ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดรากูน โรงเรียนฝึกมังกร ภาค 2 ตอน : ดาบแห่งราชัน

    ลำดับตอนที่ #15 : การประชุมอันวุ่นวาย

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.พ. 50


                    วันเวลาในโรงเรียนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ผลัดกันทำงานมาหลายครา เด็กนักเรียนก็หมั่นฝึกฝนและขยันเรียนเพื่อเพิ่มพูนวิชาความรู้ จากความเหนื่อยล้าเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเคยชิน จากไม่ชอบเปลี่ยนเป็นสนใจ วิชาต่างๆที่นักเรียนท้อถอยคิดว่าไม่สามารถเรียนได้ หลังจากได้รับคำชี้แนะจากครูและกำลังใจจากเพื่อนๆ ทำให้สามารถเข้าใจและตามเพื่อนคนอื่นได้ทัน

                    มากันครบหรือยังเนี่ย แมรี่ถามพลางหันไปรอบเพื่อนับจำนวนเพื่อน

                    นักเรียนชั้นปีหนึ่งทุกคนมารวมกันหน้าโรงเก็บมังกร เพราะวันนี้เป็นวันกำหนดในการตัดสินใจว่าจะให้ใครเป็นตัวแทนของชั้นปีเพื่อเป็นสมาชิกหน่วยควบคุมเด็กนักเรียนแห่งดรากูน หลังจากฟังการอธิบายของเจสัน

                    เจสันตื่นเต้นไม่ใช้น้อย เพราะถึงแม้ว่าเขาจะถ่ายทอดในสิ่งที่ได้ฟังมาจากรุ่นพี่คาเฟอีนให้เพื่อนๆฟังว่าแทนที่จะแข่งกัน หากใช้วิธีส่งตัวแทนไปเป็นสมาชิกหน่วยจะทำให้รักษามิตรภาพของเพื่อนเอาไว้ อีกทั้งยังง่ายเวลาจะเสนอความคิดอะไรไปอีกด้วย แต่เขาไม่มั่นใจว่าตนเองจะมีความสามารถในการโน้มน้าวใจดีเท่ากับคาเฟอีนหรือไม่ ในทางกลับกันถ้าเพื่อนฟังแล้วไม่เห็นด้วยอาจทำให้มิตรภาพที่มีต่อกันขาดสะบั้นลงเลยก็เป็นได้

                    รู้สึกจะขาดแค่อับดุลนะ พัฟพ์บอกเมื่อเห็นว่ากลาเลนและซูซานเดินมาถึงแล้ว

                    หมอนี่มาสายประจำเลย แมรี่ฉุน

                    ระหว่างที่ทุกคนหาที่นั่ง กลาเลนและซูซานมาสมทบกับพวกดีโน่และถามว่าเริ่มการประชุมหรือยัง ดีโน่แซวว่ารออับดุลเพื่อนสนิทของกลาเลนอยู่ เด็กชายผมทองจึงหยิบก้อนหินก้อนเล็กๆและขว้างไปยังโคนต้นไม้ใหญ่

                    อันตรายนะเพื่อน อับดุลร้องขึ้นพร้อมก้อนหินในมือ

                    เพื่อนๆทุกคนตกใจเมื่อเห็นอับดุล และรู้ทันทีว่าอับดุลใช้การพรางจิต ทำให้เพื่อนบางคนไม่พอใจที่ใช้สิ่งที่เรียนมาเพื่อแกล้งคนอื่น

                    ขอโทษๆ ฉันอยากลองวิชานี่นา อับดุลขอโทษเพื่อนๆ และเดินมารวมกลุ่มกับดีโน่

                    นายพรางจิตได้ตั้งแต่เมื่อไรน่ะ เจสันถามเพราะตัวเขาเองยังไม่ผ่านการทดสอบของครูอาลเลย

                    สามวันก่อน อับดุลตอบ โชคดีที่ได้กลาเลนสอนให้

                    ถ้าฉันรู้ว่านายจะเอามาใช้แกล้งคนอื่น ฉันคงไม่สอนให้นายหรอก

                    อับดุลแซวว่าถ้าเขาไม่เห็นกลาเลนแอบสอนให้ซูซานสองต่อสอง กลาเลนเองคงไม่สอนให้เขาหรอก ทำให้เพื่อนๆแซวกลาเลนจนกลาเลนกับซูซานหน้าแดง เจสันถามกลาเลนว่าทำไมกลาเลนถึงรู้เรื่องวิชาศิลปะการต่อสู้ดีนัก เพราะมีกลาเลนเพียงคนเดียวที่สามารถหลบดาบของปารัสห้าตัวที่ฟาดใส่ได้หมด

                    เอ่อ... กลาเลนอึกอัก แต่ยังไม่ทันที่จะตอบอังเดรก็ตะโกนแทรกขึ้นมา

                    มากันครบแล้วนะ เมื่อไรจะเริ่มสักที

     

                    เจสันเดินมาอยู่หน้ากลุ่มเพื่อนๆ และถามว่าหลังจากเขาให้เวลาคิดเรื่องส่งตัวแทนเป็นสมาชิกแทนการแข่งแย่งกันเอง ทุกคนมีความเห็นว่าอย่างไร เมื่อได้ฟังคำตอบว่า ตกลงเด็กชายแทบทรุดลงนั่งเหมือนกับว่าได้ยกภูเขาออกจากอก จากนั้นจึงให้ทุกคนเสนอชื่อสมาชิกห้าคนเพื่อเป็นตัวแทนของนักเรียนชั้นปีหนึ่งไปเป็นสมาชิกของหน่วยควบคุมเด็กนักเรียนแห่งดรากูน

                    ระหว่างที่นักเรียนร่วมสามสิบคนเริ่มปรึกษากันว่าจะส่งใครไปเป็นตัวแทน มินเนียนก็เสนอแรกขึ้นมาทันที

                    อังเดร ยาห์โลฟ ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าท่านผู้นี้อีกแล้ว

                    อังเดรลุกขึ้นเพื่อรับเสียงปรบมือ แต่กลับไม่มีใครปรบมือเลยสักคนเดียว ทำให้เด็กชายอ้วนไม่พอใจ

                    ทำไมพวกนายไม่ตบมือ! หรือพวกนายคิดว่ามีใครเหมาะสมไปกว่าพวกฉันสี่คนอีก!”

                    จากคำพูดของอังเดรทำให้ทุกคนเข้าใจทันทีว่าอังเดรคิดจะเอาพวกตนเองทั้งสี่คน เป็นตัวแทนของชั้นปีหนึ่ง ทำให้เกิดการโต้เถียงกันเล็กน้อย ก่อนที่กลุ่มของเจสันจะลุกขึ้นมาห้ามศึก

                    อังเดร...วันนี้ฉันขอเถอะ เจสันพยายามพูดดีกับอังเดรทั้งๆที่รู้ว่าอาจไม่เกิดประโยชน์

                    ถึงแม้ว่าเด็กชายผู้ดีจะมีนิสัยเอาแต่ใจ แต่หลังจากที่อาศัยอยู่ในโรงเรียนประจำมานานพอสมควร ทำให้เขาเริ่มปรับตัวในการอยู่กับคนหมู่มากได้มากขึ้น อังเดรเดินกลับไปนั่งในที่ของตน ทำให้เจสันเป่าลมออกจากปากเพราะโล่งอกที่ไม่เกิดเรื่อง จากนั้นจึงบอกกับอังเดรว่าการส่งตัวแทนควรแบ่งเป็นกลุ่มๆ ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจะส่งตัวแทนเข้าไปทุกคน แรกๆอังเดรทำท่าจะไม่พอใจและมินเนียนห้ามเอาไว้และให้ดูแนวโน้มของคนอื่นก่อนว่าเป็นอย่างไร

                    ผมว่าความจริงลูกพี่ไม่ต้องเข้าไปเป็นเองก็ได้ มินเนียนบอก บางทีการเป็นสมาชิกหน่วยอะไรนั่นอาจไม่ใช่เรื่องดีก็ได้

                    แกหมายความยังไง อังเดรถามพลางแกะขนมที่พกมาใส่ปาก

                    ลูกพี่ลองคิดดูนะ รุ่นพี่ที่ชื่อโวสต์เป็นคนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโรงเรียน และผมได้ยินว่าเขาเป็นสมาชิกของหน่วยควบคุมอยู่เหมือนกัน ถ้าลูกพี่เขาไปเป็นสมาชิก ก็เหมือนกับไปอยู่ใต้อาณัติเขาน่ะสิ มินเนียนอธิบาย

                    อังเดรคิดตามและเห็นด้วยกับความคิดของมินเนียน แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ต้องการให้มีคนในกลุ่มของตนไปเป็นสมาชิกอยู่ด้วยเหมือนกัน หลังจากที่ตกลงกันอยู่พักใหญ่ อังเดรจึงตัดสินใจเสนอชื่อ...ไทนี่ ไดร์เวอร์

                    นอกจากไทนี่ยังมีคนอื่นเสนอชื่อ ซาร่า และเพื่อนร่วมชั้นอีกสองคน ทำให้เหลือที่ว่างอีกเพียงที่เดียว

                    แล้วอีกหนึ่งคนล่ะ เจสันถามเมื่อเห็นว่าการเสนอชื่อหยุดลง

                    เจสัน โอวาล่า!” ชื่อสุดท้ายถูกพูดออกมาจากปากเพื่อนแทบทุกคน ทำให้เด็กชายที่ยืนอยู่หน้ากลุ่มน้ำตาคลอด้วยความปิติที่เพื่อนๆให้ความสำคัญกับเขาขนาดนี้

     

     

                    เมื่อได้ตัวแทนทั้งห้าคนแล้ว สิ่งที่ต้องทำเป็นขั้นตอนต่อไปคือทุกคนต้องช่วยกันให้ท้งห้าคนสามารถผนึกมังกรลงในอัญมณีให้สำเร็จ เพื่อให้มีสิทธิ์ผ่านการทดสอบและได้เป็นสมาชิกของหน่วยตามที่ทุกคนคาดหวังไว้

                    นายผนึกมังกรได้หรือยัง ดีโน่ถามเจสัน

                    เด็กชายใส่แว่นส่ายหน้า และมองไปยังมังกรสีฟ้าที่เล่นกับมังกรสีขาวของดีโน่อย่างสบายอารมณ์ เจสันลองวางอัญมณีสีเขียวที่ได้รับมาจากครูมาธาร์และร่ายคาถาเพื่อผนึกมังกร จากนั้นจึงบังเกิดลมหมุนเล็กๆขึ้นจากอัญมณี แต่แรงของลมนั้นไม่เพียงพอที่จะเรียกทีฟ์เปอร์มาผนึกไว้ได้ มังกรสีฟ้าได้แค่หันไปตามแรงลมที่ทำได้เพียงสะกิดเรียกเท่านั้น

                    ฉันลองแล้วทำได้แค่นี้เอง เจสันบอก ทั้งๆที่ฉันใช้วิธีเดียวกันก็ผนึกปารัสได้นะ

                    เจสันลองอัญมณีเล็กที่ตนใช้ผนึกปารัสตัวหนึ่งตอนเรียนวิชาของครูมาธาร์ ดีโน่บอกว่ายังมีเวลาอีกมาก อีกทั้งทุกคนบอกว่าจะช่วยกัน รับรองว่าเจสันต้องสามารถผนึกทีฟ์เปอร์ได้แน่นอน

                    กั๊กๆๆ แค่ผนึกมังกรยังทำไม่ได้แล้วจะทำอะไรกิน หนูๆทั้งหลาย ชายสวมเสื้อผ้าสกปรก ผมเผ้าและหนวดเครารุงรัง หัวเราะเสียงดังมาจากกบนต้นไม้

                    นักเรียนชั้นปีหนึ่งจำนวนไม่น้อยที่จำได้ว่าชายคนนี้คือ เรแวนรุ่นพี่ปีสอง เป็นหนึ่งในพรรคพวกของโวสต์ เรแวนกระโดดลงมาจากต้นไม้สูงและเดินโซเซตรงมายังกลุ่มรุ่นน้องที่เริ่มมีท่าทีวิตกว่าชายคนนี้มีจุดประสงค์อะไร

                    รุ่นพี่มาที่นี่มีอะไรหรือเปล่าครับ เจสันถาม

                    เรแวนมองไปรอบๆด้วยสายตาเหม่อลอย ไม่มีใครรู้ว่ารุ่นพี่คนนี้คิดอะไรอยู่

                    ฉันมาคิดถึงความหลังไม่ได้หรือไง เรแวนก้มหน้าลงมาตอบ ทำให้หัวหน้าชั้นปีต้องเบือนหน้าหนีเพราะทนกลิ่นปากรุ่นพี่ไม่ไหว

                    เรแวนเปิดประตูโรงเก็บมังกรของนักเรียนปีหนึ่งเข้าไปโดยไม่บอกเกล่า เหล่ามังกรที่อยู่ในห้องหันมาทางประตูและกรูเข้ามาหาเจ้านายของตนทันที

                    พวกนายยังมีมังกรอยู่ในโรงเก็บมากขนาดนี้เลยหรือ

                    เจสันและดีโน่สงสัยในคำพูดของเรแวน เรแวนส่ายหน้าและเดินพานักเรียนปีหนึ่งกลุ่มใหญ่มายังด้านหลังของโรงเก็บมังกร ซึ่งเป็นโรงเก็บมังกรของนักเรียนชั้นปีสอง ถึงแม้ว่าจะใกล้กันเพียงไม่กี่ก้าว แต่นักเรียนชั้นปีหนึ่งไม่เคยเดินผ่านมายังโรงเก็บมังกรของรุ่นพี่เลยแม้แต่น้อย เพราะกลัวว่าจะมีมังกรที่โตเต็มที่หลุดออกมาข้างนอก

                    พี่พาพวกผมมาที่นี่ทำไมครับ ดีโน่ถาม

                    ก็พาพวกนายมาเปิดหูเปิดตาไงล่ะ เรแวนพูดพลางเปิดประตูบานใหญ่เพื่อให้รุ่นน้องได้เห็นบรรยากาศภายใน

                    เมื่อนักเรียนชั้นปีหนึ่งเห็นภาพภายในโรงเก็บมังกรของรุ่นพี่ทำให้พวกเขาถึงกับตะลึง เพราะภาพภายในต่างกับความคิดของพวกเขาราวฟ้ากับดิน แทนที่จะมีมังกรตัวเขื่องเดินไปมา กลับมีเพียงมังกรตัวเล็กๆไม่กี่ตัว และมังกีตัวใหญ่ที่ดูแก่ชราตัวหนึ่งที่นอนหมอบอยู่ตรงมุมห้อง

                    นั่นคือมังกรที่แก่จนไม่รู้ว่าจะตายวันตายพรุ่งเมื่อไร เรแวนอธิบายพลางเดินเข้าไปพิงหัวมังกรเหมือนเป็นผนังเก่าๆด้านหนึ่ง รู้สึกยังไงกันบ้างล่ะ

                    มังกรของรุ่นพี่ไปไหนกันหมดครับดีโน่ถาม

                    เรแวนล้วงเอาสร้อยคอที่มีอัญมณีเป็นเครื่องประดับออกมาจากเสื้อ และบอกว่ามังกรของพวกเขาอยู่ที่นี่

                    รุ่นพี่ปีสองทุกคนผนึกมังกรเป็นทั้งนั้นแหละ เวลานี้เมื่อปีที่แล้วพวกเรากำลังแข่งกันว่าใครผนึกมังกรได้เร็วกว่ากัน

                    นักเรียนปีหนึ่งรู้สึกว่ากำลังถูกรุ่นพี่ดูถูก ทำให้นักเรียนบางคนไม่พอใจและทำท่าจะเถียงแต่กลับถูกดีโน่ห้ามไว้ก่อน

                    พวกผมก็กำลังหมั่นฝึกฝนอยู่นี่ครับ

                    ไม่อยากนึกเลยว่าพวกเธอจะฝึกให้ห้าคนนั้นเข้ามาเป็นสมาชิกของหน่วยควบคุมได้ยังไง

                    รุ่นพี่รู้!” ดีโน่อุทาน

                    เรแวนบอกว่าเขานอนเล่นอยู่บนต้นไม้ และได้ยินที่พวกรุ่นน้องปรึกษากันทุกอย่าง นอกจากนี้เรแวนยังสรุปให้ฟังว่าคงลำบากไม่ใช่น้อยที่จะให้คนไร้พรสวรรค์ฝึกให้สำเร็จ

                    เพื่อนผมไม่ใช่คนไร้พรสวรรค์!” กลาเลนตะโกนออกมาจากกลุ่ม ทำให้รุ่นพี่ลุกออกจากหัวมังกร และเดินฝ่ากลุ่มนักเรียนปีหนึ่งตรงไปยังรุ่นน้องผมทองผู้กล้าหาญ

                    เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ

                    แรงกดดันที่มาจากรุ่นพี่ทำให้นักเรียนบางคนต้องเบือนหน้าหนี แต่ไม่ใช่กลาเลน เด็กชายผมทองสูดหายใจลึกก่อนจะทวนประโยคที่เขาพูดเมื่อครู่ให้ฟังอีกครั้ง ทำให้รุ่นพี่ปีสองเกาหัวและยิ้มตรงมุมปาก

                    สงสัยว่าฉันคงต้องสอนมารยาทให้รุ่นน้องหน่อยแล้ว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×