ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พลิกตำนานแฟนตาซี(veto)

    ลำดับตอนที่ #2 : last stage

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 49


      ศักราช โดเวลลูที่15890 หอคอยของจอมปีศาจที่ชั่วร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เท่าที่มีการบันทึกถึง

    ได้มีกลุ่มผู้กล้า5คนบุกเข้าไปปราบจอมปีศาจผู้ชั่วร้ายนั้น อันประกอบด้วย

    อัศวิน -เกรแบ็ก พ่อมดคำ -คราม นักบวชขาว-เทเรซ่า นักธนู-ทริเซีย และนักศิลปะการต่อสู้-วิกล็อปพวกเขามีความสามารถคือ...

    ดูมเดส์โลกาวินาศ   โดยไม่ต้องพูดกันให้มากความจอมปีศาจไม่รอให้กลุ่มผู้กล้าทั้ง5คนแนะนำตัวด้วยซ้ำก็ใช้มนต์โลกาวินาศเรียกอุกกาบาตโจมตีเหล่าผู้กล้า

    แบบไม่ทันตั้งตัว  หลังจากนั้นมีเสียงขัดขึ้นว่า "เดี๋ยวสิครับปู่อย่างนี้เเรื่องก็จบเร็วนะสิครับ" อัลเบิร์ตวัย7ขวบได้ถามคุณปู่

    ของเขาซึ่งมักจะเล่านิทานการผจญภัยหลายเรื่องในทุกๆคืนให้อัลเบิร์ตหลานของเขาฟัง ปู่ยิ้มแล้วลูบหัวหลานพร้อมกับกล่าวว่า

    "ไม่หรอกหลานเอ๋ย ผู้กล้าได้เตรียมใจไว้แล้วว่าไม่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นก็จะไม่ตื่นตกใจ การเตรียมใจเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของผู้กล้า

    จำไว้หลานรัก" เกรแบ็กได้แสดงความเป็นผู้นำที่ยามคับขันไม่ลนลานเรียกพรรคพวกให้รวมอยู่ที่เดียวพร้อมกับให้นักบวชขาวเทเรซ่ากางเวทป้องกันไว้

    แต่จอมปีศาจทีี่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดนั้นได้คำนวณไว้แล้วว่าอาจเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น จนบัดนี้ก็ยังไม่ลืมตาขึ้นจากบัลลังก์สีดำที่

    สังเกตจะพบว่าทำจากกระดูกของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆเกาะกุมกันเป็นรูปเก้าอี้ หน้าตาที่คมสัน ดูหล่อเหลา ผมยาวสีน้ำตาลนั้น

    ได้หลับตานอนเท้าแขนข้างขวาอยู่แบบไม่สนใจด้วยซ้ำว่ามีคนอยู่5คนที่จะมากำจัดเขา ที่เขาส่งลูกน้องไปสู้กับพวกผุ้กล้าจนถึงปัจจุบัน

    เพื่ออะไรล่ะก็เพื่อเก็บข้อมูลว่าแต่ละคนมีพลังแค่ไหน การคำนวณอนาคตเป็นเรื่องพลิกผันและซับซ้อนเนื่องจากตัวแปรที่ใช้

    คำนวณมีหลากหลายเกินไป แต่บัดนี้จอมปีศาจได้คำนวณตัวแปรทั้งหมดไว้แล้วและเวทมนต์ที่ร่ายในตอนนี้

    ก็เป็นมนต์ที่ร่ายเตรียมไว้ล่วงหน้านานแล้วแทบจะเทียบได้กับคำกล่าวที่ว่า เริ่มตั้งแต่
    การต่อสู้ไม่ได้เกิดขึ้นตอนทั้ง2ฝ่ายขึ้นสังเวียนแต่ การต่อสู้เริ่มตั้งแต่2ฝ่ายเกิดมาบนโลก  และผลแพ้ชนะนั้นไม่ได้ตัดสินกันตินต่อสู้เสร็จแต่มันตัดสินกันตั้งแต่กอ่นเริ่มการต่อสู้แล้ว

    อุกกาบาตและสะเก็ดไฟจากฟากฟ้าที่ส่องแสงสีแดงฉานลุกไหม้และตกมายังปราสาทจนหลังคาปราสาทพังและ

    ลูกไฟยักษ์เหล่านั้นได้พุ่งตรงไปยังเหล่าผู้กล้า ที่เทเรซ่าได้กางเวทคุ้มครองไว้แล้ว

    ลูกไฟได้ทำลายปราสาทรอบๆจนพังทั้งหมดเหลือแต่บัลลังก์สีดำที่จอมปีศาจนั่งอยู่กับ ข่ายเวทมนต์สีขาวเท่านั้น

    ธนูได้ยิงออกมาอย่างรวดเร็วและพุ่งเป้าไปที่บัลลังก์นั้น จากข่ายเวทย์นั้น ทริเซีย เป็นเผ่าเอล์ฟ หูแหลมหน้าตาสะสวย

    คุณสมบัติของเผ่าเหมาะแก่การเป็นนักล่าจาก ประสาทสัมผัสที่รวดเร็ว สมองที่ชาญฉลาด และความใจเย็นที่จะรอคอย

    ธนูที่รวมพลังจิตทั้งหมดเข้าไปด้วยความเร็วและรุนแรงทีั่สุดเพราะทริเซียรู้ด้วยสัญชาตญาณของนักล่าว่า

    ถ้าพลาดโอกาสนี้ไปจะไม่มีโอกาสอีกเป็นครั้งที่สอง

      

    ......โอ้โห เก่งมากเลยนะครับเนี่ย แต่ทำไม มีธนูแล้วไม่ใช้เล็งจากที่ไกลๆ เล่าครับปู่จะได้ไม่ต้องพาพรรคพวกมาเสี่ยงเช่นนี้

    อัลเบิร์ตถามปู่ด้วยแววตาสงสัยใคร่รู้ ปู่ยิ้มและใช้มือสางเส้นผมสีน้ำตาลของอัลเบิร์ต เบาๆอย่างรักใคร่

    "ถ้าหลานเป็นจอมปีศาจหลานจะเตรียมมาตรการป้องกันการลอบสังหารจากที่ไกลๆไว้หรือเปล่าล่ะ"

    อัลเบิร์ตหยุดคิดเล็กน้อยใบหน้าที่น่ารักและเฉลียงฉลาด นั้นคิ้วย่นเข้าหากันเล็กน้อย

    "แน่นอนอยู่แล้วครับปู่ถ้าเป็นผม ผมจะใช้ลูกน้องกว่า100คนที่เฝ้ารอบๆปราสาทของผมแบบมองเห็นได้ชัด

    และลูกน้องแบบปีศาจที่ซ่อนตัวไปกับสภาพแวดล้อมได้คอยดักพวกที่จะมาเล่นงาน

    ลูกน้องที่ผมวางกำลังไว้ให้มองเห็นได้อีกทีหนึ่ง" อัลเบิร์ตตอบปู่อย่างฉาดฉาน

    สายตาของปู่มองมาที่อัลเบิร์ตอย่งครุ่นคิด"อัลเบิร์ต" ปู่พูดขึ้น "หลานก็มีความคิดที่ฉลาดเฉลียวเกินเด็กวัยเดียวกันแล้วนะ

    แต่ปู่ขอเตือนหลานไว้อย่งนึ่งว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่าประมาทเด็ดขาด ปัญญาจะช่วยเราแก้ปัญหา

    แต่สติจะช่วยเราแก้วิกฤติ จำไว้นะหลานรักของปู่"อัลเบิร์ต พยักหน้ารับฟังคำสั่งสอนของปู่อย่างขึ้นใจ เขารู้ดีว่าเขายังเด็กนักมีเรื่องราวอีกมาก

    ที่เขายังไม่เข้าใจ แต่เขาพยายามเรียนรู้เรื่องราวเหล่านั้นผ่านประสบการณ์ของปู่ ที่ มักสอดแทรกคำสั่งสอนอยู่ในนิทานเสมอ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×