คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : LOVE OR OFFENDED 1
LOVE OR OFFENDED 1
“นายเรียกผมทำไมครับ”หนุ่มร่างสูงใหญ่(ไม่มากนัก)เดินเข้ามาในห้องทำงานที่ดูหม่นๆของเจ้านาย
“ตามหาคนๆนี้แล้วพามาให้ฉันทีสิ อย่าให้เป็นรอยเด็ดขาด”เสียงทุ้มต่ำ แสนเยือกเย็นส่งมาให้อีกคน “อ่อ..แล้วถ้าภายใน 2 วันนี้นายยังพาตัวคนนี้มาให้ฉันไม่ได้ คงรู้ใช่ไหมบทลงโทษนั้นคืออะไร ฮันคยอง”
“ครับคุณคิบอม ผมจะตามหามาให้โดยไม่มีรอยขีดข่วนเลยครับ”ฮันคยองรับคำสั่งเจ้านาย
“นายสัญญามาแล้วนะ”คิบอมยิ้มอย่างเลือดเย็น
เขาไม่เคยอยากเก็บใครไว้กับตัวเองเลย มีแค่คนหน้าหวานในรูปนี้แหละที่เขาต้องการ ต้งการให้เป็นของเขาเพียงคนเดียว ไม่ใช่ต้องการฆ่าเหมือนคนอื่นๆ
“อ่า~ฮยอกแจ นายไปเอาอันใหม่มาสิ”เสียงหวานร้องเมื่อโดนแย่งเค้กสตอเบอร์รี่
“ทงเฮ นายนั่นแหละที่ต้องไปเอามาใหม่”ฮยอกแจหรืออึนฮยอกไม่ได้สะทกสะท้านคำพูดที่เหมือนจะดุๆ
“นี่ พวกนายก็เป็นเพื่อนกันแบ่งกันกินไม่ได้หรือไง นายรู้ไหมเสียงของพวกนายทำลูกค้าแนกินไม่ลงนะ”เสียงของคนสวยเจ้าของร้านเค้กที่แสบสองคนนี้ไปกิน
“โธ่ พี่ฮีชอลพวกผมอุตส่าห์มานั่งเรียกลูกค้าให้ทั้งวันแล้วนะ”ฮยอกแจร้อง
“ฉันว่าแกกำลังไล่ลูกค้าให้ฉันมากกว่า”ฮีชอลเชิดหน้าใส่
“เหอะๆ ทำเป็นหยิ่งทีเป็นไอ้สิงโตบ้านั่น ร้องครวญครางแทบเป็นแทบตาย”ฮยอกแจล้อเลียนฮีชอล
“ทงเฮแกเตรียมหาเพื่อนใหม่ได้เลย วันนี้ให้ฮยอกมันต้องตาย”คนสวยว่าจบก็วิ่งไล่ร่างผอมบางของคนครึ่งไก่ครึ่งลิงทันที
“ฮ่าๆๆๆๆ”ทงเฮที่เห็นภาพนางพญาวิ่งไล่ไก่ก็หัวเราะร่าออกมาอย่างไม่คิดจะกลั้นเอาไว้
กริ๊งงงง~กริ๊งงงงง
เสียงกระดิ่งหน้าประตูพาเอาทงเฮย้ายตัวจากหลังร้านมาต้อนรับลูกค้าใหม่ แทนเจ้าของและเพื่อนรักที่ไล่(ฆ่า)กันอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ร้านBERRY CAKE ยินดีต้อนรับครับไม่ทราบว่าคุณมากี่ท่านครับ”ทงเฮพูดเสียงหงอๆเมื่อเห็นว่าคนข้างหน้าน่าเกรงขามขนาดไหน
“2”สั้นๆแต่กระตุกหัวใจร่างเล็กให้ไปอยู่ที่ตาตุ่ม คนตัวเล็กเดินนำร่างสูงไปที่ๆเหมาะกับเขา คือชั้นบนของร้านที่คนไม่ค่อยเยอะนัก
“รอสักครู่นะครับเดี๋ยวผมไปเอาเมนูมาให้”ทงเฮกำลังจะหมุนตัวแต่โดนจับข้อมือเอาไว้ เลยหันมาจะเอาเรื่องอีกคน แต่เขาก้ปล่อยมือไปก่อน
“ไม่ต้อง รออีกคนก่อน”แค่นั้นทงเฮก็พยักหน้าเดินลงมาชั้นล่าง นึกว่าไอ้เพื่อนที่คนเมื่อกี้พูดนั้น จะน่ากลัวกว่ากันมากหรือเปล่า
“ฮัลโหลครับคุณคิบอม...ผมเจอเขาแล้วนะครับ...อีทงเฮไงครับ...ร้านเบอร์รี่เค้กครับ...ครับ”
กริ๊งงงง~กริ๊งงงง
“ขอโทษครับผมนัดเพื่อนเอาไว้”ผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งตรงเข้ามาหาร่างบางที่ก้มหน้าก้มตาจัดเคาท์เตอร์เอาไว้ แล้วก็พรายยิ้มออกมาเมื่อเจอคนที่ต้องการ
“อยู่ชั้นครับ รอสักครู่นะครับเดี๋ยวผมเอาเมนูขึ้นไปให้นะครับ”ทงเฮผายมือไปที่บันไดทางขึ้นชั้นบน แล้วมือก็ไขว่คว้าหาเมนูที่ไม่ร็ว่าสองคนนั้นเอาไปไว้ที่ไหน
“พี่อีทึกครับ พี่เห็นเมนูสีเหลืองหรือเปล่าครับ”ทงเฮถามเด็กในร้านอย่างอีทึกที่เดินผ่านเคาท์เตอร์
“อยู่บนชั้นวางของข้างบนหน่ะ ขึ้นไปเอาสิ”อีทึกบอกอย่างเร่งรีบแล้วเอาเค้กไปเสิร์ฟให้โต๊ะในสุด
“อึ้บๆอึ้บ..โอ้ย ทำไมไม่ถึงสักทีวะ”ทงเฮที่เขย่งเท้าสุดความสามารถเพื่อจะหยิบเมนูอาหารที่อยู่ชั้นบนสุดของชั้นวางแต่ก็ไม่ถึงสักที
“นี่ครับ”ชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งเดินเข้ามาหยิบให้ทงเฮที่ความสามารถไม่ถึงหือตัวเตี้ยนั่นเอง
“ขอบคุณครับแล้วคุณเข้ามาได้ไง อื้มOoO”ทงเฮที่หันไปหาอีกคนก็โดนโปะยาสลบก่อนจะหมดสติในเวลาไม่กี่วินาที
“อื้ม....”ร่างบางค่อยลืมตามาพร้อมกับความมึนหัว แล้วก็พบว่าตัวเองอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย
“ตื่นแล้วเหรอ”เสียงอ่อนโยนถูกส่งมาทำเอาร่างบางกระตุกไปทั้งร่าง
“ผมมาอยู่นี่ได้ไงฮะ”ทงเฮที่มึนๆถาม
“ฉันพาเธอมาเองแหละ”คิบอมยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อคนที่ต้องการมาอยู่ในกำมือของเขาแล้ว
“คุณพาผมมาทำไมฮะ”ทงเฮค่อยดันตัวขึ้นพิงเตียงหลังใหญ่อย่างยากลำบาก แล้วอีกคนก็ไม่ยอมช่วยเขาด้วย
“ต่อไปนี้นายต้องอยู่ที่นี่ เรียกฉันแค่คิบอมก็พอ ทงเฮน้อย”คิบอมเอ่ยเสียงอ่อนโยนที่ไม่ค่อยมีใครได้ยินมากนัก แล้ววางเสื้อผ้าไว้ข้างๆเตียง
“O_O”ทงเฮงงที่อยู่ๆก็มานอนในห้องนี้ แถมมีผู้ชายอีกคนอยู่ด้วยอีกต่างหาก ถ้าไม่ติดที่เขาเป็นชายล่ะก็เขาต้องนึกว่าตัวเองโดนข่มขืนแน่ๆ
“อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ ฉันจะพาเธอลงไปกินข้าว”คิบอมสั่งแล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งร่างบางให้งง
“คนอะไรเนี่ย เย็นชาชะมัดเลย”ทงเฮว่าคนที่ไปแล้วและหยิบเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำไป
ซ่า~ซ่า~ ซ่า~ ซ่า~
“ฮ้า...สบายตัวชะมัดเลย”ทงเฮที่ได้อาบน้ำอุ่นๆกลับมานอนที่เตียงนอนเหมือนเดิมแล้วเผลอหลับไป
“นอนอืดอยู่นี่เอง”คิบอมที่เห็นว่าร่างบางไม่ยอมลงไปซักที ขึ้นมาตามเห็นทงเฮนอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงก็อดที่จะยิ้มไม่ได้
“นี่ๆ ลงไปกินข้าว”คิบอมเขย่าร่าวเล็กเบาๆเพื่อให้ตื่น
“งืมๆ อย่าสิ ฉันกำลังจะได้กินลูกอมอยู่แล้วเชียว”ทงเฮที่นอนง่ายตื่นง่ายงัวเงียขึ้นมาต่อว่าคิบอมที่ทำให้เขาพรากลูกอมที่แสนอร่อย
“ไปกินข้าวก่อน เดี๋ยวฉันพาไปซื้อลูกอม”คิบอมบอก ทงเฮเดินขยี้ตาลงมาที่ห้องอาหารพร้อมคิบอม
“พี่คิบอมค่ะนั่นใครเหรอค่ะ”ยุนอาสาวน้อยน่ารัก แต่นิสัยไม่ได้น่ารักเหมือนตัว เพราะเธอต้องการจะงับคิบอมให้มาช่วยในเรื่องหนี้สินของครอบครัวเธอ
“...”คิบอมสะบัดมือยุนอาออกแล้วเปลี่ยนมาจับมือทงเฮพาไปที่โต๊ะอาหาร แล้วให้ทงเฮนั่งข้างๆเขา ยุนอาที่ยังไม่ได้เป็นแฟนกับคิบอมไม่มีสิทธิ์เถียงจึงเดินไปกระแทกตัวนั่งตรงข้ามคิบอมแทน
“คิบอม เขาเป็นใครเหรอ”ทงเฮถามเบาๆกลัวเป็นการเสียมารยาทบนโต๊ะอาหาร
“บ้านเธอไม่เคยสั่งสอนหรือไง ว่าไม่ให้พูดบนโต๊ะอาหาร”ยุนอาสบโอกาสว่าทงเฮและนี่คืนนิสัยที่ทำให้คนตระกูลคิมรวมไปถึงคนใช้ภายในบ้านไม่ชอบยุนอา..ที่ชอบพูดจาว่าร้ายคนอื่น...ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีไปกว่านั้นเลย
“แต่เมื่อกี้คุณก็พูดนี่นา”ทงเฮตอกกลับไปเล่นเอายุนอาหน้าหงายแต่มีหรือที่คนอย่างเธอจะยอม
“เมื่อกี้ฉันเตือนเธอนะ แล้วก็เธอมีสิทธิ์อะไรมาเถียงฉัน”ยุนอาเริ่มหมดความอดทนกับทงเฮที่กล้าว่าเธอกลับทั้งๆที่ไม่มีใครกล้า
“หุบปากซะ”คิบอมสั่ง แต่ยุนอายิ่งไม่ยอมใหญ่ที่คิบอมปกป้องทงเฮ
“แต่คิบอมค่ะ ไอ้เด็กนี่มันว่า..
“เขาชื่อทงเฮไม่ใช่ไอ้เด็กนี่ แล้วถ้าเธอยังว่าทงเฮอีกล่ะก็เชิญกลับบ้านของเธอไปได้เลย”คิบอมสั่งเสียงเย็นแต่คนในบริเวณนั้นก็หยุดกึกทันทีที่คุณชายเล็กของตระกูลคิมสั่ง
“อ้าวๆ คิบอมไปโมโหใครมาล่ะ ดังลั่นบ้านเลยนะ”หนุ่มร่างอวบคนนึงเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหารข้างคิบอมตรงหัวโต๊ะพอดี
“ช่างเถอะครับ พี่คังอิน”คิบอมตอบเรียบๆแล้วหันไปตักกับข้าวบางอย่างที่ทงเฮเอื้อมไม่ถึงใส่จานให้ร่างบางข้างๆ
“แล้วนั่นแกไปหิ้วลูกใครมาอีกละนั่น”คังอินถามเมื่อเห็นทงเฮที่นั่งหดตัวอยู่ข้างๆคิบอม
“หิ้วที่ไหนล่ะ พามาต่างหาก”คิบอมตอกกลับพี่ชายอย่างไม่รู้ว่าใครพี่ใครน้องกันแน่
“ฮ่าๆๆๆพามาก็พา ว่าแต่เราชื่อะไรล่ะ”คังอินถามไปถึงทงเฮจนทงเฮสะดุ้ง “ไม่ต้องกลัวฉันก็ได้ ฉันไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก”
“ทงเฮฮะ...อีทงเฮ”ทงเฮตอบเสียงสั่นเนื่องจากพี่มันต้องมีอะไรมากกว่าน้อง คิบอมเย็นชาแค่ไหนพี่ก็น่าจะเย็นชากว่า
“อ่ะ นั่นพี่เยซองมาพอดีเลย”คังอินหันไปมองบุคคลที่เพิ่งมาใหม่
“พะ..พี่เยซอง”
“ทงเฮ^^”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เนื้อเรื่องกำกวมสุดๆ แต่จะพยายามแต่งให้ดีขึ้นนะค่ะ
เม้นท์เป็นกำลังใจด้วยนะค่ะ
Noda Sung
ความคิดเห็น