ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : นาฬิกา
    แสงสีในเมืองแม้มันจะเป็นตอนเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้วก็ตาม มันก็ยังคงดูวุ่นวายอยู่ดี และรู้สึกว่าบางบริษัทยังคงเห็นแสงไฟส่องมาจากห้องทำงานและมีผู้หญิงคนเดียวอยู่ในนั้น อนงค์กำลังนั่งเพ่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอคงหมกมุ่นอยู่กับงานของผู้จัดการที่สั่งให้เธอทำตั้งแต่เที่ยงวัน รวมกับงานเก่าตอนที่เธอลาป่วยไปเมื่อ 2 เดือนก่อนด้วยโรคร้ายที่ยังไม่มีใครสามารถทำให้หายได้ในตอนนี้ เธอไม่ได้ตั้งใจให้มันเข้ามาอยู่ในตัวเธอ และเธอรู้มันเข้ามาได้อย่างไร แต่เธอยังไม่ได้แต่งงาน ยิ่งพิมพ์เธอยิ่งรู้สึกเวียนศีรษะ เธอลุกขึ้นไปหาน้ำดื่ม พร้อมกับหยิบยาออกมาจากในกระเป๋าของเธอซึ่งวางอยู่บนอีกโต๊ะข้างๆ แล้วก็ลุกจากเก้าอี้ และเดินออกมาจนสุดช่องทางเดิน เธอเปิดประตูตู้เย็นหยิบน้ำออกมาดื่มพร้อมกับยาที่เธอกำไว้อยู่
              หลังจากนั้นก็มีเสียงเรียกจาก รปภ.ว่า “คุณครับมันเที่ยงคืนแล้วคุณยังทำไม่งานเสร็จอีกหรอครับ ผมจะปิดห้องแล้วนะครับ” “ยังไม่เสร็จหรอคะ ถ้าคุณต้องการจะปิดห้องเดี๋ยวดิฉันไปเก็บของที่โต๊ะก่อนนะคะ” เธอจัดแจงเดินไปเก็บของที่โต๊ะของเธอและเดินออกมาจากห้องทำงาน “ไม่ลืมอะไรนะครับ” รปภ.ถามด้วยความเป็นห่วง “คะ ขอบคุณนะคะ” แล้วเธอก็ลงลิฟต์เพื่อไปลานจอดรถ เธอเดินไปเปิดประตูรถ HONDA civic ของเธอและบึ่งกลับบ้าน อีกไม่กี่กิโลก็ถึงที่หมาย
            เธอบีบแตรเรียกคนใช้ในบ้านออกมาเปิดประตูบ้าน คนใช้ผู้ชายรีบวิ่งออกมาเขาเป็นคนร่างใหญ่หน้าตาดุดันดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย “เร็วเข้าซิ ไอ้ถึก ช้าจริง” “ครับ! คุณหนู” มันเป็นเสียงที่เย็นชาเหลือเกิน เธอขับรถเข้าไปในบ้านของเธอ มันใหญ่โตพอที่จะอยู่ได้อีกครอบครัวเลย ด้วยมรดกของปู่เธอก้อนนี้เองมีการแย่งชิงกันมากมาย คนที่ตกเป็นเจ้าของล้วนมีอันเป็นไปทั้งสิ้น ซึ่งเธอและครอบครัวกล้าอยู่ที่นี้ ญาติพี่น้องของเธอต่างไปอยู่ที่อื่นกันหมด เพราะกลัวอาถรรพ์ของบ้านหลังนี้กันทั้งนั้น ในบ้านเธอมีคนใช้อีก 5 คน เธอรู้สึกดีใจที่กลับมาถึงบ้าน และจะได้นอนเสียที เพราะมันเหนื่อยมากกับการทำงาน มีกับข้าวกับปลาพร้อมที่โต๊ะเหมือนรู้ว่าเธอจะกลับมา เธอไม่สนใจแล้วขึ้นไปบนห้องนอนของเธอ เธอใช้เวลาในการอาบน้ำอยู่นาน จนคนใช้ผู้หญิงขึ้นมาถาม “คุณหนูจะทานข้าวไหมคะ” เสียงเธอใหญ่มาก “ไม่หละสุข ฉันรู้สึกอิ่มๆ และอยากจะนอน” อีกซักพักเธอก็ออกมาจากห้องน้ำแล้ว กระโดดขึ้นเตียงไม้สักทองทันที
            ห้องนี้เป็นห้องนอนและห้องตายของคุณปู่เธอ ก่อนตายปู่เธอจะตายด้วยโรคที่เธอกำลังเป็นอยู่เขาขอให้เธออยู่ห้องนี้แทนห้องเดิมของเธอ มันเป็นห้องที่มีห้องน้ำส่วนตัว และเป็นห้องเดียวที่มีนาฬิกาโบราณอันหนึ่ง ซึ่งมันจะส่งเสียงร้องดัง ตึง... ตึง... ทุกชั่วโมง เธอนอนลงแล้วหลับไปซักประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มีเสียงร้องดังออกมาจากนาฬิกา มันเป็นเวลาตีหนึ่งพอดี หลังเสียงนาฬิกาเงียบลง ก็มีเสียงคนคุยกันและก็มีเสียงเด็กวิ่งเล่น “พอได้แล้วหนูจะนอน” เสียงพวกนั้นก็เงียบไป อาจจะด้วยเหตุนี้เองที่ไม่มีใครกล้าอยู่ที่นี่ เธอนอนต่ออีกเพียง 2 ชั่วโมง แล้วเธอก็ตื่นด้วยความสดชื่น เธออาบน้ำและเดินลงมาจากบันได มันเหมือนรู้ว่าเธอจะลงมากับข้าวทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว “คุณหนูทานจะทานข้าวก่อนหรือไปออกกำลังกายก่อนคะ” แม่บ้านชื่อทองท่าทางเธอจะอายุพอๆกับคุณปู่เธอเลย “ยังคะ ยังไม่ทานหนูจะไปเล่นก่อน”
            แล้วเธอก็ลงไปชั้นใต้ดินของบ้าน ซึ่งทางลงมีประตูไม้อยู่ มันมีกลอนใส่อยู่ 3 อันด้วยกัน เธอเปิดมันแล้วเดินลงไปตามบันไดปูนมันดูรกมากต่างจากข้างบนที่จัดไว้สวยงาม แล้วก็มาหยุดที่ตรงหน้าห้องเธอไขกุญแจเข้าไป ในนั้นมีรูปปั้นต่างมากมาย มันวังเวงและหน้ากลัว เธอเดินไปหยุดหน้าโต๊ะพิธี และเริ่มว่าคาถาพึมพำซักพักหนึ่งก็รู้สึกว่าตัวเธอ เริ่มสบายขึ้นและโรคร้ายนั้นค่อยๆหายไป
            โดยดูได้จากสีหน้าที่ดีขึ้นแล้วเธอก็สำรอกเลือดออกมา มันดูเหลวๆ และรวมตัวกับเป็นก้อนแข็งขึ้นๆ เธอหยิบมันขึ้นมาและโยนไปที่มุมห้อง ไอ้ถึกมันนั่งกอดเข่าอยู่มุมนั้นแล้วหยิบสิ่งที่เธอโยนให้นั้นมากิน “อ้าวกินซะไอ้ถึกแล้วออกไป ฉันจะเล่นอะไรสนุกๆซักหน่อย” “ครับคุณหนู” แล้วมันก็วิ่งขึ้นไปข้างบน “เอาหละนะ สุเมธ จนรับกรรมที่เองก่อไว้ได้แล้ว” เธอนั่งบ่นคาถาของเธออีกแต่ มันไม่แค่นั้นเธอยังเอาตุ๊กตาดินออกมาจากกล่องไม้ แล้วเธอก็เอาตะปู ทิ่มลงไปที่บนหัวตุ๊กตานั้น ก่อนที่เอาดอกที่สองตามลงที่หัวใจ แล้วเอาสายสินธุพันที่คอแล้วแขวงไว้ที่ตะปูบนผนังห้อง เธอยิ้มด้วยวามดีใจ “ฉันมอบสิ่งนี้ให้เธอแล้วนะสุเมธ เหมือนสิ่งที่เธอมอบให้ฉันเมื่อ 2 เดือนก่อน มันอาจรู้สึกเจ็บปวดบ้างแต่มันก็ชั่วคราวเท่านั้น รู้ไหมตั้งแต่เราคบกันมาฉันเสียตัวให้เธอเป็นแรก แต่สิ่งที่เธอทำกับมันเจ็บแสบนัก” แล้วตัวเธอก็เดินขึ้นไปบนบ้านแล้วมาที่โต๊ะทานข้าว กินอย่างไม่ใช่คน กินมากซะด้วย จากคนที่ดูสวยในสายตาของทุกๆคนกลับกลายเป็นปีศาจที่หน้ากลัว พอเธอกินเสร็จ เธอเรียกให้คนใช้ในบ้าน มาเก็บจาน สิ้นเสียงก็มีเงาดำจากไหนไม่รู้มารุมที่บนโต๊ะอาหารอย่างกับจัดปาร์ตี้
    เดี๋ยวเวลาตี 5 เธอก็ไปทำงานแล้วก็อาจจะเป็นอย่างนี้อีกในวันพรุ่งนี้ และวันต่อๆไป ผมคอยดูเธอมานานแสนนานแล้ว คอยดูตั้งแต่เริ่มสร้างบ้านหลังนี้ มันอาจเป็นเพราะผม ที่นำนาฬิกาเรือนนั้นเข้ามาในบ้านหลังนี้โดยไม่ตั้งใจ ผมพึ่งจะมารู้ก่อนที่จะผมตายว่า มันเป็นนาฬิกาที่ทำจากโลงศพและสิ่งของอาถรรพ์ต่างๆ จึงทำให้บ้านหลังนี้มีคำสาป ผู้ที่จะอยู่ได้นั้นจะต้องเป็นทายาทของผมโดยตรงเท่านั้น มันเริ่มฆ่าคนทุกคนที่อยู่ในบ้านและเข้าสิงทายาทของผมจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง พอมาถึงรุ่นนี้มันคงรำคาญว่าจะมีทายาทที่สืบสกุลมากไปจึงเข้าสิงผู้หญิงแทน สิ่งเดียวที่ทำให้มันสูญไปจากโลกนี้ได้ คือ...
    ปลุกให้ผมตื่น จากฝันนี้ที
              หลังจากนั้นก็มีเสียงเรียกจาก รปภ.ว่า “คุณครับมันเที่ยงคืนแล้วคุณยังทำไม่งานเสร็จอีกหรอครับ ผมจะปิดห้องแล้วนะครับ” “ยังไม่เสร็จหรอคะ ถ้าคุณต้องการจะปิดห้องเดี๋ยวดิฉันไปเก็บของที่โต๊ะก่อนนะคะ” เธอจัดแจงเดินไปเก็บของที่โต๊ะของเธอและเดินออกมาจากห้องทำงาน “ไม่ลืมอะไรนะครับ” รปภ.ถามด้วยความเป็นห่วง “คะ ขอบคุณนะคะ” แล้วเธอก็ลงลิฟต์เพื่อไปลานจอดรถ เธอเดินไปเปิดประตูรถ HONDA civic ของเธอและบึ่งกลับบ้าน อีกไม่กี่กิโลก็ถึงที่หมาย
            เธอบีบแตรเรียกคนใช้ในบ้านออกมาเปิดประตูบ้าน คนใช้ผู้ชายรีบวิ่งออกมาเขาเป็นคนร่างใหญ่หน้าตาดุดันดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย “เร็วเข้าซิ ไอ้ถึก ช้าจริง” “ครับ! คุณหนู” มันเป็นเสียงที่เย็นชาเหลือเกิน เธอขับรถเข้าไปในบ้านของเธอ มันใหญ่โตพอที่จะอยู่ได้อีกครอบครัวเลย ด้วยมรดกของปู่เธอก้อนนี้เองมีการแย่งชิงกันมากมาย คนที่ตกเป็นเจ้าของล้วนมีอันเป็นไปทั้งสิ้น ซึ่งเธอและครอบครัวกล้าอยู่ที่นี้ ญาติพี่น้องของเธอต่างไปอยู่ที่อื่นกันหมด เพราะกลัวอาถรรพ์ของบ้านหลังนี้กันทั้งนั้น ในบ้านเธอมีคนใช้อีก 5 คน เธอรู้สึกดีใจที่กลับมาถึงบ้าน และจะได้นอนเสียที เพราะมันเหนื่อยมากกับการทำงาน มีกับข้าวกับปลาพร้อมที่โต๊ะเหมือนรู้ว่าเธอจะกลับมา เธอไม่สนใจแล้วขึ้นไปบนห้องนอนของเธอ เธอใช้เวลาในการอาบน้ำอยู่นาน จนคนใช้ผู้หญิงขึ้นมาถาม “คุณหนูจะทานข้าวไหมคะ” เสียงเธอใหญ่มาก “ไม่หละสุข ฉันรู้สึกอิ่มๆ และอยากจะนอน” อีกซักพักเธอก็ออกมาจากห้องน้ำแล้ว กระโดดขึ้นเตียงไม้สักทองทันที
            ห้องนี้เป็นห้องนอนและห้องตายของคุณปู่เธอ ก่อนตายปู่เธอจะตายด้วยโรคที่เธอกำลังเป็นอยู่เขาขอให้เธออยู่ห้องนี้แทนห้องเดิมของเธอ มันเป็นห้องที่มีห้องน้ำส่วนตัว และเป็นห้องเดียวที่มีนาฬิกาโบราณอันหนึ่ง ซึ่งมันจะส่งเสียงร้องดัง ตึง... ตึง... ทุกชั่วโมง เธอนอนลงแล้วหลับไปซักประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มีเสียงร้องดังออกมาจากนาฬิกา มันเป็นเวลาตีหนึ่งพอดี หลังเสียงนาฬิกาเงียบลง ก็มีเสียงคนคุยกันและก็มีเสียงเด็กวิ่งเล่น “พอได้แล้วหนูจะนอน” เสียงพวกนั้นก็เงียบไป อาจจะด้วยเหตุนี้เองที่ไม่มีใครกล้าอยู่ที่นี่ เธอนอนต่ออีกเพียง 2 ชั่วโมง แล้วเธอก็ตื่นด้วยความสดชื่น เธออาบน้ำและเดินลงมาจากบันได มันเหมือนรู้ว่าเธอจะลงมากับข้าวทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว “คุณหนูทานจะทานข้าวก่อนหรือไปออกกำลังกายก่อนคะ” แม่บ้านชื่อทองท่าทางเธอจะอายุพอๆกับคุณปู่เธอเลย “ยังคะ ยังไม่ทานหนูจะไปเล่นก่อน”
            แล้วเธอก็ลงไปชั้นใต้ดินของบ้าน ซึ่งทางลงมีประตูไม้อยู่ มันมีกลอนใส่อยู่ 3 อันด้วยกัน เธอเปิดมันแล้วเดินลงไปตามบันไดปูนมันดูรกมากต่างจากข้างบนที่จัดไว้สวยงาม แล้วก็มาหยุดที่ตรงหน้าห้องเธอไขกุญแจเข้าไป ในนั้นมีรูปปั้นต่างมากมาย มันวังเวงและหน้ากลัว เธอเดินไปหยุดหน้าโต๊ะพิธี และเริ่มว่าคาถาพึมพำซักพักหนึ่งก็รู้สึกว่าตัวเธอ เริ่มสบายขึ้นและโรคร้ายนั้นค่อยๆหายไป
            โดยดูได้จากสีหน้าที่ดีขึ้นแล้วเธอก็สำรอกเลือดออกมา มันดูเหลวๆ และรวมตัวกับเป็นก้อนแข็งขึ้นๆ เธอหยิบมันขึ้นมาและโยนไปที่มุมห้อง ไอ้ถึกมันนั่งกอดเข่าอยู่มุมนั้นแล้วหยิบสิ่งที่เธอโยนให้นั้นมากิน “อ้าวกินซะไอ้ถึกแล้วออกไป ฉันจะเล่นอะไรสนุกๆซักหน่อย” “ครับคุณหนู” แล้วมันก็วิ่งขึ้นไปข้างบน “เอาหละนะ สุเมธ จนรับกรรมที่เองก่อไว้ได้แล้ว” เธอนั่งบ่นคาถาของเธออีกแต่ มันไม่แค่นั้นเธอยังเอาตุ๊กตาดินออกมาจากกล่องไม้ แล้วเธอก็เอาตะปู ทิ่มลงไปที่บนหัวตุ๊กตานั้น ก่อนที่เอาดอกที่สองตามลงที่หัวใจ แล้วเอาสายสินธุพันที่คอแล้วแขวงไว้ที่ตะปูบนผนังห้อง เธอยิ้มด้วยวามดีใจ “ฉันมอบสิ่งนี้ให้เธอแล้วนะสุเมธ เหมือนสิ่งที่เธอมอบให้ฉันเมื่อ 2 เดือนก่อน มันอาจรู้สึกเจ็บปวดบ้างแต่มันก็ชั่วคราวเท่านั้น รู้ไหมตั้งแต่เราคบกันมาฉันเสียตัวให้เธอเป็นแรก แต่สิ่งที่เธอทำกับมันเจ็บแสบนัก” แล้วตัวเธอก็เดินขึ้นไปบนบ้านแล้วมาที่โต๊ะทานข้าว กินอย่างไม่ใช่คน กินมากซะด้วย จากคนที่ดูสวยในสายตาของทุกๆคนกลับกลายเป็นปีศาจที่หน้ากลัว พอเธอกินเสร็จ เธอเรียกให้คนใช้ในบ้าน มาเก็บจาน สิ้นเสียงก็มีเงาดำจากไหนไม่รู้มารุมที่บนโต๊ะอาหารอย่างกับจัดปาร์ตี้
    เดี๋ยวเวลาตี 5 เธอก็ไปทำงานแล้วก็อาจจะเป็นอย่างนี้อีกในวันพรุ่งนี้ และวันต่อๆไป ผมคอยดูเธอมานานแสนนานแล้ว คอยดูตั้งแต่เริ่มสร้างบ้านหลังนี้ มันอาจเป็นเพราะผม ที่นำนาฬิกาเรือนนั้นเข้ามาในบ้านหลังนี้โดยไม่ตั้งใจ ผมพึ่งจะมารู้ก่อนที่จะผมตายว่า มันเป็นนาฬิกาที่ทำจากโลงศพและสิ่งของอาถรรพ์ต่างๆ จึงทำให้บ้านหลังนี้มีคำสาป ผู้ที่จะอยู่ได้นั้นจะต้องเป็นทายาทของผมโดยตรงเท่านั้น มันเริ่มฆ่าคนทุกคนที่อยู่ในบ้านและเข้าสิงทายาทของผมจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง พอมาถึงรุ่นนี้มันคงรำคาญว่าจะมีทายาทที่สืบสกุลมากไปจึงเข้าสิงผู้หญิงแทน สิ่งเดียวที่ทำให้มันสูญไปจากโลกนี้ได้ คือ...
    ปลุกให้ผมตื่น จากฝันนี้ที
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น