ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    STORY OF } PLuT♡ *CLose

    ลำดับตอนที่ #14 : [1] w a l k o v e r .

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ย. 66


    application


     


     

    "โลกใบนี้โหดร้ายนะคะ แต่ถึงแบบนั้น

    ฉันก็หวังว่าโลกนี้จะสวยงามขึ้นมาบ้าง

    อย่างน้อยๆนิดนึง...ก็ยังดีค่ะ"


     

     

    บทที่ต้องการ : [6] Raptor's Fiancee


     

    ชื่อ TH | ENG : ไอร์ม่า อดิเลเน่ ลอเรนโซ่ || Irma Adilene Laurenco
     

         ▪Irma - เทพธิดาแห่งสงคราม

         ▪Adilene - ชนชั้นสูง

         ▪Laurenco - พวงมาลัย

         || Irma Adilene Laurenco - "พวงมาลัยที่เหล่าชนชั้นสูงถวายบูชาเกียรติของเทพธิดาแห่งสงคราม"


    โค้ดเนม TH | ENG : อาซาเลีย | Azalia

     

    แก๊ง | ทีม : Dinosaur Mafia

     

    อายุ : 22

     

    ชั้นปี : 4

     

    ส่วนสูง / น้ำหนัก :164.5 / 50.1

     

    วันเกิด : 3 september

     

    กรุ๊ปเลือด :A

     

    รูปร่างหน้าตา :

         ไอร์ม่านั้นเหมือนกับเจ้าหญิงในนิทานปรัมปรา ทั้งใบหน้าสวยหวานอ่อนเยาว์กว่าวัยยี่สิบสอง เธอมีแววตาสีฟ้าสดใสแซมสีม่วงสวยเป็นประกายที่สะท้อนภาพของผู้สบตาผ่านแววตาเธอออกมา เธอมีเรือนหน้าหวาน ทั้งจมูกได้รูป ริมฝีปากบางสีส้มอ่อนรับเข้ากับแก้มที่มีสีหวานระเรื่อ บางครั้งที่มุมปากจะเปื้อนฟองนมจากลาเต้ร้อนของโปรด เธอมีเรือนผิวสีไข่ไก่ ผิวเนียวนวลไร้ร่องรอยการถลอกฟกช้ำเลยแม้แต่นิด ฝ่ามือที่ไร้ความหยาบกร้าน เล็บที่เรียวยาวตกแต่งด้วยสีฟ้าสีม่วงสลับเหมือนแววตาของตัวเอง

         เส้นผมสีทองมีหน้าม้าปรกหน้าผากยาวหยักศกปล่อยให้สยายเป็นลอนคลื่น บางครั้งก็อาจมัดรวบขึ้นเป็นหางม้าเมื่อต้องทำกิจกรรมใดๆที่การปล่อยผมนั้นจะทำให้ไม่สะดวก เส้นผมของเธอมีน้ำหนักไม่ชี้ฟู และมีกลิ่นหอมอ่อนจางๆของแชมพูและกลิ่นของกาแฟติดมาด้วย (ซึ่งไอร์ม่าก็ยอมรับนะว่ากลิ่นกาแฟที่ได้กลิ่นมันก็เป็นกลิ่นของน้ำหอมอย่าง Black Opium Yves Saint Laurent ไม่ใช่การกินกาแฟจนกลิ่นติดเสียหน่อย...)

         สไตล์การแต่งตัวของไอร์ม่านั้นจะเรียกได้ว่าไม่ได้ สวยโดดเด่นอะไรมากมายนัก เธอไม่ได้สวมชุดเดรสสวยงามอยู่ในทุกวัน ผมถูกรวบขึ้นเป็นหางม้า เธอสวมใส่อะไรที่แสนสบายๆ เช่น เสื้อสเวตเตอร์สีอ่อนมีปก คู่กับกระโปรงสีเข้มยาวเหนือเข่าเพียงเล็กน้อย ที่ใบหูสวมจิวเล็กๆ พร้อมติดกระเป๋าสะพายข้างที่ใส่ข้าวของไปไหนมาไหนเสมอ และรองเท้าผ้าใบสบายๆคู่นึง กับการแต่งหน้าบางๆจนทำให้ไม่ได้สวยโดดเด่นจากฝูงชนใดๆ หากแต่กลบกลืนไปกับคนอื่นๆ กระนั้นเสน่ห์จากรอยยิ้มของเธอก็ครองใจคนอื่นโดยที่เธอไม่จำเป็นจะต้องแต่งตัวให้สวยงามใดๆเลย และลุคของเธอจึงดูสวยหวานแบบสบายๆมากกว่าจะเป็นความหรูหรา ( ex 1 2 3 4 5 )

         แต่เมื่อหากจับเธอแต่งตัวเพื่อออกงานอะไรสักงานนึง... ไอร์ม่าก็มีความสวยงาม สวยหวานแบบเจ้าหญิงในเทพนิยายปรัมปราคนนึง หากเป็นงานใหญ่ที่ต้องพบปะผู้คนมากมาย เธอจะสวมใส่ชุดเดรสราตรีเปิดไหล่ สีโทนอ่อน เช่น ครีม ฟ้าอ่อน ชมพูอ่อน พร้อมกระเป๋าถือ เท้าของเธอจะสวมส้นสูงหรือคัทชูที่เข้ากับชุด (ซึ่งไอร์ม่ากล้ายอมรับว่าเธอชอบส้นสูงมากกว่าคัทชู) ทั้งสวมใส่เครื่องประดับที่ทำให้ตัวเธอโดดเด่นขึ้นมา และใบหน้าที่แต่งหน้าเติมสีสันมากกว่าปกติทำให้เธอสวยหวานจนคนอื่นต้องชายตามองตา อีกทั้งปล่อยเส้นผมสีทองให้ยาวสยายไป (ex' - 12 -3 - 4 - 5 - 6 )



     

    ลักษณะการพูด : 

         น้ำเสียงหวานฟังดูละมุนละไม เสนาะหู ทำให้ผู้อื่นประทับใจ อีกทั้งรอยยิ้มที่แย้มยิ้มออกมาระหว่างสนทนา การวางตัวมันยิ่งทำให้คำพูดของเธอน่าฟังขึ้นเอาเสียมาก คำพูดที่ใช้ดูทั้งเป็นกันเองเข้ากับกาลเทศะในสถานการณ์ต่างๆ ดูไม่กดหัวใครต่อใครด้วย เธอมักจะใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า "ฉัน" กับคนอายุมากกว่าอาจใช้คำว่า "หนู" แต่บางครั้งก็มักไม่ชอบใช้สรรพนามแทนตัวเองเท่าไร เลี่ยงไม่พูดแทนตัวเองมากกว่า มักจะแทนคนอื่นๆว่า "คุณ (นามสกุล)" แต่ถ้าหากสนิทรู้จักกันในระดับนึง อาจเรียก "ชื่อจริง" หรือ "ชื่อที่อีกฝ่ายอยากให้เรียก" มักจะลงท้ายหางเสียงอยู่เสมอๆ


    Ex. 1 ; เต็มใจที่จะช่วยเหลือ

         "ทำไมทำหน้าแบบนั้นกันคะ มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าเอ่ย?"

         ไอร์ม่าส่งรอยยิ้มหวานออกไปให้หลังเห็นอีกฝ่ายจดจ้องมองเธอมาสักพักแล้ว สายตาของเธอมองไปที่เด็กสาวรุ่นเดียวกันที่กำลังกอดสมุดของเธอเอาไว้อยู่ ท่าทางของเด็กสาวนั้นดูประหม่า 

         "ถ้าไม่รังเกียจอะไรก็..มาอ่านหนังสือด้วยกันไหมคะ?"

         "ขอบคุณ.."

         อีกฝ่ายว่าแล้วค่อยๆเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างๆเธอ ไอร์ม่ายิ้มบางคล้ายเอ็นดู

         "ถ้ามีตรงไหนไม่เข้าใจ บอกฉันได้นะคะ ไม่ต้องเกรงใจนะ"


    Ex 2 ; ได้ทำในสิ่งที่ชอบ

         "ตรงนี้...แบบนี้"

         ไอร์ม่าพึมพำเพียงคนเดียวระหว่างการถักไหมพรมไปมา ขณะใช้สมาธิอยู่กับมัน

         "โอเค แบบนี้แหละ"

         มือของเธอยังคงขยับถัก สายตาจดจ้องอยู่ที่ไหมพรมเหมือนเดิม

         "เรียบร้อย เสร็จแล้ว!"


    Ex 3 ; เขินอายจากคำชมต่างๆ

         "ไอร์ม่านี่เก่งจังเลย"

         "ทำดีมากอ่ะ โห น่าอิจฉา"

         "ถ้าเก่งได้สักเสี้ยวนึงของเธอนะ"

         ไอร์ม่าเม้มปากขึ้นมา หน้าขึ้นริ้วสีแดงจางๆมือของเธอยกขึ้นมาโบกปัดไปกับอากาศ

         "ไม่หรอกค่ะ ทุกคนก็เก่งนะ"


    Ex 4 ; โกรธ

         "คุณควรถอนคำพูดนะคะ"

         "โห ซีเรียสทำไมอ่ะ ไอร์ม่า ใครๆเขาก็แซวดาราคนนี้กันทั้งนั้นแหละ"อีกฝ่ายว่าแล้วทำมันเหมือนเป็นเรื่องปกติ 

         "ทำไมเราต้องมองการบูลลี่คนอื่นเป็นเรื่องปกติกันด้วยคะ มันไม่เห็นจะดีเลย"

         "ใครๆก็ทำกันนี่ อีกอย่างมันเป็นสิทธิ์ของเราที่จะวิจารณ์ไม่ใช่เหรอ"

         "ใช้สิทธิ์ในเรื่องที่ควรใช้ อย่ามาใช้สิทธิ์ในการทำร้ายคนอื่นดีกว่านะคะ"

         "โห จ้า แม่คนดี ทำยังกะฉันไปเผาบ้านเธองั้นแหละ"

         "ถอนคำพูดของคุณเดี๋ยวนี้ค่ะ"

         "แล้วไง?"

         "ก็บอกให้ถอนคำพูดค่ะ"

         เธอโกรธ โกรธมากกับความไร้สำนึก


    Ex 5 ; เสียใจจนร้องไห้

         "หนูเกลียดพี่"

         คำนั้นมันวนอยู่ในหัวของเธอ

         "เกลียด เกลียดพี่ที่สุด ไปให้พ้นๆเลยนะ"


         แล้วเธอทำอะไรได้...เธอพูดอะไรไม่ออก แม้แต่เสียงร้องไห้ก็ไม่มี ไอร์ม่าทำได้แค่ปล่อยให้น้ำตามันค่อยๆไหลจากขอบตาลงไปเท่านั้นเอง


     

    อุปนิสัย :

         รอยยิ้มหวานที่นุ่มนวลสร้างมิตรไมตรี คงเป็นสิ่งที่ทำให้เธอมีเสน่ห์ที่สุดในโลกใบนี้ได้อย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆได้ เธอมักพกพารอยยิ้มเหล่านั้นทักทายคนอื่นก่อนเสมอ และรอยยิ้มที่หวานนุ่มนวลแบบนั้นก็ทำให้ใครๆต่างเผลอยิ้มตามเธอออกมาเมื่อเห็นเธอยิ้ม ถ้าจะเรียกว่าเป็นความสามารถพิเศษเธอก็ไม่ขัดหรอก เพราะมันก็เป็นเรื่องวิเศษจริงๆการทำให้ใครสักคนยิ้มตามเราได้น่ะ เป็นคนสวยหวาน มีลุค ท่าทาง มารยาท การแสดงออก คำพูดคำจาดูหวาน จนน่าประทับใจ และใช่ เธอทำให้คนอื่นๆประทับใจได้ตั้งแต่แรกเห็นเพราะท่าทางของตัวเอง


         เป็นคนใจดี และ เป็นมิตรต่อทั้งคน สัตว์ รวมไปทั้งสิ่งแวดล้อมรอบตัว เธอมักจะมีท่าทางเอ็นดูสัตว์ตัวเล็กๆและมีทางทางสงสารเมตตาสัตว์ที่ถูกทำร้ายโดยมนุษย์ บ่อยครั้งจะเห็นไอร์ม่าคุยกับสัตว์จนดูเหมือนพูดคุยกันรู้เรื่อง แต่จริงๆก็ไม่ได้รู้เรื่องหรอกนะ ด้วยความเป็นมิตร และ ความใจดีต่อผู้อื่น ทำให้เธอชอบยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนกว่าตัวเองเสมอ มีนิสัยชอบช่วยเหลือ ไม่ว่าจะทั้งการกระทำ คำพูดหรือจิตใจ ของเธอก็แสดงออกว่าเธอเต็มใจช่วยเหลือ แต่ถ้าใจดีเกินไปมันก็ทำให้เดือดร้อนเหมือนกัน ดังนั้นไม่ใช่ว่าไอร์ม่าจะใจดีไปเสียหมด เธอก็คิดเหมือนกันว่าหากช่วยแล้ว จะไม่เป็นผลเดือดร้อนกับตัวเอง ทั้งนี้ยังรักสิ่งแวดล้อม ชอบปลูกต้นไม้ ชอบดูแลรักษาโลก และพยายามอนุรักษ์โลก


         แม่ศรีเรือน กุลสตรีเพียบพร้อม เรียบร้อย ท่าทางทุกอย่างดูนุ่มนวลไปหมด เป็นคนทำอะไรช้าๆจนเรียกได้ว่าเชื่องช้าก็ไม่ผิดนัก ทำทุกอย่างด้วยความใจเย็น และละเอียดรอบคอบ เธอจะค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่รีบร้อนในสิ่งที่ทำ งานเย็บปักถักร้อยจะค่อยๆไล่เก็บรายละเอียดเล็กๆจนออกมาปราณีตเป็นชิ้นเป็นอัน แม้จะใช้เวลานานก็ตาม หญิงสาวมีรสมือในการทำอาหารที่อร่อย ไม่ได้ทำแบบขอไปที แต่ทำแล้วมักจะถูกปากหลายๆคน เพียงแค่คุณบอกว่าคุณชอบรสไหนมาก รสไหนน้อย เธอก็จะจัดการให้อย่างเต็มใจ จะเรียกได้ว่าใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยของคนอื่นด้วยก็ถูก


         ไม่ใช่คนพูดมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่พูดเลย เรียกได้ว่าพูดแล้วแต่จังหวะด้วยแหละ ถ้าเป็นเรื่องที่ชอบหรือสนใจก็อาจพูดเยอะและทำให้บทสนทนาไหลลื่นไปเรื่อยๆ และเแนส่วนนึงของบทสนทนานั้น เธออาจยิ้มและหัวเราะไปกับความไหลลื่น หากไม่ใช่เรื่องที่ตนชอบหรือสนใจการพูดคุยก็อาจไม่ได้ไหลลื่น อาจอึกอักเล็กน้อย แต่เธอก็จะพยายามไม่สร้างความลำบากใจในระหว่างการพูดคุย เธอดูเป็นหญิงสาวที่เข้าสังคม มีความเป็นกันเอง ไม่ถือตัว และมันทำให้ใครๆก็อยากเป็นเพื่อนของเธอ กระนั้นไอร์ม่าไม่ได้เป็นเพื่อนกับทุกคน และไม่ได้เป็นเพื่อนกับใครก็ได้ เพราะนิสัยของเธอคือมีความไว้ใจคนยาก ไม่ได้เชื่อคนง่ายแต่อย่างใด


         เป็นคนฉลาด เรียนเก่ง และขยันขันแข็งในการทำงาน เธอมักจะยิ้มรับต่องานที่ต้องทำ และสนุกไปกับมันไม่ได้ซีเรียสอะไร แต่ก็ไม่ได้ละเลย ด้วยความเป็นทั้งคนใจเย็น และละเอียดรอบคอบทำให้เธอมักจะเก็บรายละเอียดสำคัญๆในการเรียนเสมอ เธอเป็นคนชอบจดบันทึก ไอร์ม่าชอบจดสิ่งต่างๆลงในสมุด ในสมุดของเธอจึงมีปากกาหลากหลายสีขีดเขียนเน้นข้อความเอาไว้ อีกทั้งไอร์ม่ายังเป็นคนลายมือสวย เป็นระเบียบอีกด้วย สมุดที่จดเรียบร้อย เนื้อกระดาษสะอาดสะอ้านบ่งบอกถึงความเป็นคนรักความสะอาดแฝงอยู่เป็นนัยๆ


         โดยปกติเป็นกันเองและมีท่าทางสบายๆไม่ถือตัว แต่ในเรื่องของความสะอาดและความเรียบร้อยเธอเป็นคนค่อนข้างเป๊ะ ไม่ยอมให้อะไรรกเป็นเด็ดขาด รักษาความสะอาด และทำทุกอย่างให้เรียบร้อย ขนาดที่ว่าหากคู่กรณีล้างจานไม่สะอาดก็จะหยิบล้างเอง กระนั้นหากเป็นเรื่องของกฎระเบียบ ถ้าไม่ได้ร้ายแรงอะไรก็มีหยวนๆ ยอมๆ ไม่ได้เป๊ะหรือเคร่งกฎเกินไปจนจะมาเอาเรื่องชาวบ้านชาวช่องเขาหรอกนะ แต่หากเป็นเรื่องที่ผิดร้ายแรง เธอก็ไม่เอาไว้เหมือนกัน ผิดก็ต้องว่าตามผิด ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ จึงดูเป็นผู้หญิงที่ยุติธรรมเอาคนนึงเลย


         กล้าพุ่งชนกับสิ่งที่ผิด แต่ไม่ได้พุ่งชนแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ แต่ใช้เหตุผล ความใจเย็น และความรอบคอยค่อยๆชน เธอเป็นคนมีเหตุมีผลไม่ได้งี่เง่าไร้สาระ เป็นคนที่คิดแล้วคิดอีกก่อนจะทำอะไรสักอย่างนึง จึงเรียกได้ว่าการลงมือจะทำอะไรคือคิดมาดีแล้ว เป็นคนมีความเป็นผู้นำที่ดี แต่เธอไม่ชอบการเป็นผู้นำ มักจะคิดว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมคนอื่นได้ จึงชอบการเป็นผู้ตามที่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดมากกว่า ไอร์ม่าเป็นคนแบบนั้น แบบคนที่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเสมอ ไม่เคยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของตัวเอง หน้าที่ต้องมาก่อนอย่างอื่น...เธอสะกดคำนี้ไว้ในหัวเสมอ 


         เข้มแข็งและแข็งแกร่งผิดกับรูปลักษณ์ภายนอก เธอเข้มแข็ง ร้องไห้ยาก และมีจิตใจมั่นคงหนักแน่นมากกว่าจะหวั่นไหวไปกับเรื่องต่างๆที่เข้ามากระทบกระเทือน ไม่เสียน้ำตากับอะไรง่ายๆ เธอไม่ร้องไห้กับคำพูดรุนแรงจากปากคนอื่นกลับกันเธอยืนหยัดและมองจ้องหน้าของอีกฝ่ายด้วยแววตาหนักแน่นไม่ไหวติงใดๆเลยแม้แต่น้อย เธอเป็นคนเข้มแข็งคนนึงเป็นอะไรที่ผิดกับรูปลักษณ์ของตัวเองไม่น้อย อาจเพราะด้วยความที่ปกติลุคและท่าทางเป็นสาวหวานๆธรรมดาๆ ใครจะคิดว่าเธอสามารถปกป้อง ป้องกันตัวเองได้ เธอดูแลตัวเองได้และไม่อยากให้คนอื่นต้องเป็นห่วงตัวเองมากนัก อย่างน้อยเธอก็พอรู้ศิลปะการป้องกันตัวอยู่บ้างเล็กน้อย และ ใช้ปืนได้แม่นระดับนึง


         รักศักดิ์ศรีไม่ชอบการถูกดูถูกไม่ว่าจากใคร และก็ไม่ชอบทั้งโดนกับตัวเองหรือคนอื่นเป็นคนโดน เธอไม่ชอบการถูกเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครและถูกดูถูก เธอถือว่าตัวเองมีศักดิ์ศรีเหมือนกัน มีความเฟมินิตส์เล็กน้อย เป็นคนที่เห็นคุณค่าในตัวเอง และมักจะคิดว่าตัวเองมีค่ามากกว่าจะให้คนอื่นมาดูถูก ทั้งในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์และความเป็นผู้หญิง


         คำสัญญาเป็นเรื่องสำคัญ แม้ไม่ชอบ แต่หากสัญญาแล้วต้องเป็นไปตามสัญญา การที่พูดว่าสัญญาอะไรออกไปแล้วก็จะทำตามที่สัญญาเอาไว้ ปกติจะไม่พูดสัญญาพร่ำไปเรื่อยหรือขอไปที แต่สัญญาอะไรก็จะสัญญาแบบจริงใจ เธอเป็นคนไว้ใจคนยาก และเมื่อเชื่อใจอะไรใครแล้ว ถ้าเขาไม่ซื่อสัตย์คิดทรยศด้วย แม้จะเจ็บแค่ไหน ก็จะเลิกที่จะเชื่อใจเขาแล้วตัดเขาออกไปจากชีวิตทั้งชีวิตอย่างไม่คิดลังเล  ปิดความลับเก่ง สัญญาว่าอะไรที่เป็นความลับจะไม่มีทางหลุดจากปากของเธอ


         เป็นหญิงสาวที่อ่อนโยน แม้จะเข้มแข็ง แต่เนื้อแท้ก็อ่อนโยนจริงๆถ้าเลือกได้ เธอก็อยากให้ทุกคนเข้าหากันด้วยเหตุผลและปราณีปรานอมกันมากกว่าทำร้ายกันและกัน จริงๆเธอเป็นคนไม่ชอบการทะเลาะเบาะแว้ง ไม่ชอบอะไรที่ไม่สงบ เธอชอบบรรยากาศของความสงบ ชอบที่ทุกคนรักและสามัคคีกันมากกว่าการทะเลาะ และเธอก็เชื่อว่าคำพูดที่อ่อนโยนจะทำให้ทุกคนพยายามขึ้นมากกว่า การใช้คำพูดแรงๆที่ทำให้หมดกำลังใจ ทำให้ไอร์ม่าเป็นคนที่พูดถนอมน้ำใจและเห็นใจคนอื่นมากกว่าการพูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจชาวบ้าน


         แท้จริงดูไม่สะทกสะท้าน แต่เธอก็เป็นผู้หญิงที่เขินอายกับคำชมและคำแซวจากคนอื่นเป็นเหมือนกันนะคะ ไอร์ม่าจะเม้มปากเวลาเขินน้อยๆ ท่าทางลุกลี้ลุกลน พร้อมสีแดงบนแก้มจางๆ แถมพูดตะกุกตะกักขึ้นมาเมื่อเขินอายอะไรสักอย่าง ซึ่งเป็นท่าทางที่ชวนเอ็นดูไม่น้อย ไอร์ม่า อดิเลเน่ ลอเรนโซ่ ไม่ร้องไห้กับอะไรง่ายๆ และถึงร้องไห้ออกมาหลายๆครั้งมันออกมาเพียงแค่น้ำตาเท่านั้น แทบไม่มีเสียงร้องออกมาจากริมฝีปากของเธอ และสิ่งที่อ่อนไหวที่สุดของหญิงสาวกลับเป็นเรื่องของสัตว์บนโลกที่ได้รับความเจ็บปวดมากมาย ทั้งจากการทารุณและความโหดร้ายของธรรมชาติ


         ไอร์ม่าเป็นคนโกรธยาก หายนาน กว่าจะหายต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะโดยปกติไม่ค่อยโกรธใครเท่าไรนัก สิ่งที่โกรธคงจะเป็นเพราะเรื่องการที่เรามองเรื่องผิดเป็นเรื่องธรรมชาติ และมองความโหดร้ายของมนุษย์ที่มีต่อสัตว์เป็นเรื่องปกติ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่เธอรับไม่ได้มากๆ


         ไอร์ม่า ไม่คิดเรื่องหัวใจเท่าไรนัก เธอไม่ค่อยเข้าใจความรักแบบหนุ่มสาว และการหมั้นหมายสำหรับเธอ มันคือ "สัญญาของผู้ใหญ่" และใช่ "หน้าที่มันต้องมาก่อนหัวใจเสมอ" เธอจะเอาแต่ใจเพราะความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ เธอไม่สามารถคอดว่าความรักมันจะชนะในทุกสิ่งได้ และเธอเองก็เป็นผู้หญิงใจแข็งที่ไม่ได้รักใครง่ายๆ เป็นคนที่ถูกจีบได้ยาก และไม่ค่อยเปิดรับใครเข้ามาในหัวใจ แต่การจะทำให้เธอรักก็ไม่ยาก ก็แค่ใส่ใจ แค่ใส่ใจจริงๆ อย่างน้อยแค่เป็นห่วงกันบ้างสักครั้งก็ยังดี (และแน่นอนการหยอดเธอมากๆ...มันก็ทำให้เธอเผลอรู้สึกไปเองเพราะคิดว่ามีคนใส่ใจ)  และเมื่อพอรู้สึกอะไรแล้วก็พยายามทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรอยู่ดี และถึงแม้จะเข้มแข็งขนาดไหน แต่หากถูกคนที่รักกอดแล้วลูบหัว ก็เหมือนกำแพงที่ตัวเองสร้างมาทั้งหมดพังลงตรงหน้า

     

    ประวัติ :

         

    |||||


         จริงๆชีวิตของไอร์ม่า อดิเลเน่ ลอเรนโซ่ เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบกว่าคนอื่นๆ มีทั้งต้นทุน หน้าตา ความรัก ความเอ็นดูต่างๆที่พ่อแม่ให้เธอมา เป็นหน้าเป็นตาของครอบครัว สวยงามและโดดเด่นตามแบบฉบับที่พี่สาวคนโตของบ้านควรจะทำ


         ใช่แล้ว คุณฟังไม่ผิดหรอก พี่สาวคนโต


         เธอมีพ่อ มีแม่ และ น้องสาวแท้ๆของตนเองที่หน้าตาคลับคล้ายกับตัวเธอ และทำตัวเป็นเด็กดีที่พ่อแม่มองข้ามมาเสมอ ใช่ ไอร์ม่าเห็นในความพยายามเหล่านั้นของน้องสาวของเธอดี รวมไปถึงเห็นใจด้วยว่าไม่ว่าจะพยายามเสียเท่าไร ความพยายามเหล่านั้นก็ไม่เคยทำให้พ่อแม่นั้นรักน้องสาวของเธอขึ้นมามากกว่าเธอเลยสักนิด


         "หนูอยากเรียนไวโอลิน.."


         เอมิลี่เอ่ยขอผู้เป็นพ่อแม่ในระหว่างมื้ออาหารเย็น ในวัยแปดขวบและเธอที่อายุสิบปี


         "จะเรียนไปทำไมกัน การเป็นนักดนตรีมันออกจะไร้สาระ"


         "นั้นสิ เอมิลี่ หนูควรจะตั้งใจอ่านหนังสือเหมือนพี่เขามากกว่านะ"


         พ่อพูด และแม่ก็เสริม หน้าของน้องสาวเจื่อนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากของเธอเม้มเข้าหากันคล้ายเก็บความน้อยเนื้อต่ำใจของตัวเอง จนเธออด...ทนเห็นภาพนั้นไม่ไหว เอ่ยปากพูดกับพวกท่านทั้งสอง "หนูว่าการที่เอมี่อยากเรียนดนตรีก็ดีเหมือนกันนะคะ หนูคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีเลย หนูยังอยากลองเรียนเปียโนอยู่พอดีเลยค่ะ"


         และทุกอย่างก็กลายเป็นสิ่งง่ายดายแทบจะทันที


         "งั้นก็เรียนกันทั้งคู่เลยดีไหมคะ คุณ"


         "ก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละ ที่รัก"


         ไอร์ม่าถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วส่งรอยยิ้มให้น้องสาวที่นั่งตรงข้าม ใบหน้าของเด็กหญิงผู้เป็นน้องสาวดูโล่งใจขึ้นมา


         อาหารเย็นผ่านพ้นไป ไอร์ม่ากำลังนั่งอ่านหนังสือในห้องของเธอ เสียงเคาะประตูเคาะเป็นจังหวะพร้อมคำขออนุญาตเข้ามาในห้อง


         "พี่ไอร์คะ ขออนุญาตค่ะ"


         "เข้ามาได้ๆ"


         น้องสาวเข้ามาแล้วปิดประตูให้อย่างเบามือ เธอเดินไปนั่งลงกับเตียงของไอร์ม่าแล้วเริ่มเปิดบทสนาขึ้นมา "ขอบคุณนะคะ พี่"


         "เรื่องเล็กน่า ไม่ต้องขอบคุณพี่หรอก"


         เธอบอกคนเป็นน้อง และค่อยๆเปลี่ยนปากกาจากสีชมพูเป็นสีม่วงในการจดบันทึกเรื่องที่อ่าน


         "ต้องขอบคุณสิ ก็พี่ช่วยมี่มาตลอด"


         ท้ายปลายเสียงมันแสนเศร้าเหลือเกิน


         "ไม่หรอกน่า เอมี่เก่งแล้วนะ ห้ามคิดว่าตัวเองไม่เก่งอีกนะคะ สัญญากับพี่นะคะ คนเก่ง"คราวนี้ ไอร์ม่าลุกจากเก้าอี้ที่เธออ่านหนังสือ ย่อตัวลงข้างเตียง และค่อยๆยื่นนิ้วก้อยไปจ่อตรงหน้าของน้องสาวตัวเอง "พี่สัญญานะคะ ว่า เราสองคนพี่น้องจะช่วยเหลือกัน ดังนั้นถ้ามีอะไรที่พี่จะช่วยมี่ได้ พี่ก็จะช่วยนะคะ"


         "จริงๆนะ? พี่ไอร์"


         "แน่นอนสิ"ไอร์ม่าส่งรอยยิ้มอบอุ่นให้คนเป็นน้องสาว "พี่ดูเหมือนเป็นคนขี้โกหกเหรอคะ?"


         จบประโยคนั้น เอมิลี่ค่อยๆเกี่ยวก้อยเธอกลับ


         ก่อนจะผละออกจากกัน ไอร์ม่ายกมือไปลูบหัวน้องสาว


         "ไปนอนได้แล้ว คนเก่ง"


         "พี่ไอร์ก็นอนได้แล้ว"


         "อื้อ รู้แล้ว"


         "ฝันดีนะคะ พี่"


         "ฝันดีค่ะ"


    |||||


         พอโตขึ้น เราสองพี่น้องแยกย้ายไปเรียนต่างที่ น้องสาวของเธอออกไปเรียนอีกเมืองกับญาติคนอื่น(ซึ่งเป็นญาติฝ่ายพ่อ ซึ่งก็คือคุณลุง) ขณะที่เธอยังอยู่ที่เมืองเดิม เรียนโรงเรียนหญิงล้วนแบบเดิมและทำทุกอย่างเป็นหน้าเป็นตาของพ่อแม่ให้พ่อแม่ภูมิใจ เพราะครูหลายๆคนที่ชื่นชมเธอ และส่งเธอแข่งขันในหลากหลายรายการ


         ไอร์ม่าในวัยสิบหกนั้น เป็นเด็กที่เริ่มมีเป้าหมายในชีวิต


         เธออยากทำงานเพื่อสังคม


         ไม่ก็ช่วยเหลือผู้คนในโรงพยาบาล


         มันไม่ใช่ความฝันลมๆแล้งๆ ครูหลายๆคนบอกแบบนั้นและบอกว่าเธอเป็นคนเก่ง และ คิดถูกแล้ว


    |||||


         ตอนอายุสิบแปด น้องสาววัยสิบเจ็ดกลับมาที่บ้าน เธอเล่นดนตรีเก่งขึ้นมาก แถมมีเสียงร้องที่ไพเราะ กลายเป็นเด็กสาวที่สดใส ร่าเริง และ มีความรัก...


         ใช่  คุณฟังไม่ผิดหรอก  เอมิลี่มีความรัก


         และหมายปองเขา


         ชื่อของผู้ชายคนนั้นคือ [3]


         และเธอเองก็ไม่แน่ใจนักกับความรักของน้องสาว แต่สิ่งที่ไอร์ม่าจำได้คือ เธอจับมือน้องสาวของตัวเองไว้แล้วบอกเด็กสาวว่า "เขาต้องชอบมี่แบบที่มี่ชอบเขาน่ะแหละ เพราะมี่เป็นคนเก่งและน่ารักไง"


         เวลาล่วงเลยมาเกือบครึ่งปี


         "เขากำลังจะจัดงานเลี้ยงเหรอคะ คุณ?"


         "ใช่ เขาน่ะแหละ"


         เขาที่ว่าคือเบื้องบน


         ครอบครัว ไม่สิ พ่อของเธอสนิทกับเขา และเขากำลังจะจัดงานเลี้ยง


         "อีกเดือนสินะคะ"


         "ใช่ แล้วเขาอยากรู้จักลูกของเราทั้งสองคนด้วย อยากเห็นความสามารถ"


         "เพื่อนคุณนี่แปลกจังนะคะ"


         "หนูว่าก็ดีนะคะ แม่ เอมี่จะได้แสดงความสามารถทางดนตรีด้วย"


         คนเป็นพี่สาวอย่างเธอเสนอพร้อมชง และมันทำให้เอมิลี่ตาวาวขึ้นมา คล้ายกับจะบอกว่าเธอจะแสดงให้เต็มที่เท่าที่ทั้งชีวิตของเธอฝึกซ้อมมา


    |||||


         หนึ่งอาทิตย์ก่อนงานเลี้ยง เอมิลี่ประสบอุบัติเหตุ แขนของเธอหักและไม่สามารถเล่นเครื่องดนตรีอย่างไวโอลินได้


         เธอร้องไห้ เจ็บใจ และเจ็บปวด


         ในอ้อมกอดของพี่สาว


         เธอพร่ำบอกความเจ็บปวดทั้งหลายให้ไอร์ม่าฟัง 


         ไอร์ม่ายอมรับว่าเธอเจ็บปวดแทนน้องสาวของตัวเอง


         คืนนั้น คนเป็นพ่อเคาะประตูห้องของเธอ


         ไอร์ม่าคุยกับเขา


         และรับปากว่าจะทำการแสดงแทนน้องสาวของตัวเอง


         การแสดงถูกเปลี่ยนจากไวโอลิน เป็น เปียโน


         "มันเป็นหน้าที่ของลูกนะ ลูกรัก"


         "และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับหนู มันก็เป็นหน้าที่ของหนูนะ รู้ไหม"


         "หนูเป็นความภูมิใจของพ่อและแม่ พ่อแม่รักหนูนะ ไอร์ม่า"


         เธอยมรับว่าเธอไม่เข้าใจ แต่เธอยิ้มตอบพวกเขาไป


    |||||


         ในงานเลี้ยงเธอถูกแต่งตัวให้สวย และ นั่งลงกรีดกรายนิ้วมือลงเปียโน


         เสียงปรบมือดังสนั่นหลังจบโชว์


         น้องสาวของเธอยืนมองอยู่มุมเสา


         เรายิ้มให้กัน


         ก่อนที่พ่อของเธอจะขึ้นมาข้างเธอ และพูดกล่าวแนะนำเธอให้ทุกคนในงานได้รู้จัก "สวัสดีครับ ทุกท่าน นี่คือไอร์ม่า ลูกสาวของผม"


         เธอยิ้มให้กับทุกคนๆ


         "ทุกๆคนคงจะเห็นความสามารถที่น่าภาคภูมิใจของเธอแล้ว และ ใช่ครับ...ผมมีเรื่องนึงที่จะประกาศ ซึ่งผมและเพื่อนสนิทของผมอย่างเขาได้ปรึกษาหารือกันแล้ว"


         "ว่าไอร์ม่าเหมาะสม และ เราอยากให้เธอได้หมั้นหมายกับ [3]"


         ในตอนนั้น ไอร์ม่ารู้สึกเหมือนฟ้าผ่า เธอมองไปที่น้องสาวของเธอที่มองมาด้วสีหน้าซีดเผือก และดวงตาที่สั่นไหวของเอมิลี่...


         มีน้ำตาไหลออกมา


    |||||


         "พ่อคะ เรื่องหมั้น..."


         "อ่า...พ่อขอโทษนะที่ไม่ได้บอกอะไรลูกเลย ลูกรัก"


         "พ่อ..เปลี่ยนเป็นเอมิลี่ได้ไหมคะ"


         "ลูกหมายความว่ายังไง?"


         "หนูคิดว่าหนูไม่เหมาะสม..ไม่เหมาะหรอกค่ะ"


         "สำหรับพ่อ ลูกยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ไอร์ม่า..."


         "พ่อแม่ และ ทุกคนหวังให้หนูทำหน้าที่คู่หมั้นของเขาให้ดีที่สุดนะ"


         "ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น เข้าใจไหม แค่ทำหน้าที่ ทำให้ดีที่สุดแบบที่ลูกทำมาทั้งชีวิตเท่านั้น"


    |||||


         น้องสาวไม่พูดคุยกับเธออีกเลย


         หลังจากคุยกับพ่อ เธอเข้าไปที่ห้องของน้องสาว น้องสาวที่ร้องไห้เสียใจ


         "พี่...พี่เสียสละไม่ได้เหรอ"


         "พี่ทำไม่ได้หรอกนะ...เอมิลี่"


         "แค่ แค่เปลี่ยนตัวเองทำไม่ได้จริงๆเหรอ"


         "มันเป็นหน้าที่ของพี่นะ เอมิลี่"


         "แล้วความรู้สึกมี่ล่ะ!!"


         "พี่..."


         "ออกไปเลย ออกไปจากห้องของหนูเกลียดพี่ จำไว้ หนูเกลียดพี่!!!"


         เธอก้าวออกมาจากห้องของน้องสาว เดินกลับไปที่ห้องของตัวเองทันทีที่ปิดประตูห้องลง ก็ทรุดเข่าลงกับพื้น น้ำตาไหลออกมาแต่ไร้เสียงร้องไห้แต่อย่างใด ก่อนจะค่อยๆปาดน้ำตาของตัวเองให้พ้นไป


         ไม่เป็นไรหรอก มันเป็นหน้าที่


    |||||


         อายุสิบเก้าหลังหมั้นหมาย เธอถูกส่งให้มาเรียนกับเขา เขาเป็นรุ่นพี่ที่อายุห่างกันไม่มากเท่าไรนัก สำหรับ [3] ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขา เธอไม่โทษเขาในเรื่องในอดีตของเธอ เธอมองว่าเขาก็แค่ผู้ชายคนนึง เป็นผู้ชายคนนึงที่ไม่ได้แตกต่างอะไร เนื้อแท้ของเขาก็เป็นคนดีอยู่นะ...แล้วก็เขาน่ะ เธอคิดว่าถ้าผูกมิตรกันได้ก็ดี อาจเป็นทั้งเพื่อนและพี่ชาย และถ้าถามถึงความรู้สึก เธอคิดว่าเธอก็รู้สึกกับเขาแค่เพียงพี่ชาย...อาจเพราะเธอสร้างกำแพงขึ้นมาว่าอย่าชอบเขา ซึ่งเป็นคนที่น้องสาวของเธอชอบก็เป็นได้


    tbc

         



    ชอบ : 

         ครอบครัว ; เรียกได้ว่ารัก เธอรักครอบครัวของเธอเอามากๆ และไม่ว่าพวกเขาต้องการอะไร เพียงบอกเธอ เธอก็พร้อมจะทำเพื่อพวกเขาได้เสมอ

         ลาเต้ร้อนๆและฟองนม ; เพราะมันอร่อย นุ่มละมุน และทุกครั้งที่เธอดื่มมัน เธอจะเผลอทำตัวไม่เรียบร้อยจนกินเลอะเทอะแบบเด็กเพราะฟองนมที่ติดที่มุมปากของตัวเอง

         ช่วยเหลือสัตว์ตัวเล็กๆที่น่าสงสาร ; อาจเพราะการดูสารคดี ถึงความโหดร้ายของโลก ทำให้เธอซึมซับมันมา และพยายามช่วยเหลือทุกครั้งที่สามารถช่วยได้

         ความยุติธรรม ; เรียกได้ว่ารัก เพราะความยุติธรรมคือกฎเกณฑ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์อยู่ด้วยกัน และเธอเวลาเห็นคนไหนที่ยุติธรรมเธอจะภูมิใจในอีกฝ่ายมากๆ

     

    ไม่ชอบ : 

         อากาศหนาว ; เธอขี้หนาวน่ะ...เลยไม่ชอบ มักจะชอบกอดตัวเองแน่นเวลาอากาศหนาวๆ

         ของเผ็ด ; กินเผ็ดไม่ค่อยได้ กินแล้วแสบปากแสบคอไปหมด จึงมักบ่ายเบี่ยงไม่ทาน

         คนที่ดูถูกคนอื่น ; เพราะเธอรักศักดิ์ศรีและไม่ชอบการถูกดูถูกการถูกนำไปเปรียบเทียบ เลือกได้ก็จะพยายามไม่เข้าไปยุ่งด้วย


     

    เกลียด : 

         คนผิดสัญญา ; เพราะเป็นคนให้ความสำคัญกับคำสัญญามากๆ พอเห็นใครผิดสัญญาก็ไม่โอเคเท่าไร ก็จะไม่ใจคนๆนั้น ไม่เข้าไปยุ่ง

         คนที่มองเรื่องผิดเป็นเรื่องปกติ และ ความโหดร้ายของมนุษย์ที่มีต่อสัตว์ ; เพราะมันไม่ดี ไม่ยุติธรรม ทำให้เธอมักจะแสดงอารมณ์ไม่โอเคและพร้อมพุ่งเข้าชนกับเรื่องแบบนี้

         การเล่นเปียโน ; ความหลังในอดีตของเธอ ทำให้เธอไม่อยากแตะต้องหรือเล่นมันอีก

     

    กลัว : 

         ความสูง ; จริงๆถ้ามีคนอื่นอยู่เป็นเพื่อนก็ไม่ค่อยกลัวหรอก แต่พอต้องขึ้นที่สูงคนเดียว ขาของเธอมันสั่นและใจข้างในก็เต้นโครมครามจนอยากร้องไห้

     

    แพ้ : -

     

    งานอดิเรก :

         +ถักไหมพรม

         +หาร้านกาแฟนั่งจิบกาแฟ

         +อ่านหนังสือต่างๆ

         +หาทางช่วยเหลือสัตว์ ตามโครงการต่างๆเท่าที่จะพอช่วยเหลือได้

     

    ความสามารถพิเศษ :

         +งานบ้านงานเรือน

         +เปียโน

         +ศิลปะป้องกันตัวนิดหน่อย ยิงปืนนิดนึง

         +เรียนอยู่ในระดับดี

     

    สเปคคนที่ชอบ : ก็..อาจเป็นแค่คนธรรมดา คนดีคนนึง อาจไม่ได้ดีที่สุด แต่พร้อมเข้าใจแล้วปรับตัวไปพร้อมกับเรา

     

    เพิ่มเติม :

          ¤ โค้ดเนมอาซาเลียมาจาก ดอกไม้ที่น้องสาวชอบ มันมีความหมายว่า "ดูแลตัวเองเพื่อฉันนะ" และ "ความรู้สึกที่แสนเปราะบาง"

    ¤ Sister

    Emily Andreana Laurenco (20)

    Keywords ; ดนตรี ร่าเริง สดใส ถูกมองข้าม

         

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

    roleplay .

     

    สวัสดีค่ะ ดิฉันคือหัวหน้าอาจารย์ฝ่ายปกครองของสถานศึกษาแห่งนี้ ก่อนอื่นเลย ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร เรียนอยู่ชั้นปีไหนแล้วคะ?

    :    

           เธอโค้งอย่างเคารพอีกฝ่ายเล็กน้อยที่กำลังอยู่ตรงหน้าและพูดคุย ก่อนจะค่อยๆรีดกระโปรงของตัวเองให้เรียบร้อยและนั่งลงบนเก้าอี้ พูดคุยกับอีกฝ่าย ก่อนจะได้ตอบคำถามเธอก็ยิ้มให้ สร้างความประทับใจแรกออกไป


           "สวัสดีค่ะ"


           เป็นถ้อยคำธรรมดาๆที่เปิดบทสนทนาของคนสองคน "ฉันไอร์ม่า อดิเลเน่ ลอเรนโซ่ค่ะ ตอนนี้อยู่ปีที่สี่..ยินดีที่ได้พบนะคะ"

     

    นักศึกษาของที่นี่จะสังกัดอยู่ในแก๊งมาเฟียเป็นส่วนมาก ถ้าหากคุณเป็นสมาชิกของแก๊งมาเฟีย ดิฉันอยากทราบว่าคุณสังกัดอยู่ในแก๊งใดคะ?

    :    


           "เรื่องนี้มันค่อนข้างพูดยากนะคะ" เธอว่าตอบคำถามของคนอายุมากกว่า "จริงๆจะเรียกว่าสังกัดก็ไม่ถูกเท่าไร..."


           เธอหลับตาชั่วครู่แล้วค่อยๆยิ้มตอบ "แต่ใช้คำว่าเกี่ยวข้องกับ Dinosaur Mafia น่าจะถูกต้องกว่านะคะ"


           เธอเลี่ยงการใช้คำว่า 'เป็นคู่หมั้น' อาจเพราะเธอกลัวว่าหากพูดมันออกไปแล้ว มันอาจส่งผลกระทบต่อคนอื่น หนำซ้ำ...มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะป่าวประกาศเท่าไร


           เธอเกรงว่าคู่หมั้นของเธอดูไม่ชอบการผูกมัดแบบนี้ และเธอก็คิดว่าเขาเองก็ไม่อยากไปป่าวประกาศถึงเรื่องของเราสองคนเหมือนกัน

     

    คุณคิดอย่างไรกับเมืองและสถานศึกษาแห่งนี้คะ?

    :    


           "ก็...ยอมรับนะคะว่าตลอดชีวิตของฉันโตมากับอีกเมือง แต่ก็ปรับตัวมาได้หลายปีกับที่นี้แล้วค่ะ"


           เธอยิ้มอยู่เหมือนเดิม "คือฉันอยู่ที่ไหนก็ได้ค่ะเลยไม่มีปัญหาอะไรเท่าไร แต่สิ่งที่สำคัญสำหรับการอยู่ในเมืองนี้และโรงเรียนก็คือการยืดอกเผชิญต่ออะไรๆ ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี้ ฉันได้บทเรียนแบบนี้ค่ะ"

     

    ทัศนคติที่คุณมีต่อแก๊งของคุณเป็นอย่างไรเหรอคะ?

    :    


           คราวนี้เธอยังไม่ตอบในทันที เธอกมือขึ้นมาจับเส้นผมของตัวเองจัดให้เรียบร้อยไม่ให้บังสายตา แล้วสบตากับผู้พูด


           "สำหรับฉัน พวกเขาแข็งแกร่งค่ะ เหตุผลก็เหมือนกับทุกๆคนที่คิดแบบเดียวกับฉันน่ะแหละ...."


           "เพราะมันไม่มีเหตุผล แต่ทุกสิ่งที่เราเห็นมันชัดเจนที่สุดแล้ว ว่า พวกเขาแข็งแกร่งค่ะ"

     

     

    คำถามข้อสุดท้ายค่ะ คุณคิดว่าตัวเองเป็นคนแบบไหนคะ?

    :    


           "เป็นคำถามที่ตอบยากนะคะ"เธอบอกและยอมรับ "ถ้าตัดนามสกุลออกไปตั้งแต่ตอนฉันเกิด"


           "ฉันก็คงเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนนึง ไม่ได้มีความหมายหรือสำคัญอะไรขนาดนั้นหรอกนะคะ"


           "ดังนั้นฉันคิดว่าคนที่จะตอบว่าฉันเป็นคนแบบไหน ก็คือคนที่แคร์ฉันและรักฉันที่ฉันเป็นฉันค่ะ"

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

    talk with Vrissa .

     

    สวัสดีค่ะ ไรต์มีนามปากกาว่าวริสซ่านะคะ หรือจะเรียกวริสก็ได้ คุณผู้ปกครองชื่ออะไรกันบ้างคะ?

    : แมวน้ำค่า ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ 

     

    ตามเนื้อเรื่องคือมีฉากโรแมนซ์ค่อนข้างเยอะ แต่บรรยากาศชาวแก๊งก็ยังคงอยู่ค่ะ จะว่าอะไรไหมคะ ถ้าตลค. จะมีฉากกุ๊กกิ๊กสวีทวี้ดวิ้ว(?) เยอะหน่อย?

    : ได้ค่า แมวชอบความหวัน ต้องการเติมน้ำตาลในเลือด อุอิ /////

     

    ถ้าหากเป็นบทที่ไม่ได้กำหนดว่าจะมีคู่หรือไม่ คุณผู้ปกครองอยากให้น้องมีคู่รึเปล่าคะ?

    : อยากให้มีค่า แหะ อยากติดในบทที่ต้องการด้วย อุแง

     

    ถ้าอยากให้น้องมีคู่ ไม่ทราบว่าอยากให้คู่ของน้องเป็น NORMAL หรือ LGBT คะ? (แต่บอกไว้ก่อนว่าไรต์ไม่ค่อยถนัดแนวยูรินะ ;-;)

    : ตามใจไรท์เสมอนะคะ แมวน้ำโอเคกับทุกอย่างอยู่แล้ว

     

    เรายังไม่ได้คิดว่าจะมีการตายของตัวละครไหนรึเปล่า อาจจะน้อยก็จริง แต่ถ้าหากตลค. ของคุณผู้ปกครองโดนบทนี้ จะรับได้ไหมคะ?

    : รับได้ค่า ไม่คิดมากนะคะ 

     

    ถ้าน้องไม่ติดบทที่ต้องการ จะให้ยัดบทให้หรือรับกลับคะ? (แต่โอกาสที่จะไม่ติดก็น้อยนะ .___.)

    : แมวน้ำปลูกเรือนตามใจผู้อยู่เสมอค่า

     

    สุดท้ายนี้ก็ขอให้คุณผู้ปกครองมีวันที่ดีและสดใส ขอบคุณที่ฝากน้องๆ เอาไว้กับเรา ขอให้น้องติดบทที่ต้องการกันทั่วทุกคนนะคะ (´▽`) //รักส์

    :รักเมือนกันนะคะ เป็นกำลังใจ และฝากลูกสาวคนนี้ด้วยนะคะ /ส่งบีมใจ


     


     


    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×