[EXO's Fiction] Unripe Apple || Sehun x Suho
เมื่อโอเซฮุนคนขี้อายสารภาพรักกับคิมจุนมยอนคนน่ารัก...
ผู้เข้าชมรวม
2,259
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
U n r i p e A p p l e *
“พ…พี่จุนมยอนครับ…ผ…ผม…ผม…” เสียงอึกอักของรุ่นน้องตรงหน้าทำให้ผมเอียงคอน้อยๆด้วยความอยากรู้ในประโยคถัดไปที่อีกคนจะพูด จริงๆผมก็พอจะเดาออกหรอกนะครับว่าอีกคนมาสารภาพรักกับผม และที่พอจะเดาออกกเป็นเพราะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นบ่อยๆกับตัวผมน่ะสิครับ คิมจุนมยอนคนนี้น่ะ ป็อปปูล่าทั้งในหมู่ผู้หญิง และผู้ชายที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งย่าน xxx ไม่เบาอยู่เหมือนกันนะ
“ผม…ช…ชอบพี่ครับ…มาลอง…คบกันไหมครับ?” ในที่สุดก็จบประโยคจนได้ รุ่นน้องเจ้าของผิวขาวพอๆกันกับผมก้มหน้าจนคางแทบจะชิดอกอยู่แล้ว คิ้วที่ขมวดกันจนเกือบเป็นปมนั่นแสดงถึงความกังวลของอีกคนอย่างเห็นได้ชัด ผมยิ้มขำเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าเข้าไปหาอีกคนที่พยายามช้อนตามองขึ้นมาเป็นระยะ
“อืม…ก็เอาสิ” ผมครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบออกไป ตามปกติแล้วเวลามีคนมาสารภาพรักผมก็ไม่ได้ตอบรับทุกคนหรอกนะครับ เพียงแต่ว่าคนตรงหน้านั่นไม่ค่อยจะเหมือนคนที่ผ่านๆมาเสียเท่าไร โอเซฮุนเป็นคนขี้อาย แต่ก็เป็นคนมีน้ำใจมากคนหนึ่ง และที่ผมรู้นิสัยใจคอคนตรงหน้านี้ ก็เพราะพวกเราเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการนักศึกษาของคณะครับ เคยทำงานด้วยกันมาบ้าง ก็พอจะเห็นๆกันอยู่ว่าน้องเป็นคนยังไง
ถ้าจะลองคบดูก็ไม่เสียหายใช่ไหมล่ะครับ?
“หา…” เซฮุนเงยหน้าขึ้นมามองผมอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน ผมยิ้มขำให้กับท่าทางของคนตรงหน้าก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ
“อื้อ…มาลองคบกันดูไง คิมจุนมยอนกับโอเซฮุนคบกันแล้วนะ” ผมย้ำอีกครั้ง เซฮุนทำหน้าเอ๋อไปสักพักก่อนจะเผยรอยยิ้มกว้างออกมาอย่างน่ารัก รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความโล่งอก รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข และรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความจริงใจ
จะทำยังไงดี…
ผมใจเต้นให้กับรอยยิ้มของคนตรงหน้าเสียแล้ว…
ฉันรู้สึกตกใจเล็กน้อย คิดว่านี่เป็นรักแรกพบ
เธอทำท่าทีแบบนั้น รู้ไหมว่าน่ารัก
ใบหน้าแบบนั้น ดวงตาที่บริสุทธิ์
อาการตื่นเต้นแบบนี้ มาได้อย่างไรก็ไม่รู้
หลังจากที่เซฮุนมาสารภาพรักผมในวันนั้น วันนี้ก็เข้าวันที่สามที่เราคบกันแล้วล่ะครับ เซฮุนเป็นคนขี้อายมากจริงๆ แม้แต่จับมือผมก็ยังไม่กล้า แต่ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรนะ รู้สึกว่าท่าทางแบบนั้นมันน่ารักสุดๆไปเลยล่ะ
“เอ่อ…” ขณะที่กำลังเดินไปที่ลานโต๊ะหน้าตึกคณะ เซฮุนก็เริ่มพูดบางอย่างขึ้น
“หืม?” ผมหันไปมองอีกคนตาแป๋วก่อนจะได้รับคำตอบเป็นการส่ายหัวเบาๆ
“มีอะไรหรือเปล่า?” ผมเดินไปหยุดยืนตรงหน้าเซฮุนก่อนจะได้รับคำตอบมาแบบเดิม ผมจึงไม่คะยั้นคะยออีกฝ่ายไปมากกว่านี้ก่อนจะเอี้ยวตัวกลับไปเพื่อเดินข้างๆคนที่กำลังคบอยู่ เดินไปได้สักพักก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสอุ่นที่มือซึ่งกำลังแกว่งไปมาสวนทางกับเท้าที่กำลังก้าวไปข้างหน้า ตอนนี้เซฮุนกำลังกุมมือของผมเอาไว้หลวมๆก่อนจะกระชับแน่นขึ้นจนรู้สึกถึงความชื้นที่ออกมาเป็นเหงื่อตามซอกนิ้วของอีกคน ไม่บอกก็รู้ว่าเซฮุนตื่นเต้นแค่ไหน
เพราะผมเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน…
“นั่งตรงนี้ก็แล้วกันนะครับ” เซฮุนเอ่ยเสียงเบาก่อนที่เราทั้งสองจะค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้ม้าหินที่วางเรียงอยู่หน้าตึกคณะโดยที่ยังไม่ปล่อยมือกัน ไม่มีบทสนทนาอะไรต่อจากนั้น มีเพียงเราสองคนที่นั่งจับมือกันแน่นโดยที่อีกคนเอาแต่ก้มหน้านิ่งพลางเม้มปากแน่น ก่อนจะแลบลิ้นเลียริมฝีปากน้อยๆด้วยความประหม่าอย่างที่ชอบทำ
ผมใจเต้นรัวขึ้นมาทันทีที่มองริมฝีปากของอีกคนซึ่งถูกเคลือบด้วยของเหลวจากปลายลิ้น และเผลอหน้าร้อนวูบวาบเมื่อรู้สึก ‘อยากจูบ’ คนตรงหน้าขึ้นมาเสียดื้อๆ ให้ตายเถอะ! คิมจุนมยอนกลายเป็นคนทะลึ่งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรนะ…
รู้ตัวอีกทีก็เผลอยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนอีกคนเบิกตากว้าง ผมเม้มปากแน่นก่อนจะหันหน้าหนีเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป ตอนนี้รู้สึกเหมือนความร้อนทุกชนิดบนโลกมารวมกันที่ใบหน้าของผม อายจนไม่รู้จะพูดยังไง แต่เซฮุนน่ารักจริงๆนี่นา…
“เฮ้ย! ไอ้คู่ข้าวใหม่ปลามัน มานั่งจีบกันอยู่ตรงนี้เอง น่าอิจฉาจริงๆ” เสียงของแบคฮยอนเพื่อนรุ่นเดียวกับผมพูดขึ้นก่อนจะนั่งแปะที่เก้าอี้ตรงกันข้ามอย่างรวดเร็ว
“หยุดเลยนะแบคฮยอน!” ผมทำปากยื่นพลางค้อนอีกคนไปยกใหญ่
“โอเค…ไม่แซวก็ได้ แต่นี่…เอกสารสรุปการประชุมครั้งที่แล้ว โทษทีที่เอามาให้ช้า ไม่ขัดจังหวะแล้ว ไปก็ได้ เชอะ!” พูดเป็นชุดก่อนจะเดินสะบัดตูดหนีหายเข้าไปในตึกคณะ แบคฮยอนเป็นเลขาของคณะกรรมการนักศึกษา และเป็นรูมเมทของผมเองครับ ไม่แปลกที่หมอนี่จะรู้เรื่องราวความเป็นไปของผมโดยเฉพาะเรื่องแฟนต่างๆ
“ม…เมื่อกี้พี่จุนมยอน…จะ…ทำอะไร…เหรอครับ” เอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก คนอุตส่าห์ลืม อีกคนก็ดันไปขุดมันขึ้นมาอีก ผมเม้มปากแน่นก่อนจะส่ายหัวน้อยๆแล้วหันหน้าไปทางอื่น เซฮุนเองก็เงียบไม่พูดอะไรจนผมต้องหันหน้าไปหาอีกคน แล้วอยู่ๆริมฝีปากที่ผมแอบมองก็ลอยอยู่ในระดับสายตาของผม ผมใจเต้นรัวราวกับกลองชุดเมื่อมันค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ก่อนจะประทับลงบนหน้าผากของผมแผ่วเบา…
“เอ่อ…” คนที่เป็นฝ่ายเริ่มตอนนี้หน้าแดงจนลามไปถึงใบหูพลางอ้าปากพะงาบๆอย่างไม่รู้จะพูดอะไร ผมเม้มปากแน่นก่อนจะซบหน้าลงที่ไหล่อีกคนเพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำไม่แพ้กันแล้วกล่าว…
“ทำแบบนี้…มันเขินนะโอเซฮุน”
ถ้าฉันรอให้เธอจับมือก่อน จะเป็นไปได้ไหม
ฉันไม่รู้ ไม่รู้ว่าเธอจะจับมือฉันก่อนหรือเปล่า
หรือฉันจะขโมยจูบจากเธอ รออีกสักหน่อยดีกว่า
เพื่อนๆต้องแซวฉันแน่เลย ถ้าฉันทำแบบนั้น
“เดี๋ยวผมไปส่งที่หอนะ” เซฮุนเอ่ยอย่างเก้ๆกังๆก่อนจะจับจูงมือผมขึ้นรถสาธารณะที่วิ่งรอบมหาวิทยาลัย เวลานี้เป็นช่วงเลิกเรียน ทำให้คนออกจะเยอะไปเสียหน่อย ผมยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินตามอีกคนที่จูงมือผมนำไปข้างหน้า เซฮุนมองซ้ายมองขวาก่อนจะค่อยๆพาผมไปยืนตรงที่สามารถเกาะเสาได้ง่ายที่สุด
ครืด…
เสียงข้อความเข้าทำเอาผมอดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเช็ค โดยไม่ทันระวังว่าตอนนี้รถกำลังออกวิ่ง และทันทีที่ผ่านหลังเต่า…ผมก็เผลอสะดุดเกือบจะหงายหลังในทันที
“เอ่อ…พี่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” เป็นเซฮุนที่จับเอวผมเอาไว้ได้ทัน ผมเกาะแขนเสื้อนักศึกษาอีกคนแน่นก่อนจะส่ายหัวน้อยๆ ใบหน้าที่ห่างกันแค่คืบทำเอาผมใจเต้นไม่เป็นส่ำ
“ม…ไม่เป็นไร” ผมยิ้มน้อยๆก่อนจะพยายามทรงตัวกลับมายืนแบบเดิม เซฮุนยิ้มให้ผมน้อยๆก่อนจะจับมือผมไปกุมเอาไว้แน่น ผมรีบเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าก่อนจะมองหน้าอีกคนพลางหัวเราะน้อยๆเพราะตลกในความซุ่มซ่ามของตัวเอง และรอยยิ้มที่ได้รับกลับมา มันก็ยิ่งทำให้ผมใจเต้นแรงขึ้นไปอีก
ผมคงชอบโอเซฮุนเข้าแล้วจริงๆใช่ไหมครับ…
ฉันอยากจะเป็นคนแรก ฉันอยากซ่อนมันเอาไว้
ยังคงสดใสเหมือนแอปเปิ้ลสด เหมือนเด็กๆ
ฉันอยากถามในสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้
ฉันชอบเธอนะ…
“พี่ไม่เคยกินต๊อกโปกีจริงๆเหรอครับ?” เซฮุนเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินผ่านร้านต๊อกโปกีที่คนไม่พลุกพล่านมากแต่ดูน่ากิน ผมพยักหน้าให้กับคำถามตรงหน้า เพราะคุณแม่มักจะบอกเสมอว่าอาหารข้างทางมันสกปรกไม่น่าทาน ทำให้ลูกคุณหนูอย่างผมแทบจะไม่ได้แตะอะไรพวกนี้เลย แม้แต่เนื้อย่างก็ตาม นานๆทีถึงจะได้กิน…
“เป็นคนเกาหลีได้ไงเนี่ย” เซฮุนเอ่ยพลางหัวเราะน้อยๆ เพราะรู้สึกตลกกับสิ่งที่ได้รู้เกี่ยวกับผมอีกหนึ่งเรื่อง ผมตีแขนอีกคนเบาๆหนึ่งทีก่อนจะเชิดหน้าไปทางอื่นด้วยความงอน
หลังจากคบกันไปได้หนึ่งสัปดาห์ ดูเหมือนว่าคนที่เดินข้างๆจะขี้เล่นมากขึ้นและขี้อายน้อยลงนะครับ และนั่น…มันก็ทำให้ผมหายใจไม่สะดวกทุกที มันเหมือนมีอะไรล้นออกมาจากอกตลอดเวลา ใจเต้นแรง แล้วก็หลงรอยยิ้มของคนตรงหน้ามากๆเลยด้วย
วันนี้ผมกับเซฮุนก็พากันมาเดทสุดสัปดาห์แถวๆมหาวิทยาลัย
ถือว่าเป็นเดทแรกของผมกับเซฮุนเลยก็ว่าได้นะครับ…
“ก็คุณแม่ห้ามไม่ให้กินอาหารข้างทางนี่นา” ผมทำหน้าบูดบึ้งพลางอธิบายเหตุผลออกไป เซฮุนยิ้มน้อยๆก่อนจะจูงมือผมเดินกลับไปที่ร้านต๊อกโปกีร้านเดิมที่เราเพิ่งเดินผ่านมา
“ไปกินกัน…” คนเป็นรุ่นน้องเอ่ยก่อนจะเดินไปซื้อต๊อกโปกีมาสองชุด ทั้งสำหรับผมและสำหรับคนซื้อ เซฮุนเลือกที่จะซื้อแบบห่อกลับบ้าน เพราะไม่อยากไปยืนเบียดกับคนอื่นที่จับจองที่นั่ง (หรือที่ยืน) หน้าร้านกันไปหมดแล้ว คนตัวสูงกว่าจูงมือผมไปที่สวนสาธารณะใกล้ๆ ก่อนจะพามานั่งที่ม้านั่งขนาดพอดีสองคน
“ลองชิมดูนะครับ” เอ่ยเสียงเบาก่อนจะแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างที่ชอบทำ ผมพยักหน้าน้อยๆก่อนจะรับต๊อกโปกีจากอีกคนมาหนึ่งชุดแล้วลงมือทานด้วยความอยากรู้
“อร่อย! ฉันพลาดของแบบนี้ไปได้ไงเนี่ย!” ผมอุทานออกมาอย่างถูกใจก่อนจะลงมือจ้วงอาหารชนิดใหม่ที่เพิ่งเคยลิ้มลองอย่างไม่เกรงใจคนตรงหน้า เซฮุนยิ้มน้อยๆพลางจิ้มของตัวเองกินบ้าง แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกร้อนแปลกๆในตอนนี้ก็คือสายตาของคนตรงหน้าที่จ้องมองมา
ผมช้อนตาขึ้นมองอีกคนก่อนจะหลุบต่ำลงพร้อมหัวใจที่เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง แทบกินต่อไม่ไหว…เพราะเซฮุนเล่นจ้องกันมาแบบนี้ เหมือนจะกินกันแทนยังไงอย่างนั้นแหละ
“พี่จุนมยอน…” เสียงเรียกจากอีกคนทำเอาผมเงยหน้าขึ้นมามองอย่างสงสัย กะพริบตาปริบๆเมื่อมือของอีกฝ่ายยื่นเข้ามาเช็ดซอสที่เลอะอยู่ตรงมุมปากให้ ผมเกาท้ายทอยน้อยๆด้วยความเขินเมื่ออีกคนผละออกไป ก่อนจะหัวเราะออกมาบ้างเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายก็กินเลอะไม่แพ้กัน
“นายก็กินเลอะเหมือนกันนั่นแหละ” ผมยิ้มน้อยๆก่อนจะเอี้ยวตัวเข้าหาอีกคน เซฮุนมองผมตาลอยเมื่อผมค่อยๆเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ เป้าหมายของผมคือซอสที่ติดอยู่บนริมฝีปากล่างของอีกคน ใจเต้นระรัวทั้งๆที่เป็นคนขยับกายเข้าไปหา ผมจดจ้องไปที่รอยซอสนั่นก่อนจะประทับริมฝีปากของผมลงไปเบาๆ เซฮุนหลับตาปี๋เพื่อรับสัมผัสนุ่มนั้น เพียงเสี้ยววินาทีผมก็ผละออกมานั่งก้มหน้าจิ้มต๊อกโปกีกินต่อราวกับเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่ตอนนี้หัวใจเต้นแรงมากจนแทบจะหลุดออกมานอกอกอยู่แล้ว…
เซฮุนในตอนนี้ดูเหมือนสติจะหลุดลอยพร้อมติดต่อยานแม่ได้ตลอดเวลา เรี่ยวแรงในตอนนี้ถึงขั้นมือไม้อ่อนจนเผลอปล่อยต๊อกโปกีในมือที่ยังเหลืออยู่ครึ่งหนึ่งหล่นลงพื้นลงไป และเสียงกล่องต๊อกโปกีที่กระทบกับพื้นนั่นแหละที่เรียกสติอีกคนให้เปลี่ยนอิริยาบถเป็นนั่งก้มหน้า เม้มปาก และเกาท้ายทอยแทนนั่งเฉยๆ ใบหน้าของเซฮุนเปลี่ยนเป็นสีแดงจัดจนเกือบจะเหมือนมะเขือเทศสุกอยู่แล้ว…
นี่ผมทำอะไรลงไปเนี่ย…บ้าที่สุดเลย!
“ก…กินของฉัน…ก็ได้นะ” กลายเป็นผมที่พูดจากับอีกคนด้วยความประหม่าแทนก่อนจะยื่นกล่องต๊อกโปกีไปตรงหน้าคนเป็นรุ่นน้อง เซฮุนจับมือที่ผมยื่นอาหารไปให้ก่อนจะส่ายหัวแล้วพูดต่อ…
“ป้อน…” ทันทีที่อีกคนพูดออกมาผมก็แทบจะเอาหน้ามุดหายเข้าไปในคอเสื้อตัวเองเสียเดี๋ยวนั้น
ให้ตายเถอะ! ผมจะบ้าตายเพราะโอเซฮุนจริงๆแล้วนะ!
ถ้าเธอรู้แล้วช่วยหลับตาลงได้ไหม
อย่ามองฉันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์แบบนั้นสิ
ฉันรู้สึกตกใจเมื่อคิดถึงจูบแรก
เธอดูน่ารักมาก…ตอนที่เธอหลับตาแน่นอย่างนั้น
“พี่แพ้แล้ว…” เซฮุนเอ่ยขึ้นทันทีที่ผมเป็นฝ่ายหลบตาไปก่อน ตอนนี้เรากำลังเล่นเกมส์จ้องตากันครับ คนเริ่มก็คือเซฮุนนั่นแหละ ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะ อยู่ๆคนตรงหน้าก็มาอ้อนจะให้ผมเล่นเกมส์ ถ้าใครแพ้ต้องหอมแก้มคนชนะเสียอย่างนั้น…
นับวันความขี้อายที่เคยมีมันหายไปไหนกันหมดนะโอเซฮุน!
“เอาแก้มมาสิ” ผมอมลมน้อยๆก่อนจะสั่งอีกคนให้หันแก้มมา เซฮุนหันหน้ามามึนๆก่อนจะได้รับหอมของผมไปหนึ่งฟอดใหญ่ เบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อผมแถมให้อีกหนึ่งฟอดใหญ่ที่แก้มอีกข้าง ทำเอาใบหูของอีกคนแดงเถือกอย่างเห็นได้ชัด
จะว่าไป…เซฮุนก็ยังเป็นคนขี้อายอยู่เหมือนเดิมนั่นแหละครับ
“แฟนผมน่ารักที่สุดเลย” เซฮุนฉีกยิ้มก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดพลางโยกไปมาเหมือนเด็กเล็กๆ ผมยิ้มน้อยๆก่อนจะส่ายหน้าไปมาที่อกของอีกคนอย่างหมั่นเขี้ยว
“แน่นอน ก็ฉันคือคิมจุนมยอนนี่นา” ผมยิ้มน้อยๆพลางหลับตาพริ้มในอ้อมกอดนั้นพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
เซฮุนจะรู้ไหมนะว่าจริงๆแล้วผมแกล้งหลบตาเขาต่างหาก
เซฮุนจะรู้หรือเปล่าว่าจริงๆแล้วแค่ขอ ผมก็ไม่ปฏิเสธหรอก
ก็ผมน่ะ…หลงรักเซฮุนจะแย่อยู่แล้วนี่นา…
ฉันแกล้งทำเป็นอาย ตอนที่มองเข้าไปในดวงตาที่บริสุทธิ์ของเธอ
ใจฉันก็สั่น ฉันคิดว่าฉันหลงรักเธอเข้าแล้ว
ไม่รู้จริงๆว่าตกหลุมรักเธอไปเมื่อไร
รู้สึกปั่นป่วนไปหมด ตอนมองไปที่เธอ
แม่ของฉันต้องแซวแน่เลย ถ้ารู้ว่าฉันเป็นแบบนั้น
ฉันอยากจะเป็นคนแรก ฉันอยากซ่อนมันเอาไว้
ยังคงสดใสเหมือนแอปเปิ้ลสด เหมือนเด็กๆ
ฉันอยากถามในสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้
ฉันชอบเธอนะ…
-END-
ช่วงนี้อัพฟิคถี่มากเจ้าค่ะ สมองโลดแล่นเหลือเกิน #ได้ข่าวว่าจะสอบ
ฟิคเรื่องนี้เกิดจากการฟังเพลง Unripe Apple ของฮยอนอาแล้วถูกใจ
ชอบเมโลดี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอมาอ่านเนื้อเพลงก็ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่
รู้สึกมันเหมาะกับการแต่งฟิคยังไงไม่รู้ค่ะ แอร๊ #ก็เลยได้เป็นเรื่องนี้เลย
ก็...ขอบคุณที่สนใจคลิกกันเข้ามานะคะ รักคู่ฮุนโฮกันเยอะๆน้าาา ^^
...onarpos
ผลงานอื่นๆ ของ onarpos ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ onarpos
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น