ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KongStamp] คือเธอเท่านั้น

    ลำดับตอนที่ #20 : ระยะปลอดภัย

    • อัปเดตล่าสุด 30 ส.ค. 58


    “ผมอยากกินเค้กจังครับ”

    “ครับ เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้กินนะ”

    “ผมอยากกินผลไม้ด้วย”

    “ครับ เดี๋ยวพี่ออกไปซื้อให้”

    “ผมอยากกิน ....” แสตมป์ยังพูดไม่ทันจบก้องก็พูดสวนขึ้นมาก่อน

    “กินขนาดนี้คงหายแล้วมั้งครับเนี่ย กินจนอ้วนจะเป็นหมีอยู่แล้วมั้ง ดูแก้มสิ ~” ก้องเอื้อมมือไปดึงแก้มแสตมป์อย่างน่าหมั่นไส้ แล้วเขาก็เปลี่ยนไปสัมผัสที่หน้าผากของอีกคนแทน

    “ก็ผมอยากกินนี่ครับ นะ นะ นะครับพี่ก้อง”

    “ครับๆ เดี๋ยวพี่ออกไปซื้อมาให้ ว่าแต่ตัวเรายังรุมๆ อยู่เลย ไม่สบายได้ยังไงเนี่ย”

    “สงสัยเมื่อวานจะตากฝนนิดหน่อยตอนออกไปคุยกับลูกค้ามั้งครับ กินยานอนพักอีกซักหน่อยก็คงจะดีขึ้นแหละครับ”

    ก้องไม่ตอบอะไรหันไปบิดผ้าที่อ่างใบเล็กๆ แล้วหันมาเช็ดตัวให้อีกคน พร้อมกับบ่นอีกคนไปด้วย แสตมป์ก็ได้แต่ทำหน้าสำนึกผิด

    “นอนไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่ออกไปซื้อของให้ก่อน”

    “ครับ” 

    เมื่อก้องพูดจบก็เดินออกไป แสตมป์เมื่อเห็นว่าก้องออกไปแล้วจึงหลับตาลงเพื่อนอนพักซักหน่อย ยังรู้สึกปวดหัวตุบๆ อยู่เลย และมันก็ใช้เวลาไม่นานเขาก็หลับลงไปด้วยฤทธิ์ยา 


    1 ชั่วโมงต่อมา

    ก้องซื้อของเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขากำลังเดินเข้าไปในห้องนอนเมื่อเขาได้ยินเสียงโทรศัพท์น่าจะเป็นของอีกคนดังขึ้น เมื่อเขาเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอก็ทำให้ตกใจทันที

    “แม่” ก้องอุทานออกมาเบาๆ แสดงสีหน้ากังวลออกมา แล้วมองไปที่คนที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง หรือจะเรียกให้แสตมป์รับดี หรือเราจะรับเอง และเขาก็ตัดสินใจกดรับ

    “สวัสดีครับ”

    (แสตมป์)

    “อ่ะ ... เอ่ออ คือแสตมป์หลับอยู่อ่ะครับ”

    (อ้าว .. หรอจ้ะ นั่นโจใช่ไหม)

    “เอ่ออ .. ไม่ใช่ครับ ผมก้องเพื่อนโจครับ”

    (ก้อง ? อ่อ ตาก้องที่ตาโจฝากเราดูแลแสตมป์ตอนที่เขาไปทำงานต่างประเทศตอนนั้นใช่ไหมจ๊ะ)

    “ชะ .. ใช่ครับ”

    (เอ๋ ? กี่โมงแล้วเนี่ย ทำไมแสตมป์ยังหลับอยู่ แล้วทำไมแสตมป์ไม่อยู่กับตาโจล่ะจ๊ะ)

    พอก้องได้ยินคำถามเมื่อกี้ทำให้สะอึกไป พูดอะไรไม่ออก เขาควรจะบอกไหม เขาควรจะพูดผ่านทางนี้ไหม แต่เหมือนฟ้ายังเข้าข้างเขา คนที่นอนหลับอยู่บนเตียงเริ่มขยับตัวขยุกขยิกแล้วลืมตาขึ้นมา

    “พี่ก้องกลับมาแล้วหรอครับ แล้วนั่นคุยกับใคร แอบคุยกับกิ๊กตอนผมหลับหรอครับ !” แสตมป์พูดจบพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิกแขนของอีกคน โดยไม่ได้สังเกตว่าโทรศัพท์ในมือของก้องเป็นของตัวเอง และด้วยที่ห้องมันเงียบและเสียงแสตมป์เมื่อกี้ก็ดังพอที่จะลอดเข้าไปในโทรศัพท์

    “โอ้ย !” ก้องเผลอร้องออกมา แล้วยื่นโทรศัพท์ให้คนตรงหน้า แต่เมื่อแสตมป์เห็นก็ตกใจเหมือนกัน

    “แม่หรอครับ” แสตมป์พูดด้วยเสียงอ่อนๆ และคำถามแรกก็ทำให้แสตมป์สะอึกทันที แม่เขาได้ยินหรอเนี่ย

    (กิ๊กเกิกอะไรกัน ห้ะ ! แสตมป์)

    “อ่ะ .. เอ่อ เปล่าครับ ไม่มีอะไร” แสตมป์แสดงสีหน้ากังวลออกมา เมื่อก้องเห็นก็ทำให้กังวลไปตามๆ กัน

    (ก็เมื่อกี้แม่ได้ยินเราพูด แม่จำเสียงเราได้นะ เราพูดว่าแอบคุยกับกิ๊กตอนผมหลับหรอครับ หมายความยังไงแสตมป์ แล้วทำไมต้องพูดอย่างนั้นกับตาก้องด้วย)

    เสียงจากปลายสายก็ดังพอที่จะลอดออกมาให้ก้องได้ยิน และมันก็ทำให้ก้องลุ้นกับคำตอบของแสตมป์ 

    “เอ่อ .. คือไม่มีอะไรหรอกครับ ผมก็แค่แหย่พี่ก้องเล่นน่ะครับ” 

    เมื่อก้องได้ยินคำตอบเมื่อกี้ก็ทำให้เขาไม่อยากอยู่ตรงนั้น เขาเดินออกไปจากตรงนั้นทันที แสตมป์กำลังจะเอื้อมมือไปดึงมือของอีกคนไว้แต่ก็จับไว้ไม่ทัน
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    “พี่ก้อง” แสตมป์เดินออกมาจากห้องนอนเมื่อวางสายจากผู้เป็นแม่

    “ครับ .. เราดีขึ้นหรือยัง” ก้องขานตอบเมื่ออีกคนเรียกชื่อแล้วพยายามทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุด

    “ก็ดีขึ้นมาบ้างแล้วครับ”

    ก้องเดินมาหาแสตมป์แล้ววางมือลงบนหน้าผากของอีกคนเผื่อวัดอุณหภูมิ อืมมม .. น่าจะดีขึ้นแล้วล่ะ

    “งั้นมากินเค้กเถอะครับ แล้วนี่ผลไม้ที่้เราอยากกิน พี่ลืมถามเราว่าอยากกินผลไม้อะไร เลยซื้อมาหลายอย่ ..”

    “พี่ก้องครับ” ก้องยังไม่ทันที่จะพูดจบแสตมป์ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน เพราะแสตมป์เห็นว่าก้องเริ่มไม่เป็นปกติ และที่อีกคนกำลังแสดงมันออกจะฝืนๆ

    “ครับแสตมป์”

    “พี่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” แสตมป์เดินเข้าไปจับมืออีกคน

    “เปล่านี่ครับ พี่ไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย”

    “พี่เป็นครับ ผมรู้”

    ก้องไม่พูดอะไร เขาก้มหน้าจ้องเค้กตรงหน้าทั้งที่มันก็ไม่ได้ดึงดูดอะไรเขาเลยด้วยซ้ำ

    “อาทิตย์หน้าพ่อกับแม่ผมกำลังจะกลับมาแล้วนะครับ”

    นั่นไง ! ยิ่งทำให้ก้องซึมลงไปขั้นรุนแรงอีก แต่แสตมป์ก็มองออก เขาจะบอกอีกคนดีไหมนะ แต่ถ้าไปบอกทีหลังคงจะโกรธแน่ๆ แต่เอาเหอะ .. แกล้งอีกหน่อยแล้วกัน เพื่อความสะใจครับ ขอผมเอาคืนบ้างนะครับ ชอบทะลึ่งใส่ผมอยู่เรื่อย 55555555 

    “แล้วเราจะกลับบ้านเมื่อไหร่ล่ะครับ”

    “อะไรกัน แค่นี้ก็ไล่กันสะแล้วหรอครับ น่าน้อยใจจัง”

    “เปล่านะครับ พี่ไม่ได้ไล่ แค่ถามไว้ก่อนเผื่อเวลาเตรียมใจ”

    “เตรียมใจ ? เตรียมใจอะไรหรอครับ” แสตมป์ทำไขสือทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าอีกคนหมายถึงอะไร

    “ไม่มีอะไรหรอกครับ กินเค้กได้แล้ว มาๆ พี่ป้อน” ก้องนั่งลงที่เก้าอี้และดึงอีกคนนั่งตามเขาลงมาที่เก้าอี้ข้างๆ เขาตักเค้กยื่นไปตรงหน้าอีกคน แต่แสตมป์แกล้งทำเป็นไม่สนใจ ยกมือขึ้นมารับช้อนจากคนตรงหน้าไว้

    “ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมกินเองดีกว่า” 

    “ครับ” ก้องเอ่ยเสียงอ่อยเมื่อเห็นอีกคนไม่สนใจเขา แล้วเขาก็ลุกขึ้นไปปอกแอปเปิ้ลให้อีกคน แต่หารู้ไม่แสตมป์แอบยิ้มกับการกระทำนั้น เมื่อแสตมป์กินเค้กตรงหน้าเสร็จเขาก็เดินไปหาอีกคน

    “ทำอะไรอยู่ครับ นานจัง” แสตมป์เอียงตัวไปถามอีกคนที่ยืนปอกผลไม้อยู่

    “ปอกผลไม้ให้เรากินนั่นแหละ เสร็จพอดีเลย” ก้องฝืนยิ้มให้อีกคนที่ทำหน้าสงสัยอยู่

    “ว้าววว ~ น่ากินจังเลยครับ” แสตมป์มองไปที่แอปเปิ้ลแล้วอุทานออกมาสะเว่อร์และส่งยิ้มตาหยีไปให้อีกคน เขาเอื้อมมือไปหยิบแอปเปิ้ลมากัดชิ้นนึง ก่อนที่ก้องจะยกไปวางบนโต๊ะอาหาร

    “หวาน อร่อยจัง” คนที่เดินตามมาพร้อมกับเคี้ยวตุ้ยๆ จนแก้มพองทำให้คนมองยิ้มตามกับการกระทำนั้น น่ารักอย่างนี้ใครจะไปทำใจได้ละครับ ยิ่งได้ยินเสียงตอนที่แม่แสตมป์ถามแล้ว ผมนี่เกิดอาการหวั่นขึ้นมาเลยครับ ทั้งที่ตอนแรกคิดว่าถ้าได้เจอจะขอลูกชายเขาสะเลย แค่ได้ยินเสียงผมก็ป๊อดสะแล้ว ก้องนั่งอยู่ก็เผลอทำสีหน้ากังวลออกมาจนแสตมป์เห็น

    “หน้าพี่ดูกังวลนะครับ มีอะไรจะบอกผมหรือเปล่า” แสตมป์พูดพร้อมกับกัดแอปเปิ้ลไปอีกสองสามคำ ก้องส่ายหัวให้กับคนตรงหน้า ทำไมพี่ปากแข็งงี้ล่ะครับพี่ก้อง 

    “กังวลเรื่องพ่อแม่ผมอยู่หรอครับ” 

    ถามได้ถูกจุดมากๆ ครับแสตมป์ -_-

    “พี่จะกังวลทำไมครับ พ่อกับแม่ผมไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย”



    ย้อนไปตอนที่แสตมป์คุยโทรศัพท์

    “เอ่อ .. คือไม่มีอะไรหรอกครับ ผมก็แค่แหย่พี่ก้องเล่นน่ะครับ” 

    หลังจากที่ก้องออกไปจากห้อง เขาก็ไม่ได้ยินประโยคสนทนาหลังจากนั้น

    (แน่ใจนะว่าแค่แหย่กันเล่นน่ะ)

    “เอ่ออ .. มะ .. มั้งครับ”

    (แม่ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อยนะแสตมป์ 5555)

    “ครับๆ ห้ะ ! แม่ว่าอะไรนะครับ เมื่อกี้นี้”

    (แม่บอกว่า แม่ไม่ได้ว่าอะไรเราซักหน่อย)

    “อ๋อออ .. ครับ”

    (มีอะไรจะบอกแม่หรือเปล่า)

    “ไม่มีครับ”

    (แน่ใจนะ งั้นอาทิตย์หน้าพ่อกับแม่จะกลับไปแล้วนะ เดี๋ยวเราย้ายกลับมาบ้านเลยนะลูก)

    “เอ่ออ .. ครับ”

    (เราไม่มีอะไรจะบอกแม่จริงๆ นะ)

    แสตมป์เริ่มแปลกใจเมื่อได้ยินผู้เป็นแม่ถามคำถามซ้ำ เหมือนท่านต้องการได้ยินอะไร หรือจะเป็นเรื่องพี่ก้องนะ เราจะบอกท่านไปเลยดีไหม แต่ถ้าไม่บอกตอนนี้ยังไงก็ต้องมีซักวันท่านต้องรู้อยู่ดีแหละ บอกๆ ไปเหอะ

    “จะมีก็มีครับ”

    (......)

    “คือ ... แม่รู้จักพี่ก้องใช่ไหมครับ”

    (อ๋อออ รู้จักสิ ก็เมื่อกี้เขารับโทรศัพท์ลูกน่ะ และเขาก็เป็นเพื่อนกับพี่โจด้วยหนิจ้ะ)

    “ครับ .. คือผมกับพี่ก้องเรากำลัง ....... เอ่อ ..... กำลังคบกันอยู่น่ะครับ”

    (5555555)

    “แม่หัวเราะอะไรครับ แล้วแม่ไม่โกรธผมกับพี่ก้องหรอครับ”

    (แม่จะโกรธเรากับตาก้องทำไมล่ะ แม่รู้เรื่องนี้นานแล้ว พ่อก็รู้ด้วย พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ)

    “พ่อกับแม่รู้ได้ยังไงอ่ะครับ”

    (ก็ตาโจน่ะแหละที่เล่าให้ฟัง)

    “ไอพี่โจบ้า” แสตมป์บ่นออกมาเบาๆ แต่ปลายสายก็ยังได้ยิน

    (ไม่ต้องไปโกรธพี่เขาเลยนะ พ่อเขาสั่งให้ดูแลเราและรายงานการกระทำของเราว่าดื้ออะไรกับพี่เขาบ้าง แต่กลับไปได้แฟนมาสะนี่ ถ้าแม่ไม่โทรมาเราคิดที่จะเล่าให้ฟังบ้างไหม)

    “ขอโทษครับ .. คือทางนี้งานก็ยุ่งด้วย มีเรื่องให้ต้องคิดเยอะด้วย แหะๆ รักและคิดถึงพ่อกับแม่มากนะครับ มาถึงไทยเมื่อไหร่ขอกอดแน่นๆ ซักวันนึงนะครับบบบ ~”

    (ไม่ต้องมาอ้อนเลย ตอนนั้นที่มาอยู่นี่ตั้ง 4 ปีไม่เห็นจะเล่าอะไรให้ฟังเลย)

    “ก็ตอนนั้นมันยังคลุมเครืออยู่นี่ครับ”

    (อ่ะๆ แม่ไม่กวนแล้วจ้ะ เดี๋ยวพ่อกับแม่กลับไป เราก็พาลูกเขยแม่มาเที่ยวบ้านด้วยแล้วกันนะ)

    “ได้ครับแม่ รักนะครับ ฝากกอดพ่อแล้วบอกรักพ่อให้ด้วยนะครับ ~”

    (จ้า แม่ก็รักแสตมป์นะจ๊ะ)



    ย้อนกลับมาปัจจุบันทันด่วน ~

    “พี่จะกังวลทำไมครับ พ่อกับแม่ผมไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย”

    “ว่าไงนะครับ !!” ก้องถามซ้ำอีกครั้งเมื่อเขาได้ยินประโยคเมื่อกี้ เขาไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม ไม่ได้ว่าอะไรงั้นเหรอ แล้วเขารู้เรื่องเรากับแสตมป์หรอ แล้วถ้ารู้ รู้ตอนไหนเมื่อไหร่ ใครบอกล่ะ

    “ผมบอกว่า พ่อกับแม่ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย .......... ที่เราคบกัน” ประโยคหลังแสตมป์พูดเสียงเบาแต่ก็ทำให้อีกคนได้ยิน

    “จริงหรอครับ”

    “จริงสิครับ” 

    แล้วแสตมป์ก็เล่าบทสนทนาที่เขากับผู้เป็นแม่คุยกันก่อนหน้านี้ให้ก้องฟัง เมื่อก้องได้ยินก็ทำให้เขายิ้มออกมาได้

    “แล้วทำไมไม่รีบบอกพี่ล่ะ ให้พี่คิดมากอยู่ได้”

    “ก็อยากแกล้งก่อนอ่ะครับ สนุกดี” แสตมป์ทำหน้านิ่งไม่รู้สึกอะไร ทำให้คนที่เห็นเริ่มหมั่นไส้ เอื้อมมือไปดึงแก้มของแสตมป์อย่างแรง

    “โอ้ยยยย !! เจ็บ” แสตมป์ร้องออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบแก้มตัวเองป้อยๆ 

    “สม !!”

    “จำไว้เลยนะครับ !!!” แสตมป์กัดฟันพูดแล้วค้อนวงใหญ่ให้อีกคน

    ก้องจึงลุกขึ้นยืนแล้วมองไปที่แสตมป์อย่างมีเลศนัย จนทำให้แสตมป์รู้สึกกลัวกับสายตาแบบนั้นที่ส่งมา ก้องย่างก้าวเข้าไปหาแสตมป์อย่างช้าๆ

    “เหวอออ ~ เล่นอะไรของพี่เนี่ย” แสตมป์ลอยขึ้นมาจากเก้าอี้มาอยู่ในอ้อมแขนของก้องที่ตอนนี้อุ้มแสตมป์อยู่ในท่าเจ้าสาว ด้วยความที่แสตมป์ก็กลัวตกมือข้างนึงของเขาก็คล้องคอก้องไว้

    “ตาพี่เอาคืนบ้างแล้วไงครับ”

    “อะไร !! ไม่เกี่ยวกันเลยนะครับ ปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้เลยนะครับพี่ก้อง”

    “ไม่ครับ .. ป่ะ ~ เราไปซ้อมเข้าห้องหอกันก่อนดีกว่าเนอะ” ก้องพูดพร้อมกับอุ้มแสตมป์เดินมุ่งหน้าไปยังห้องนอน เมื่อแสตมป์ได้ยินดังนั้นเขามองไปยังจุดมุ่งหมายก็คือห้องนอนก็ร้องโวยวายออกมาทันที

    “เห้ย !! พี่ก้อง .. ไม่เอาาาา ผมไม่สบายอยู่นะครับ”

    “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่ดูแลเราเอง แบบถึงพริกถึงขิงเลย” ก้องทิ้งท้ายไว้แค่นั้นไม่ว่าแสตมป์จะขัดขืน ร้องโวยวายยังไง ก็ไม่สามารถต้านทานอารมณ์ที่ก้องมอบมาให้อยู่ดี
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    “เห็นก้องบอกแสตมป์ไม่สบายไปเยี่ยมแสตมป์กันหน่อยดีไหมโจ้”

    “ก็ดีนะครับพี่ ซื้ออะไรเข้าไปทำกินกันด้วยดีไหมครับ”

    “ดีๆ งั้นแวะซุปเปอร์มาร์เก็ตทางเข้าซอยคอนโดไอก้องเลยละกัน”

    “ครับผม” 

    เมื่อทั้งสองโจและโจ้เลือกซื้อของกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็มุ่งหน้าไปยังห้องของก้องทันที โจ้ทำหน้าที่ถือของเกือบทั้งหมด ที่มีโจช่วยถืออยู่นิดหน่อย โจอาสาเป็นคนกดออดหน้าห้องเอง ทั้งสองยืนรอไปซักครู่นึงก็ยังไร้วี่แววการเปิดประตู เอ๊ะ ! หรือจะไม่อยู่ โจเลยเอื้อมมือจะไปกดอีกรอบถ้าไม่อยู่ยังไงค่อยโทร แต่แสตมป์ไม่สบายจะไปไหนได้ล่ะ แต่ยังไม่ทันที่โจจะกดออดประตูก็เปิดออกมาพอดี ปรากฏร่างของก้องที่มีแค่ผ้าพันรอบเอวไว้แค่นั้น 

    “มาทำอะไรวะ”

    “มาเยี่ยมแสตมป์ เห็นแกบอกแสตมป์ไม่สบายก็เลยเป็นห่วง แล้วนี่แกอาบน้ำอยู่หรือไงวะ เลยมาเปิดช้าเนี่ย” โจพูดพร้อมกับเดินเบียดเข้าไปในห้องตามมาด้วยโจ้เพื่อไปวางของ

    “ดีขึ้นมากแล้วล่ะขานั้นอ่ะ ปวดหัวนิดหน่อยให้นอนพักก็หายเป็นปลิดทิ้งเลย เออดิ .. ก็อาบน้ำอยู่ไง” ก้องเริ่มพูดตะกุกตะกักจนเริ่มน่าสงสัย

    “อาบน้ำอะไรตัวไม่ยักกะเปียก” โจ้ที่เงียบอยู่นานก็พูดขึ้นบ้าง

    “เออ นั่นดิวะ” โจที่เริ่มสังเกตก็พูดขึ้นมาบ้าง ก้องเห็นทีจะแถต่อไปไม่ได้ ก็เล่นโวยวายออกมาแทน

    “แล้วซื้ออะไรมาเยอะแยะเนี่ย !!!!! อย่าบอกนะว่าจะมาค้างที่นี่อีกน่ะ !!!!”

    “ไม่แน่เว้ย อาจจะค้าง”

    “บ้านไม่มีอยู่หรือไงวะ !”

    “มีแต่ไม่อยากอยู่”

    ก้องกำลังจะเถียงต่อแต่ทุกคนก็ต้องชะงักเมื่อประตูห้องนอนกำลังเปิดออกมา ปรากฏร่างของแสตมป์ที่ไม่ต่างอะไรจากก้องเลย โอ้ยยยย ! ออกมาทำไมตอนนี้ ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนวะครับแสตมป์ 

    “มีเรื่องอะไรกันหรอครับ”

    “แสตมป์ .. เป็นยังไงบ้างครั ..” ยังไม่ทันที่โจจะพูดจบก้องก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน 

    “เหนียวตัวไม่ใช่หรอครับแสตมป์ ป่ะๆ ไปอาบน้ำก่อนนะครับ”ก้องก็เดินไปดันแสตมป์ให้เข้าห้องไปพร้อมกันกับเขาพร้อมกับกดล็อคประตูห้อง ก่อนที่ประตูจะได้ปิดลงโจและโจ้ก็ได้ยินเสียงแว่วๆ มาจากแสตมป์

    “แต่ ... แต่ผมอาบเสร็จแล้วนะครั ....”

    ปัง ! เสียงประตูปิดไปแล้วครับ -_-

    “อะไรของมันกันวะ” โจบ่นออกมาอย่างงงวยและหันไปสนใจของตรงหน้าเพื่อเตรียมที่จะทำมัน วันนี้เขาจะกินสุกี้กัน

    “เรามาขัดจังหวะอะไรสองคนนั้นหรือเปล่า” 

    โจคิดขึ้นมาได้เมื่อได้ยินประโยคที่แฟนของเขาพูดเมื่อกี้ เออวะ ! มีสิทธิ์ เล่นมีผ้าพันรอบเอวแค่คนละผืน แล้วเสื้อผ้าอาภรณ์ไปไหนหมด ไอก้องนี่มันร้ายจริงๆ !


    และในเวลาประมาณเกือบชั่วโมงโจกับโจ้ก็ช่วยกันจัดผักและเนื้อกันเป็นที่เรียบร้อยและเป็นจังหวะที่ทั้งสองคนที่เข้าห้องไปเมื่อกี้ออกมาพอดีและแต่งตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    “อาบน้ำเกือบชั่วโมง ตัวเปื่อยแล้วมั้งครับคุณเพื่อน” โจแขวะเพื่อนรักกกกทันทีที่เดินมานั่งเก้าอี้ตัวประจำพร้อมกับแสตมป์ที่นั่งลงข้างๆ ที่ก้มหน้างุดไม่กล้าเงยหน้าสบตากับใครเลย

    “เป็นไงบ้างครับแสตมป์ดีขึ้นยัง” โจหันไปถามแสตมป์ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

    “ดีขึ้นมากแล้วครับ”

    “สงสัยจะได้ยาดีมากนะครับพี่โจ” โจ้พูดขึ้นบ้างและส่งสายตาที่กวนๆ มาให้อีกด้วย แล้วมันก็เหมือนจี้ถูกจุดจึงทำให้แสตมป์เริ่มหน้าแดงขึ้นมา

    “น่าหาอะไรกระแทกปากหน่อยนะครับโจ้ รู้สึกช่วงนี้ปากจะหาเรื่องไปทั่ว” 

    “แกสองคนก็ชอบเถียงกันจริงๆ เลยว่ะ” โจบ่นออกมาบ้าง อะไรกันก็ไม่รู้เจอหน้ากันขอให้ได้เถียงกัน

    โจ้ไม่วายที่จะหยุดแกล้ง เขาเดินมากระซิบกับแสตมป์ให้ได้ยินแค่สองคน และคำพูดนั้นก็ทำให้แสตมป์คิดลึกและคิดไปถึง ‘กิจกรรม’ ก่อนหน้านี้ด้วย แสตมป์เริ่มหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้ง ทำไมพวกพี่ถึงหื่นกันอย่างนี้ครับ !!!!!

    “สงสัยเข็มฉีดยาเข็มนี้น่าจะได้ผลเนอะ”

    “ไอบ้าพี่โจ้ !!!!” แสตมป์ลุกขึ้นจากเก้าอี้และวิ่งไล่เตะอีกคนไปทั่วห้อง 

    “หยุดเล่นกันได้แล้วครับ มาๆ มากินได้แล้ว” โจเอ่ยเรียกทั้งสองเมื่อสิ่งที่อยู่ในหม้อตรงหน้าพร้อมที่จะกินได้แล้ว โจ้และแสตมป์ก็หยุดวิ่งกัน เดินมานั่งลงเก้าอี้ด้วยความหอบกันทั้งคู่

    “เล่นกันเป็นเด็กไปได้นะครับ” ก้องหันไปพูดกับแสตมป์และเช็ดเหงื่อให้

    “แหะๆ ขอบคุณครับ” แสตมป์ยิ้มแห้งๆ 

    “เห็นคุณท่านบอกจะกลับมาอาทิตย์หน้าแล้วนี่ครับ” โจเอ่ยขึ้นหลังจากที่นั่งลงที่เก้าอี้

    “ใช่ครับ”

    “แล้วแสตมป์จะกลับไปอยู่บ้านหรืออยู่กับไอก้องมันต่อล่ะ”

    “ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้เลยครับ” แสตมป์พูดแล้วหันไปมองหน้าก้องแล้วก็พูดต่อ

    “แต่พ่อกับแม่ให้ผมพาพี่ก้องไปเที่ยวบ้าน ว่าคงจะคุยกันตอนนั้นเลยแหละครับ อาจจะขอท่านมาอยู่กับพี่ก้องต่อ อย่าเพิ่งดราม่ากันสิ เอ้า !กินๆ” 

    และทั้งสี่ก็ลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้า คุยเล่นกันสัพเพเหระไปเรื่อยๆ และด้วยความที่โจ้หยิบเครื่องดื่ม
    แอลกอฮอลล์มาด้วย ตอนนี้ทั้งสามก็เริ่มรู้สึกมึนๆ กันบ้างแล้ว แต่มีคนนึงที่ไม่แตะต้องมันก็คือแสตมป์ ถ้าไม่เครียดจริงเขาจะไม่แตะต้องมัน เดี๋ยวเมาแล้วงอแงขายหน้าพวกนี้หมด และตอนนี้ดูเหมือนว่าพี่ก้องจะไม่ได้แค่มึนแล้วครับ เมาล้วนๆ เลย เห้ยยย ! อย่าเมากันหมดนะ ผมแบกไม่ไหวหรอกตั้งสามคน

    “ไม่ไหวแล้ววะ ฉันไปนอนก่อนนะเว้ยก้อง” โจที่ดูมีสติมากที่สุดในตอนนี้พูดขึ้นพร้อมกับลุกดึงโจ้ที่ตอนนี้แทบฟุบไปกับโต๊ะแล้วพยุงเข้าห้องนอนไป อ้าววว เห้ย ! แล้วจานชามตรงหน้าล่ะเห้ย ! หน้าที่ผมงั้นสินะ แสตมป์ก้มมองงานช้างตรงหน้าแล้วถอนหายใจแรง ครัวพี่คงไม่เละหรอกเชื่อผมสิ อย่างแรกแสตมป์ต้องพยุงอีกคนไปไว้ในห้องก่อน ตัวหนักใช่เล่นนะครับ แสตมป์ทุลักทุเลเป็นอย่างมากกว่าที่จะถึงเตียงก็เล่นเอาหอบไปหลายยกเหมือนกัน หลังจากวางก้องลงแสตมป์ก็เดินออกมาจัดการกับของบนโต๊ะ

    “ดีครับดี เมากันหมด เหลืองานไว้ให้อีก” แสตมป์เก็บไปก็บ่นไปด้วย



    และเป็นอย่างที่คิดไว้ ครัวไม่เละครับ ครั้งนี้ครัวไม่เละ ! ผมเป็นแม่ศรีเรือนได้แล้วนะครับ ภูมิใจกับผมหน่อย 

    “อื้มมม ~”

    เมื่อแสตมป์เดินเข้ามายังห้องนอนก็ได้ยินเสียงครางในลำคอจากคนที่นอนอยู่บนเตียง พอมองไปเท่านั้นแหละ อ้าววว เห้ยยย ! ถอดเสื้อทำไมครับเนี่ย แล้วถีบผ้าห่มออกอีก แสตมป์เดินเข้าไปดึงผ้าห่มมาห่มให้อีกคน แต่อีกคนก็ปัดมันออก

    “โอ๊ะ !! ไม่ห่มก็ไม่ต้องห่ม” แสตมป์พูดจบก็เดินไปปิดไฟแล้วก็ปีนขึ้นเตียงไปนอนตรงที่ของเขา แต่เขาก็ต้องหันไปมองหน้าอีกคน แล้วลุกขึ้นหายเข้าไปในห้องน้ำออกมาพร้อมกับอ่างใบเล็กกับผ้าหนึ่งผืน เขาจึงเดินไปเปิดไฟให้มันรู้สึกสว่างขึ้น ดีครับดี ตอนเช้าดูแลผม ส่วนตอนกลางคืนผมดูแลพี่ วันหลังพ่อจะไม่ให้แตะอีกเลย ถ้าดื่มแล้วเมาไม่รู้เรื่องขนาดนี้ แสตมป์บิดผ้าแล้วเช็ดตัวให้อีกคนและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ตอนนี้อีกคนก็ยอมห่มผ้าแล้วด้วย เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันนะครับ แสตมป์เลยตัดสินใจอาบน้ำมันอีกซักรอบเลยละกัน

    “สบายตัวจังเลย” แสตมป์ออกมาจากห้องน้ำด้วยความสดชื่นเขาเดินไปปิดไฟอีกครั้งและมุ่งไปที่เตียงอย่างรวดเร็ว แสตมป์หันไปมองหน้าคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ข้างๆ แล้วเอื้อมมือไปดึงจมูกของอีกคนอย่างน่าหมั่นไส้

    “ฝันดีนะครับไอ้แฟนขี้หื่น”





































    เอาไปเลยยาวแล้วมั้ง 55555 ว่าจะจบเรื่องนี้แล้วแหละ แต่ให้คนอ่านฟินกันไปก่อนแล้วกันเนอะ เค้าเรียกว่ายืดเยื้อไหมวะ ห้ะ !! 5555555 ยังคิดอยู่เลยว่าจะจบแบบไหนดีน้าาาาา ~ ว่างหน่อยๆ เลยมาอัพให้นะเนี้ยยยย ถ้าจะจบแล้วจะบอกล่วงหน้า 555555 อ่านกันให้สนุกนะ ย้ำ *อ่านกันให้สนุก ถ้าไม่สนุกก็ต้องสนุก 55555555 อย่าลืมเม้นให้กำลังใจเราด้วยนะ :-)





















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×