คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : โรเจอร์ อาล
เสียงร้องคำรามอันดังสนั่นราวกับสามารถทำลายโลกได้ทั้งใบ ปลุกให้เด็กชายวัยสิบสามปีที่นอนนิ่งอยู่ให้สะดุ้งตื่นขึ้น ดีโน่จำได้ว่าเขาเพิ่งผ่านการต่อกรกับมังกรไม้เพื่อให้เข้าประตูในถ้ำแซนกรีส และเขาสลบไปเนื่องจากฝืนใช้ความสามารถของกรีสจนเกินกำลัง แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขาคือมังกรดำที่ดีโน่จำได้ว่าเขาพบเห็นบ่อยๆในความฝัน กำลังต่อสู้อยู่กับลูกไฟสีขาวที่พุ่งไปมาอยู่กลางอากาศ
“คุณอาอัศวิน!” ดีโน่อุทานเพราะไม่อยากเชื่อว่าอัศวินเกราะขาวที่ช่วยชีวิตเขาเสมอเมื่อเขาถูกมังกรดำโจมตีในความฝัน ซึ่งน่าจะเสียชีวิตไปแล้วจากการฝันครั้งสุดท้าย
อัศวินเกราะขาวพุ่งลงมาหาดีโน่พร้อมดาบขนาดใหญ่ในมือ ที่เพิ่งผ่านการฟันคลื่นลำแสงซึ่งปล่อยออกมาจากปากของมังกรดำไปหมาดๆ
“องค์ชาย!” อัศวินเกราะขาวเรียกดีโน่ด้วยคำเรียกที่คุ้นเคย “แผนการของมันเริ่มอีกแล้ว องค์ชายรีบไปเถิด”
ในระหว่างที่อัศวินเกราะขาวพูด ดีโน่พิจารณาร่างกายของผู้ช่วยชีวิตที่ไม่มีบาดแผลซึ่งเคยเห็นครั้งล่าสุดแม้แต่น้อย จนกระทั่งอัศวินตวาดเพราะมังกรดำไม่ปล่อยให้เขาทั้งสองได้พูดกันนานนัก
ดีโน่รีบวิ่งไปยังทิศทางที่เขาคุ้นเคย เพราะเขารู้ว่าเอยู่ในความฝันและตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องตื่น!
“คุ้มครององค์ชายด้วยนะ...ลูกข้า...”
อัศวินเกราะขาวพูดเบาๆก่อนจะหันไปสนใจเป้าหมายขนาดใหญ่เบื้องหน้า และพุ่งทะยานกลายเป็นลูกไฟสีขาวออกไปอย่างไม่มีความหวั่นเกรง
“ตื่นแล้วเหรอ”
ดีโน่มองหน้าเพื่อนรักที่ถามเขา พร้อมมองบรรยากาศรอบตัว ผนังห้องที่ทำจากทรายแต่สะท้อนเปลวไฟจากกองไฟกลางห้องเป็นสีทองราวับทองคำ เสาสองต้นที่มีมังกรซึ่งมีดวงตาเป็นอัญมณีเป็นเครื่องประดับพันไว้โดยรอบ บ่งบอกว่าตอนนี้เขาอยู่ในห้องที่เขาได้กรีสมาเมื่อหลายเดือนที่แล้ว สภาพของห้องนี้ไม่แตกต่างจากเดิมนอกจาก กรีสที่เดินดูรอบห้องพร้อมทีฟ์เปอร์ และชายอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆเจสัน
เด็กชายที่เพิ่งฟื้นจากการสลบส่ายศีรษะเบาๆเนื่องจากยังรู้สึกเพลียนิดหน่อย เจสันส่งน้ำมาให้ดีโน่ดื่มและบอกว่าดีโน่จะเพลียอยู่บ้าง เพราะการใช้ความสามารถของกรีสสองอย่างพร้อมกันจะต้องอาศัยสมาธิและประสบการณ์มากพอสมควร ซึ่งสำหรับดีโน่แล้วยังมีสองสิ่งนี้ไม่เพียงพอ
“นายรู้ได้ยังไง”
เจสันชี้มือไปทาง ชายอายุประมาณสามสิบต้นๆ สวมผ้าเก่าๆ ผมสีทองของเขาดูยุ่งเหยิงสมกับเสื้อผ้าของเขา ข้างกายของชายผมทองมีห่อผ้าเก่าๆสองห่อ ซึ่งดูผ่านๆไม่มีค่าอะไร แต่ท่าทางของชายคนนั้นดูจะหวงห่อผ้านั้นมาก เพราะเขาวางสิ่งนั้นไว้ข้างกายตลอดเวลา ต่างจากข้าวของอื่นๆของเขาที่วางเกะกะเต็มห้อง
“เขาชื่อ โรเจอร์ อาล” เจสันแนะนำตัวแทน “เขาบอกว่าเขาเป็นคนซ่อมและป้อนคำสั่งใหม่ให้กับ ‘อูโบ’ เอง”
“อูโบ” ดีโน่ทวนชื่อแปลกๆที่เจสันอ้างถึง
“มังกรไม้ที่พวกเธอชนะอย่างทุลักทุเลไงล่ะ” อาลพูดเนื่อยๆราวกับคนเพิ่งตื่นนอน
เจสันถ่ายทอดเรื่องที่อาลเล่าให้เขาฟังระหว่างที่ดีโน่หลับอยู่ให้ดีโน่ฟัง โดยบอกว่าอาลเป็นนักสำรวจสถานที่ต่างๆ เขาเดินทางมายังถ้ำแซนกรีสเพราะได้ยินคำร่ำลือเกี่ยวกับสถานที่ที่มีวิญญาณสถิตอยู่ แต่เมื่อเข้ามาก็พบว่าความเร้นลับของที่นี่ถูกเปิดเผยเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อเห็นว่ามีคนกำลังเข้ามาจึงดัดแปลงอูโบเพื่อทดสอบผู้ที่เข้ามา
“ไม่นึกว่าเธอจะเป็นคนที่เคยผ่านอูโบมาแล้ว” อาลพูด
ดีโน่ถามว่าทำไมอาลถึงรู้ว่ามังกรไม้นี้ชื่อว่าอูโบ แต่คนที่ตอบคำถามกลับเป็นเจสัน เพราะคำถามนี้เขาเพิ่งถามอาลไปไม่นานนัก เจสันบอกว่าอาลเดินทางไปทั่วสารทิศ จนได้พบกับผู้ที่สร้างอูโบ และรู้ข่าวคราวของถ้ำแซนกรีสจากเขาคนนั้น
“ว่าแต่ใครเป็นคนสร้างอูโบล่ะครับ” เจสันถามอาลในเรื่องที่ตนยังไม่รู้
“อัศวินในชุดเกราะสีขาว”
คำตอบของอาลทำเอาดีโน่ชะงัก และรีบถามว่าอาลพบกับอัศวินคนนั้นเมื่อไรและที่ไหน เพราะอัศวินที่อาลเอ่ยถึงอาจเป็นคนเดียวกับคุณอาอัศวินที่ตนเคยพบในฝัน แต่อาลบอกว่าเขาพบกับอัศวินคนนั้นนานมากแล้วและจำไม่ได้ว่าพบกันที่ไหน
หลังจากที่เด็กทั้งสองคุยกับอาลนานพอสมควร ดีโน่ก็รู้สึกเหมือนกับว่าเคยได้ยินเสียงอาลมาก่อน และนึกได้ว่าเสียงของอาลเป็นเสียงเดียวกับที่ได้ยินตอนสู้กับอูโบ
“คุณเป็นคนบอกผมเรื่องการใช้ความสามารถร่วมกันของกรีสใช่ไหมครับ” ดีโน่รีบถามอาล
อาลมองมายังดีโน่ จากนั้นจึงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนบอกเพิ่มว่าตนเป็นคนติดกระดาษไว้บนประตูด้วย ดีโน่จึงถามต่อว่าทำไมอาลถึงรู้ว่ากรีสมีความสามารถอะไร
อาลขยับตัวขึ้นมานั่งหลังจากที่นอนคุยตลอด สายตาที่มองมายังดีโน่เปลี่ยนจากเฉื่อยชาเป็นแววตาที่คมดุจมีด
“มังกรตัวนั้นเป็นเป้าหมายที่กลุ่มของเราต้องจัดการ...”
สิ้นเสียงพูดของอาล ชายผมทองก็ซัดมีดสั้นที่เตรียมไว้ใต้เสื้อคลุมใส่กลไกบนผนัง ทำให้มีกรงเหล็กขนาดใหญ่หล่นลงมาครอบกรีสและทีฟ์เปอร์ไว้ และทรายที่พื้นก็ก่อตัวขึ้นมาครอบไว้อีกที
ดีโน่และเจสันรีบลุกขึ้นไปอยู่หน้ากรง ส่วนอาลค่อยๆลุกขึ้นยืนและบรรจงแกะห่อผ้าข้างกายอย่างประณีต เมื่อผ้าที่ห่อไว้ร่วงลงพื้นก็ปรากฏให้เห็นดาบสองเล่มที่ส่งประกายสีเหลืองราวกับทองคำ ปลอกของดาบมีลวดลายแปลกๆ แตกต่างกัน
“ฉันลืมบอกเธอไป เจสัน” อาลพูดช้าๆ “นอกจากเป็นนักสำรวจแล้ว ฉันยังเป็นสมาชิกของดราโกบลัดอีกด้วย”
อาลเดินมาทางเด็กทั้งสองช้าๆเหมือนกับคำพูดของเขา พลางบอกว่าการควบคุมมังกรของทั้งสองมีจุดอ่อนที่ใหญ่หลวงสามข้อ ซึ่งข้อแรกคือพวกเขาจะทำอะไรไม่ได้เมื่ออยู่ห่างจากมังกร
“ไม่มีประโยชน์หรอก” อาลบอกเมื่อเห็นว่าทั้งสองพยายามควบคุมให้มังกรของตนทำลายคุกทรายออกมา “สมาธิของเธอยังผ่านสิ่งกีดขวางพวกนี้ไม่ได้หรอก”
ชายผมทองเดินไปหยิบดาบสองเล่มในห่อสัมภาระของตนโยนให้กับเด็กทั้งสอง ดาบปักตรงพื้นหน้าเด็กทั้งสองอย่างพอเหมาะ จากนั้นอาลจึงถอยออกไปเกือบถึงมุมห้อง
“ลองทำอะไรด้วยตัวเองดูสิ...องค์ชาย”
ดีโน่และเจสันมองหน้ากันก่อนจะหยิบดาบขึ้นมา และพุ่งเข้าหาอาล
‘เคร้ง’
ดาบสีทองเล่มหนึ่งของอาลปัดดาบของเด็กทั้งสองกระเด็นทั้งๆที่ยังไม่ถูกชักออกจากฝัก ส่วนปลายดาบอีกเล่มหนึ่งซึ่งปลดออกจากฝักเผยให้เห็นดาบที่คมกรีบจ่ออยู่ที่คอของเจสัน
“จุดอ่อนข้อที่สองขององค์ชายคือ...เพื่อน”
ดีโน่ถอยหลังเมื่อเห็นว่าเจสันถูกดาบจ่อที่คอ อาลสะบัดดาบอีกเล่มในมือออกจากปลอก และจ่อไปที่อกของดีโน่
“สุดท้ายคือ...องค์ชาย”
ดีโน่เข้าใจถึงความหมายที่อาลต้องการจะสื่อ จุดอ่อนที่ใหญ่หลวงที่สุดของเขาคือ เขาไม่สามารถปกป้องตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ถูกครูจอร์จจับตัวไปหรือในความฝัน เขาจะได้รับการช่วยเหลือจากกรีสหรือคนอื่นอยู่เสมอ
“หวังว่าพวกเธอจะตั้งใจเรียนในเทอมต่อไปนะ”
อาลพูดทิ้งท้ายก่อนจะเก็บดาบและเดินจากไป ทิ้งให้ดีโน่และเจสันที่มีความงงงวยยืนนิ่งอยู่เพียงสองคน หลังจากที่อาลเดินออกไปแล้ว คุกทรายก็ทลายลงมา กรีสและทีฟเปอร์รีบเดินมาหาเจ้านายของตนทันที
ด้านนอกของถ้ำแซนกรีส ซึ่งเป็นเวลาเย็นแล้ว อาลเดินออกมาพร้อมห่อสัมภาระและดาบสุดหวงสองเล่ม เสื้อคลุมสกปรกดูเก่ายิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับความสวยงามขณะดวงอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า อาลหยุดยืนและมองดวงอาทิตย์ที่กำลังหมดหน้าที่ของวันนี้ และหันไปทางก้อนหินก้อนใหญ่แถวนั้น
“ออกมา...”
สิ้นเสียงของอาล ชายสวมหน้ากากที่เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มดราโกบลัดสามคนก็เดินออกมาจากหลังก้อนหินนั่น
“ท่านอาล” ชายทั้งสามเอ่ยพร้อมก้มศีรษะแสดงความเคารพ
“พวกแกมาทำไม” อาลถามเสียงเรียบและแผ่วเบา
“ตอนนี้องค์ชายไม่มีใครคุ้มครอง กระผมว่าเราเข้าไปนำตัวองค์ชายไปหาบารอนเปเทนเลยดีว่าครับ” หนึ่งในชายทั้งสามเสนอความคิดและทำท่าจะเดินเข้าไปในถ้ำ
ดาบสีทองของอาลยื่นมาขวางหน้าผู้ที่คิดจะล่วงล้ำเข้าไปในถ้ำอย่างรวดเร็ว สายตาของอาลจับจ้องมายังสมาชิกกลุ่มแสดงให้เห็นว่าไม่ต้องการทำเช่นนั้น
“กลับไป...”
สมาชิกกลุ่มดราโกบลัดที่เหลือมองหน้ากัน แล้วตัดสินใจไม่ฟังคำสั่งของอาล เพราะคิดในใจว่าหากสามารถพาตัวองค์ชายกลับไปได้ จะสามารถดันตนเองให้ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงๆได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งสามหารู้ไม่ว่าความคิดของพวกตนนั้นผิดตั้งแต่ไม่ฟังคำสั่งของอาลแล้ว
ชายที่ถูกดาบขวางอยู่ไม่ทันที่จะขยับตัวก็ถูกคมดาบของอาลฟันเข้ากลางหน้าอก ส่วนอีกสองคนที่เหลือก็ต้องล้มลงไปนอนเพียงแค่พริบตา เพราะความเร็วของอาลที่เหนือเกินคำบรรยาย
“ถ้าไม่อยากกลับก็อยู่ที่นี่ตลอดไปเถอะ”
อาลเก็บดาบเข้าฝักและเดินออกไป โดยไม่สนใจร่างของชายทั้งสามที่มีเปลวไฟแผ่พุ่งออกมาจากบาดแผลและครอบคลุมเพื่อเผาร่างของผู้ถูกคมดาบจนมอดไหม้ จากนั้นสายลมที่พัดมาก็พัดนำเอาเถ้าถ่านของชายทั้งสามหายไป
“อาจารย์นะ...ให้งานอะไรมาก็ไม่รู้...น่าเบื่อชะมัด...” อาลบ่นระหว่างที่มุ่งไปสู่จุดหมายอันไกลออกไป
ความคิดเห็น