คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [Twinned Deer] #Intro
#INTRO
[ LUHAN ]
แสงแดดอ่อนๆตอนเย็นบวกกับลมที่พัดเข้ามากระทบกับใบหน้าหวานของร่างเล็ก ส่งผลให้ริมฝีปากบางต้องเผลอยิ้มออกมาอย่างชอบใจ แม้มันอาจจะเป็นบรรยากาศเดิมๆที่เจอได้ทุกวัน แต่เมื่อสัมผัสความรู้สึกเหล่านี้ทีไรก็ต้องหลงใหลมันทุกที
ร่างเล็กกวาดสายตามองไปยังฝูงแกะที่กำลังก้มหน้าก้มตากินหญ้าเหมือนเด็กตัวเล็กๆ ก่อนที่จะหยิบกล้องตัวโปรดที่สะพายไว้ที่คอขึ้นมาเก็บภาพแกะเหล่านั้น
“อ้ะ!” ผมร้องสะดุ้งตกใจเหมือนจู่ๆก็มีใครบางคนเอามือมายีหัวผมเล่น ผมหันไปก็พบเซฮุนที่ยืนยิ้มจนตาปิด “ตกใจเลยอะ มีอะไรหรอ?”
“จะกลับหรือยัง? หรือจะไปแชะๆรูปที่อื่นต่อ” เซฮุนพูดถามผมพร้อมกับหันไปมองฝูงแกะที่ผมกำลังเก็บภาพอยู่ ผมเก็บรูปฝูงแกะน้อยสองสามภาพก่อนที่จะหันกลับมาตอบคำถามเขา
“อยากไปถ่ายบนเนินเขาอันนั้นอะ” ผมพูดพร้อมกับชี้นิ้วสุดแขน
“โหไกลอะ สูงด้วยเดี๋ยวก็ไม่สบายอีกอะ ไม่ต้องเลย”
“อ่าว แต่บนนั้นแกะเยอะกว่าตรงนี้นะ ._.” ผมพูดเสียงเบาอย่างผิดหวังเล็กน้อย แต่คิดไปคิดมามันก็จริงอย่างที่เซฮุนพูดนั่นละ แม้ผมจะอยู่ที่นิวซีแลนด์มาหลายปีแล้ว แต่ร่างกายผมก็ปรับตัวไม่ได้ซักที อากาศที่นี่เย็นและหนาวมาก แม่ผมยังดุบ่อยๆเลยที่ชอบมาถ่ายรูปบนเนินเขาแบบนี้ จนทุกครั้งที่ผมขอออกมาถ่ายรูป แม่ต้องวานให้เซฮุนมาดูแลด้วยตลอด
ผมกับเซฮุน เอ่อ...ไม่อยากพูดเลยมันเขินแฮะ เราคบกันได้ปีกว่าแล้วละ แต่เรารู้จักกันมานานกว่าห้าปีแล้ว เพราะแบบนี้เขาเลยรู้จักผมแบบหมดไส้หมดพุง บางเรื่องรู้ลึกยิ่งกว่าแม่ผมซะอีกอะ ฮ่าๆ
ผมอยู่ที่นิวซีแลนด์กับแม่แค่สองคนตั้งแต่เล็กๆ แต่ไม่ได้อยู่ตั้งแต่เกิดหรอก ผมเกิดที่ไห่เตี้ยน กรุงปักกิ่ง พอเริ่มจำความได้ก็ย้ายมาอยู่ที่โซลแล้วพอเริ่มจำความได้แม่นๆรู้ตัวอีกทีก็ย้ายมาอยู่ที่นิวซีแลนด์แล้วละ
แม่ผมไม่เคยพูดถึงพ่อเลยซักครั้ง เวลาผมถามคำถามเรื่องพ่อ แม่จะเลี่ยงตอบคำถามผมและทำตัวเหมือนงานยุ่งวุ่นวายขึ้นมาทันที ผมรู้แค่ว่าพ่อผมยังมีชีวิตอยู่และก็อยู่กับน้องชายแฝดของผมที่โซล จะว่าไปผมยังไม่เคยรู้จักกับแฝดน้องของผมเลย ถ้าให้เดาเขาต้องเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆน่ารักๆแน่ๆเลยละ เขาจะเป็นคนพูดน้อยๆแบบผมหรือเปล่านะ? เขาจะชอบถ่ายรูปแบบผมมั้ย? ผมอยากมีโอกาสได้เจอน้องชายแฝดบ้างจัง แต่ไม่รู้ว่าเขามีตัวตนจริงๆหรือเปล่า เพราะแม่แทบไม่เคยพูดถึงเรื่องแฝดน้องของผมเลย แต่ผมเคยได้ยินแม่คุยโทรศัพท์และหลุดพูดชื่อของน้องชายแฝดของผมออกมา เขาชื่อว่า ‘ลู่ฮาน’ ฮ่ะๆ ชื่อน่ารักชะมัดเลย ส่วนผมชื่อ...
“เสี่ยวลู่”
“อ้ะ! ฮ่ะ? ว่าไง” ผมหันไปตอบเซฮุนที่เรียกชื่อผมมาซักพักแล้วแต่ผมมัวแต่เหม่อลอยคิดเรื่องอื่นไม่ได้สนใจฟังเขา
“คิดอะไรอยู่อะ? เรื่องนั้นอีกแล้วหรอ?”
“อือ”
“แน่ะ! คิดอีกและ พอได้แล้วน่า เดี๋ยวซักวันก็ได้เจอเชื่อเด้” เซฮุนพูดพร้อมกับยิ้มจนตาปิด ผมมองหน้าเขาแล้วก็ยิ้มตามอย่างเผลอตัว
“ปะ! กลับบ้านกัน”
“อื้อ” ผมพยักหน้าตอบเขา เซฮุนจูงมือผมไปยังจักรยานที่จอดพิงกับรั้วไม้เก่าๆไว้ ผมขึ้นซ้อนท้ายจักรยานของเขาและเราสองคนก็เดินทางกลับบ้านโดยที่ระหว่างทางผมไม่ลืมที่หยิบกล้องตัวโปรดขึ้นมาเก็บภาพข้างทาง แม้มันจะเป็นวิวเดิมๆ ถนนสายเดิมๆแต่ผมก็อดที่จะเก็บภาพเหล่านั้นไว้ไม่ได้
“ฟิ้ววววว~”
“อ้ะๆๆ อีกแล้วนะ เดี๋ยวกล้องตกจะทำยังไง” ผมยู่ปากพร้อมกับรีบจับกล้องตัวเองเอาไว้แน่น เซฮุนยังคงไม่เลิกที่จะขี่จักรยานปาดซ้ายขวาไปมาอย่างสนุกสนาน ผิดกับผมที่ต้องใช้อีกแขนจับกล้องและอีกแขนก็ต้องกอดเอวเขาเอาไว้ ไม่งั้นได้กลิ้งลงเนินทั้งกล้องทั้งคนแน่ๆ
ไม่นานเท่าไหร่พวกเราสองคนก็มาถึงบ้านหลังเล็กๆที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้ที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพน เซฮุนเข็นจักรยานเดินตามผมเข้ามาในบริเวณหน้าบ้าน และยังไม่วายแกล้งเข็นชนผมอีกด้วย
“ชนๆๆ ฮ่าๆ”
“ฮะๆ” ผมพ่นลมขำออกมาเมื่อเห็นร่างสูงชนและรีบเข็นจักรยานหนีไปจอดพิงไว้กับข้างบ้าน “ชนแล้วหนี ไม่แมนเลย”
“จักรยานมันผิด ตีมันเลยๆ” เซฮุนหัวเราะและเดินเข้ามากอดคอผมพาไปยังหน้าประตูบานใหญ่ เซฮุนยังคงมองหน้าผมและก็หัวเราะอยู่แบบนั้นจนผมเริ่มรู้สึกเขินซะแล้วสิ ทำไมชอบยิ้มตาปิดแบบนี้อยู่เรื่อยเลย
“แม่ฮะ ผมกับเสี่ยวลู่กลับมาแล้วววว” เซฮุนพูดเสียงดังพร้อมกับเปิดประตูเข้าไป
“....” แต่ผิดคาด มีแต่ความเงียบเท่านั้นที่ตอบกลับมา ผมคิ้วขมวดพร้อมกับรีบเดินนำหน้าเซฮุนไป ปกติแม่ผมต้องตะโกนตอบมาแล้วสิ ทำไมบ้านเงียบแบบนี้ละ ผมก้าวขาเดินดิ่งไปที่ห้องกินข้าวทันที
“แม่ฮะ...” ผมพูดเสียงเบาพร้อมกับมองภาพตรงหน้ายังไม่เข้าใจ แม่ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้านิ่งสนิท บนโต๊ะกินข้าวมีเอกสารสีขาววางอยู่ ผมมองหน้าแม่ตอนนี้ก็พอจะเดาได้ว่ามีบางอย่างไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ
“แม่เป็นอะไรหรือเปล่าฮะ?” ผมเดินไปนั่งข้างๆกับแม่ เซฮุนเลือกที่จะยืนดูอยู่ห่างๆแต่สีหน้าของเขาก็กังวลไม่ต่างจากผม แม่หันหน้ามามองผมพร้อมกับน้ำใสๆที่ค่อยๆไหลรินลงมา
“เสี่ยวลู่...”
“...”
“เราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว...” แม่พูดพร้อมกับจับมือทั้งสองข้างของผมเอาไว้แน่น ผมบีบมือแม่เบาๆเพราะอยากให้แม่รู้ว่าผมอยู่ตรงนี้แล้ว
“เราต้องไปจากที่นี่...”
“ก...เกิดอะไรขึ้นฮะแม่?”
“เราโดนฟ้องยึดบ้าน...เราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วลูก” ผมอ้าปากค้างกับสิ่งที่แม่พูดออกมาทั้งน้ำตา หมายความว่ายังไง? แล้วผมกับแม่จะไปอยู่ที่ไหน? ผมจะช่วยแม่ยังไงดี!?
“ผ...ผมไม่เข้าใจ แล้วเราจะอยู่ที่ไหนละฮะ? เราไม่มีญาติที่นี่เลยนะฮะแม่” ผมส่ายหัวไปมาอย่างไม่เข้าใจ แม่จับมือผมเพื่อให้ตั้งสติฟัง
“เราต้องกลับโซลแล้วละ เสี่ยวลู่...” แม่พูดออกมาเสียงเบา กลับโซล? กลับโซลที่แม่หมายถึงคือ...บ้านใช่มั้ย? บ้านจริงๆของเรา
บ้านที่มีพ่อและน้องชายแฝดของผมใช่มั้ย?
[ XIAOLU ]
“เหี้ยยยยยย! รับรับรับรับ!” เสียงตะโกนออกคำสั่งของชายร่างสูงที่ขว้างลูกบอลทรงไข่ไปให้ใครอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง เพื่อนสนิทผิวสีแทนพุ่งตัวเข้ามารับช่วงต่ออย่างชำนาญ ไม่รอช้าขายาวรีบก้าวผ่านฝูงคนตัวใหญ่มากมายเพื่อนำลูกไปวางทำคะแนน
“เฮ้!” ผู้ชมรอบสนามพร้อมใจกันลุกขึ้นร้องเฮเมื่อฝ่ายที่ตนเชียร์สามารถวางลูก ‘ทรัย’ ได้ ทำให้ได้คะแนนไปห้าแต้มแถมยังมีโอกาสได้เตะลูกเข้าประตูอีกสองแต้มด้วย
“แหมไอ้หล่อ!” ชายร่างสูงเอ่ยปากแซวเพื่อนคนที่กำลังทำท่าเก๊กหล่อพร้อมกับส่งยิ้มกวนตีนมาให้ “เพราะกูส่งลูกให้มึงเถอะ”
“ห่าลู่ แค่นี้ทวงบุญคุณ”
“ก็กูเป็นคนส่งลูกนี้ให้มึงนะ!”
“ครับๆ ทวงจัง เดี๋ยวกรวดน้ำไปให้นะครับ” จงอินยกมือขึ้นทำท่าไหว้งามๆจนอีกฝ่ายถึงกับจะง้างหมัดใส่หน้า แต่เสียงเพื่อนในทีมตะโกนขัดจังหวะเอาไว้ก่อน
“ไอ้ลู่! ทำไรอยู่วะ มาทำหน้าที่ดิ”
“เออๆ ไปแล้ว!” ผมยัดฟันยางกลับเข้าไปในปากพร้อมทั้งก้าวขาวิ่งไปประจำตำแหน่ง เตรียมที่จะเตะลูกเข้าประตูหลังจากที่จงอินวางทรัย
การที่ฝ่ายทีมของผมได้วางทรัยลูกในเขตแล้วผมก็จะต้องมาทำหน้าที่เตะลูกเข้าประตูประจำ ซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่ที่หล่อพอสมควรเพราะนอกจากจะได้คะแนนจากการวางทรัยห้าแต้ม ถ้าผมเตะเข้าประตูได้อีกจะได้เพิ่มอีกสองแต้มเลยทีเดียว
ปกติผมไม่ใช่พวกชอบอวดความหล่อเท่าไหร่ แต่บอกเลยตั้งแต่เล่นรักบี้มาผมยังไม่เคยเตะไม่เข้าประตูเลยซักครั้ง
“เฮ้!!” เสียงผู้คนข้างสนามดังกึกก้องอีกครั้ง เมื่อลู่ฮานสามารถเตะลูกเข้าประตูทำคะแนนได้
“เป็นไงละๆๆ” ไม่รอช้า ผมรีบหันไปพูดจาเยาะเย้ยไอเพื่อนสนิทที่ยืนตัวดำเบ้ปากหมั่นไส้อยู่ข้างๆ “กูก็หล่อเถอะ! ไม่ใช่มึงคนเดียว อะโธ่”
จงอินกรอกตาไปมาเบื่อหน่ายไอคนที่ชอบพูดจาหลงตัวเองแถมชอบพูดจาอวดความหล่อทั้งๆที่พูดออกบ่อยว่า ไม่ชอบอวดความหล่อเลย ถุ้ย พูดและคันตีน
การแข่งขันจบลง แน่นอนไม่ต้องเดาเลยว่าทีมไหนคว้าถ้วยรางวัลไป ทีมไหนมีผมทีมนั้นก็ชนะนั่นละ ผมพูดแค่นี้คงเข้าใจนะ
“ลู่เหี้ย”
“ป๊าดติโธ่! กูชื่อลู่ฮานปะ อย่าเอานามสกุลมึงมาใช้กับชื่อกู สัด” ผมโบกหัวของมันไปทีอย่างหมั่นไส้ ชื่อหล่อๆมีให้เรียกไม่เรียกเออดูคนเราดิ
“เออไรก็ช่างมึง วันนี้กูไปบ้านมึงนะลู่”
“เออเอาดิ วันนี้รู้สึกเหงาๆ อยากไปส่องแกะ”
“แหม รู้ดีสัดว่ากูชวนไปส่องแกะ” มันตอบกลับมาอย่างกวนๆ ผมเลยยักคิ้วขึ้นลง แน่นอนวันไหนมันชวนผมไปบ้านมันหรือมันจะมาบ้านผมก็หนีไม่พ้นเรื่อง ส่องแกะ หรอก
ผมกับจงอินเดินไปอาบน้ำที่ห้องน้ำของชมรมรักบี้ ก่อนที่จะเก็บข้าวของเตรียมตัวจะกลับบ้านอย่างมุ่งมั่น ผมซิ่งรถกระบะสีแดงคู่ใจกลับบ้านด้วยความเร็วสูง ขอร้องอย่าบอกพ่อว่าผมผ่าไฟแดงมาห้าแยกและ ก็มันอยากกลับไปส่องแกะกับรีดนมวัวนี่หว่า ให้ทำไงได้วะ
ไม่นานนักรถกระบะสีแดงก็จอดที่หน้าบ้านหนึ่ง ไม่รอช้ารีบยกขาถีบไอเพื่อนที่ติดรถมาด้วยให้ลงไปเปิดประตูบ้านเยี่ยงทาสดำ มันโวยวายแต่ก็ยอมลงไปเปิดประตูบ้านให้ ผมถอยรถเข้าจอดอย่างลวกๆเพราะกะว่าคืนนี้จะออกไปหาไรกินกับมันอีกตอนค่ำๆ
ผมเดินตบตีกับจงอินจนมาถึงในตัวบ้าน ก่อนที่จะต้องชะงักเมื่อขาไปเตะโดนอะไรเข้า
“เฮ้ย เป๋าใครวะ?” ผมก้มลงไปถามกระเป๋าสองสามใบที่วางอยู่ที่พื้น แน่ๆมันไม่ใช่กระเป๋าของผมกับพ่อ และบ้านนี้ก็อยู่กันสองคน มันต้องเป็นของคนอื่นแน่ๆเลย
“ไอลู่ มึงทำใครท้องแล้วเขาตามมาอยู่กับมึงปะเนี่ย”
“อย่ามโน กูรู้จักวิธีใส่คอนดอมครับ” ผมหันไปตอบมันก่อนที่จะได้ยินเสียงใครโวยวายดังออกมาจากห้องรับแขก เหมือนจะเป็นเสียงพ่อผมกับผู้หญิงแฮะ ผมยักไหล่ไม่สนใจในตอนแรกแต่กลับได้ยินประโยคหนึ่งดังออกมาถึงกลับต้องชะงัก
“แล้วนึกถึงชั้นกับเสี่ยวลู่บ้างมั้ย!”
เอี๊ยด...!
ว่าไงนะ? อะไรลู่เสี่ยวๆ เสี่ยวๆลู่ๆ ทำไมชื่อคล้ายๆผมเลยอะ ทำไมรู้สึกเหมือนเคยได้ยินพ่อพูดชื่อนี้เมื่อนานมากๆและ ผมไม่รอช้าด้วยความอยากรู้และหน้าด้าน จึงเดินดิ่งเข้าไปในห้องรับแขกทันที
“ชั้นกับลูกกำลังเดื...!”
“ก๊อกๆ” ผมพูดหน้านิ่งพร้อมกับยกคิ้วข้างนึงสูงขึ้น และเพราะเสียงของผมที่เข้ามาขัดไว้ทำให้ทั้งสองคนในห้องรับแขกต้องชะงักทันที ผู้หญิงที่ยืนตรงข้ามกับพ่อหันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าตกใจ ว่าแต่เขาเป็นใคร มาทำอะไรในบ้านผมเนี่ย
“ล...ลู่ฮาน?” ผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้นเรียกชื่อผมเสียงสั่นๆ สีหน้าของเขาดูจะตกใจกับการปรากฏตัวของผมสุดๆ เออแล้วเขาจะยืนจ้องหน้าผมอีกนานมั้ย
“ลู่ฮาน ถ้าไม่มีอะไรก็ขึ้นห้องไป” พ่อผมพูดเสียงเรียบด้วยสีหน้าจริงจัง ผมยังคงงุนงงกับเรื่องราวในห้องรับแขกนี้อยู่ไม่หาย นี่มีใครคิดจะบอกผมบ้างมั้ยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครและมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“ตอนแรกไม่มีหรอกแต่ตอนนี้มีและ เกิดไรขึ้น ณ ห้องรับแขก”
“ขึ้นห้องไปลู่ฮาน”
“อ่าวซะงั้น” ผมยักไหล่ขึ้นลงกับสิ่งที่พ่อตอบกลับมา โธ่! คิดว่าจะอธิบายอะไรให้ฟังบ้างซักนิดก็ยังดี ไม่เป็นไร ถ้าไม่ให้ยุ่งก็ไม่ยุ่งเท่านั้นเองจบ
“ส...เสี่ยวลู่!!”
“ฮ่ะ?” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ก้าวกลับหลังหันเดินออกจากห้องนี้ไป ผู้หญิงคนนั้นก็เรียกชื่อที่คล้ายๆกับชื่อผมและมองมาที่ผมด้วยความตกใจ แต่ถ้าดูดีๆแล้วเขาไม่ได้มองมาที่ผมนี่หว่า เขามองไปด้านหลังผม นั่นส่งผลให้ผมรีบหันไปมองตาม...
“แหก!!!!!!” ผมร้องตกใจก่อนที่จะถอยหลังสามสี่ห้าหกเจ็ดแปดก้าวก็ไม่พอ ผี...ผีหลอกชัดๆ ผีหลอกแน่ๆ ทำไมจู่ๆผมเห็นด้วยเองในสภาพที่แต่งตัวเรียบร้อยโคตรพ่อโคตรแม่มายืนหน้าซื่อๆอยู่ตรงนี้!!
“เอ่อ...”
“เฮ้ย พ...พูดได้!?” ผมร้องออกมาเสียงดังลั่นบ้าน คนที่หน้าตาเหมือนผมยังกับกดคัดลอกและวางเวลาก๊อปรายงานเพื่อนพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เขาดูสีหน้าตกใจไม่ต่างจากผมเท่าไหร่แต่ต่างกันตรงที่เขาไม่โวยวายออกมา กลับยืนอ้าปากค้างมองผมอยู่แบบนั้น
“ส...เสี่ยวลู่ ลูกออกไปก่อน!”
“ลูก?” หญิงแปลกหน้าคนนั้นรีบเดินมาดันไหล่พยายามให้ร่างโคลนนิ่งของผมเดินออกไปจากห้องนี้ เขาว่าไงนะ? ลูก...ลูก? ลูกงั้นหรอ!
“เฮ้ๆๆ เดี๋ยวก่อน นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!” ผมโวยวายออกมาอย่างสุดจะทน ผมไม่เข้าใจเลย จู่ๆก็มีผู้หญิงแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน แถมมีลูกที่หน้าตาอย่างกับร่างโคลนนิ่งของผมอีก “อธิบายกันบ้างดิ”
“ลู่ฮาน”
“แล้ว ป้า เอ้ย คุณเป็นใคร? แล้วนี่ใคร? ทำไมหน้าเหมือนผมอย่างกับแกะขนาดนี้!”
“ลู่ฮาน...” พ่อผมพูดเสียงเรียบในเชิงดุ ผมจึงหันไปมองพ่อที่ตอนนี้สีหน้าเหมือนมีเรื่องราวมากมายกำลังถล่มเข้ามาในบ้านหลังนี้ แหงละต้องเป็นเรื่องนี้ชัวร์ๆ ผมกำลังจะอ้าปากโวยวายต่อแต่ต้องชะงักกับคำพูดของพ่อ...
“นั่นแม่แก...ลู่ฮาน...”
โย่ววววววววววว '-')/ !
สวัสดีกับอินโทรฟิคเรื่องใหม่
เรื่องนี้ออกแนวแต่งไปเรื่อยๆ แบบอ่านไปสองสามตอนก็อาจจะเดาตอนจบได้ไรงี้
แต่สนุกไม่สนุกต้องวัดกันไปเป็นฉากๆตอนๆช่วงๆเนอะ
พลอตคู่กวางแฝดมันเกิดจากพี่น้องบ้านเราจิ้นไม่เหมือนกัน
คนพี่จิ้นไคลู่ คนน้องจิ้นฮานซู แล้วพี่ลู่ดันมีคนเดียว
เลยจับโคลนนิ่งค่ะ ไหนๆก็เป็นได้ทั้งเคะทั้งเมะและเอาให้มันป๊อปไปเลย 555555555
อ่านแล้วงงบอกด้วยเน้อ เพราะไม่เคยแต่งแนวมีแฝดเลยงะ
ขออธิบายเรื่องเล็กๆที่ควรรู้ เพราะกลัวบางคนงงแล้วจะไม่อิน
- 'ทรัย' ในเกมส์รักบี้หมายถึงการที่คนเล่นวิ่งเอาลูกไปวางในเขตประตูของตัวเองได้
จะได้ห้าแต้ม พอทรัยได้จะได้เตะลูกอีกสองแต้มถ้าเตะเข้า
กฏรักบี้ในเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เอาเป๊ะๆนะคะ
เอาพอมันส์ เป็นความชอบรักบี้ส่วนตัว 55555555
- แฝดคนพี่ชื่อ [เสี่ยวลู่/พี่ลู่]
แฝดคนน้องชื่อ [ลู่ฮาน/ลู่เหี้ย(Cr.จงอิน)]
- เรื่องนี้ ไม่มี NC นะคะ
- เรื่องนี้ ไม่มี NC นะคะ
- เรื่องนี้ ไม่มี NC นะคะ
- ส่องแกะ & รีดนมวัว เป็นศัพท์ไม่มีจริงนะคะ
เค้าคิดเพื่อพี่ลู่คนน้องเรื่องนี้โดยเฉพาะ ไม่มีใช้ที่ไหนนะคะ อย่าเข้าใจผิด 555555
ส่วนความหมายอ่านไปเดี๋ยวก็เข้าใจค่ะ ฮิฮิ
แบบเป็นทอล์คที่ยาวที่สุดตั้งแต่ทอล์คมา
เม้นก็ได้ ไม่สะดวกเม้นไม่เป็นไร
แท็กในทวิตก็ดี จะไปซุ่มรี ไม่แท็กแอบน้อยใจ
กู๊ดบายยยยยยยยยย '-')/
#TwinnedDeer
ความคิดเห็น