่แล้ว  มันจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตสำหรับฉัน!!O_O

     

    มีอะไรก็บอกมาซิ  ~  นะ...คุณชายย ~”

     

                   เสียงออดอ้อนสุดน่ารักของฉันทำเอาพ่อใจอ่อนยวบลงใดฉับพลันทันใด  ( ไม่ค่อยหลงตัวเองเล้ย -.,- ) พ่อเริ่มเผยอริมฝีปากขึ้นและไม่นานเสียงก็ถูกเปล่งออกจากริมฝีปากของพ่อ

     

    คือว่า...ลูกต้องแต่งงานกับลูกของเพื่อนพ่อน่ะจ้ะ   อะ...เอ่อ  ก็แค่มั่นไว้ก่อนก็ได้นะจ้ะ

     

    ใช่จ้ะ  ก็แค่มั่นไว้ก่อน  มันคงไม่เสียหายอะไรมากหรอกนะจ้ะ  แม่เชื่อว่าลูกทั้งสองคงต้องเข้ากันได้แน่ๆน่ะจ้ะ

     

                   พ่อกับแม่พยายามที่จะกล่อมเกลี่ยฉันให้ทำตามในสิ่งที่พ่อกับแม่อยากให้ทำ  แต่รู้มั๊ยว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก  ฉันเพิ่งเลิกกับแฟนมาเองนะ  แล้วนี่ยังจะให้ฉันมามั่นกับคนที่ฉันไม่รู้จักอีก  มันอะไรกันเนี่ย!!

     

    ไม่ค่ะ   หนูไม่มีทางมั่นกับคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนพ่อกับแม่ไม่มีทางบังคับหนูได้หรอกค่ะ!!”

     

                   ฉันว่าลั่นบ้านก่อนจะกระโจนขึ้นห้องมาโดยมีเสียงของพ่อกับแม่ไล่ตามหลังมาด้วย  แต่ใครที่จะโง่หยุดฟังกันล่ะ

     

                   แล้วนี่มันอะไรกัน  สมัยนี้ยังมีพ่อแม่ที่จับลูกคลุมถุงชนอีกเหรอเนี่ย!!O_o

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×