ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องสั้นหักมุม Omegalay

    ลำดับตอนที่ #6 : ความฝันของหน่อง

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 48


        ในที่แห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วย บ้านจัดสรรเรียงกันเป็นระเบียบและมีทรงเดียวกันดูเหมือนกันไปหมดเสียซะทุกหลังแต่ถ้ามองจากมุมสูงและสังเกตดีๆ จะมีอยู่หลังหนึ่งที่หลังคาสีแดงตัดกับสีน้ำเงินซึ่งเป็นหลังคาของบ้านในละแวกนั้น ทุกๆเช้าจะมีเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง หัวเกลียนๆ ใส่แว่น และใส่เสื้อสีแดงสลับขาวลายขวาง วิ่งออกมารับหนังสือพิมพ์ทุกเช้า แล้วเขาก็จะวิ่งกลับในบ้านพร้อมกับ วางมันลงบนโต๊ะที่มีอาหารเช้าเตรียมไว้ เมื่อเขาเติมนมเข้าไปในถ้วยใส่อาหารเช้าเรียบร้อยเขาจะกางหนังสือพิมพ์อ่าน คอลัมน์ที่เขาชอบอ่านที่สุดคือ คอลัมน์วิทยาศาสตร์ โดยเรื่องเกี่ยวกับดวงดาวต่างๆ “หน่องๆๆ กินเสร็จยังเดี๋ยวรถจะมารับแล้วนะลูก” นิดแม่ของหน่องเร่งลูกชายเพราะกลัวไปโรงเรียนไม่ทัน “ครับแม่ครับจะเสร็จแล้ว” ก่อนที่เขาจะปิดหนังสือพิมพ์ลงเขาเหลือบไปเห็น บทความหนึ่งที่เขียนว่า “คนพบดาวเคราะห์เกิดใหม่ในระบบสุริยะ” เขาหยุดอ่านทันที “นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบดาวเคราะห์ดวงนี้ ซึ่งมีระยะทางใกล้กับโลก เท่ากับระยะจากโลกไปถึงดวงจันทร์ หรือพูดง่ายๆก็คือ มันอยู่ใกล้โลกเราและสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า เรื่องที่นักวิทยาศาสตร์ต่างตั้งข้อสันนิฐานไปกันต่างๆนานว่า มันเกิดขึ้นได้ยัง และเกิดขึ้นเพราะอะไร...” นิดหยิบหนังสือพิมพ์ออกจากมือหน่อง พร้อมกับเสียงแตรรถโรงเรียนที่ดังขึ้นอีก 2 ครั้ง ทำให้หน่องต้องรีบสะพายกระเป๋าวิ่งไปที่รถอย่างด่วน และคิดไว้ว่าจะกลับมาอ่านต่อให้จบ



        หน่องกลับถึงบ้านเวลา 4 โมงเย็นเขารีบหยิบหนังสือพิมพ์เมื่อเช้าแล้ววิ่งขึ้นไปบนห้องที่เขาเรียกว่า “ห้องทดลอง” ในห้องนอนหรือห้องทดลองของนั้นเต็มไปด้วยชั้นหนังสือ และแต่ละชั้นก็มีหนังสืออัดอยู่เต็มไปหมด จนที่นอนเขาถูกอัดเข้าไปริมหน้าต่างโดยมีชั้นหนังสือกั้นเตียงเขาอยู่ ทั้งหมดนี้เป็นสมบัติของพ่อเขา พอในห้องสว่างด้วยแสงนีออนเขาก็ไปยังชั้นหนังสือของเขาแล้วไล่ดูหนังสือจนเจออยู่เล่มหนึ่ง เขายิ้มดีใจเล็กน้อย ในหนังสือเขียนว่า “วาระสุดท้ายของโลก” เขาเปิดหนังสือไปยังหน้าที่ 102 ในบรรทัดแรกที่มีการเน้นข้อความไว้เขียนว่า



    “...ในอดีตเคยมีดาวเคราะห์ ดวงหนึ่งเกิดขึ้นใกล้กับโลก โดยบัญชาของเทพองค์หนึ่งชื่อว่า นอติลุส และดาวนั้นเคลื่อนเข้าใกล้โลกและดึงดูดสิ่งมีชีวิตทั้งหลายเข้าไปเก็บไว้ในตัวมัน ไม่นานนั้นก็เกิดไฟเผาโลกทั้งโลกจากสีฟ้าจนกลายเป็นสีแดงและทุกอย่างในโลกก็เริ่มต้นชีวิตใหม่...”



        พอสิ้นสุดบรรทัดนั้น เขาก็เดินออกไปข้างนอกแล้วเงยหน้ามองดวงจันทร์อีกดวงหนึ่งด้วยความแปลกใจ และเขาก็คิดในใจว่า “มันจะเกิดขึ้นจริงๆหรอ” เขายังไม่ทันคิดเสร็จเขาก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยขึ้น ลอยขึ้น เขาตกใจเนื่องจากเสียสมดุล “เฮ้ยๆๆ อะไรเนี้ย ช่วยด้วยๆๆ แม่ช่วยด้วย” เขาตระโกนเรียกหาแม่เขา ก่อนเขาจะสิ้นสะติดไป



        เสียงน้ำตกกระทบพื้นดังขึ้นมาในหูของหน่อง เขารู้สึกตัวและลุกขึ้นมามองรอบๆตัวในทันที สิ่งที่เขาเห็นคือ น้ำตก และป่า รอบข้างเต็มไปด้วยสัตว์ นานาชนิดทั้งที่ดุร้ายและไม่ดุร้าย แต่ทั้งหมดรู้สึกจะอยู่รวมกันโดยไม่คิดจะกินหรือทำร้ายกัน เขาเงยมองขึ้นบนฟ้าก็พบว่าโลกอยู่บนนั้น เขาตกใจและขณะที่มองอยู่นั้นหน่องสังเกตเห็นควันไฟลอยมาจากพุ่มไม้ใหญ่ข้างหน้า เขาต้องเข้าไปเผื่อจะเป็นคนที่อยู่บนโลก ที่ถูกดูดเข้ามาหรืออาจจะเป็นครอบครัวของเขาก็ได้



        เขาเดินไปยังพุ่มไม้แล้วแหวกออกดู เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังปิ้งมันกินอยู่ ซึ่งที่เห็นไม่ใช่มนุษย์แน่ เขาจึงเดินเข้าไปแล้วแสดงท่าทางเป็นมิตรที่สุด “สวัสดีครับ ผมของถามอะไรหน่อย” คนป่าพวกนั้นหันกลับมามองด้วยวามประหลาดใจก่อนที่ คนหนึ่งจะพูดขึ้นว่า “มาได้ยังเนี้ยเจ้าหนู” หน่องได้ยินดังนั้นก็บอกไปว่า “ผมมาจากโลกครับ คือผมอยากรู้ว่าครอบครัวผมอยู่ไหน” “มากินนี่ก่อนมา” ชายคนหนึ่งยื่นมันที่ปิ้งร้อนมาให้หน่อง หน่องลองกัดดู แต่รสชาติไม่เหมือนมันแต่เหมือนไก่ย่าง “นี่มันอะไรครับ” หน่องถามด้วยความงงๆ “ที่นี่เขาเรียกว่าดาวแห่งจินตนาการเจ้าจะจินตนาการให้ดาวนี้เป็นอะไรก็ได้แล้วแต่เจ้าจะคิด” “หรอครับ” หน่องหลับตาแล้วคิดถึงครอบครัวเขาทันที “หน่องไปไหนมาลูกแม่ตามหาแทบแย่” หน่องลืมตาขึ้นก็พบว่าอยู่ที่บ้านของเขาแล้ว “ผมเออ....”  “ไม่ต้องพูดแล้วไปนอนซะ” แล้วนิดก็เดินจากไป เขางงหนักกว่าเดิมว่าทำไมเขามาอยู่ที่นี่ได้



        แต่ก็สู้ความง่วงนอนของตัวเองไปไม่ได้ เพราะเขารู้สึกเพลียมากเหมือนไปวิ่งที่ไหนมา เขาขึ้นไปห้องแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงตัวเก่า แต่เตียงกันกลับยุบตัวลงไป เขาดิ้นเพ่อที่จะให้ตัวเองหลุดออกจากเตียงที่ตอนนี้กำลังดูดเขาเข้าไป แล้วก็มือมาดึงเขาให้ออกจากเตียง “เกือบไปแล้วไอ้หนู” ชายคนที่ยื่นมันปิ้งมาให้เขากินพูดขึ้น “เกิดอะไรขึ้นครับ” “จำไว้นะห้ามนอนเด็ดขาดเพราะถ้านอนเธอจะถูกดูดเข้าไปในโลกจินตนาการ และกลับออกมาไม่ได้อีก” “ก็เมื่อกี้ผมอยู่ที่บ้านไม่ใช่หรอ” “เธออยู่ในจินตนาการของตัวเองต่างหากหละดูนั้น” เขาชี้ขึ้นไปที่โลกในท้องฟ้า สีมันเป็นสีแดง แทนที่จะเป็นสีฟ้า “มันกำลังถูกเผาด้วยไฟของเทพะนอติลุส” “อ้าวแล้วครอบครัวผมหละ” “ข้าก็ไม่รู้เพราะที่เจอก็เจอเธอคนเดียวเนี้ยแหละ” “แสดงว่าทุกคนในโลกก็ตายหมดซิครับ” “อืม...คงจะใช่” น้ำตาของลูกผู้ชายได้ไหลออกมาทางตาเขาร้องไห้ เพราะต่อไปนี้เขาต้องอยู่ที่ดาวดวงนี้และไม่ได้เจอครอบครัวอีกต่อไป เขาหลับตานอนลงบนพงหญ้า แล้วก็เผลอหลับไปจนได้



        เขารู้สึกตัวอีกรอบข้างก็มีแต่ความมืดและก็มีเสียงร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ เขาพยายามมองไม่นานนักไฟนีออนก็ถูกเปิดและภาพที่อยู่ตรงหน้าเขาก็คือแม่ที่ในมือถือเค้กวันเกิดมาให้เขา ทำให้เขารู้ทันที่ว่า...

        เขาตื่นจากฝันแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×