คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ราตรี ตอนที่ห้า
หลังจากไตรภูมิช่วยทำพิธีรักษาเพิ่มง่ายๆอย่างการเอาผ้าแพรมาพันมือให้กับเทพารักษ์แล้ว
หน้าตาที่ใจดีของเทพารักษ์ก็กลับมาเคร่งเครียดอีกครั้งหนึ่ง ส่วนราตรีกำลังสัปหงกอยู่(ท่าทางเธอยังไท่ค่อยคุ้นเคยกับข้อจำกัดของกายหยาบ)
“เจ้ารู้สึกตัวบ้างไหมว่า มีอะไรผิดปกติ” ดวงตาของเทพารักษ์เรืองแสงสีทองเล็กน้อยบ่งบอกถึงพลังที่มีในตัว
“ไอ้เรื่องที่ผมไปโผล่ที่โรงพยาบาลได้ทั้งที่ไม่น่ามีใครเห็นผมหรือเปล่าครับ” ไตรภูมิถามหลังจากพยายามปลุกราตรีที่เบื่อระหว่างพิธีกรรมให้ตื่นอีกครั้ง เพราะยังไม่ชิ้นกับกายเนื้อนี่แหละเลยทำให้ยังไม่สามารถคุมอารมณ์ หิว ง่วงได้แบบเดียวกับทารก
“ไม่ใช่เรื่องนั้น แต่เป็นเรื่องของ พวกทางฟากนั้นต่างหาก พวกที่มาจาก ที่อื่น” เทพารักษ์จ้องตาเขาราวกับจะพยายามเจาะเข้ามาจิตใจซึ่งก็ใช่ตามตัวอักษรแต่เขาฝึกจิตมาพอสมควร ทำให้หากจะมีใครจะเจาะเข้ามาในจิตใจของไตรภูมิได้ต้องทำลายสติเขาก่อนเท่านั้น ซึ่งเทพารักษ์ก็ใจดีพอที่จะไม่ทำเช่นนั้น
เวลาที่มนุษย์ธรรมดาไม่ได้ฝึกจิตใจเผชิญหน้ากับปีศาจหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มักจะรู้ว่าความคิดขิงตนเองถูกอ่านอยู่เสมอก็เพราะเหตุนี้นั่นเอง
“ก็ถ้าเขาไม่ทำอะไรให้เป็นปัญหาท่านก็จะไม่ไปก้าวก่ายไม่ใช่เหรอครับผมเห็นด้วยนะ เป็นนโยบายที่ดี อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขดีที่สุด” ไตรภูมิกล่าวอย่างจริงใจและปล่อยความคิดบางส่วนไปตามคำพูดเพื่อเกลี้ยกล่อมเทพารักษ์ว่าที่เขาพูดคือความจริง
เทพารักษ์ลูบเคราสายตาจริงจัง
“ใช่ แต่การผ่อนผันของข้าอยู่ในระดับที่ให้วิญญาณคอยตามรังควาญเท่านั้น แต่ถ้าถึงขั้นเสียชีวิตข้าจะพยายามคุมไม่ให้ถึงขั้นนั้น ยกเว้นจะเป็นการกระทำของมนุษย์ ด้วยกันเองที่ข้าไปยุ่งมากไม่ได้ ตามสนธิสัญญาโบราณ ห้ามการแทรกแซงกิจของมนุษย์ ถึงคนอื่นอาจไม่ยึดถือเคร่งครัดนัก แต่ข้าก็ยึดมาโดยตลอดเพราะมันจะได้ผลดีกว่าในการอยู่ร่วมกันอย่างสงบของมนุษย์และสิง่ศักดิ์สิทธิ”
“และที่ท่านพยายามช่วยผมไม่ให้ตายเพราะถ้าผมตาย แถวนี้จะแปดเปื้อนเกินไปสินะครับ” ไตรภูมิเอ่ยอย่างเข้าใจ
“เจ้า”เทพารักษ์ตาลุกวาบด้วยแสงสีแดงท่าทางใจดีหายไปจนหมดสิ้น
“ล้อเล่นครับเห็นทำหน้าเครียดความจริงแล้วท่านเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดีมากครับที่พยายามปกป้อง มนุษย์และผู้ที่มีตัวตนในอาณาเขตของท่านอย่างเต็มกำลัง ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยก็บอกมาตามตรงได้เลยครับ เป็นการตอบแทนท่านที่ช่วยดูแลพื้นที่นี้มาโดยตลอด”
ไตรภูมิรู้สึกว่าตนเองพูดเกินไปจึงพยายามขอโทษขอโพย แต่ เขารู้ดีว่า ถ้าขอโทษแล้วจบง่ายๆก็ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิแล้ว
...
ไม่น่าพูดไปอย่างนั้นเลยให้ตายสิ นิสัยเสียนี้ของเรานี่แก้ไม่หายเลยแฮะ พลาดติดๆกันมาไม่รู้กี่ครั้งก็ยังไม่เข็ดซะที
เขาตรวจดูความเรียบร้อย กระเป๋า เรียบร้อย
ขอบข่ายเวทย์ เรียบร้อย
สนามพลังตรวจจับคลื่นพลังงานเหนือมิติ เรียบร้อย
เสื้อผ้า เรียบร้อย
การบ้านที่ต้องส่งตอนเช้า เรียบร้อย
การปิดสัญญาณการโจมตีขั้นสูงสุดในกรณีที่เขาขาดการติดต่อกับสัญญาณ ทุก หก สิบสอง ยี่สิบสี่ สามสิบห้า และ เจ็ดสิบสองชั่วโมง เรียบร้อย
วิญญาณติดตามที่กลายร่างเป็นมนุษย์ เรียบร้อย
ลูกบอลที่ใช้ตรวจจับการเคลื่อนไหวในโรงเรียน เรียบร้อย
ปะรำพิธีร่ายอาณา เขต เสร็จไปแค่หนึ่งที่ ทำต่อในวันถัดไป อีกราวๆสามชั่วโมงจากนี้ อยู่ระหว่างดำเนินการ
เข็มทิศดวงดาว อยู่ระหว่างเตรียมพลังงาน
.....
ไตรภูมิเหลียวมองตึกตอนกลางคืนและมองภาพคนที่สลบไสลไม่ได้สติเป็นเรื่องปกติที่คนจะง่วงและนอนในตอนเตรียมงาน แต่ไม่ได้นอนขณะที่ถือแปรงทาสี และขณะที่กำลังอยู่บนบันไดพับเป็นแน่
และมีคนหมดสตินอนเรียงรายอีกหลายคน สายตาอันว่องไวของไตรภูมิกวาดไปมาเพื่อเก็บรายละเอียดเท่าเห็นเข้าสู่สมอง การเต้นของหัวใจช้าลงเรื่อยๆโดยไม่มีบาดแผลอื่นทางกายภาพ แปลว่า โดน ดูดพลังชีวิตสินะ น่าจะใช้วิธีแบบวงกว้างเพราะถ้าดูดแบบเจาะจงคงมีใครสักคนแถวนี้กลายเป็นฝุ่นผงแห้งตายกลายเป็นซากไปแล้ว
อืม
เฮ้องานหนักแล้วสิ
มีพวกอื่น มายุ่มย่ามในเขตของข้า ข้าไม่อยากให้ความวุ่นวายตามา ในฐานะที่เจ้าเป็นตัวแทนของข้าข้าให้อำนาจเจ้าไปจัดการพวกนั้นซะ
วิธีไหนก็ได้
วิธีไหนก็ได้
ความเสียหายเท่าไรก็ได้
ก็อย่าเกินกว่าที่เจ้าเผาโรงยิมละกัน
ท่านมีแผนช่วยคนเจ็บอย่างไรครับ
มียาทิพย์เตรียมไว้อยู่แล้วขอเพียงเจ้าจัดการได้
กรณีที่ต้องเลือกระหว่างจับต้นตอของปัญหากับช่วยคนบาดเจ็บท่านจะให้ผมให้ความสำคัญกับอะไรก่อนครับ
ความคิดเห็น