คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ
ก้องกลับมานั่งอยู่ที่โซฟาในห้องได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว พร้อมด้วยความหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะว่าเมื่อเขามาถึงไม่เห็นอีกคนอยู่ในห้อง แปลว่ายังไม่กลับจากออกไปข้างนอก เขาเลยโทรหาอีกคน แต่นี่โทรไป 50 กว่าสายแล้วอีกคนก็ยังไม่รับสาย เขาจึงโทรหาโจ้ก็ดันปิดเครื่องอีก ให้ตายเถอะ และเขาก็นั่งคิดและเป็นห่วงอีกคนไปเรื่อย เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น และคนที่โทรเข้ามาก็คือคนที่เขารออยู่
“แสตมป์ ทำไมไม่ระ …....”
“พี่ก้อง มารับไอแตมด่วนเลยที่คอนโดผมเนี่ย เฮ้ยย ! อยู่เฉยๆ ดิวะ มารับเร็วเลยพี่” โจ้คุยกับก้องอยู่ก็โวยวายออกมาเมื่ออีกคนกำลังจะล้มนอนลงที่ตักของโจ้อย่างเดียวเลย เขาต้องดันหัวของแสตมป์ไว้ ไม่ได้หรอก ถ้าพี่ก้องเห็นผมคงต้องโดนสอยร่วงลงพื้นเป็นแน่
“ได้ๆ คอนโดนายอยู่ที่ไหน” ก้องรีบตอบรับทันทีและถามที่อยู่ของคนที่โทรมา และเมื่อได้รับที่อยู่แล้วก็รีบบึ่งรถไปที่นั่นทันที และวันนี้เป็นวันที่เขาขับรถถึงที่หมายเร็วกว่าปกติ เขาเดินขึ้นไปตามที่โจ้บอกและก็หยุดอยู่หน้าประตูและเคาะมัน และในไม่นานก็มีคนมาเปิดออกโดยเจ้าของห้อง
“มาเอากลับไปเลยครับ” โจ้พูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นก้อง
“แล้วทำไมถึงเมาขนาดนี้ละ” ก้องถามขึ้นเมื่อเดินเข้าไปหาอีกคนที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์แรงมาก เขากำลังพยุงอีกคนขึ้นมาจากพื้น
“สงสัยจะอกหักเพราะเห็นภาพบาดตาน่ะครับ”
“อกหัก ? ภาพบาดตา ? อะไรคือพี่ไม่เข้าใจวะ” ก้องแสดงสีหน้างงงวยเป็นอย่างมากกับประโยคที่โจ้พูดมา
“ก็ตอนที่พามันไปเที่ยว มันบังเอิญเห็นพี่เดินอยู่กับผู้หญิงน่ะสิ พอจะพาไปส่งก็ไม่ยอม บอกไม่อยากกลับ แล้วมันก็เป็นแบบที่เห็นนี่แหละครับ” ก้องเข้าใจทันที เมื่อโจ้พูดจบ และเขาสามารถรับรู้ได้ว่าถ้าอีกคนหายเมาเมื่อไร ต้องไม่ยอมพูดกับเขาแน่ๆ และแสตมป์กำลังเข้าใจผิดอย่างแรง
“ขอบใจมาก งั้นพี่ขอตัวก่อนแล้วกัน” ก้องเอ่ยขอบคุณอีกคนที่ช่วยดูแลแสตมป์ให้เขา และก็พยุงอีกคนออกไปอย่างทุลักทุเล
เมื่อก้องพยุงแสตมป์มาถึงห้องนอนก็ทำให้เขาเหนื่อยพอตัวเหมือนกัน ก็อีกคนไม่ใช่น้ำหนักจะเบาๆ สักหน่อย เขาวางตัวอีกคนลงที่เตียงอย่างแผ่วเบา และเขาก็หายเข้าไปในห้องน้ำและออกมาพร้อมกับอ่างใบเล็กๆ และผ้าหนึ่งผืน
ก้องนั่งลงข้างๆ กับคนที่นอนอยู่อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ก้องเอื้อมไปถกเสื้อยืดอีกคนขึ้นเพื่อจะเช็ดมัน ตลอดเวลาการเช็ดตัว ก้องต้องพยายามข่มใจตัวเองไม่ให้ทำอะไรเกินเลยไปกว่านี้อย่างมาก กว่าเขาจะเช็ดเสร็จก็นานกว่าปกติ เพราะมัวแต่หักห้ามใจ
“อื้อ …...” มีเสียงร้องจากอีกคนเมื่อก้องเพิ่งอาบนำเสร็จและล้มตัวนอนข้างๆ อีกคนแล้ว สังสัยจะละเมอ พรุ่งนี้เขาคงต้องรับมือเรื่องใหญ่สะแล้ว วันนี้ขอพักหน่อยแล้วกัน เหนื่อยมามากแล้ว และในไม่นานก้องก็เข้าสู่ห้วงนิทรา
เช้าวันใหม่ที่สดใส แต่ไม่ใช่อารมณ์ของทั้งสองเลยในตอนนี้ แสตมป์หลังจากตื่นขึ้นมาก็มีอาการเวียนหัวอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่ยอมพูดอะไรกับก้องเลยสักนิด ไม่ว่าก้องจะชวนคุยอะไรก็แล้วแต่ และก้องก็รู้ดีว่าถ้าไม่เคลียร์เรื่องนี้ให้จบ มีหวังก็ไม่เข้าใจกันสักที
“พี่อธิบายเรื่องนั้นได้นะแสตมป์” ก้องตัดสินใจพูดถึงเรื่องที่เป็นต้นเหตุของทั้งสองตอนนี้
“...............”
“แสตมป์อย่าเงียบได้ไหมครับ” ก้องเริ่มอ่อนใจแล้วที่เห็นว่าอีกคนไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักที และก็ยังไม่มีเสียงตอบรับอะไรออกมา
“แสตมป์ครับ” ก้องเรียกชื่ออีกคนอย่างแผ่วเบาและเดินเข้าไปนั่งข้างๆ อีกคนที่นั่งอยู่ที่โซฟาอยู่ก่อนแล้ว
“2 นาทีกับคำอธิบายครับ” ในที่สุดแสตมป์ก็ยอมพูดออกมา ทำให้ก้องรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
“คือว่าที่แสตมป์เห็นน่ะ แสตมป์กำลังเข้าใจผิดนะครับ เมื่อวานพี่ไปหาแม่จริงๆ และท่านก็แนะนำให้พี่รู้จักผู้หญิงคนที่แสตมป์เห็นนั่นแหละ เธอชื่อเมย์ แต่พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเธอจริงๆ นะ และดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้คิดอะไรกับพี่ด้วย ดูเหมือนว่าแม่พี่กำลังจะจับคู่ให้พี่ แต่นายก็รู้ว่าพี่รักนาย และที่นายเห็นเมื่อวานก็เพราะแม่พี่ให้พี่พาเมย์ไปเดินซื้อของน่ะ จริงๆ พี่ก็ไม่ได้อยากไปเท่าไรหรอกครับ แต่ก็ไม่อยากขัดใจท่าน” ก้องพูดรัวออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อให้มันทันภายใน 2 นาทีที่อีกคนกำหนดไว้
“ผมรู้ แต่แม่พี่ไม่รู้นี่ครับ ไม่ว่าท่านจะให้พี่ทำอะไร ท่านก็ไม่ผิดอยู่แล้ว และพี่ก็ขัดไม่ได้ด้วย” แสตมป์ถึงจะเข้าใจขึ้นมาบ้างแต่น้ำเสียงก็ยังเรียบเฉยอยู่ดี
“แสตมป์อย่าเย็นชากับพี่สิครับ” ก้องพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สลดลงเป็นอย่างมาก
แสตมป์ไม่พูดอะไรตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง และเพราะว่าในห้องเงียบมาก เสียงโทรศัพท์ของก้องจึงดังมากเวลามีสายเรียกเข้า แสตมป์จึงทำเป็นเสมองไปทางอื่นอย่างไม่สนใจ
“ครับแม่”
“แต่ผมไม่ …..”
“ครับ ๆ ๆ”
เมื่อก้องวางสายเขาก็หันมาหาอีกคนที่นั่งมองไปทางอื่นโดยที่ไม่สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ เขาจึงเขยิบเข้าไปใกล้อีกคนมากขึ้น และเอามือโอบไหล่ของแสตมป์ไว้ แสตมป์ไม่ขัดขืนอะไร แต่ก็ไม่ยอมหันมาหาก้องอยู่ดี
“พี่ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง แต่แสตมป์จำไว้นะครับว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่รักนายคนเดียว มีแต่ดวงใจดวงนี้เท่านั้นที่พี่ฝากไว้ที่นาย” ก้องพูดพร้อมกับโอบอีกคนแน่นมากขึ้น และไม่นานเขาก็ปล่อยออกแล้วลุกขึ้นจากโซฟา
“คือแม่พี่โทรมาให้ ….” ไม่ทันที่ก้องจะพูดจบ แสตมป์ก็ขัดขึ้นมาทันที
“พี่ไปเถอะครับ เดี๋ยวแม่พี่จะรอนาน” แสตมป์ยังคงน้ำเสียงเรียบเฉยและยังไม่เงยมามองหน้าของก้องอยู่ดี ก้องจึงต้องจำใจเดินออกไป โดยทิ้งท้ายประโยคสุคท้ายไว้ให้อีกคน
“พี่จะรีบกลับนะครับ” เมื่อก้องพูดจบและเดินออกจากห้องไป น้ำตาที่แสตมป์กลั้นมันไว้ตั้งแต่แรกก็ไหลออกมาอย่างช้าๆ มันคงใกล้ถึงเวลาแล้วสินะ แสตมป์ไม่สนใจที่เช็ดน้ำตาที่มันไหลออกมาไม่หยุดด้วยซ้ำ เขานั่งจมอยู่กับห้วงความคิดของเขา
ก้องเมื่อเดินออกมาจากห้องก็รีบมุ่งหน้าไปหาแม่ของเขาทันที แต่เขาก็ยังกระวนกระวายใจที่ยังเคลียร์กันไม่เสร็จก็ต้องปลีกตัวออกมาอย่างนี้ และเมื่อเขามาถึงก็ต้องออกมานั่งกินข้าวกับพ่อแม่และก็คุณพรเพชรและะน้องเมย์ มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อสำหรับเขาในตอนนี้มาก ก้องไม่พูดอะไรและแทบไม่แตะต้องอาหารบนโต๊ะเลยสักนิดเดียว เขานั่งจมอยู่กับความคิดและความกระวนกระวายใจของเขา และเขาก็ต้องหลุดจากห้วงความคิดของตัวเอง เพราะเสียงหนึ่งดังขัดขึ้นมา
“ก้อง พ่อขอพูดอะไรด้วยหน่อย เอ่อ ขอตัวสักครู่นะครับ” ผู้เป็นพ่อพูดขออนุญาตคนบนโต๊ะและเดินนำก้องออกไปก่อน
“มีอะไรหรอครับพ่อ” ก้องถามด้วยเสียงเนือยๆ
“ฉันจะให้แกแต่งงานกับหนูเมย์” เมื่อก้องได้ยินประโยคนี้ที่หลุดออกมาจากปากของผู้เป็นพ่อก็ทำให้เขาตกใจทันที
“แต่ …. พ่อครับ ผมไม่ได้รักน้องนะครับ และอีกอย่างผมก็ …. มีแฟนอยู่แล้วด้วย” ก้องเถียงออกมาอย่างขาดใจเลย เขาไม่มีวันแต่งงานกับใครนอกจากแสตมป์แน่ๆ
“ไอแฟนที่แกว่านะ ไอเด็กหนุ่มลูกชายเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่น่ะหรอ”
“ใช่ครับ พ่อรู้ได้ยังไง”
“ฉันจะรู้ได้ยังไงแกไม่ต้องรู้หรอก แต่แกต้องเลิกยุ่งกับเด็กคนนั้น นี่เป็นคำสั่ง” ผู้เป็นพ่อพูดออกมาเสียงแข็ง
“ไม่ครับ ผมไม่เลิก” ก้องพูดอย่างเด็ดขาดเมื่อได้ยินประโยคเมื่อกี้ แต่เขาก็สู้อะไรพ่อของเขาไม่ได้อยู่แล้ว
“ถ้าแกไม่เลิก ฉันจะสั่งคนไปจัดการเด็กนั่น” เมื่อก้องได้ยินประโยคนั้นก็ทำให้เขาต้องยอมอ่อนลง เพราะเขารู้นิสัยพ่อของเขาดีว่าท่านต้องทำมันจริงๆ และด้วยความเป็นห่วงแสตมป์ก้องจึงต้องยอมฟังคำสั่งของพ่อของเขา
“และแกต้องย้ายมาอยู่ที่บ้านด้วย”
“แต่ …...” ก้องไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ พ่อของเขาก็เดินหนีไปสะแล้ว
“กลับเข้าไปข้างในได้แล้ว” ผู้เป็นพ่อพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าลูกชายของเขาไม่ยอมเดินตามมา ก้องขานรับด้วยเสียงที่เบา และเดินตามผู้เป็นพ่อเข้าไปข้างใน เมื่อก้องเดินเข้ามาข้างในเขาก็ต้องฝืนทำตัวให้เป็นปกติที่สุด เขาจึงขอตัวเพื่อไปเข้าห้องน้ำเมื่อเขารู้สึกอึดอัดแต่หญิงสาวที่นั่งอยู่ก็ขอมาด้วย
ก้องเปิดโปรแกรมแชทที่ฮิตขึ้นมา และพิมพ์ข้อความเพื่อส่งหาอีกคน
Kong : วันนี้พี่ไม่กลับนะครับ ล็อคห้องดีๆ ละ พี่รักแสตมป์นะครับ
เมื่อก้องกดส่งไปแล้วเขาก็จดจ่ออยู่ที่หน้าแชทนั้นไม่มีทีท่าว่าจะกดออก และในที่สุดมันก็ขึ้นคำว่าอ่าน แต่ก็ยังไร้วี่แววในการตอบกลับ เขาจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงไป
“ถอนหายใจสะยาวเชียวค่ะ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวที่ขอตามก้องออกมาเอ่ยขึ้นเมื่อเธอเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ แต่ก้องยังไม่อยากกลับไปนั่งตอนนี้
“ไม่มีอะไรหรอกครับ” ก้องยังยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่ไม่มีความสุขเลยสักนิด และหญิงสาวก็สังเกตเห็นจึงชวนก้องออกไปสูดอากาศข้างนอกและก้องก็ตกลง
“ทะเลาะกับแฟนหรอคะ” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นเมื่อทั้งสองเดินมาไกลพอสมควร
“นิดหน่อยครับ” ก้องมีความรู้สึกว่าตอนนี้เขาอยากอยู่เงียบๆ ไม่อยากทำอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่จะไล่อีกคนก็เสียมารยาทเกินไปเขาเลยแค่ถามคำตอบคำ
“คือเมย์รู้ไหมครับว่าพ่อแม่เราจะให้เรา …..” ก้องยังไม่ทันที่จะพูดจบก็โดนขัดขึ้นมาเสียก่อน
“แต่งงานกัน ใช่ไหมคะ เรื่องนี้เมย์รู้แล้วละคะ” หญิงสาวตอบออกมาด้วยน้ำเสียงปกติ แต่สีหน้าของเธอดูอ่อนลงอย่างน่าแปลกใจ
“แต่เราไม่ได้รักกัน” ก้องเสริมทันที
“เมย์ก็ไม่ได้อยากแต่งนะคะ ที่จริงเมย์ก็มีแฟนอยู่แล้ว แต่เมย์ขัดใจแม่ไม่ได้เลย ชีวิตเรานี่น่าสงสารเนอะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองไปที่ท้องฟ้าเหมือนกับกลั้นไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา
“แล้วแฟนคุณละคะ รู้เรื่องนี้หรือยัง”
“ยังหรอกครับ ผมคงไม่มีโอกาสได้บอก แต่ ….. ผมรักเขามากเลย”
“เราลองไปคุยกับท่านดูไหมคะ” หญิงสาวเสนอขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของก้อง
“อย่าดีกว่าครับ” ก้องตอบออกมาด้วยเสียงเนือยๆ และเงียบไปเหม่อมองออกไปบนท้องฟ้า ด้วยความผิดหวัง
'ต่อจากนี้พี่คงไม่ได้เห็นรอยยิ้มนายแล้วสินะ'
ความคิดเห็น