คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : รุม
เด็กชายวัยสิบสามปีจำนวนสิบกว่าคนยืนล้อมครูอายุสามสิบกว่าเพียงคนเดียว แต่ท่าทางของครูผู้มีหัวใจอายุสิบเจ็ดดูไม่มีความวิตกกังวลแม้แต่น้อย ดาบคู่ทั้งสองอยูในมือของเขาแบบธรรมดาเหมือนกับช้อนส้อมเวลารับประทานอาหารไม่มีความรู้สึกเหมือนเป็นอาวุธ สายตาของครูที่มองมาทางนักเรียนทีละคน...ทีละคนเหมือนกับต้องการเล่นสนุกมากกว่า ผิดกับบรรดานักเรียนที่รับรู้ได้ถึงความกดดันที่ครูผู้สอนแผ่พุ่งออกมา โดยเฉพาะไทนี่ที่ยืนอยู่ด้านหลังอังเดร
“นายเป็นอะไรไปไทนี่” เจสันที่เดินหลบมาด้านหลังของไทนี่ถามเบาๆ
ไทนี่ถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเจสัน เม็ดเหงื่อไหลท่วมออกมาจากรูขุมขนบนใบหน้า เจสันกล่าวขอโทษเพื่อนแต่เด็กชายบอกว่าเขาเรียกไทนี่หลายครั้งแล้วแต่ไทนี่ไม่รู้สึกตัว
“ดีโน่มีเรื่องจะปรึกษาด้วย” เจสันพูดด้วยเสียงอันเบาราวกระซิบ เพราะกลัวว่าอังเดรจะได้ยิน
เด็กชายร่างสูงมองลูกพี่ที่ไม่รู้สึกถึงแรงกดดันของอาล และควงดาบไม้อย่างสนุกสนานพลางบอกว่าจะล้มครูในดาบเดียว เพราะได้รับการฝึกฝนเพลงดาบมาจากพ่อตั้งแต่เด็ก
ไทนี่เดินมาสมทบกับดีโน่ โดยปล่อยให้อังเดรคุยโม้ต่อไป เพราะไทนี่รู้ว่าอังเดรไม่กล้าบุกเข้าไปเป็นคนแรกแน่
“นายมีธุระอะไร”
ดีโน่ถามไทนี่ตรงๆว่ามั่นใจเท่าไรในบททดสอบของครูอาล ไทนี่ยิ้มเจื่อนๆก่อนจะส่ายหน้าและบอกว่าในสามดาบเขาต้องเป็นฝ่ายล้มแน่นอน
“หมายความว่านายสู้ครูอาลไม่ได้เหมือนกันใช่ไหม” เจสันถาม
“นายพูดเหมือนกับว่าเคยสู้กับเขามาแล้ว” ไทนี่ถามกลับ
ดีโน่กับเจสันจึงเล่าเรื่องที่เจออาลในถ้ำแซนกรีสให้ไทนี่ฟัง แต่ไม่ได้บอกว่าอาลเป็นสมาชิกของกลุ่มดราโกบลัด เพราะในจดหมายเซอร์ไพธอนกำชับว่าห้ามบอกใครว่าอาลเป็นสมาชิกของกลุ่มดราโกบลัด เมื่อไทนี่รับฟังเรื่องราวจนจบจึงถามอีกครั้งว่าดีโน่ตามเขามาที่นี่ทำไม
“เรามาร่วมมือกันเถอะ” ดีโน่เอ่ยปากชวนในสิ่งที่ไทนี่ไม่อยากเชื่อ
ไทนี่มั่นใจว่าดีโน่รู้ว่าปู่ของเขาและปู่ของดีโน่เป็นศัตรูกัน และแน่นอนว่าเขาต้องได้รับการสั่งสอนจะปู่มาบ้างว่าให้เอาชนะดีโน่ ซึ่งเป็นหลานของอาจารย์ใหญ่คนที่สามของดรากูนให้ได้ แต่สิ่งที่ดีโน่กระทำไม่ใช่การแข่งขันกลับเป็นการร่วมมือ
“นายว่าอะไรนะ” ไทนี่ถาม “ร่วมมือ...”
ดีโน่บอกว่าเขาเห็นไทนี่เป็นเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่ง ไม่เคยคิดว่าเป็นคู่แข่งแม้แต่น้อย อีกทั้งยังรู้ตัวว่าไม่สามารถแข่งกับไทนี่ได้แน่นอน เพราะไทนี่เป็นนักเรียนที่มีความสามารถและประสบการณ์สูงมาก เมื่อไทนี่ได้ฟังข้อเสนอของดีโน่ ทำให้เขารู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ในที่สุดเด็กชายก็ตอบตกลง และเดินกลับไปร่วมกับกลุ่มของอังเดร
หลังจากที่ไทนี่เดินกลับไปแล้ว กลาเลนและอับดุลจึงเดินเข้ามาถามว่าดีโน่คุยอะไรกับไทนี่ ดีโน่บอกสิ่งที่เสนอไทนี่ไปเมื่อสักครู่ให้เพื่อนทั้งสองได้รับรู้
“หมายความว่าครั้งนี้ เราต้องร่วมมือกับหมอนั่นงั้นเหรอ” อับดุลมองไปทางอังเดรที่ยืนจังก้าอย่างไม่กลัวเกรงใคร
ครูอาลปักดาบลงบนพื้นและรวบผมให้เข้าที่ เมื่อเห็นแววตาของนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่มองมายังเขา เด็กชายอังเดรร้องบอกครูผู้สอนว่าให้ระวังตัวเพราะตัวเขาไม่เคยออมมือให้ใคร
“เอาล่ะ...พร้อมแล้วก็เข้ามาเลย!” อาลร้องเสียงดังกลบเสียงของอังเดรจนหมดสิ้น ทำให้เด็กอ้วนเริ่มหวาดขึ้นมา
คนแรกที่กระโจนเข้าใส่ครูอาลคือไทนี่ลูกน้องของอังเดร ที่ตอนนี้เป็นพันธมิตรกับกลุ่มของดีโน่เรียบร้อยแล้ว เด็กชายหวดดาบไม้ใส่กลางแสกหน้าของครูอาลเต็มแรง แต่ภาพที่เห็นทำให้ไทนี่และเพื่อนร่วมห้องไม่อยากเชื่อ เพราะร่างของครูอาลจางหายไปต่อหน้าต่อตา ระหว่างที่ทุกคนช่วยกันหาครูอาล ไทนี่ก็พุ่งถอยหลังไปและฟาดดาบไม้ใส่ก้อนหินใหญ่ที่ครูอาลนั่งอยู่ตอนแรก
“เก่งนี่นา” ครูอาลที่ปรากฏขึ้นมากลางอากาศกล่าวชมไทนี่ พร้อมปาดาบเล่มหนึ่งใส่ลูกศิษย์
ไทนี่ใช้ดาบไม้ของตนกันดาบของครูอาลไว้ได้ แต่เมื่อแหงนหน้าขึ้นก็ไม่พบครูผู้สอนเสียแล้ว
“ระวัง!” ดีโน่พุ่งเข้ามารับดาบของครูอาลที่ฟาดมาโดยมีเป้าหมายคือหลังของไทนี่ได้อย่างทันท่วงที
ไทนี่มองดีโน่ที่เข้ามาช่วยเขาไว้ และสูดหายใจลึกๆเพื่อรวบรวมสมาธิ ดีโน่เองก็ปาดเหงื่อที่ไหลออกมาเพราะความตื่นเต้น จากนั้นเจสัน และอับดุลจึงเข้ามายืนข้างๆ
“ท่าทางเราคงไม่เบื่อแล้วนะ...” อาลพูดเบาๆเมื่อเห็นนักเรียนเริ่มมีใจที่จะสู้แล้ว
นักเรียนหญิงหยุดการฟาดดาบไม้ใส่เป้า เพื่อมาดูนักเรียนชายที่กำลังรับการทดสอบจากครูอาลอยู่ ถึงแม้ว่านักเรียนชายจะมีถึงสิบกว่าคน แต่คนที่สามารถถือดาบไม้ได้เมื่อถูกครูอาลฟันดาบใส่ มีแค่ห้าคนเท่านั้น
“เหลือเท่านี้แล้วนะ” ครูอาลมองนักเรียนทั้งห้า ซึ่งได้แก่ ไทนี่ ดีโน่ อับดุล เจสัน และกลาเลน ด้วยความชื่นชม รวมทั้งชมเจสันกับดีโน่ว่าพัฒนาฝีมือขึ้น
นักเรียนคนอื่นๆ ที่ถกครูอาลฟันดาบใส่จนดาบไม้ของตนหลุดมือไป ทยอยเดินมารวมกลุ่มกับเพื่อนนักเรียนหญิง โดยยังไม่หายตะลึงกับการใช้ดาบของครูอาลที่รวดเร็วราวกับพายุที่สามารถพัดพาทุกอย่างให้ลอยหายไปได้
“งั้นพอแค่นี้นะ ครูรู้ระดับของพวกเธอหมดทุกคนแล้ว”
ครูอาลเตรียมเดินไปเก็บดาบไม้สิบกว่าเล่มที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้น แต่ดีโน่และไทนี่พร้อมใจกันเรียกครูผู้สอนไว้ก่อน
“ครูยังไม่ลองทดสอบพวกเราจริงๆเลยนะครับ” ไทนี่ร้องท้า
“พวกเราห้าคนนี้คือคนที่รับดาบครูได้นะครับ” ดีโน่เสริม
ครูอาลยิ้มให้เด็กชายทั้งห้า และชื่นชมในความกล้าหาญของพวกเขา ดังนั้นครูอาลจึงตอบแทนพวกเขาโดยการกระทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการ
อาลโยนดาบคู่ใจไปหลังก้อนหินและเขี่ยดาบไม้สองเล่มขึ้นมาถือไว้ ครูผู้สอนบอกเด็กทั้งห้าว่าไม่ต้องเกรงใจให้จู่โจมเข้ามาอย่างเต็มที่
นักเรียนชายหญิงที่นั่งดูรอบห้องพากันส่งเสียงเชียร์เพื่อนทั้งห้า แต่นักเรียนชายที่ยืนอยู่กลับไม่รู้สึกถึงเสียงเชียร์ของเพื่อนๆแม้แต่น้อย เพราะรังสีที่แผ่ออกมาจากตัวของอาล ทำให้ทั้งห้าคนรู้สึกหูอื้อ ตาลาย ถ้าไม่มีการเคลื่อนไหวคงส่งผลให้พวกเขาหมดสติไปนานแล้ว
ไทนี่ตัดสินใจกระโจนฝ่าความกดดันเข้าไปหาครูอาลอย่างรวดเร็ว แต่ความนี้ไม่ได้มีไทนี่เพียงคนเดียว เพราะดีโน่ได้พุ่งออกไปพร้อมกันด้วย
เสียงปะทะกันของดาบไม้สี่เล่ม ซึ่งถือโดยคนสามคนดังสนั่น เพียงเวลาชั่วพริบตาเจสันและอับดุลที่ปราดเข้ามาเสริม กลับถูกดาบคู่ในมือของอาลที่ผละจากดาบของดีโน่และไทนี่ฟันเข้าเต็มแรง โชคดีที่เด็กทั้งสองกันไว้ได้ทัน มิฉะนั้นคงเจ็บหนักแน่นอน
การบุกของนักเรียนชั้นปีหนึ่งทั้งสี่คนยังไม่เสร็จสิ้น เพราะไทนี่และดีโน่พร้อมใจกันบุกเข้าไปอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้เด็กชายทั้งสองแยกไปคนละทาง
“ตามฉันมา!” ไทนี่ร้องสั่งอับดุลทำให้เด็กชายไม่ค่อยพอใจนัก แต่เห็นแก่คำขอร้องของดีโน่ทำให้เด็กชายผิวดำทำตามที่ไทนี่บอก
“ไปเลย เจสัน!” ดีโน่ร้องบอกเพื่อนรักและโถมตัวเข้าใส่ครูอาล
ครูอาลที่ต้องรับมือกับการโจมตีของเด็กทั้งสี่แบบไม่มีเวลาหายใจ แทนที่จะมีอาการเหนื่อยล้า แต่ใบหน้าของครูกลับปรากฏรอยยิ้ม และไม่มีท่าทีอ่อนล้าเลยแม้แต่น้อย
“ใช้แรงมากเกินไปนะ” อาลบอกอับดุลเมื่อรับดาบที่ฟาดลงมาอย่างหนักหน่วงของเด็กชายผิวดำ
ครูผู้สอนพยายามสั่งสอนและแนะนำเกี่ยวกับการโจมตีของเด็กชายทั้งสี่ ซึ่งทำให้การโจมตีของพวกเขาดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งไทนี่ลดดาบไม้ลง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการทดสอบได้หยุดลงแล้ว ทำให้เดกทั้งสามที่เหลือหยุดตาม
“เลิกดีกว่า...” ไทนี่พูดและเดินกลับไปรวมกลุ่มกับอังเดร “เอาไว้ผมเรียนวิชานี้ให้ครบเทอมก่อน แล้วผมจะของประลองกับครูอีกครั้ง”
เมื่อหมดชั่วโมง นักเรียนทยอยเดินออกทางประตูที่เข้ามา เพื่อไปเรียนวิชาต่อไป โดยครูอาลอนุญาติให้มายืมดาบไม้และใช้ห้องนี้เพื่อฝึกซ้อมได้ทุกเวลา
“เธอน่ะ...เดี๋ยวก่อนสิ” ครูอาลทักกลาเลนไว้ และรอจนนักเรียนคนอื่นเดินออกไปหมด “ทำไมเธอถึงไม่ช่วยเพื่อน”
ครูอาลจำได้ว่าคนที่สามารถรับการจู่โจมของเขามีทั้งหมดห้าคน แต่คนที่รุมเขาเมื่อสักครู่มีเพียงสี่คนเท่านั้น และคนที่ไม่ได้เข้ามาร่วมด้วยคือ เด็กชายผมยาวที่ยืนอยู่ในห้องกับเขา
“ผมไม่ชอบรุมคนๆเดียวครับ” กลาเลนตอบเรียบๆ
คำตอบของกลาเลนทำให้ครูอาลหัวเราะเสียงดัง และโยนดาบไม้ให้กับลูกศิษย์ แล้วบอกว่าตอนนี้เหลือเขากับกลาเลนแค่สองคน เพราะเขาต้องการรู้ฝีมือเบื้องต้นของนักเรียน ครูอาลจึงบอกให้กลาเลนใช้ดาบนั่นสู้กับเขา
“ครูต่อให้ก็แล้วกัน” ครูอาลหยิบดาบเล่มหนึ่งขึ้นมาและควงไปมาเล็กน้อยเพื่อให้ชินมือ “ปกติครูชอบใช้ดาบสองมือมากกว่านะ”
กลาเลนมองดาบไม้ที่ครูส่งให้ และหายใจเข้าลึกๆครั้งหนึ่งก่อนจะทำตามความต้องการของครูผู้สอน
“นายไปไหนมาน่ะ”
อับดุลถามเมื่อเห็นกลาเลนเดินเข้ามาในห้องเรียนวิชา ‘ประวัติศาสตร์แห่งมังกร’ ซึ่งสอนโดยครูพีเดีย หรือที่นักเรียนรุ่นพี่ตั้งฉายาให้ว่า ‘เอ็นไซโคพีเดีย’ ครูอายุสามสิบปลายๆ แต่ดูเหมือนอายุห้าสิบ เพราะทุ่มเททั้งชีวิตให้กับการศึกษาประวัติศาสตร์ทุกอย่างที่เกี่ยวกับมังกร
“ห้องน้ำน่ะ” กลาเลนตอบและยิ้มนิดๆเมื่อเห็นที่ว่างข้างๆซูซาน “ฉันขอนั่งตรงนี้นะ”
ซูซานหันมาแลบลิ้นให้ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร กลาเลนจึงแทรกตัวเข้าไปนั่งใกล้ๆ แฟนสาวทันที ทำให้เพื่อนในกลุ่มพากันแซวไม่หยุด จนกระทั่งครูพีเดียเดินเข้ามาในห้อง และเริ่มการสอนที่เหมือนเล่าเรื่องยาวไม่หยุดมากกว่า
ภายในห้องเรียนวิชา ‘ศิลปะการต่อสู้สำหรับผู้ใช้มังกร’ อาลยืนนิ่งอยู่หน้าก้อนหินใหญ่ สายตาของเขามองดาบไม้เล่มหนึ่งที่ปักอยู่บนพื้น สลับกับมือของเขาที่ยังรู้สึกชาเนื่องจากการปะทะกันเมื่อสักครู่ ภาพของเด็กชายวัยสิบสามที่สามารถปัดดาบในมือของเขา และทำให้ได้รับรู้ถึงการถูกดาบจ่อที่คอเป็นครั้งแรกยังคงหมุนเวียนอยู่ในห้วงความคิดของเขา
“กลาเลน...เบียนอาฟเพอร์” ครูอาลทวนชื่อของนักเรียนที่น่าสนใจคนนี้อีกครั้งก่อนจะหัวเราะและเดินออกจากห้องไป
ความคิดเห็น