ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    retake resurrection

    ลำดับตอนที่ #13 : ราตรี ตอนที่สาม

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ค. 54


    ผมเคยได้ยินคนบอกว่า มนุษย์ไม่เคยช่วยเหลือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำไมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องช่วยเหลือมนุษย์ด้วย เพราะมันคือสิ่งที่ถูกต้องที่ต้องทำอย่างไรล่ะ สิ่งศักดิสิทธิ์จะกลายสภาพเป็นอย่างไรเมื่อไม่มีมนุษย์กันนะ

      เขาเคยถามเรื่องนี้กับเพื่อนของเขา เพื่อนตอบว่า

    ข้าก็อยู่ในโลกของข้าไปตลอดกาลไม่มาข้องแวะกับพวกเจ้า

       ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่า พวกเรามนุษย์ คือสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปรากฏ ตน ณ ที่แห่งนี้สินะ

     

      เพราะเคารพความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันเขาเลย เก็บขยะบริเวณโรงเรียนเปลี่ยนน้ำในแจกัน เอาขนมไปไหว้ในเทศกาล

     

     

         แต่เขาลืมเรื่องราวที่ตาสอนไว้เรื่องหนึ่ง สิ่งที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์สนใจมากที่สุด คือ มนุษย์ อารมณ์และการแสดงออกของมนุษย์ คือ สิ่งที่ตัวตนชั้นสูงสนใจ ไม่อย่างนั้นคงไม่พยายามชี้แนะแนวทางของมนุษย์ โดยทำให้หญิงพรหมจรรย์ตั้งครรภ์ และแสดงปาฏิหาริย์ในโลกใบนี้เป็นครั้งคราว

     

     ดังนั้นการที่จะพบปะเจรจากับสิ่งศักดิ์สิทธิก็เหมือนกับการพบปะคนที่เอาแต่ใจให้คุณลองนึกภาพเด็กสามขวบที่ร้องว่า จะเอา จะเอา และมีพลังพิเศษที่จะทำลายบ้านทั้งหลังเพียงแค่ดีดนิ้วทีเดียว หากมีใครขัดใจก็จะมีปัญหาตามมานั่นแหละครับคือการพบปะและพิธีกรรมกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์

         จนกระทั่งมีบางบ้านมีกฎว่า เราเป็นแค่สื่อกลาง ไม่ใช่ผู้มีอำนาจบังคับก็เพราะเหตุนี้ ไม่ใช่เพราะหมอผีท่านนั้นไม่เก่ง แต่เป็นเพราะ พลังของผีเจ้าของที่ต่างกันมาก จนเอาชนะได้ยากโดยไม่เกิดความสูญเสีย

     

          และอาจจะเป็นการหยาบคายถ้าเปรียบเปรยเช่นนี้ให้ลองนึกภาพสังคมของสัตว์ที่มีความสมดุล หากเราปราบผีเจ้าของที่ไม่ว่าโดยการสูญสลายหรือเกิดใหม่ สมดุลของสถานที่นั้นจะเสียไปจนเกิดเหตุอาเพศ เพราะไม่มีผู้คุ้มกัน ทำให้ระบบบริเวณนั้นต้องพยายามหาวิญญาณเป็นเจ้าของที่คนใหม่ ดุจดั่งสัตว์ป่าที่พยายามหาจ่าฝูงตามสัญชาตญาณ

     

         เป็นที่มาของตัวตายตัวแทน หมอผีที่ฉลาดไม่มีใครอยากไปยุ่งกับเรื่องยุ่งยากเช่นนี้ จนมีบางคนถึงขั้นบอกว่าเราเป็นเพียงผู้รักษาสมดุลของสองโลกจนไม่ยอมยุ่งเกี่ยวกับเรื่องผีเจ้าของที่เลย

        ดังนั้นสถานการณ์ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะมาหาคุณเช่นนี้เกิดขึ้นน้อยมากพอๆกับการถูกลอตเตอรี่

      แต่อย่างนี้ผมอยากจะบอกว่าเทียบได้กับถูกฟ้าผ่ามากกว่า การยุ่งกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์จบไม่ค่อยสวยทุกที

       “ ที่ผมอยากถามคือ ทำไมท่านถึงไม่ยอมมาช่วยผมจัดการแก้ปัญหาเรื่องวิญญาณบ้างครับ หรือปล่อยให้ผมจัดการเองคนเดียวทั้งที่ท่านก็มีพลังมากขนาดปรากฏเป็นกายหยาบได้สมจริงขนาดนี้ (ขนาดชกคนตกตึกได้)”ไตรภูมิตัดพ้อ

     

      “ไอ้หนูเอ็งหมายความว่าอะไร ข้าว่าเอ็งรู้เรื่องพิธีกรรมและสมดุลดีใช่ไหม ปัญหาของมนุษย์ต้องให้มนุษย์แก้เอง ข้าไม่สามารถยุ่งได้เกินไปถ้าไม่เกี่ยวกับสิ่งที่กระทบต่อสมดุลจริงๆ” เทพารักษ์เฒ่ากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     “แต่ท่านก็ยังยอมรับสินบน เอ๊ยเครื่องเซ่น ที่ประกอบพิธีกรรมให้ปัดเป่าภัยพิบัติ ต่างๆที่เกิดในที่ของท่านใช่ไหมครับ”ไตรภูมิเอ่ยถึงหน้าที่ทั่วไปของเทพารักษ์

     

      “อืมถ้าไม่เกินกำลังจนเสียสมดุลข้าก็สามารถให้เจ้ายืมกำลังได้”

     

        โอเคเข้าเรื่องซะทีจะได้เหนื่อยน้อยหน่อยมีอุปกรณ์บางอย่างที่เขาอยากติดเพิ่มเติมในเขตโรงเรียนแต่ต้องหลบไปห่างๆก่อนเพราะไม่อยากขัดแย้งกับผีเจ้าของที่

     การไปติดตั้งอุปกรณ์เวทมนตร์ในอาณาเขตคนอื่นถือว่าเสียมารยาทอย่างมากเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเทียบได้กับการประกาศสงครามกับคนเจ้าของที่นั้น

     

                 เช่นปลูกสร้างบ้านเรือน โดยเชิญ ศาลพระภูมิไป ศาลพระภูมิมีฤทธิน้อยกว่าเจ้าของที่ทำให้บ้านนั้นอยู่อย่างไม่เป็นสุข เจ้าของก็ประสบภัยพิบัติจนทำธุรกิจล้มเหลว ต้องขายบ้านั้นทิ้งไป

           แต่ทุกท่านที่ซื้อบ้านจากการขายทอดตลาดไม่ต้องกังวล

     ธนาคารที่ยึดบ้านไปนั้นได้รับการอนุมัติจัดตั้งกับกระทรวงการคลังที่มีท้าวเวสสุวรรณเป็นผู้คุ้มครอง ดังนั้นเมื่อธนาคารเอาหมายมาปิดแล้วที่หน้าบ้านที่มีผีสิงอยู่                          

     

         ท้าวเวสสุวรรณ ก็จะส่งทหารองครักษ์ มาไล่ที่วิญญาณเจ้าของที่ออกไป

      ดังนั้นทุกท่านที่ซื้อบ้านที่ขายทอดตลาดไปจากเราโปรดวางใจ เรารับประกันว่าจะไม่มีวิญญาณตนใดมารบกวนการอาศัยอยู่อย่างปกติของท่าน

     

           ด้วยความปรารถนาดีจากเราเก็กซิมแบงก์

        

    จะไม่มีบ้านไหนในแผ่นดินนี้ที่เรายึดมาขายทอดตลาดให้ท่านไม่ได้

     

      “ผมขอนุญาตตั้งปะรำพิธีบางส่วนได้ไหมครับ” ไตรภูมิขอร้องอย่างสุภาพ

     

           “ได้สิ เห็นแก่ที่เจ้าเกรงใจข้าแต่ก็ดูแลโรงเรียนทุกวันและทำพิธี อยู่เสมอแม้จะไม่ขออะไรจากข้าแบบเดียวกับที่คนอื่นทำเวลาทำพิธีเลย ข้าจะช่วยมอบพลังให้เจ้าเวลาเจ้าภาวนาตั้งจิตถึงข้าด้วยในเขตโรงเรียนนี้” เทพารักษ์เอ่ยอย่างเข้าใจ เจ้าหนูนี่ระมัดระวังในการเข้าถึงและติดต่อกับต่างโลกมาก ไม่อย่างนั้นคงหลอกนางหนูนั่นไม่ได้นานขนาดนี้ และมีกลิ่นของผู้ที่อยู่ในมิติและตัวตนแบบเดียวกับเรา

     

     “ เออขอบพระคุณ ท่านเทพารักษ์มากครับที่เมตตา แต่ ร่างกายของผมตอนนี้ใช้พลังของท่านจะเป็นการที่ไก่ได้พลอยไป และจะเป็นอันตรายต่อร่างกายผมเองเพราะใช้พลังที่มากเกินตัวไปเปล่าๆ แค่ท่าน ช่วยเติมพลังให้ราตรี ผมก็ขอขอบคุณท่านมากแล้วล่ะครับ”

       ไตรภูมิเอ่ยอย่างสงบการจำแลงกายเป็นมนุษย์ใช้พลังมหาศาลและต้องใช้สื่อเพื่อยึดโยงกับโลกใบนี้ที่ว่าปีศาจต่างๆต้องบำเพ็ญเพียรนับร้อยปีจึงจะได้ร่างมนุษย์นั้นเป็นเรื่องจริงและการฆ่ามนุษย์เพื่อคงสภาพร่างกายจากการดูดกลืนเลือดเนื้อและพลังชีวิตเพื่อให้คงรูปร่างได้อย่างมนุษย์ก็มีเหตุผลของมัน

     เขาไม่อยากเป็นคนที่สร้างปีศาจดูดเลือดขึ้นมาไล่ฆ่ามนุษย์หรอกนะ

     

          และเลือดของเขาค่อนข้างมีลักษณะพิเศษด้วยการที่ให้ใครไปใช้อาจเกิดเรื่องไม่พึงปรารถนาตามมาได้ และเสียเลือดทุกวันไม่ใช่เรื่องสนุกนะครับในการให้ราตรีคงสภาพอยู่ได้นี่ ก็เหมือนเราดูแลโปเกมอนแหละครับเราเลี้ยงไว้เท่าไรก็ได้ แต่จะดูแลให้ดีได้ซักกี่ตัวกัน เพราะการดูและต้องใช้เวลาและความใส่ใจ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดความผิดพลาดได้ หรืออาจต้องใช้ของพิเศษเช่นแหวนของพระเจ้าโซโลมอนที่ควบคุมวิญญาณได้นับหมื่นดวงพร้อมกันเป็นต้น


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×