ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พีกาซัส

    ลำดับตอนที่ #6 : ม้าสามตัวและหมอวิลเลี่ยม

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 49




    ไมเคิลรีบตื่นแต่เช้ามืดเพราะว่าวันนี้เขานอนค้างที่ตึกทำการของคอกม้า เขารีบวิ่งกลับบ้านไปเพื่อเตรียมที่จะเจอกับหมัดและแข้งของบิดาเพราะนี่ก็สายมากแล้ว  แต่เขากลับแปลกใจเมื่อไม่เห็นเลยแม้แต่เงาทั้งๆที่คนๆนั้นควรจะนอนเมากองอยู่ที่หน้าประตูเหมือนเช่นทุกวัน เขารีบทำซุปข้าวโพดและเตรียมขนมปังไว้ให้บิดาบนโต๊ะอาหาร เมื่อจัดการทำธุระอะไรเรียบร้อยก็วิ่งกลับไปทำงานที่คอกม้าตามเดิม

    เมื่อมาถึงก็เจอคุณโรเจอร์ คนคุมคอกม้า และจ๊อกกี้ประจำของไวท์พีกาซัสยืนปรึกษากันอยู่หน้าคอกม้า เรื่องที่สนทนากันคงไม่พ้นเรื่องที่เจ้าม้าขาวหายไปอย่างไร้ร่องรอย คงเป็นเพราะความบังเอิญหรือธรรมชาติจงใจก็ไม่รู้ คืนวานนี้เป็นวันที่น้ำค้างลง ทำให้พื้นดินชื้น ร่องรอยของเท้าคนและกีบม้าจึงไม่มีเหลือให้เห็นเลย เด็กชายรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังคงต้องการรู้เรื่องของม้าสองแม่ลูกนั้นว่ามีที่มาเป็นยังไง มันรู้สึกคาใจตั้งแต่เมื่อคืนวาน

    เด็กชายเข้าไปทักทายไต่ถามคุณโรเจอร์  "เอ่อ อรุณสวัสดิ์ครับ คุณโรเจอร์ฮะ คือผมอยากจะรู้ว่าเจ้าไวท์พีกาซัสเนี่ยมันเป็นม้าสายพันธุ์อะไรเหรอฮะ"

    คุณโรเจอร์ยิ้มอย่างมีเมตตา พลางใช้สมองครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ "ตอนนั้นเมื่อสิบปีก่อนได้แล้วมั้ง ก่อนฉันจะเป็นเจ้าของที่นี่ ยังกวาดอึม้าอยู่เลย ... พวกเราได้พันธุ์ม้าคู่นึงสีดำล้วนมาที่ใดที่หนึ่งจากเวลส์ ตัวพ่อเป็นม้าที่มีกล้ามเนื้อดีมาก แต่เราให้ตัวแม่ลงเป็นม้าแข่งเนื่องจากตัวพ่อมันไม่พร้อมและม้าพันธุ์ดีแบบนี้เราไม่อยากตอนมันหรอกนะ ถึงมันจะผิดกฎดาร์บี้ในปีแรกๆนั้น แต่เพื่อความอยู่รอดของคอกเราก็ต้องทำน่ะ"

    "ทีนี้พวกเราก็ได้รับเงินพนันจากการที่เราลงข้างเจ้าม้านั่นกินกันอยู่สี่ปีได้ เอ้อ ฉันลืมไป มันมีชื่อว่า 'แบล๊คชาโดว์' น่ะ แล้วรู้อะไรไหม ไมค์ เรื่องมันเกิดก็อีตอนจะแข่งดาร์บี้ชิงตัวเต็งรอบที่เก้าเนี่ยแหละ" แววตาของคุณโรเจอร์ดูประทับใจมากที่ได้เล่าเรื่องนี้ให้คนรุ่นหลังได้ฟัง

    "อะไรฮะ?"

    "ก็คือว่าวันนั้น วันแข่งดาร์บี้ พวกเราที่ซึ่งคุ้นเคยกับม้ามานานกลับไม่รู้เลยว่ามันกำลังจะตกลูก เชื่อไหมว่าอยู่ดีๆเจ้าแบล๊กชาโดว์มันก็หนีออกจากคอกม้าไปเลย เราจึงจำใจต้องเอาเจ้าพ่อม้าแบล๊กชาโดว์ตัวนั้นนำมาลงแข่งแทน แต่เพราะความที่เป็นม้าพ่อพันธุ์ที่ไม่เคยฝึกซ้อมเลย มันเลยวิ่งได้แย่เอามากๆเลย เหตุการณ์วันนั้นมันก็พอๆกับเมื่อวาน" คนคุมคอกม้าเสริม

    "แล้วยังไงต่อล่ะฮะ ไวท์พีกาซัสเป็นลูกของม้าสองตัวนี้เหรอฮะ?"

    "เดามาถูกเผงเลยล่ะ ไมค์ แบล๊คชาโดว์มันก็ย้อนกลับมาคลอดไวท์ปีกาซัสไว้ที่คอกม้า รู้อะไรไหมตอนที่มันเพิ่งเกิดมาใหม่ๆตัวของมันเป็นสีฟ้าสดใสมาก ไม่ใช่ฟ้ามุกแบบนี้หรอกนะ มันเป็นสีฟ้าเลย ฉันเนี่ยเห็นมันคลอดกับตาเลย แต่คืนนั้นก็มีเรื่องที่น่าเสียใจเกิดขึ้นล่ะ" คุณโรเจอร์เงียบไปสักพัก มองไปยังคอกที่ไวท์พีกาซัสอยู่ก่อนจะถูกฆ่าก่อนจะเล่าต่อ "มีคนใจร้ายน่ะมันบุกเข้ามาที่คอกม้าหล่ะ สงสัยจะหมดตัวเพราะว่าแทงแบล๊กชาโดว์ไป ไอ้ใจทรามนั่นมันฟาดท่อนไม้ใส่ขาหน้าของแบล๊คชาโดว์ตัวเมียเต็มแรง พวกฉันนี่ตื่นมาไล่จับมันยกใหญ่ แต่รู้ไหม ไมค์ จุดจบของคนร้ายก็คือสิ่งที่มันทำนั่นแหละ มันโดนพ่อม้าแบล๊กชาโดว์กระทืบไปที่ท้องเต็มแรง ฉันไม่อยากจะเล่าเลยหล่ะ เป็นภาพที่สยดสยองมาก

    "ทีนี้พ่อม้าก็เตะไม้คอกกั้นคอกกระเด็นหลุดเลย แล้วพากันหนีไปม้าสองตัวผัวเมียวิ่งอ้าวไปในชายป่าทางนั้นหน่ะ พวกเราแยกกันหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ จะเหลือก็แต่ลูกของมันที่เพิ่งเกิดมาอยู่คู่กับคอกเราเนี่ยแหละ แล้วมันก็มาหายไปเหมือนพ่อแม่ของมัน"

    "อ๊ะ ขอบคุณฮะ ผมขอทำงานต่อก่อน ขอบคุณฮะคุณโรเจอร์" คุณโรเจอร์เพียงแต่ยิ้มให้เด็กชาย

    กิจวัตรวันนี้เป็นไปเหมือนเคย ต้องกวาดมูลม้าให้ไปรวมอยู่ที่ราง คอยเอาหญ้าให้ม้ากิน คอยทำความสะอาดตัวม้า ซึ่งหน้าที่สองอย่างหลังนี่เขาเพิ่งได้รับมอบหมายจากคุณคนคุมคอกให้ทำ เด็กชายรีบทำให้มันผ่านไปเร็วๆจนหมดหน้าที่ของเขา

    หลังจากล้างตัวทำความสะอาดร่างกาย ไมเคิลตรงไปที่โรงไม้เหมือนเดิม ในอีกฟากหนึ่ง ม้าทั้งสองตัวกำลังเล็มหญ้าอ่อนกันอย่างเอร็ดอร่อย เขาลูบขนแผงคอของพวกมันด้วยความเอ็นดู พวกมันพากันเดินไปที่ร่มไม้แห่งหนึ่งและล้มตัวลงนอน ครางในคอเบาๆเชิงเรียกไมเคิล เด็กชายซึ่งรู้พฤติกรรมของม้ามาพอสมควรก็ไม่ลังเลคำชวนของเจ้าม้า ลงนอนกอดร่างขาวมุกของไวท์ปีกาซัสภายใต้เงาต้นไม้

    พ่อของแกอยู่ที่ไหนนะ ไวท์...

    อา...มันช่างสบายดีเหลือเกิน

    ,
    ,
    ,

    วันนี้วิลเลี่ยมก็เข้าป่ามาศึกษาพรรณไม้อีก หรืออีกอย่างนึงก็คือเขาเพียงต้องการพบกับเทพบุตรคนนั้นอีกหน เพราะอะไรไม่รู้ แต่เหมือนมีแรงที่มองไม่เห็นคอยมาจูงใจให้เขามาที่นี่ทุกวัน อาจเพื่อมาหาคนๆนั้น หรืออาจจะมาพบสิ่งอื่นนอกเหนือไปจากนี้ เขาพบกวางป่าฝูงหนึ่งซึ่งหากินอยู่ห่างจากแห่งธารน้ำเล็กน้อย

    "เฮ้ ว่าไงพรรคพวก" เสียงของกวางฝูงเล็กๆทักทายวิลเลี่ยม ซึ่งการเดินเข้าไปในคุยกับสัตว์ในป่านั้นกลายเป็นเรื่องปกติและกิจวัตรของเขาไปแล้ว จึงไม่แปลกที่จะได้ยินเสียงของเด็กชายร้องทักบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลายตอบ

    "สวัสดีครับคุณกวาง" เขาทักตอบกวางหนุ่ม

    "นี่ๆ นี่ไง ต้นอะไรไม่รู้หว่ะพวก มันอร่อยดีจริงๆ" กวางหนุ่มอีกตัวในฝูงพูดพลางเคี้ยวใบไม้ในปากตุ้ยๆ แต่โดนต่อว่าจากกวางสาวสวย "นี่ เธอ จะพูดอะไรก็เคี้ยวให้หมดก่อนสิยะ"

    "แหม ก็กว่าจะคุยกับมนุษย์ได้แต่ละทีนี่!" เศษใบไม้ในปากกระเด็นไปโดนกวางสาวในฝูง ทำให้เจ้าหล่อนไม่พอใจอย่างมาก วิลเลี่ยมหัวเราะกับพฤติกรรมแปลกๆของบรรดากวางเหล่านั้น เขายืนดูวงสนทนาของกวางได้ไม่นานก็มีกระรอกน้อยตัวหนึ่งมาเรียกเขาจากบนต้นไม้

    "วิลเลี่ยม จี๊ด! มีม้าตัวหนึ่งมาแถวน้ำตกหล่ะ รู้สึกที่ขาจะบาดเจ็บเรื้อรังมานานแล้วนะ แถวนี้ไม่มีใครรักษาได้เก่งเท่านายแล้ว จี๊ด! มาช่วยเขาหน่อย" กระรอกน้อยกล่าวรวดเดียวก็วิ่งนำเด็กชายมา เด็กชายจะสาวเท้าอย่างรวดเร็วในป่าได้คล่องแคล่วกว่านี้ถ้าไม่ติดว่าขาข้างหนึ่งเป็นขาเทียม เพราะเขาชำนาญทางมาก ชั่วอึดใจเขาและกระรอกน้อยก็ไปอยู่ที่น้ำตก มีสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่หลายตัวคอยช่วนป้อนหญ้าและน้ำให้กับม้าตัวนั้นอยู่ และพากันส่งเสียงเรียกวิลเลี่ยมเมื่อเขามาถึง

    เด็กชายเดินเข้าไปดูอาการของม้าตัวนี้ สีขาวละเอียด กล้ามเนื้อหนั่นเป็นสง่า ดูเหมาะที่จะเป็นพ่อพันธุ์มาก แต่ขาของมันมีรอยเป็นแถบยาวเหมือนเตะถูกไม้หรืออะไรสักอย่าง ซึ่งตอนนี้บวมและมีหนอง

    "นี่ คุณกระรอกช่วยไปหาใบอะโลเวร่ามา ส่วนคุณหมีช่วยไปหาเถาวัลย์ แล้วคุณลิงก็ช่วยหาเฟิร์นใบใหญ่มาให้ผมด่วนเลยได้ไหมครับ" วิลเลี่ยมออกคำสั่ง สัตว์ทั้งหลายช่วยกันทำตามอย่างเต็มใจเพราะว่าวิลเลี่ยมก็เปรียบเหมือนหมอและศูนย์กลางของทั้งสัตว์เล็กและสัตว์ใหญ่ในป่านี้ ไม่นานนักสัตว์ทั้งหลายก็กลับมาพร้อมกับสิ่งของที่เขาต้องการ

    เด็กชายเริ่มบดใบอะโลเวร่าให้เป็นวุ้นเหลวๆและนำไปโปะกับแผลที่ขาของม้าตัวนั้นซึ่งนอนไม่รู้สึกตัวเพราะพิศบาดแผลอยู่ เขาอธิบายวิธีการนี้ให้กับพวกสัตว์ฟังด้วยเผื่อว่าเจ้าม้ามีอาการปวดในเวลากลางคืนเมื่อเขาไม่อยู่ เด็กชายรอดูอาการอยู่ได้พักหนึ่งก็ต้องขอตัวกลับไป สัตว์ทั้งหลายในป่าพากันเรียกเด็กชายว่า 'หมอวิลเลี่ยม' ซึ่งเทียบกับความรู้ด้านสมุนไพรที่เขามีแล้ว มันไม่ได้เกินตัวเกินฐานะของเขาแต่อย่างใดเลย

    แต่ถึงจะมีเพื่อนเป็นสรรพสัตว์มากมายทั้งป่าหรืออย่างไรก็ตาม วิลเลี่ยมก็ยังเหงาใจ ยังคงรอคอยการกลับมาของน้อยชายของตนอยู่... นายอยู่ที่ไหนนะ ไมเคิล

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×