ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hunter/killer/Guardian รับจ้างล่า/ฆ่า/พิทักษ์ ไม่จำกัด

    ลำดับตอนที่ #1 : Mission Begin ( 70เปอร์เซนต์)

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ค. 57


    Mission Begin

                       หากคุณกำลังอยู่ในสภาฮันเตอร์เขต 2   คุณจะเห็นเด็กชายตัวเล็กทั้งสองคนกำลังกอดชายหนุ่มผมสีเพลิงสะท้อนแสงร่ำไห้เหมือนลูกชายกอดพ่อที่กำลังจะจากกันไปไกลซึ่งชายหนุ่มผมสีสะท้อนแสงเพียงได้แต่ยิ้มบางๆทอดสายตาอ่อนโยนให้

                “กัปตัน........กัปตันไม่ลาออกไม่ได้เหรอครับ”เด็กชายผมสีนิลเอ่ยทั้งน้ำตา  นัยน์ตาสีมรกตฉายแววเศร้าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมองหน้าชายหนุ่ม

              กราเซีย....ไม่เอาสิน้ำตามันไม่เหมาะกับเธอเลยนะ”ชายหนุ่มปาดน้ำตาให้ กราเซียนัยน์ตาสีไพลินจับจ้องเด็กน้อยอย่างอบอุ่น

                “ฮึก.......ไม่เอาอ่ะ.....กัปตัน...ฮึก....อย่าทิ้งเชลสิครับ...เชลสัญญาว่าจะไม่ดื้อไม่ซนไม่ขี้แย....ขอแค่กัปตัน.....ขอแค่กัปตันอยู่กับ เชล   กับพี่กรัส กับหน่วย 7 นะ”  เด็กชายผมสีเปลือกไม้กอดชายหนุ่มทั้งน้ำตา

                เชียโล่  ผมก็อยากจะอยู่กับเธอนะ  แต่....ผมมีเหตุจำเป็นต้องไปนะ และภาระกิจนี้จะเป็นภาระกิจสุดท้ายแล้วที่ผมจะทำ....”ชายหนุ่มเอ่ยกับเด็กชายผมสีน้ำตาลอย่างอ่อนโยน ก่อนที่จะมีเสียงๆหนึ่ง ที่ละความสนใจ เปลี่ยนบรรยากาศแห่งการบอกลาไปโดยสิ้นเชิง

                “กัปตันหน่วย7เขต2พร้อมจะไปตายรึยัง.....อย่างแกน่ะตายๆซะได้ก็ดีนะ ฉันจะได้ไม่มีไอ้มนุษย์หัวสีสะท้อนแสงเดินเพ่นพ่าน เห็นแล้วมันขัดลูกตา” ชายหนุ่มผมรองทรงสีบลอนด์อยู่ในชุดรัดรูปหนังสีดำพร้อมรบยืนพิงวงกบประตูอย่างสายตาจิกกัด

                “เห็นคุณพูดเป็นลางอย่างนี้คงรู้ชะตาตัวเองแล้วสินะครับ.....ว่าคุณก็ต้องจบชีวิตในภารกิจนี้แล้วเช่นกัน”  ชายหนุ่มผมสีเพลิงมองผู้มาเยือนตาสายตาเย็นชาระคนเหยียดหยาม   ก่อนทีจะมีเสียงใสขัดจังหว่ะขึ้น

                “กัปตัน ทำไมกัปตันต้องไปเพียงแค่กับตันหน่วยกับยอดฝีมือด้วยล่ะครับ  ตัวผมเองก็อยากจะไปด้วยนะครับ” กราเซียช้อนตามองชายหนุ่มด้วยสายตาออดอ้อนแววตามุ่งมั่น ซึ่งชายหนุ่มทำได้เพียงเพียงค่ยิ้มให้อย่างอ่อนโยนพลางลูบเรือนผมสีนิลก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

              “เฮอะ!!!!” ชายหนุ่มผู้มาเยือนส่งเสียงขัดจังหวะพลางกลอกตาอย่างเหนื่อยหน่าย “ถามจริงเถอะนะว่านี่มันหน่วยจู่โจมพิเศษรึว่าเนิร์ดเซอร์รี่รับเลี้ยงเด็กกันแน่วะ!!?.........น่ารำคาญชิบ...”

                “เอียน...คนหยาบคายอย่างคุณคงไม่มีวันเข้าใจหรอก  เพราะว่าคุณมันหยาบกระด้าง คนอื่นเลยทำเหมือนคุณไม่มีเงาหัวในสังคม....อ้อ..ยิ่งประจำหน่วย4 หน่วยทะลวงฟัน  ลักษณะตายก็คงไม่ต่างอะไรจากหมาข้างถนน...”

                เพียงสิ้นสุดเสียงของกัปตันหน่วย7  กัปตันหน่วย4ถึงกับบัลดาลโทสะเพราะคำพูดที่แทงใจดำ   จึงชักอาวุธดาบประจำกายหมายจะเงื้อฟันกัปตันหน่วย7  จู่ๆเปลวไฟลุกจากพื้นสาดแสงสีแดงฉานกางกันเป็นกำแพงระหว่างกับตันหน่วย7  และกับตันหน่วย4   เด็กชายทั้งสองกอดเอวกับตันแน่นด้วยความกลัวตามประสาเด็ก  ทำให้กับตันหน่วย 4อยู่ในสภาพตกตะลึง

                เพียงกับตันหน่วย7 ยื่นมือไปแตะกำแพงเพลิงนั้น  เปลวไปที่ลุกโหมกลับลดตัวลงมาอยู่ในฝ่ามือกัปตันหน่วย 7 พลับกลายสภาพเป็นมีดสั้นสีแดง  กัปตันหน่วย 7ได้แต่แสยะยิ้มสะใจก่อนจะเก็บมีดสั้นเข้าซอง

                “เรียนเชิญกัปตันทั้ง10หน่วย  เข้าประชุมที่ห้องประชุมใหญ่ในเวลาอีก10นาทีนี้ค่ะ.........เรียนเชิญกับตันทั้ง10หน่วยเข้าประชุมภายในเวลาอีก10นาทีค่ะ...”เสียงประชาสัมพันธ์เอ่ยขึ้นทำให้ชายหนุ่มใส่เสื้อหนังชุดรัดรูปสีดำเช่นผู้มาเยือนที่อยู่ในสภาพช็อกไป

    “กราเซีย...เชียโล่ ผมไปก่อนนะ   แล้วผมสัญญาว่าขากลับผมจะซื้อขนมอร่อยๆมาฝากนะ”  ชายหนุ่มยีผมเด็กน้อยทั้ง2ก่อนจะเดินออกไปประชุมไม่วายลากคอเสื้อคู่อริเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่.......

    ซึ่งมีกับตันเกือบทั้งหมดที่มาพร้อมก่อนเวลาประชุม

    “ให้ตายสิ......เอียนกับอัลเฟรดเป็นกัปตันประสาอะไร.....มาสายได้ตลอดการประชุม”ชายหนุ่มใบหน้าอ่อนวัยชาวแดนอาทิตย์อุทัย นั่งประจำที่พลางทำสีหน้าหงุดหงิด

    “เอาน่าเฮย์บิซัง.....นี่แต่อีก5นาทีจะประชุมเองอย่าทำหน้าเคร่งเครียดไปสิ  ใจร่มๆหน่อยนะ”ชายหนุ่มใบหน้าวัยกลางคนผิวสียิ้มแย้ม  

    “แต่เป็นหัวหน้าคนทั้งที พวกคุณควรจะมาก่อนเวลาไม่ใช่ตามเวลาเป๊ะหรือมาสายนะ  สเตฟาน”

    เฮย์บิขึ้นเสียงพลางมุ่นคิ้วก่อนจะมองผู้มาเยือนที่โผล่มาถึงเพียง1 คือชายกลางคนที่ชื่ออัลเฟรด

               “เอาล่ะอัลเฟรดมาล่ะ  สุดท้ายก็เหลือเอียน”เฮย์บิกวาดสายตามองในห้องอย่างกดดัน พลางจับจ้องชายหนุ่มผมสีเพลิงที่ลุกจากเก้าอี้เดินไปกลับจากที่นั่งตัวเองกับหน่วย4

    “กับตันหน่วย4เขามาตั้งนานแล้วนะครับ......เฮย์บิซังเพียงแต่เฮย์บิซังไม่ทันสังเกตแค่นั้น”

    “พูดอะไรบ้าๆน่ะจีเนียร์...เอ่อ...”เฮย์บิถึงกับชะงักเมื่อเห็นเอียร์นนั่งทำหน้าเหม่อลอยก่อนจะจ้องชายหนุ่มผมสีเพลิงที่ทำหน้ายิ้มทะเล้นอยู่ประจำตำแหน่งตน

    “อ๊ะ!!!ขอโทษค่ะ ที่มาช้า  ท่านประทานเชิญกล่าวเปิดประชุมได้เลยค่ะ”หญิงสาวผมสีบลอนด์เงินยาวสลวยใส่เสื้อรัดรูปหนังสีดำกึงเดินกึ่งวิ่งนำ ชายสูงวัยสีหน้าเคร่งขรึมก่อนจะลงมานั่งที่หัวโต๊ะประชุม  พลางกราดสายตามองผู้ร่วมประชุมแววตาที่ดุดันก่อนจะประกาศกร้าว......

    “จะไม่ขอยืดเยื้อให้เสียเวลา....ครานี้แวมไพร์ชั้นต่ำเริ่มอาละวาดหนักทำร้ายประชาชนในเขตการดูแลของพวกเรา.....ลำพังเพียงมนุษย์หมาป่าก็ปั่นป่วนพอดู......ทางสภาสูงสุด ต้องการให้เขต 2 ยุโรปใต้ ทำการเข้าควบคุมพวกสวะนั่น ให้สิ้นซาก.......งานนี้จะทำเป็นเล่นไม่ได้.....เราจะขอประกาศทำสงครามล้างเผ่าพันธุ์มันให้สิ้นซาก”

    ชายสูงวัยเงียบไปอึดใจใหญ่  ก่อนจะมองไปยังเลขาสาวที่จดบันทึกการประชุมพลางกระจายข้อมูลขี้นบนจอบนโต๊ะของกับตันแต่ละหน่วย

    “ทางหน่วยที่ 10หน่วยข่าวกรง ได้สืบทราบมาว่า รังใหญ่ของพวกมันอยู่ตรงเชิงป่าแบล็คเพียซ*ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ใกล้เทือกเขาคาร์เปเธียน  เราจะจัดตำแหน่งที่จะไปทลายมันดังนี้

    จอภาพสีสว่างพลันฉายรายชื่อหน่วยกับหัวหน้าทีมทั้งหมดขึ้น

                หน่วยที่ 2 ยุทธศาสตร์การรบ        Romano   Medelo

                หน่วยที่ 3 จู่โจมพิสัยไกล             Xan          yang ii

                หน่วยที่4  ทะลวงฟัน                   Ian           Mars

                หน่วยที่5  จู่โจมอากาศยาน          Heibi       Akatan

                หน่วยที่6  ยุทโธปกรณ์                 Stefan     Frorizen

                หน่วยที่7  ลอบจู่โจมพิเศษ           Genear   Oranto

                หน่วยที่8  วิศวะกรรมโยธา            Alfred      Vulcan

                หน่วยที่9  คหพยาบาล                 Gloria      Vasta

                หน่วยที่10หน่วยข่าวกรอง             Thira        Merquris

    ขณะที่หัวหน้าใหญ่กำลัง กระจายงานให้กับหน่วยต่างๆให้ทราบโดยทั่วกัน    แต่ใครเลยจะรู้ว่าสิ่งที่พวกเขาจะจัดการในอีกไม่กี่ชั่วโมง  กลับบุกมาหาพวกเขาเอง.....ไม่ใช่แค่เผ่าพันธุ์เดียวแต่ทั้งสองผ่าพันธุ์รวมกันมาเป็นกองทัพได้อย่างหน้าประหลาด...เหมือนจะสามัคคีเพื่องงานนี้โดยเฉพาะ

    “ฮิๆๆไอ้พวกฮันเตอร์หน้าโง่.........แกทำอะไรพวกชั้นไว้เตรียมล้างคอพวกแกไว้ได้เลย”หนึ่งในแวมไพร์ผู้หิวกระหายในกองทัพเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนเด็กจะได้เล่นของสนุก

    ภายใต้ท้องฟ้าสีดำสนิทมีแต่แสงจันทร์เสี้ยวสาดส่องหากคุณอยู่ชายแดนป่าแบล็คเพียร์ซแล้วล่ะก็  คุไม่เพียงสัมผัสความหน้ากลัวพฤกษาพันธ์ได้อย่างเดียว.........คุณอาจจะได้ยินเสียงคำรามกึกก้องชวนสยองขวัญกันเลยทีเดียว  เพราะมันเป็นสียงของอมนุษย์ที่กระหายการล้างแค้นอย่างเต็มที่  มันคลื่อนพลอย่างรวดเร็ว พายุคลั่งทุกย่านค้าชุมชนที่มันเคลื่อนผ่านมันทำลายทิ้งแทบจะย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี เสียงกรีดร้องของหญิง สาว เด็กร้องระงม ชายหนุ่มชายสูงวัยในหมู่บ้านแล้วหมู่บ้านเล่ามาช่วยป้องกันแต่ผลที่ได้คือซากศพมนุษย์และมนุษย์หมาป่า แวมไพร์ชั้นต่ำที่เกิดใหม่ขึ้นตามรายทาง

                ความดำมืดได้คืบคลานเข้ามาสู่สภาฮันเตอร์เขต2ในไม่ช้า...

    ทหารยามวิ่งกระหืดกระหอมเข้ามาในกลางที่ประชุมระหว่างการประชุมใกล้จะปิดตัวลง

    “กัปตันครับ........พวกมนุษย์.....หมาป่ากับแวมไพร์ชั้นต่ำมันบุกมาหน้าสภาแล้วครับ”
     

    ทั้งห้องประชุมมีแต่ความเงียบสงัดผิดกับห้องประชุมที่อื่นหากมีผู้บุกรุกถึงถิ่นจะต้องมีเสียงดังอื้ออึง  หากจะเป็นเพราะในที่ประชุมไม่ใส่ใจกับคำพูดของทหารยามเลยก็ไม่ใช่....เต่เป็นเพราะความเยือกเย็นที่ถูกบ่มเพาะของพวกเขาต่างหาก

    “เอาล่ะ......สิ้นสุดการประชุมเพียงเท่านี้  กระจายกำลังได้...”

                ห้องประชุมทั้งกลายเป็นห้องเปล่าเพียงเวลาไปนาน......บัดนี้ทุกคนอยู่ประจันหน้าศึกใกล้ตัวตามที่ตนได้รับมอบหมาย  จากแผนที่จะเป็นฝ่ายรุกลับเป็นฝ่ายรับ....

                ชายฉกรรจ์นับร้อยประจำตำแหน่งอยู่ที่ตัวเองได้รับคำสั่งจากหัวหน้า มีเพียงหน่วยทะลวงฟันเท่านั้นยืนประจันหน้ากับศัตรูก่อนที่ กัปตันหน่วย4ให้สัญญาณ เป็นเสียงปืนสั้น  เป้าหมายของปืนอยู่ตรงแวมไพร์ตัวหน้าสุด

                ปัง!!!

                สิ้นเสียงปืนที่ดังก้อง เหล่าฮันเตอร์ผู้ชำนาญการกับอมนุษย์ผู้กระหายและโกรธแค้นได้  เข้าสู้รบกันเสียงปืนดังตามขึ้นมาอีกนับไม่ถ้วน  เสียงขู่คำรามอย่างงบ้าคลั้งยังมีเด็กน้อยสองคนรับรู้เหตุการณ์เบื้องล่าง...ก่อนที่กราเซียจะดึงเชียโล่เข้ามาในห้องของผู้ปกครองตนแล้วพาหลบเข้ามุมห้อง......

                “พี่กรัส........เชลกลัว..”เชียโล่กอดพี่ชายแน่นด้วยอาการสั่นเทานัยน์ตาสีมรกตคู่สดใสเช่นดังพี่ชายกลับหม่นลงก่อนที่จะซุกพี่ชายแน่น

                “ไม่เป็นไรนะเชล...ไม่เป็นไร....พี่ยังอยู่นี่...พี่ยังอยู่กับเธอนะ”

    แม้ปากจะกล่อมน้องให้คลายจากอาการกลัวแต่ตัวเองก็หวาดกลัวมิได้น้อยไปกว่าน้องชายเลย  แต่ด้วยความเป็นพี่จึงกอดปลอบน้องอยู่ไม่ห่างหลบอยู่มุมมืดของห้อง    กราเซียได้ยินฝีเท้าเดินลากพื้นมาช้าๆ  เด็กชายตระหนกจนแทบจะหยุดหายใจ

                ไม่มีใครอยู่ข้างในอาคารแล้ว.....นอกจากเรานี่!....

                “เชลใจเย็นๆก่อนนะ.....อย่าเพิ่งตกใจนะ....”เด็กชายเว้นช่วงให้น้องชายรับปากเด็กชายผมสีเปลือกไม้ พยักหน้ารับปาก “พี่คิดว่าพี่ได้ยินเสียงใครเดินเข้ามา...แต่ไม่ใช่ฝีเท้าของคนในสภา”

                “ฮือ!.....พี่กรัซมันเป็นใคร  พี่กรัซ  ...แล้วเราจะทำยังไงต่ออ่ะ อุ่บ!!...”กราเซียรีบเอามือเล็กปิดปากน้องชายเมื่อเชียโล่เริ่มสงสียงดังมากเกินไป

                “ชู่ว.......เงียบๆก่อนตอนนี่ที่เราทำได้ก็ให้ไปไกลๆเราก่อน”เด็กชายกระซิบเสียงก่อนหน้าเด็กชายจะซีดเผือดไร้สี  เมื่อเสียงฝีเท้านั้นหยุดอยู่หน้าห้อง

                “โอ้ล่าห์......มีคนอยู่สินะ.  เฮ้ยไอ้หมาเน่าแกจะเขาไปเลยมั๊ยวะ”

                “กรร.........”เสียงขู่คำรามในคอเชิงไม่พอใจที่ถูกเอ่ยชื่อ

                “ฮะ......เฮ้.....เชล”  กรัซจะรั้งน้องชายไว้แต่ไม่ทัน  เด็กชายผมสีเปลือกไม้วิ่งไปล็อกประตูก่อนจะหันหน้ามาทางพี่ชาย

     

                “เห็นมั๊ยแค่นี้มันก็เข้ามาไม่ได้แล้ว”   ก่อนจะยืนทำหน้าทะเล้นประตู  ล้อเลียนสิ่งภายนอกที่กระหน่ำบิดประตู      “กิ๊วๆๆๆๆ    แย่จังแค่นี้ทำไม่เข้ามาไม่ได้ล่ะ แน่จริงก็เข้ามาสิ ฮ่าๆ” เด็กชายผมสีเปลือกไม้หัวเราะร่าก่อนจากเสียงบิดประตู กลายเป็นเสียงกระแทกประตูอย่างแรง เด็กชายพลันหุบยิ้มก่อนที่สีหน้าจะซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×