ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dark Hunter School ภาค พฤกษาแห่งความตาย

    ลำดับตอนที่ #19 : จบปัญหาน่าปวดหัว

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 46
      0
      9 เม.ย. 59

    ส่วนของโซว์

    เมื่อคืนข้ารู้สึกเหมือนได้ยินเฮคเตอร์บ่นอะไรสักอย่าง ท่านพ่อต้องร่ายเวทอะไรสักอย่างไว้แน่ๆข้าถึงได้หูแว่วตลอด แค่ต้องคอยปกป้องก็มากพออยู่แล้วไฟวัสต์ยังไม่ยอมบอกความจริงทั้งหมดมาอีกอยู่ดีๆข้าก็อยากระเบิดตัวตาย... ปล่อยอารมณ์ดรามาของข้าไปเถอะข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนเองเป็นอะไร

    วันนี้ไฟวัสต์ก็ดื้อดึงจะไปเรือนกระจกอีกครั้ง ดูเหมือนความจำของเฮคเตอร์จะกลับมาไม่น้อยแล้วแต่เจ้าตัวคงไม่รู้ตัว อาจเป็นเพราะพลังที่ท่านพ่อร่ายเวทไว้การคืนมาของความจำเฮคเตอร์จึงไม่ดีเท่าที่ควร ไฟวัสต์บอกข้าว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องคำสาปพี่ท่านจัดการได้ก่อนเวลาเกิดขึ้นของคำสาปแน่นอน และไฟวัสต์ไม่เคยพลาด

    ความชอบเก่าๆของเฮคเตอร์หายไป โลลีป๊อปกลายเป็นคำต้องห้ามที่ท่านพ่อร่ายเวทห้ามพูดไว้และเช้านี้เฮคเตอร์ที่ปกติตื่นตนแรกก็ไม่ได้ตื่น... สงสัยจะเหนื่อย ไฟวัสต์เลยตัดสินใจทิ้งเฮคเตอร์ไว้ที่ห้อง ส่วนเขาจะไปเรือนกระจกกับข้าและไมท์คลาสส์ อ่า คำสั่งของไฟวัสต์ก็เหมือนกับคำสั่งของราชินี ขัดไม่ได้... เอาเถอะข้าไม่คิดจะขัดอยู่แล้ว

    เมื่อเราเข้าใกล้เรือนกระจกข้าก็เรียกดาบคู่ใจออกมาเพื่อความปลอดภัย บรรยากาศที่นี่เต็มไปด้วยความแค้นและความชัง มวลอากาศขมวดจนน่าขยะแขยง

    “หยุด” ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นมาขวางหน้าข้าก่อนข้าก้าวข้าเข้าเรือนกระจกเพียงเสียววินาที ไฟวัสต์หันมามองข้า “ดาบ? บ้า?” เขาพูดด้วยเสียงเยาะเย้ยขณะลดมือลง ข้าทำหน้างงยังไม่ทันทำความเข้าใจความหมายกับคำของเขา

    เปรียง

    เสียงมาก่อนแสงเสมอ แต่ข้าเร็วกว่าเสียง! ข้าสามารถตั้งรับการโจมตี(?)ได้ทัน... จริงๆดาบข้ามันเป็นน้ำแข็งทั้งด้าม นำไฟฟ้าได้ดีนักล่ะ

    “ข้ามันบ้าชะมัด... ” ข้าหัวเราะเยาะตนเอง ไฟฟ้าแรงสูงช๊อตข้าอย่างจังอยู่นานพอที่ข้าจะวูบไป

    ส่วนของไฟวัสต์

    “เจ้าบ้า” ข้าอดบ่นออกมาไม่ได้ เพิ่งเตือนไปไม่ถึงนาทีก็พลาดท่าจนได้

    เคร้งงงงงงงง

    “หืม?” ข้าตั้งดาบรับการโจมตีจากอาวุธแปลกๆโดยไม่หันไปมอง ก่อนจะสะบัดตัวออกจากรัศมีการโจมตีและเรียกแส้เพลิงขึ้นมาวาดลวดลายตั้งการป้องกันเอาไว้รอบตัว เด็กน้อยใส่ฮูดดึงอาวุธกลับหาตนเองเมื่อรู้ว่าโจมตีข้าไปก็ไร้ประโยชน์

    “คุณหนูเฟย์แห่งปราสาทสวรรค์ เอ หรือข้าควรจะเรียกท่านว่า ไฟวัสต์ เฟย์วัสต์ ไซเวียส์ เจ้าชายลำดับที่หนึ่งแห่งราชวงศ์ในตำนาน” เสียงถากถางเปี่ยมความมั่นใจในตนถามข้าอย่างไม่กลัวเกรง ข้าลดระดับแส้ลงให้มองเห็นหน้าศัตรูชัดขึ้น

    “รู้? ไม่เกรงใจนะ” ข้าบอกเด็กน้อยผู้เย้อหยิ่งก่อนร่ายเวทมรณะด้วยความอารมณ์เสียจนสุดกลั้น การใจเย็นไม่ใช่นิสัยของข้า...

    “ไฟวัสต์! ตั้งสติหน่อยสิ! ท่านเป็นอะไรไป เด็กคนนี้ข้าจัดการให้ท่านเองก็ได้ สงบไฟนั่นลงหน่อยเถอะ” ไมท์คลาสส์พยายามร้องเตือนข้า โทษทีนะไมท์คลาสส์ข้าก็อยากฟังเจ้าอยู่แต่ถ้าข้าฟัง ข้าก็ไม่ใช่คุณหนูเฟย์แห่งปราสาทสวรรค์น่ะสิ!

    ข้าตวัดแส้ไปรัดตัวเจ้าเด็กที่กล้าลามปามชื่ออันศักสิทของข้า! “รำคาญ” ข้าหันไปบอกไมท์คลาสส์ที่ทำท่าเจ็บปวดเหลือเกินกับคำพูดของข้า เอาเถอะจะยอมไม่ฆ่าก็ได้ ข้าตัดสินใจเสกเก้าอี้หุ้มฉนวนไฟฟ้าขึ้นมาและจับเจ้าเด็กบ้านั่งก่อนแบกร่างโซว์พาดไหล่แล้วเดินกลับหอ

    ตูม!

    เสียงดังสนั่นมาพร้อมลมกรรโชกลูกใหญ่ เฮคเตอร์คงจะก่อเรื่องอีกแล้ว ข้าไม่จำเป็นต้องเปิดประตูเพราะประตูทั้งบานได้หลุดออกมานอนตายอย่างสงบหน้าห้องเรียบร้อยแล้ว ข้าเดินเข้าไปในห้อง เละ เละหนักกว่าที่ข้าคาดไว้โขอยู่เหมือนกัน ข้าวางโซว์ลงอย่างเหนื่อยๆก่อนจะเรียกแส้เพลิงออกมาอีกครั้ง

    “โฮก!” เฮคเตอร์ละเท้าออกจากการกระทืบมิกเกลแล้วหันมาขู่ข้า ร่างกายของเฮคเตอร์สูงใหญ่ขึ้นและมีเส้นเลือดปูดโปนทั่วร่าง ถ้ายังน่ากลัวไม่พอ... เขี้ยวงอกยาว ด้วงตาแดงด้านแข็งกราว กรงเล็บแหลมคม ใบหูใหญ่กาง หางซาตาน และที่ขาดไม่ได้ เขาอันมหึมาบนหัวนั่นล่ะ

    โถ่ เด็กหน่อเด็ก การเคลื่อนไหวของเฮดเตอร์เชื่องช้าและดูทางออกง่ายยิ่งกว่าสู้กับหุ่นเวท เขาพยายามโจมตีข้ารอบแล้วรอบเล่า แต่เพียงข้าตวัดแส้ออกไปมัดเขาไว้เขาก็หมดท่าอย่างสิ้นเชิง

    “เลย์ไลย์” ข้าเรียกเลย์ไลย์เป็นการบอกกลายๆว่าจัดการต่อด้วย ข้าเหนื่อยแล้ว ให้ตายข้าไม่เคยปวดหัวหนักขนาดนี้มาก่อน น้องชายข้าสติแตกหนึ่ง เอ๋อจนบ้าหนึ่ง และข้าไม่มีที่ระบายความหงุดหงิดใดๆ แม้แต่จะฆ่าแมลงหวี่สักตัวเลย์ไลย์กับไมท์คลาสส์ยังไม่อณุญาต อืม กว่าเรื่องจะเรียบร้อยก็มืดแล้ว มืดก็คือมืดคงต้องไปนอนล่ะนะ ชีวิตช่างซ้ำซากจำเจน่ารำคาญจริงๆ

    ข้าเท้าหน้าต่างแล้วเหยงหน้าออกไปมองดวงจันทร์ข้างนอก ข้าเหนื่อยเหลือเกิน ไม่อยากยุ่งกับเรื่องพวกนี้เลยให้ตายเถอะ ข้ามันช่างสองจิตสองใจ ใจหนึ่งก็อยากให้จบเรื่องไว้ๆจะได้ไม่ต้องมาคอยตามล้างตามเช็ดเรื่องน่าปวดหัวของน้อง อีกใจก็ไม่อยากให้จบเรื่อง... ข้าไม่อยากเจอหน้าใครบ้างคนนิดหน่อย

    เจ้าเบื่อข้าแล้วหรือน้ำเสียงออดอ้อนที่คงไม่เข้ากับหน้าเจ้าของเสียงคลับคล้ายว่าจะกังวาลขึ้นมาพร้อมลมอุ่นๆที่พัดวูบวาบอย่างไม่นึกเกรงใจใคร เจ้าอยู่อย่างสงบได้อีกไม่นานหรอกไฟวัสต์ ข้าอยากพบเจ้าแทบบ้าแต่กลับไปหาไม่ได้เช่นนี้มัน... อ่า ข้าขอโทษนะสายลมอันอบอุ่นยังส่งเสียงออกมาไม่หยุด และข้าอยากเถียงว่าข้าไม่ได้อยู่อย่างสงบเลยสักนิด โอเคก็สงบกว่าตอนอยู่กับพ่อและ... เจ้าของปราสาทสวรรค์ล่ะนะ

    “รำคาญ” ข้าพลิกร่างหนีเสียงนั้น ไม่อยากฟัง ข้าจะไม่ฟังคำแก้ตัวของใครทั้งนั้นโดยเฉพาะเจ้า คุณชายแห่งปราสาทสวรรค์ ข้าจะพาเฮคเตอร์ไปจบเรื่องราวทั้งหมดทันทีที่เขาฟื้น สายลมที่อบอุ่นพลันเย็นเยือกคล้ายเสียใจจนช็อกก่อนจางหายไป

    ข้ามองดวงจัยทร์ที่ค่อยๆถูกกลุ่มก้อนเมฆกัดกินเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปิดหน้าต่างที่จะพังเหล่มิพังแหล่เพื่อกันลมหนาวแล้วเข้านอน

    ส่วนของเฮคเตอร์

    ปวด คงเป็นคำเดียวที่บรรยายได้ถึงความรู้สึกของผมตอนนี้ หรือถ้าจะให้ชัดเจนกว่านั้นก็คง รวดร้าว เจ็บไปทั้งตัว ผมค่อยๆยันตัวขึ้นนั่งและปรับสายตาตัวเองโดยการมองไปรอบๆสักพัก เมื่อความรู้สึกวิงเวียนหายไปรอบตัวผมก็ค่อยๆชัดเจนขึ้น พวกพี่ๆปีศาจนอนบาดเจ็บอยู่ระเกะระกะทั่วห้องที่เละไม่เป็นท่า

    ผมไม่รู้หรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ที่ผมรู้แน่ๆคือพี่ไฟวัสต์จะต้องไม่พอใจอะไรผมแน่ๆ สังเกตจากแส้ไฟลุกที่รัดตัวผมไว้... ไฟลุก!?

    “ร้อนนนนนนนนนนนนนนนนน” สะเมื่อไหร่ จริงๆมันก็ไม่ร้อนหรอก แต่ผมแหกปากออกไปแล้ว -//- และเสียงตะโกนอันทรงพลังของผมทำให้ทุกคนตื่น

    “เฮคเตอร์ เจ้าควรตั้งสติ?” พี่ไฟวัสต์บ่นผมอย่างง่วงๆ

    “เฮคเตอร์ เจ้าควรเงียบ” โซว์พูดทั้งที่ยังนอนหาวปากกว้าง

    “ข้านึกว่ามันไม่ร้อน... เจ้าร้อนหรือ? เจ้าเป็นผีแน่ๆ” พี่มิกเกลแลจะสดใสกว่าเพื่อน

    “เป็นผีแน่ๆ” พี่เรฮันสัปหงกพูด พี่แกแลจะง่วงกว่าเพื่อน

    “หิว” เสียงของคนอื่นๆพูดพร้อมกัน

    “เออ คือ... มันเกิดอะไรขึ้นครับ?” ผมถามอย่างงงวย เหตุการณ์ในหัวมันไม่ปะติดปะต่อกันเท่าไหร่

    พี่ไฟวัสต์ยิ้มอย่างน่ากลัว “เอาล่ะไปจบปัญหาน่าเบื่อนี้กันเถอะ ข้าอยากไปนอนเล่นและจบปัญหาอื่นที่มันใหญ่กว่านี้... เฮคเตอร์ ทำตามที่ข้าบอก” ผมของสาบานว่านี้เป็นประโยคที่ยาวที่สุดที่พี่แกพูด เอาล่ะ! ปัญหาถาโถมเข้ามาเลย! ผมเองก็อยากจบเรื่องน่าปวดหัวนี่แล้วเหมือนกัน!

    ....

    “พลาด พลาด พลาด น่าโมโห” เสียงที่ฟังดูโมโหอย่างมากพูดในขณะที่เริ่มจะปลง “แต่ข้าจะไม่ยอมแพ้... ไม่มีวัน” เจ้าของเสียงหลับตาและพยายามคิดหาทางออกใหม่

    อ่า ช่างน่าเวทนา บุรุษผู้มีจิตวิญญาณแห่งพฤกษา เจ้าแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ไม่มีทางที่เจ้าจะหยุดมันได้สายลมกระซิบบอกเบ้งก้าเบาๆ เบ้งก้าทำเป็นไม่ได้ยินและคิดหาทางต่อไป

    ....

    สายลม หนึ่งในสี่มหาธาตุของทุกโลก เทพแห่งสายลมคือเทพผู้ส่งสาร ท่าทางว่าเขาจะเก็บความลับเก่งมากเลยล่ะ!

    ....

    Talk with GoldMoon ช่วงคนเขียนชวนคุย

    หายไปนานมากเลย มาต่อให้แล้วนะคะ ใกล้จะจบแล้วค่ะ มาลงจนจบแน่นอน อย่าเพิ่งทิ้งกันไปก่อนนะคะ  ส่วนคำผิด... แก้ให้แน่นอนค่ะ รอกันหน่อยนะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×