คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ข่าวดี
เด็กจากหมู่บ้านอินเมสเดินผ่านทางเดินซึ่งแท้จริงคือภายในท้องของอลัน เข้ามาถึงห้องพักที่มีนักเรียนชั้นปีหนึ่งคนอื่นพักอยู่ก่อนแล้ว ดีโน่กับเจสันเดินแยกออกมาเพื่อนักตรงมุมที่ยังว่างอยู่ ส่วนอังเดรและลูกสมุนทั้งสามเดินไปรวมกลุ่มกับพรรคพวกที่จองทีไว้ให้
“ซูซานจ๋า! ปิดเทอมไปเที่ยวไหนบ้างหรือเปล่า”
เสียงกลาเลนดังมาจากมุมหนึ่ง ไม่นานนักเด็กชายผมทองซึ่งรวบผมไว้หลวมๆ เดินกึ่งวิ่งมายังกลุ่มของดีโน่และตรงเข้าไปจับมือซูซานแฟนสาวที่มาจากหมู่บ้านเดียวกับดีโน่ทันที
“ใจคอนายจะไม่ทักทายเพื่อนบ้างเลยเหรอ”
อับดุล เด็กชายผิวคล้ำโพกหัวที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันบอกเพื่อนที่ดีใจออกหน้าออกตาเมื่อเจอแฟน กลาเลนบอกว่าอับดุลหงุดหงิดที่รุ่นพี่ปีสามไม่ได้เดินทางมากับอลันด้วย เพราะนักเรียนปีสองขึ้นไปสามารถเดินทางมาโรงเรียนได้ด้วยมังกรของตนเอง ทำให้อับดุลไม่ได้เจอกับ ‘โฮลี่’ รุ่นพี่สาวสวยที่อับดุลแอบปลื้มอยู่ หลังจากที่เด็กชายทักทายกันพอสมควร กลุ่มเด็กผู้หญิงที่รู้จักกันดีก็เดินมาสมทบ ‘ซาร่า’ เด็กหญิงผมยาวผิวขาวที่เรียนเก่งพอๆกับเจสัน ‘แมรี่’ สาวอวบที่ทำอาหารเก่งเนื่องจากที่บ้านเป็นร้านอาหาร และ ‘พีเรร่า’ หรือพัฟพ์ เด็กผู้หญิงตัวเล็กที่มักอุ้มตุ๊กตาหมีตัวให่ไปไหนมาไหนเสมอ แต่คราวนี้ดีโน่กับเจสันต้องแปลกใจที่ไม่เห็นพัฟพ์อุ้มตุ๊กตาหมีมา
“ตุ๊กตาของเธอล่ะ” เจสันถาม
แมรี่บอกให้เพื่อนชายที่มาใหม่แทนพัฟพ์ว่าพัฟพ์ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองจึงลองไม่อุ้มตุ๊กตาดู และเปลี่ยนแนวการแต่งตัวเสียใหม่โดยมาตัวเธอเป็นคนดูแลให้ เจสันและดีโน่มองสำรวจถึงการเปลี่ยนแปลงของพัฟพ์ เสื้อผ้าที่เด็กหญิงใส่เปลี่ยนจากชุดยาวเป็นเสื้อลายทาง กางเกงขาสั้นสีขาว มีริบบิ้นผูกแทนเข็มขัด พัฟพ์รู้สึกอายที่มีผู้ชายมองถึงสองคนทำให้เด็กหญิงต้องหลบหลังแมรี่แบบเดิม
“เฮ้...มาหลบหลังฉันแบบนี้ เธอก็เหมือนเดิมสิ” แมรี่พูดแล้วดันร่าของเพื่อนหญิงออกมาข้างหน้า และกระซิบกับเพื่อน “นึกไว้สิว่าเธอเปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร”
หลังจากที่นักเรียนพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ช่วงปิดเทอมกันอยู่พักใหญ่ ครูแคทเธอรีนก็เดินเข้ามาในห้อง เพื่อดูความเรียบร้อย
“สวัสดีนักเรียนทุกคนนะจ๊ะ” ครูสาวกล่าวทักทายอย่างเป็นทางการหลังจากทักทายนักเรียนตอนรับขึ้นมา “อีกไม่นานเราก็จะถึงโรงเรียนกันแล้ว เตรียมพร้อมกับการเรียนวิชาใหม่ๆกันหรือยังเอ่ย”
“คราวนี้ครูไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาโจมตีเราระหว่างทางอีกแล้วครับ” อังเดรโพล่งขึ้นมา “เพราะผมบอกพ่อไว้เรียบร้อยแล้ว และพ่อรับปากว่าจะไม่มีใครมาทำร้ายพวกเราได้”
ดีโน่และเจสันมองหน้ากัน ก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อย ดีโน่คิดไปถึงเหตุการณ์ตอนที่ถูกมังกรดำลึกลับโจมตีตอนมาโรงเรียนครั้งแรก และครูจอร์จช่วยให้ทุกคนรอดปลอดภัย แต่แท้จริงแล้วครูจอร์จเพียงแค่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับเด็กนักเรียนใหม่และครูบางคนที่เริ่มสงสัยในตัวเขา แต่แผนการนี้ไม่สามารถตบตาเซอร์ไพธอนผู้เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ได้ ทำให้ครูจอร์จถูกมอบหมายงานให้ไปในที่ไกลออกไป แต่อย่างไรก็ตามครูผู้เป็นสมาชิกของดราโกบลัดก็ย้อนกลับมาลักพาตัวเขา เพื่อไปแก้ผนึกราชันย์มังกร เรื่องราวนี้มีในบรรดานักเรียนดีโน่คาดว่ามีเพียงแค่เขาและเจสันเท่านั้นที่รู้เรื่อง จึงไม่แปลกใจที่อังเดรจะคิดว่าการโจมตีคราวนั้นเป็นการโจมตีจากผู้ไม่หวังดีต่องานของพ่อตน
“หมอนั่นไม่เปลี่ยนเลยนะ” อับดุลพูดเบาๆ
เหมือนกับว่าอังเดรได้ยินที่อับดุลพูด เด็กชายร่างอ้วนจึงเดินรี่เข้ามาหากลุ่มของดีโน่ทันที
“พวกนายยังไม่เห็นเหรียญนี่สินะ”
อังเดรโอ้อวดเหรียญตราแห่งความภาคภูมิของเขาให้ทุกคนในกลุ่มของดีโน่ฟัง เด็กที่มาจากหมู่บ้านอินเมสทั้งสามเบือนหน้าหนีเพราะไม่ต้องการฟังเรื่องนี้แล้ว ส่วนพวกซาร่า รวมทั้งอับดุลก็ไม่พิสมัยเรื่องแบบนี้สักเท่าไร
“ท่าทางนายจะสนใจเหรียญนี่นะ” อังเดรพูดกับกลาเลนที่มองเหรียญเงินบนอกของตน
“เปล่า...”
กลาเลนปฏิเสธและเดินไปหาซูซานเพื่อคุยเรื่องอื่น สร้างความโมโหให้อังเดรไม่ใช่น้อยจนเกือบมีเรื่องกัน แต่ครูแคทเธอรีนมาห้ามไว้เสียก่อน
“พวกเธอเป็นเพื่อนกันหรือเปล่า!” ครูสาวแผดเสียง “ถ้าไม่เลิกทะเลาะกัน ถึงโรงเรียนแล้วครูจะฟ้องอาจารย์ใหญ่นะ”
คำขู่ของครูสาวได้ผล เมื่อนึกถึงใบหน้าที่น่ากลัวของอาจารย์ใหญ่เด็กทั้งสองจึงแยกออกจากกันทันที แต่ไม่วายที่จะคุยอย่างหงุดหงิดกับกลุ่มของตนเอง
“มันอิจฉาฉันแน่ๆ” อังเดรพูดกับมินเนียนลูกน้องร่างเล็กที่เปรียบเสมือนมันสมองของกลุ่ม “ลูกคนขี่มังกรจะไปมีปัญญาเห็นเหรียญแบบนี้ใกล้ๆได้ยังไง”
กลาเลนได้ยินอังเดรพูดถึงทางบ้านของตนแทนที่จะโกรธกลับมีรอยยิ้มเล็กๆ และหัวเราะเบาๆ ทำให้เพื่อนแปลกใจ แต่นักเรียนผมทองกลับบอกว่าไม่มีอะไรและขอตัวไปคุยกับซูซานต่อ
เด็กนักเรียนชั้นปีหนึ่งทยอยออกมาจากอลันและเดินมาต่อแถวที่ครูแคทเธอรีนประกาศไว้ หลังจากที่ทุกคนออกมาหมด ครูแคทเธอรีนก็ทำการผนึกอลันกลับเข้าไปในสร้อยคอที่ทางโรงเรียนมอบหมายให้ สร้างความตื่นเต้นให้กับคนที่เพิ่งเคยเห็นการผนึกมังกรขนาดใหญ่แบบนี้เป็นครั้งแรก ยกเว้นดีโน่กับเจสันที่เคยเห็นพ่อของเจสันผนึกโกร่ามาแล้ว ครูแคทเธอรีนบอกว่าในเทอมนี้นักเรียนชั้นปีหนึ่งก็จะได้เรียนการผนึกมังกรด้วยเหมือนกัน แต่ตอนนี้ครูสาวอนุญาตให้ทุกคนกลับห้องพักเพ่อพักผ่อนได้จนกว่าจะถึงเวลาอาหารเย็น
ดีโน่และเพื่อนร่วมห้องทั้งสาม ได้แก่ เจสัน อับดุล และกลาเลนเปิดประตูเข้ามาในห้องพักของตนเพื่อนเก็บสัมภาระให้เข้าที่ จากนั้นอับดุลจึงทิ้งตัวลงบนเตียงนอนเพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง
“พวกนายนี่อายุยังน้อยอยู่เลย เดินทางกลับมาโรงเรียนทั้งทีกลับมานอนเสียได้”
เด็กชายทั้งสี่หันไปมองคนพูดแซวที่ยืนอยู่นอกหน้าต่าง ก็พบ ‘โวสต์’ นักเรียนชั้นปีสองที่มักสวมเสื้อคลุมของโรงเรียนที่แตกต่างจากคนอื่น เพราะเสื้อคลุมของโวสต์มีแผงคอสีเทาคล้ายเสื้อโค๊ด ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเป็นสัญลักษณ์ของผู้ครองโรงเรียน อับดุลรีบลุกขึ้นนั่งเพราะเขาจำได้ว่าโวสต์เป็นหัวหน้ากลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในโรงเรียน แต่เจสันกับดีโน่เคยเห็นโวสตหลายครั้ง เพราะโวสต์เป็นเพื่อนกับคาเฟอีนนักเรียนที่อาศัยอยู่ชั้นใต้ดินของโรงเรียนที่เจสันเป็นผู้ช่วยอยู่ ทำให้ทั้งคู่ไม่ค่อยเห็นว่าโวสต์น่ากลัวสักเท่าไร
“ดูเหมือนว่าพวกนายจะเก่งขึ้นนะ” โวสต์พูดหลังจากเพ่งมองดีโน่กับเจสันที่มีแววตามั่นใจตัวเองมากกว่าก่อน
“พี่มาที่นี่มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ” ดีโน่ถาม
โวสต์ส่ายหน้าก่อนจะโยนของขวัญกล่องเล็กๆให้กับอับดุล เด็กชายโพกผ้ารับมาดูป้ายที่ติดมาด้วยเมื่อเห็นชื่อผู้ส่งเด็กชายถึงกับอุทานเสียงดัง
“พี่โฮลี่! พี่โฮลี่ส่งนี่มาให้ฉัน”
“เฮ้ย!” โวสต์ส่งเสียงเพื่อเรียกสติของอับดุลให้กลับมา
เมื่ออับดุลหันมามองหน้าโวสต์ เด็กชายถึงกับขาอ่อนหมดเรี่ยวแรง เพราะดวงตาบนใบหน้าขาวซีดของหัวหน้าแก๊งค์มองเขาดูอย่างไม่เป็นมิตรนัก โวสต์เตือนอับดุลว่าอย่ายุ่งกับผู้หญิงคนนี้ให้มาก จากนั้นรุ่นพี่ปีสองจึงทิ้งตัวลงจากหน้าต่างไป ทำให้เด็กทั้งสี่นึกได้ว่าห้องพักของพวกเขาอยู่สูงจากพื้นประมาณตึกสามชั้น แต่เมื่อชะโงกหน้าไปดูก็ไม่พบร่องรอยของรุ่นพี่เสียแล้ว
“รุ่นพี่สุดสวยของนายส่งอะไรมาให้เหรอ” กลาเลนเทียบเคียงเข้ามาถามเพื่อนสนิท
เด็กชายอับดุลค่อยๆบรรจงแกะห่อของขวัญออกอย่างประณีต เมื่อเปิดกล่องกระดาษขึ้นจึงพบว่าของที่อยู่ภายในเป็นสร้อยคอเล็กๆเส้นหนึ่ง ซึ่งมีลูกแก้วเป็นจี้
“เธออาจได้ใช้มัน” อับดุลอ่านกระดาษที่แนบมากับสร้อยให้เพื่อนทั้งสามที่ล้อมรอบฟัง “พวกนายคิดว่าหมายความว่ายังไง”
“แต่ฉันติดใจเรื่องที่พี่โวสต์เตือนนายมากกว่า” เจสันพูดสิ่งที่คิดไว้ในใจออกมา “นายคิดว่าพี่โวสต์กับพี่โฮลี่เป็นอะไรกัน ทำไมก่อนไปพี่โวสต์ถึงเตือนนายแบบนั้น”
กลาเลนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะพูดเบาๆ
“หรือว่าพวกเขาเป็นแฟนกัน”
“ไม่มีทาง!” อับดุลแย้งเสียงดัง และเก็บสร้อยคอเข้าลิ้นชัก “ฉันคิดว่ารุ่นพี่โวสต์แค่แอบชอบรุ่นพี่โฮลี่อยู่เท่านั้น”
เพื่อนทั้งสามยังไม่อยากแย้งอับดุลในตอนนี้ จึงชวนกันไปห้องอาหารเพื่อทานอาหารเย็น
ห้องอาหารอันใหญ่โตของโรงเรียนดูเล็กลงไปถนัดตา เพราะเด็กนักเรียนทั้งสามชั้นปีที่อาศัยสถานที่แห่งนี้เป็นจุดแลกเปลี่ยนและพูดคุยเรื่องราวระหว่างปิดภาคเรียนที่หนึ่ง โต๊ะยาวนับสิบตัวถูกจับจองโดยนักเรียนชั้นต่างๆ จนมังกร ‘ปารัส’ ที่มีหน้าที่รับใช้เรื่องต่างๆ ต้องบินกันว่อนเพื่อนำเก้าอี้เสริมมาให้ ทำให้ภายในห้องอาหารดูวุ่นวายพอสมควร
“ขอบใจนะ”
อับดุลพูดกับปารัสตัวหนึ่งที่นำเก้าอี้เสริมมาให้พวกเขา เพื่อให้สามารถนั่งโต๊ะเดียวกับกลุ่มซาร่าได้ พร้อมยื่นขนมปังให้ชิ้นหนึ่ง ปารัสตัวนั้นก้มศีรษะขอบคุณอับดุลก่อนจะรับขนมปังและบินไปช่วยงานที่อื่นต่อ
“วันนี้วุ่นวายน่าดูเลยนะ” ดีโน่พูดเมื่อนั่งลงบนเก้าอี้หลังจากมองบรรยากาศรอบๆสักพัก “พวกเธอมากันนานแล้วเหรอ”
“เพิ่งมาไม่นานนักหรอก” ซาร่าตอบ
นักเรียนชายหญิงกลุ่มดีโน่ทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย พลางหยอกล้อกันไปด้วย จนกระทั่งทานอาหารเสร็จ ซาร่าจึงถามดีโน่ว่าเห็นประกาศใหม่ที่ป้ายประกาศหรือยัง
“อ้าว! พวกเธฮยังไม่ได้ไปที่ป้ายประกาศหรือ” ซาร่าอุทาน “พวกเธอควรไปที่นั่นเป็นที่แรกนะ เพราะจะได้รู้ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า”
ดีโน่และเพื่อนๆพยักหน้า พลางคิดเหมือนกันว่าพวกเขารอฟังข่าวจากซาร่าก็ไม่ต่างกัน เพราะเธอมักวนเวียนไปยังป้ายประกาศเสมอ ทำให้พวกเขาได้รับรู้ข่าวคราวต่างๆได้รวดเร็วกว่ากลุ่มอื่น จากนั้นจึงถามซาร่าว่ามีข่าวอะไรใหม่
“ข่าวนี้เป็นข่าวดีมากทีเดียวแหละ” แมรี่ตอบแทนและโน้มตัวมาข้างหน้าเพื่อบีบให้วงสนทนาแคบลง
“หา!” กลาเลนอุทานเสียงดังจนหลายดต๊ะหันมามอง
“เธอจะร้องไปทำไม!” ซูซานดึงหูเพื่อนชาย ทำให้กลาเลนงียบและผงกหัวขอโทษโต๊ะอื่นๆ
“ถ้าประกาษนั้นเป็นเรื่องจริง ก็ถือว่าเป็นข่าวใหญ่และข่าวดีมากเลยทีเดียวนะ” ดีโน่พูดและมองหน้าเจสัน
ความคิดเห็น