คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 00:04
ใบสมัครสำหรับเหล่าผู้วิเศษ ;
◣Application◥
◣Profile◥
บทบาท : [3] - ผู้วิเศษคนที่สาม“อือ....”
ลูเซียน่า ฟลอเรนซ์ || Luciana Florence
ลูน่า | Luna - ชื่อที่ใครต่อใครต่างเรียกได้ เธอไม่ถืออยู่แล้ว
เพราะถึงถือยังไงก็พูดบอกไม่ได้อยู่ดี
Luciana - แสงสว่าง
Frorence - ดอกไม้กำลังเบ่งบาน
L u c i a n a F l o r e n c e - "แสงสว่างที่มอบให้แด่ดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน"
สัญชาติ : อเมริกัน
เชื้อชาติ : อเมริกัน-ฝรั่งเศส
เพศ : หญิง อายุ : 17 ปี
ส่วนสูง / น้ำหนัก : 167.8 / 46.9
จุดที่มีตราผู้วิเศษปรากฏ : เอวข้างซ้าย
ปีศาจที่หวาดกลัวมากที่สุด : อ่านไปเรื่อยๆสิ :)
รูปลักษณ์ของลูเซียน่า ฟลอเรนซ์ หากให้นิยามคงเหมือนตุ๊กตาเจ้าหญิงราคาแพง
รูปร่างของเธอเพรียวบาง และ ใช่ ดูบอบบาง เป็นเด็กสาวที่บอบบาง
ใบหน้าของเธอจิ้มลิ้มน่ารัก แม้จะนิ่งสงบ
หรือ แย้มยิ้มหวานๆผ่านริมฝีปากสีทับทิมแดงที่หวานฉ่ำ
ดูละมุนละไม อบอุ่น จนอยากเป็นเจ้าของรอยยิ้มและริมฝีปาก
เจ้าของนัยน์ตาสีมรกตอ่อนที่มีประกายความซื่อใส
เรือนผมสีน้ำตาลเข้มตัดสั้นพร้อมหน้าม้าที่เข้ากับดวงตาสวย
มันเนียนนุ่ม และ ส่งกลิ่นหอมของแชมพู
เป็นคนผิวนุ่ม ไร้ความหยาบกระด้าง จากการเลี้ยงดูดั่งไข่ในหิน
มักสวมเสื้อผ้าสไตล์มินิมอล คุมโทนสีเบจ ครีม ชื่นชอบการใส่กระโปรงมากกว่ากางเกง
รองเท้าที่ชอบคือผ้าใบและหุ้มส้น ไม่นิยมการใส่ส้นสูง
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีนาฬิกาอยู่บนข้อมือเล็กของเธอเสมอ
ใบหูมีเครื่องช่วยฟังติดอยู่...คุณสามารถพูดกับเธอได้
แต่คุณต้องพูดแบบช้ามาก...ช้าสุดๆ
เธอจะพอจับใจความได้ แต่ก็โต้ตอบได้เพียงอือๆ อ่าๆ
ดังนั้นจงใช้ภาษามือเถอะจะเกิดผล
||| music name ; Lily - Alan Walker , K-391 & Emelie Hollow
ลูเซียน่า ฟลอเรนซ์ คือเด็กสาวคนธรรมดาที่รู้สึกเสียใจกับความพิการแต่กำเนิดของตัวเอง แต่กระนั้นใบหน้าก็ปั้นยิ้ม แล้วมอบรอยยิ้มให้คนอื่นเสมอๆ เพิ่อให้คนอื่นสบายใจว่าตัวของเธอไม่เป็นอะไร และปกติดี ไม่ได้รู้สึกแย่ไม่ได้รู้สึกเสียใจ เธอมีรอยยิ้มละมุนละไมดูอบอุ่นที่ตราตรึงใจ นอกจากนี้ยังมีกิริยาท่าทางนุ่มนวล อ่อนหวาน เรียบร้อย อยู่ในกฎเกณฑ์ ไม่ได้โผงผาง
เธอเหมือนน้ำเย็นๆ เป็นคนใจเย็น มีเหตุผล ไม่วู่วาม ละเอียดรอบคอบ เป็นที่ถือสติอยู่กับตัวไว้ตลอดเวลา ไม่ยอมให้อารมณ์ของตัวเองอยู่เหนือเหตุผล จึงเป็นประเภทที่ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ของตนเอง มีความละเอียดอ่อนสูง เพราะเป็นคนใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ และมีความช่างสังเกตกับเรื่องเล็กน้อยของคนอื่น
เป็นคนใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น โดยพื้นฐานไม่ใช่คนที่ดูแย่หรือนิสัยไม่ดี กลับกันเป็นคนนิสัยดีที่มีน้ำใจคนนึง แล้วก็ปฏิเสธคนไม่เก่ง ไม่สามารถปฏิเสธคนอื่นได้ในหลายๆครั้ง ส่วนนึงอาจเพราะความพิการของตัวเองที่ไม่สามารถพูดออกไปได้ เพราะพูดออกไปก็ไม่รู้เรื่อง เธอเป็นคนที่เห็นใครมีท่าทางเดือดร้อนไม่ได้ เห็นแล้วจะรู้สึกสงสารอยากช่วยเหลือ ซึ่งนั้นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เป็นคนขี้สงสารแล้วก็ไม่ค่อยกล้าปฏิเสธคนอื่นอีก กลับกันเมื่อตัวเองจะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นก็กลายเป็นคนขี้เกรงใจ
ทั้งนี้ลูเซียน่าเป็นเด็กสาวผู้ขี้กลัว เธอไม่ชอบการอยู่คนเดียวเงียบๆ ไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ในบรรยากาศที่เงียบสงัดและไร้ผู้คน เป็นลูกสาวที่เป็นไข่ในหินของผู้เป็นพ่อแม่ ไม่กล้าบอกพ่อแม่เมื่อตัวเองถูกทำร้ายหรือรังแก เพราะกลัวจะถูกทำร้ายซ้ำ... และตื่นกลัวคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักที่เข้ามาทำความรู้จักสนิทสนม แม้ใบหน้าของเธอจะยิ้ม หากแต่ภายในใจไม่ได้ไว้วางใจ เป็นเด็กสาวที่มีเซฟโซนเป็นของตัวเอง และไม่กล้าทำอะไรที่แตกต่างจากเดิม เธอไม่กล้าออกจากคอมฟอร์ทโซน ไม่ชอบความท้าทาย และไม่ชอบการทำสิ่งใหม่ๆ ลูเซียน่าจึงเป็นคนที่วนเวียนกับการทำกิจกรรมเดิมๆของตัวเอง เช่น ตื่นนอนเวลานี้ วันนี้ทำความสะอาดห้อง ทำขนม ทำอาหาร วาดรูป และเข้านอน
ดั่งที่เคยกล่าวไปแล้วว่าเธอมีสติ แต่ความขี้กลัว ก็ทำให้เด็กสาวเป็นคนแตกตื่นง่าย แล้วก็แพนิคง่ายกับบรรยากาศที่ไม่คุ้นชิน ลูเซียน่าจึงไม่ใช่คนที่แข็งแกร่ง ใจกล้าเลยสักนิด ไม่มีเลยจริงๆ ความกล้าของเธอเพียงอย่างเดียวคงเป็นการแสดงท่าทีไม่พอใจกับคนที่ดูถูกในความพยายามของเธอ
ลูน่ามีอารมณ์อ่อนไหว อาจเพราะไม่ได้ยินเสียงทำให้เธอจับสัมผัสความรู้สึกของผู้อื่นผ่านแววตาและการกระทำ การกระทำของคนอื่นและแววตาของคนอื่นบางครั้งก็ทำให้เธอร้องไห้ออกมา เช่น ท่าทีประชดประชันแสดงออกว่ารำคาญการพยายามสื่อสารของเธอ ลูเซียน่ารู้สึกเสียใจแต่กระนั้นเธอก็ฮึบน้ำตาเอาไว้ แล้วไล่หลังก็ร้องไห้ออกมาไม่หยุด เธอสมเพชตัวเองที่แม้แต่เสียงร้องไห้ของตัวเองก็ยังไม่ได้ยิน ลูน่าไม่ชอบร้องไห้ ไม่ชอบการที่ต้องร้องไห้ เพราะมันเจ็บ ข้างในหัวใจมันเจ็บจนไม่อยากจะทำอะไรเวลาร้องไห้
ไม่ใช่คนเก่ง แต่เป็นคนที่พยายาม เป็นเด็กที่พยายาม เธอพยายามอย่างมากที่จะสื่อสารกับคนอื่น การเกิดมาเป็นคนหูหนวกน่ะ ทำให้การสื่อสาร...การสื่อสารเป็นเรื่องลำบากสำหรับเธอ เธอไม่ได้ยินอะไรที่ใครต่อใครเขาสอนเลย เธอต้องสังเกตอย่างเดียว ต้องพยายาม ต้องเรียนรู้ ต้องทำให้ได้ จึงเป็นคนที่มีความกดดันในตัวเอง ลูน่าเป็นคนกดดันในตัวเอง ตั้งความหวังไว้สูงในเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าความพยายามจะไม่ทำร้ายคนที่ตั้งใจ และไม่โอเคกับคนที่ดูถูกในความพยายามของตัวเองและหัวเราะเยาะ ถ้าเขาอยู่ใกล้ๆต่อให้เขาจะเป็นผู้ชายร่างโต เธอก็กล้าผลักนะ! หมายถึงรีบผลักแล้ววิ่งหนีน่ะ คือตอนผลักอารมณ์มันสูงขึ้น แต่จริงๆก็กลัวแหละ ดูสิตัวเธอหดเป็นมดแล้ว! ._____.
เป็นคนมีเป้าหมาย มีโกลของตัวเอง มีความตั้งใจที่จะทำอะไรแล้วจะทำให้สำเร็จ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมักจะอยู่ในแผนหรือสิ่งที่กำหนดไว้ อยู่ตามระเบียบการทุกอย่าง ไม่นอกกรอบ และอยู่ในเซฟโซนของตัวเองเสมอ เธอชอบตั้งความหวังไว้สูงกระนั้นก็กลัวว่าถ้าตกลงมาแล้วจะเจ็บ
โกหกไม่เก่ง ข้อหนึ่งเพราะพูดไม่ได้ ข้อสองเพราะแม้จะยิ้มแค่ไหน ดวงตาเจ้ากรรมก็แสดงความรู้สึกทั้งหมดออกไปแล้ว
พูดปลอบคนอื่นไม่เก่ง และพูดให้กำลังใจไม่เก่ง เพราะพูดไม่ได้ เธอทำได้แค่แสดงท่าทางเท่านั้น ถ้าคุณร้องไห้ ลูน่าจะกอดคุณไว้จนกว่าคุณจะหยุดร้อง เธอเป็นที่ระบายที่ดีเหมาะกับการระบายความรู้สึกอะไรที่อยู่ในใจ เพราะเธอสามารถได้ยินเสียงของคุณที่กำลังพูดเล่าออกมา เธอทำได้แค่กอดคุณเอาไว้ และเพราะแบบนั้นลูเซียน่าจึงเป็นคนที่เห็นใจอกเห็นใจคนอื่น และเป็นที่พึ่งพิงเมื่อเสียใจได้
มีความเป็นผู้ตามมากกว่าผู้นำ เพราะการเป็นเด็กสาวที่อยู่ในกฎระเบียบ และ มีเซฟโซนเป็นของตัวเอง มีบุคลิกที่น่ารังแกไม่น้อย ด้วยความที่เด็กสาวเป็นคนที่อยู่ในกฎระเบียบ แล้วก็ชอบทำอะไรเชื่องช้า ใช่ ลูเซียน่าเป็นคนที่ค่อนข้างจะทำอะไรชักช้ามากกว่ารวดเร็ว เพราะ กลัวว่าความเร่งรีบจะทำให้เผลอบาดเจ็บ หรือทำให้ใครต่อใครเดือดร้อนเพราะความเร่งรีบ กลับกันเมื่อนัดเวลาไว้ เด็กสาวจะตรงต่อเวลาเอามากๆ
มีความเพ้อฝันในความรัก เฝ้าหวังว่าสักวันนึงจะมีเจ้าชายขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยเธอ ลูน่าเพ้อฝันกับความรัก หวังสูงว่าบนโลกนี้จะมีเจ้าชายที่แสนดีและเพรียบพร้อมที่จะเข้ามาดูแลเธอ อย่างน้อยเธอก็อยากให้เขาเป็นคนนึงที่สามารถซับน้ำตาเธอและกอดเธอในวันที่เธอพังมากที่สุด ดังนั้นเด็กน้อยก็มีชอบคนง่าย และตกหลุมรักได้อย่างง่ายดายเวลามีใครมาทำดีด้วยมากๆจนจากระแวงเป็นไว้ใจ ลูเซียน่ายังมีนิสัยขี้เขินจนหน้าแดง และแสดงท่าทีลนลานเวลาสบตาคนที่ตัวเองชอบด้วย
เป็นสาวน้อยรักโลก และรักสัตว์มากๆ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เธอค่อนข้างใส่ใจในสิ่งแวดล้อม ไม่รับถุงพลาสติก พกถุงผ้า และเด็กสาวก็เป็นคนชอบปลูกต้นไม้ ปลูกดอกไม้และเธอเป็นคนที่ปลูกอะไรก็ขึ้นไปหมด แต่กับสัตว์เลี้ยงนั้น...เด็กสาวรักมันนะ แต่กลับไม่กล้าเล่น และไม่กล้าที่จะเลี้ยงสัตว์ด้วย
"ลูน่าเป็นลูกสาวที่น่ารักเสมอ ถึงเธอจะฟังอะไรไม่ได้ แต่ลูกสาวของฉัน
เธอเป็นเด็กอ่อนโยนที่อ่อนไหวต่อโลกนี้เอามากๆ"
- อบิเกล , มารดา กล่าว
"พวกเราสองคนหวงเธออย่างกับไข่ในหิน ลูน่าเป็นเด็กดี
และเธอแค่โชคร้ายที่เกิดมาเป็นแบบนี้"
- ลีโอดอร์ , บิดา กล่าว
ลูเซียน่าเคยคิดเสมอว่าตนเป็นเด็กสาวที่โชคดีที่สุดในโลกที่มีคุณพ่อและคุณแม่ที่ให้ความช่วยเหลือเสมอและรักเธอที่สุดในโลกใบนี้โดยไม่มีข้อแม้อะไร พวกเราเป็นครอบครัวสามคนแม่ลูกชนชั้นกลางที่ทำธุรกิจร้านกาแฟเล็กๆในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา พวกเขาเลี้ยงดูเธอประคบประหงส่งเธอศึกษาในโรงเรียนคลาสพิเศษเพื่อบำบัดมาตั้งแต่จำความได้ โดยมีผู้เป็นแม่ ผู้เป็นพ่อคอยรับคอยส่งในทุกเช้าพร้อมการจูบหน้าผากอวยพรเธอ และรับกลับในเวลาเย็นเสมอๆ มันเป็นชีวิตปกติของลูน่าที่วนไปมาแบบเป็นลูป
วันนี้ก็เหมือนทุกวัน ลูน่าในวัยห้าขวบกลับมาที่ร้านกาแฟเล็กๆของครอบครัวพร้อมกับคุณพ่อที่จูงมือเธอเข้าร้านมาขณะที่ผู้เป็นแม่กำลังชงกาแฟให้แก่ลูกค้าในร้าน เธอเดินเข้าไปกอดคุณแม่ก่อนจะถูกหอมลงที่หน้าผาก เด็กหญิงผละออกแล้วเดินไปนั่งที่หลังร้านหยิบหนังสือนิทานภาพเพ้อฝันของเจ้าหญิงเจ้าชายมาเปิดดูรูปอย่างมีความสุข เธออ่านไม่ออก อ่านหนังสือไม่ออกเนื่องจากการเกิดมาไม่ได้ยินทำให้ไม่สามารถรู้ได้ว่าหนังสืออ่านอย่างไร เธอทำได้แค่มองรูปเท่านั้น
เวลาค่ำมืดแล้ว คุณพ่อคุณแม่กำลังเก็บร้าน พร้อมกับพี่สาวที่ทำงานพาร์ทไทม์คนเก่งคนนั้นที่ยืนอยู่ข้างพ่อแม่ของเธอกำลังช่วยกันเก็บร้าน ผู้หญิงคนนี้พยายามเก็บเงินเพื่อจะเรียนต่อในมหาลัย และที่พ่อแม่ของลูน่าจ้างเธอเพราะเธอสื่อสารภาษามือได้ เธอช่วยให้พวกเขาสื่อสารกับลูกสาวที่ตนเองรักได้ และก็ให้พี่สาวคนนี้เข้ามาอยู่ในบ้านโดยจ้างให้วันหยุดให้เธอเป็นพี่เลี้ยงของลูน่า
ผู้หญิงคนนี้ชื่อ คามิลล่า
เมื่ออายุเจ็ดขวบ ลูเซียน่าและพี่เลี้ยงในวันหยุดอยู่บ้าน พวกเราอยู่บ้านกันเพียงสองคน พ่อกับแม่ของเธอมีธุระที่ต้องไปทำในเมืองห่างไกล เขาฝากให้คามิลล่าดูแลลูกสาวของเขาให้ดีและจูบหน้าผากลาเด็กหญิงเหมือนที่ทำมาตลอดเจ็ดปีตั้งแต่เมื่อคืนวันศุกร์ และไม่แปลกเลยที่เช้าวันเสาร์เด็กหญิงจะนั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งและมีคามิลล่าหวีสางผมสวยของเธอให้
"ลูน่าสวยมากๆเลยนะคะ"เธอกระซิบที่ใบหู แน่นอนว่าเด็กหญิงทำหน้างงและมันก็สะท้อนผ่านกระจก เพราะแบบนั้นคามิลล่าเลยใช้ภาษามือบอกว่าเธอดูดี ซึ่งเธอก็ยิ้มให้อย่างสดใสแบบปกติ พี่เลี้ยงคนนี้ดูแลเธอดี
คามิลล่าเปิดนิทานภาพให้เธอดูจนหลับไปในยามค่ำคืน และเด็กหญิงก็ตืานมาในความว่างเปล่าเธอเดินออกมาจากห้องของตัวเอง มองไปที่ห้องทำงานที่ถูกเปิดไฟไว้ ภาพที่เห็นคือพี่เลี้ยงสาวกำลังเปิดตู้เซฟและหยิบเงินออกมาจากตู้ ลูน่ามองภาพนั้นค้างเอาไว้จนคนเป็นพี่เลี้ยงหันมา คนตรงหน้ายิ้มแล้วค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ พร้อมกับยัดเงินนั้นใส่กระเป๋าของตัวเองแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ลูน่าก็ไม่ได้บอกอะไรใครถึงเรื่องของเงินในเซฟที่หายไป
ไม่ได้บอกผู้เป็นพ่อ และ แม่ ว่าคามิลล่าน่ากลัวขนาดไหน
รอยยิ้มที่ผู้หญิงคนนั้นยิ้มออกมามันน่ากลัว น่ากลัวมากๆ จนเธอกลัวและไม่กล้าบอกอะไร แม้ตอนที่พ่อแม่ของเธออยู่ข้างๆแล้วก็ตาม ความกลัวเหล่านี้ลามมาถึงเรื่องในโรงเรียนสอนคนพิการ เธอมองครูที่ถือกระเป๋าแบรนด์เนมงามนั้น และใช้เงินมากมายจ่ายข้าวของที่ร้านสะดวกซื้อข้างโรงเรียน ครูซื้อขนมมามากมายเพื่อเป็นของขวัญ ซื้อพวกนิทานภาพ...
ขณะที่ครูกำลังสอน ลูน่าขออนุญาตคนเป็นครูเข้าห้องน้ำ และเดินไปที่ห้องพัก หยิบเงินออกมาจำนวนไม่มากไม่น้อยแล้วยัดใส่กระเป๋าของตัวเอง แล้วกลับมาในห้องเรียนเหมือนเดิมโดยทำราวกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอกลายเป็นแบบคามิลล่าเอาเสียแล้ว กลายเป็นหัวขโมย
และเงินของครูที่พยายามขโมยมามันน้อยนิดเกินไป ตอนที่เธอซื้อขนมและหนังสือภาพจากร้านข้างๆสถานศึกษา วันนี้คนเป็นพ่อมารับเธอช้ากว่าปกติ เด็กหญิงยัดของทั้งหมดลงในกระเป๋าของตัวเองไม่ให้ผู้เป็นพ่อเห็น และก็มามี่ร้านกาแฟ มีผู้เป็นแม่จูบหน้าผากแบบทุกครั้ง เธอก็และออกมาอ่านหนังสือภาพเล่มใหม่และแกะขนมกินอยู่โดยไม่มีใครสนใจ
มันน้อยเกินไป...เกินไป
ในวันที่พ่อแม่ไม่อยู่ คามิลล่ากำลังขโมย เธอเดินเข้าไปใกล้ทำตัวเองให้เงียบที่สุดก่อนจะใช้แจกันฟาดที่หัวของพี่เลี้ยง คามิลล่าล้มไปกองกับพื้น ทุกอย่างเงียบสงัด เธอใช้เศษแจกันแทงเข้าไปซ้ำ เด็กหญิงวัยเจ็ดขวบก็เป็นฝ่ายเปิดตู้เซฟและหยิบเงินไปจนเกือบหมดตู้ เธอผ่าตุ๊กตาของตัวเองแล้วยัดเงินหลายก้อนเหล่านั้นและอาวุธสังหารคือเศษแจกันใส่เข้าไปในตุ๊กตาแต่ละตัวแล้วเย็บกลับให้เป็นแบบเดิม พอรุ่งเช้าก็แสร้งวิ่งออกไปนอกบ้านหาคนข้างบ้านแล้วลากพวกเขามาดูคามิลล่า จนตำรวจสรุปว่ามีการปล้นฆ่าในบ้าน
แน่นอนสิ มันไม่แปลกที่เด็กหูหนวกจะไม่รู้หรือได้ยินเสียงอะไรผิดปกติ จริงไหม?
พ่อแม่ของเธอยิ่งถนอมเธอเข้าไปใหญ่พวกเขากอดเธอไว้แน่นแล้วพร่ำบอกว่าเป็นโชคดีของเธอที่รอดมาได้ที่โจรไม่รู้ว่าเธออยู่ในบ้านหลังนั้น ซึ่งเธอก็ไม่รู้ถึงคำพร่ำเหล่านั้น เธอแค่กอดพวหเขากลับไปแล้วยิ้มบางๆ
พวกเขาตัดสินใจเลี้ยงสุนัขโกลเด้นรีทีฟเวอร์ตัวนึงให้เป็นเพื่อนของเธอแทนคามิลล่า เด็กหญิงยิ้มและเล่นกับเจ้าหมา เธอยังอาศัยโอกาสต่างๆแอบขโมยเงินจากกระเป๋าผู้เป็นแม่ ผู้เป็นพ่ออย่างละนิด รวมถึงกระเป๋าของครูที่คลาสพิเศษด้วยจนลามไปถึงการขโมยเงินจากกระเป๋าเพื่อนๆที่ผิดปกติเหมือนตัวเธอเอง และทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนภาพวงจรปิดจับภาพได้ในตอนที่เธออายุสิบสาม ผู้ปกครองทุกคนต่างต้องการคำตอบว่าเงินของพวกลูกเขาหายไปไหน ทำให้ทางสถาบันต้องหาตัวคนมารับผิดโดยการใช้กล้องเป็นหลักฐาน
พ่อแม่ของลูเซียน่าไม่อยากจะเชื่อสายตากับสิ่งที่เห็น พวกเขาเถียงและเอาเธอออกมาจากสถาบันนั้น แน่นอนว่าเด็กสาวอย่างเธอก็เรียนรู้และใส่เครื่องช่วยฟังแล้ว พ่อแม่อย่างพวกเขากะจะเลี้ยงเธอเอาไว้กับตัวและจะหาข้อมูลภาษามือกับเธอมาคุยเองทีหลัง ไม่จำเป็นจะต้องให้ใครมาสอนลูกของพวกเขาอีก
แต่พ่อแม่ของเธอก็ต้องชดใช้ถึงสิ่งที่เธอขโมยมา
และมันก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับความล่มจมของธุรกิจครอบครัว
ข่าวแพร่สะพัดว่าลูกสาวของบ้านนี้เป็นคนขี้ขโมย จงระวังว่าเธอจะมาขโมยเงินในข้างของพวกคุณ แถมพี่เลี้ยงก็ตายอย่างเป็นปริศนาในบ้านอีก ใครๆก็ต่างกลัวจนไม่เข้าร้านกาแฟประกอบกับมีร้านกาแฟใหม่มาเปิดเป็นคู่แข่งอีก
ลูเซียน่ากอดเจ้าหมาโกลเด้นแน่น มันเป็นสัตว์ที่รักและเข้าใจเธอมันพยายามเอาหน้าของมันซึกและเลียปลอบ เป็นหมาที่ตัวใหญ่แต่คิดว่าตัวเองตัวเล็กตลอดเวลา
เมื่อเงินที่เธอขโมยจากแม่ไม่พอ เธอไม่สามารถหาเงินมาเติมเต็มความต้องการของตัวเองได้ เธอคิด คิดแล้วคิดอีก และเธอก็คิดได้ว่าเธอควรจะทำอย่างไร เธอจูงเจ้าโกลเด้นแอบออกไปจากหลังร้านขณะที่พ่อแม่กำลังโต้เถียงกันเรื่องเงินที่หายไปจากกระเป๋าตังค์ทุกๆวัน เมื่อพ้นสายตาผู้คนสิ่งที่เธอทำคือมัดมันไว้กับต้นไม้
ก่อนจะค่อยๆหยิบค้อนออกมาจากกระเป๋าสะพาย
และออกแรงทุบลงไปกับร่างของเจ้าขนทอง
ครั้งที่หนึ่ง...โกลเด้นร้องออกมา เป็นเสียงที่เธอไม่ได้ยิน และเธอก็หวังจะทำให้มันบาดเจ็บและเรี่ยรายเงินบริจาคในการช่วยเหลือโกลเด้นมา เจ็บแค่นี้เอง เดี๋ยวก็หาย
ครั้งที่สองที่ทุบลงไป เจ้าหมาทรมานมันแดดิ้น และมีน้ำใสๆกลิ้งในแววตา
ครั้งที่สาม ครั้งที่สี่ เธอทุบไปเรื่อยๆด้วยความบ้าคลั่ง ยิ่งมันบาดเจ็บมาก เธอก็จะ ก็จะได้เงินบริจาคมากขึ้นเรื่อยๆ
และเจ้าหมาก็ไม่ตอบสนองอะไรอีกเลย มีแต่น้ำใสๆที่ไหลออกมาจากตาของมัน...
ลูเซียน่าปล่อยค้อนลงจากมือ เขย่าเจ้าหมาของเธอ แต่มันแน่นิ่งไปแล้ว
ราวกลับ...ไม่สิ หัวใจของเด็กหญิงวัยสิบสามปีกำลังจะแตกสลาย เธอร้องไห้ออกมาน้ำตาไหลออกมา พยายามแกะเชือกออกจากหมาของเธออย่างบ้าคลั่ง และกอดร่างแน่นิ่งที่มีแต่รอยที่เธอทำเอาไว้ เลือดของมันไหลลงหยดออกมาไม่หยุด เธอกรีดร้อง เป็นเสียงกรีดร้องที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่ได้ยิน
เธอค่อยๆปล่อยร่างของเจ้าหมา ค่อยๆกอดร่างของตัวเองไว้ มือที่เปื้อนเลือด... เธอเริ่มข่วนตัวเองจนเล็บ...เริ่มกลายเป็นใบมีดเล็กๆที่ข่วนตามร่างกายของตัวเอง เธอกรีดร้องพร้อมกับความเจ็บปวด ก่อนที่จะมองไม่เห็นอะไรอีกเลย ภาพสุดท้ายที่จำได้คือเธอล้มลงกองไปกับพื้นหญ้าที่ชุ่มเลือดของน้องหมา และเลือดจากแขนของเธอที่ถูกใบมีดจากเล็บข่วนจนเป็นรอย เลือดไหลลงมาเช่นเดียวกัน..
เธอตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาล กลิ่นแอลกอฮอล์ติดจมูก พ่อแม่ไม่พูดอะไรแต่ประคองเธอขึ้นมากอดเมื่อเธอฟื้นและเธอก็ร้องไห้กอดพวกเขาเอาไว้ ธุรกิจร้านกาแฟไปไม่รอด พ่อกับแม่ของเธอตัดสินใจปิดกิจการและรอจนเธอหายดี จิตแพทย์ในโรงพยาบาลแนะนำพวกเขาไม่ให้พูดถึงเรื่องที่กระทบจิตใจเธอ
ถึงแม้พวกเขาจะไม่พูด แต่เธอก็รู้ตัวดีว่ากิดอะไรขึ้นกับหมาของเธอ มันติดใจเป็นตราบาป และเป็นฝันร้าย
จากนั้นเมื่อเธอออกจากโรงพยาบาล เธอก็ไปอยู่ที่เมืองโรเชสเตอร์กับครอบครัว พ่อแม่ของเธอก็ทำธุรกิจเหมือนเดิมเปิดร้านเล็กๆและส่งเธอเข้าคลินิกเล็กๆแถวนั้นเพื่อทำการบำบัดจิตใจและความพิการของเธอ พวกเขาเลี้ยงเธอเหมือนไข่ในหิน และ เอาใจใส่เธอมากที่สุด และพยายามประคับประคองธุรกิจที่อาจระส่ำระส่าย หรือ รุ่งโรจน์ในอนาคตไปให้ดีที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้
Tbc.
และ ใช่ค่ะ ปีศาจที่น่าหวาดกลัวที่สุดสำหรับเด็กสาวก็คือ แมมม่อน :)
การที่หลงใหลในอำนาจของเงินจนสร้างตราบาปอันรุนแรง
จนไม่สามารถที่จะไถ่บาปทั้งหมดได้เลย...จริงไหม?
ลักษณะการพูด :
ปัญหาคือคนหูหนวก มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร เพราะไม่ได้ยินเสียงอะไรแม้แต่เสียงของตัวเอง ลูเซียน่าเองก็เช่นนั้น เธอไม่สามารถได้ยินเสียงของคู่สนทนาได้ กระนั้นมือไม้ก็พยายามขยับทำภาษามือตามที่ได้เรียนมา แต่ปัจจุบันการสวมเครื่องสื่อสารคือเครื่องช่วยฟังทำให้ลูเซียน่าได้ยินเสียงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ยินเต็มที่ คนที่คุยกับเธอจะต้องมีความอดทน ต้องพูดช้าๆ แถมคำตอบที่ได้ยังได้แค่เสียงอือๆ อาๆ พวกนี้
แต่จากเสียงเหล่านั้นก็พอจับได้ว่าลูเซียน่ามีน้ำเสียงหวานคนนึง
ขอยืนยันว่าภาษามือดีที่สุด
เหตุการณ์ที่ 1 ; เมื่อต้องขอโทษใครสักคน แววตาของลูเซียน่าจะมีประกายเศร้า รู้สึกผิด ริมฝีปากของเธอเม้มเข้าหากัน มือที่สั่นๆจะค่อยๆยกขึ้นมา ยกฝ่ามือซ้ายขึ้นมาระดับหัวใจ โดยหันปลายนิ้วไปยังคู่สนทนา จากนั้นใช้ปลายนิ้วมือข้างขวาทำวนในทิศตามเข็มนาฬิกา เหนือฝ่ามือข้างซ้ายราว ๆ 3 รอบ
เหตุการณ์ที่ 2 ; เวลาคนอื่นเข้ามาช่วยเหลือ เธอจะส่งยิ้มให้ แล้วยกมือที่แบทั้งสองข้างขึ้นมาขนานกัน แล้วจึงดึงมือทั้งสองข้างออกจากกัน เป็นคำขอบคุณจากเธอ
เหตุการณ์ที่ 3 ; เมื่อมีคนพูดช้าๆ ชัดๆ เธอจะกระพริบตาถี่คล้ายงงก่อนในช่วงแรก และใช่ค่ะ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกตอบ อือๆ ไปก่อน...
(รีเสิร์ชข้อมูลจนขอบตาดำแร้วค่า แง)
พลังพิเศษ :;
(1) การเปลี่ยนอวัยวะในร่างกายให้กลายเป็นอาวุธ
; เล็บ-ใบมีดเล็กๆ แขน-ดาบ เป็นต้น พลังนี้ปะทุเกิดจากการที่สภาพจิตใจตกต่ำ
ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่สามารถควบคุมพลังนี้ได้ดั่งใจเพราะเป็นพลังที่อยู่ดีๆก็มา
เกิดจากสภาพจิตใจในตอนนั้นๆแหละ
(2) ฮีลตัวเอง
; เป็นการที่ร่างกายของเธอมีกระบวนการฮีลตัวเองเสมอเมื่อเจ็บปวด
เด็กสาวเริ่มรู้สึกตัวว่าเมื่อตัวเองบาดเจ็บเช่นการหกล้ม เพียงไม่นานแผลก็หาย
เช่นการที่ข่วนตัวเองด้วยเล็บที่กลายเป็นใบมีด เธอก็สามารถฟื้นขึ้นมาได้ภายใน24ชม.
ความสามารถพิเศษ ::
(1) การถักไหมพรม ; ฝึกถักหลังจากย้ายมาอยู่ในเมืองโรเชสเตอร์ ถักทุกวัน
ถักจนออกมาเป็นรูปเป็นร่างเสร็จไวเลยแหละ
(2) ช่างสังเกต ; เป็นการฝึกสังเกตมาตั้งแต่สมัยก่อน เพราะการที่หูไม่ได้ยินเลยต้องสังเกต
(3) ; ภาษามือ ; เรียนมาแต่เด็กและใช้มาตลอดชีวิต..
(4) ขโมยของ ; มือเบา จนทำให้คนที่ถูกขโมยไม่รู้สึกตัว
(5) วาดภาพ ; เธอดูนิทานภาพจนฝึกวาดภาพทุกวัน...
(6) ปลูกต้นไม้ ; เพราะเป็นคนละเอียด เอาใจใส่ ทำให้ดูแลต้นไม้อย่างดี
ช อ บ
- กลิ่นของกาแฟและนมอุ่นๆ ; เพราะเธอเติบโตมากับธุรกิจร้านกาแฟของพ่อแม่การได้กลิ่นของนมและกาแฟจะทำให้เธอผ่อนคลายลงและหลับได้อย่างสงบ จึงไม่แปลกถ้าจะเห็นเด็กสาวชงนมอุ่นๆดื่มตอนก่อนนอน
- นิทานภาพ ; เป็นสิ่งที่ให้เธอกล้าคิด กล้าฝัน และเพลิดเพลินไปได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องอ่านออก
- การปลูกต้นไม้ ; ทำให้มีสมาธิและมีความสุขมากๆเวลาเห็นต้นไม้งอกเงยขึ้นมา
- การถักไหมพรม ; เป็นอะไรที่ง่าย และทำได้รวดเร็ว แถมได้ทำด้วยความสามารถของตัวเอง
ไ ม่ ช อ บ
- กลิ่นฉุน ; รู้สึกหายใจไม่ทั่ว แบบอึดอัด...
- เสียงดนตรี และ เสียงร้องเพลง ; เพราะเธอไม่ได้ยินเสียงไง...เลย ไม่ชอบ
- น้ำตาของคนอื่นและตัวเอง ; การที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีำตา มันไม่ดีอยู่แล้วจริงไหม?
- การทำอะไรออกจากเซฟโซนหรือคอมฟอร์ทโซนของตัวเอง ; เพราะไม่ใช่คนที่ชอบความท้าทายจึงชอบอยู่แค่ในจุดที่ปลอดภัยและทำอะไรตามปกติมากกว่าการทำอะไรที่แตกต่างจากเดิม
เ ก ลี ย ด
- คนที่ดูถูกความพยายามของตัวเอง ; เพราะเธอพยายามมากๆการถูกดูถูกจึงเป็นสิ่งที่แย่มากๆ
- คนไม่ตรงต่อเวลา ; เธอมักจะมาก่อนเวลาเสมอเพื่อไม่ให้คนอื่นรอแล้วทำไม คนอื่นมาช้า...
แ พ้
- อาหารทะเล ; กินเข้าไปแล้วผื่นขึ้น หนักเข้าจะหายใจไม่ออกต้องส่งโรงพยาบาล
กลัว
- การหลงในอำนาจเงินของตัวเอง ; มันทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมา ทำให้คุณพ่อคุณแม่เสื่อมเสียชื่อเสียง ทำให้กลัวว่าเธอจะทำอะไรผิดพลาดไปแบบนั้นอีกครั้ง
- คลิปสัตว์ถูกทรมานต่างๆ ; มันทำให้เด็กสาวกลัวจนร้องไห้ออกมา และมันก็มักจะทำให้เธอควบคุมสติ อารมณ์ของตัวเองไม่เคยได้
- คนแปลกหน้า / คนหน้าดุทำตาขวางใส่ ; จัดอยู่ประเภทรู้หน้าไม่รู้ใจ รู้สึกหวาดระแวงกลัวตัวเองทำอะไรผิดพลาดหรือไม่ถูกใจเขา.____.
เพิ่มเติม :
-ตอนนี้กำลังปลูกต้นกระบองเพชรอยู่ ปลูกมาได้สักพักแล้ว ดอกของมันเริ่มออกแล้วด้วย
-แม่เป็นคนฝรั่งเศส พ่อเป็นคนอเมริกา
【Interview】
∆ สวัสดีครับ ก่อนอื่นก็คงต้องทำความรู้จักกันก่อน...คุณชื่ออะไรเหรอ?
:
ลูเซียน่า นิ่งงัน ดวงตาสีมรกตอ่อนขยับคล้ายระแวงคนแปลกหน้า เธอจะทำอย่างไรดี เขาพูดเร็ว...เร็วเกินไปที่เครื่องช่วยฟังของเธอจะช่วยให้เธอเข้าใจประโยคที่เขาพูด เด็กสาวทำสีหน้าลนลาน ระแวง และทำตัวไม่ถูกอย่างเห็นได้ชัด จนกระทั่งอีกฝ่ายตวัดสายตามองมาที่แฟ้มประวัติของเธอที่เธอถืออยู่ บนหน้าแฟ้มปรากฎตัวอักษร ว่า 'Luciana Florence (ลูเซียน่า ฟลอเรนซ์)'
∆ เป็นชื่อที่ดีนะครับ แล้ว...คุณรู้สึกยังไงบ้างที่พบว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ?
:
เด็กสาวไม่ได้มีท่าทีผ่อนคลายลงเลย เธอได้แต่สงสัยในใจว่าเขาพูดช้าลงกว่านี้ได้ไหม.. และเพราะแบบนั้น เพราะเธอไม่ตอบอะไรนอกจากหลบตาระแวงแบบนี้รึเปล่า เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนคำถาม
∆ งั้นเหรอครับ แล้วคุณคิดว่าตัวเองจะเป็นประโยชน์แก่มวลมนุษย์มากแค่ไหนกัน?
:
มันควรจะถึงเวลาที่เธอจะตอบอะไรรึยัง...เอาเป็นว่าก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเขาถามอะไรก็... "อือ"
∆ โอ้... แล้วคุณคิดยังไงกับพวกปีศาจล่ะ?
:
คราวนี้เด็กสาวมองหน้าเขา เธอเม้มปากแสดงท่าทีออกไปว่าตัวเองไม่เข้าใจ แต่เขาก็คงไม่รับรู้เลยสุดท้ายเธอก็ไม่ได้ตอบเขาหรอก ทำได้แค่....ส่งเสียงในลำคอออกไปเบาๆเหมือนท้อใจ "อ่า...อืม"
∆ ฮะๆ โอเคครับ สำหรับคำถามในวันนี้ก็หมดลงเพียงเท่านี้ ขอให้โชคดีครับ :)
:
เขาผายมือให้เธอเป็นสัญญาณ เด็กสาวค่อยๆยืนขึ้นก่อนจะเดินออกไป พอพ้นผ่านประตูเข่าของเธอก็ทรุดลงกับพื้นเหมือนคนกลัวจนหมดแรง
【Talk with parents】
∆ แฮะะ นานๆทีจะหาเรื่องคุย//เขินตัวบิด—เอาเป็นว่าสวัสดีค่ะ ทางนี้ชื่อสโนว์หรือโนนะคะ ทางนู้นชื่ออะไรเอ่ยย
: สวัสดีค่า คุณโน เราแมวน้ำนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ!
∆ อาจจะเวิ่นเว้อพล่ามเยอะเรื่องพล็อตไปหน่อย... แต่คิดยังไงถึงมาเรื่องนี้คะ ;;w;;
: เห็นผ่านๆค่าเลยลองกดเข้ามาดู พล็อตน่าสนใจ ดีเทลเยอะมาก เยอะจนจอไหลเลย 55555 แล้วก็บทน่าสนใจมันทัชค่า ทัชมายฮาร์ทจริงๆนะ ฮือ ;______; เราพึ่งเจอคุณโนเป็นเรื่องแรกยังไงก็...อย่ารับน้องโหดไปนะคะ เห็นแก่ความน่ารักน่าชัง(?) ของเลาก็ดั้ยน้า ;______;
∆ โนไม่ใช่คนขยันหรือเก่งอะไรนะคะ อาจมีการเงียบหายไปบ้างไม่ว่ากันนะคะ จะไม่เรียกว่าดองให้ใจเสียหรอกค่ะ พยายามจะไม่ทำแบบนั้น5555 (ไม่นานนู๋จิกลับมา—)
: เข้าใจค่าาา ตอนเราปั่นตัวละครออกมาเราก็แอบดองตัวละครนานพอสมควร 5555 แต่จะบอกว่า...วันที่ส่งคือแมวน้ำไม่ได้นอนทั้งคืนเลยค่า 555555
∆ โนไม่ค่อยถนัดฉากหวานๆเท่าไหร่ และเนื้อเรื่องอาจไม่ได้เน้นความรักอย่างเดียว มันอาจมีอะไรดาร์คๆมานิดนึง ซึ่งอาจลามไปถึงตัวละครด้วยที่อาจจะโดนย่ำยี(?) และถูกโนกระทำชำเรา(?)บ้างนะคะ อาจมีตายด้วย ไม่ว่ากันนะคะ แจ้งไว้ก่อนเนอะ ;;w;;
: แน่นอนว่าเราไม่มีปัญหาค่า
∆ ถ้าหากว่าตัวละครนี้ไม่ติดตามบทบาทที่ต้องการ จะอนุญาตให้เปลี่ยนบทบาทหรือรับกลับคะ
: แมวน้ำเป็นคนปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ค่า คุณโนว่าไง แมวว่างั้นเลย
∆ มีอะไรจะบอกโนไหมคะ อย่างเช่นอยากให้โนข่มขืนตัวละค—แค่ก เช่น อยากได้ฉากไหนเป็นพิเศษไหมอ่ะค่ะ ถ้าทำได้จะจัดให้เน้อ! =w=
: อยากได้ฉากทัชใจสักฉาก เช่น คำอื่นที่น้องจะพูดได้นอกจากอือๆอ่าๆค่า แงงงงงงงง เอาเปงว่าถ้ามะได้ก็มะเปงไรนะคะ แมวปลูกเรือนตามใจผู้อยุ่ววว
ความคิดเห็น