ทำไมต้องรักเธอ(yuri) - นิยาย ทำไมต้องรักเธอ(yuri) : Dek-D.com - Writer
×

    ทำไมต้องรักเธอ(yuri)

    ผู้เข้าชมรวม

    175

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    175

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  ตลก-ขบขัน
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  22 ต.ค. 56 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    กริ๊งงงงง 

    “ฮัลโหล แพร “

    “กัน ตื่นได้แล้ว จะมีบ้างไหมสักวันเนี่ยที่ตื่นโดยที่แพรไม่ต้องโทรมาปลุก”

    “อือๆ ตื่นแล้ว บ่นอยู่ได้”

    “แล้วอย่าหลับต่ออีกล่ะ”

    “ค่า คุณแม่ รู้แล้วน่า แค่นี้แหละ”

    กันเด็กสาวเพื่อนสนิทกับแพร เป็นลูกตำรวจ นิสัยชอบนอนตื่นสาย ชีวิตไม่เคยมีอะไรเป็นระเบียบเลย (ไหงเป็นแบบนั้นว่ะ) ต้องให้แพรเพื่อนสนิทคอยโทรปลุกประจำ(เอากะมันสิ)

    แพรเพื่อนสนิทของกันเด็กผู้หญิงเรียบร้อย ไฮโซ ลูกคุณหนู จอมเนี้ยบ นิสัยคนละขั้วกับกันมีหน้าที่โทรปลุกกันทุกเช้า (มันเป็นเวรเป็นกรรมอะไรของฉันเนี่ย!!!!) เป็นเหมือนผู้จัดการส่วนตัวของกันก็มิปาน

    วันนี้ก็เหมือนเช่นเคยที่แพรต้องทำหน้าที่เดียรถีย์ต้องมารับกันไปมหาลัยทุกเช้า(สบายจริงๆเลยนะแก) ที่ต้องขับมารับทุกเช้าก็เพราะว่าบ้านกันอยู่ทางผ่านไปมหาลัยพอดีและอีกอย่างถ้าขืนให้กันมาเองมีหวังมันได้มาสายทุกวันแน่  

    “เอานี่ ของโปรดแก นมหมี ไม่คิดจะเปลี่ยนยี่ห้อมั่งเลยรึไง”

    “ไม่อ่ะ ก็ฉันชอบกินของฉันแบบนี้ แกขับรถไปเถอะอย่าพูดมาก”

    แพรส่ายหัวเบาๆ กับนิสัยของเพื่อนสนิท นี่ก็หน้าที่อีกอย่างของเธอเหมือนกันที่ต้องจัดหา “นมหมี” มาให้มันทุกๆเช้า (มันจะติดอกติดใจอะไรกันหนักกันหนาเนี่ย) แพรก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจะต้องคอยทำโน่นทำนี่ให้ไอ้เพื่อนคนนี้อยู่ตลอด แต่ก็มีความสุขนะเวลาที่ได้เห็นรอยยิ้มของมันแพรคิด ตั้งแต่คบกับกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งแพรจำได้ว่าไม่เคยเห็นกันโกรธใครเลย กันอารมณ์ดีตลอดไม่ว่าจะเจอสถานการณ์แบบไหน แพรก็ไม่เคยเห็นอารมณ์บูดบึ้งออกมาจากหน้ากันเลย(นิสัยนอกนั้นอย่าให้พูดถึง) ในขณะที่รถติดไฟแดงอยู่นั้นแพรก็นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย สงสัยคงจะเพลินมากจนเผลอจ้องมองกันจนยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

    “มองอะไรอ่ะ หน้าชั้นมีอะไรผิดปกติเหรอ” กันถามเพราะเห็นว่าเพื่อนชักจะจ้องนานไปแล้ว (จ้องทำไมนานๆว่ะใจสั่นนะเนี่ย)

    ในขณะนั้นไฟก็เขียวพอดี แพรเหมือนจะได้สติกลับคืนมา ”เปล่า ไม่มีอะไร๊” (ทำไมต้องขึ้นเสียงสูงด้วยเธอ) แพรรีบเปลี่ยนเรื่อง”แกไปตัดผมมาเหรอ ไม่คิดจะปล่อยให้มันยาวบ้างรึไง”

    “ใช่ สวยป่ะล่ะ ชั้นขี้เกียจไว้ผมยาวน่ะ ไว้ผมสั้นแล้วสบายดี ไม่ต้องดูแลรักษาอะไรมาก ถึงว่าจ้องอยู่นานเชียว”

    “ไม่เห็นจะสวยเลย สู้ผมยาวสลวยของชั้นก็ไม่ได้ 555

    “ย่ะ เอาเถอะ”

    แล้วทั้งคู่ก็เถียงกันไปเถียงกันมาในระหว่างทางขับรถไปมหาลัยและแล้วรถเก๋งคันงามของแพรที่คุณแม่ซื้อให้เป็นของขวัญในการเข้ามหาลัยก็ได้มาเยื้องกรายจอดตั้งเด่นเป็นสง่าพร้อมๆกับที่สองสาวก้าวลงมาจากรถถึงมหาลัยเวลาแปดโมงนิดๆกำลังโอเค ทันทีที่ก้าวมาถึงห้องก็เห็น โอ๋ นุ่น ไหม เพื่อนสนิทอีกสามคนมาถึงก่อนหน้านี้แล้ว

    “โหชั้นว่าชั้นมาเร็วแล้วนะ ยังสู้พวกแกไม่ได้เลย ทำไม จะมาเฝ้าอาจารย์นพสุดหล่อกันรึไง ชั้นรู้ทันแกสามคนนะ” กันเอ่ยทักเพื่อนทั้งสามอย่างรู้แกว

    “แกไม่ต้องมาทำปากดีเลย นี่ถ้าไม่ได้ผู้จัดการส่วนตัวอย่างยัยแพรมีหรือที่แกจะมาแต่เช้าอย่างนี้” นุ่นตอกกลับจนกันเงิบไปเลยทีเดียว

    “เออ เรื่องสายน่ะไม่ต้องย้ำมากก็ได้” กันตอบกลับอย่างเคืองๆ

    “เห็นไหมแก เพื่อนๆยังรู้เลย 555”  คุณแพร แม่ลูกคุณหนูหัวเราะอย่างผู้มีชัย กันได้แต่มองอย่างเคืองๆ เถียงไม่ออก ก็มันเป็นความจริงนี่

    นี่สรุปชั้นโดนรุมอยู่ฝ่ายเดียวใช่ม้ายยยยย แพรนะแพรไม่คิดจะช่วยเล้ย แถมยังมาซ้ำเติมอีก มันน่านัก

    “ นี่ถ้าแกสองคนเป็นผู้หญิงกับผู้ชายนะ ชั้นคิดว่าเป็นแฟนกันซะอีก แหม่ๆ ไปรับไปส่งกันทุกเช้าเย็น ตัวติดกันตลอด ” โอ๋แซว

    “นี่ ไม่ต้องมาจับคู่ให้ชั้นเลย แกหาของแกให้ได้ก่อนเถอะ” เป็นไงล่ะโดนฤทธิ์คุณหนูแพรเข้าไป เรียบๆแต่โดน

    “ หือ ยัยแพร สงสัยวันนี้ได้มีตบคุณหนู ” พูดจี้จุดโอ๋เข้าเต็มๆ

     “เฮ้ยๆ อาจารย์มาแล้ว”

    อาจารย์นพสุดหล่อ ใจดี ขวัญใจของยัยสามคนนั่น สอนวิชาภาษาอังกฤษ วิชาโปรดของกันแต่เป็นวิชาที่ยัยแพรเกลียดที่สุด นี่อาจารย์หล่อขนาดนี้มันไม่ช่วยให้แกชอบภาษา อังกฤษขึ้นมาเลยเหรอแพร ถึงแม้อาจารย์จะหล่อบาดจิตแค่ไหนแต่ก็ยังสู้ความน่ารักของคนข้างๆ ไม่ได้หรอก ทำไมนะฉันถึงได้ชอบมองแกจัง ฉันไม่รู้จริงๆว่าทำไม ทำไมต้องทำตัวมีปัญหาให้แกคอยห่วงใย ทำไมถึงชอบให้แกดุ และทำไม ทำไมอีกหลายๆสิ่ง

    “แพรตอนเที่ยง ไปกินข้าวที่ใหนดีอ่ะ”

    “ห๊ะ เพิ่งเก้าโมงเอง แกหิวแล้วเหรอ”

    “เปล่า นึกตั้งไว้ก่อน”

    “สมองแกนี่ นึกแต่เรื่องอาหารอย่างเดียวนะ”

    “งั้นไปกินบ้านชั้นนะ แม่ทำกับข้าวไว้เยอะเลย อีกอย่างชั้นจะได้ติวอังกฤษให้แกด้วยไง ชั้นรู้ว่าแกเรียนไม่รู้เรื่องหรอก” (ที่จริงหาข้ออ้างต่างหาก)

     

     

     

     

     

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น