คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Saint Eutopia [Yaoi] ❀ Ainsley Gareth ❀
❀ B E A U T Y
AND S T R E N G T H ❀
『 Night And Storm 』
『 It is a mysterious emotion that
hides the insanity inside 』
มันคืออารมณ์ที่ลึกลับที่ซ่อนความบ้าคลั่งไว้ภายใน
NIGHT AND STORM
Application
ชื่อ/นามสกุล
: เอนส์ลีย์ กาเร็ธ / Ainsley Gareth
ชื่อเล่น
: เอนส์ลีย์ / Ainsley ,
เอนส์ / Ains | เรียกตามความสะดวกค่ะ ส่วนฉายาคือยกฟรีให้ไรท์เลยค่ะ
บท : อาจารย์
วิชาที่สอน
: วิชาคำสาป
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
อายุ : 28 ปี | เกรงว่าต้องหยุดลงที่เลขนี้ เพราะมากกว่านี้มีอันได้หารูปใหม่(หัวเราะ)
รูปร่างลักษณะ
: เอนส์มีเส้นผมสีดำรัตติกาลซอยไล่ระดับ
ดวงตาคมสวยมีความสวยที่ส่องประกายราวพลอยตระกูลเพทาย
ตาซ้ายนั้นเปรียบเสมือนเพทายสีฟ้าและตาขวาที่เปรียบเสมือนเพทายสีเหลือง
พวกมันมักจะส่องประกายความลึกลับที่แฝงไปด้วยความสนุกอยู่เสมอ ใบหน้าเรียวคมหล่อเหลาที่แอบมีความสวยในแบบผู้ชายด้วยกันมีลักษณะที่ฉายไม่ต่างจากแววตาเท่าไหร่นักที่ดูน่าดึงดูดอย่างประหลาด
มีผิวขาวธรรมชาติ รูปร่างสมส่วนดูสมบูรณ์แบบ ส่วนสูง 173 ซม. น้ำหนัก 65 กก.
อุปนิสัย
:
เอนส์เป็นพวกมีบุคลิกที่ดูลึกลับ
บุคลิกหลักๆของเอนส์ตามปุถุชนปกติ
เขาเป็นพวกเฟรนลี่ เป็นนักเจรจาชั้นยอด เขารู้จักเข้าหาคนเป็น รู้แม้กระทั่งเรื่องกริยามารยาทชนชั้นสูง
โดยรวมๆแล้วเอนส์เขามีบุคลิกที่น่าเคารพนับถือ น่าไว้วางใจ ฝากงานอะไรไว้
จากงานเกรดระดับต่ำกลายเป็นเกรดระดับสูงได้ทันที
เขาเลยเป็นที่รู้จักในด้านผู้ชายที่น่าคบหาคนหนึ่ง
...แต่ในระดับคนที่รู้จักกันจริงๆ ส่วนใหญ่จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เอนส์น่ะเป็นผู้ชายที่ไม่ควรคบหาอย่างที่สุด
ไม่จำเป็นอย่าพูดคุยกับเขา และอย่าทำตัวให้เขาสนใจ นิสัยของเอนส์จริงๆเขาเป็นพวกรักความสนุก
ความท้าทาย จนเข้าข่ายกับความบ้า คนส่วนใหญ่ที่บอกว่าเอนส์ไม่น่าคบหานั้น
จะบอกกันเสียงเดียวสรุปนิสัยสั้นๆของเอนส์คือบ้า เอนส์เขามีความรักสนุกไม่เหมือนคนปกติ
สำหรับเขามันมีความรักสนุกที่มากเกินไปจนน่าหวั่นใจและน่ากลัวไปแล้วแต่ความหมายการตีความของคนที่มองเห็นบุคลิกนี้
สรุปแล้ว...เอนส์เขาดูเป็นผู้ชายที่มีสองบุคลิก
แต่นั่นไม่ได้เกี่ยวกับโรคไบโพล่าร์อะไรทั้งนั้น เพราะเขารู้จักขอบเขตด้านอารมณ์ของตัวเองดี
ยังรู้แยกแยะว่าเวลาไหนควรทำอะไร
นิยามความบ้าของเอนส์
เอนส์เขาไม่ได้เป็นบ้าตามความหมายหลักของพวกจิตแพทย์อะไร
เขาเป็นคนธรรมดาที่มีสติสัมปชันยะครบถ้วน ต่อให้เขาเดินปะปนไปตามฝูงชน
เขาก็ยังดูเป็นปุถุชนธรรมดาที่เดินปะปนไปกับชาวบ้านเหมือนคนทั่วไป
แล้วทำไมคนที่รู้จักเขาถึงบอกว่าบ้า?
นั่นเป็นคำนิยามทั่วไปที่ใช้เรียกคนที่ไม่เหมือนคนอื่นเท่านั้นแหละ
พูดทำนองให้เข้าใจนิสัยหลักๆเท่านั้น สำหรับตัวเอนส์เองเขามีคำนิยามว่าบ้ากับความกล้าที่ความหมายใกล้เคียงกัน
ก็ตามที่อธิบายไปข้างต้น เขามีความรักสนุก ความท้าทายที่เกินพอดี
แต่นั้นในอีกมุมมองหนึ่งคือเขามีความกล้ามากกว่าคนทั่วไป
เขาไม่เคยคิดเกรงกลัวอะไรง่ายๆทั้งนั้น กล้าที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา
ไม่คิดปอดแหกสิ่งที่ยังไม่ได้ลองทำ ความบ้าของเอนส์นับว่าเป็นหนึ่งในนิสัยที่มีลักษณะดีเสียด้วยซ้ำ
แต่ก็อย่างที่บอกแล้วแต่มุมมองคนมองอีกด้วย ต่อให้มีความกล้าแค่ไหน
คนมองก็สามารถมองเอนส์ว่ากล้าจนบ้าได้เหมือนกัน
เอนส์เป็นพวกกวนประสาทเป็นนิสัย
เอนส์เขาไม่ใช่นักเจรจาในด้านดีเพียงอย่างเดียว
เขาสามารถสร้างคำพูดปั่นประสาทคนได้เหมือนกัน
แต่นิสัยกวนประสาทอย่างนี้ไม่ได้อยู่ในบุคลิกใดบุคลิกหนึ่งของเอนส์ นิสัยแบบนี้ของเอนส์อยู่ได้ทุกที่ทุกเวลาติดแค่ว่าเจ้าตัวอยากทำตอนไหนเท่านั้น
สิ่งที่แตกต่างคือ ถ้าเอนส์ยังอยู่ในบุคลิกที่น่าเคารพของคนหลายๆคนเขาจะพูดแบบไม่ได้ตั้งใจเท่าไหร่นัก
แค่อาจพูดแบบแกล้งเล่นๆ(แต่คนฟังก็อาจเสียหน้าไปเลยก็มี ซึ่งก็แล้วแต่การเลือกใช้คำน่ะนะ)
ส่วนถ้าพูดในโหมดรักสนุก เอนส์เขาจะพูดแบบจงใจแบบพิเศษ
ลักษณะการพูดนั้นจะอยู่ในเชิงการปั่นประสาทให้คนฟังหัวร้อน
เป็นหนึ่งในหลักจิตวิทยาที่สามารถควบคุมพฤติกรรมมนุษย์โดยใช้คำพูดเป็นสื่อกลาง
และนั่นเป็นด้านที่เอนส์ถนัดมากที่สุด เขาสนุกกับการที่เห็นฝ่ายตรงข้ามเต้นตามเกมของเขา
เล่นไปตามแผนของเขาที่สร้างเอาไว้ ...แต่ถ้าพูดถึงด้านดีๆในพฤติกรรมอย่างนี้
การกวนประสาทของเขาดูจริงใจมากกว่าพูดในฐานะนักเจรจาชั้นยอดเสียอีก
ก็ต่างที่คนหลายคนรู้ว่าเบื้องหน้านั้นเอนส์เขามักใส่หน้ากากเข้าหาสังคม แต่ถ้าเป็นนิสัยออกแนวขี้เล่นเมื่อไหร่มันดูจริงใจมากกว่ากันเยอะ
เอนส์ไม่ใช่พวกดีแต่ปาก
อย่างที่คนรู้จักหลายคนรู้ว่าเอนส์รักสนุกไปวันๆ
แต่เขาไม่ได้มีความโง่แต่อย่างใด
เขาเป็นคนประเภทเก็บซ่อนความเก่งและความฉลาดได้อย่างเงียบเฉียบ จะพูดว่าเก็บซ่อนไว้ก็ไม่ได้เต็มปากนัก
เขาใช้ความเก่งและความฉลาดของตัวเองอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ
แต่แค่มันยากที่จะสังเกตเท่านั้น ดูได้จากความบ้าไปวันๆของเขา
ถ้าเขากล้าที่จะทำอะไรหลายๆอย่างขนาดนั้น
นั่นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ว่าเขายังมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ นั่นเป็นหลักฐานบ่งบอกพฤติกรรมอย่างหนึ่งของเอนส์
เขาเป็นนักวางแผนที่ดีคนหนึ่ง รู้จักรุกรู้จักรับเป็น
พลิกแพลงสถานการณ์เพียงแค่ใช้คำพูดก็สามารถควบคุมสถานการณ์อะไรหลายๆอย่างได้
อย่างที่ระบุไปเอนส์ไม่ได้บ้าอะไรเลย เขาฉลาด ฉลาดมากเสียด้วยซ้ำ
ไอคิวของเขาเองถ้าให้วัดอยู่ในระดับอัจฉริยะเสียด้วยซ้ำ
แต่ก็นั่นแหละเขาชอบความสนุกความท้าทายเหมือนเด็กที่ชอบเรื่องตื่นเต้น
เลยไม่ได้เป็นจุดสนใจในด้านนี้เท่าไหร่นัก ...เพราะฉะนั้น
ถ้าให้นับบุคคลที่ไม่ควรเข้าไปท้าทายด้วย เอนส์นับเป็นหนึ่งในตัวเลือกนั้น
เมื่อใดที่คิดท้าทายเขา เรื่องมันจบไม่สวยแน่
เอนส์เขาก็จริงจังเป็น
เอนส์เขาไม่ได้ชอบความสนุกได้ตลอดเวลา
เขาแบ่งเวลางานกับส่วนตัวชัดเจน
แต่เรื่องที่ทำให้เขาจริงจังจริงๆนั้นมีน้อยมากตามแต่ความสนใจ เวลาเอนส์จริงจังเขามีบุคลิกที่มีความสุขุม
รอบคอบ ทำอะไรเท่ๆเป็น แต่ประจำตอนอยู่ในพฤติกรรมเบื้องหน้านั่น
เขาก็ดูเท่สำหรับนักเรียนสาวไปอีกแบบนะ
ยิ่งเข้าโหมดจริงจังมันก็แค่เหมือนออร่าที่ดูดีมากกว่าเก่า(...)
ในกรณีที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เอนส์ไม่ได้มานั่งหัวเราะอย่างนิสัยปกติหรอก
เขายังมีความรู้สึกเครียดเป็น และรู้ว่าควรทำอย่างไงก่อนด้วย
รู้จักประเมินสถานการณ์และสุดท้ายก็ไปบุกแนวหน้าหรือไม่ก็วางแผนอันน่าตายอยู่ข้างหลัง
และเอนส์เขารู้จักตัวเองดีว่าควรมีความกล้าแค่ไหน กล้ามากๆจนตาย
อันนั้นไม่เป็นที่นิยมของเอนส์เท่าไหร่นัก เอนส์ไม่ได้กลัวตาย
แต่ถ้าเขาตายเขาจะสนุกอะไรได้อีกล่ะเท่านั้นเอง ดังนั้นถึงเอนส์จะบ้าแค่ไหน
แต่ถ้าเขาไม่ไหว เขาก็ถอย แต่ในกรณีที่เขาเลี่ยงหนีไม่ได้ขึ้นมา
เขาก็จะสู้จนหาช่องว่างหนีหรืออย่างน้อยก็ตายในสภาพที่ตัวเองรับได้หน่อยเท่านั้นแหละ
ประวัติ : ‘
เอนส์ลีย์ กาเร็ธ
’ เป็นหนึ่งในทายาทตระกูลกาเร็ธ
โดยตัวเองเป็นลูกชายคนกลางที่มีความรักอิสระยิ่งกว่าใครๆในหมู่พี่น้องทั้งหมด และขึ้นชื่อว่ามีสถานะเป็นโสดเพียงคนเดียวอีกด้วย(...)
ตระกูลกาเร็ธเป็นหนึ่งในตระกูลนักฆ่าที่ติดอันดับต้นๆของวงการนักฆ่า
ตระกูลกาเร็ธนั้นเป็นกลางไม่ขึ้นตรงต่อผู้ใด มีอิสระต่อตนเอง
และมักจะเป็นนักฆ่าประเภทเลือกงานที่ไม่หาเรื่องใส่ตัวอีกด้วย
ถ้าให้สรุปล่ะก็ตระกูลนักฆ่ากาเร็ธเป็นนักฆ่าแบบรับงานได้ทุกอย่างแต่ต้องไม่มีผลต่อตัวเองแค่นั้น
ไม่ว่าจะด้านตระกูล ด้านชีวิตตัวเอง เป็นต้น ตระกูลนี้ไม่ได้รับศิษย์เข้าเหมือนตระกูลอื่นๆ
พวกเขาใช้วิธีแบบคนในครอบครัวเท่านั้น
โดยมีผู้นำตระกูลคนปัจจุบันเป็นคนรับงานและแจกจ่ายงานให้ทายาทคนอื่นๆไปซึ่งบางก็ลงไปทำเองตามแต่ระดับความยากของงาน
...ในปัจจุบันนั้นถ้าไม่นับผู้นำตระกูล จะมีทายาทกาเร็ธทั้งหมด 4 คนเป็นชายล้วนทั้งตระกูล โดยทายาทสองคนแรกทำงานเป็นนักฆ่าสายตรง
ส่วนสองคนที่เหลือเลือกที่จะไปทำอะไรอย่างที่ตัวเองต้องการ อย่างเช่นเอนส์เลือกจะเป็นอาจารย์สอนวิชาที่เซนต์ยูโทเปีย
ส่วนน้องชายคนสุดท้องนั้นเลือกจะเที่ยวผจญภัยรอบโลก
ตัวเอนส์ในอดีตหนึ่งในจำนวนนักเรียนที่สามารถเรียนจบออกมาจากเซนย์ยูโทเปียได้
แต่สภาพตอนจบก็ไม่ได้ดูดีนักหรอก ให้นิยามว่ารอดตายมาชัดๆอย่าเรียกซะสวยว่าเรียนจบเลย
จากนั้นเขาก็ออกไปเที่ยวผจญภัยรอบโลกได้สัก 3 ปีก่อนจะถูกเชิญตัวมาเป็นอาจารย์สอนวิชาคำสาปของเซนต์ยูโทเปีย
เพราะด้วยเป็นด้วยมีศักดิ์เป็นหนึ่งในนักเรียนที่สามารถเรียนจบได้เลยถูกเลือกมาเป็นอาจารย์สอนตามความถนัดที่ตัวเอนส์มี
เอาเข้าจริงๆแล้ว
เอนส์เขาก็ชอบโรงเรียนนี่อยู่แล้ว ถึงแม้จะเกือบตายมาบ้างแต่ก็รู้สึกผูกพันกับมัน
เขาย่อมรู้เรื่องเซนต์ยูโทเปียดี เนื่องจากเคยรอดตายเป็นล้านรอบสำหรับที่แห่งนี้
เวลาที่เขาได้สอนนักเรียนหน้าใหม่ทั้งหลาย เขาทั้งรู้สงสารและสนุกยิ่งนักว่าใครบ้างที่จะรอดออกไปได้บ้าง
ความสามารถพิเศษ
: - การใช้มีดขว้างได้อย่างคล่องแคล่ว
บางก็สามารถประยุกต์ใช้แบบมีดสั้นได้เหมือนกัน
- มีสายตาที่แม่นยำและว่องไว
-
มีความสามารถด้านจิตวิทยา
- มีลางสังหรณ์ที่ดี
-
การทำอาหาร
พลัง/รูปแบบพลัง : ความมืด | พลังความมืดส่วนใหญ่ของเอนส์เขาควบคุมในลักษณะของคำสาป ที่ว่าถ้าใครโดนพลังเขา ย่อมยากที่จะดับไฟหรือแก้เวทย์นั้นได้ ถ้าไม่รู้วิธีแก้ตรงจุดพอ พลังของเอนส์เป็นพลังที่ไม่ได้ใช้สื่อกลางใดๆแค่มีจิตใจที่ตั้งมั่นพอจะควบคุมพลังเวทย์ได้เท่านั้น เอนส์เขาค่อนข้างควบคุมพลังนี้ได้อิสระอย่างใจนึก มีข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือพลังของเขาไม่สามารถสร้างเป็นอาวุธได้ พวกมันไม่ได้อยู่ในลักษณะที่ว่าควบคุมได้กระทั่งรูปร่าง แต่ข้อเสียเหล่านี้มีสิ่งทดแทน มันสามารถปรับเปลี่ยนพลังให้คล้ายอาวุธได้เท่านั้น พวกมันสามารถแข็งตัวราวลิ่มแล้วแทงคู่ต่อสู้ได้ แต่การทำร้ายลักษณะนี้จะไม่ทำให้เกิดบาดแผลใดๆทั้งนั้น มีแต่ความเจ็บปวดของผลพลังนั้นเฉยๆ และยิ่งเป็นพลังของเอนส์ที่ถนัดใช้แบบคำสาปก็ยิ่งทรมานแบบเท่าตัว | เรื่องความสามารถเกี่ยววิชาคำสาป เขาค่อนมีข้อดีแตกต่างจากคนทั่วไปคือเขาสามารถใช้คำสาปแบบวิชาเรียนโดยสบายๆ สามารถปรับให้พลังน้อยหรือมากอย่างคล่องแคล่ว ถ้าจะให้สรุปโดยรวมแล้ว การสอนวิชาคำสาปสำหรับเขาเป็นเรื่องเล็กๆสำหรับเขามาก มันเหมือนได้ทำสิ่งที่ตัวเองถนัดที่สุดแต่ต้องมานั่งคอยควบคุมพลังตัวเองไม่ให้มันเยอะออกนอกบทเรียนไปนักเท่านั้น | ถ้ากรณีเอนส์โดนคำสาปเล่นงาน เขาอาจจะเสียศูนษ์ไปบ้าง แต่เขาจะพยายามแก้คำสาปในตัวเขาทันทีตามความถนัดเฉพาะตัว | และในกรณีอ่อนแอ พลังคำสาปของเอนส์จะไม่แข็งแกร่งอย่างปกติ จากเดิมทีมีอัตราพลังเข้มสัก 100% อาจจะกลายเป็น 80 70 60% ก็ว่ากันไป มันจะเกิดผลต่อเวทย์นั้นๆทันที มันเหมือนเปรียบเทียบอัตราความสำเร็จนั่นแหละ ที่เดิมทีสำเร็จตลอด แต่พออ่อนแอกลับต้องลุ้นโชคกันไปว่าสำเร็จแค่ไหน
อาวุธ : มีดขว้าง 12 เล่ม สามเล่มที่เห็นคือลักษณะเฉยๆ พอดีหาแบบครบไม่ได้ | เอนส์มักจะเก็บมีดเหล่านี้ไว้ตามส่วนต่างๆของร่างกายที่หยิบสะดวกตามจุดที่เก็บเนียนและสภาพชุดจะอำนวย
จุดแข็ง
: -
ทักษะด้านจิตวิทยา
-
ทักษะด้านการวางแผน
-
พลังเวทย์ด้านคำสาป
-
ความอัจฉริยะ
จุดอ่อน
: -
ความรักสนุก | มันก็ไม่ใช่จุดอ่อนสักทีเดียวหรอก
ซึ่งมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ขณะนั้นด้วย
- ด้านพลังกำลัง
| เอนส์ถนัดโจมตีแบบระยะกลางและไกล
เขาไม่ได้มีทักษะด้านระยะประชิดเท่าไหร่นัก
ด้านระยะประชิดเขามีแค่ทักษะการป้องกันตัวเท่านั้นไม่ได้เน้นสู้
สิ่งที่ชอบ
: - ความสนุก
- การกวนประสาทชาวบ้าน
- ลูกอม | เขาชอบทานเล่นหลังอาหารไม่ก็คาบว่างเป็นประจำ
สิ่งที่เกลียด
: - ของมึนเมา
| เอนส์เป็นคนคออ่อนมาก เขาชอบเมาแล้วร้องไห้
- คนที่กล้าท้าทายเขา | เอนส์น่ะเขาชอบปั่นประสาทคนอื่นมากกว่า แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ชอบถูกใครปั่นประสาทเขากลับ
สิ่งที่กลัว
: การสูญเสียครอบครัว | อย่างน้อยเขาก็มีอาการปุถุชนนี่แหละค่ะ
ก็ต้องมีร้องไห้รับไม่ได้ และก็ต้องมีพัฒนาการค่อยๆปรับอารมณ์ยอมรับการสูญเสียไปในที่สุด |
เป็นมุมมองความเป็นมนุษย์ที่สุดของเอนส์ค่ะ ถึงจะดูบ้าๆไปบ้าง
แต่นี่เป็นหลักฐานอย่างหนึ่งว่าเขาก็ไม่ต่างจากคนทั่วไปเช่นกัน
สเปค
: สเปคทางด้านเอนส์ | เขาเป็นเมะ ที่ได้ทั้งชายทั้งหญิง เขาไม่มีสเปคแบบตายตัว
เขาสนใจใครก็คนนั้นแหละ แต่ส่วนใหญ่ถ้าคิดจะเป็นเคะให้เขา ต้องทนเอนส์ได้ค่ะ
สเปคทางผู้ปกครอง | เอนส์น่ะเหมาะเป็นเมะจริงๆ
แต่สำหรับเขาควรพีกเป็นเคะค่ะ เป็นเมะประเภทเมะมาตลอดก่อนจะเสียเชิงเป็นเคะในตอนจบค่ะ
ไรท์จะให้เอนส์เมะใครก็ได้ก่อนหน้านั้นแต่สุดท้ายตอนจบเอนส์นั่นเป็นเคะค่ะ(...)
คู่เมะของเขาต้องเป็นคนประเภทถนัดใช้กำลังมากกว่าสมองค่ะ เป็นด้านตรงข้ามกับเอนส์
อื่นๆ : -
ความสามารถทางด้านทำอาหารของเอนส์นั้น
เป็นแม่ของเอนส์ที่สอนค่ะ
ให้เอาไปใช้ตอนใช้ชีวิตผจญภัยอยู่คนเดียวอยู่ 3
ปีหลังเรียนจบนั้น
ปัจจุบันนั้นเขาก็ยังทำได้อยู่และอาจทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆอีกด้วย
- ทักษะการต่อสู้ของเอนส์ส่วนใหญ่คือนักฆ่า
มีบางครั้งบางคราวที่จะออกแนวหน้าตามสถานการณ์
-
สัตว์เลี้ยงของเอนส์นั่นเป็นของขวัญวันเกิดในปีที่ 21
ของเอนส์ที่ได้รับจากทุกคนในครอบครัว ให้คอยเป็นเพื่อนเล่นยามเอนส์เหงา
-
เอนส์มักเก็บเม่นน้อยของเขาไว้ในกระเป๋าเสื้อเสมอ
ชอบพกไปไหนมาไหนตลอดเวลา เป็นสัตว์เลี้ยงที่สำคัญที่เอนส์คอยปกป้องเสมอมา
* จุดแก้แบบอธิบายรวบยอดค่ะ
-
ยกตัวอย่างประโยคลักษณะการพูดของเอนส์ตามสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงพฤติกรรมนั้นๆด้วย
สถานการณ์ที่
1 เวลาหน้าที่ตามประสาอาจารย์ทั่วไป
| เอนส์เขาตั้งใจสอนนักเรียนนะค่ะ
แต่เขาจะมีลูกเล่นไปในการสอนบ้างไม่ให้ดูหน้าเบื่อจนเกินไป
คือนึกสภาพการเรียนในปัจจุบันเลยค่ะที่อาจารย์คอยชี้แจ้งอยู่หน้าห้องแล้วนักเรียนนั่งฟังไปจนแทบหลับคาโต๊ะ
นั่นไม่ใช่การสอนของเอนส์ค่ะ เขาจะเพิ่มลูกเล่นโดยมีการเรียกตอบคำถามบ้าง
ถ้าตอบผิดจะโดนแกล้งเล็กๆ มีการให้ฝึกซ้อมวิชาในบางคาบตามความเหมาะสม
อะไรก็ว่าไปค่ะ แต่สำหรับหลักจรรยาบรรณครูเขามีอยู่แล้วค่ะ เขาสอนเต็มทีทุกอย่าง มันแล้วแต่ว่านักเรียนจะรับไปแค่ไหนด้วย
“
ฟังนะ วันสอบเลื่อนขั้นใกล้จะถึงแล้ว ” เอนส์พูดพลางยืนพิงโต๊ะครูหน้าห้อง
กอดอกพูดด้วยเสียงจริงจัง “ แต่เท่าที่ข้าดูคะแนนสอบย่อยมาตั้งแต่เรียน
” เขาเอื้อมไปหยิบเอกสารบางอย่างบนโต๊ะก่อนชูขึ้น “ วัดทั้งภาคปฏิบัติกับทฤษฎี ทำไมถึงมันได้กันแค่นี้!? ”
“
... ”
“
พวกเจ้ารู้ใช่ไหมว่าเข้าเรียนที่นี้
ก็เตรียมกระโดดหน้าผาตายกันอยู่แล้ว ”
“
... ”
“
เดือนนี้ทั้งเดือน ข้าติวพวกเจ้าเข้มแน่ ”
มีนักเรียนบางคนเริ่มร้องโอดครวญ
“
คิดว่าข้าใจดี ปล่อยคะแนนให้พวกเจ้า ไปหลับซะ ”
สถานการณ์ที่
1.5
เวลาสอนหน้าที่ตามประสาอาจารย์ทั่วไป แต่เพิ่มลูกเล่น
“
วันนี้ฉันจะสุ่มตัวอักษรหน้าชื่อมาตอบคำถามของฉัน ”
เอนส์ฉีกยิ้มให้เหล่นักเรียนของตนอย่างสุภาพแต่มันช่างแฝงไปด้วยความร้ายกาจชัดๆ
“
ชิบแหละ... ”
นักเรียนชายคนหนึ่งในห้องสบถอย่างแผ่วเบา
แต่ก็ไม่อาจเล็ดรอดสายตากับหูของเอนส์ไปได้ เอนส์ยิ้มอ่อนๆก่อนพยักหน้าเบาๆอย่างตกลงอะไรบ้างอย่าง
“
ตัว B ~ ”
“
นั่นมันชื่อเราไม่ใช่รึไงฟร่ะ! ” แถมเป็นชื่อเดียวทั้งห้องที่มีตัว
B นำหน้า
นักเรียนชายคนเดิมสบถออกมาอีกครั้ง
ดูก็รู้ว่าอาจารย์กาเร็ธจงใจเรียกชื่อเขาน่ะ!
“
ถ้าเจ้าตอบไม่ได้ ” เอนส์ขยิบตาซ้ายให้หนึ่งที
มีกระชากใจนักเรียนสาวไปบ้างคน “ วันนี้เจ้าคงได้เปลี่ยนสีผมเป็นสีเขียววันหนึ่ง
”
อาจารย์กาเร็ธ...
ถึงขยิบตาหล่อๆส่งมาให้ ตัวกระผมไม่รู้สึกดีใจอะไรทั้งนั้นนะ ตัวกระผมนั้นเห็นนรกอยู่รำไร...
สถานการณ์ที่
2 ความบ้าของเอนส์ | ตามที่ระบุข้างต้นค่ะ
เขาแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวดี เรื่องงานเขาก็จริงจัง เรื่องสนุกก็สนุกไป ความกล้าของเอนส์เอาดีๆก็ไม่ได้บ้าเท่าที่คิด
อย่างที่ทราบว่า เขายังไม่ยอมที่จะตายเลยค่ะถึงแม้ให้เสียศักดิ์ศรีอย่างการหนีคู่ต่อสู้น่ะค่ะ
แต่อย่างน้อยเขายังมีความเป็นอาจารย์พอที่จะไม่หนีแบบน่าทุเรศให้นักเรียนเห็นหมดความน่าเชื่อใจ
สรุปหลักๆคือ เขากล้าพอในการเผชิญหน้าสิ่งที่หลายคนกลัวค่ะ นั้นทำให้เรียกว่าบ้า
แต่ตีความหมายดีๆแล้ว
เอนส์เขาเป็นอาจารย์ที่กล้าหาญคนหนึ่งแต่เสียที่ว่ามีความคิดที่สลับซับซ้อนต่างจากคนปกติไปนิด
“
ข้าจะบอกหลักสูตรในการเรียนทั่วไปอย่างหนึ่งแก่พวกเจ้านะ ”
เอนส์เดินอย่างมั่นคงมาขวางนักเรียนกับสิ่งอันตรายตรงหน้าอย่างกับปกป้องนักเรียนไว้
สายตาสองสีจ้องศัตรูมั่น แต่ปากยังพูดพร่ำสั่งสอนต่อไป
“
ไอ้สู้จนตัวตายน่ะมันก็เป็นความท้าทายอย่างหนึ่งในชีวิต แต่ก็นะ...แต่ถ้าพวกเจ้าตายไป
โดยที่แพ้ ไม่คิดเหรอว่าตายอย่างทุเรศสุดๆกว่ายิ่งที่พวกหนีไปก่อนแล้วตามมาเอาคืนที่หลังแล้วชนะน่ะ
” เอนส์ใช้นิ้วชี้ข้างขวาเคาะตรงขมับ “ เพราะฉะนั้นอย่าโง่ให้มากนัก ”
“
แล้วที่อาจารย์กาเร็ธยังบ้าที่จะเผชิญกับทุกสิ่งเลย ”
นักเรียนถามอย่างข้องใจ
กาเร็ธกระตุกยิ้มยียวน
“
อืมมมมม... ข้าบ้าอย่างที่เจ้าว่าจริงๆนั้นแหละ
แต่ข้ารู้ลิมิตตัวเองดี ไม่งั้นข้าไม่ยืนพร่ำเหมือนตาแก่ให้เจ้าฟังหรอก ” ร่างโปร่งหัวเราะในลำคออย่างนึกสนุก “ ก็เห็นเหตุการณ์หลายๆอย่างก็สนุกดี
แต่ถ้าไม่ไหว ข้าจะอยู่ให้โง่ทำไม ”
สถานการณ์ที่
3 เวลากวนประสาทชาวบ้าน | คงไม่ต้องอธิบายเยอะ เพราะอธิบายในหัวข้อนิสัยแล้ว
“ เฮ้ๆ ข้าจำได้ว่า ข้านัดพวกเจ้าไว้ตอนบ่ายโมงนี่ พวกเจ้ามาช้ากันไปหรือเปล่า?
สงสัยต้องมีการทำโทษ วันนี้เอาอะไรดี? ”
“ อาจารย์กาเร็ธ พวกข้ารู้ว่าท่านปรับนาฬิกา!!! ” อย่าคิดได้กินเลย!!!
สถานการณ์ที่ 3.5 เวลาถูกคนอื่นกวนประสาทกลับหรือถูกหาเรื่อง | อย่างที่แจ้งไว้เอนส์ไม่ชอบเรื่องอะไรแบบนี้
ถ้าคิดจะทำหมายถึงการท้าทายเขา เอนส์ย่อมต้องสั่งสอนให้อีกฝ่ายรู้สำนึกว่าควรทำกับตนอีกไหม
“ หือ?
ข้าได้ยินมาจากข่าวลือว่าท่านบ้านี่ แล้วจะสอนพวกข้าได้หรือเปล่า
ข้าไม่อยากเสียสติตามท่านหรอกนะ ” นักเรียนชายคนหนึ่งหัวเราะคิกคักกับกลุ่มเพื่อนมองเอนส์อย่างดูถูก
ร่างโปร่งรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายต้องเป็นเด็กเกคอยแกล้งตนแน่...
“ ข้าสอนได้หรือไม่ได้ นั่นขึ้นอยู่กับมันสมองของพวกเจ้าต่างหาก ” เขาฉีกยิ้มการค้าแต่ประโยคพูดมันเต็มไปด้วยการแขวะเต็มที
“ ว่าไงนะ! ”
“ ห๋า? เจ้าเป็นโรคหูตึงด้วยเหรอ ยูโทเปียไม่น่าคัดนักเรียนแบบนี้เข้ามาเลย ”
เอนส์แกล้งปลงเต็มที
คู่กรณีหน้าแดงด้วยความโกรธ วาดมือร่ายเวทย์อัดเอนส์ขึ้น
แต่ด้วยประสบการณ์มากกว่าปัดเวทย์กลับไปโดยง่ายดาย
พร้อมเสริมเวทย์คำสาปเล็กๆเป็นอันสั่งสอน
“ เฮ้ย! ” หูของอีกฝ่ายถูกเปลี่ยนเป็นหูของหมู
ส่วนก้นเองก็มีหางหมูงอกออกมา
“ อยู่อย่างงั้นไปสักคาบแล้วฉันจะแก้คำสาปให้นะ ” ขยิบตาส่งให้อย่างอารมณ์ดี
- ไรท์ถามเรื่องกุมความลับ
ถ้าเราอธิบายให้ไรท์เข้าใจได้ จะสรุปนิสัยของเอนส์ได้คราวๆทันทีค่ะ เรื่องนี้จะไปโยงที่หัวข้อนิสัยหมวดความฉลาดของเขาค่ะ
อย่างที่เกริ่นไว้ว่าเอนส์ฉลาดแต่ชอบทำตัวเฟรนลี่ทำให้คนอื่นคาดไม่ถึง
เขาเป็นเหมือนตัวละครประเภทคอยปกปิดตัวตน พยายามไม่ทำตัวเด่นจนกลายเป็นคนที่ไร้ค่าไปสำหรับบางคน
แต่เอาเข้าจริงเขานี่แหละคือตัวปัญหาอย่างที่สุด เขาทำให้คนมองว่าเขาบ้า
แต่จริงๆแล้วเอนส์เขากลับพวกมีความเก่งยิ่งกว่าคนที่เด่นๆในโรงเรียนเสียอีก
และเพราะฉะนั้นเรื่องความลับ เอนส์เขาเก็บเก่งอยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องกังวล
- ประเด็นเหมือนเอนส์มีอิสระนั้น... บางที่เราอาจจัดลักษณะนิสัยเป็นอย่างงั้นไปจริงๆ แต่พอมาแก้ก็เริ่มลดไปบ้างอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ ซึ่งคราวนี้จะมีอิสระอีกหรือไม่ แล้วแต่ตามสถานการณ์ต่างๆที่ไรท์สร้างขึ้นค่ะ
ช่วงตอบคำถาม
Chapter one
ภายในห้องสีขาวสะอาดบริสุทธิ์เอนส์ตื่นขึ้นมาก่อนหรี่ตาลงอย่างฉัับพลันให้กับแสงสว่างโดยรอบ
เมื่อปรับสภาพได้แล้วก็รับรู้ว่าตนไม่ได้อยู่เพียงคนเดียวในห้องนี้ เบื้องหน้าของเอนส์เด็กชายผู้มีเรือนผมสีดำกำลังนั่งหันหลังให้
พร้อมกับฮัมเพลงเบาๆเป็นจังหวะเนิบช้า
- “ หืมมมมม? ” เอนส์ลากเสียงยาวอย่างนึกสนุก
ใช้ดวงตาสองสีจ้องเด็กชายตรงหน้าอย่างหมายมั่น
เด็กชายตรงหน้าค่อยๆหันกลับมามองเอนส์ ใบหน้าของร่างเล็กมีหน้ากากสีขาวคลุมทับทั้งหน้า
เด็กชายเอียงคอสำรวจก่อนจะหัวเราะเสียงใส
"หลงมาหรอ?"
- “ คงงั้นมั้ง? ” เอนส์ฉีกยิ้มเล็กๆยักไหล่อย่างไม่แคร์สถานการณ์เท่าไหร่
เด็กชายหัวเราะอีกครั้ง ก่อนยันตัวลุกขึ้นเดินไปหาเอนส์
" ชอบมั้ย?ที่นี้น่ะ "
- ชายหนุ่มเหลือบตากวาดสายตามองรอบห้องอยู่นิดหน่อย “ ก็ชอบนะแต่ยังไม่ใช่ที่สุด ”
" ฮะ ฮะ ฮะ งั้นหรอๆ งั้นเราเดินไปด้วยกันมั้ย? "
ไม่รอคำตอบเด็กชายจูงมือเอนส์ออกเดินไปด้วยกันทันที
แถมยังแรงเยอะกว่าที่คิดด้วย
" สีขาวกับดำ ชอบอะไรมากกว่ากันหรอ? " เด็กชายถาม
- “ สีขาวสิ~ ” เอนส์ยักนิ้วชี้ด้านมือที่ไม่ได้ถูกจับมาจรดที่ริมฝีปาก
" เห...งั้นหรอ "
เด็กชายยังคงพาคนข้างตัวเดินไปอย่างไร้จุดหมาย
จนกระทั้งห้องสีขาวค่อยๆแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ
- “ หืม? เจ้าเนี้ยสร้างเรื่องแปลกๆให้ข้าอยู่เรื่อย ”
ชายหนุ่มมองเหตุการณ์อย่างเงียบๆมีแค่รอยยิ้มเล็กๆประดับตามบุคลิกเท่านั้น
หลังจากที่พื้นห้องสีขาวมลายหายไปสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าหมู่บ้านเล็กๆที่ปกคลุมด้วยป่าไม้นานาพันธุ์ดูเงียบสงบ
" แล้วที่นี่ล่ะชอบรึเปล่า? "
- “ น่าเบื่อไปนิด แต่ก็จะสนุกกว่านี้นะ
ถ้ามีเหตุการณ์อะไรขึ้นมาหน่อยจากความสงบอันแสนน่าเบื่อนี่ ” เอนส์ไม่ได้ปฎิเสธว่าไม่ได้ชอบสักทีเดียว
" ว่าแต่...ข้ายังไม่รู้ชื่อเจ้าเลยนี่นา ข้า... ยินดีที่ได้รู้จัก "
เสียงพูดชื่ออีกฝ่ายช่างพร่ามัวจนจับใจความไม่ได้
- “ เจ้าว่าอะไรนะ? ” แต่มันเหมือนมีมนต์สะกดบางอย่างว่าไม่ให้เอนส์สนใจมันมากเท่าไหร่นัก
แค่ตอบคำถามก็พอ “ ยินดีที่ได้รู้จัก
ข้าเอนส์ลีย์ กาเร็ธ ”
ทั้งคู่เดินมาถึงต้นไม่ต้นหนึ่งที่มีโขดหินสูงใหญ่พอที่ร่างเล็กของเด็กชายจะนั่งได้
เขาปีนขึ้นนั่งบนโขดหินก่อนจะดึงหน้ากากสองสีวางตรงหน้า
เป็นหน้ากากสีขาวและหน้ากากสีดำ
" อยากได้อันไหนเลือกเลย ข้าให้เจ้า " เด็กชายหัวเราะร่า
- เอนส์มองท่าทีเด็กชายอย่างพิจารณา “ สีดำ ” เขาเลื่อนหน้ากากมาเทียบหน้าตนครึ่งซีก
เด็กชายนิ่งงั้นมองการกระทำของคนตรงหน้า
จากนั้นเขาก็กระโดดลงจากโขดหินพร้อมกับจูงมือเอนส์ไปอีกทาง
" ไปกันเถอะ เราเสียเวลามานานมากแล้ว "
- “ ยังมีที่อื่นอีก? ” แววตาเขาเริ่มฉายความสนุกขึ้นมาอีกครั้ง
ทั้งคู่หยุดยืนตรงหน้าบ้านหลังหนึ่งที่ประตูมีสองบานเป็นสีขาวและดำ
เด็กชายเคาะประตูสีขาวหนึ่งครั้งก่อนยืนนิ่ง
ผ่านไปครู่หนึ่งเขาเดินไปหยุดหน้าบานประตูสีดำ เด็กชายเคาะประตูสองครั้ง
ก่อนถอยออกมายืนข้างๆเอนส์
"เข้าไปสิ ในนั้นคือทางที่เจ้าต้องไปต่อ"
น้ำเสียงของเด็กชายนั้นแปลกไปจากเดิม
มันก้องกังวาลและเปี่ยมด้วยมนต์บางอย่าง... รู้ตัวอีกทีร่างของเด็กชายก็หายไปเสียแล้ว
แถมยังได้ยินเสียงปิดประตูก่อนที่จะรู้สึกตัวเพียงเสี้ยววิอีกตังหาก
- เขาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายที่ความสนุกจบลง
ก่อนกวาดนิ้วชี้ข้างขวาชี้ไปมาสองประตู “ ดำ ขาว ดำ ขาว ”
เอนส์เงียบชั่วครู่ “ งั้นขาว ” แล้วเดินเข้าไปอย่างไม่ลังเล
Chapter two [Loading...]
- ทางข้อความลับ -
พูดคุยกับผปค.
ผู้ปกครองชื่ออะไรค่ะ ไรท์เตอร์ชื่ออาย๊า เรียกย๊าก็ไ้ค่ะ
- ว่านคนเดิมค่ะ ^0^
ทำไมมาสมัครเอ่ย
- เหมือนเดิมค่ะ สนใจแนวโรงเรียนเวทย์อยู่แล้ว
อย่าลืมติดตามลูกตัวเองด้วยนะคะ
- แน่นอนค่ะ!
เรื่องนี่มีโอกาสตายแน่ๆ รับได้นะคะ
- ตอบเหมือนเดิมค่ะ ว่าคงไม่ใช่เร็วๆนี้ 555 Q - Q
ขอให้ลูกโชคดีค่ะ จุ๊บ!
ความคิดเห็น