คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1:คลุมถุงชน!?!
“ฮ่า...เรียบร้อย ^O^”ฉันพูดเมื่อหยิบหมวกไหมพรมสีแดงที่ ‘ชิน อึนซอง’ คนที่ฉันเรียกว่าเป็นแฟนซื้อให้เสร็จแล้ว ( เขาเป็นคนที่โชคร้ายที่สุดน่ะ -*- ) แล้ววันนี้ก็เป็นวันสำคัญของฉันกับชิน อึนซองด้วย อย่าเพิ่งสงสัยก็มันเป็นวันครบรอบ 1 ปีที่เราคบกันไงเล่า ฉันเดินเริงร่าออกมาจากบ้านโดยไม่ลืมหยิบของขวัญที่จะให้อึนซองมาด้วย ฮ่าๆๆ เขาภูมิใจแน่ที่ได้ฉันเป็นแฟนน่ะ อิอิ ^O^ ( อารมณ์ดี๊ อารมณ์ดี )
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะ ฉัน...ฮัน ซูยอง หญิงสาววัยเพียง 15 ปีเศษ...หรือมีนามว่า
‘ยัยเด็กบ้า’ ในบรรดาป้าๆยายๆแถวบ้าน แต่ฉันก็เป็นที่รักแก่ทุกคนนะจะบอกให้ ^-^ ( ที่รักษาความสะอาดส้วมบ้านเค้าน่ะซิ -_-;; )
‘ยัยปากปีจอ,ยัยตัวกวน ( อวัยวะเบื้องล่าง )’ในบรรดาพวกมนุษย์มนาที่เกิดมามีอวัยวะเพิ่มมาอีก 1 อย่างคือ...นอหรือที่ฉันเรียกว่ายัยพวกขวางโลก
‘ยัยตัวแสบ’ในบรรดาญาติโกโหติกาทั้งหลาย รวมทั้งพ่อและแม่ที่น่าร้ากก
‘ซูยองสุดสวย’ในบรรดานักเรียนผู้ชายรวมถึงพวกผู้ชายที่แบบว่าไม่มีอะไรจะทำนอกจากมองหาแต่ผู้หญิง แต่อย่างน้อยพวกนี้ก็ยังฉลาดน่า...ก็ที่มองว่าฉันสวยไง -.,-
และสุดท้าย ‘ฮัน ซูยอง...’อึนซองเรียกฉันแบบนี้...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมสิ่งที่เขาเรียกมันจึงดูห่างเหินขนาดนั้นเพราะอย่างน้อยเราก็เป็นคนที่เรียกว่าแฟนกันน่ะนะ เขาน่าจะเรียกให้มันสนิทสนมกว่าที่น่ะอย่างน้อยก็ตัดนามสกุลออกไปบ้าง อ่า...แต่ชั่งมันเถอะน่าอึนซองเป็นผู้ชายของฉันก็แล้วกัน...^-^
ในที่สุดฉันก็เดินมาถึงหน้าร้านคอฟฟี่ช๊อปเล็กๆตรงมุมซอย...ที่ที่ฉันนัดอึนซองไว้ ฉันเผลอยิ้มให้กับเขาที่นั่งหันหลังรอแล้วอยู่ในร้าน เขา...เป็นคนดีมาก แต่ฉันมักจะหัวเสียสุดๆเมื่อพวกขวางโลกชอบเรียกเขาว่านายเฉิ่ม - -^ และในขณะที่ฉันกำลังจะเดินเข้าไปหาเขาก็มีอีตามารยาททรามแซงเข้าไปในร้านซะก่อน
“โอ๊ย!! โอ๊ยยยยยยย!!!”
ในเมื่อฉันอุทานแล้วเขายังไม่ยอมหันมาสนใจ ฉันจึงร้องให้ดังกว่าเดิมอีกหลายเท่าเพื่อเรียกร้องความสนใจเล็กน้อย ( แปดหลอดอย่างนี้เรียกว่าเล็กน้อยเหรอเนี่ย -*- ) ได้ผลเขาหันมาในฉับพลันทันใด แต่มันจะดีนะถ้าคนทั้งร้านไม่หันมามองฉันด้วยน่ะ!! ตายๆๆฉันอยากจะแทรกแผ่นดินหนีจัง O- ( ไม่ทันแล้วโว้ย!! ) อ้าวเหรอ O_o!?
“มีปัญหาเหรอ O_o?”ตาคนไร้มารยาทนั่นหันมาถามฉันอย่างงงๆ แต่สำหรับฉันแล้วนายมันกำลังหาเรื่องฉันอยู่!!
“แค่เดินชนสุภาพสตรีเข้าอย่างจังจนสุภาพสตรีสุดสวยแถบกระเด็นเนี๊ยะ! นายคิดว่าไงล่ะ”
เขายืนนิ่งอย่างครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะล้วงมือเขาไปหยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋า และในเมื่อเขาหาเจอเขาจึงหยิบมันออกมา และทำให้สุภาพสตรีสุดสวยอย่างฉันได้รู้ว่าตานี่กระเป๋าหนักเป็นบ้า แต่ฉะไหนจู่ๆเขาจึงควักเงินที่มีทั้งหมดออกมาขว้างทิ้ง จะบ้าเหรอ!! เขายื่นให้ฉันต่างหากล่ะ $-$ นี่ถ้าไม่ติดไอ้คำว่า...ศอ-ไม้หันอากาศ-กอ-ศัก-ศอ-รอ-สระอี-ดอ-สระอิ-ตัวการันต์-ศรีดิ์ ( แล้วจะสะกดให้มันยากทำไมเนี่ย -*- ) ล่ะก็ฉันเอายัดใส่ปากอมไปฝากพ่อกับแม่ที่บ้านแล้ว
“ทำอย่างนี้หมายความว่ายังไง -^-”
“ก็...เธออยากได้นักไม่ใช่เหรอ ฮึๆอย่าทำลูกเล่นน่าฉันเจอมาบ่อยแล้ว ไอ้พวกที่ทำกระเซอะกระแซะแต่ที่แท้ก็อยากได้เงินเนี่ย”
อีตาบ้าเอ๊ย!! ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ อย่างน้อยฉันก็เป็นเพศเดียวกับแม่นายนะยะ
“เอาล่ะ ถ้าไม่เอาฉันก็เก็บ ไว้วันหลังถ้าฉันว่างๆฉันจะมาให้เธอทะเลาะก็แล้วกันเพราะพอดีวันนี้เป็นวันครบรอบวันที่ฉันคบกับแฟนน่ะ บ๊ายบาย”
เขาโบกมือด้วยมาดกวนอวัยวะเบื้องล่างสุดๆก่อนจะเดินเขาไปนั่งที่โต๊ะที่มีสาวสวยคนหนึ่งที่ฉันคาดว่าคงเป็นคนที่โชคร้ายที่สุดในรอบปีที่มาคบกับตานี่นั่งรออยู่แล้ว แล้วทำไมตานี่ต้องนั่งใกล้โต๊ะฉันด้วยนะ - -^^
“หวัดดีอึนซอง ขอโทษนะที่ทำให้นายรอนาน พอดีว่ามีหมาแถวหน้าร้านมันจะกัดฉันน่ะฉันเลยไม่กล้าเข้ามา”ฉันพยายามเน้นเสียงให้ดังพอที่ตาคนไร้มารยาทนั่นได้ยิน และมันก็ได้ผลไม่น้อยเพราะเห็นจากที่ตานั่นโกรธจนฟันขบกันดังกรอดๆ ฮ่าๆๆ...ฉันชนะ ^O^ โย่!
“ไม่เป็นไร ผมรอได้ ว่าแต่ตอนเข้ามาผมยังไม่เห็นสุนัขสักตัวเลยนี่ครับ”
“ชั่งมันเถอะ ว่าแต่นายนั่นแหละเราคบกันมาจนครบ 1 ปีแล้วนะ ฉันบอกนายกี่รอบแล้วว่าฉันน่ะเป็นแฟนนายนะไม่ใช่แม่นาย คำว่า ครับ กับ ผม เนี่ย เปลี่ยนเป็นไม่ต้องมีกับฉัน ( ตามลำดับ ) จะได้มั๊ย”
“คือ...มันไม่ชินน่ะ ว่าแต่ ผะ...เอ่อ ฉะ..ฉันสั่งโกโก้ปั่นให้ คุณ เอ่อหมายถึง ให้เธอแล้วนะ”อย่างน้อยเขาก็พยายามน่า...แต่ก็นั่นแหละสายตาเขามันบอกว่ากลัวฉันตลอดเวลา
“ขอบใจที่นายยังจำได้”ไม่นานโกโก้ปั่นและคาปูชิโน่ก็ถูกเสิร์ฟโดยพี่พนักงานสาวสวย ซู้ดด ฉันดูดอย่างชื่นอกชื่นใจ แต่ดูเหมือนเสียงดังไปหน่อยเลยส่งผลให้อึนซองสะดุ้งเล็กน้อย และตาบ้านั่นหันมามองอย่างแบบว่า
+ยัยบ้านี่เป็นคนกำลังดูดโกโก้ปั่นหรือช้างดูดน้ำเปล่ากันแน่+
“เกือบลืมแน่ะ ฉันเอาของขวัญวันครบรอบมาให้นายด้วย เปิดดูซิ ^-^”หลังจากอึนซองรับของขวัญจากฉันไปแล้ว สิ่งที่ฉันหวังก็คือกล่องของขวัญจากเขาบ้าง แต่ชะเง้อคอเท่าไหร่ก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะหยิบมันขึ้นมาเลย T^Tซื้ดด... “ว้า น่าน้อยใจจัง นายไม่มีของขวัญมาให้ฉันเลยซักนิด”
“ขะ...ขอโทษนะ ฮัน ซูยอง”เมื่อเขาเริ่มก้มหน้าหัวสมองฉันก็เริ่มทำงาน นี่เขาเป็นอะไรเหรอ...ไม่น่าคงไม่ใช่อย่างที่เราคิด...แต่ตาขวาฉันกระตุกตั้งแต่เช้าเลยนะ...ยังไงเขาก็คงไม่...ใช่มั๊ย
“นะ...นายเป็นอะไรหา!!”
“คะ...คือว่าผะ...ผม ขะ...ขอโทษ”เอาแล้วซิ ลางสังหรณ์ฉันชักจะถูกแล้วซิ ไม่น้า...T-T
“นายกำลังจะบอกว่าอะไร...T-T”เสียงฉันเย็นชาขึ้นทุกที แต่ใครจะรู้ไหมว่าฉัน...กำลังร้องไห้
“เรา...เลิกกันเถอะ”
สิ้นประโยคนั้น เหมือนหัวฉันโดนค้อนทุบเข้าอย่างจัง ทำเอาตัวชาและมึนไปหมด มันเจ็บแปล๊บเขาที่หัวใจดวงน้อยจนสุดขั้ว...ใครจะรู้ว่าฉันก็เสียใจเป็น
“บอกเหตุผลมา...”ฉันยังนั่งก้มหน้าไม่เลิก เพียงเพราะว่าฉันไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตา
“คะ...คือว่า ยังไงเราต้องจากกันอยู่ดี คุณก็ต้องไปเรียนม.ปลายที่อื่น ผมเองก็เหมือนกัน เราตัดจากกันซะตอนนี้จะดีกว่า”
ครืดดด...ฉันลุกขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้ทุกคนในร้านหันมามอง แต่มันไม่สำคัญอยู่แล้วนี่ สิ่งที่ฉันต้องการคือ คำตอบที่มีเหตุผลมากกว่านี้จากเขา...
“แค่นี้ใช่มั๊ย ที่เป็นเหตุผลที่ทำให้นายต้องเลิกกับฉัน มีเหตุผลบ้าบออะไรอีกที่นายต้องทำแบบนี้!! บอกฉันมาเซ่!!”
“เธออยากรู้ใช่มั๊ย!! เพราะเธอชอบแคะขี้มูกเวลาฉันก้มหยิบตะเกียบที่ฉันทำหล่น แค่เธอแอบผายลมในลิฟท์แล้วทำหน้าไขสือจนฉันต้องตกเป็นแพะรับบาป แค่...”
ฉันรีบยกมือขึ้นห้ามเขาทันที เพราะขืนให้เขาพูดต่อไปฉันคงไม่เหลือหน้าไว้ให้ขายเป็นแน่ แต่เขาเห็น รู้ จริงๆเหรอ ตายจริง //-.,-// ฉันจะเอาหน้าไปไว้ไหนเนี่ย อ่ะ! ลืมตัวกำลังอยู่ในอารมณ์เศร้าเคล้าน้ำตา
“ก็ได้...ฉันจะถือว่าฉันโชคดีที่ไม่มีแฟนอย่างนายอีก ฉันจะลบนายออกจากความทรงจำ นายเองก็เหมือนกัน...”อย่างน้อยเราก็เป็นคนจากไปน่า...ไม่ค่อยเสียฟอร์มเท่าไหร่ เหอะๆๆ นี่...นายไม่คิดจะเรียกฉันเลยใช่มั๊ย อย่างน้อยนายก็ควรจะตะโกนเรียกฉันแล้วพูดว่า ‘ซูยอง ฉันขอโทษ ฉันมันโง่เองที่บอกเลิกเธอ’ เรียกซิโว้ยยย ฉันพยายามเดินแบบสโลโมชั่นที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วน้า ( -*- )
“เดี๋ยวก่อน!!”นั่นไงเขาเรียกแล้ว ใครจะไปลืมคนน่ารักๆอย่างฉันลงล่ะ จริงมะ ^O^
“มีอะไร”น้ำเสียงเย็นชาตามมาหลังจากที่ฉันใช้สายตาเย็นชานั่นหันไปมองเขา คึกๆๆสำนึกผิดแล้วล่ะซิ
“เธอ...ลืมของ”
อะไรนะ!! หวังว่าฉันคงไม่ฟังผิดนะ แทนที่จะมีคำว่าขอโทษ กลับเป็นคำตอกย้ำซะนี่ อีตาบ้าเอ๊ย!!
“นายก็ทิ้งเองซิ ฉันไม่ใช่ยายแจ๋วที่บ้านนายซะหน่อย”ฉันรีบวิ่งออกมานอกร้านในฉับพลันทันใด รู้สึกว่าวันนี้หน้าฉันจะขายดีเป็นพิเศษ ( อ่าวงงอีก ก็...ขายหน้าไง หูยๆๆ อ่าวไม่ขำเหรอ )
ฉันไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี บ้านเหรอ...กลับไปก็นอนร้องไห้อยู่ดี ฉันไม่กลับดีกว่า ฉันยังเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้หนทาง จนมาถึงดาดฟ้าแห่งหนึ่ง ( ขนาดไม่รู้หนทางยังอุตส่าห์เดินขึ้นบันไดมาได้นะเนี่ย -_-;; )
“ไอ้ผู้ชายเฮงซวย!!! นายคิดว่านายดีกว่าฉันนักเหรอไง ห๊า!!”ฉันตะโกนด่าท้องฟ้าโดยคิดว่ามันก็คือนาย ชิน อึนซอง ผู้ชายที่เฮงซวยที่สุด
“ฉันน่ะดีกว่าเธอหลายเท่าอยู่แล้วล่ะ ที่สำคัญฉันน่ะมีแฟนใหม่แล้วด้วย สงสัยล่ะซิว่าใคร ตอนแรกเขาเป็นกิ๊กฉันน่ะ กิ๊กเข้าใจมั๊ย แต่ตอนนี้เธอไปแล้ว ฉันจะได้ให้เขามาเป็นแฟนเต็มตัวกับฉันซะที!!”เสียงปริศนาตอบกลับมา
“O_o? ตาบ้านี่ใครเนี่ย...อ๋อเหรอ ฉันต่างหากที่ต้องพูดประโยคนั้น นายหน้าหล่อดูรวยคนนั้นไงเล่าที่เป็นแฟนฉัน คิดไม่ออกล่ะซิ คนที่ฉันคุยด้วยไงล่ะ หล่อกว่านายมากมายหลายเท่า!!”
“คิดว่าเธอมีได้คนเดียวเหรอ แฟนฉันก็คนที่ฉันคุยด้วยก่อนจะเข้ามาไงล่ะ อ่อแล้วคนที่ฉันยื่นเงินให้ด้วยพอดีว่าฉันให้เป็นค่านมลูกน่ะ แต่ภรรยาฉันไม่รับ ฉันก็เลยไม่ถือสา เป็นไงล่ะแฟน...ไม่ซิภรรยาฉัน คนดีระดับแชมป์เปี่ยนเลยล่ะ!!”
ว้ายยย!! ถึงขั้นมีลูกเลยเหรอ แต่ไอ้ที่ตานี่พูดมันดูคุ้นหูชอบกล ฉันจึงตัดสินใจหันไปหาต้นตอของเสียงที่อยู่ด้านหลัง และก่อนที่จะอย่างนู้น ก่อนที่จะอย่างนี้ และก่อนที่จะ...อ๊ากกกกก!!!O_O
“นายมัน...ไอ้คนไร้มารยาทนี่O_O!!”
“เธอก็คือ...ยัยขอทานโดนแฟนบอกเลิกนี่!!O_o”
[ . ]
สวรรค์ทรงโปรด...ฉันกำลังเดินกลับบ้านด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวสุดๆไปเลย จะเพราะอะไรซะอีกล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะ...เฮ้อ ฉันไม่อยากจะเอ่ยเรียกตาบ้านั่นเลยด้วยซ้ำ ก็ตาคนไร้มารยาทไงล่ะ...ประเด็นก็คือ
‘นายกล้าดียังไงถือวิสาสะว่าฉันเป็นแฟน ไม่ซิภรรยานายน่ะ นายนี่มัน...’
‘คิดว่าฉันอยากอย่างนั้นเหรอ ไม่มีทาง แต่...คนที่อ้างฉันเป็นแฟนก่อนมันไม่ใช่เธอหรอกเหรอ...’
ตาคนไร้มารยาทนั่นตอบด้วยสีหน้ากวนบาทาซูปเปอร์สุดๆ ฉันอยากจะตั๊นหน้าตานี่จริงๆ ถ้าไม่ติดที่ว่าที่เขาพูดมันเป็นความจริง อะไรกัน!! นะ...นี่ฉันพูดอะไรออกไป คนผิดคือตานั่นต่างหาก ฉันไม่มีทางยอมรับหรอก เหอะๆๆ -O- ( อนิจจาหนอคนเรา -*- ) ต่อจากนั้นฉันก็เดินออกมาอย่างหัวเสีย ฉันเบื่อที่จะเถียงกับตานั่นเต็มทน ( ที่แท้ก็หาข้ออ้างไม่ได้ [ ปัดโธ่!! จะบอกเค้าทำไมเนี่ย .,-] )
เอาเถอะๆ ไหนๆฉันก็มาถึงบ้านแล้ว แล้วสิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจไปยิ่งกว่าการที่นายอึนซองเฮงซวยบอกเลิก ก็คือสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร มันคืออาหารอันโอชา ซื้ดดด... ( น้ำลายเยิ้มเล็กน้อย - - )
“หวัดดีจ้ะ คุณนาย และ คุณชายยย”อ้ะๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าฉันเป็นคนรับใช้บ้านนี้ล่ะ เพราะมันเป็นแค่คำสรรพนามที่ฉันใช้เรียกแทนพ่อและแม่...เท่านั้นเอง
“จ้ะ ตัวแสบของพ่อ/จ้ะ”
ฉันเดินขึ้นมาบนห้องเพื่อเก็บกระเป๋า...แต่ตาเจ้ากรรมก็ดันไปสะดุดเข้ากับรูปรูปหนึ่งซะนี่ ไม่อยากจะเชื่อนะว่าเขากับฉันจะมาเป็นแฟนกันได้ แต่ฉันเชื่อนะว่า...บางครั้งความรักก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดเกิดขึ้นได้ ( T^T ซาบซึ้งอย่างแรง ) ฉันคว่ำรูปใครบางคนลงบนโต๊ะ ใครบางคนที่ฉันเคยคิดว่าใช่ และตอนนี้มันเป็นใครบางคนที่มันไม่ใช่...ชิน อึนซอง
“บางทีฉันอาจจะต้องเก็บรูปพวกนี้ทิ้งซะ...”
ฉันพูดกับตัวเองก่อนจะเผลอยิ้มออกมา ทั้งๆที่ก็ไม่รู้ว่ารอยยิ้มนั้นหมายความว่ายังไงกันแน่ ฉันตัดสินใจเดินลงมาข้างล่างเพื่อจัดการมื้อค่ำที่พ่อกับแม่สั่งให้ป้านอมทำพิเศษให้ แต่เนื่องในโอกาสอะไรก็ไม่รู้แฮะ -_-;;
“คุณนายวันนี้มีอะไรพิเศษเหรอถึงได้ทำกับข้าวซะเยอะแยะไปหมดอย่างนี้น่ะ ...ไม่ตอบเหรอ นั้นถามคุณชายก็ได้ ว่าไงจ้ะ ทำอย่างนี้หมายความว่าอะไร ...ยิ้มอีก มันงงนะเนี่ย”
ในเมื่อแม่ไม่มีทีท่าว่าจะตอบมัวแต่ยิ้มแก้มปริเหมือนอมความลับไว้อย่างนั้นแหละ ฉันจึงตัดสินใจหันไปถามพ่อบ้าง คำตอบคือ ...รอยยิ้มกับหนวดที่อยู่เหนือปาก ( พ่อมีบททั้งที พรรณนาให้มันดีกว่านี้ไม่ได้เหรอเนี่ย -_-;; )
“เอางั้นก็ได้ ไม่มีใครบอกหนูก็จะไม่กิน เชอะ!”
“บอกจ้ะบอก แต่ก่อนอื่นหนูกินข้าวก่อนนะจ้ะ เดี๋ยวแม่บอกแน่”
“OK! เอางั้นก็ได้”เพราะฉันเองก็ไม่อยากเรื่องมากเหมือนกัน ( ความจริงหิว -*- )
พอฉันเริ่มลงมือกิน ( ~สวาปาม~ ) พ่อกับแม่ก็นั่งมอง อ๊ากกก! ฉันหยุดกระทันหันฉับพลันทันใด เมื่อเห็นสายตาของคุณนายและคุณชายที่กำลังจับจ้องมองฉันเป็นตาเดียว
“อะ...เอ่อ มีอะไรกันหรือเปล่า...คะ”
“เล็กน้อยน่ะจ้ะ”
พ่อเป็นคนตอบ ทำเอาฉันเริ่มใจไม่ดี แต่ถ้าดูจากสีหน้าพ่อกับแม่แล้ว คงจะเป็นเรื่องดีไม่ใช่น้อย แต่นั่นแหละคือมหันตภัยครั้งใหญ่! ถ้าเป็นเรื่องดีสำหรับพ่อแม่แล้ว มันจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตสำหรับฉัน!!O_O
“มีอะไรก็บอกมาซิ ~ นะ...คุณชายย ~”
เสียงออดอ้อนสุดน่ารักของฉันทำเอาพ่อใจอ่อนยวบลงใดฉับพลันทันใด ( ไม่ค่อยหลงตัวเองเล้ย -.,- ) พ่อเริ่มเผยอริมฝีปากขึ้นและไม่นานเสียงก็ถูกเปล่งออกจากริมฝีปากของพ่อ
“คือว่า...ลูกต้องแต่งงานกับลูกของเพื่อนพ่อน่ะจ้ะ อะ...เอ่อ ก็แค่มั่นไว้ก่อนก็ได้นะจ้ะ”
“ใช่จ้ะ ก็แค่มั่นไว้ก่อน มันคงไม่เสียหายอะไรมากหรอกนะจ้ะ แม่เชื่อว่าลูกทั้งสองคงต้องเข้ากันได้แน่ๆน่ะจ้ะ”
พ่อกับแม่พยายามที่จะกล่อมเกลี่ยฉันให้ทำตามในสิ่งที่พ่อกับแม่อยากให้ทำ แต่รู้มั๊ยว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ฉันเพิ่งเลิกกับแฟนมาเองนะ แล้วนี่ยังจะให้ฉันมามั่นกับคนที่ฉันไม่รู้จักอีก มันอะไรกันเนี่ย!!
“ไม่ค่ะ หนูไม่มีทางมั่นกับคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนพ่อกับแม่ไม่มีทางบังคับหนูได้หรอกค่ะ!!”
ฉันว่าลั่นบ้านก่อนจะกระโจนขึ้นห้องมาโดยมีเสียงของพ่อกับแม่ไล่ตามหลังมาด้วย แต่ใครที่จะโง่หยุดฟังกันล่ะ
แล้วนี่มันอะไรกัน สมัยนี้ยังมีพ่อแม่ที่จับลูกคลุมถุงชนอีกเหรอเนี่ย!!O_o
ความคิดเห็น