ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เทียบเชิญ
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดเข้ามาในหมู่บ้านแกรสวิว ทุกชีวิตเริ่มกระตือรือร้น แต่ก็ไม่มากเท่าหมู่บ้านในเมืองหลวง เด็กส่งหนังสือพิมพ์ปั่นจักรยานคู่ใจ แล้วโยนหนังสือข้ามรั้วไปที่หน้าบ้านของแต่ละบ้านอย่างแม่นยำ แต่สี่เท้ายังรู้พลาด เขาขว้างไปโดนหัวล้านๆของชายแก่ๆ ที่กำลังก้มตัวตัดต้นไม้อยู่
   
              “โอ๊ยยยย... ได้เด็กบ้าโยนไม่ดูตาม้าตาเรือเลย” ชายแก่โมโหสุดลุกขึ้นมาแล้วชี้นิ้วด่า
ผู้ร้ายรู้ตัวจึงใช้ความเร็วปั่นรถจักรยาน ซึ่งมันเร็วกว่าเสียงด่าของชายคนนั้นจะตามทัน “คราวหน้าฉันจะไม่สั่งหนังสือพิมพ์ของแก และจะโทรไปที่สำนักพิมพ์ให้ไล่แกออกซะ ไอ้เด็กเวร” เป็นเสียงระลอกที่ 2 แต่ก็ช้าไปผู้ร้ายปั่นออกนอกซอยซะแล้ว
   
                “ลุงเอ็ดมันเกิด อะไรขึ้นหรอครับ” ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา รูปร่ายกำยำที่อยู่ข้างบ้านเดินออกมาเพราะเสียงโวยวาย
    “ก็ไอ้เด็กส่งหนังสือพิมพ์ซิ มันดันโยนหนังสือพิมพ์มาโดนฉัน อย่าให้จับได้นะแก” น้ำเสียงลุงแกยังอาฆาตอยู่
    “ชั่งมันเหอะ ลุงเด็กมันคงไม่ได้ตั้งใจหรอ” เขาเอาน้ำเย็นเข้าลูบเพื่อลุงแกจะเย็นลง
    “นี่ถ้ามันลงมาขอโทษฉันซักคำนะ จะไม่ว่าอะไรมันเลย” เสียงแกอ่อนลงแต่ความอาฆาตยังอยู่
    “วันนี้มีข่าวอะไรน่าดูมั้งครับ” ชายหนุ่มถาม
    “ฉันไม่มีอารมณ์อ่านมันแล้ว อ๊ะเอาไป” แกเดินมาที่ขอบรั้วแล้วยืนหนังสือพิมพ์ให้
    “ขอบคุณครับลุง” เขาหยิบหนังสือออกจากมือลุงแล้วเดินเข้าบ้านทันที
    “มีอะไรกันคะคุณ” หญิงสาวหน้าตาสวย อยู่ในชุดแม่ครัว
    “ลุงเอ็ดมันแกโวยวายหนะ” เขาพูดพร้อมเดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าว
    “อ้าว... แล้วแกโวยเรื่องอะไรหละ” เธอยกอาหารเช้ามาเสิร์ฟบนโต๊ะแล้วก็นั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกับสามีเธอ
    “ก็ไม่มีอะไรมากหรอ แค่เด็กส่งหนังสือพิมพ์โยนหนังสือพิมพ์พลาดแล้วไปโดนหัวแก”
    “หรอคะ เนี้ยแหละคนแก่เดี๋ยวคุณก็เป็นแบบเนี้ยแหละเมื่อถึงเวลา” เธอยิ้มและหัวเราะเบา แล้วลุกขึ้นไปหยิบซอสในครัว
    “ยังอีกนานริซ่า เรายังไม่มีลูกกันเลยนะ” แล้วเขาก็ลุกขึ้นกอดทางด้านหลังเธอ และกระซิบด้านหลังอีกประโยคว่า “งั้นเราเริ่มกัน
ตอนนี้ดีกว่า”
    “ไม่เอาหนะ จอห์นเดี๋ยวก็ไปทำงานสายจนได้” เธอสลัดมือของเขาแล้วปลีกตัวออกห่าง แล้วทำสีหน้าไม่พอใจ แต่รอยยิ้มของ
เธอปรากฏข้างในหัวใจของเธอเต็มไปหมด
    “ได้ๆๆ อย่าให้กลับมาจากที่ทำงานแล้วกัน” เสียงของเขาตามเธอไปที่ครัว
    “แล้วจะทำไม”
    “ก็เตรียมเครื่องจักรให้พร้อมแล้วกัน เดี๋ยวเย็นนี้ก็รู้เอง”
    “บ้าหนะ ไปเหอะรีบไปเลย” รอยยิ้มในใจเมื่อกี้มีมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
    “เดี๋ยวขอกินอาหารสมองก่อนแปปนึง” เขานั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิมและหยิบหนังสือพิมพ์มาอ่าน
    “โอ้... ปราสาทเสียงกระซิบ มันฆ่ากันตายหรอเนี้ย” เขาสบถเมื่อหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เมื่อเห็นข่าวฆ่ากันตาย
    “คุณคะๆ เมื่อวานมีจดหมายมาถึงคุณด้วยนะ ฉันวางไว้บนทีวีซองสีดำนะ” เสียงก้องๆเธอผ่านประตูห้องน้ำออกมา
    “จ๊ะๆ เห็นแล้ว” เขาเดินไปหยิบซองบนทีวีมาดู
    “ใครส่งมาเนี้ยไม่เขียนที่อยู่คนส่ง” เขาพูดกับตังเองเบาๆ
เขาเปิดซองออกมาแล้วหยิบกระดาษสีเดี๋ยวกับซองขึ้นมาอ่าน
    “การ์ดเชิญไปงานราตรีนิ” เขารู้สึกงงกับการ์ดเชิญ
    “ริซ่าเป็นการ์ดเชิญ ไปงานราตรีที่ปราสาทเสียงกระซิบ วันที่ 30 เดือนนี้ ไปกันปะ” เขาพูดกับเธอขณะที่เธอกำลังเดินออกมาจาก
ห้องน้ำในชุดคลุมสีขาว ทำให้เห็นรูปร่างและร่องอกอวบอิ่มของเธอ
    “พรุ่งนี้แหละซิ” เธอถามเพื่อความแน่ใจ
    “ใช่ๆ” เขาแหงนมองไปที่ปฏิทินที่ติดอยู่ข้างๆ “มันหน้าจากบอกซะแต่เนิ่นๆ จะได้หาชุดหล่อๆมาใส่”
    “ดีเลยจะได้ฉลองครบรอบวันแต่งงานของเราไปด้วย” เธอนึกขึ้นได้
    “เออ... ใช่ๆ ปีนึงแล้วซินะ” เขาเกือบลืม
    “หวังว่าคุณไม่ลืมหรอกนะ” เธอมองเขาด้วยความระแวง
    “สายแล้วๆ เดี๋ยวผมขอไปทำงานก่อนนะ” เขารีบหาข้ออ้างเพื่อเลี่ยงที่จะตอบ ในใจคิดว่าตอนกลับมาจะทำเซอไพร์สภรรยาด้วยของขวัญซักชิ้นที่เขาจะไปหาซื้อตอนพักกลางวัน
    “ไปแหละนะ” เขาหอมแก้มข้างซ้ายเธอก่อนที่จะใส่รองเท้าแล้วมุ่งหน้าไปที่ทำงาน
   
              “โอ๊ยยยย... ได้เด็กบ้าโยนไม่ดูตาม้าตาเรือเลย” ชายแก่โมโหสุดลุกขึ้นมาแล้วชี้นิ้วด่า
ผู้ร้ายรู้ตัวจึงใช้ความเร็วปั่นรถจักรยาน ซึ่งมันเร็วกว่าเสียงด่าของชายคนนั้นจะตามทัน “คราวหน้าฉันจะไม่สั่งหนังสือพิมพ์ของแก และจะโทรไปที่สำนักพิมพ์ให้ไล่แกออกซะ ไอ้เด็กเวร” เป็นเสียงระลอกที่ 2 แต่ก็ช้าไปผู้ร้ายปั่นออกนอกซอยซะแล้ว
   
                “ลุงเอ็ดมันเกิด อะไรขึ้นหรอครับ” ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา รูปร่ายกำยำที่อยู่ข้างบ้านเดินออกมาเพราะเสียงโวยวาย
    “ก็ไอ้เด็กส่งหนังสือพิมพ์ซิ มันดันโยนหนังสือพิมพ์มาโดนฉัน อย่าให้จับได้นะแก” น้ำเสียงลุงแกยังอาฆาตอยู่
    “ชั่งมันเหอะ ลุงเด็กมันคงไม่ได้ตั้งใจหรอ” เขาเอาน้ำเย็นเข้าลูบเพื่อลุงแกจะเย็นลง
    “นี่ถ้ามันลงมาขอโทษฉันซักคำนะ จะไม่ว่าอะไรมันเลย” เสียงแกอ่อนลงแต่ความอาฆาตยังอยู่
    “วันนี้มีข่าวอะไรน่าดูมั้งครับ” ชายหนุ่มถาม
    “ฉันไม่มีอารมณ์อ่านมันแล้ว อ๊ะเอาไป” แกเดินมาที่ขอบรั้วแล้วยืนหนังสือพิมพ์ให้
    “ขอบคุณครับลุง” เขาหยิบหนังสือออกจากมือลุงแล้วเดินเข้าบ้านทันที
    “มีอะไรกันคะคุณ” หญิงสาวหน้าตาสวย อยู่ในชุดแม่ครัว
    “ลุงเอ็ดมันแกโวยวายหนะ” เขาพูดพร้อมเดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าว
    “อ้าว... แล้วแกโวยเรื่องอะไรหละ” เธอยกอาหารเช้ามาเสิร์ฟบนโต๊ะแล้วก็นั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกับสามีเธอ
    “ก็ไม่มีอะไรมากหรอ แค่เด็กส่งหนังสือพิมพ์โยนหนังสือพิมพ์พลาดแล้วไปโดนหัวแก”
    “หรอคะ เนี้ยแหละคนแก่เดี๋ยวคุณก็เป็นแบบเนี้ยแหละเมื่อถึงเวลา” เธอยิ้มและหัวเราะเบา แล้วลุกขึ้นไปหยิบซอสในครัว
    “ยังอีกนานริซ่า เรายังไม่มีลูกกันเลยนะ” แล้วเขาก็ลุกขึ้นกอดทางด้านหลังเธอ และกระซิบด้านหลังอีกประโยคว่า “งั้นเราเริ่มกัน
ตอนนี้ดีกว่า”
    “ไม่เอาหนะ จอห์นเดี๋ยวก็ไปทำงานสายจนได้” เธอสลัดมือของเขาแล้วปลีกตัวออกห่าง แล้วทำสีหน้าไม่พอใจ แต่รอยยิ้มของ
เธอปรากฏข้างในหัวใจของเธอเต็มไปหมด
    “ได้ๆๆ อย่าให้กลับมาจากที่ทำงานแล้วกัน” เสียงของเขาตามเธอไปที่ครัว
    “แล้วจะทำไม”
    “ก็เตรียมเครื่องจักรให้พร้อมแล้วกัน เดี๋ยวเย็นนี้ก็รู้เอง”
    “บ้าหนะ ไปเหอะรีบไปเลย” รอยยิ้มในใจเมื่อกี้มีมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
    “เดี๋ยวขอกินอาหารสมองก่อนแปปนึง” เขานั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิมและหยิบหนังสือพิมพ์มาอ่าน
    “โอ้... ปราสาทเสียงกระซิบ มันฆ่ากันตายหรอเนี้ย” เขาสบถเมื่อหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เมื่อเห็นข่าวฆ่ากันตาย
    “คุณคะๆ เมื่อวานมีจดหมายมาถึงคุณด้วยนะ ฉันวางไว้บนทีวีซองสีดำนะ” เสียงก้องๆเธอผ่านประตูห้องน้ำออกมา
    “จ๊ะๆ เห็นแล้ว” เขาเดินไปหยิบซองบนทีวีมาดู
    “ใครส่งมาเนี้ยไม่เขียนที่อยู่คนส่ง” เขาพูดกับตังเองเบาๆ
เขาเปิดซองออกมาแล้วหยิบกระดาษสีเดี๋ยวกับซองขึ้นมาอ่าน
    “การ์ดเชิญไปงานราตรีนิ” เขารู้สึกงงกับการ์ดเชิญ
    “ริซ่าเป็นการ์ดเชิญ ไปงานราตรีที่ปราสาทเสียงกระซิบ วันที่ 30 เดือนนี้ ไปกันปะ” เขาพูดกับเธอขณะที่เธอกำลังเดินออกมาจาก
ห้องน้ำในชุดคลุมสีขาว ทำให้เห็นรูปร่างและร่องอกอวบอิ่มของเธอ
    “พรุ่งนี้แหละซิ” เธอถามเพื่อความแน่ใจ
    “ใช่ๆ” เขาแหงนมองไปที่ปฏิทินที่ติดอยู่ข้างๆ “มันหน้าจากบอกซะแต่เนิ่นๆ จะได้หาชุดหล่อๆมาใส่”
    “ดีเลยจะได้ฉลองครบรอบวันแต่งงานของเราไปด้วย” เธอนึกขึ้นได้
    “เออ... ใช่ๆ ปีนึงแล้วซินะ” เขาเกือบลืม
    “หวังว่าคุณไม่ลืมหรอกนะ” เธอมองเขาด้วยความระแวง
    “สายแล้วๆ เดี๋ยวผมขอไปทำงานก่อนนะ” เขารีบหาข้ออ้างเพื่อเลี่ยงที่จะตอบ ในใจคิดว่าตอนกลับมาจะทำเซอไพร์สภรรยาด้วยของขวัญซักชิ้นที่เขาจะไปหาซื้อตอนพักกลางวัน
    “ไปแหละนะ” เขาหอมแก้มข้างซ้ายเธอก่อนที่จะใส่รองเท้าแล้วมุ่งหน้าไปที่ทำงาน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น