คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : จุดเริ่มต้นของความแกร่ง
สามลมเย็นที่ประทะหน้าเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่กำลังเดินข้ามสะพานพระรามแปด ท่ามกลางแสงสว่างสลั่วๆยามค่าคืนการจราจรที่ไม่ติดขัด เป็นตัวบ่งบอกถึงเวลาได้เป็นอย่างดีว่าคงดึกมากพอสมควร
เขามองแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไกลสุดลูกหูลูกตา บรรยากาศช่างวังเวงและเปล่าเปลี่ยวไม่ต่างอะไรกับความรู้สึกเขา ในขณะนี้เลยแม้แต่น้อย ความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวและวังเวงเหมือนเหลือตัวคนเดียว นอกจากตัวเขาท้องฟ้ายามค่ำคืนและแม่น้ำเขาแทบจะไม่มีอะไรเหลือเลย
ในช่วงขณะหนึ่งภาพใต้จิตใจได้ปรากฏขึ้นมาแทนที่ความคิดอันน่าหดหู่นั้น
เป็นภาพที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งปรากฏขึ้น นางพยาบาลต่างวิ่งพากันสับสนอลหม่านกันไปหมดอยู่หน้าห้องผู้ป่วยห้องหนึ่ง ภายในห้องมีบรรดาญาติหลายคนและมีร่างสุภาพสัตรีผู้หนึ่งนอนอยู่บนเตียงคนป่วย ด้วยรูปร่างและร่างกายที่สูบผอม แห้งราวกับเหลือแต่จะเหลือแต่โครงกระดูก ข้างๆเตียงถูกรายร้อมไปด้วยบรรดาญาติๆและเด็กน้อยคนหนึ่งนั่งคุกเข้าอยู่ข้างเตียงกุมมือสัตรีผู้เป็นแม่เอาไวแน่นราวกับว่าไม่อยากให้จากไป
"เจมรักแม่นะ แม่อย่ายากเจมไปไหนนะ"
เด็กน้อยพูดพร้อมธารน้าตาที่ไหลรินออกมา บรรยายกาศเริ่มหดหู่ขึ้นอีกเมื่อหมอเริ่มส่ายศีรษะ เป็นสัญญาณซึ่งบอกอะไรบางอย่างกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอีกต่อไปในไม่ช้า
"เ......จ.......ม......."
เสียงของผู้เป็นแม่ถูกเปล่งออกมาจากลำคอที่แสนจะแหบแห้ง และเบาราวกับเสียงกระซิบ แต่ผู้เป็นแม่ก็ยังพยายามเรียกชื่อลูกชายของผู้เองต่อไป
"แ....ม่.........ไม่........จาก.........ไป....ไหน.....หรอก....."
ผู้เป็นแม่เปล่งเสียงแสบขาดใจพร้อมด้วยอาการไออกมาเป็นระยะๆ
"แม่ แม่ครับ แม่ต้องรอเจมนะ แม่ต้องรอ เจมนะ รอเจมบนสวรรค์นะแม่"
ลูกชายพูดพร้อมกุมมือแม่ไว้แน่นขึ้นอีก
"อืม.......แม่.......จา......รอ...เดี่ยว.....เรา...จะ.....ได้...เจอ...กัน....."
แม่พูกพร้อมหยดน้ำตาเม็ดเล็กๆที่เริ่มไหลออกมาแต่สามารถไหลออกมาได้อย่างน้อยนิด เพราะโรคร้ายกำลังจะพลากเธอไปจากลูกของเธอ เมื่อเธอเห็นลูกชายร้องไห้ เธอพยายามฝืนยิ้มและลูกกับลูกชายตนเองว่า
"จา......ร้อง......ไป......ทำ.....ไม.....เจม.......เดี่ยว.....ก็.....ได้.....เจอ...แม่....แม่.....จะ.....รอ.....ลูก....แม่.....สัญญา"
สิ้นประโยคคำพูดด้วยเสียงไอ
เสียงหอบของผู้เป็นมารดาเริ่มมากขึ้น แม่หอบมากขึ้นทุกๆที่ไอ ลูกชายกุมมือแม่เขาไวแน่น ผู้เป็นแม่ก็พยายามกุมมือลูกเอาไวแน่นด้วยแรงที่แทบจะไม่มีแต่รับรู้ได้ด้วยความรู้สึก ราวกับว่าไม่อยากพรากจากกับ
ตาแม่เริ่มเรือนลางเสียงหอบดังมากขึ้นทุกขณะโครร้ายกำลังพายมทูตมาพรากสองแม่ลูกคนนี้จากไป
"แดงไม่ต้องเป็นห่วงนะ ผมจาดูแล่เจมเอง"
เสียงของผู้เป็นพ่อซึ่งยืนดูเหตุการณ์อยู่ข้างหลังกล่าวบอก ด้วยน้ำเสียงสั่นคลือ และหยดน้ำตาเล็กน้อย
ไม่กี่อึดใจต่อมาลมหายใจสุดท้ายของผู้เป็นแม่ได้ดับลงพร้อมกับเสียงเครื่องตรวจจับชีพจรที่ดังขึ้นแสนจะแสบแก้วหู และราวกับว่าโลกนี้จะแตกสลายไป ในความคิดของเด็กน้อย มือที่กุมไว้แน่นได้ตกลง ผู้เป็นลูกไปพุ่งเขาไปกดอร่างซึ่งไรวิญญาณของหญิงที่ตนรักมากที่สุดในชีวิต แต่เขาสามารถกอดได้เพียงแค่ร่างแล้วเท่านั้น
ญาติๆพยายามดึงเขาออกห่างจากร่างของผู้เป็นแม่เพื่อให้หมอตรวจสอบก่อนพาร่างซึ่งไรวิญาณของผู้เป็นแม่ ไปยังห้องดับจิต .
ความคิดเห็น