ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เพชรที่ไม่เจิดจรัส(ตอนที่2)
        บทที่2
   
                กิ๊งก่อง...กิ๊งก่อง...กิ๊งก่อง...7.00 นาฬิกา ใครมาซะเช้าเลย ธารน้ำบ่นในใจก่อนที่จะเยื้องย่างกรายลงมาชั้นล่างของบ้านเพื่อน
เปิดประตูให้แก่ผู้มาเยือนอย่างไม่เต็มใจ เพราะว่าในวันนี้มารดาของธารน้ำไม่อยู่ เขาจึงอยู่บ้านคนเดียว เมื่อชายหนุ่มเปิดประตูก็ต้องมึนงง
อย่างยิ่ง “สวัสดีธาร เราเอาบัตรมาคืนให้” มณฑการก้มหน้ายื่นบัตรให้แก่ธารน้ำ
         
            “ขอบใจมากนพโม แต่จริงๆไม่เห็นจำเป็นที่ต้องข้ามฟากมาฝั่งธนก็ได้หนิ ว่าแต่เจอที่ไหนเหรอ”
   
            “อ๋อ!เราเจอตกอยู่ที่ร้านอาหาร ว่าจะคืนให้ธาร แล้วก็ลืม”
         
            “ขอบใจมากนะ จะเข้ามาข้างในก่อนไหม มานั่งทานอะไรก่อนก็ได้นะ” มณฑการได้แต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบก่อนจะเดินจากไป
เมื่อมณฑการจากไป ตอนนี้เขาตื่นเต็มตาแล้วและสิ่งที่เขาเพิ่งนึกออกก็คือ วันนี้เป็นวันเกิดของปิยะวรรณหญิงสาวหน้าคมเข้มแบบไทยแท้
ที่เรียนอยู่คณะแพทย์และมีท่าทีว่าจะได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทองเสียด้วย เขากำลังแอบมีใจให้เธออยู่ ธารน้ำรีบต่อสายถึงเธอ
ทันที “สวัสดีครับวรรณ ว่างไหมครับ” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน(เป็นพิเศษ)
   
            “มีงานยุ่งๆค่ะ แต่ใกล้จะเสร็จ แล้วค่ะ””คือว่า...เอ่อ...วันนี้ผมจะชวนวรรณไปกินข้าวด้วยกันสักมื้อได้ไหมครับ ถ้าวรรณไม่รังเกียจ
อีกครึ่งชั่วโมงผมไปรับนะครับ”ธารน้ำพูดอย่างรวบรัดและตัดบททันที
    หญิงสาวร่างระหง(เชิดเหมือนหงส์จริงจริ๊ง)ก้าวออกมาในชุดเสื้อคอปกแขนยาวสีชมพูหวานแหววซึ่งมีผมดำยาวถึงกลางอยู่บน
เสื้อตัวสวย กับกระโปรงจีนฟอกสีซึ่งยาวครึ่งแข้ง และรองเท้าผ้าใบเรียบๆหากแต่ราคาแพงสุดลูกหูลูกตา ร่างของหญิงสาวนั้นทำให้ธารน้ำนั้น
ถึงกับต้องจ้องจนตัวเกรง หญิงสาวเอ่ยถามชายหนุ่มว่าจะไปไหนเป็นรอบที่สองหากแต่คำตอบที่ได้ก็ยังเป็นเงียบ(ธารน้ำยังเหวออยู่)
    “ธาร!ตกลงจะไปไหนกัน” ปิยะวรรณตะโกนถามอย่างไม่สบอารมณ์
              “หา...อ๋อ...เอ่อไปไหนก็ได้ครับแล้วแต่วรรณ”เมื่อได้ยินประโยคนี้หญิงสาวก็นั่งครุ่นคิดอยู่นาน
กว่าจะได้คำตอบออกมาซึ่งสถานที่ที่จะไปก็คือ”งั้นไปสมาคมนะ”  อึ้ง...อึ้ง...อึ้งสิครับงานนี้ อุตส่าห์จะไปหวานซะหน่อย กลับต้องไปในที่
แบบนี้ เพื่อตรวจสอบว่าระบบประสารหูเขาทำงานปกติดีชายหนุ่มจึงเอ่ยถามออกไปอย่างแปลกใจและงุนงง” สมาคมโกะหรือครับ”
              “ใช่ ค่ะ” นั่นไง!หูเขาปกติดี ให้ตายสิเมื่อไหร่เขาจะสมหวังสักทีนะ ทำไมพระเจ้าถึงไม่เข้าข้างกันบ้างเลย  ธารน้ำนั่งนิ่ง...นิ่ง...นิ่ง
เสียจนแข็งทื่อ และเมื่อได้สติ-สตางค์ กลับคือมาเขาจึงค่อยออกรถอย่างเอื่อยๆ
              “วรรณครับ เที่ยงแล้ว ไปทานข้าวกันเถอะครับ”ธารน้ำเอ่ยขึ้นหลังจากที่เล่นหมากล้อมไปไดกระดาน (แพ้ตลอด สติไม่อยู่กลับตัว
เลยย) “เอ่อเดี๋ยววรรณขอเล่นอีกกระดานหนึ่งนะคะ”
              “ครับ ถ้าอย่างนั้นลองเล่นกับผมดูไหมครับ” ธารน้ำยื่นข้อเสนอ
           
              “ไม่เป็นไรค่ะ ไปเถอะ เดี๋ยวค่อยกลับมารับวรรณทีหลัง” ปิยะวรรณปฏิเสธอย่างสุภาพและนุ่มนวลแต่มันไม่นุ่มนวลสำหรับเขาเอา
ซะเลย คำพูดของหญิงสาวนั้นเปรียบเสมือนมีด ที่ค่อยๆกรีดลงไปในใจของเขาช้าๆ และนุ่มนวลหากแต่ทำให้ชายหนุ่มเจ็บปวดอย่างมากถึง
มากที่สุดและก็ได้แต่จำใจต้องทำตามคำที่หญิงสาวบอก
              เมื่อสารถีพารถคันงามมาส่งเจ้าหญิงที่ปราสาท(จริงๆมันก็บ้ายแหละนะ มันแค่ใหญ่กว่าคฤหาสเท่านั้นเอง)บทสนทนาที่ทำให้ใจของ
สารถียับเยินเกินเยียวยาก็เกิดขึ้น”สนุกไหม วันหลังไปอีกไหม เดี๋ยวผมพาไป”
            “ไม่ดีกว่าค่ะ วรรณเข้าบ้านก่อนนะ”
           
            “เอ่อ..วรรณครับผมมีอะไรอยากจะบอก”
           
            \"มีอะไรเหรอ พูดมาสิคะ”
         
            “คือว่า...เอ่อ...คือผม...”ธารน้ำได้แต่อึกอักไม่กล้าพูดจึงทำให้ปิยะวรรณ พูดประโยคต่อมาด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดอย่างน่า
ตกใจ \"ถ้าธารไม่พูดก็กลับไปได้แล้ว และถ้าจะพูด‘เรื่องนั้น’ก็ไม่ต้องพูด วรรณยังไม่พร้อมที่จะให้คำตอบใคร”ปิยะวรรณสะบัดหน้าเดินเข้า
บ้านทันที
    “สวัสดีครับคุณน้า เพชรอยู่ไหมครับ” ชายหนุ่มทำความเคารพหญิงวัยกลางคนซึ่งเป็ยมารดาของเพชรและเอ่ยถามอย่างสุภาพ
เรียบร้อย
   
                “เพชร อยู่บนห้องจ้า ขึ้นไปสิจ้ะธาร”
   
                ก๊อก...ก๊อก...ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้หญิงสาวที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงอย่างสบายอารมณ์ นึกในใจ ใครมากวน
เนี่ย เช้าวันอาทิตย์ เดี๋ยวแม่จะจัดการให้  แล้วลุกไปเปิดประตู
   
                “อ้าวธาร!มาได้ยังไงเนี่ย ‘ไม่จำศีล’ เหรอ”เพชรลดาถาม
   
                “ขับรถมา อยู่บ้านก็เซ็ง เลยไม่อยากอยู่ ที่มาเนี่ย ก็ว่าจะมาหาเพื่อนคุย”คน’ไม่จำศีล’ก็ตอบกลับอย่างเซ็งๆ
   
                “แน่ใจนะว่าไม่มีปัญหา เอาเหอะ เข้ามาก่อน”หญิงสาวหลบเบี่ยงตัวให้ชายหนุ่มเข้ามาภายในห้อง และเมื่อเพชรลดาถามได้ตรง
จุดเขาจึงต้องยอมจำนนและเอ่ยคล้ายตัดพ้อ”มันก็มีแหละ เรื่องวรรณ” เมื่อได้ยินดังนั้นเพชรลดาก็เตรียมตัวเตรียมใจรับฟังเรื่องราวที่
ถูกระบายออกมาอย่างอัดอั้นตันใจจากชายหนุ่ม“วรรณเค้าเหมือนกับไม่อยากฟัง”ขณะที่ชายหนุ่มกำลังกลุ้มใจอยู่นั้นหญิงสาวจึงเดินไปจุด
น้ำมันหอมระเหยที่โต๊ะหัวเตียง หวังว่าจะช่วยให้บรรยากาศดีขึ้นแต่กลับกลายเป็นว่าธารน้ำเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย
               
              \"เพชรยังไม่หายเป็นภูมิแพ้อีกเหรอ เอ..กลิ่นอะไร หอมดี”และที่เขาถามออกไปว่ากลิ่นอะไรก็เพราะว่ามันเป็นกลิ่นที่ถูกชะตาเขา
โดยปกติแล้วเขาเป็นพวกเกลียดจนถึงขั้นแพ้เลยหละสำหรับกลิ่นฉุนๆอย่างที่ผู้หญิงหลายๆคนชอบ รวมถึงพิมลรัตน์ด้วย
           
              \"เราไม่ค่อยเป็นแล้วแหละ กลิ่นนี้ก็คือกลิ่น Seven Sea ผสม ยูคาชอบเหรอ”
           
              “อืม...ก็หอมดี เข้าเรื่องดีกว่า เพชรว่าเราควรทำอย่างไรดี”ใบหน้าและน้ำเสียงที่ดูอ่อนโยนเมื่อครู่กลับกลายเป็นเคร่งเครียด
ทันที \"อะไรเหรอ ทำอะไร” ที่เธอต้องแสร้งทำเป็นงงก็เพราะเธอนั้นกำลังสับสน ความคิดมากมายเข้ามาในหัวสมองของเธอ ช่วยธารกับ
วรรณ หรือว่า จะอีกทางให้โม หรือว่าจะให้โอกาสตัวเองบ้าง ยังไม่ทันที่เธอจะคิดอะไรออกเสียงของเขา...เขาคนนั้น...คนที่เธอคิดถึงทุกเวลา
ก็ดังขึ้นทำให้เธอหลุดออกจากภวังค์
   
              “ก็ทำยังไง เราถึงจะบอกความรู้สึกของเราให้วรรณรู้และทำไงเราถึงจะรู้ความรู้สึกของวรรณ”
              “ง่ายๆ ถามตรงๆไปเลย สนิทกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”เพชรลดาตอบด้วยน้ำเสียงปนน้อยใจที่ออกจะประชดประชันนิดๆ
   
              “นี่!เพชรประชดเราเหรอ สงสัยจะหึง โห!เรานี่เสน่ห์แรงใช่เล่นเลย คนไร้หัวใจถึงมารัก”ธารน้ำพูดทีเล่นทีจริง
              “จะบ้าเหรอ! คนไร้หัวใจอย่างฉันไม่หลงผิดหรอกน่า”เพื่อเพชรลดาแหวใส่ธารน้ำเสร็จก็เดินไปเปิดวิทยุแก้เขินที่ชายหนุ่มจับ ’ไต๋’ ได้               
                                                                        เพื่อนคนหนึ่งแอบรักเธอ
                            เก็บงำความลับนั้นอยู่ภายใน
                        แต่ไม่เคยเปิดเผยไป
                                                                        ด้วยกลัวจะเสียใจ...จะเสียเธอ
              เสียงเพลงเพื่อนสนิทไม่ได้ทำให้อะไรดีแต่กลับทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปกว่าเดิม เสียงเพลงยังคงดังต่อไปอย่างต่อเนื่องและดูท่าที
เหมือนกับว่าจะแกล้งคนทั้งคู่ให้รู้สึกแย่ไปตามๆ กัน “แทงใจดำโว๊ย ! ”ธารน้ำเดินจากไปโดยไม่ล่ำลาเธอเลยสักคำแถมยังมีเสียงกระแทก
ประตูปิดตามหลังมาอีก เมื่อเห็นดังนั้นเพชรลดาก็โทรไปหาเนตรนภาทันที เพชรลดาเล่าเรื่องทั้งหมดพร้อมกับเปิดเผยความในใจที่เธอมีให้แก่
ธารน้ำ เธอยอมรับว่าเธอกำลังสับสน ธารน้ำคือคนที่เธอรัก เขาต้องการจะสมหวังแล้วโมหละ? โมก็เพื่อนสนิทของเธอเหมือนกัน ส่วนตัวเธอ
เองก็รักธารน้ำไม่แพ้กับโมหรอกแล้วนี่เธอควรจะทำอย่างไร
              “ใจเย็นๆเพชร เนตรว่า ถ้าธารโทรมาปรึกษาเพชรอีก ก็บอกเขาไป ว่าให้ลองเปิดใจรับคนอื่นดูบ้าง ส่วนเพชรก็ไม่ต้องคิดมาก ทำใจ
ให้สบายแล้วพรุ่งนี้เจอกันที่มหา’ลัย” เนตรนภาปลอบโยนเพชรลดาด้วยเสียงอันอ่อนโดย เมื่อเพื่อนทุกข์ เธอก็ทุกข์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ
เพื่อนคนนี้ เพราะเพชรลดาคือเพื่อนที่เธอสนิทที่สุด และก็ไม่มีใครอีกแล้วที่จะเข้าใจเพชรลดาได้เท่ากับเธอ ดังนั้นเธอจึงช่วยอย่างสุดความ
สามารถเท่าที่เธอจะทำได้ แต่คำปรึกษาของเธอก็แค่เพิ่มความสบายใจให้กับเพชรลดาได้แค่บางส่วนเท่านั้น บทสนทนาของเนตนภาและ
เพชรลดาได้จบลงแล้วแต่ความไม่สบายใจของเพชรลดาไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้
   
                                    ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ
                แต่มันคือแสนไกล
                ยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิท
                ยิ่งไม่มีสิทธิ์จะบอกไป...ว่ารักเธอ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น