[EXO's Fiction] Unripe Apple || Sehun x Suho - [EXO's Fiction] Unripe Apple || Sehun x Suho นิยาย [EXO's Fiction] Unripe Apple || Sehun x Suho : Dek-D.com - Writer

    [EXO's Fiction] Unripe Apple || Sehun x Suho

    โดย onarpos

    เมื่อโอเซฮุนคนขี้อายสารภาพรักกับคิมจุนมยอนคนน่ารัก...

    ผู้เข้าชมรวม

    2,259

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    2.25K

    ความคิดเห็น


    24

    คนติดตาม


    25
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 มี.ค. 56 / 09:02 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    EXO's SHORT FICTION

    U N R I P E  A P P L E *

    - SEHUN x SUHO -






     



     
    Special Thanks
    Song : Unripe Apple - Hyun Ah feat. Il Hoon (BTOB)
    Lyrics & Translation : Leemosstar@youtube
    Lovely Theme : Tenpoints


     
    © Tenpoints !
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      U n r i p e A p p l e *

       

      “พพี่จุนมยอนครับผมผม” เสียงอึกอักของรุ่นน้องตรงหน้าทำให้ผมเอียงคอน้อยๆด้วยความอยากรู้ในประโยคถัดไปที่อีกคนจะพูด จริงๆผมก็พอจะเดาออกหรอกนะครับว่าอีกคนมาสารภาพรักกับผม และที่พอจะเดาออกกเป็นเพราะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นบ่อยๆกับตัวผมน่ะสิครับ คิมจุนมยอนคนนี้น่ะ ป็อปปูล่าทั้งในหมู่ผู้หญิง และผู้ชายที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งย่าน xxx ไม่เบาอยู่เหมือนกันนะ

      “ผมชอบพี่ครับมาลองคบกันไหมครับ?” ในที่สุดก็จบประโยคจนได้ รุ่นน้องเจ้าของผิวขาวพอๆกันกับผมก้มหน้าจนคางแทบจะชิดอกอยู่แล้ว คิ้วที่ขมวดกันจนเกือบเป็นปมนั่นแสดงถึงความกังวลของอีกคนอย่างเห็นได้ชัด ผมยิ้มขำเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าเข้าไปหาอีกคนที่พยายามช้อนตามองขึ้นมาเป็นระยะ

      “อืมก็เอาสิ” ผมครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบออกไป ตามปกติแล้วเวลามีคนมาสารภาพรักผมก็ไม่ได้ตอบรับทุกคนหรอกนะครับ เพียงแต่ว่าคนตรงหน้านั่นไม่ค่อยจะเหมือนคนที่ผ่านๆมาเสียเท่าไร โอเซฮุนเป็นคนขี้อาย แต่ก็เป็นคนมีน้ำใจมากคนหนึ่ง และที่ผมรู้นิสัยใจคอคนตรงหน้านี้ ก็เพราะพวกเราเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการนักศึกษาของคณะครับ เคยทำงานด้วยกันมาบ้าง ก็พอจะเห็นๆกันอยู่ว่าน้องเป็นคนยังไง

      ถ้าจะลองคบดูก็ไม่เสียหายใช่ไหมล่ะครับ?

      “หา” เซฮุนเงยหน้าขึ้นมามองผมอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน ผมยิ้มขำให้กับท่าทางของคนตรงหน้าก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ

      “อื้อมาลองคบกันดูไง คิมจุนมยอนกับโอเซฮุนคบกันแล้วนะ” ผมย้ำอีกครั้ง เซฮุนทำหน้าเอ๋อไปสักพักก่อนจะเผยรอยยิ้มกว้างออกมาอย่างน่ารัก รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความโล่งอก รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข และรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความจริงใจ

      จะทำยังไงดี

      ผมใจเต้นให้กับรอยยิ้มของคนตรงหน้าเสียแล้ว

       

      ฉันรู้สึกตกใจเล็กน้อย คิดว่านี่เป็นรักแรกพบ

      เธอทำท่าทีแบบนั้น รู้ไหมว่าน่ารัก

      ใบหน้าแบบนั้น ดวงตาที่บริสุทธิ์

      อาการตื่นเต้นแบบนี้ มาได้อย่างไรก็ไม่รู้

       

       

       

      หลังจากที่เซฮุนมาสารภาพรักผมในวันนั้น วันนี้ก็เข้าวันที่สามที่เราคบกันแล้วล่ะครับ เซฮุนเป็นคนขี้อายมากจริงๆ แม้แต่จับมือผมก็ยังไม่กล้า แต่ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรนะ รู้สึกว่าท่าทางแบบนั้นมันน่ารักสุดๆไปเลยล่ะ

      “เอ่อ” ขณะที่กำลังเดินไปที่ลานโต๊ะหน้าตึกคณะ เซฮุนก็เริ่มพูดบางอย่างขึ้น

      “หืม?” ผมหันไปมองอีกคนตาแป๋วก่อนจะได้รับคำตอบเป็นการส่ายหัวเบาๆ

      “มีอะไรหรือเปล่า?” ผมเดินไปหยุดยืนตรงหน้าเซฮุนก่อนจะได้รับคำตอบมาแบบเดิม ผมจึงไม่คะยั้นคะยออีกฝ่ายไปมากกว่านี้ก่อนจะเอี้ยวตัวกลับไปเพื่อเดินข้างๆคนที่กำลังคบอยู่ เดินไปได้สักพักก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสอุ่นที่มือซึ่งกำลังแกว่งไปมาสวนทางกับเท้าที่กำลังก้าวไปข้างหน้า ตอนนี้เซฮุนกำลังกุมมือของผมเอาไว้หลวมๆก่อนจะกระชับแน่นขึ้นจนรู้สึกถึงความชื้นที่ออกมาเป็นเหงื่อตามซอกนิ้วของอีกคน ไม่บอกก็รู้ว่าเซฮุนตื่นเต้นแค่ไหน

      เพราะผมเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน

      “นั่งตรงนี้ก็แล้วกันนะครับ” เซฮุนเอ่ยเสียงเบาก่อนที่เราทั้งสองจะค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้ม้าหินที่วางเรียงอยู่หน้าตึกคณะโดยที่ยังไม่ปล่อยมือกัน ไม่มีบทสนทนาอะไรต่อจากนั้น มีเพียงเราสองคนที่นั่งจับมือกันแน่นโดยที่อีกคนเอาแต่ก้มหน้านิ่งพลางเม้มปากแน่น ก่อนจะแลบลิ้นเลียริมฝีปากน้อยๆด้วยความประหม่าอย่างที่ชอบทำ

      ผมใจเต้นรัวขึ้นมาทันทีที่มองริมฝีปากของอีกคนซึ่งถูกเคลือบด้วยของเหลวจากปลายลิ้น และเผลอหน้าร้อนวูบวาบเมื่อรู้สึก อยากจูบคนตรงหน้าขึ้นมาเสียดื้อๆ ให้ตายเถอะ! คิมจุนมยอนกลายเป็นคนทะลึ่งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรนะ

      รู้ตัวอีกทีก็เผลอยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนอีกคนเบิกตากว้าง ผมเม้มปากแน่นก่อนจะหันหน้าหนีเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป ตอนนี้รู้สึกเหมือนความร้อนทุกชนิดบนโลกมารวมกันที่ใบหน้าของผม อายจนไม่รู้จะพูดยังไง แต่เซฮุนน่ารักจริงๆนี่นา

      “เฮ้ย! ไอ้คู่ข้าวใหม่ปลามัน มานั่งจีบกันอยู่ตรงนี้เอง น่าอิจฉาจริงๆ” เสียงของแบคฮยอนเพื่อนรุ่นเดียวกับผมพูดขึ้นก่อนจะนั่งแปะที่เก้าอี้ตรงกันข้ามอย่างรวดเร็ว

      “หยุดเลยนะแบคฮยอน!ผมทำปากยื่นพลางค้อนอีกคนไปยกใหญ่

      “โอเคไม่แซวก็ได้ แต่นี่เอกสารสรุปการประชุมครั้งที่แล้ว โทษทีที่เอามาให้ช้า ไม่ขัดจังหวะแล้ว ไปก็ได้ เชอะ!” พูดเป็นชุดก่อนจะเดินสะบัดตูดหนีหายเข้าไปในตึกคณะ แบคฮยอนเป็นเลขาของคณะกรรมการนักศึกษา และเป็นรูมเมทของผมเองครับ ไม่แปลกที่หมอนี่จะรู้เรื่องราวความเป็นไปของผมโดยเฉพาะเรื่องแฟนต่างๆ

      “มเมื่อกี้พี่จุนมยอนจะทำอะไรเหรอครับ” เอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก คนอุตส่าห์ลืม อีกคนก็ดันไปขุดมันขึ้นมาอีก ผมเม้มปากแน่นก่อนจะส่ายหัวน้อยๆแล้วหันหน้าไปทางอื่น เซฮุนเองก็เงียบไม่พูดอะไรจนผมต้องหันหน้าไปหาอีกคน แล้วอยู่ๆริมฝีปากที่ผมแอบมองก็ลอยอยู่ในระดับสายตาของผม ผมใจเต้นรัวราวกับกลองชุดเมื่อมันค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ก่อนจะประทับลงบนหน้าผากของผมแผ่วเบา

      “เอ่อ” คนที่เป็นฝ่ายเริ่มตอนนี้หน้าแดงจนลามไปถึงใบหูพลางอ้าปากพะงาบๆอย่างไม่รู้จะพูดอะไร ผมเม้มปากแน่นก่อนจะซบหน้าลงที่ไหล่อีกคนเพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำไม่แพ้กันแล้วกล่าว

      “ทำแบบนี้มันเขินนะโอเซฮุน

       

      ถ้าฉันรอให้เธอจับมือก่อน จะเป็นไปได้ไหม

      ฉันไม่รู้ ไม่รู้ว่าเธอจะจับมือฉันก่อนหรือเปล่า

      หรือฉันจะขโมยจูบจากเธอ รออีกสักหน่อยดีกว่า

      เพื่อนๆต้องแซวฉันแน่เลย ถ้าฉันทำแบบนั้น

       

       

       

      “เดี๋ยวผมไปส่งที่หอนะ” เซฮุนเอ่ยอย่างเก้ๆกังๆก่อนจะจับจูงมือผมขึ้นรถสาธารณะที่วิ่งรอบมหาวิทยาลัย เวลานี้เป็นช่วงเลิกเรียน ทำให้คนออกจะเยอะไปเสียหน่อย ผมยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินตามอีกคนที่จูงมือผมนำไปข้างหน้า เซฮุนมองซ้ายมองขวาก่อนจะค่อยๆพาผมไปยืนตรงที่สามารถเกาะเสาได้ง่ายที่สุด

      ครืด

      เสียงข้อความเข้าทำเอาผมอดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเช็ค โดยไม่ทันระวังว่าตอนนี้รถกำลังออกวิ่ง และทันทีที่ผ่านหลังเต่าผมก็เผลอสะดุดเกือบจะหงายหลังในทันที

      “เอ่อพี่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” เป็นเซฮุนที่จับเอวผมเอาไว้ได้ทัน ผมเกาะแขนเสื้อนักศึกษาอีกคนแน่นก่อนจะส่ายหัวน้อยๆ ใบหน้าที่ห่างกันแค่คืบทำเอาผมใจเต้นไม่เป็นส่ำ

      “มไม่เป็นไร” ผมยิ้มน้อยๆก่อนจะพยายามทรงตัวกลับมายืนแบบเดิม เซฮุนยิ้มให้ผมน้อยๆก่อนจะจับมือผมไปกุมเอาไว้แน่น ผมรีบเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าก่อนจะมองหน้าอีกคนพลางหัวเราะน้อยๆเพราะตลกในความซุ่มซ่ามของตัวเอง และรอยยิ้มที่ได้รับกลับมา มันก็ยิ่งทำให้ผมใจเต้นแรงขึ้นไปอีก

      ผมคงชอบโอเซฮุนเข้าแล้วจริงๆใช่ไหมครับ

       

      ฉันอยากจะเป็นคนแรก ฉันอยากซ่อนมันเอาไว้

      ยังคงสดใสเหมือนแอปเปิ้ลสด เหมือนเด็กๆ

      ฉันอยากถามในสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้

      ฉันชอบเธอนะ

       

       

       

      “พี่ไม่เคยกินต๊อกโปกีจริงๆเหรอครับ?” เซฮุนเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินผ่านร้านต๊อกโปกีที่คนไม่พลุกพล่านมากแต่ดูน่ากิน ผมพยักหน้าให้กับคำถามตรงหน้า เพราะคุณแม่มักจะบอกเสมอว่าอาหารข้างทางมันสกปรกไม่น่าทาน ทำให้ลูกคุณหนูอย่างผมแทบจะไม่ได้แตะอะไรพวกนี้เลย แม้แต่เนื้อย่างก็ตาม นานๆทีถึงจะได้กิน

      “เป็นคนเกาหลีได้ไงเนี่ย” เซฮุนเอ่ยพลางหัวเราะน้อยๆ เพราะรู้สึกตลกกับสิ่งที่ได้รู้เกี่ยวกับผมอีกหนึ่งเรื่อง ผมตีแขนอีกคนเบาๆหนึ่งทีก่อนจะเชิดหน้าไปทางอื่นด้วยความงอน

      หลังจากคบกันไปได้หนึ่งสัปดาห์ ดูเหมือนว่าคนที่เดินข้างๆจะขี้เล่นมากขึ้นและขี้อายน้อยลงนะครับ และนั่นมันก็ทำให้ผมหายใจไม่สะดวกทุกที มันเหมือนมีอะไรล้นออกมาจากอกตลอดเวลา ใจเต้นแรง แล้วก็หลงรอยยิ้มของคนตรงหน้ามากๆเลยด้วย

      วันนี้ผมกับเซฮุนก็พากันมาเดทสุดสัปดาห์แถวๆมหาวิทยาลัย

      ถือว่าเป็นเดทแรกของผมกับเซฮุนเลยก็ว่าได้นะครับ

      “ก็คุณแม่ห้ามไม่ให้กินอาหารข้างทางนี่นา” ผมทำหน้าบูดบึ้งพลางอธิบายเหตุผลออกไป เซฮุนยิ้มน้อยๆก่อนจะจูงมือผมเดินกลับไปที่ร้านต๊อกโปกีร้านเดิมที่เราเพิ่งเดินผ่านมา

      “ไปกินกัน” คนเป็นรุ่นน้องเอ่ยก่อนจะเดินไปซื้อต๊อกโปกีมาสองชุด ทั้งสำหรับผมและสำหรับคนซื้อ เซฮุนเลือกที่จะซื้อแบบห่อกลับบ้าน เพราะไม่อยากไปยืนเบียดกับคนอื่นที่จับจองที่นั่ง (หรือที่ยืน) หน้าร้านกันไปหมดแล้ว คนตัวสูงกว่าจูงมือผมไปที่สวนสาธารณะใกล้ๆ ก่อนจะพามานั่งที่ม้านั่งขนาดพอดีสองคน

      “ลองชิมดูนะครับ” เอ่ยเสียงเบาก่อนจะแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างที่ชอบทำ ผมพยักหน้าน้อยๆก่อนจะรับต๊อกโปกีจากอีกคนมาหนึ่งชุดแล้วลงมือทานด้วยความอยากรู้

      “อร่อย! ฉันพลาดของแบบนี้ไปได้ไงเนี่ย!” ผมอุทานออกมาอย่างถูกใจก่อนจะลงมือจ้วงอาหารชนิดใหม่ที่เพิ่งเคยลิ้มลองอย่างไม่เกรงใจคนตรงหน้า เซฮุนยิ้มน้อยๆพลางจิ้มของตัวเองกินบ้าง แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกร้อนแปลกๆในตอนนี้ก็คือสายตาของคนตรงหน้าที่จ้องมองมา

      ผมช้อนตาขึ้นมองอีกคนก่อนจะหลุบต่ำลงพร้อมหัวใจที่เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง แทบกินต่อไม่ไหวเพราะเซฮุนเล่นจ้องกันมาแบบนี้ เหมือนจะกินกันแทนยังไงอย่างนั้นแหละ

      “พี่จุนมยอน” เสียงเรียกจากอีกคนทำเอาผมเงยหน้าขึ้นมามองอย่างสงสัย กะพริบตาปริบๆเมื่อมือของอีกฝ่ายยื่นเข้ามาเช็ดซอสที่เลอะอยู่ตรงมุมปากให้ ผมเกาท้ายทอยน้อยๆด้วยความเขินเมื่ออีกคนผละออกไป ก่อนจะหัวเราะออกมาบ้างเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายก็กินเลอะไม่แพ้กัน

      “นายก็กินเลอะเหมือนกันนั่นแหละ” ผมยิ้มน้อยๆก่อนจะเอี้ยวตัวเข้าหาอีกคน เซฮุนมองผมตาลอยเมื่อผมค่อยๆเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ เป้าหมายของผมคือซอสที่ติดอยู่บนริมฝีปากล่างของอีกคน ใจเต้นระรัวทั้งๆที่เป็นคนขยับกายเข้าไปหา ผมจดจ้องไปที่รอยซอสนั่นก่อนจะประทับริมฝีปากของผมลงไปเบาๆ เซฮุนหลับตาปี๋เพื่อรับสัมผัสนุ่มนั้น เพียงเสี้ยววินาทีผมก็ผละออกมานั่งก้มหน้าจิ้มต๊อกโปกีกินต่อราวกับเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่ตอนนี้หัวใจเต้นแรงมากจนแทบจะหลุดออกมานอกอกอยู่แล้ว

      เซฮุนในตอนนี้ดูเหมือนสติจะหลุดลอยพร้อมติดต่อยานแม่ได้ตลอดเวลา เรี่ยวแรงในตอนนี้ถึงขั้นมือไม้อ่อนจนเผลอปล่อยต๊อกโปกีในมือที่ยังเหลืออยู่ครึ่งหนึ่งหล่นลงพื้นลงไป และเสียงกล่องต๊อกโปกีที่กระทบกับพื้นนั่นแหละที่เรียกสติอีกคนให้เปลี่ยนอิริยาบถเป็นนั่งก้มหน้า เม้มปาก และเกาท้ายทอยแทนนั่งเฉยๆ ใบหน้าของเซฮุนเปลี่ยนเป็นสีแดงจัดจนเกือบจะเหมือนมะเขือเทศสุกอยู่แล้ว    

      นี่ผมทำอะไรลงไปเนี่ยบ้าที่สุดเลย!

      “กกินของฉันก็ได้นะ” กลายเป็นผมที่พูดจากับอีกคนด้วยความประหม่าแทนก่อนจะยื่นกล่องต๊อกโปกีไปตรงหน้าคนเป็นรุ่นน้อง เซฮุนจับมือที่ผมยื่นอาหารไปให้ก่อนจะส่ายหัวแล้วพูดต่อ

      “ป้อน ทันทีที่อีกคนพูดออกมาผมก็แทบจะเอาหน้ามุดหายเข้าไปในคอเสื้อตัวเองเสียเดี๋ยวนั้น

      ให้ตายเถอะ! ผมจะบ้าตายเพราะโอเซฮุนจริงๆแล้วนะ!

       

      ถ้าเธอรู้แล้วช่วยหลับตาลงได้ไหม

      อย่ามองฉันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์แบบนั้นสิ

      ฉันรู้สึกตกใจเมื่อคิดถึงจูบแรก

      เธอดูน่ารักมากตอนที่เธอหลับตาแน่นอย่างนั้น

       

       

       

      “พี่แพ้แล้ว” เซฮุนเอ่ยขึ้นทันทีที่ผมเป็นฝ่ายหลบตาไปก่อน ตอนนี้เรากำลังเล่นเกมส์จ้องตากันครับ คนเริ่มก็คือเซฮุนนั่นแหละ ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะ อยู่ๆคนตรงหน้าก็มาอ้อนจะให้ผมเล่นเกมส์ ถ้าใครแพ้ต้องหอมแก้มคนชนะเสียอย่างนั้น

      นับวันความขี้อายที่เคยมีมันหายไปไหนกันหมดนะโอเซฮุน!

      “เอาแก้มมาสิ” ผมอมลมน้อยๆก่อนจะสั่งอีกคนให้หันแก้มมา เซฮุนหันหน้ามามึนๆก่อนจะได้รับหอมของผมไปหนึ่งฟอดใหญ่ เบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อผมแถมให้อีกหนึ่งฟอดใหญ่ที่แก้มอีกข้าง ทำเอาใบหูของอีกคนแดงเถือกอย่างเห็นได้ชัด

      จะว่าไปเซฮุนก็ยังเป็นคนขี้อายอยู่เหมือนเดิมนั่นแหละครับ

      “แฟนผมน่ารักที่สุดเลย” เซฮุนฉีกยิ้มก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดพลางโยกไปมาเหมือนเด็กเล็กๆ ผมยิ้มน้อยๆก่อนจะส่ายหน้าไปมาที่อกของอีกคนอย่างหมั่นเขี้ยว

      “แน่นอน ก็ฉันคือคิมจุนมยอนนี่นา” ผมยิ้มน้อยๆพลางหลับตาพริ้มในอ้อมกอดนั้นพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ

      เซฮุนจะรู้ไหมนะว่าจริงๆแล้วผมแกล้งหลบตาเขาต่างหาก

      เซฮุนจะรู้หรือเปล่าว่าจริงๆแล้วแค่ขอ ผมก็ไม่ปฏิเสธหรอก

      ก็ผมน่ะหลงรักเซฮุนจะแย่อยู่แล้วนี่นา

       

      ฉันแกล้งทำเป็นอาย ตอนที่มองเข้าไปในดวงตาที่บริสุทธิ์ของเธอ

      ใจฉันก็สั่น ฉันคิดว่าฉันหลงรักเธอเข้าแล้ว

      ไม่รู้จริงๆว่าตกหลุมรักเธอไปเมื่อไร

      รู้สึกปั่นป่วนไปหมด ตอนมองไปที่เธอ

      แม่ของฉันต้องแซวแน่เลย ถ้ารู้ว่าฉันเป็นแบบนั้น

       

       

       

      ฉันอยากจะเป็นคนแรก ฉันอยากซ่อนมันเอาไว้

      ยังคงสดใสเหมือนแอปเปิ้ลสด เหมือนเด็กๆ

      ฉันอยากถามในสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้

      ฉันชอบเธอนะ

       

       

       

      -END-

       

       

       

       

       

      ช่วงนี้อัพฟิคถี่มากเจ้าค่ะ สมองโลดแล่นเหลือเกิน #ได้ข่าวว่าจะสอบ
      ฟิคเรื่องนี้เกิดจากการฟังเพลง Unripe Apple ของฮยอนอาแล้วถูกใจ
      ชอบเมโลดี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอมาอ่านเนื้อเพลงก็ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่
      รู้สึกมันเหมาะกับการแต่งฟิคยังไงไม่รู้ค่ะ แอร๊ #ก็เลยได้เป็นเรื่องนี้เลย
      ก็...ขอบคุณที่สนใจคลิกกันเข้ามานะคะ รักคู่ฮุนโฮกันเยอะๆน้าาา ^^

      ...onarpos

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×