ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดรากูน โรงเรียนฝึกมังกร ภาค 2 ตอน : ดาบแห่งราชัน

    ลำดับตอนที่ #11 : ผนึกมังกร

    • อัปเดตล่าสุด 11 ม.ค. 50


                    วิชาแรกในเช้าวันที่สองของภาคปลายคือวิชาที่นักเรียนหลายคนเฝ้ารอ ครูมาธาร์เดินเข้ามาในห้องเรียนทรงสโลปที่มีครูผู้สอนเป็นศูนย์กลาง นักเรียนทุกคนเตรียมอุปกรณ์การบันทึกไว้บนโต๊ะ และพร้อมจะจดทุกอย่างที่ครูมาธาร์บอก ซึ่งเป็นภาพที่ครูวัยย่างห้าสิบประทับใจมาก

                    ครูดีใจมากเลยนะที่เห็นพวกเธอกระตือรือร้นมากขนาดนี้

                    สาเหตุที่ทุกคนสนใจวิชานี้มาก เพราะวิชา การผนึกมังกรถือได้ว่าเป็นหัวใจของผู้ใช้มังกร ไม่มีผู้ใช้มังกรคนไหนที่ผนึกมังกรไม่ได้ ดังนั้นถ้าไม่สามารถผนึกมังกรได้ หมายความว่าไม่มีคุณสมบัติที่จะจบการศึกษาจากดรากูน คำสั่งสอนเหล่านี้คือสิ่งที่ผู้ปกครองของเด็กๆสอนสั่งกันมา ทำให้นักเรียนชั้นปีหนึ่งตั้งใจเรียนวิชานี้มากเป็นพิเศษ

                    ครูมาธาร์เริ่มต้นการสอนโดยการร่ายภาษาแปลกๆเพื่อเรียกเหล่า ปารัสมังกรน้อยที่มีหน้าที่รับใช้ต่างๆภายในโรงเรียนออกมาจากกล่องสี่เหลี่ยมบนโต๊ะ ซึ่งพวกเด็กนักเรียนเคยเห็นภาพนี้มาแล้วเมื่อเทอมที่ผ่านมา แต่คราวนี้การปรากฏตัวของปารัสสร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าเด็กหนุ่มสาวไม่ใช่น้อย เมื่อนึกถึงว่าสักวันพวกเขาจะสามารถทำแบบนี้ได้

                    ปารัสนับสิบตัวบินไปรอบๆห้องเรียนและทยอยส่งอัญมณีสีเขียวให้แก่เด็กนักเรียนคนละชิ้น เมื่อทุกคนได้รับมรกตเป็นที่เรียบร้อย ปารัสทุกตัวคล้ายกับถูกดูดเข้าไปในกล่องแบบเดิม จากนั้นครูมาธาร์จึงเก็บกล่องนั้นเข้ากระเป๋า

                    เป็นยังไงกันบ้างจ๊ะ ครูผู้สอนถามความรู้สึกของลูกศิษย์เมื่อเห็นการผนึกและปลดปล่อยมังกรแบบใกล้ชิด

     

                    ภายในชั่วโมงแรกของการเรียนวิชาสำคัญ ครูมาธาร์ได้อธิบายเกี่ยวกับทฤษฏีต่างๆ เพื่อให้การผนึกมังกรผ่านไปได้โดยดี โดยครูผู้สอนบอกว่าการผนึกมังกรจำเป็นต้องอาศัยอัญมณี ดังนั้นมรกตที่ครูมอบให้ถือว่าเป็นของขวัญและบททดสอบในเวลาเดียวกัน เพราะนักเรียนมีหน้าที่ผนึกมังกรของตนลงในมรกตเม็ดนั้นก่อนจะจบภาคเรียน

                    จากนั้นครูมาธาร์จึงสอนเคล็ดในการผนึกมังกร เพื่อให้นักเรียนสามารถไปซ้อมกันได้ทุกเวลาที่ว่าง และเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการผนึกมังกร

                    ขนาดของมังกรมีผลหรือเปล่าครับ อับดุลยกมือถามเป็นคนแรก เพราะค่อนข้างกังวลกับขนาดของอัลห์ที่ใหญ่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว

                    ก็มีบ้างจ้ะ แต่มังกรระดับปีหนึ่งน่าจะสามารถผนึกลงมรกตได้อยู่แล้ว ครูมาธาร์ตอบ และอธิบายเพิ่มว่ามังกรบางชนิดที่มีอำนาจมาก ต้องอาศัยอัญมณีที่มีคุณค่าเพียงพอจึงสามารถผนึกมังกรตัวนั้นได้ รวมทั้งอัญมณีที่มีค่าจะสามารถผนึกมังกรได้หลายตัว อย่างปารัสนี่ มรกตเม็ดเดียวสามารถผนึกได้เป็นสิบตัวเลยนะ

                   

                   

                    ช่วงพักกลางวันของวันนี้โรงอาหารแทบจะว่างเปล่า เพราะทุกคนรีบทานอาหารให้เสร็จ เพื่อจะได้มีเวลาทดสอบการผนึกมังกรมากยิ่งขึ้น

                    ท่ามกลางอากาศที่ค่อนข้างหนาวเนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เด็กนักเรียนหลายคนพยายามทำตามที่ได้รับการสอนมา เพื่อผนึกมังกรของตนลงมรกตที่ได้รับ กลุ่มของอังเดรพยายามบังคับให้มังกรของตนลงอัญมณีทั้งที่เหล่ามังกรนั้นไม่ค่อยพอใจนัก ต่างจากกลุ่มของดีโน่และซาร่าที่เริ่มต้นด้วยการเล่นกับมังกรเพื่อให้เกิดการผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติมากที่สุด

                    กรีสโตขึ้นมากเลยนะ ซาร่าทักเมื่อเห็นมังกรขาวที่เดินมาหาดีโน่ผู้เป็นเจ้านาย

                    นีโอเรย์เองก็เหมือนกันนะ ดีโน่พิจารณามังกรสีเหลืองที่รูปร่างสวยงามราวกับเป็นพาหนะของเชื้อพระราชวงศ์ คอที่เรียวงามเหมือนกับได้รับการดูแลมาเป็นอย่างดี กล้ามเนื้อส่วนต่างๆไม่มีแม้แต่ไขมันให้เห็น ซาร่าบอกว่าเธอดูแลนีโอเรย์ไม่มากเท่าไร แต่ที่นีโอเรย์รูปร่างแบบนี้ อาจเป็นเพราะสายพันธุ์ของมังกร อบาโทสซึ่งเป็นมังกรพิษ เพราะมังกรสายพันธุ์นี้จะมีความพิเศษตรงที่สามารถขจัดของเสียออกจากร่างกายได้เร็วกว่ามังกรสายพันธุ์อื่น

                    ส่วนอับดุลที่ค่อนข้างหนักใจเรื่องขนาดที่ใหญ่โตของอัลห์ก็นั่งปรับทุกข์กับแมรี่ เพราะมังกรของแมรี่เองก็เป็นสายพันธุ์ผสมแบบเดียวกับอัลห์ เด็กทั้งสองมอง อัลห์และไรโอ ที่นอนพักอยู่ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่อย่างสบายอารมณ์ โดยไม่รับรู้ถึงความทุกข์ของผู้เป็นนายเลยแม้แต่น้อย

                    เธอคิดว่าจะผนึกไรโอลงในมรกตนี้ได้ไหม อับดุลถามแมรี่ทั้งที่นั่งเหม่อมองมังกรสีน้ำตาลเข้มของตนเอง ที่มีขนาดใหญ่กว่ามังกรของคนอื่นหลายเท่า

                    ฉันก็ไม่แน่ใจนะ แมรี่ตอบพลางถอนหายใจเมื่อเห็นมังกรสีม่วงที่มีขนาดเล็กกว่าอัลห์ไม่เท่าไร

                    พวกเธอกำลังมีปัญหาอะไรกันอยู่หรือเปล่า

                    เด็กทั้งสองสะดุ้งเนื่องจากได้ยินเสียงที่ไม่ค่อยคุ้นหูนัก ซึ่งเจ้าของเสียงที่ยืนอยู่ข้างหลังเด็กทั้งคู่คือ ไลม์นักเรียนชั้นปีสามผู้เปี่ยมไปด้วยความสามารถ เพราะเป็นถึงหัวหน้าหน่วยควบคุมเด็กนักเรียน เมื่อเห็นรุ่นพี่ที่พึ่งพาได้พวกดีโน่จึงเดินเข้ามาทักทายรุ่นพี่ไลม์ทันที

                    กรีสโตขึ้นมากเลยนะ ไลม์บอกเมื่อทักทายรุ่นน้องจนครบ แบบนี้ถือได้ว่าเป็นมังกรชั้นเลิศทีเดียว

                    ดีโน่รู้สึกเขินพอสมควรเมื่อมีคนชมมังกรของตน และไม่ลืมทีจะถามเกี่ยวกับเคล็ดลับในการผนึกมังกรหลังจากไต่ถามสารทุกข์สุขดิบกันแล้ว

                    ไลม์เดินมานั่งบนก้อนหินใหญ่เพราะรู้ว่าต้องพูดคุยกันนานพอสมควร จากนั้นจึงเล่าว่าการผนึกมังกรคือการช่วยให้ผู้ใช้มังกรสามารถไปไหนมาไหนร่วมกับมังกรของตนได้สะดวก เพราะนับวันมังกรที่เลี้ยงไว้จะมีขนาดใหญ่โตขึ้น มังกรบางสายพันธุ์มีขนาดมากกว่า 100 คานาเสียด้วยซ้ำ ทำให้การเดินทางไปพร้อมกับผู้ใช้เป็นเรื่องยาก รวมทั้งการผนึกมังกรยังเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงระดับของผู้ใช้มังกร กล่าวคือการจะเป็นผู้ใช้มังกรหรือที่เรียกกันว่า ดรากอนมาสเตอร์ที่เก่งกาจนั้นขึ้นอยู่กับมังกรที่ผนึก โดยสามารถแบ่งได้สองลักษณะคือ ดรากอนมาสเตอร์ที่มีมังกรผนึกไว้มาก กับอีกจำพวกที่มีมังกรในผนึกน้อยบางครั้งมีเพียงตัวเดียว แต่มังกรตัวนั้นถือว่าเป็นมังกรระดับเทพ

                    มังกรระดับเทพ เด็กบางคนที่นั่งฟังอยู่ทวนคำที่เพิ่งได้ยิน

                    รุ่นพี่ปีสามพยักหน้า พร้อมอธิบายต่อว่า มังกรระดับเทพคือมังกรที่เปี่ยมไปด้วยพลังและอำนาจ ซึ่งเป็นการยากที่จะมีดรากอนมาสเตอร์คนไหนผนึกไว้ได้

                    พี่เคยเห็นมังกรระดับเทพไหมครับ ดีโน่ถาม

                    ไลม์ยิ้มเล็กน้อยก่อนบอกว่าเคย แต่รุ่นพี่ผมเกรียนไม่ยอมบอกว่าเคยเห็นที่ไหน ถึงแม้ว่ารุ่นน้องจะตื้อสักเพียงใดก็ตาม จนไลม์ต้องเปลี่ยนเรื่องว่าจะพูดถึงเคล็ดลับในการผนึกมังกร จึงสามารถทำให้รุ่นน้องเงียบเสียงลงได้

                    พวกเธอรู้คำพูดในการผนึกมังกรแล้วใช่ไหม

                    รุ่นน้องทุกคนพยักหน้า เพราะเพิ่งเรียนจากครูมาธาร์มาเมื่อชั่วโมงที่แล้ว ไลม์จึงให้ทุกคนวางอัญมณีที่ได้มาไว้บนฝ่ามือ และร่ายคาถาที่ได้เรียนมา เมื่อทุกคนทำตามก็รู้สึกได้ว่าเกิดกระแสลมบางๆขึ้น

                    ลมนั่นแหละคือสิ่งที่ใช้ในการผนึกมังกร รุ่นพี่ปีสามยิ้มเมื่อเห็นรุ่นน้องทำสำเร็จ แต่สังเกตเห็นไหมว่า ลมที่พวกเธอสร้างขึ้นมามีแรงดูดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

                    เด็กๆเห็นด้วยกับคำพูดของรุ่นพี่ เพราะแรงลมขนาดนี้ไม่เพียงพอแม้แต่จะดูดฝุ่นเสียด้วยซ้ำ

                    ไม่ต้องแปลกใจหรอก เพราะแรงลมจะมากขึ้นตามความตั้งใจของพวกเธอนั่นแหละ ไลม์บอก ข้อสำคัญอีกข้อคือ มังกรจะยอมถูกผนึกต่อเมื่อ มังกรตัวนั้นยอมรับดรากอนมาสเตอร์ผู้นั้นแล้ว

    ไลม์ทิ้งท้ายไว้ก่อนจะขอตัวไปเตรียมตัวเรียนวิชาในช่วงบ่าย

                   

     

                    เนื่องจากตามตารางเรียนที่ได้รับแจกมาไม่มีวิชาเรียนในช่วงบ่าย ทำให้นักเรียนชั้นปีหนึ่งมีเวลาว่างทำกิจกรรมได้ตามสะดวก กลุ่มของซาร่าขอตัวไปห้องสมุดเพื่อค้นคว้าเกี่ยวกับการผนึกมังกรกรเพิ่มเติม โดยมีอับดุลกับกลาเลนพ่วงไปด้วย ส่วนเจสันกับดีโน่ถูกมอบหมายแกมบังคับว่าให้ไปถามรุ่นพี่ดูจะง่ายกว่า เนื่องจากทั้งสองคนรู้จักรุ่นพี่มากกว่าเพื่อนคนอื่นๆ ดังนั้นเจสันและดีโน่จึงคิดถึงรุ่นพี่ปีสอง...คาเฟอีน

     

     

                    ภายในห้องทำงานของคาเฟอีนที่อยู่ชั้นใต้ดินของโรงเรียน เจสันกับดีโน่ช่วยกันเก็บเศษกระดาษตามพื้นที่มีมากมายมหาศาล เจสันบอกดีโน่ว่าก่อนกลับบ้านเขาแน่ใจว่าได้ทำความสะอาดจนหมดแล้ว หมายความว่าตลอดสองอาทิตย์รุ่นพี่คาเฟอีนไม่ได้กลับบ้าน และอยู่ที่โรงเรียนเพื่อทำให้ห้องมีสภาพเป็นแบบเดิม

                    รุ่นพี่ของนายนี่เขาเขียนอะไรมากมายกันแน่นะ ดีโน่ถามพลางคลี่กระดาษใบหนึ่งออกดู

                    นายอ่านไม่ออกหรอก เจสันบอก ไม่มีคนธรรมดาคนไหนอ่านลายมือของรุ่นพี่คาเฟอีนออก

                    ดีโน่ถึงกับตาลายเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในกระดาษ เพราะไม่รู้ว่าสิ่งนั้นเป็นตัวหนังสือหรือเป็นรูปวาด เพราะการลากดินสอยาวเป็นเส้น บ้างก็วกไปมาจนไม่น่าเรียกว่าเป็นการเขียนเสียด้วยซ้ำ ทำให้เด็กชายขยำกระดาษกลับสู่สภาพเดินและโยนลงตะกร้าผงตรงมุมห้อง

     

                    เมื่อเสร็จสิ้นจากการเก็บขยะภายในห้องแล้ว เด็กชายทั้งสองจึงเปิดประตูเพื่อเข้าสู่ห้องทำงานจริงของคาเฟอีน แต่แทนที่ทั้งคู่จะพบภาพของรุ่นพี่ผมกระเซิงวุ่นอยู่กับหลอดทดลองต่างๆบนโต๊ะ ทั้งสองคนกลับพบกับคาเฟอีนที่สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงลายพราง รองเท้าบู๊ต และกำลังเก็บข้าวชองลงในกระเป๋าสะพายไม่ขนาดกลาง

                    อ้าว...พวกนายนี่เอง คาเฟอีนทักเมื่อเห็นรุ่นน้องทั้งสอง พร้อมทั้งเป่าทำความสะอาดแว่นกันแดดที่นำออกมาจากในลิ้นชัก

                    เด็กชายทั้งสองถามว่าคาเฟอีนจะไปไหนจึงแต่งตัวแบบนี้ รุ่นพี่เปิดกาแฟกระป๋องและยกซดก่อนจะบอกว่าตัวอย่างเลือดที่เขารวบรวมไว้ขาด ดังนั้นเขาจึงต้องเดินทางไปเก็บตัวอย่างเลือดเพิ่ม

                    พวกนายสนใจจะไปกับฉันไหมล่ะ คาเฟอีนชวน

                    คำตอบที่ออกมาจากปากของรุ่นน้องทั้งสองแบบไม่ต้องคิดมากคือ ไป จากนั้นทั้งสามจึงเดินขึ้นมาข้างบนเพื่อเตรียมตัวเดินทาง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×