ลำดับตอนที่ #19
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : คนสุดท้าย
ก้องรู้สึกตัวขึ้นมาเมื่อมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแสตมป์ขยุกขยิกอยู่ในอ้อมกอด เขาลืมตาขึ้นมาเห็นอาตี๋น้อยนอนจ้องหน้าเขาอยู่ด้วยสายตาที่บ๊องแบ๊ว
“แสตมป์ .. พี่ยังง่วงอยู่เลย รีบตื่นทำไมครับ” ก้องพูดพร้อมกับหลับตาลงอีกครั้ง
“ก็ผมหิว”
“อะไรกันมาหิวอะไรแต่เช้าครับ รอคืนนี้แล้วกันเนอะ เดี๋ยวพี่จัดให้เต็มที่เลยครับ แต่ตอนนี้พี่ยังง่วงอยู่เลย”
คำที่ก้องพูดมาเมื่อกี้ก็ทำให้อีกคนหน้าแดงอยู่ไม่น้อย แสตมป์เอื้อมมือไปหยิกแขนก้องเบาๆ แต่ก็ทำให้อีกคนรู้สึกเจ็บเหมือนกัน
“โอ้ยยยย !! หยิกพี่ทำไมเนี่ย”
“ก็ใครใช้ให้พี่หื่นแต่เช้าล่ะ ไอพี่ก้องบ้า”แสตมป์พูดจบก็ดันอีกคนออกจากตัวทันที แต่ด้วยความที่ก้องกอดเขาแน่นเขาจึงลุกขึ้นไม่ได้
“ปล่อยผมมม”
“ขอนอนกอดอีกหน่อยไม่ได้หรอครับ”
“ไม่ !! ผมหิว ผมจะไปอาบน้ำออกไปกินข้าวคนเดียว ย้ำนะครับ !! ว่าคนเดียว”
“อ้าววว .. แล้วพี่ล่ะครับ”
“ไม่รู้สิครับ ก็เรื่องของพี่”
แสตมป์ใช้จังหวะที่อีกคนเผลอดันตัวเองออกมาจากตรงนั้น เขารีบวิ่งเข้าห้องน้ำจัดการกับธุระส่วนตัวทันที
ปัง ๆๆๆ !!!
“ครับบบบบบ !!”
โจที่สะดุ้งกับเสียงเคาะประตูอย่างกับจะพังเข้ามาให้ได้ลุกขึ้นอย่างงัวเงียเดินไปเปิดประตู เมื่อเขาเปิดแล้วเจอหน้าเพื่อนซี้อย่างก้องก็ทำให้บ่นออกมา
“อะไรของแกวะ ประตูมันเกะกะหรือไง ถามจริงเมื่อกี้เคาะหรือจะทำสงครามกันแน่วะ”
ก้องไม่สนใจต่อล้อต่อเถียงกับโจเลยซักนิดเขาเดินเบียดเข้าไปในห้องนอน(อีกห้องของเขา)ของโจที่มีโจ้นอนอยู่บนเตียงอย่างไม่รู้เรื่องอะไร เออ !! ดีครับ ถ้าไฟไหม้ นายคงไม่รอด เสียงเคาะประตูอย่างกับสงคราม นั่นนอนหรือซ้อมตายกันแน่ครับ ก้องจึงรีบเดินไปที่ห้องน้ำทันที แต่รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้สองคนนี้จะมาค้างที่ห้องบ่อยนะ เปลืองค่าน้ำค่าไฟข้าไหมวะ ห้ะ !!! ย้ายมาอยู่ด้วยกันเลยไหมครับเพื่อนรักกกกกก ~
“ขอใช้ห้องน้ำหน่อยแล้วกัน รีบเว้ย” ห้องตัวเองยังต้องขออ่ะดูดิ
ตอนนี้ก้องก็นั่งอยู่ที่ร้านอาหารกับแสตมป์สองคน ที่อีกคนทำหน้าบูดบึ้งอยู่ด้วยความที่ไม่สบอารมณ์ที่ก้องตามออกมาด้วย
“พี่ตามผมออกมาทำไมเนี่ย”
“พี่ก็หิวเหมือนกันนะ”
“ไหนบอกง่วง ไม่นอนต่อล่ะ” แสตมป์ยังคงสีหน้าที่บูดบึ้งไว้เช่นเคย ทีตอนนั้นบอกง่วง เชอะะะ ! งอนนน ..
“อะไรกันโกรธหรอครับ”แสตมป์ไม่ตอบอะไรเงียบแล้วแกล้งมองไปทางอื่นโดยไม่สนใจคนตรงหน้าเลยซักนิด
“โกรธจริงๆ ด้วยสินะ สงสัยต้องง้อหน่อยแล้วมั้ง” ก้องพูดพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปหาอีกคน แสตมป์เริ่มรู้ทันอีกคนจึงรีบยกมือขึ้นมาดันหน้าก้องให้กลับไปที่เดิม และเป็นจังหวะที่พนักงานยกอาหารมาเสิร์ฟพอดีจึงทำให้ทั้งสองหันไปสนใจพนักงานและของตรงหน้ามากกว่า ไม่มีการพูดคุยอะไรกันอีกระหว่างการกินข้าว ถึงก้องจะพยายามตักนู้นตักนี้ให้อีกคน แต่อีกคนก็ไม่ได้จะสนใจเขาเลย พอก้องชวนคุยก็เงียบใส่ หาเรื่องทะเลาะกันป่ะเนี่ย ทำถึงขนาดนี้ยังไม่สนใจอีก เด็กน้อยเอ้ยยย !
.
.
.
.
.
“ติดประชุมอยู่ครับ” โจ้พูดกับอีกคนที่ตอนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของตัวเอง
“เสร็จกี่โมง”
“ประมาณ 4 โมงอ่ะพี่”
“อุส่าห์รีบประชุมที่ร้านให้เสร็จเร็วๆ เพื่อที่จะมาหา ติดประชุมสะงั้น”ก้องพูดพร้อมกับเดินไปนั่งโซฟาแถวๆ นั้นเพื่อรออีกคนที่ไม่ไกลจากโต๊ะของโจ้เท่าไหร่
“ครึ่งชั่วโมงเอง รอไปเหอะ 4 ปียังรอมาแล้วเลย” โจ้เอ่ยแซวนิดหน่อยที่เห็นสีหน้าอีกคน
“อยากโดนทิชชู่ยัดใส่ปากอีกไหมล่ะ”
“หงุดหงิดอะไรมาครับบบบบ ~ ทะเลาะกันหรือไง” โจ้ก็ยังไม่วายที่จะแซว
“นิดหน่อย ไม่รู้แสตมป์เป็นอะไร อยู่ดีๆ ก็ไม่ยอมพูดด้วย”
“สงสัยติดใจหนุ่มอื่นไปแล้วมั้งงงง ~”
“เห้ยย !! เดี๋ยวขาคู่ให้” ก้องค้อนไปให้โจ้วงใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคนั้น เรื่องสร้างความร้าวฉานเนี่ยย ไว้ใจมันได้เลยครับ
และระหว่างที่ก้องกำลังนั่งรออีกคนอยู่เสียงโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นมา เมื่อเขาเห็นชื่อที่ปรากฎบนหน้าจอเขาก็รีบกดรับทันที
“ครับแม่”
(ก้องตอนนี้ลูกอยู่ไหนจ้ะ)
“ผมอยู่ที่ทำงานแสตมป์ครับ แม่มีอะไรหรือเปล่าครับ”
(อยู่กับแสตมป์หรอลูก พอดีเลยแม่โทรมาก็เรื่องนี้และจ้ะ)
“อะไรหรอครับแม่”
(พ่อกับแม่อยากเจอหนูแสตมป์อ่ะจ้ะ ว่างๆ ชวนเขามาทานข้าวที่บ้านหน่อยนะก้อง)
“อ๋อ .. ได้ครับๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้พาเข้าไปเลยแล้วกันนะครับ พอดีแสตมป์หยุดด้วยครับ”
(ดีเลยจ้ะ เดี๋ยวแม่ทำอาหารไว้รอแล้วกันนะ)
“งั้นเดี๋ยวผมเข้าไปเที่ยงๆ นะครับ”
เมื่อก้องวางสายจากผู้เป็นแม่ แสตมป์ก็กำลังเดินมาทางนี้พอดีกับผู้หญิงสาวสวยสองคนที่ประกบข้างมาด้วย ทำให้ก้องรู้สึกหงุดหงิดทันทีเมื่อเห็นอย่างนั้น ยิ้มให้กันอีกต่างหาก
“โอ้ยยย ! คิ้วจะมัดกันเป็นปมอยู่แล้วครับพี่ก้อง”
โจ้ที่เห็นสีหน้าก้องก็อดขำไม่ได้ แต่ก็นะยัยสองคนนั้นก็ใช่ย่อยที่ไหนล่ะ เห็นชอบแวะเวียนมาหาเขาอยู่เรื่อย ไม่ใช่มาติดต่อเรื่องอะไรหรอกนะ มาติดต่อเรื่องแสตมป์นี่แหละ คนนึงก็หลงเสน่ห์แสตมป์ ส่วนอีกคนเห็นพี่ก้องมาแวะเวียนบ่อยๆ ก็เล่นหลงเสน่ห์ความหล่อเข้าให้ รู้งี้ตอนนั้นตอบว่าสองคนนั้นเป็นแฟนกันก็ดี แต่ก็ช่างมันเหอะ ตอบว่าเป็นพี่น้องกันไปแล้วนี่หว่า 5555555 ขนาดตอบว่าเป็นพี่น้องกันยังจะสงสัยเรื่องแหวนอีก ผมนี่ไม่รู้จะตอบว่าอะไรเลยครับ เลยตอบไปว่าใส่เป็นเคล็ดกันทั้งคู่ ขอร้องล่ะครับทั้งสอง เปิดเผยตัวในที่นี้ซักทีเถอะ คนลำบากคือผมนะครับ
แสตมป์เมื่อเห็นก้องที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็ทำหน้าบึ้งทันที จึงทำให้สองสาวที่เดินมาด้วยงงไปตามๆ กัน แต่สาวอีกคนที่เห็นก้องก็ตาลุกวาวจะเดินมาทักทายแต่ก็ต้องหน้าเสียเมื่อก้องเดินมาประชันหน้ากับแสตมป์ ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยโดยไม่มองสองสาวสวยเลย แสตมป์เดินต่อไปอย่างไม่สนใจก้อง ก้องจึงเอื้อมมือไปคว้าแขนแสตมป์ไว้
“ปล่อยผม”
“ไม่ !! เราเป็นอะไรของเราเนี่ย”
“ไม่ได้เป็นอะไร” แสตมป์ตอบด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยอยู่ดี เขาพยายามแกะมือของอีกคนออกจากแขนของตัวเอง
“ถ้าไม่ได้เป็นอะไร ทำไมไม่คุยกับพี่”
แสตมป์ไม่ตอบอะไร สองสาวที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็หันมามองหน้ากันอย่างสงสัย แต่พยายามขอให้ไม่เป็นอย่างที่ตัวเองคิด
“ก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไร ปล่อยผม” แสตมป์พยายามสะบัดแขนออกจากมือของอีกคน
“ไอคำว่า ‘ปล่อยผม’ เนี่ย ขอซื้อต่อได้มะ”
“ไม่ขายเว้ย !”
ก้องไม่พูดอะไรต่อ เขาเปลี่ยนจากจับแขนไปจับมือแล้วดึงให้แสตมป์เดินตามเขาไปเพื่อไปเคลียร์กันสองคนในห้องทำงานของแสตมป์ ตอนที่เขาดึงมือแสตมป์ให้เดินตามไปก็มีเสียงซุบซิบจากสองสาวที่ยืนงงกับเหตุการณ์เมื่อกี้อยู่ เมื่อทั้งสองเข้ามาในห้องก็ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมา ก้องพยายามสงบสติอารมณ์ และก็เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน
“ไหน .. เป็นอะไรครับ” ก้องพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมากกับอีกคน จนทำให้แสตมป์ยอมอ่อนลงไปบ้าง
“งอน !”
“งอนอะไร หื้มม” ก้องพูดพร้อมกับยกมือลูบหัวอีกคนอย่างอ่อนโยน
“ไม่รู้ ! แต่รู้ว่างอน”
“เอ้า ! อะไรของเรา”
แสตมป์ไม่พูดอะไรต่อเขาเบ้หน้าเหมือนกับกำลังจะร้องไห้ ก้องเมื่อเห็นอย่างนั้นรีบคว้าตัวอีกคนเข้ามากอดทันที แล้วลูบหัวเบาๆ เพื่อปลอบ
“เด็กน้อย ~ ไม่ร้องไห้นะครับ พี่ไม่ได้ว่าอะไรเราซักหน่อย จะเป็นถึงผู้บริหารอยู่แล้ว จะมาขี้แยได้ยังไงกันครับ”
แสตมป์ไม่พูดอะไรเอาแต่ซบไปที่อกของอีกคน อกที่ทำให้เขารู้สึกอบอุ่น ปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้และสัมผัสมัน
ก้องดันอีกคนออกแล้วจับไหล่ทั้งสองข้างของแสตมป์ไว้ เขามองไปที่หน้าของแสตมป์
“แล้วก็ ..... ห้ามทำแบบเมื่อกี้อีกนะครับ ที่เดินมากับผู้หญิงสองคนนั้นน่ะ ทำตัวสนิทสนมแบบนั้นอีก พี่หึงเรารู้ไหมครับ”
แสตมป์อึ้งพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้ยินประโยคนั้น
“เข้าใจไหมครับแสตมป์” ก้องถามซ้ำอีกครั้งเมื่อเห็นว่าแสตมป์ไม่ยอมพูดอะไร
“คะ .. ครับ”
“ดีมาก” ก้องพูดพร้อมกับยื่นหน้าไปจุ๊บปากแสตมป์อย่างรวดเร็ว
“อะ .. อะ .. ไอพี่ก้องบ้า” แสตมป์เขินจนยกมือขึ้นมาตีแขนก้องไปหลายที ก้องก็พยายามจับมือของอีกคนไว้ที่ตอนนี้สะเปะสะปะอยู่ตรงหน้าเขา
“นี่ .. แล้วพรุ่งนี้อ่ะ ไปบ้านพี่ด้วยนะ พ่อกับแม่เขาอยากเจอเรา”
“ห๊าาาาาา”
“ตะโกนทำไมเนี่ย อยู่กันแค่นี้”
“ก็ผมตกใจนี่หน่า”
“กลัวหรอ”
แสตมป์ไม่ตอบอีกคนและก้มหน้าหนีสายตาของอีกคนด้วย ก้องเมื่อเห็นอย่างนั้นจึงจับมือของอีกคนไว้แล้วก็ลูบแหวน
“ไม่ต้องกลัวหรอกนะ พี่อยู่ข้างๆ เราเสมอแหละ”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ไม่มีอะไรน่ากลัวจริงๆ ด้วยครับ และพี่ก้องก็อยู่ข้างผมจริงๆ ไม่ใช่แค่พี่ก้องนะครับพ่อกับแม่พี่เขาก็ด้วยอยู่ข้างผมมากกว่าพี่ก้องอีก ผมอยู่ที่นี่ตั้งแต่เที่ยงจนกินข้าวอิ่มมาก และย่อยไปหลายรอบแล้วด้วยจนเริ่มหิวอีกรอบสะแล้ว และตอนนี้ไม่รู้ว่าพี่ก้องงอนตุ๊บป่องไปไหนสะแล้ว
“ปกติไม่ขี้งอนอย่างนี้นี่หน่า ตาก้องน่ะ” ผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นลูกชายทำท่างอนหนูแสตมป์แล้วเดินไปไหนก็ไม่รู้
“แหะๆ” แสตมป์ไม่ตอบอะไรมากขำแห้งๆ ไปให้เท่านั้น จะบอกว่าเป็นปกติครับเวลาอยู่กับผมมันก็จะเข้าข้างตัวเองเกินไปไหม แล้วลูกพ่อกับแม่บางทีก็ชอบทำตัวเหมือนเด็กมากนะครับ
“งั้นผมขอตัวไปดูพี่เขาก่อนนะครับ”
“เรียกพี่เขามากินข้าวเย็นด้วยนะจ๊ะ”
“พ่อว่ามันน่าจะเดินอยู่รอบๆ บ้าน ตรงที่ประจำของมันแหละ” ผู้เป็นพ่อเอียงตัวมากระซิบกับแสตมป์เพื่อบอกสถานที่ที่อีกคนชอบไปอยู่
เมื่อแสตมป์เดินมาตามที่พ่อของก้องบอกก็เจออีกคนนั่งอยู่จริงๆ สะด้วย แล้วอีกคนนั่งหันหลังอยู่เขาจึงย่องเข้าไปอย่างเบาที่สุด
“จ๊ะเอ๋ !” แสตมป์จับไหล่ทั้งสองข้างของอีกคนแล้วยื่นหน้าไปข้างๆ
“เห้ยยยย !!! เล่นอะไรครับเนี่ย พี่ตกใจหมดเลย” และเป็นจังหวะที่ก้องก็หันไปหาอีกคนทำให้จมูกของแสตมป์เฉียดกับแก้มของก้องพอดี แสตมป์รีบถอยหน้ากลับทันที
“พะ .. พี่มา .. นั่งทำอะไรตรงนี้ครับ”
“ก็เห็นใครบางคนกำลังคุยสนุกไม่อยากรบกวน ใช่สิ ! พี่มันหมาหัวเน่าแล้วล่ะสิ”
“ไม่เอานะ ไม่งอนนะครับ เข้าไปในบ้านกันดีกว่า นี่ก็จะเย็นแล้วด้วย ผมหิวอีกแล้ว”
“อะไร .. เพิ่งกินไปเองนะ หิวอีกแล้วหรอครับ แน่ใจนะครับว่ากินน่ะ”
“ผมเด็กวัยกำลังโตนะครับ”
“ได้ข่าวว่าเกินจุดๆ นั้นมานานมากแล้วนะครับ”
“ไปเถอะนะครับ ไปกินข้าวเย็นกัน”
“แน่ใจนะครับ ว่าหิวข้าว ไม่ได้หิวอย่างอื่นน่ะ” ก้องพูดพร้อมกับส่งสายตามีเลศนัยไปให้ และอีกคนก็เลยส่งมาให้หนึ่งป้าบใหญ่ๆ
“อย่ามาทะลึ่งนะครับ เร็วๆ ไปกินข้าวเย็นกัน”
“ก็ได้ครับ เอ้อออ ! พี่โทรไปชวนโจกับโจ้มากินข้าวเย็นด้วยกัน ตอนนี้ก็น่าใกล้จะถึงแล้วแหละ”
“จริงหรอครับ” แสตมป์ถามด้วยความตื่นเต้น
“แหมมมม ! รู้สึกจะดีใจเป็นพิเศษนะครับ”
“ก็ต้องดีใจสิครับ พี่ก้องนี่รู้ใจผมไปหมดเล้ยยย” แสตมป์กระโดดกอดและหอมแก้มอีกคนอย่างดีใจ
“พี่ต้องรู้ใจเราสิครับ เราเป็นแฟนพี่นะ”
“ผมรักพี่ก้องจังครับ” แสตมป์ยื่นหน้าไปหอมแก้มก้องอีกครั้ง
“อะไรกัน บอกรักพี่ต้องอย่างนี้สิครับ” ก้องยื่นหน้าไปหาแสตมป์แล้วจูบไปที่ปากของแสตมป์อย่างแผ่วเบา เมื่อเขาถอนจูบก็เห็นสีหน้าของอีกคนแดงเป็นลูกตำลึง
“บ้า !”
“5555 พี่รักแสตมป์นะครับ แสตมป์เป็นเหมือนชีวิตและหัวใจของพี่เลยนะครับ”
“แหวะ !”
“เลี่ยนจนจะอ้วกว่าไหมครับพี่โจ”
“นั่นสิครับ หวานจนมดขึ้นแล้วมั้งเนี่ย”
“พี่โจ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” แสตมป์ถามด้วยความดีใจ เมื่อเห็นทั้งสอง
“มานานพอที่จะเห็นอะไรเลี่ยนๆ นั่นแหละไอแตม”
“หาอะไรยัดปากหน่อยไหมโจ้” ก้องถามด้วยน้ำเสียงโทนต่ำที่ทำให้คนฟังต้องถึงกับผวากันเลยทีเดียว
“คุณลุงให้มาตามไปทานข้าวเย็น เร็วๆ ด้วย ค่อยไปหวานกันที่ห้องต่อแล้วกัน” โจพูดขึ้นพร้อมกับจับมือโจ้เดินเข้าไปในตัวบ้าน
“เบื่อไอสองคนนี้เว้ยยยยย !! ชอบมาขัดจังหวะอยู่เรื่อย”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น