ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    STORY OF } PLuT♡ *CLose

    ลำดับตอนที่ #17 : [1] Make a Wish

    • อัปเดตล่าสุด 17 ธ.ค. 59


    CR.SQ

     

    拾い集めた後悔は

    hiroi atsumeta koukai wa

    ความเสียใจที่เก็บสะสมเอาไว้

    涙へとかわりoh baby

    namida e to kawari oh baby

     

    ถูกกลั่นออกมาให้กลายเป็นหยาดน้ำตา oh baby

     

    เครดิต [ จิ้ม ]

     

     

    รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

    ใบสมัคร

     

    รูป ::

     

    คู่ :: เจ้าสาวผู้น่ารัก คางามิ ไทกะ คุง (?)

     

    ชื่อ  ::     มิคาสึกิ     โอคามิ     [ Mikazuki     Okami ]

     

    • มิคาสึกิ - จันทร์เสี้ยว
    • โอคามิ - หมาป่า 
    • มิคาสึกิ โอคามิ [ ความโดดเดี่ยวใต้แสงของจันทร์เสี้ยว ] หรือ [ หมาป่าผู้แสนเดียวดายเคียงข้างจันทร์เสี้ยว ] และยังได้อีกว่า [ หมาป่าใต้จันทร์เสี้ยว ] #อันหลังราวใช้ทรานสเลท---
    • ใช้การเรียงชื่อแบบ [ นามสกุล - ชื่อ ]

     

    ชื่อเล่น  ::     โอคามิ , โอคัง     [ Okami ' Okang ]

     

    • ใครๆก็เรียกโอคามิได้ ไม่ได้ถือชื่อนี้ไว้กับใคร
    • โอคังคือชื่อที่ครอบครัวเขาเรียกกันมาตลอด สำหรับตัวของโอคามิ

     

    อายุ  ::  21 ปี ย่างขึ้น 22 ปี

    อาชีพ  ::     นักศึกษามหาลัย คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา ปี 3 / อดีตนักบาสเยาวชนหญิง ตำแหน่ง PG

    ลักษณะรูปร่าง ::     ใบหน้าที่มักจะขมวดคิ้วเพราะความเบื่อหน่ายกับชีวิตไปวัน ๆ ของเธอ ใช่ เธอคือผู้หญิงผู้มีใบหน้าเรียบนิ่งสนิท มันเฉยชารวมไปถึงกระทั่งดวงตาสีมรกตอ่อนที่สว่างที่มักจะมีอารมณ์ที่เรียกได้ว่าเฉยชาเสียยิ่งกว่าอะไร ใบหน้าหากมองผ่าน ๆ หลายคนต่างตอบออกมาอย่างมั่นใจได้ว่าใบหน้าของ มิคาสึกิ โอคามิ เรียกเป็นหนุ่มได้เลยในทันทีอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยเรือนร่างอันได้มาจากการเป็นอดีตนักกีฬาบาสหญิงประจำโรงเรียนในสมัยก่อนขึ้นมหาลัย เรือนผมสีแดงที่รับเข้ากับดวงตาเฉยชา ตัดสั้นไว้เพื่อตัดความรำคาญของตัวเอง ความรำคาญที่จะทำให้ไม่สะดวกต่อการเล่นกีฬาและยังรุงรัง เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบดูแลผมมากเท่าที่ควร สระอาทิตย์ละครั้งพอเป็นพิธี ทั้งๆที่ผมก็ออกจะเป็นคนที่ผมหนาเสียด้วยซ้ำ นับได้ว่าตัดเพื่อให้ง่ายต่อการดูแลและความสะดวกสบายของเจ้าตัวเองชัด ๆ ใบหน้าที่มักเฉยชามีส่วนประกอบที่เรียกได้ว่าสามารถจะเอ่ยได้ว่าใบหน้าของเธอแม้ไม่ต่างจากผู้หญิง แต่ก็ดูจะออกไปทางหล่อบ้างเสียส่วนใหญ่ ดวงตาเฉยชาสีมรกต ริมฝีปากบางเฉียบที่ไม่เคยมีรอยลิปติกใดตกแต่งแต้มสีให้งดงาม จมูกโด่งที่รับเข้ากับใบหน้า ใบหน้าที่ดูเป็นธรรมชาติไร้การตกแต่งให้สวยงามแบบผู้หญิงทั่วไปในวัยเดียวกัน มือหยาบกร้านจากการจับลูกบาสเล่นเมื่อสมัยก่อนยังคงไม่จางหาย ร่างกายที่ได้รับการฝึกซ้อมมาจนมาทำให้ดูแตกต่างจากเรือนร่างของผู้หญิง สูง 178.6 น้ำหนัก 59.9

    ลักษณะนิสัย ::     มิคาสึกิ  โอคามิ คือผู้หญิงที่มีความแตกต่างจากหญิงสาวหลายคนอย่างเห็นได้ชัดทั้งรูปลักษณ์ภายนอก คำพูดคำจา รวมไปแม้กระทั่งการกระทำหรือนิสัย ทุกสิ่งทุกอย่างบ่งบอกว่าตัวของโอคามิไม่ได้มีความเป็นสาวน้อยวัยรุ่น สดใส แรกแย้ม ไม่ได้มีความเป็นผู้หญิงในแบบที่ชายหนุ่มทุกคนพึงปราถนาจะต้องการ ซึ่งแน่นอนว่าอย่าว่าแต่เหล่าชายหนุ่มจะไม่ต้องการเลย แม้แต่ตัวของโอคามิเองก็ไม่ต้องการผู้ชายเลยแม้แต่น้อย เป็นผู้หญิงที่เปิดเผย ตรงไปตรงมา มีความขวานผ่าซาก ทั้งยังดูไม่มีจริตเสแสร้ง โอคามิคือผู้หญิงไร้มารยาจริตแบบผู้หญิงคนอื่นโดยทั่วไป เธอออกจะเป็นผู้หญิงแมนๆ มีอะไรเคลียร์กันตัวต่อตัวมากกว่า ประมาณมีอะไรไม่พอใจบอก มีอะไรข้องก็พูด อย่ามาอมพะนำอะไรไว้ เป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้แสร้งทำดี ไม่ได้เสแสร้งหัวเราะยิ้มแย้ม นอกจากความเป็นตัวของตัวเองแล้ว ความคิดเป็นของตัวเองด้วยเช่นกัน เป็นคนที่ไม่ได้ตามไปกับการชักจูงของใครเลยแม้แต่น้อย ให้อารมณ์ชีวิตฉันกำหนดเองได้เสียด้วยซ้ำ เป็นคนที่กำหนดแนวทางการใช้ชีวิตของตัวเองได้ ไม่ต้องการจะให้ใครมากำหนด 

         กล้ายอมรับ กล้าทำกล้ารับ เป็นคนมีความกล้า ไม่ได้เกรงกลัวต่อใคร ไม่ได้กลัวใคร ทั้งยังเป็นผู้หญิงที่ไม่กลัวใครเลยด้วยซ้ำ เป็นคนที่หากคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำและถูกก็จะทำ แต่ถ้าหากมีคนคิดว่ามันผิดทั้งๆที่มันไม่ได้ไปหนักหัวของใคร ก็พร้อมจะออกมาตอบโต้และขอเหตุผลว่าสิ่งที่เธอทำหรือเธอเป็นมันหนักหัวอะไรใครเหรอ ? เฉกเช่นเรื่องของเพศที่เจ้าตัวเป็นบุคคลเพศทางเลือกด้วย เธอพยายามจะคัดค้านคนอื่นๆที่มองว่าเพศของเธอมันไปหนักหัวของใคร แต่บางทีก็ปล่อยเลยตามเลย แล้วแต่จะคิด ฉันไม่แคร์อะไรกับใครแล้วก็ได้ เพราะเป็นคนที่ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่สนใจ ไม่แคร์อะไร ไอด้อนท์แคร์ใครจะทำไม ฉันไม่สน ฉันสนความรู้สึกของตัวเอง ฉันทำตามใจที่ตัวเองต้องการ ฉันไม่เสียใจกับสิ่งที่ฉันทำ และ ฉันคิดว่าสิ่งที่ฉันทำมันไม่ได้ไปหนักหัวใคร ฉันไม่จำเป็นต้องมาคิดว่าตัวเองเป็นคนผิด

         แม้จะไม่ใช่คนมีจริตมากมายแต่คำพูดคำจาก็มีความแพรวพราวมิใช่เล่น เพียงแต่ความแพรวพราวของคำพูดคำจามักจะใช้กับเหล่าสาวน้อยทุกคนที่รู้จัก เป็นคนที่ใช้คารมเก่ง อ่านะ ชอบที่จะหลอกล่อ หยอกเย้ากับผู้หญิง พร้อมกับมุขหยอดที่หามาได้ตลอดไปเต๊าะคนอื่นได้ทุกวี่ทุกวัน และหลายครั้งส่วนใหญ่มันก็มักจะได้ผลทุกทีสิ แต่คุณรู้ไหมคะ แม้จริตไม่มี แต่มีความแพรวพราว แอบเจ้าเล่ห์มีเล่ห์เหลี่ยม ซึ่งได้ผลและเอามาใช้ได้จริงกับพวกสถานการณ์แบบนี้ได้เท่านั้น ถ้าไปใช้กับการวางแผนพวกการเมือง นางนี้ก็ทำไม่ได้ ให้อารมณ์ว่าเรื่องแบบนี้รู้ดีแต่เรื่องเอาจริงเอาจังขอบายไม่ได้เรื่องเลยทีเดียว ชอบที่จะเต๊าะผู้หญิง ชอบที่จะหยอกเย้า ชอบที่จะมองใบหน้าของพวกเธอตอนเคอะเขินจากการโดนเต๊าะ น่าแปลกที่เวลาอยู่กับผู้หญิง ไม่ได้ให้อารมณ์เป็นพวกขวานผ่าซากเลย กลับกันชอบพูดอะไรหวาน ๆ การหยอดคำหวานวันละเล็ก วันละน้อย เวลาอยู่กับพวกผู้หญิง เวลาหยอดคำหวาน มันดูเป็นธรรมชาติ ผิดกับหน้าตาเฉยชาที่ชอบทำอยู่เป็นประจำ จากหน้าตาที่ชอบทำเฉยชา กลายเป็นหน้าตาที่ดูสนุกสนาน มีชีวิตชีวา รอยยิ้มมุมปากที่มักจะแต่งแต้มเสมอเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ (ซึ่งย่อหน้านี้ที่กล่าวมาจะใช้กับสถานกาณ์อื่นจริงๆไม่ได้เลยสักที (?))

         สุภาพกับพวกผู้หญิงอย่างแท้จริง ทั้งสุภาพ ทั้งทำตัวดีจนน่าหมั่นไส้ เป็นคนที่เหมือนแบ่งแยกเขตแดนระหว่างเพศเลยทีเดียว แต่ไม่ใช่คนที่เกลียดพวกผู้ชาย คนที่เป็นทอมไม่ได้หมายความว่าจะเกลียดผู้ชายทุกคนเสมอไป ก็แค่ไม่ได้ชอบผู้ชาย และ แค่ไม่ถูกรสนิยมแค่นั้น ไม่ได้เกี่ยวกับความเกลียดไม่เกลียดเลยแม้แต่น้อย จะบ้ารึไง จะมาบอกว่าเกลียดผู้ชายเลยเป็นทอมเหรอ ไร้สาระ !

         มั่นใจในตนเอง มีความมั่นใจในทุกเรื่องที่ตัวเองทำและแสดงออก กล้าแสดงออก ไม่ใช่พวกขี้อาย และ ไม่ค่อยหวั่นไหวกับอะไรเสียเท่าไร ไร้ความอ่อนไหวง่าย โอคามิคือคนเลือดร้อนจำพวกหนึ่ง เป็นคนใจร้อน แม้หน้าตาจะเฉยชา แต่ไม่ใช่ประเภทที่จะเรียกได้ว่ามีความอดทน  หรือก็คือพวกมีความอดทนต่ำ และไม่มีเหตุผลพอที่จะใจเย็น เป็นคนที่ชอบการใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล เป็นประเภทกล้าได้กล้าเสีย ชอบทำตัวห่าม ๆ ผาดโผง ไม่ได้เป็นคนนิ่งเรียบ ไม่ได้เป็นคนสงบนิ่ง ออกจะเป็นพวกที่ทำตัวตามอารมณ์ ทำก่อนแล้วค่อยคิดว่าไอ้ที่ทำไปจะเป็นยังไง และ ส่งผลอะไรกับชาวบ้านเขาบ้าง คำพูดคำจาถ้าไม่ใช่กับผู้หญิงจะเป็นคนที่พูดจาห้วน ๆ พูดจาไม่ค่อยเข้าหูใคร ทำตัวไม่เคยนอบน้อม ความนอบน้อมไม่โผล่ มารยาทไม่ปรากฎออกมาในรายชื่อ ความเป็นมารยาทแบบกุลสตรีอย่าหวังเลยว่าจะโผล่มา

         มีไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นคือการหาเล่นกีฬาและมักจะไปเล่นกับพวกผู้ชายอย่างเป็นประจำ เข้ากับผู้ชายได้เป็นอย่างดี เพราะความคิด ไลฟ์สไตล์ นับได้ว่าเหมือนกัน ทั้งนิสัยของโอคามิส่วนใหญ่ไม่ได้ดูเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย หรือดูคุณหนูทำอะไรไม่เป็น แต่เป็นคาร์แรคเตอร์ที่ออกจะลุย ๆ ไปไหนไปกันได้ และ ไม่ได้ดูจู้จี้ขี้บ่น หรือ จุกจิกกับเรื่องเล็กๆน้อย ๆ แบบผู้หญิงทั่วไป กลับกันนิสัยค่อนข้างจะไปทางผู้ชายส่วนใหญ่เสียด้วยซ้ำ แถมบางครั้งยังช่วยผู้ชายต่อมุขเต๊าะสาวได้อีก เป็นผู้หญิงที่มีนิสัยนักกีฬา เป็นคนเสียสละ รู้แพ้รู้ชนะ หากแพ้ก็จะยอมรับว่าตัวเองแพ้ ซึ่งไม่เคยมีครั้งไหนที่สาวเจ้าจะรู้สึกเสียใจที่ตัวเองแพ้ เพราะตัวเธอทำเต็มที่ทุกครั้งที่ต้องแข่งขันเธอไม่ได้แข่งแบบขอไปที เป็นคนให้ความเต็มที่กับทุกการแข่ง แม้ว่าจะเป็นคนรู้แพ้รู้ชนะ แต่ก็รักในชัยชนะ และ รักในการแข่งขันคนหนึ่งมากๆ ชอบที่จะแข่งขัน ซึ่งการแข่งขันต้องยุติธรรมและใสสะอาด ใช่ แต่ถ้าอีกฝ่ายผิดกติกา โอคามิเองก็เห็นท่าจะทำตัวเป็นคนดีต่อไม่ได้เช่นกันนะ

         มิคาสึกิ  โอคามิไม่ใช่คนโง่และก็ไม่ใช่คนฉลาด หัวสมองไม่ได้ฉลาด และ เป็นประเภทที่ไม่ตั้งใจเรียนอีกต่างหาก วันๆก็สนใจกับการวิ่งตามลูกบาสสีส้มไป ไม่ค่อยสนใจในบทเรียนที่ถูกยกขึ้นมาสอนเสียเท่าไร แต่โอคามิก็พอมีความรู้ติดตัวอยู่บ้าง ไม่ใช่ว่าเอาแต่โดด โอคามิโดดแค่จำพวกวิชายาก ๆ อย่างคณิตเสียมากกว่า ส่วนวิชาอื่นๆก็เข้าเรียนตามปกติ ไม่ได้โดดอะไร วิชาที่ถนัดและดูตั้งใจเรียนคือวิชาพละ เป็นวิชาหลักในชีวิตของสาวเจ้าเลยก็ว่าได้ วิชาที่อ่อนที่สุดคือวิชาคณิตศาสตร์ เรียนคณิตไม่รู้เรื่อง จำสูตรได้แต่เอาไปใช้ไม่ได้ เข้าใจไหม 555 และยังอ่อนวิชาประวัติศาสตร์แถมพ่วงไปด้วย วิชานี้คือที่ทำข้อสอบไม่ได้ เพราะหลับทุกคาบที่เรียน ก็ไม่ได้โดดไง แต่คือหลับไปเลย หลับคาเรื่องที่อาจารย์สอนไปเสียสนิท แต่กระนั้นวิชาอื่นๆนับได้ว่าพอผ่านและพอดูได้ ประเด็นคือสามารถอ่านเลคเชอร์ของตัวเองเข้าใจ เห็นแบบนี้เป็นคนที่ลายมือสวย และ เลคเชอร์เป็นระเบียบ อ่านง่ายคนหนึ่งเลยทีเดียว จุดนี้น่าชื่นชมนางมากจริงๆ

         เป็นคนกินเก่งมากคนหนึ่ง ชอบหาอะไรกิน ยัดใส่ปากเป็นประจำ เป็นพวกที่กินเยอะ กินจุกจิก กินไปเรื่อย กินได้หมดทุกอย่างที่คิดจะกินก็ว่าได้ มิคาสึกิ โอคามิ เป็นคนที่ต้องการพลังงานและสารอาหารจำนวนมากเพื่อเลี้ยงร่างกายของตัวเอง ให้อารมณ์ว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ให้อารมณ์อีกมากมายที่มีให้แก่การกิน ข้าวสามมื้อ แต่ละมื้อกินข้าวไม่ต่ำกว่าสามจานขึ้นไป ไม่นับพวกของกินเล่นแบบโมจิในมืออีกนะ แต่โอคามิไม่ค่อยชอบกินของเย็นๆเสียเท่าไร แบบ ซอฟท์ครีม ไอติม น้ำแข็งใส เธอไม่ชอบที่จะกินของเย็น ๆ แต่ใช่ว่าจะกินไม่ได้ ก็มีกินบ้างแต่ไม่บ่อยนัก เครื่องดื่มที่โปรดปรานจะเป็นนมสด นมอุ่นๆ 

         รักความยุติธรรม สามารถทำทุกอย่างได้เพื่อความยุติธรรม เป็นคนที่รักและเคารพกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ไม่ชอบทำอะไรที่ขัดแย้งต่อกฎหมาย เวลาเห็นใครโดนขโมยของจึงอดใจที่จะวิ่งเข้าไปช่วยไม่ได้ ชอบช่วยเหลือคนอื่นเสมอ ไม่ว่าจะยังไงนี่คือข้อดีของโอคามิ ชอบที่จะช่วยเหลือคนอื่น โดยไม่สนใจตัวเองเสียด้วยซ้ำ อยากจะดูแลแต่คนอื่น ดูแลคนอื่นให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ โอคามิจึงคิดว่าตัวเองเหมาะสมกับผู้หญิงที่อ่อนแอ และ ต้องการคนดูแลเสียมากกว่า แต่โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลยว่า ในความที่ช่วยเหลือคนอื่นของตัวเอง โดยไม่ได้ดูแลตัวเองเลยแม้แต่น้อยก็ควรจะมีผู้ชายเข้ามาดูแลด้วยเสียบ้างและตัวเองก็เหมาะกับการถูกดูแลเช่นกันขนาดไหน ใบหน้าที่เฉยชาตลอดเวลานั้นน่ะ ถ้าให้ทำหันมายิ้มได้ มันจะน่าดึงดูดขนาดไหน เจ้าตัวไม่ได้รู้ตัวเลยว่า แม้เจ้าตัวจะห้าวหาญเกินผู้หญิงคนอื่น แต่มันก็คือเสน่ห์ทำให้ดึงดูดคนอื่นตั้งมากมายโดยที่มิคาสึกิ โอคามิเองไม่ได้รู้ตัวเลยว่า เสน่ห์ที่ดึงดูดที่สุดที่ผู้ชายมองเธอคือความเฉยชาที่เธอมีให้พวกเขา การทำเป็นไม่สนใจ มันคือเสน่ห์ที่ชวนดึงดูดดีเสน่ห์หนึ่งก็ว่าได้ 

         มิคาสึกิ โอคามิ รักเพื่อนและหวงเพื่อนของตัวเองเอามาก ๆ เป็นคนที่ไม่อยากเห็นเพื่อนสนิทไปสนิทกับใครมากกว่าตัวเองอย่างเห็นได้ชัด ไม่ชอบที่จะถูกทิ้งให้มองเพื่อนตัวเองห่าง ๆ หรอก เธอเป็นคนที่รักเพื่อนมาก และ เป็นคนที่รักษาเพื่อนของตัวเองไว้ได้เสมอ ไม่ชอบที่จะทะเลาะ มองเพื่อนมาเป็นอันดับสาม รองลงมากตัวเองและครอบครัวก็ว่าได้ ทุกสิ่งทุกอย่างโอคามิมักจะพูดขอโทษก่อนเสมอ แม้ว่าสิ่งที่เธอจะทำไม่ได้ผิดเลยแม้แต่น้อย แต่ก็พร้อมที่จะขอโทษ ยอมโอนอ่อนให้กับคนที่สนิท ยอมตามใจในแบบที่ไม่เคยเป็นแค่สนิทก็แค่นั้นเองค่ะ ถ้าสนิท โอคามิพร้อมจะยอมโอนอ่อนให้เพื่อนของเธอในทุกเรื่อง 

         โอคามิมีนิสัยปลอบคนไม่เก่ง และ ปลอบคนไม่เป็น โดยปกติมีอะไรตรงๆก็พูดไปเลยไม่ได้มาสนใจเรื่องของความรู้สึกของผู้ฟังในหลายครั้ง ทำให้โอคามิเป็นคนที่ปลอบใครไม่เป็น แต่เป็นประเภทแพ้น้ำตาคนอื่น การเห็นคนอื่นร้องไห้ ทำให้โอคามิไปไม่เป็นในหลายเรื่อง ชนิดที่ว่าแม้พยายามจะปลอบยังไงก็เหมือนยิ่งปลอบอีกฝ่ายยิ่งร้องเสียอีก มิคาสึกิ โอคามิ ไม่ชอบน้ำตา เห็นแล้วทำอะไรไม่ถูกไปไม่เป็นกันเลยทีเดียวก็ว่าได้ โอคามิจึงไม่ชอบคนที่เอาแต่ร้องไห้เสียเท่าไร เพราะ แพ้ทางคนประเภทนี้อย่างรุนแรง โอคามินั่นหนาให้คำปรึกษาใครไม่เก่ง และ ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นที่ปรึกษาใครได้ดีด้วยซ้ำ ไม่เหมาะแก่การถามความเห็นในเรื่องเล็กน้อย เพราะเป็นประเภทที่ไม่ได้สนใจเรื่องเล็กน้อยเลยก็ว่าได้ ให้คำปรึกษาและให้กำลังใจใครไม่เก่งนัก ปกติก็ยึดตัวเองเอาไว้ ไม่ค่อยได้พูดแสดงความรู้สึกกับใคร

         ภาพที่ทุกคนเธอคือบุคคลที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่ง จิตใจนับได้ว่าเป็นคนที่จิตใจค่อนข้างจะมั่นคงและเข้มแข็ง ไม่ได้หวั่นไหวและทำตัวให้ตัวเองดูอ่อนแอ เป็นคนที่ดูแลตัวเองได้นั้นคือสิ่งที่โอคามิพยายามจะบอกกับทุกคนที่รู้จักตัวเธอ โอคามิไม่อยากเป็นตัวถ่วงใคร หรือ ภาระของใคร ทำให้เป็นบุคคลที่ชอบฝืนตัวเอง ว่าตัวเองยังไหวทั้งๆที่บางที ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประดังประเดเข้ามาในชีวิตก็แทบจะทำให้รู้สึกว่าตัวเองตกที่นั่งลำบากแค่ไหน ก็จะไม่ยอมให้ใครรู้สึกมาสงสาร ไม่อยากถูกมองว่าเป็นคนที่พึ่งพาไม่ได้ ต้องสร้างทุกสิ่งทุกอย่างมาให้ทุกคนเห็นว่า เฮ้ ฉันเข้มแข็งพอนะ และ ไม่เคยจะระบายความรู้สึกที่เรียกว่าเสียใจ และ จะร้องไห้ออกมาเลยแม้แต่น้อย ไม่ต้องการให้มารู้สึกสงสาร โอคามิไม่ค่อยได้เจอเรื่องที่ทำให้เสียใจ แต่ก็ไม่ใช่ไม่เคยเจอ เพียงแต่มันคือความเสียใจเล็กๆเจ้าตัวจึงคิดว่าคงไม่มีใครมาต้องการรับฟังและนอกจากนี้มันไม่ใช่เรื่องที่จะเอาไประบายให้ใครฟัง ทัศนคติเช่นนี้ ทำให้กลายเป็นการสะสมความเสียใจ และความเสียใจเหล่านั้นกำลังรอที่จะกลั่นออกมาเป็นน้ำตา

         โอคามิอ่อนแอสุดคือตอนที่ตัวเองป่วยก็เท่านั้นแหล่ะ แข็งแรงมากป่วยที จึงป่วยแบบไข้หวัดใหญ่กันเลยทีเดียว เป็นคนที่ตอนป่วยจะอ่อนแอมาก ตัวร้อน ๆ ใบหน้าแดง ๆ จากพิษไข้ หายใจอย่างยากลำบากไปบ้าง เป็นบุคคลที่ไม่เคยชอบเวลาที่ตัวเองป่วยเลยแม้แต่น้อย โอคามิรู้สึกว่าเวลาที่ตัวเธอป่วย หัวสมองของเธอมันจะขาวโพลน ไม่มีความคิดใดอยู่ในหัวของเธอเลยแม้แต่น้อยนิด ความรู้สึกของการป่วยไม่ใช่สิ่งที่โอคามิรู้สึกพิศวาทกลับกันก็ไม่ได้พึงปราถนา และ ไม่มีวันต้องการ เพราะรู้สึกว่าร่างทั้งร่างแค่จะมีแรงลุกขึ้นมาเดินก็ยังรู้สึกว่ามันลำบากเกินไปเสียด้วยซ้ำ ป่วยทีแค่จะลุกยืนยังรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะหกล้มอย่างบอกไม่ถูก

    ประวัติ  ::     ประวัติของมิคาสึกิ  โอคามิจะเรียกได้ว่านับว่าไม่มีอะไรมากมาย เป็นคนที่แทบจะเรียกได้ว่าชีวิตค่อนข้างราบเรียบ ค่อนข้างจะมีความสุขกับชีวิตดีคนหนึ่ง ครอบครัวไม่ได้มีอะไรแตกแยก โอคามิเกิดในครอบครัวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นครอบครัวที่ดีครอบครัวหนึ่งของสังคม ตั้งแต่เด็กโอคามิดูแลตัวเองได้ไม่เหมือนกับเด็กผู้หญิงคนอื่น ทั้งพ่อและแม่ของเธอจึงไม่ค่อยจะเป็นห่วงอะไรในตัวของลูกสาวคนเล็กของบ้านที่มีลูกชายหนึ่งและลูกสาวสองคนสักเท่าไร ตั้งแต่เด็กโอคามิมักจะไปโรงเรียนคนเดียวได้โดยที่พ่อแม่ไม่ต้องไปส่ง กลับบ้านตอนดึกเองก็ได้ เรียกได้ว่าเรื่องพื้นฐานการใช้ชีวิตสะสมมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆเลยก็ว่าได้

         โอคามิมีเพื่อนสนิททั้งหญิงกับชาย อย่างละคน เธอมีไลฟ์สไตล์คลับคล้ายเพื่อนชายของเธอคือการเล่นบาสหลังเลิกเรียนทุกเย็น ๆ ในสมัยม.ต้น และเพราะการสนิทกับเพื่อนผู้ชายมากทำให้มีนิสัยบางอย่างของผู้ชายติดมาด้วย คือความห้าวหาญ ความกล้าแสดงออก ความขวานผ่าซาก ความตรงไปตรงมา ความไม่เสแสร้งและไร้จริตแบบผู้หญิงทั่วไป และมีความเจ้าเล่ห์ในแบบของผู้ชายติดมาด้วย เรียกได้ว่านิสัยของโอคามิแทบจะถอดแบบมาจากเพื่อนชายของเธอ บางทีก็เคยโดนเพื่อนผู้หญิงอีกคนในสมัยม.ต้น เคยแซวว่า ตัวเธอดูแมนกว่าเพื่อนชายเสียอีก ถามว่าคิดเช่นไร มันก็ตลกดี

         มิคาสึกิ โอคามิเปรียบผู้พิทักษ์เพื่อนสาวของตนเอง ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนขี้อาย ขี้กลัว แต่นิสัยดี เป็นคนเรียนเก่ง และยังโดดเด่น พวกผู้ชายทุกคนมักจะชอบเพื่อนของเธอ แต่เพื่อนของเธอก็ชอบขอให้ตัวของโอคามิช่วยขับไล่พวกเหล่านั้นออกไป โอคามิทำแบบนี้จนกลายเป็นงานประจำ ทุกคนล้วนมองโอคามิเหมือนเจ้าชายที่คอยปกป้องเจ้าหญิงคนนั้นอย่างง่ายดาย

         โอคามิหลงรักเพื่อนสาวของตัวเองโดยที่แทบไม่รู้ตัว แม้จะชอบหยอดมุขใส่จีบเล่น ๆ ตอบรับกระแสแรงแซวไปก็แค่นั้น.... แต่โอคามิกลับเริ่มนับวันถลำลึกไปกับคำแซวมากมายของเหล่าเพื่อน ๆ ของตัวเองเสียได้ การจีบเพื่อนสาวแบบเงียบ ๆ มันเริ่มโดยไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกที ยิ่งคำพูดหวาน ๆ คำพูดหยอก ๆ คำพูดล้อเล่นที่พูดต่อกัน คำพูดล้อเล่นที่พูดกันออกมา เป็นแค่เรื่องแกล้งกันตามภาษาของเพื่อนสนิท จนกระทั่งในที่สุดก็ได้ค้นพบความหมายของมันว่า มันคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า ความรัก เกิดขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ในคราแรกก็ไม่กล้าเรียกมันว่าความรักหรอก ถ้าเรียกไปมันก็คงจะดูเห็นแก่ตัวเกินไปบ้าง

         เพื่อนชายเพียงคนเดียวก็สารภาพรักเข้ามาอีก โอคามิคิดว่ามันอาจเป็นแค่การเล่นตลกของเพื่อน ทำให้เธอหัวเราะและตบบ่าของอีกฝ่ายพลางพูดว่า "ล้อเล่นได้โคตรตลกเลยอ่ะ" สายตาที่เหมือนจะจริงจังของฝ่ายชายเปลี่ยนไป มันแปรเปลี่ยนและสะท้อนสิ่งที่โอคามิไม่รู้ว่าสิ่งที่เพื่อนผู้ชายเพียงคนเดียวต้องการจะบอกคือ เขาชอบเธอ และ เธอก็ทำให้เขาต้องพยายามหัวเราะแล้วก็เกาหัวพลางต้องพูดไปว่า "น่าเสียดายจัง รู้ซะได้" และในตอนนี้เพื่อนของเธอก็ยังคงชอบเธออยู่เสมอและโอคามิก็ไม่เคยรู้มาตลอด

         เขาอยู่เคียงข้างเธอมาตลอด แต่เธอไม่ได้มองเห็นเขา เธอมองไปยังผู้หญิง เธอเป็นธรรมชาติ หัวเราะสนุกสนาน หยอกเย้ากับพวกเธออย่างตลกขบขัน แต่เธอกลับเฉยชากับผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด

         โอคามิสอบเข้าโรงเรียนม.ปลายคนละที่กับเพื่อนสาว  และอยู่โรงเรียนม.ปลายเดียวกับเพื่อนหนุ่ม ชีวิตม.ปลายทุ่มเทให้กับการเล่นบาสเอาเสียมาก โอคามิถูกชักชวนให้ร่วมเล่นเป็นนักกีฬาบาสหญิงเยาวชนอีกด้วย ก่อนมันจะกลายเป็นอดีตเมื่อเริ่มรู้สึกเบื่อกับการเล่นบาสขึ้นมา.... เบื่อที่ว่าก็คือเพราะทุกคนในทีมดูไม่ค่อยสนใจที่จะซ้อม ไม่ได้สนใจที่จะตั้งใจแข่งเลยแม้แต่น้อย โอคามิลาออกมาและเตรียมตัวอ่านหนังสือเข้าสอบมหาลัยอย่างแน่วแน่มากขึ้น

         เมื่อขึ้นมหาลัยได้ปีแรก 

    "โอคามิ"

    "ว่าอะไร ฮิเดะ"

    "จำตอนนั้นได้ไหม ตอนม.ต้น"

    ...

    "ที่ฉันบอกว่าชอบ"

    "ตอนนี้ฉันยังชอบอยู่นะ"

    "ล้อเล่นแบบนี้ไม่ตลกนะ"

    "มันคือความจริง"

    สายตาที่แน่วแน่กำลังจ้องมองมาอย่างไม่หยุดหย่อน

    ...

    "เกือบ 7 ปี"

    "นายรู้หรือยัง..."

    "ว่าฉันชอบผู้หญิง"

    "เธอสินะ?"

    คำถามถูกตอบกลับด้วยการพยักหน้า

    ...

    "ก็ช่างสิ"

    "ฉันชอบมาตลอด 7 ปี"

    "แค่ชอบตลอดไปก็พอ"

    ...

     

    ชอบ  ::

    - ผู้หญิงเรียบร้อย [ รู้สึกชื่นชม ดวงตาดูเป็นประกายเมื่อเห็นพวกเธอ ]

    - การกิน [ ไม่ค่อยสนใจต่อโลก หรือ สนใจอะไรนอกจากของกินตรงหน้า ]

    - ซุปอุ่น ๆ ร้อน ๆ [ ค่อนข้างจะแสดงสีหน้าพอใจออกมา ]

    - เล่นกีฬา [ ชอบที่จะยิ้มออกมาน้อย ๆ เสมอ แต่ก็ยิ้มเพียงแค่แวบเดียว ]

    ไม่ชอบ ::

    - ของกินที่เย็นจัด [ ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมาก ก็ทำท่าทีเฉยๆ ไม่ได้สนใจอะไร ]

    - เครื่องประดับ [ มีท่าทีรำคาญเล็กน้อย ]
    - เครื่องสำอาง [ ทำหน้าแบบทั้งรำคาญและออกแนวไม่ต้องการขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ]

    - ฝน [ ชื้นแฉะและเปียก ทำให้ชอบทำหน้าหงุดหงิดออกมา ]

    แพ้/กลัว ::

    แพ้ - น้ำตาคนอื่น [ เห็นน้ำตาแล้วทำตัวไม่ถูก ลุกลี้ลุกลนมาก ]

    กลัว - น้ำลึก [ เป็นบุคคลที่ว่ายน้ำไม่เป็นนั่นเองค่ะ...เก่งกีฬาแต่ว่ายน้ำไม่เป็น #ร้อง ]

    เพิ่มเติม ::

    เพิ่มเติมหลัก (?)

         [ ลักษณะคำพูดคำจา ] - น้ำเสียงติดเรียบนิ่ง มักจะพูดด้วยไม่ผ่านการปรุงแต่งคำพูดตัวเองให้ดูสวยหรูอะไรเสียเท่าไรนัก คำพูดคำจามักจะดูห้วน ๆ ไม่ค่อยได้สนใจผู้สนทนา มีนิสัยจ้องตาคู่สนทนา มักจะแทนตัวเองว่า "ฉัน" และแทนคนอื่นๆ ว่า "นาย" สำหรับผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด ( ทั้งนี้ยกเว้นพ่อที่จะแทนว่าพ่อ ยกเว้นพวกที่อายุมากกว่า 40 ขึ้นไปซึ่งจะแทนว่าลุงหมดอย่างเลี่ยงไม่ได้) แต่ถ้าจะแทนกับผู้หญิงจะใช้คำว่า "คุณ"เสมอเลยล่ะค่ะ ทั้งนี้เองอืมมีความลำเอียงในการปฏิบัตินิดๆ.... ไม่ชอบลงท้ายหางเสียงอย่างเห็นได้ชัด

         [ ลักษณะการแต่งกาย ] - เป็นคนที่ชอบแต่งตัวสบาย ๆ ใส่เสื้อยืดสีขาวและมักจะสวมเสื้อกันหนาวสีดำทับไว้เสมอ ชอบสวมกางเกงมากกว่ากระโปรง สวมรองเท้าผ้าใบ ตามปกติ

         [ ชีวิตการศึกษา ] - การศึกษาของเธอมีความเด่นชัดในด้านของพละ และ อ่อนในวิชาคณิตศาสตร์และประวัติศาสตร์ เกรดเฉลี่ยจากที่เรียนมานับว่าพอดูดี ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.23 คือเกรดเฉลี่ยที่ต่ำที่สุดในชีวิตของเจ้าตัวเอง และ เกรดสูงที่สุดคือเกรด 3.58 ซึ่งเจ้าตัวจะค่อนข้างพอใจกับเกรดมากพอสมควร

         [ ความรัก ] - แอบชอบเพื่อนสาวของตัวเอง และ มีเพื่อนหนุ่มมาหลงรัก โดยที่ยังซื่อบื้อไม่รู้เรื่อง แม้อีกฝ่ายจะสารภาพรักกับเธอ แต่ทั้งสองก็ยังเป็นเพื่อนรักกันดี ชอบไปเต๊าะผู้หญิงอยู่บ่อย ๆ ชอบที่จะหยอกเย้ากับผู้หญิงในคณะเดียวกันเอง

         [ ครอบครัว ] - ครอบครัวมิคาสึกิ เป็นครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมาก แต่ก็มีอันจะกิน มิคาสึกิ โอคามิ มี่พี่น้องร่วมกันสามคน พ่อของเธอคือ 'มิคาสึกิ โทวยะ' เป็นนักบินซึ่งนานๆทีจะกลับมาจากเมืองนอกพร้อมของฝากมากมาย แม่ของเธอ 'มิคาสึกิ โยเนรุ' มีอาชีพเป็นช่างภาพทำงานให้กับสำนักพิมพ์ ทั้งยังมีพี่ชายคนโตมีดีกรีเป็น นายแพทย์ไปประดับอย่างสวยงาม 'มิคาสึกิ เคนตะ' และพี่สาวผู้กำลังเรียนศึกษาเรื่องจิตวิทยา 'มิคาสึกิ ริเสะ' พี่น้องมีอายุห่างกันดังนี้ 27-23-21

         [ มิตรสหาย ] - เพื่อนสาวที่แม้จะไม่ได้เรียนโรงเรียนเดียวกันแล้ว แต่ยังคงติดต่อกันทางมือถือตลอดเธอชื่อว่า 'โฮชิโนะ นานาเสะ' ส่วนคุณเพื่อนชายเขาชื่อว่า 'เฮียวโด ฮิเดอากิ'

    เพิ่มเติมแยกย่อย

     

    • เธอเป็นคนราศีสิงห์
    • หญิงสาวเกิดวันที่ 8 สิงหาคม 
    • เธอเป็นหญิงสาวกรุ๊ป B
    • ถนัดมือซ้ายมากกว่ามือขวา
    • ไม่ได้เล่นแค่บาสได้ ฟุตบอลก็ได้ เบสบอลก็ได้ 
    • มีความสามารถพิเศษคือใช้นิ้วก้อยหมุนลูกปิงปองได้เกิน 15 วินาที

     

     

     

    บทสัมภาษณ์ลูกสาว 

     

         “สุขสันต์วันคริสมาส” เสียงหนึ่งทักขึ้นเมื่อเธอกำลังเดินอยู่ แม้จะเป็นประโยคทั่วไปในคืนวันคริสมาสแบบนี้ แต่ราวกับมีมนต์ให้เธอหยุดและสนใจเจ้าของเสียงนั่น ภาพที่เธอเห็นคือคุณลุงตัวอ้วนจนพุงแทบจะปลิ้นออกมาจากเสื้อสีแดง จมูกโตๆที่แดงก่ำนั่นทำให้เธอคิดว่าเขาต้องผ่านการดื่มมาอย่างหนักแน่นอน เขามองมาที่เธอแล้วแย้มยิ้มอย่างใจดี

         :: แวบแรกนัยน์ตาที่เฉยชาเหมือนเห็นภาพคนตรงหน้าสะท้อนกับความคิดว่าอีกฝ่ายคือบุคคลที่เรียกว่าซานต้า แต่กระนั้นเมื่อคิดขึ้นได้ว่าอาจเป็นแค่ตาลุงที่แค่เมามากมายแล้วมาพูดอะไรเพ้อ ๆก็ได้

         “เธอเชื่อในปาฏิหาริย์ในวันคริสมาสไหม?” เขาว่าแล้วก็เบนสายตามองไปยังต้นคริสมาสที่ถูกประดับด้วยไฟตกแต่งอย่างสวยงาม ปาฏิหาริย์วันคริสมาสน่ะ มีอยู่จริงนะ

         ::  โอคามิเหลือบไปมองต้นนคริสต์มาสที่ถูกประดับประดาบ้าง พลางคมวดคิ้วกับคำว่าปาฏิหาริย์

         “โฮ่ๆๆ ซานต้าน่ะมีอยู่จริงนะ แล้วเขาก็ฟังคำขอของทุกคนเลย” เขาหัวเราะร่วนกับปฏิกิริยาของเธอ

         ::  "อย่างนั้นเหรอ ลุง?"

         “ถ้าเธอขอพรได้หนึ่งข้อ เธอจะขออะไรล่ะ?”

         ::  พรน่ะมีให้ขอตั้งมากมาย ชีวิตของเธอต้องการอะไรตั้งเยอะตั้งแยะ ทั้งเรื่องของการเรียนให้ผ่านพ้นไปด้วยดี เรื่องของครอบครัว เรื่องเพื่อน เรื่องอนาคต แต่สิ่งที่อยากได้ที่สุด.... โอคามิยกมือขึ้นมาปัดผมสีแดงลวก ๆ "อยากได้เจ้าสาว สวย ๆ หวาน ๆ มีความเป็นกุลสตรี ถ้าให้ดีขอแบบเท็นชิเลยก็ได้ แล้ว ทำอาหารอร่อย แม่บ้านแม่เรือน เย็บผ้าได้"พูดขณะที่หลับตาก่อนจะลืมตาแล้วหันมาทางบุคคลที่คุยด้วย "เข้าใจป่ะ ลุง ถ้าได้มาสักคนนะ ต่อให้พ่อแม่ฝ่ายนู้นไม่ยอม ฉันก็จะลักพาตัวอีกฝ่ายมาให้ได้อ่ะ หนีตามกันไปเลย !"

         “อย่างนั้นเหรอ ฉันจะไปบอกซานต้าให้นะ” เขายิ้มก่อนจะลูบพุงโตๆนั่นอย่างอารมณ์ดี จนเธออดนึกว่าพิลึกคนในใจไม่ได้

         :: เบะปากขึ้นก่อนจะยกมือซ้ายขึ้นปัดกับอากาศ "เอาที่ลุงสบายใจสิ ไม่ห้าม"

         “ยังไงก็สุขสันต์วันคริสมาสนะ ขอให้มีความสุขกับของขวัญของเธอ” หญิงสาวรู้สึกว่ารอยยิ้มของลุงสื้อแดงคนนั้นดูมีอะไรชอบกล แต่เธอก็เลือกที่จะเมินต่อมันไป

         :: โอคามิไม่ได้สนใจเขาก่อนจะตอบไป "เมอร์รี่คริสต์มาส"

     

     

    บทสัมภาษณ์คุณแม่ 

     

    สวัสดีค่ะ J ชื่ออะไรเอ่ย?

    :: ทางนี้ชื่อแมวน้ำนะคะ สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักน้าาา

    ทำไมถึงมาสมัครเรื่องนี้เหรอ? (คำถามยอดฮิตไปแล้ว 555)

    :: ใกล้คริสต์มาสแล้วค่ะ 555555555 อืม หลงผ่านมาพอดี อ่านพล็อต อ่านบทแล้วถูกใจค่ะ ฮาาา คือทางนี้ชอบปั่นทอมมากเลยค่ะ 

    รู้ใช่ไหมว่าไรต์จะแต่งแบบ One shot อาจจะมีตอนเดียวหรือสองตอนนะคะ รับได้ใช่ไหม?

    ::  ทางนี้โอเคค่ะ 

    ถ้าไม่ติดอย่าโกรธไรต์น๊าTT

    ::  เราจะไม่โกรธกันค่ะ สาบาน----- แต่เราอาจปาต้นสนไป #ผิด

    ขอบคุณที่มาสมัครนะคะ แล้วก็สุขสันต์วันคริสมาส J

     

    ::  สุขสันต์วันคริสต์มาสเช่นกันนะคะ !


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×