คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : จะรักให้ดีที่สุด
ตอนนี้แสตมป์กำลังนั่งเป็นจำเลยอยู่ที่โซฟาแต่โดยดี เพราะอีกคนกำลังโกรธเขาเป็นอย่างมาก ดูจากหน้าที่นิ่งและน้ำเสียงที่เย็นชาแล้ว แสตมป์ไม่อยากคิดเลยว่าจะโดนอะไรบ้าง แต่เขาก็ต้องก้มหน้ารับความผิดนี้อยู่ดี
“ทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์ พี่โทรไปกี่สายรู้ไหม” ก้องเอ่ยด้วยเสียงที่เรียบนิ่งทำให้คนฟังถึงกับตัวสั่น
“ผมลืมโทรศัพท์ไว้บนรถครับ” แสตมป์ตอบเสียงอ่อย และเมื่อก้องได้ยินคำตอบเขาก็เข้าใจทันที ถึงเขาจะโกรธคนตรงหน้ามากแค่ไหนก็ตาม เขาก็มีเหตุผลอยู่บ้าง
“แล้วไหนบอกกำลังจะกลับแล้วทำไมถึงมาถึงช้าขนาดนี้” ก้องถามต่อทันทีเมื่ออีกคนตอบ
“พอดีแวะกินข้าวครับ เลยลืมโทรบอกพี่” แสตมป์ตอบเสียงอ่อยก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองหน้าอีกคน เพราะเขากลัวจะร้องไห้ออกมา
“แล้วแบบนี้พี่ควรโกรธนายไหม” เสียงของก้องก็ยังคงความเรียบเฉยแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัว
“ครับ” แสตมป์ตอบเสียงเบามากจนทำให้อีกคนที่ยืนอยู่ไม่ได้ยินเสียงนั้น แต่เมื่อก้องเห็นท่าทางที่แสตมป์แสดงออกมาก็ทำให้เขาอ่อนลง ก้องเดินเข้าไปหาอีกคนที่นั่งอยู่โซฟาและมือทั้งข้างก็ดันโซฟาไว้ ตอนนี้เขาก็กำลังยืนคร่อมคนที่นั่งอยู่ แล้วมองหน้าแสตมป์
“แล้วแบบนี้พี่ควรทำโทษเรายังไง” แสตมป์เริ่มสติกระเจิงเมื่ออีกคนมายืนค้ำเขาอยู่แบบนี้ แสตมป์ไม่ได้ตอบอะไรอีกคนออกไป ก้องเลยฉวยโอกาสนี้ในการเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้แสตมป์ให้มากขึ้น จนทำให้แสตมป์หลับตาปี๋เลยทันที ก้องเลื่อนเข้าไปใกล้อีกและกระซิบที่ข้างหูของแสตมป์
“ครั้งนี้พี่จะไม่ว่าอะไร แต่ถ้ามีอีกครั้งล่ะก็ …..... รู้นะว่าจะโดนอะไรบ้าง” เมื่อสิ้นสุดคำพูดก้องก็ถอยหน้าออกมาและจงใจที่ให้จมูกของเขาเฉียดแก้มของอีกฝ่าย ทำให้แสตมป์เขินจนหน้าแดงไปหมด และก้องก็เดินหนีไป แต่แสตมป์ก็ลุกเดินตามอีกคนไปดึงมือให้หันมาหาตัวเอง
“พี่หายโกรธผมแล้วใช่ไหม” แสตมป์ถามด้วยน้ำเสียงที่ดีใจจนแทบจะเก็บไม่อยู่
“ไม่หายได้ไหมละ”
“หายเถอะครับ” แสตมป์ส่งสายตาปริบๆ ให้อีกคนอย่างน่าสงสารที่สุด มันจึงทำให้ก้องหลุดยิ้มกว้างออกมา
“หายก็ได้ครับ แต่อย่าให้มีเหตุการณ์แบบนี้อีก เข้าใจไหม” ก้องพูดด้วยรอยยิ้มแต่แฝงไปด้วยคำสั่ง
“ไม่มีอีกแน่นอนครับ” แสตมป์โผเข้ากอดก้องอย่างแนบแน่น เอาหัวซุกไปที่อกอีกคนอย่างน่ารัก
“อ๊ากกกกกกกก” เสียงวีดร้องดังขึ้นจากปากของแสตมป์ที่ตอนนี้อยู่บนเครื่องเล่นที่กำลังแล่นไปตามราง เมื่อทั้งสองลงมาจากเครื่องเล่น แสตมป์ดูหน้าซีดลงไปมาก ก็แหงละ ที่จริงแสตมป์ไม่ได้จะขึ้นเครื่องเล่นที่น่ากลัวแบบนี้หรอก ก็เพราะว่าอีกคนลากเขาขึ้นไปเล่นนั่นแหละ โดยเหตุผลที่ว่ามาทั้งที่ต้องเล่นให้ครบ เขาก็แค่อยากจะมาเล่นอะไรที่มันไม่ได้น่ากลัวแบบนี้สักหน่อย แสตมป์เดินไปนั่งเก้าอี้ที่ว่างอยู่ โดยที่ก้องก็มาสมทบด้วยการส่งน้ำให้กับอีกคน
“ยาดมหน่อยไหมครับ” ก้องพูดด้วยเสียงแกมตลก
ก้องยืนมองแสตมป์ที่ตอนนี้ดื่มน้ำรวดเดียวแทบจะหมดขวด และสีหน้าของแสตมป์ก็เริ่มจะดีขึ้นมานิดหน่อย ไม่น่าแกล้งเลย
“เราไปเล่นอันนู้นดีกว่าไหม” ก้องชี้ไปที่บ้านหิมะที่อีกคนไม่น่าจะปฏิเสธอย่างแน่ๆ เพราะมันไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย แสตมป์ก็เริ่มจะดีขึ้นมากแล้ว เลยตอบตกลงเดินตามก้องไป โดยที่ก้องเอื้อมมือมาจับมือของแสตมป์ไว้เหมือนตั้งแต่เข้ามาที่นี่
“สองคนครับ” ก้องซื้อตัวที่หน้าเคาท์เตอร์เพื่อจะเข้าไปข้างหน้า และเมื่อได้รับตั๋วมาทั้งสองก็ไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปข้างในทันที เมื่อเขามาถึงข้างในแล้วอุณหภูมิที่ติดลบก็ทำให้รู้สึกเย็นและหน้าชาได้
“ถ่ายรูปกันไหมครับแสตมป์” ก้องเอ่ยชวนอีกคนที่ตอนนี้ยืนเหม่อมองไปที่เครื่องเล่นที่มีคนกำลังลื่นไหลลงมา เขาจึงพาอีกคนไปเล่นและฝากให้คนแถวๆ นั้นช่วยถ่ายวิดีโอให้เขาทั้งสอง
“ขอบคุณมากครับ” ก้องเอ่ยขอบคุณคนที่ถ่ายวิดีโอให้เขาด้วยรอยยิ้มหวาน ที่ทำให้คนที่เห็นถึงกับแทบละลาย แต่เมื่อแสตมป์เห็นก็ทำให้ไม่พอใจสักเท่าไร แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่แสดงออกจากสีหน้าแทน ก้องเห็นว่าแสตมป์เงียบไปเลยชวนแสตมป์ไปถ่ายรูปตรงอื่น และทั้งสองก็ได้รูปที่ถ่ายคู่กันเป็นจำนวนมาก ในเวลาไม่นานทั้งสองก็ออกมาหาอะไรกินกันก่อนที่จะไปเล่นเครื่องเล่นอย่างอื่นต่อ ก้องมองคนที่เคี้ยวตุ้ยๆ อย่างหิวจัดและขำออกมาเบาๆ กับความน่ารักของคนตรงหน้า
“มองอะไรครับ” แสตมป์ถามขึ้นโดยที่ก็ยังเคี้ยวอยู่ และแก้มป่องๆ ด้วยสิ่งที่อยู่ในปากนั้นยิ่งทำให้ก้องแทบจะทนความน่ารักของอีกคนไว้ไม่ไหว
“มองนายนั่นแหละ ทำตัวน่ารักอยู่ได้” ก้องก้มหน้าก้มตากินต่อ โดยที่ตอนนี้แสตมป์เริ่มที่จะเขินกับคำพูดของเขาอยู่แล้ว เล่นชมตรงๆ ขนาดนี้ใครไม่เขินก็บ้าแล้ว ไอพี่ก้องบ้า แสตมป์คิดในใจ
และเมื่อทั้งสองกินอะไรเสร็จเลยลงความเห็นว่าเล่นอีกสักสองสามอย่างก็ค่อยกลับ และนี้ก็ดำเนินมาถึงอย่างสุดท้ายแล้ว ทั้งสองกำลังยืนต่อแถวที่จะเข้าในปราสาทผีสิง โดยที่ก้องก็ลากแสตมป์มาอยู่ดี ถึงอีกคนจะขืนตัวยังไงแต่ก็ไม่สามารถออกจากที่นี้ได้แล้ว เพราะทั้งสองได้เข้ามาข้างในแล้ว เปลี่ยนเป็นแสตมป์รีบจับแขนอีกคนไว้แน่นทันที เพราะข้างในมันช่างมืดมาก
“จับสะแน่นเชียว” ก้องเอ่ยแซวอีกคนที่ตอนนี้จับแขนเขาแน่นไม่ยอมปล่อย และทั้งสองก็เดินกันอย่างช้าเพราะความมืดที่มีอยู่ด้วย เลยทำไม่ค่อยเห็นอะไรมาก แสตมป์ตกใจทันทีเมื่ออยู่ดีๆ ก็มีอะไรโผล่ลงมาจากเพดาน ทำใ่ห้เขากอดอีกคนแน่นขึ้นไปอีก จนแทบจะทำให้ก้องหายใจไม่ออก และเมื่อทั้งสองออกมาข้างนอก
“น่ากลัวชะมัดเลย” แสตมป์บ่นอุบอิบอยู่คนเดียวเมื่อในที่สุดเขาก็ออกมาจากที่นั่นได้ และหันไปเห็นอีกคนกำลังกลั้นหัวเราะอยู่ เขาเลยฟาดลงไปที่แขนของอีกคนเบาๆ ก้องร้องโอดโอยออกมาจนเกินเหตุเลยทำให้แสตมป์รู้สึกหมั่นไส้ แสตมป์เอื้อมมือไปบีบจมูกของก้องด้วยความหมั่นเขี้ยว ก้องก็ไม่ยอมอีกคนเหมือนกันจึงเอื้อมมือไปดึงแก้มของแสตมป์ทั้งสองข้างด้วยความหมั่นเขี้ยวเช่นกัน
“เจ็บง่ะ” แสตมป์บ่นทันทีเมื่อก้องปล่อยมือออกาจากแก้มของเขา และลูบมันเบาๆ
แสตมป์ก็กำลังจะเดินตามก้องไป ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แสตมป์หยิบขึ้นมาดูก็เป็นคนที่เขาไม่ได้เจอหน้ามาตั้งนานและไม่ค่อยจะมีเวลาโทรหาเขาสักเท่าไรด้วย และอีกคนก็โทรแบบเห็นหน้ามาอีก
“พี่ก้องเดี๋ยวครับ” แสตมป์ตะโกนเรียกคนที่เดินนำหน้าไปก่อนแล้ว และก้องก็หันหลังเดินกลับมาหาอีกคน
“มีอะไรหรอครับแสตมป์” ก้องถามอีกคนด้วยความสงสัย แต่แสตมป์ไม่ตอบอะไรกดรับสายทันที
“ว่างโทรมาแล้วหรอครับ ผมคิดถึงพี่แทบแย่” แสตมป์พูดด้วยสีหน้าดีใจเป็นอย่างมากที่โจโทรมาหาเขาสักที
“ว่างแล้วครับ คิดถึงเหมือนกัน และอีกไม่นานพี่ก็จะกลับไปแล้วนะ” โจส่งรอยยิ้มมาให้แสตมป์ แต่ประโยคที่โจบอกจะกลับมาแล้วทำให้ก้องที่ได้ยินถึงกลับสีหน้าอ่อนลง ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากให้เพื่อนเขากลับมาหรอกนะ แต่เมื่อโจกลับมาแสตมป์ก็ต้องกลับไปอยู่ที่บ้านโจ และเขาก็คงต้องอยู่คนเดียว เมื่อแสตมป์เห็นสีหน้าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาก็เข้าใจทันทีว่าก้องเป็นอะไร
“จริงหรอครับ ดีใจจังเลย”
“แล้วนี่อยู่ไหนครับเนี่ย แล้วไอก้องละ” โจถามหาอีกคนทันทีเมื่อเห็นพื้นหลังของแสตมป์ที่เต็มไปด้วยคนพลุกพล่านแต่ไม่ยักกะเห็นเงาของก้องเลย
“อยู่นี่ไงครับ พี่ก้องพาผมมาเที่ยวสวนสนุกครับ” แสตมป์เลื่อนโทรศัพท์ไปที่หน้าของก้อง ที่ตอนนี้ยังไม่เลิกทำหน้าแบบนั้น
“เป็นอะไรวะไอก้อง หน้าอย่างกับปวดไส้ติ่ง” โจเอ่ยแซวเพื่อนเมื่อเห็นว่าเพื่อนของตนเองทำหน้าบอกบุญไม่รับเลยสักนิด แต่เป็นแสตมป์ที่ตอบกลับไปแทน
“สงสัยคงหึงมั้งครับ” แสตมป์ยิ้มออกมาเมื่อพูดคำนั้นออกไป ก็เขาไม่อยากให้ก้องเป็นแบบนี้นี่หน่า
“หึง ? หึงอะไรครับ เล่ามาสะดีๆ” โจหรี่ตามองทั้งสองผ่านทางจอโทรศัพท์ด้วยการจับผิด
“กะ …. ก็ผมกับพะ …...”
“ฉันกับแสตมป์เป็นแฟนกันก็ต้องหึงกันเป็นธรรมดา” ก้องเอ่ยออกมาบ้างจากที่ได้ยินแสตมป์พูดอย่างนั้น ก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
“อะไรนะ !” โจตะโกนออกมาเสียงดังอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“ที่นู้นมันหนาวจนทำให้แกหูตึงหรือไงวะไอโจ”
“ก็ฉันตกใจนี่หว่า ไม่คิดว่าแกจะมาคาบน้องฉันไป”
“ฉันไม่ใช่หมาโว้ยยย ทำไมหวงหรอ เดี๋ยวก็ฟ้องโจ้สะหรอก”
“อะไรไม่ได้เป็นอะไรกันโว้ย” โจตะโกนกลับมาอย่างทันทีเมื่อได้ยินชื่อของอีกคน และใบหน้าเริ่มมีสีแดงระเรื่อของโจ ทำให้ก้องและแสตมป์เห็นถึงกับขำกันออกมา
“แน่ใจ ?” ก้องก็ยังไม่หยุดที่จะแซวเพื่อนของเขา
“โอ้ย ฉันไม่คุยกับแกแล้ว แสตมป์ดูไอก้องดิ พี่ฝากตบกบาลมันสักทีได้ไหมครับ” โจโวยวายกลบเกลื่อนความอายที่ก้องไม่ยอมหยุดแซวสักที เขาไม่ว่าอะไรหรอกที่ทั้งสองรักกัน ดีจะตายก้องจะได้ดูแลน้องเขาได้ดีในช่วงที่เขาไม่อยู่ และคนอย่างไอก้องนี่รักใครแล้วรักจริง และหวงมาก ตั้งแต่เป็นเพื่อนมันมาไม่เคยเห็นมันคบกับใครสักที ถึงหน้าตาดีอย่างนั้นคนเข้ามาหาเยอะแยะ แต่มันกลับไม่สนใจเลยนะครับ
“แสตมป์ไม่ทำฉันหรอกโว้ย เสียใจด้วยนะ” ก้องยิ้มให้กับโจอย่างมีชัย
“ได้ ถ้าฉันกลับไปเมื่อไรฉันจะจัดการกับแกเอง และจะเอาแสตมป์คืนด้วย” โจแลบลิ้นใส่ก้องอย่างมีชัยเหนือกว่า
“ไม่ได้โว้ย ไม่ให้ หวง แกไปนอนเลยนะ” ก้องเอ่ยไล่อีกคนทันทีเมื่อเห็นว่าไม่มีทางชนะแน่ๆ โจหัวเราะอย่างมีชัยจนทำให้ก้องหมั่นไส้เป็นอย่างมาก
“แสตมป์พี่ไปนอนและนะ คิดถึ้งคิดถึงแสตมป์มากครับ อยากกอดจัง” โจพูดกับแสตมป์แต่ก็ไม่วายที่จะแหย่อีกคนที่ตอนนี้ถือโทรศัพท์แทนแสตมป์ไปแล้ว แสตมป์ขำออกมากับคำพูดของโจ
“ครับ พี่กลับมาเมื่อไรผมจะให้กอดเลย” แสตมป์หันไปมองหน้าก้องที่ไม่สบอารมณ์แล้วขำออกมากับโจ และโจก็ตัดสายไปทันที และแสตมป์ก็หันมาให้ความสนใจกับก้องอีกครั้ง
“กลับบ้านกันเถอะครับ”
ทั้งสองจึงเดินจับมือกันเพื่อมุ่งหน้าไปสู่ที่รถ ที่ตอนนี้เริ่มจะมืดสะแล้ว และระหว่างทางทั้งสองก็แวะทานอาหารกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่ในร้านมีเสียงเพลงคลอเวลาทานอาหารไปด้วย
“เท่านี้แหละครับ” ก้องเอ่ยขึ้นเมื่อสั่งอาหารในเมนูเสร็จ แล้วหันมามองคนตรงหน้าที่นั่งมองไปที่เวทีที่มีนักดนตรีกำลังบรรเลงเพลงอยู่
“มองแบบนั้นอยากขึ้นไปร้องเพลงหรือไง” ก้องเอ่ยแซวอีกคนที่มัวแต่เหม่อไปที่เวทีนั้น
“เปล่าสะหน่อย แค่รู้สึกผ่อนคลายที่ได้ฟังเพลง”
ก้องพยักหน้าเป็นอันเข้าใจ ในเวลาไม่นานอาหารที่ก้องสั่งทั้งหมดก็ถูกยกมาวางอยู่ตรงหน้าของแสตมป์ ทั้งสองกินอาหารร่วมกันพร้อมกับฟังเพลงไปด้วย เขาทั้งสองไม่รีบร้อนที่จะกินเพราะอยากนั่งกินลมชมวิวและฟังเพลงไปด้วย
“ฉันไม่สัญญาว่าเธอจะเป็นคนสุดท้าย ฉันไม่มั่นใจอะไรที่มันยังไม่เกิด ฉันไม่สัญญาว่าจะมีเราตลอดไป แค่ไม่มั่นใจ อย่าเพิ่งโกรธ แต่ฉันขอสัญญาจะมีแต่เธอเท่านั้น และทุกๆ วันฉันจะทำเพื่อเธอ ฉันขอสัญญาไม่ว่าจะไกลสักแค่ไหน ฉันจะตั้งใจ ฉันรักเธอ เมื่อความรักนั้น ไม่ใช่ภูผา ….....” เสียงเพลงยังคงบรรเลงต่อไป และเพลงนี้ก็ทำให้ทั้งสองให้ความสนใจเป็นพิเศษและก้องก็เป็นคนที่หันหน้ากลับมาหาแสตมป์ที่ตอนนี้ยังสนใจอยู่สิ่งที่อยู่บนเวที ก้องล้วงมือเข้าไปหยิบสิ่งของบางอย่างที่เขาเก็บมันไว้ในกระเป๋ากางเกงตั้งแต่ออกจากคอนโดมาแล้ว
“แสตมป์” เขาเรียกคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน และแสตมป์ก็หันมาหาเขา
“มีอะไรหรอครับ” แสตมป์ถามด้วยความสงสัย
ก้องยื่นมือไปจับมือของแสตมป์แล้วดึงเข้ามาหาตัวเขา และบรรจงสวมแหวนสีเงินเข้าที่นิ้วเรียวของแสตมป์อย่างช้าๆ แสตมป์ตกใจตาโตที่ตาของเขาสามารถที่จะโตได้กับแหวนที่ตอนนี้อยู่ในนิ้วเรียวของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ขอจองไว้ก่อนนะ” ก้องก้มจูบที่แหวนอย่างอ่อนโยน แสตมป์มองดูด้วยความเขินอายและยิ้มให้กับคนตรงหน้าจนตาหยี
ความคิดเห็น