ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พีกาซัส

    ลำดับตอนที่ #1 : สองพี่น้อง

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 49


     



    หมู่บ้านเฮเจนดอร์ฟ หมู่บ้านเล็กๆที่มีผู้อาศัยร่วมชุมนุมอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขไม่มีคดีขโมยของเกิดขึ้น หมู่บ้านนี้มีการจัดผังหมู่บ้านที่แปลกตามาก ถนนลูกรังสายเล็กๆทอดยาวตัดจากถนนที่นำทางไปสู่เมือง สองข้างทางของถนนปลูกต้นฟอเก็ตมีน็อตไว้ เหมือนจะบอกว่าเวลาใดที่ท่านได้มาเยือนที่นี่ ขออย่าได้ลืมรอยยิ้มและการต้อนรับอันอบอุ่นของชาวเฮเจนดอร์ฟ

     จากทางเข้าหมู่บ้านเป็นเนินเล็กๆลงเป็น มีโบสถ์ตั้งอยู่ ไม้กางเขนสะท้อนตัดกับแดดยามเช้า ต้นโอ๊คใหญ่หน้าโบสถ์ยืนต้นใบครึ้มตัดกับฉากโบสถ์สีขาว เดินถัดลงมาเป็นลานกว้าง มีนกพิราบฝูงใหญ่เดินจิกกินสิ่งของที่พื้นดินไปตามเรื่อง ด้านตะวันออกของลานกว้างเป็นเนินใหญ่อีกลูก บนเนินนอกจากจะมีพืชยืนต้นหลายชนิดแล้ว ยังมีทิวสนเรียงรายเป็นแนวยาวดูงามตา บ้านหลายหลังปลูกอยู่แถวเนินใหญ่นี้ทำให้หมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ดูเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ น่าอยู่มากเลยทีเดียว

     จากลานกว้างลงเป็นจะเป็นทางสู่ชายป่า จากนี้คือเนินที่สาม เต็มไปด้วยสิ่งบริการชุมชน และนักท่องเที่ยว มีบาร์ โรงแรมเล็กๆ บ้านช่างไม้ และสถานีอนามัยตั้งอยู่ ภาพผู้คนที่เดินผ่านไปมาทักทายกันดูช่างเป็นสิ่งที่จรรโลงจิตใจยิ่ง เป็นภาพที่หาดูได้ยากแล้วในยุคที่สังคมเมืองที่ผู้คนเห็นแก่กำลังจะกลืนกินชุมชนที่เป็นหนึ่งเดียวแห่งนี้ในยุโรปตะวันตก

     บ้านหลังเล็กๆหลังหนึ่งเป็นฟาร์มปศุสัตว์ตั้งอยู่ใกล้ชายป่า ตั้งอยู่ใกล้ทุ่งโล่ง มีอาศัยกันอยู่สี่คน พ่อ แม่ ลูกชายทั้งสอง นิโคลัส เกริกเคิน ผู้เป็นพ่อเป็นคนขยันแต่เป็นคนที่ติดการพนันมาก ทุกๆเดือนจะนำเงินที่ได้มาไปเล่นการพนันม้าในเมืองเสียหมด ส่วนแม่มิเชลก็มีร่างกายอ่อนแอเนื่องจากเป็นภูมิแพ้ มีอาการไอเรื้อรัง แต่สามีนิโคลัสก็ไม่ได้สนใจหล่อนแต่อย่างใด

     วิลเลี่ยมผู้พี่ และไมเคิลผู้น้อง ลูกชายทั้งสองอยู่ในวัยซุกซน ทั้งสองเป็นฝาแฝด มีผมทองสวยอร่าม ใบหน้างดงามเหมือนผู้หญิง เป็นที่รักใคร่ของผู้คนในหมู่บ้านมาก ถ้าไม่เจอพวกเขาที่โบถส์ ก็จะเป็นที่กลางทุ่งหญ้าแถวบ้านพวกเขานั่นแหละ

     ที่ต้นไม้ใหญ่กลางทุ่งโล่งชายป่าหลังหมู่บ้าน กิ่งก้านแผ่สาขาไปทั่ว ข้างบนปลูกสิ่งก่อสร้างเล็กๆไว้มีบันไดเชือกโรยลงมา คุณเฮอร์ชี่ย์ ช่างไม้ใหญ่ประจำหมู่บ้านสร้างไว้ให้เด็กๆได้ขึ้นไปเล่นกัน ส่วนมากเด็กๆในหมู่บ้านมักจะมาเล่นกันที่แถวโคนต้นไม้นี้เสมอ เช่นเดียวกับวิลเลี่ยมและไมเคิลซึ่งในตอนกลางวันก็จะมานั่งหลับอยู่ที่ต้นไม้นี้เสมอ พอตกเย็นนางเกริกเคินก็จะมารับกลับไปรับประทานอาหารเย็นที่บ้านเป็นกิจวัตรประจำวันของทั้งสอง

     เด็กๆทั้งสองสนใจในวิชาแพทย์มาก พวกเขาชอบไปที่ห้องสมุดประจำหมู่บ้าน บางทีก็ไปที่สถานีอนามัยเพื่อของยืมตำราแพทย์จากหมอเอ็ดเวิร์ด ทั้งสองชอบเขามากเพราะเขาให้ยืมหนังสือเกือบทุกเล่ม แต่คุณหมอไม่เคยให้ทั้งสองได้เข้าไปในห้องสมุดของเขาเลย ทั้งสองคิดว่าหมอเอ็ดเวิร์ดคงกลัวพวกเขาไปทำหนังสือแพทย์หายากและราคาแพงของหมอเสียหาย
     
     จนกระทั่งวันหนึ่งได้มาถึง...

     "พี่ฮะ ตื่นสักทีสิฮะ พี่ฮะ" ไมเคิลปลุกพี่ชายด้วยเสียงกระวนกระวาย

     "หือ...นี่มันเพิ่งกี่โมงกันน่ะ ไมค์"
     วิลเลี่ยมทำท่าจะนอนต่อแต่ถูกน้องชายลากออกจากเตียง

     "แกจะทำอะไรชั้นน่ะ เจ็บนะ"
     เขาเอ็ดน้องชาย แต่ก็ต้องเงียบลงเมื่อเห็นน้ำตาคลอที่ดวงตาน้อยๆทั้งสอง

     "ใครทำอะไรนายน่ะ บอกพี่มานะ!"

     วิลเลี่ยมเป็นคนที่รักแม่และน้องชายมาก แต่เขากลับเกลียดพ่อแท้ๆของเขา ผู้ที่ให้กำเนิดเขามา เพราะเขาไม่ชอบที่พ่อไม่เคยได้ดูแลแม่แม้แต่น้อย
     แสงสาดส่องลงมาที่เตียง สองพี่น้องยังคงมองหน้ากัน พี่ชายทนเห็นรื้นน้ำตาของน้องรักไม่ได้

     "พี่ฮะ ช่วยเจ้าเหมียวด้วยฮะ"

     "แกปลุกพี่มาเพราะจะให้ช่วยแมวงั้นเหรอ!!" วิลเลี่ยมตวาดใส่น้องชาย ไมเคิลปล่อยโฮทันที 

     "อย่าร้องน่า นำพี่ไปแล้วหยุดร้องซะ"
     น้องชายตัวน้อยปาดน้ำตา รอยยิ้มเล็กๆกลับมายังใบหน้าหมองหม่นอีกครั้ง พี่ชายคนนี้ทำทุกอย่างให้เค้าได้จริงๆ

     ***

     เมื่อทั้งคู่มาถึงจุดเกิดเหตุ มีเด็กๆอยู่ในเหตุการณ์เต็มไปหมด ทั้งหมดบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "พวกเราตามผู้ใหญ่มาแล้ว แต่ไม่เห็นมีใครจะมากับช่วยเลย" ทั้งหมดมองไปที่จุดๆเดียวกันคือบนกิ่งต้นไม้ใหญ่นั่นเอง แมวน้อยอยู่ในอาการหวาดกลัว มันมองลงมาที่หนูน้อยเมรี่เจ้าของมันซึ่งร้องไห้จ้า 

     วัยแปดขวบของวิลเลี่ยมถือว่าเป็นเด็กโตที่สุดในละแวกหมู่บ้านแล้ว เพราะเด็กโตแล้วต้องไปเรียนหนังสือในโรงเรียนที่ตัวเมือง หมู่บ้านเล็กๆของพวกเขาแค่มีสถานีอนามัยก็ถือว่าดูดีที่สุดแล้วในยุโรปสมัยนั้น

     "พี่วิลล์ขา ช่วย ... ช่วยมันทีนะคะ"
     หนูเมรี่ตัวน้อยดึงชายเสื้อของเขา วิลเลี่ยมซึ่งมีจุดอ่อนอยู่เพียงสิ่งเดียวคือ เค้าเป็นคนที่เห็นน้ำตาไม่ได้

     "พี่ฮะ ช่วยทีนะฮะ"
     วิลเลี่ยมพยักหน้า เขาเป็นเด็กที่แข็งแรงพอควรเนื่องจากชอบวิ่งเล่นและปีนต้นไม้ เขาขึ้นไปยังเพิงที่ตั้งอยู่บนคาคบอย่างรวดเร็ว ข้ามจากกิ่งนั้นไปกิ่งนี้เปรียบดั่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของต้นไม้มาก่อน 

     "มานี่เร็วเจ้าเหมียว"
     ไม่ถึงสองนาทีเขาก็ไปถึงกิ่งไม้ที่เจ้าแมวน้อยขดตัวด้วยความกลัวอยู่ เขาค่อยๆเดินไปหามันช้าๆ แต่เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง เหมือนเจ้าแมวรู้ตัว มันกระโจนลงจากต้นไม้ลงไปอยู่ในอ้อมอกของหนูน้อยเมรี่แทบจะทันที กิ่งไม้ลั่นเปรี๊ยะ 

     วิลเลี่ยมตกลงมาจากต้นไม้สูงประมาณแปดเมตร เสียงกระดูกขาของเขาหักดังลั่น เด็กๆพากันกรีดร้อง ไม่มีใครรู้ว่าจะต้องทำยังไง โชคดีเวลานั้นช่างไม้เฮอร์ชี่และลูกมือผ่านมา เด็กๆต่างร้องไห้จ้า แมวเจ้าปัญหาวิ่งหนีไปเสียแล้ว ภาพสุดท้ายที่เด็กชายผู้พี่เห็นคือเจ้าแมวน้อยตัวนั้น ทำปากแบะแสยะยิ้มภูมิใจแล้วเดินจากไปจากกลุ่มเด็กๆ เขาคิดแต่ว่า ภาพที่เห็นเมื่อครู่เขาไม่ได้คิดไปเองแน่
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×