ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลิขิตรักจอมนางมารสวรรค์

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 รีไรท์ 100%

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 58


    บทที่ 1

     อืม...ปวดหัวจัง ดวงตากลมโตค่อยๆลืมขึ้นอย่างช้าๆแล้วหันไปสำรวจรอบๆตัวเองอย่างงงๆที่อยู่มาโผล่ในสถานที่โบราณๆอย่างที่แห่งนี้

     จริงสิ!! เกือบลืมไปแล้วแหะ ป้าไป๋เซียนบอกว่าจะได้มาอยู่ในร่างองค์หญิงสินะ ชื่ออะไรนะ อะไรหมิงๆสักอย่าง หมิงอะไรน๊า....

      “ อะ องค์หญิงฟื้นแล้ว “ นางกำนัลนางหญิงเบิกตาโพล่งกับภาพตรงหน้า องค์หญิงของพวกนางฟื้นแล้ว “ องค์หญิงเยว่หมิงฟื้นแล้วเสี่ยวจี้เจ้ารีบไปตามองค์หญิงเยว่หมินมาเร็ว!! “ เสียงนางกำนัลเมื่อครู่ตะโกนแรกนางกำนัลนาม เสี่ยวจี้ ให้ไปตามองค์หญิงเยว่หมินหรือพระธิดาคนรองขององค์ฮองเฮาอย่างเร่งรีบ

     ใช่แล้วเยว่หมิง!! นึกออกแล้วว่าชื่ออะไรองค์หญิงดวงกุดที่แท้ชื่อว่า เยว่หมิง แหมก็ปล่อยให้เรานึกอยู่ตั้งนาน ว่าแต่จะเสียงดังอะไรกันนักหนาเนี่ย เอะอะโวยวายเหมือนบ้านแตก อ้อ วังแตก....

     “  เงียบเดียวนี้! “ สิ้นเสียงทุกอย่างที่กำลังวุ่นวายฉับพลันเงียบกริบราวกับป้าช้าร้าง พัดจีนที่ตอนนี้ต้องสวมรอยไปเป็นองค์หญิงเยว่หมิงที่ตายไปแล้ว ใช้ดวงตากลมโตมองไปรอบด้วยส่ายตาที่เธอเคยใช้ในตอนเป็นนักฆ่าอยู่นั้นคือสายตาประเมินทุกสิ่งอย่างจนนางกำนัลและหมอทั้งหลายถึงกับรีบทรุดลงไปหมอบอยู่แทบใต้เท้าเธอแทบไม่ทัน

     “ องค์หญิงทรงอภัยให้แก่หม่อมฉันด้วยเพคะ ทรงอภัยด้วย! “

     “ ลุกขึ้น!  “ พัดจีนลอบยิ้มมองดูนางกำนัลและหมอหลวงทั้งหลายที่ตัวสั่นเทาด้วยความกลัวอย่างสะใจนิดๆ แหม ไหนๆก็มีอำนาจกับเขาแล้วขอใช้สักนิดจะเป็นไรไป

     “ ขอบพระทัยเพคะองค์หญิง ” นางกำนัลคนแรกที่แหกปากเป็นหน่วยกล้าตาย ลุกขึ้นทำความเคารพอย่างนอบน้อมต่อองค์หญิงของนางอย่างงดงามตามการสั่งสอนขององค์หญิงนาง

     “ ออกไปให้หมดเหลือเจ้าไว้คนเดียว แล้วตามข้ามา “ หญิงสาวที่กำลังสนุกเริ่มออกลวดลายวางท่าเป็นองค์หญิงเยว่หมิงอย่างนึกสนุก แล้วหันหลังเดินไปนั่งบนเก้าอี้ยาวแกะสลักลายดอกหมู่ตันหรือดอกโบตั๋นด้วยท่วงท่าราวกับนางพญามิปาน

    “ องค์หญิงทรงเรียก หลางเฟย ทำไมหรือเพคะ “ นางกำนัลหลางเฟยเอ่ยถามองค์หญิงนาง

     “ นางกำนัลสมควรถามข้าผู้เป็นนายเจ้าหรือ “ เยว่หมิงเอ่ยถามแม่นางกำนัลตรงหน้าด้วยความอยากแกล้ง ใบหน้าจิ้มลิ้มน่าแกล้งอย่างนี้มีเร๊อะว่าคนอย่างเธอจะปล่อยให้รอดเงื้อมมือ

     หลางเฟยตัวสั่นเทาด้วยความกลัวปกติแล้วองค์หญิงของนางมักสงบนิ่งราวกับสายน้ำไม่ปาน ใยวันนี้ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาองค์หญิงของนางเหมือนไม่ใช่องค์หญิงเยว่หมิงคนเก่า ไหนจะท่าทางดุจนางพญา ดวงตาคมกริบราวพญาเหยี่ยว สายตาที่คอยมองราวกับมังกรฟ้า ทุกสิ่งที่ทำมาเหมือนไม่ใช่องค์หญิงเยว่หมิงที่สงบนิ่ง แต่มักมีสายตาอ่อนโยนคอยมองทุกคนอยู่เสมอ

     “ หลางเฟยมิบังอาจเพคะ “

     “ อ๊ะฮ่าๆๆ หลางเฟย เจ้าช่างเขลาเสียจริง เจ้าแกล้งโง่หรือเจ้าจริงกันแน่ ข้าแกล้งเจ้าอยู่รู้หรือไม่ ฮ่าๆๆ “ เยว่หมิงปล่อยหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจผู้ใด ใครจะไปรู้ว่าแม่หลางเฟยนางกำนัลประจำตัวเธอจะดันบ้าจี้กลัวเธอขึ้นมา เห็นในนิยายบรรดานางกำนัลประจำตัวพวกองค์หญิงนี่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยกลัว ที่ไหนได้หัวหดเลย

     “ โถ่องค์หญิงเพคะ เล่นแบบนี้หลางเฟยไม่ชอบนะเพคะ องค์หญิงทรงรู้มั้ยว่าหลางเฟยกลัวแทบตายว่าหลางเฟยทำอะไรผิด “ โถ่องค์หญิงของนาง เล่นอะไรก็ไม่รู้เกิดนางหัวใจวายตาบขึ้นมาใครจะรับผิดชอบกัน หลางเฟยอดบ่นในใจกับนิสัยที่นางลืมไปอย่างหนึ่งคือ แกล้งไม่เลือกหน้า นั่นเอง แม้แต่ฮ่องเต้องค์หญิงของนางก็แกล้งมาแล้ว

     “ ผิด! “ นางโพล่งขึ้นมา “ หลางเฟยเจ้าทำผิดเจ้าทำให้ข้าต้องตื่น นั่นมันเวลาพักผ่อนของข้า “ 

      “ โถ่องค์หญิงเพคะ นั่นมันไม่ใช่เวลาพักผ่อน แต่มันเป็นเวลารักษาบาดแผลนะเพคะ องค์หญิงไปรบมาแทนที่จะได้ฉลองต้องมาสลบนานนับเดือน รู้มั้ยเพคะทุกคนในวังหลวงร้อนรนไปกันหมด โดยเฉพาะหมอหลวง นี่ถ้าองค์หญิงยังไม่ฟื้น ไม่แคล้วคาดคงโดนตัดหัวเจ็ดชั่วโคตรเป็นแน่เพคะ “

    แค่โคตรเดียวก็หมดแล้ว จะตัดทำไมตั้งเจ็ดชั่วโคตรล่ะ

    องค์หญิงเพคะ.... หลางเฟยครางเสียงหลงเมื่อได้ยินคำบ่นขององค์หญิงของนาง

     “ เอาน่าๆหลางเฟยเจ้าจะกลัวใย เห็นไหมข้าฟื้นแล้ว แข็งแรงดีด้วย “ เยว่หมิงนางไม่พูดเปล่าลุกขึ้นวิ่งไปรอบๆห้องอย่างร่าเริง ใช่เธอได้ชีวิตใหม่แล้ว เธอจะลืมอดีตแล้วเริ่มต้นใหม่ ในที่ๆนี้ ตอนนี้เธอคือเยว่หมิงไม่ใช่พัดจีน

     “ องค์หญิงอย่าวิ่งเพคะระวัง!! “ ไม่ทันแล้วองค์หญิงนางไม่รอดแน่ๆ ฮ่องเต้ ฮองเฮา องค์หญิงรอง องค์ชายใหญ่ มาครบเลย

     ตุ๊บ!!

     “ นะ น้องรอง ฮะแฮ่ม เอ่อ ข้าขอโทษ “ แย่แล้วนางวิ่งไปชนน้องรองหรือองค์หญิงเยว่หมินเข้าให้ เท่านั้นไม่พอ เสด็จพ่อ เสด็จแม่ พี่ใหญ่มาครบหน้าครบตากันอย่างนี้นางโดนเทศแน่ๆ

     “ พี่หญิงท่านพึ่งหายป่วย ท่านออกมาวิ่งเล่นได้อย่างไร เจ้าก็ด้วยหลางเฟยใยเจ้าไม่ห้ามนายของเจ้าถ้าพี่หญิงเป็นอะไรขึ้นมาข้าจะอบเจ้าทั้งเป็น “  นั่นไงบอกแล้วว่าโดนเทศแน่ๆ ไม่ทันไรก็บ่นออกมาเป็นขบวนรถไฟ ซ้ำยัง มีการขู่ว่าจะอบด้วย ถ้านางจำไม่ผิดไอ้อบๆเนี่ยเคยเห็นในหนังจีนเรื่องหนึ่ง โดนอบจะสยองเลย อบเหมือนสลาเปาเลย ฮึ่ย คิดแล้วขนลุก

      “ อะ องค์หญิงโปรดอภัย หลางเฟยผิดไปแล้วเพคะ “ หลางเฟยรีบวิ่งมาคุกเข่าแล้วแล้วโขลกหัวที่พื้นอย่างแรง


      อูยยยเจ็บไม่นั่นหน่ะ

       " หลางเฟย ออกไปรอข้าข้างนอก " ฉันสั่งแม่นางกำนัลผู้น่าสงสารอย่างหลางเฟยให้ออกไปยืนรอข้างนอก ก่อนจะหันมาฉีกยิ้มหวานแล้วทำความเคารพเหล่าบรรดาพ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย

     
       " หมิงเยว่ขออภัยเสด็จพ่อ เสด็จแม่ที่ไม่ได้ออกมาต้อนรับแต่กลับออกมาวิ่งเล่น น้องหญิงพี่ขอโทษนะที่วิ่งชนเจ้าเมื่อครู่ " แหม นักฆ่าร้อยล้านเล่มเกวียนอย่างนังพัดนะเร๊อะจะเอาตัวรอดไม่ได้ ไม่รู้แหละมั่วไปก่อน


      " เอาล่ะๆหมิงเยว่พ่อเองก็ไม่ได้คิดจะดุอะไรเจ้าหรอก แต่เจ้าพึ่งหายป่วยอย่าวิ่งซนดั่งเช่นเมื่อเจ้ายังแข็งแรง " ฮ่องเต้ฉีกยิ้มเอ็นดูบุตรธิดาคนโตที่ยืนหน้าซีดด้วยฤทธิ์ป่วย 


       " เพคะเสด็จพ่อ " นางแสร้งทำหน้าสลดเหมือนเด็กโดนดุ จนเสด็จแม่ใจอ่อนรีบบอกให้ทุกคนเข้าไปนั่ง


       " เอาล่ะๆ ไหนๆเจ้าก็หายป่วยแล้ว อีกห้าวันแม่จะเลี้ยงฉลองให้เจ้าดีมั้ยหมิงเยว่ เมื่อคราวที่แล้วกลับจากศึกเจ้ายังไม่ได้ฉลองกลับมาป่วยเช่นนี้ เห็นทีแม่เองต้องให้รางวัลเจ้าเสียแล้ว " องค์ฮองเฮาหันไปยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับเยว่หมินพระธิดาคนรอง ก่อนจะปรบมือสองครั้ง จึงมีขันทีหนุ่มสองคน นางกำนัลอีกสิบคน องค์รักษ์หน้ากากดำของท่านพ่อ และท้ายสุด สุดท้ายองค์ชายเซี่ยซาน พระโอรสลำดับที่หกของฮองเฮา


      มันคืออะไร??

     
      …. องค์รักษ์คนสำคัญของเสด็จพ่อ ท่านพี่เซี่ยซาน พวกท่านคิดจะทำอะไรกันแน่...


      " เสด็จแม่ พวกเขาเหล่านี้มาทำไมหรือเพคะ "


      งงงงมากๆด้วย ยกขบวนมาทำไมเยอะแยะวะ จะพาไปแห่ขันหมากใครไม่ทราบ แล้ว(ไอ้)พี่เซี่ยซานจะมาทำไมวะ


      อืม....เท่าที่จำได้เฮี้ย เอ้ย! เฮียแกเป็นอริของยัยองค์หญิงดวงกุดไม่ใช่เหรอกวะ มาทำไมให้อายบ้านนาเห้ย! นอกเรื่อง

      แระ -.
    ,-!


      เหมือนท่านแม่จะเข้าใจเลย... " ล็อกตัวองค์หญิงไว้! เร็ว! "


      แหมะ -.-! อย่างที่คิดไว้เลย ตรู่ซวยแล้ว T^T


      " สะ เสด็จแม่เสด็จแม่จะทำอะไร " ง่ะ! ยัยพัดกลัวแล้วนะเว้ย! ตายกี่รอบไม่กลัว...กลัวอย่างเดียว กลัวผู้หญิงเว๊ยยย ในนิยายบอกไว้ว่าผู้หญิงวังหลวงเปรียบเหมือนกุหลาบแหลมคม งดงามแต่น่ากลัวToT   ท่านแม่นี่ใช่เลย! คนอื่นไม่รู้เฟ้ยยย


       องค์ฮองเฮาหรือเสด็จแม่แสยะยิ้มหวานราวกับน้ำผึ้ง(หรือยาพิษ?)


       " เยว่หมิงลูกรัก...ปีนี้เจ้าก็อายุอายนามก็เลยวัยปีปักปิ่นไปเสียแล้ว แม้แต่น้องสาวเจ้าหมิ่นเยว่ก็แต่งงานแล้ว ในบรรดาองค์หญิง เหลือเพียงเจ้ากับลูกสิบเจ็ดที่ยังไม่ตบแต่งสักที ลูกสิบเจ็ดก็เลยวัยปักปิ่นมาเช่นเจ้า แต่นางบอกว่านางขอเลือกเอง แม่อนุโลม แต่สำหรับเจ้าแม่ไม่อนุญาติ เจ้าผลัดแม่มาสามปีแล้ว ตอนนี่เจ้าอายุสิบเก้าแล้ว "

     
       เสด็จแม่พูดอย่างไมเร่งรีบอะไร แต่น้ำเสียงท่าทางที่แสดงออกมามันคนละอย่างกันเลยนะนั่น


      " เสด็จแม่… ข้ามันหญิงกร้าน หยาบกระด้าง เนื้อตัวไม่นุ่มนวลเช่นน้องๆ ทำงานกับบุรุษ นอนกลางดินกินกลางทราย วันๆเอาแต่ซ้อมอาวุธ การบ้านการเรือนย่ำแย่ ดนตรีมิเอาไหน ปักไหมใครจะเยินยอ บ้าบอมิมีผู้ใดสนหรอกเพคะ " แถค่ะแถ งานนี้แถลูกเดียว ไม่แถก็ไม่รอด เพราะฉะนั้นใสร้ายตัวเองเข้าไว้ ดูเหมือนท่านแม่จะคงรู้อยู่แล้วว่าธิดาคนโตคงไม่ยอมง่ายๆจึง..


      " ขังองค์หญิงเยว่หมิงไว้ในตำหนักจนกว่าจะถึงวันงาน ที่เจ้าพูดมาเยว่หมิงแม่ว่ามันออกจะเลวร้ายไปหน่อยนะ เจ้าอย่าลืมสิว่าผู้ใดเป็นคนสั่งสอนเจ้าในเรื่องสตรี " ท่านแม่พูดเสียงเย็น


      ท่านแม่!! งานงอก ลืมคิดไปเลยว่าองค์หญิงทุกคนจะได้รับการสั่งสอนจากฮองเฮารวมทั้งนางด้วย


      อิ๋บอ๋ายแล้วตรู!! น้องรองดูเหมือนจะเข้าใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นจึงแสยะยิ้มพูดใส่ไฟเข้าไปอีก


      " เสด็จแม่ดูสิเพคะ พี่หญิงอยู่กับงานบุรุษจนลืมวิสัยสตรีเสียแล้วเห็นทีคงต้องอบรมเสียยกใหญ่เพคะเสด็จแม่ มิเช่นนั้นคงได้อายไปทั่วทั้งแคว้นเป็นแน่ว่าองค์หญิงใหญ่เยว่หมิงมิได้เรื่อง! "

     
      นางยกยิ้มขำไปกับใบหน้าเหวอของเสด็จพี่ตัวแสบของนาง คิก
    ! นางล่ะขำจริง จอมทัพหญิงผู้มิเคยแพ้พ่ายผู้ใด แต่กลับต้องมาพ่ายให้กับฮองเฮาผู้ไร้พ่ายไม่ว่าเรื่องใด นางบอกได้เลยต่อให้เก่งมาจากไหนก็ต้องแพ้สตรีที่สามารถกำหราบฮองเต้แคว้นต้าได้


       พี่หญิงหนอพี่หญิง งานนี้ข้าอยากจะสนุกจริงๆ ขอข้าร่วมด้วยแล้วกัน....


      เฮือก! ทำไมรู้สึกว่ามันทะแม่งทะแม่งยังไงไม่รู้


       " นั่นสินะลูกหมิน แม่ว่าเราคงจะต้องปฏิวัตรกันเสียใหม่ ใช่มั้ยลูกหมิง " องค์ฮองเฮาหันไปยิ้มกับพระธิดาคนรองอย่างมีเลศนัย


      ” ใช่แล้วเพคะเสด็จแม่ ลูกว่าเราคงต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่


      “ อืม...งั้นแม่ขอยกหน้าที่นี้ให้เจ้าแล้วกันนะลูกหมิน
     

      “ น้อมรับคำบัญชาเพคะ

     

       อยากตาย! ตั้งแต่เกิดมากี่ชาติๆไม่เคยอยากตายเท่าตอนนี้ที่สุดเลย หลังจากท่านแม่พูดเสร็จก็ออกไปเหลือแต่ท่านพ่อ พี่ใหญ่และคนสุดท้ายน้องรองตัวแสบ!


       เสด็จพ่อนั่งอ่านตำราระหว่างรอน้องรองที่พาเธอไปแปลงโฉม สุดยอดเลยให้ตายสิ! จะมีใครรู้บ้างมั้ยเนี่ยว่า ไอชุดที่เสด็จพ่อเลือกให้มันอเมซิ่งมากก.... ปิ่นปักผมนี้เต็มหัวเลย แถมชุดยังสีทองอร่าม ขอบกระโปรงปักดิ้ทองงดงามมากกก(ประชด) เอาเป็นว่าสรุปง่ายๆเลยนะ


      มัน – หนัก – มาก!


      ใครจะไปทนได้วะเนี่ย น้องรองก็ยังคงเมามันส์ไปกับการละเลงหน้าเธอส่วนนางกำนัลทั้งหลายก็วิ่งวุ่นหาเครื่องประทินโฉมทั้งหลายมากองเต็มไปหมด


      แม่นางกำนัลสุดที่รักหลางเฟยฃองเธอก็เอาผงอะไรสักอย่างมาทาตัวเธอไอตอนแรกก็ไม่รู้จักหรอกแต่ถามไปมาก็ได้รู้ว่ามันคือผงดอกไม้ตากแห้งหรือดอกหมู่ตั๋น(โบตั๋น)ที่เอาไปตากแดดจนแห้งแล้วมาตำ แล้วมาผสมกับน้ำมาทาตัวจะให้กลิ่นหอม ก็คล้ายๆน้ำหอมนั่นแหล่ะ แต่ดอกหมู่ตั๋นเนี่ยเป็นดอกไม้ประจำตัวเธอซ่ะด้วย อุ๊บ๊ะ! สุดยอดเลย....


      “ น้องรองจ๋า...ฉันครางเสียงอ่อยก่อนที่จะพยายามเงยหน้าไปหาน้องรองแล้วส่งสายตาปิ๊งๆ แต่ปรากฏว่า...เสียงหวานๆที่ตอบรับมาเฉยสนิท


      “ จ๊ะจ๋าพี่หญิง


      “ เอามันออกไปได้มั้ย...มันหนักหัว


      “ ไม่ได้! เพคะพี่หญิงจ๊ะจ๋า...


      มีใครรู้สึกเหมือนเธอรู้สึกมั้ยว่าไอ จ๊ะจ๋า ที่พูดมาแต่ล่ะคำช่างโหดร้ายเหลือเกิน


      น้องหญิงใจร้ายยยยย!!


      “ เยว่หมินจ๋า...


      “ ว่าไงเพคะพี่หญิง อ่าวว ไม่จ๊ะจ๋าแล้วหย๋อ?? เซ็งเลย


      “ อ๊ะ! ไม่พูดแบบเมื่อกี้แล้วเหรอ?


      “ ไม่ล่ะ! ขี้เกียจพูด ปัญญาอ่อน


      “ เยว่หมิน...อีกนานแค่ไหนข้าที่ต้องรอ ฉันถามคำถามหนึ่งออกไป มันคืออาร๊ายยย ฉันไม่ได้พูดแต่ปากมันไปเอง หรือว่ามันคือความทรงจำที่หลงเหลืออยู่ในร่างนี้


      “ พี่หญิง...ท่านพูดอะไร มาเรียวเล็กที่กำลังจะปักปิ่นหยกลายดอกหมู่ตั๋นชะงักค้าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มอ่อนๆ


      “ หืม...เปล่าหรอก ฉันยกยิ้มก่อนจะ ฮ่าๆๆเด็กหลอกก...เอาล่ะๆๆทำผมต่อไปเถอะ ข้าไม่ดื้อแล้ว จะนั่งนิ่งๆให้ละเลงเลย เอ้า! “


      “ พี่หญิง! ท่านหลอกข้าอีกแล้ว! “ ใบหน้าหวานสะบัดอย่างแง่งอน แต่ก็หฟันกลับมาเมามันส์ในการละเลงหัวเธอเช่นเดิม


      1 ชั่วโมงผ่านไป


      “ เสด็จพ่อ พี่ใหญ่ ข้ามีผลงงานชิ้นงามมานำเสนอ!  ร่างเล็กกระโดดออกมาจากหลังม่านอย่างสนุกสนานแล้วปรบมือสองครั้ง


      แปะๆ


      ร่างเพรียวสูงเดินอย่างมาอย่างสง่างามราวกับเทพธิดา ใบหน้าหวานที่เจือไปด้วยความคมสวยหวาน บัดนี้เต็มไปด้วยความงดงาม คิ้วเรียวถูกแต่งเติมให้ยกสูงขึ้นดูมีราศีขึ้น พวงแก้มถูกแต่งแต้มให้มีสีชมพูอ่อนระเรื่อ ริมฝีปากสีพลับมันวาว โดยรวมแล้วราวกับนางฟ้านางสวรรค์ลงมาจุติดีๆนั่นเอง


      “ ดีๆ เยว่หมินเจ้านี่เก่งจริงๆลูกสาวพ่อ ดูสิเจ้าทำให้พี่สาวเจ้ากลายเป็นคนไดเช่นนี้เห็นทีพ่อคงต้องตบรางวัลให้เสียหน่อยแล้ว ฮ่าๆๆ


      “ ขอบพระทัยเพคะเสด็จพ่อ


      “ โถ่เสด็จพ่อ นี่ท่านกำลังว่าข้าอยู่นะ! “ ใบหน้างดงามแค่นเสียงออกมาอย่างงอนๆ


      “ โถ่! เยว่หมิงหรือเจ้าว่าที่พ่อพูดมาไม่จริง


      “ ก็จริงนั่นแหล่ะเพคะ


      “ เห็นมั้ยเจ้ายอมรับแล้วทีนี้เจ้าคงต้องพึ่งน้องสาวเจ้าแล้วหล่ะที่จะทำให้งดงามดั่งวันนี้ทุกๆวัน


      “ งั้นพ่อว่าพ่อไปดีกว่า ไปกันเถอะ เสด็จพ่อพูดเสร็จแล้วลุกขึ้นจากพระที่นั่งเดินออกไปพร้อมๆกับทุกคนจนเหลือฉันคนเดียวในห้อง


      มันน่าหงุดนัก


     

    *************************************
     
    กลับมาแล้วจร้าา คราวนี้เดียกลับมาแบบจัดเต็มเนื้อเรื่องอาจจะเปลี่ยนไปบ้างจากเดิมก็อย่างว่าเค้าน๊าาา
    รอบบนี้เค้าอัพทีละ 10 หนากระดาษเอสี่เยยย อาจจะมีแก้คำเปลี่ยนคำบ้าง ถ้ายังไงก็ขอให้เม้นติชมอะไรก็ได้ล่ะเน้อออ 

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×