ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    retake resurrection

    ลำดับตอนที่ #9 : ขนมและน้ำชา

    • อัปเดตล่าสุด 23 มิ.ย. 54


    เอ คือ มีอะไรอีกหรือครับ    ไตรภูมิกล่าวขณะที่กำลัง หาเตารีดที่ซ่อนไว้ตรงฝ้าเพดานในห้องเรียนของตนเอง ก่อนจะหยิบปลั๊กไฟที่ซ่อนไว้ตรงลิ้นชักโต๊ะอาจารย์มาต่อ เพื่อที่จะรีดผ้าที่ตนเอง เก็บสำรองไว้ในล็อกเกอร์

     

       ไตรภูมิเตรียมข้าวของไว้เผื่อสองสามชุดเสมอที่โรงเรียนของบางอย่างคุณ เห็นแล้วอาจจะตกใจเช่น ชุดนอน แปรงสีฟันยาสีฟัน น้ำมันมะกอก น้ำ ผึ้งถั่วตัด  น้ำยารีดผ้า เตารีด ไขควง เครื่องมือช่าง เต๊นท์ กระติกน้ำร้อน และอื่นๆอีกจิปาถะ

     เพราะบางที ไตรภูมิมาตั้งเต๊นท์ เพื่อนนอนดู ดาวตรงดาดฟ้าโรงเรียน

     

        แต่ถ้าเรื่องแฟน บอกแล้วนะครับ ผมไม่รับปรึกษา    ไตรภูมิบรรจงรีดปกเสื้อ อย่างเรียบร้อยและพิถีพิถันทุกรายละเอียด

     

      รัตติกาลหญิงสาวนั่งตรงเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆเขาบนโต๊ะมีน้ำชาถั่วตัดและแก้วกระดาษ อาหารที่ไตรภูมิ จัดให้เธอ ไว้ทาน เขาบอกว่า ขอโทษด้วยนะครับเตรียมไว้ได้เพียงเท่านี้เอง

     

      เธอจิบน้ำชาอุ่นๆที่ไตรภูมิให้มาประมาณครึ่งแก้วได้แล้ว แม้ห้องเรียนจะมืด ไตรภูมิไม่อยากเปิดไฟ เพราะอาจเป็นที่สังเกต ได้ว่าคนที่ไม่มีกิจกรรมมาทำอะไรที่โรงเรียนตอนนี้

     

       จะเอาเกี๊ยวน้ำอีกหรือเปล่าครับผมต้มให้ได้นะ ไตรภูมิเอยขณะที่เริ่มรีดกางเกงขายาวสีดำเครื่องแบบของโรงเรียนนี้  เพื่อใช้ใส่อีก ประมาณ สี่ชั่วโมงต่อ ไปนี้

      เธอเดินตามเขามา เขาอาจจะแปลกใจ แต่บางที่อาจจะไม่แปลกคนที่กำลังเสียใจหาคนอื่นเพื่อระบายความในใจก็น่าจะเป็นเรื่องปกติ เหมือนกับคนที่ จมน้ำ เห็นขอนไม้หรือ ฟางลอยมาก็คว้าเอาไว้ทั้งนั้น แต่เขาไม่อยากเป็น ขอนไม้หรอกนะบอกไว้ก่อน

     

     

       นายนี่ เตรียมข้าวของไว้ซะเยอะเลยนะ  เธอกล่าวอย่างลอยๆหลังจากทานอาหารไปครึ่งหนึ่งแล้ว

     

     แปลกแฮะ คิดว่าคนเสียใจจะทานอะไรไม่ลงซะอีก แต่ น้ำตาลก็เป็นอาหารที่ทานได้ดีไม่ว่าเวลาไหนล่ะนะ หรือ เพราะคนเราแม้เวลาเสียใจก็ยังต้องการพลังงานเหมือน กัน เอาเถอะ ถือว่าดีแล้วล่ะนะที่เธอ ทานอะไร ได้รู้สึกคิดถูกแฮะ ที่วางไว้เฉยๆไม่คะยั้นคะยอให้เธอทาน ปล่อยให้เธอทานเอง ก็ได้ผลเหมือนกัน

     

       ก็เตรียมไว้เผื่อฉุกเฉินนะครับ ไตรภูมิกำลังเก็บเตารีดและเก็บข้าวของเข้าทีเดิมเพื่อทำลายหลักฐานว่าแอบรีดผ้าโดยใช้ไฟฟ้าของโรงเรียน

     

       เอกน่ะเขาเป็นคนใจดีมากเลยนะ เธอเอ่ยอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

     

     ครับผมรู้ดี เขาเป็นเพื่อนผมเองนี่นา แต่ผมบอกแล้วนี่ครับว่าไม่รับปรึกษาไม่ว่ากรณีไหนทั้งนั้น  ไตรภูมิกล่าวอย่างชัดเจน

     

    ไตรภูมิ เอาเสื้อกางเกงใส่ถุงพลาสติกพร้อมไม้แขวน เป็นถุงใส่เสื้อผ้าแบบป้องกันเสื้อผ้ายับขึ้นที่บ่า ก่อนจะคิดว่า เราไปหาที่ไฟสว่างตรงไหนทำการบ้านดีนะ

     

      ปกติแล้ว ไตรภูมิเป็นคนประเภทที่ว่าถ้าอาจารย์สั่งการบ้านตอนเช้าตอนพักกลางวันทำเสร็จ ถ้าสั่งตอนบ่าย ไม่เกินห้าโมงเย็นทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากวันศุกร์ เขาทำตัวเป็นพระเอกหนังโศกอยู่จนไม่มีอารมณ์ทำการบ้าน ก็เลยเป็นปัญหา

     

        ไม่ได้หมายความว่า ผมไม่อยากคุยกับคุณนะครับ แต่หมายความว่า ผมไม่อยากคุยเรื่องนี้เท่านั้นเองครับ ถ้าคุยเรื่องไร้สาระล่ะก็ผมพร้อมคุยด้วยเสมอครับ เผอิญผมไม่ค่อยเหมาะกับการคุยเรื่องมีสาระอย่างนี้นะครับ ไตรภูมิ เอ่ยขึ้นพร้อมกับรินน้ำชาให้เธอ

        

         เอา ขนมเพิ่มหน่อยไหมครับ หรือจะเปลี่ยนเป็นชามะลิดีครับ ผม เก่งก็ แค่เรื่องของกินละครับ ถ้าปรึกษาเรื่องนี้ละก็ คุยได้ทุกเมื่อเลย ไตรภูมิเอ่ยเมื่อเห็นขนมพร่องไปบ้างแล้ว ไม่สิต้องเรียกว่าเกือบหมดแล้วจะดีกว่า

     

        หญิงสาว ส่ายศีรษะเล็กน้อยเป็นเชิงปฎิเสธ  เขาเสียใจเล็กน้อยที่ปฎิเสธการฟังเรื่องกลุ้มใจของเธอ แต่ ตาสอนไว้ว่าที่ผู้หญิงต้องการที่สุดไม่ใช่คำแนะนำการแก้ปัญหา แต่เป็นคนที่คอยฟังและแบ่งปันความทุกข์ใจด้วยไม่ใช่ต้องการการแก้ปัญหาให้ แต่ผม แค่ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวหรือรับรู้เรื่องนี้เท่านั้นเอง แค่คุณรับฟังเรื่อง ก็ถือว่าคุณก้าวก่ายเรื่องของคนอื่นแล้วซึ่งผมไม่ต้องการทำอย่างนั้นอีกแล้ว

     

      เฮ้ ฉันบอกว่าไม่เอาแล้วไง เธอกล่าวเมื่อเห็นเขา เติมน้ำชาไปอีกถ้วยแล้ว วางขนมเพิ่ม

     

     

         เอ่อ คือผม จะทานเองน่ะครับ ไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เย็นวันศุกร์แล้ว มันมีเรื่องยุ่งนิดหน่อยน่ะครับ ไตรภูมิ แบ่งขนมเป็นชิ้นเล็กๆก่อนแล้ว ค่อยๆทาน แม้ข้าเร่งรีบแต่ไม่เคยร้อนรน เขาพยายามจัดลำดับความคิดอยู่ เพราะตารางเวลารวนไปแล้ว จากตัวกวนสองตัว

             ตัวแรก เทพารักษ์ ที่กำลังกระซิบข้างๆหู เขาว่า ให้ปลอบใจเธอ ในฐานะสุภาพบุรุษที่ดี

             อีกตัวหนึ่งก็คือสถานการณ์ตอนนี้ มันเป็นสถานการณ์ที่จะทิ้งไปง่ายๆก็ได้ แต่นั่นจะสร้างความโกรธให้เธอ เขาต้องการให้เธอเบื่อและลืมเรื่องตอนนี้ไปมากกว่าจะได้ไม่ยุ่งยาก ในภายหลัง ทั้งกับตัวเขาและ ไอ้เจ้าเอกมันทีหลังด้วย

     

       เธอรู้จักกับเอกหรือ เธอเอยถามอย่างสงสัยแววตาแสดงความอยากรู้  อ๊ะนี่มัน เด๊ดเควสชั่นนี่นา เป็นคำถาม ที่ไม่ว่าตอบไปทางไหนก็เข้าตัว  เพราะระหว่างที่คุยกันอยู่ เธอเปลี่ยนไปเล่าเรื่องระหว่างเธอกับเอกผลมันก็เหมือนเดิมน่ะสิ แก้อะไรไม่ได้สักนิด

     แต่ไม่ตอบก็ไม่ได้

     

       ก็ไม่รู้จักเท่าไรหรอกครับ ก็ แค่ช่วยมันทำรายงาน มันก็ช่วยขับรถไปส่งผมบางที่เท่านั้นเอง อืมตอบกลางๆได้ดีแฮะเรา ไม่ได้โกหก และก็ไม่ใช่บอกความจริงไม่หมดด้วย ถามแค่ไหนเราก็ตอบแค่นั้น

     

       เอ๊ะ แสดงว่า วันเสาร์ที่ผ่านมา นั่นเธอ เรียกเขาไปหรือเปล่า ฮือ เธอนี่ช่างสังเกตจริงแฮะ เลือกถามแต่คำถามที่ตรงเป้าเท่านั้นไม่ว่าเราตอบอะไรไปก็เป็นเรื่องที่เธอ อยากรู้อยู่ดี ถ้าเราตอบว่าไปขับรถที่ชายทะเลกับส่งของบางอย่างผ่านเรือบดลำเล็ก เธอก็จะได้รู้เรื่องที่เธออยากรู้ ถ้าไม่ตอบ เธอก็ยืนยันเรื่องที่เธอกำลังสงสัย

     

      อืม ก็ครับ เขาไปเที่ยวชายทะเลและพายเรือเล่นน่ะครับ กับอีกสองสามคนในวันนั้น  อืมลำบากกับเจ้าเอกนะเนี่ยที่คบกับผู้หญิงฉลาดเนี่ย

     

      ไปกันบ่อยหรือเปล่า

      ก็ไม่บ่อยหรอกครับ แต่มันเป็นคนเดียวในกลุ่มที่มีรถ ว่าจะยืมรถมันเหมือนกันแต่มันหวงมากก็เลยต้องเอามาทั้งตัวมันและรถน่ะครับ มันถึงจะยอม พอเวลามีเรื่องอะไร ก็ต้องอาศัยมันนี่แหละ ก็เลยอาจจะรู้สึกว่าบ่อยก็เป็นไปได้ครับ

     

       ไม่ค่อยได้เห็นเธออยู่กับเอกนี่นา

      เอ่อ คือว่า... ไม่เห็นจริงๆเหรอเนี่ยไอ้คนที่เอารายงานไปให้ไอ้เอก ก็เรา ไอ้คนที่ช่วยจัดบอร์ดเพื่อให้มันปลีกตัวไปหาแฟนได้ก็เรา(ถึงจะอยู่คนละห้องก็เถอะนะ) หรือว่านี่คือหน้าที่ของคนปิดทองหลังพระ แถมคนที่ช่วยขนน้ำกับยาเวลามันไปแข่งกีฬาก็เราอีกนั่นแหละ  เธอไม่ได้สังเกตเราจริงแฮะ โชคดีจัง  ..แต่โชคเราหมดไปก็ตอนนี้นั่นแหละ

     

      ก็ คุณแค่ไม่เห็นล่ะมั้งครับ  ถ้าอยู่โรงเรียนเดียวกันและถ้าร่วมกิจกรรมบ่อยๆมันก็ต้องได้เจอกันบ้างอยู่แล้ว ไตรภูมิพยายามเอ่ยแบบไม่ให้กระทบกระเทือนเรื่องความสัมพันธ์ของเธอ กับเอกมัน

     

    นี่มันไม่ใช่พูดคุยแล้วนี่มันสอบปากคำชัดๆ

     

       แล้ว  ขณะที่เธอกำลังยิงคำถามมาอีกนั่นเอง เขาต้องยอมเสียมารยาทพูดแทรกกลับไปเพื่อ คุมสติตนเองบ้าง

     

    *แล้วคุณอยากรู้อะไรอีกล่ะครับ นอกจากเรื่องเจ้าเอกมันเนี่ย ถ้าอยากรู้ขนาดนี้ลองถามมันดูเองเลยครับ * แต่ คำพูดก็หยุดที่ริมฝีปากเมื่อเห็นแววตาของเธอ จ้องมาที่เขาเช่นนั้น ว่าถ้าตอบผิดหูไปล่ะก็ คงเกิดเรื่องแย่ๆขึ้นมาแน่ๆ เขาเลยทำตามคำแนะนำของตาชมไปก่อนเพื่อลดการ์ดฝ่ายตรงข้าม

     

         แหมอย่ามองด้วยสายตาอย่างนั้นสิครับเดี๋ยวหน้าตาสวยๆก็เสียเปล่าหมดหรอกครับ

    ช่างเป็นคำพูดที่ค่อนข้างโกหกอยู่พอสมควรเพราะความจริง รัตติกาลโมโหก็ยังคงความสวยไว้ได้อยู่  

     

      อย่ามาโกหกเปลี่ยนเรื่องเลยนะ นึกว่าเธอ จะไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นซะอีกสุดท้ายก็เหมือนกัน

                      อ๊ะ ท่าทางจะไม่ได้ผลเธอ โกรธขึ้นมาอีกแล้วแฮะ

     

      ขอโทษครับ ผมแค่พยายามจะหลีกเลี่ยงตอบคำถามเท่านั้นเอง ความจริงถึงคุณโกรธ ก็ยังสวยอยู่ครับ ไตรภูมิ กล่าวก้มหัวเป็นเชิงขออภัย เฮ้อ เขาไม่น่าฟังคำแนะนำของตาเล๊ย ความจริงไอ้การโกหกเพื่อเอาตัวรอดเขาก็ไม่ถนัดมาตั้งแต่ต้นแล้ว

     

       เธอ หยุดพูดไปพักหนึ่ง พอเขาเงยหน้าขึ้นมา ทำไม หน้าเธอ แดงขึ้นมานะ น่าแปลกใจจริงๆ หรือว่า อากาศ หรือ แพ้ นมผึ้ง แพ้อาหารที่ทานไปหรือเปล่านะ ท่าทางผมคงต้องระวังตัวให้มากกว่านี้ ซะแล้ว เคยมีคนที่เสียชีวิตเพราะอาหารเป็นพิษมากมายจนคุณนึกไม่ถึงเชียวนะครับ

     

       ไตรภูมิคิดถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ว่าเพราะอะไร

      อย่ามาพูดอย่างนั้นนะ

      เอ พูดอะไรหรือครับ

    ก็ที่พูดไปนั่นแหละ

    เอ ก็ ขอโทษแล้วนี่คับที่พูดโกหกไปตอนแรกไงครับ

      แค่ตอนแรกแน่นะ เธอ คาดคั้นมากขึ้นเมื่อฟังจากน้ำเสียง

     

      แน่สิครับ ก็ เป็นอย่างที่เห็นแหละครับ  ผมเป็นคนโกหกไม่เก่ง เวลาโกหกใคร ก็จะรู้กันทันทีครับ    ก็ขออภัยจริงๆครับที่โกหกคุณไปในเรื่องสำคัญอย่างนี้  ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ จะให้ผมทำอะไรก็ได้เพื่อ เป็นการขอโทษ ...เอ่อ ถ้าไม่อันตรายเกินไปนะครับ

     

          ไตรภูมิ ก็ คิดว่า เมื่อสร้างปัญหากับคนก็ควรทำสิ่งทดแทนเพื่อชดใช้ จะแต่งหน้าทำกับข้าวหรือเดินแผงไฟ ยกเครื่องรถยนต์ เขาก็ทำได้หมด ไม่มีปัญหาที่สำคัญ จะได้โอกาสลากันตรงนี้ดีกว่า แฮะ

     

      งั้นนายมาเป็นแฟนฉัน ซะ เป็นการชดเชยที่โกหกไงล่ะ

     

      อ๊ะ อืม ...ผมนึกว่าจะให้ช่วย  ซ่อมรถหรือ เดินสายไฟซะอีก เป็นก็....หา เป็นแฟนเรอะ ไม่ดีมั้งครับ ไตรภูมิเอยอย่างตกใจ

      

    ฮือ ไม่ดีตรงไหนล่ะ

     

       เอ่อ คือ ถึงผมจะไม่ใช่เพื่อนที่ดีต่อเจ้าเอกมันนัก แต่ผม ก็ไม่คิดจะจีบแฟนมันหลังจากที่ เอ่อ...คงต้องมีใครคนใดระหว่างมันกับเธอบอกเลิกกันสักคนแน่ๆล่ะ  ถ้าเปรียบเปรยแบบไม่ค่อยสุภาพก็เหมือนกับบอกว่ามีคนทำของตกพื้น และระหว่างที่เขาลังเลใจว่าจะเก็บหรือไม่เก็บขึ้นมาอีกครั้ง ก็ดันมีไอ้แมวขโมยคาบของชิ้นนั้นและวิ่งหายไปเลยนั่นแหละครับ ไม่มีในกติกาแต่มีอยู่ในหัวใจของนักกีฬาทุกคน ก็เท่านั้นหละครับ

      นายนี่เป็นคนที่คิดมากจริงๆนะนี่

     

     

       ครับถ้าการคิดมากจะทำให้ชีวิตผมยืนยาวและปราศจากเรื่องขัดแย้งล่ะก็ แน่นอนครับผมเป็นคนคิดมากอยู่แล้ว

     

       ฮะ ฮะคำพูดของนายก็ดูดีนะ”

     

        แต่ทันใดเธอก็มองเขาด้วยสายตาที่เฉียบคมอีกครั้งจนเขารู้สึกหนาวที่ต้นคอ

     

     

       มีบางอย่างโกหกในเรื่องที่นายพูด ฉันไม่รู้ว่าอะไร แต่นายไม่ได้พูดความจริงแน่ๆ”

     

       ก็อาจจะใช่ครับ  เจ้าเอกเอ๊ย น่าสงสารเอ็งจริงคบกับผู้หญิงที่จับโกหกเก่งอย่างนี้ โทษทีนะเพื่อนที่สร้างความลำบากให้เอ็งมาตลอด

     

       ความจริงใช่ไหมครับ ได้ครับผมจะบอกให้ ถ้าผมรักแล้วต่อให้ผู้หญิงคนนั้นแต่งงานมีลูกแล้วผมก็ยังรักครับ ผมเป็นคนบ้าคลั่งในรักขนาดนั้นนั่นแหละ ปัญหาคือผมไม่ได้รักคุณเท่านั้นเองครับเลยตอบรับไม่ได้

     

      สายตาของไตรภูมิ วูบวาบเหมือนมีเงามาทาบทับพักหนึ่งขณะที่พูด มีบางอย่างที่เศร้าสร้อยในน้ำเสียงของเขา

     

     ผลั๊ว ผลั๊ว ผลั๊ว  ไตรภูมิ โดน ตบ ซ้ายขวา ซ้ายไปสามครั้งซ้อน

     

      ไม่ได้รักงั้นหรือ นายนี่หลงตัวเองกว่าที่คิดเยอะนะนี่ รัตติกาลกระชากคอเสื้อของไตรภูมิมาใกล้ๆและจ้องตาเขาตรงๆ

     

         แต่คราวนี้ นายไม่ได้พูดโกหก ถ้าอย่างนั้นก็ยกโทษให้ได้

      

       ทันใดเธอก็ปล่อยเสื้อเขาแบบไม่ทันตั้งตัว

       

     ตกลงนี่ผู้หญิงจะเห็นตูเป็นกระสอบทรายหรือนี่ แม่คุณ ตบ เอา ตบเอา

     

       เฮ้อ แต่ก็สบายใจขึ้นเยอะเลยนะขอบคุณมากที่ช่วยรับฟังคำขอ บ้าๆนะ เธอ ชูมือสองข้างบนอากาศเพื่อบิดขี้เกียจ และทำสีหน้าร่าเริงได้อีกครั้ง

     

        ตาเคยบอกว่า นอกจากรับฟังคำบ่นของคนที่เรารักได้แล้ว เราต้องทนมือทนเท้าของคนที่เรารักได้ด้วย ไตรภูมิถูกตาสอนเช่นนี้ระหว่างที่ดูแลตาจากการ ไปเกี้ยวสาวรำวง จนลุกจากเตียงไม่ขึ้นไปร่วมเดือน ด้วยใบหน้าและร่างกายอันยับเยิน ซึ่ง เป็นฝีมือของนักเลงต่างบางเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่เป็นฝีมือของผู้หญิงที่กำลังโกรธเกรี้ยวที่สวามีของตนไปเกี้ยวสาวรำวง

      

        เธอ หันหลังแล้วทำท่าจะเดินออกไป  เขาก็จะเดินออกไปหาที่สว่างๆทำการบ้านเหมือนกันก่อนที่จะเช้า

     

      ขณะที่เขากำลังจะเก็บของทั้งหมดเพื่อทำลายหลักฐานการมีอยู่ของขนมเนื่องจากเขาพยายามเคี้ยวอย่างช้าๆเพื่อใช้ความคิดไปขณะที่ทานขนมไปด้วย คือวิธีการทำลายหลักฐานที่ดีที่สุด ทานมันให้หมด

     

      น้ำชาในถ้วยยังอุ่นอยู่ และสงบนิ่ง ไตรภูมิ ค่อยใช้มือประคอง และหมุนมันด้วยลมปราณอย่างช้าๆ วิธีฝึกฝนที่ดีที่สุดคือฝึกในชีวิตประจำวัน จนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

      น้ำชาในมือไตรภูมิหมุนเบาๆ และเอื่อยเฉื่อยยิ่งนัก พลังปราณของเขาอ่อนด้วย แทบไม่พอจะดับเทียนที่ห่างไปสิบเมตรด้วยซ้ำ แต่ คนเราฝึกยุทธก็เพื่อสุขภาพไม่ใช่เหรอ การฝึกยุทธที่ทำลายสุขภาพร่างกายไม่ใช่เป็นการทำลายเป้าหมายแรกที่เราฝึกวิชาหรือไง

     

      น้ำชาหมุนวนและค่อยๆผนึกเป็นทรงกลมกลางอาอากาศแม้พลังน้อย เมื่อหมุนวนสะสมและหน่วงพลังไว้นานพอก็จะทำเช่นนี้ได้ และก้อนน้ำทรงกลมสีชาได้ลอยขึ้นมาตรงหน้าไตรภูมิและเขาก็ได้ดื่มมันเข้าไปโดยไม่ยกถ้วย

     

      อั๊ก แค่ก แค่ก

       บ้าเอ๊ย สำลักจนได้รู้งี้แค่ยกขึ้นมาดื่มแบบปกติก็หมดเรื่องไปแล้ว


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×