เด็กน้อยที่แสนดีเจ้าจงหลับพักผ่อน ขอวิงวอนให้ดาวนำเจ้าหลับฝันดี
เพียง1คืนนี้เจ้าจงหลับตา แล้วดวงดาวจะพาเจ้าท่องโลกนิทาน...
                                    omen files 
เป็นเพลงกล่อมเด็กเพื่อให้เด็กเติบโตอย่างมีความสุขเป็นเพลงที่ร้องต่อๆกันมา
โดยไม่ทราบว่าใครเป็นผู้แต่งจากยายสู่แม่จากแม่สู่ลูกจากลูกสู่หลานนับเป็นสิ่งหนึ่งที่บอกเอกลักษณ์
ของความเป็นเมืองนี้ได้ดีมีคำกล่าวว่าถ้าใครไม่เคยฟังเพลงนี้ตอนเด็กย่อมไม่ใช่คนในเมืองนี้
  เมื่อมีตัวล่อก็ต้องมีของแลก เป็นคำพูดติดปากของนิทานเรื่องหนึ่งที่กล่าวถึง
การขอพรของเด็กน้อยจากดวงดาวว่าสิ่งที่ดวงดาวนั้นให้มาแลกกับความเยาว์วัยของเด็กน้อยนั่นเอง
(หายืมนิทานเรื่องนี้ได้จากห้องสมุดใหญ่ประจำเมืองgreen wood)
      green wood town
เมืองที่แกเบรียลและครอบครัวอาศัยอยู่เป็นเมืองที่ติดกับท่าเรือและทะเล
มีตำนานท้องถิ่นที่ว่าเหล่าชนที่อพยพมาจากทวีปอื่นขึ้นฝั่งครั้งแรกที่เมืองนี้
แต่ก็เป็นแค่ตำนานที่เล่าขานกันเองในหมู่ผู้เฒ่าผู้แก่ในเมืองนี้
  ตอนเด็กที่มักมีคนเดินไปที่โขดหินที่ริมชายหาดประจำเมืองโดยหยิบก้อนหินตั้งไว้8ก้อน
ถ้ารุ่งเช้ากลับมาดูแล้วก้อนหินยังตั้งอยู่แปลว่าคำอธิษฐานจะเป็นความจริง
แกเบรียลได้เคยลองตั้งก้อนหินที่ชายทะเลไว้และรีบกลับมาดูตอนรุ่งเช้าและพบว่ากองหินนั้น
ล้มลงไปแล้ว หลังจากนั้นแกเบรียลได้ถามราฟาเอลพี่ชายของเขาว่า ทำไมก้อนหินถึงล้มลงนะ
ราฟาเเอลตอบว่า จากที่พี่อ่านเรื่องประวัติศาสตร์ของเมืองที่ตีพิมพ์ปี1956ก็เมื่อ100ปีที่แล้วหน้า347
วรรค4บอกว่าคนแรกที่ขอพรกับโขดหินนี้เขาพบกับความผิดหวังมาตลอดชีวิตเขาจึงขอพรว่า
อย่าให้ใครตั้งก้อนหินขึ้นมาได้เพื่อให้ทุกคนพบกับความผิดหวังเหมือนเขา
ราฟาเอลพูดต่อไปว่าถ้าควาหวังของคนๆหนึ่งคือความไม่สมหวังของคนทั้งหมดคือความผิดหวังของคนทั้งหมด
ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างนี้แหละ แกบเจ้าลูกแกะน้อยเอ๋ย นี่แหละคนในโลกถึงมีทั้งสมหวังและผิดหวัง
  แกเบรียลอึ้งและหยุดคิดเล็กน้อยแล้วพูดว่า \" นี่ราฟเรื่องแรกอย่าเรียกผมว่าเจ้าลูกแกะอีกนะ
เรื่องที่สอง ดูร่องน้ำและรอยของตะไคร่ที่เหลืออยู่ผมว่าเป็นเพราะน้ำขึ้นในเวลากลางคืน
แล้วพัดกองหินไปมากกว่านะ\" ราฟาเอลยิ้มแล้วตอบว่า\"งั้นเราตั้งกองหินขึ้นใหม่อีกรอบ
แล้วมาพิสูจน์กันว่าของใครถูกดีไหม\"  \"ได้เลยราฟไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องได้รับการพิสูจน์นั่นคือหลักการของผม\"
แกเบรียลและพี่ชายเขาราฟาเอลยอมเสียเวลาทั้งคืนและยอมอดนอนเพื่อพิสูจน์เรื่องที่พวกเขาคาใจ
แน่นอนว่าตอนพวกเขากลับมาบ้านตอนเช้าต้องถูกพ่อแม่ลงโทษแน่นอนแต่ที่สำคัญที่สุดพวกเขาทั้งสองคน
สามารถขจัดความสงสัยในใจออกไปได้
  จากบางส่วนของบันทึกประจำวันของกรีน แกเบรียล เนก ในวัยเยาว์
  เรช ราฟาเอล เนก เป็นเด็กที่ชอบ
อ่าน หนังสือและสิ่งพิมพ์ต่างๆมากพ่อและแม่ได้สังเกตว่าเขาอ่าน
สารานุกรมประวัติศาสตร์โลกความยาวกว่า3,000หน้าได้ตั้งต่อายุ6ปี เมื่อแม่มาเห็นเขาจึงถูกดุให้อ่านหนังสือในที่สว่าง
ด้วยความที่ว่าเขาอ่านได้ก่อนที่จะมีคนสอนนี่เองทำให้เขาไม่ยึดติดกับการอ่านแบบของคนใน
ทวีปนี้
ที่อ่านได้จากแค่ช้ายไปขวาตามแบบที่สอนกันตามโรงเรียนเท่านั้นโดยเรชได้เรียนรู้จากประวัติศาสตร์ที่เขาอ่านว่า
ยังมีการอ่านแบบอื่นเช่นขวาไปช้าย และล่างขึ้นบน จนเขาพัฒนาการอ่านของตนเองได้ตอนก่อนเข้าชั้นประถม
โดยมองที่จุดกึ่งกลางของหน้าหนังสือ แล้วกวาดตากระจายไป360องศาทั่วหน้ากระดาษ สิ่งที่สายตากวาดอ่านไป
จะถูกเก็บไว้ในสมองของเขา การที่เขาอ่านหนังสือด้วยวิธีนี้ทำให้คนทั่วไปมองเหมือนเวลาเขาอ่านหนังสือว่า
เขาอ่านแบบผ่านๆ เพราะเขาใช้เวลาแทบไม่ถึงวินาทีในการอ่านหนังสือ1หน้า  ที่เขาทำให้น้องชายของเขาตกใจที่สุดคือตอนทดสอบ
ความรู้กันโดยกรีนถามว่าหน้าที่147มีคำศัพท์ว่าอะไรอยู่บ้าง คำศัพท์คำนี้อยู่ที่หน้าไหน
ซึ่งเรชก็ตอบได้หมดแบบไม่เสียเวลาคิดเลย  เขาเคยบอกน้องของเขาว่า นายฉลาดเกินไปกรีนความคิดที่
ไปเร็วเกินไปของนายทำให้นายฟุ้งซ่าน นายขาดการจัดระบบความคิดในสมองของนายให้เป็นระเบียบถึงจำ
เรื่องที่นายอ่านไปไม่ได้ทั้งหมด  กรีนตอบว่า แต่เรช นายจำแม้กระทั่งเลขหน้า คณะบรรณาธิการ ปีที่จดทะเบียน
ผู้รับรองหนังสือ เลขประจำหนังสือ กระทั่งรายชื่อของหนังสืออ้างอิงที่หนังสือเล่มนั้นใช้เป็นข้อมูลในการเขียนขึ้นมา....
(ยาว)เนี่ยนะ เรชตอบว่า การเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยจะเป็นการทำให้นายเป็นคนประณีตขึ้นนะกรีน
   
  จากข้อนี้ทำให้เราได้รู้ว่ากรีนได้เรียนรู้ความเป็นคนประณีตจากพี่ชายของเขา
แต่ก็เป็นแค่ข้อเท็จจริงของความเป็นไปได้อีกนับร้อยเรื่องที่สร้างนิสัยของเขาให้เป็นคนเช่นนี้นั่นเอง
 
    มีแนวคิดมากมายเกี่ยวกับทฤษฏีการเวลาที่ว่าเราจะไม่มีทางได้ยินเเสียงที่เราจะพูดในอนาคตหรือภาพที่จะเห็นในอนาคต
แต่ถ้าเราขอแหกกฏสักเล็กน้อยเราจะได้ยินและเห็นสิ่งต่างๆเหล่านี้
    ในเช้าวันหนึ่งที่เหมือนกับทุกวันเด็กชายคนหนึ่งเป็น
เด็กชายที่อยากรู้อยากเห็นมากเขาสงสัยว่าทำไมแมวถึงกลับตัวได้กลางอากาศ
ด้วยความที่เขาสงสัยว่าต้องใช้ความสูงเท่าไหนแมวถึงจะกลับตัวกลางอากาศไม่ได้เขาจึงจับแมวมาเนื่องจากเขาเป็นเด็กดีมีเมตตาต่อสัตว์
ต่างๆและได้ให้อาหารพวกสัตว์อยู่เสมอจึงเป็นเรื่องง่ายมากที่สัตว์เช่นแมวจะเข้ามาหาเขาในวันนั้นเขาจับแมวเอาขาผูกติดกัน4ข้างและ
ปล่อยลงมาจากตึก4ชั้น  .....วันต่อมาเขานึกสงสัยว่าอวัยวะภายในของสุนัขมีอะไรอยู่บ้างต่างกับของคนที่เขาเคยเห็นมาแล้วหรือเปล่า
เขาเดินเข้าไปในครัวและหยิบมีด  อา..ความสงสัยกำลังจะได้รับการพิสูจน์แล้ว
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น