ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    retake resurrection

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 8 มี.ค. 60


     

    มันเป็นเรื่องปกติที่คิดว่าตนเองเป็นคนสำคัญที่สุดในโลก แต่จะเป็นเรื่องที่แปลกไปถ้าการเป็นคนสำคัญของเรานั้นได้รับการบันทึกไว้ในคำทำนายโบราณ

    :ไม่ใช่มั้งเพื่อน คนที่คิดอย่างนั้นมีแต่คนที่หลงตัวเองถึงขั้นสูงสุดเท่านั้นล่ะ

    เมื่อคนเรามีเวทมนตร์จนถึงจุดหนึ่งอะไรคือข้อแตกต่างของผู้ใช้เวทมนตร์และพระเจ้า?

    ปีศาจและเทพคือผู้ที่มีเวทย์เหนือธรรมชาติ อะไรคือข้อแตกต่างของปีศาจและเทพ?

    จิตใจของคนเรามีความปรารถนาอยู่ได้สักเท่าใดกัน?จนถึงขั้นที่เราจะทิ้งสิ่งที่ต้องการที่สุดได้เพื่อความปรารถนานั้น?

    หนทางของนักเวทย์นั้นยากลำบากไม่เพียงแต่ท่องจำและต้องทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องเท่านั้น ยังอาจต้องต่อรองกับคู่สัญญาที่จะตีความไปในทางที่เอาเปรียบเรา เรียกง่ายๆว่าเป็นอาชีพที่ยากเป็นอันดับห้ารองจาก หมอ ทนายความ วิศวกร และครูเลยทีเดียว



    """""""


     
    ใต้แสงตะวันยามเย็นสาดส่องแสงสีส้มทอดทับตึกเรียน แสงสีส้มอยู่ที่ปลายขอบฟ้า แว่วเสียงนกบินกลับรัง เด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนบนดาดฟ้าของโรงเรียน ซุกหน้าบนฝ่ามือร้องไห้ปริ่มว่าจะขาดใจ

      ในเวลาที่ทุกคนกลับบ้าน เขาร้องไห้
        ในเวลาที่ทุกคนคิดว่ากลับบ้านไปจะทานข้าวกับอะไร เขาร้องไห้ ในเวลาที่ทุกคนยิ้มหัวเราะและทักทายกับเพื่อนๆเขาก็ยังคงร้องไห้ ร้องไห้และร้องไห้

      ร้องไห้จนได้เรียนรู้ว่าความเศร้าไม่หายไปเมื่อเราร้องไห้ และต่อให้รู้เหตุผลนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเรารับมือกับความเศร้าได้ดีขึ้นเลย แม้เมื่อเจอเรื่องเศร้าอีกครั้งเราคาดหวังว่าเราจะรับมือมันได้ดีขึ้น แต่ในความเป็นจริงกลับตรงกันข้ามจิตใจเราจะเหมือนถูกมีดกรีดซ้ำแล้วซ้ำอีกตรงจุดเดิมตลอดเวลา

      สามชั่วโมงที่ผมร้องไห้บนดาดฟ้าเฝ้าดูดวงอาทิตย์ยามเย็นที่จะตกลงจากท้องฟ้าในไม่กี่นาทีข้างหน้านี้

      เขาอยากให้โลกล่มสลายไปในวันนี้ไม่อยากให้พรุ่งนี้ต้องมาถึง และสำนึกด้วยความเจ็บปวดว่า ต่อให้เราเศร้าแค่ไหนโลกก็ยังหมุนไปอยู่ดี

      เขาเช็ดน้ำตา และลุกขึ้นเดินไปยังรั้วกั้นที่สูงเพียงแค่เอว รั้วที่กั้นเขากับความอยากตายเอาไว้สูงแค่1เมตรเองหรือนี่ เด็กหนุ่มคิดในใจและยิ้มเยาะตนเองที่มุมปาก ชีวิตเราช่างด้อยค่าดีจริงๆ

       เขาให้โอกาสตนเองในการที่จะเปลี่ยนใจว่าจะไม่ฆ่าตัวตายโดยหายไปจากห้อง และรอเวลาจนกระทั่งเลิกเรียนแต่ก็ยังไม่มีใครรู้ตัว ไม่มีใครสนใจ และไม่มีใครมาห้ามทั้งที่เขาแค่คิดว่าขอเพียงมีคนมาทักว่า

     "สวัสดีเธอมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ล่ะ " เพียงเท่านี้เขาก็คงจะเลิกความคิดที่จะฆ่าตัวตายแล้ว
    เรื่องที่ตลกที่สุดคือไม่มีใครมา ไม่มีเลยสักคนเดียว

      เขาเดินออกไปตรงระเบียงดาดฟ้าและเฝ้ามองพระอาทิตย์ที่กำลังตกดินแสงสุดท้าของวันทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีส้มและจะเริ่มกลายเป็นสีม่วงทำไมแสงอาทิตย์ถึงสวยขนาดนี้นะ น่าเสียดายที่จะได้มองมันเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว

        ที่แห่งนี้มีความเงียบงันซึ่งเป็นมิตรที่ดีของคนที่วาดหวังว่าจะฆ่าตัวตาย เศษ ก้นบุหรี่ เหศษขยะ และขี้นกพิราบ ฮึ มันช่างเป็นที่เหมาะสำหรับการจบชีวิตอันบัดซบของเราจริงๆ เพราะอย่างน้อยก็ได้อยู่กับพวกที่ระดับเดียวกับเราอย่างเศษขยะพวกนี้ ไร้คนสนใจ ไร้คนเหลียวแล ไร้ค่าเกินกว่าจะใส่ใจ เปรียบเสมือนมูลของนกที่ขับถ่ายออกมาไร้ประโยชน์ ก่อได้แต่เพียงความรำคาญเท่านั้นเอง

       เด็กหนุ่มเหลือบสายตาจ้องมองไปยังพื้นเบื้องล่าง ไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียวมือของเด็กหนุ่มยังเกาะเกี่ยวแน่นกับลูกกรง เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวเด็กหนุ่มไว้ไม่ให้ตกไปยังพื้นเบื้องล่าง เรายังลังเลอะไรอยู่อย่างนั้นหรือเรายังมีอะไรให้ต้องอาวรณ์อีก ได้แต่หาเหตุผลที่ตนเองจะต้องไม่ตายแล้ว มันมีอยู่จริงๆหรือเปล่าล่ะ อ้เหตุผลที่คนเราจะต้องมีชีวิตอยุ่นั่นน่ะ ภาพความทรงจำในอดีต ไหลย้อนผ่านเข้า มา บุหรี่จี้เข้าที่ต้นแขน มีดคัตเตอร์กรีดเข้าที่หลัง ถุงสีดำครอบเข้าที่หน้าก่อนถูกรุมชก

      

        สายลมเย็นพัดผ่านใบหน้าของเขาพัดน้ำตาของเขาให้ไหลไปด้านข้าง  และพัดพาความเศร้าเสียใจไปด้วย เขาได้ยินเสียงนกร้องเพลง เสียงลมพัด เสียงใบไม้เสียดสี เสียงหัวใจของตนเองเต้น นี่สินะชีวิตที่เราพยายามจะทอดทิ้งนะ ถ้าเราตายไปเราก็จะไม่มีวัน พรุ่งนี้ให้ฝันถึงอีกแล้ว

     

       ตัดสินใจได้แล้วเราจะไม่ท้อแท้ชีวิตยังมีค่า วันนี้แพ้ไม่ได้แปลว่าเราจะแพ้ตลอดไป ถ้าเรายอมตายตอนนี้ต่างหากถึงจะเรียกว่าแพ้จริงๆ

     

      เด็กหนุ่มปล่อยมือจากรั้วและพยายามหันกลับเข้าไปเผชิญกับชีวิตของเขาอีกครั้ง

     

    แต่....

     

      ไอ้หนุ่ม อย่าเพิ่งคิดสั้นเสียงหนึ่งได้ดังขึ้นมา ในดาดฟ้าที่เงียบสงัด จนทำให้หมู่มวลวิหคบนต้นไม้นั้น โผบินขึ้นสู่ท้องฟ้าส่งเสียงเซ็งแซ่

     

      ชีวิตยังมีค่าอย่าได้ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ชายกลางคนนั้นพุ่งเข้ามาหา เด็กหนุ่มอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มตกใจจนเผลอปล่อยมือจากรั้ว แต่ก็พยายามทรงตัวโดยใช้แรงขายันไว้ไม่ให้ตกลงไปสู่พื้นดินเบื้องล่าง

     

       แต่แขนของชายวัยกลางคนนั้นกลับทะลุลูกกรงออกมา  กระแทกเข้าที่หน้าอกของเขา อย่างรุนแรง ทำให้เขากระเด็นออกจากระเบียงดาดฟ้า ร่วงหล่นลงสู่พื้นเบื้องล่าง

     

      โธ่ ไอ้หนุ่ม ขอโทษจริงๆ ข้าเป็นเทพารักษ์ ที่ไม่เอาไหนเลย ช่วยคนที่คิดจะฆ่าตัวตายคนเดียวไว้ก็ยังไม่ได้  ชายกลางคนตะโกนอย่างเสียใจ

     

         หากเด็กหนุ่มมีญาณรับรู้สิ่งที่เทพารักษ์พูดเขาคงจะตอบไปว่า ตูไม่ได้ฆ่าตัวตายโว๊ย ไอ้เวรxxx$5##@


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×