คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Hey Boy! : ความหวานที่หายไป
หลังจากที่กงชานปฏิเสธรักจินยองแบบไร้เยื่อไยแล้ว ทั้งคู่ก็แทบจะไม่มองหน้ากันอีกเลย วันๆนึงก็แทบจะไม่พูดจากันด้วยซ้ำ จินยองก็เอาแต่หลบหน้าเพราะสู้หน้าไม่ได้ กงชานก็เอาแต่เมินทำเป็นเหมือนว่าจินยองไม่มีตัวตนอยู่ สถานการณ์ในตอนนี้มันน่าอึดอัดซะจนคนนอกอย่างชินอูสัมผัสได้ แล้วเค้าก็หวังจะมาช่วยคลี่คลายสถานการณ์ของคนทั้งคู่ให้มันดียิ่งขึ้น ..แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำ เจ้านายก็มาโทรบอกเค้าว่าให้เก็บกระเป๋าแล้วรีบมาทำงานด่วน ถามว่าจะให้ไปไหน เจ้านายก็ตอบเค้ากลับมาเพียงแค่ว่ามีงานด่วนเข้ามา คราวนี้ต้องไปทำงานด่วนที่ว่านี่ถึงประเทศญี่ปุ่น ชินอูจึงได้แต่หนักใจ..งานด่วนเข้ามา งั้นเรื่องของกงชานกับจินยองก็คงต้องปล่อยไว้ก่อน เค้าได้แต่ภาวนาว่าในตอนที่เค้าไม่อยู่นั้นขออย่าให้เกิดเรื่องอะไรขึ้น..
ในตอนนี้เค้าเป็นห่วงจินยองมาก
แต่ก่อนไปจินยองก็ได้แต่ยิ้มแล้วบอกเค้าว่าไม่ต้องห่วง เพราะมันคงไม่มีอะไร แล้วก็ยิ้มบางๆให้กับชินอู ชินอูจึงค่อยโล่งใจขึ้นมาได้นิดนึง แล้วก็ไปทำงานอย่างไม่ห่วงอะไรอีก
อย่างน้อยคนตัวเล็กของเค้าก็ยิ้มได้แล้วล่ะนะ...
แต่เค้าคงจะสบายใจมากกว่านี้ถ้ารอยยิ้มนั้นไม่ได้ถูกปั้นแต่งขึ้นมา ไม่ได้ฝืนยิ้มเพราะกลัวว่าเค้าจะไม่สบายใจ ...ทำไมเค้าจะดูไม่ออก..ว่ายิ้มนั้นมันฝืนมากแค่ไหน
เสียงทีวีดังไปทั่วห้องนั่งเล่น แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจินยองจะลดเสียงลงแต่อย่างใด แล้วก็เหมือนว่าจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทีวีเปิดอยู่ สายตาเอาแต่เหม่อมองออกไปที่อื่นเหมือนไม๋รับรู้อะไรทั้งสิ้น กงชานที่ยืนมองอยู่ข้างหลังเงียบๆมาสักพักก็ได้แต่ถอนหายใจเบาๆ สายตามี่ทอดมองไปยังแผ่นหลังเล็กนั้นเจือไปด้วยความเศร้า ..แต่แล้วในชั่ววินาทีหนึ่งก็กลับมาทำใบหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่รู้สึกอะไรเหมือนเคย
"พี่จินยอง.."
"......" นั่งนิ่งไม่รู้สึกตัว
"พี่ครับ"
"..... " เหม่อต่อไป
" พี่จินยอง"
"หะ...หา อะไรหรอ." คราวนี้จินยองถึงกับสะดุ้งเพราะกงชานเอามือมาแตะเบาๆที่ไหล่
"....."กงชานมองจินยองนิ่งๆแล้วก็ถอนหายใจออกมา
จินยองมองภาพนั้นด้วยความน้อยใจ แล้วก็ขบริมฝีปากล่างเบาๆเพื่อข่มอารมณ์นั้นไว้ ...แค่คุยกับเค้าแค่นี้มันน่าเบื่อมากเลยรึไง
"ผมแค่จะบอกว่าเดี๋ยววันนี้ผมจะออกไปข้างนอกนะ.."
"นายจะไปไหน"
"พี่ไม่ต้องรู้หรอก"
แล้วก็ต้องสะอึกไปเมื่อได้ยินคำพูดที่แสนจะทำร้ายจิตใจนั่น
"แล้ววันนี้นายจะกลับกี่โมงหรอ"
"...พี่ถามทำไม"
"ก็เปล่า...ฉันแค่อยากรู้ไว้เฉยๆน่ะ"
"คงจะดึกล่ะมั้ง พี่ไม่ต้องรอกินข้าวก็ได้นะ"
"อะ..อืม"
"พี่มีอะไรอีกรึเปล่า..ถ้าไม่มีผมจะได้ไปทำธุระของผมซะที"
"...มะ..ไม่มีแล้ว"้
"งั้นผมไปแล้วนะ"
พูดจบกงชานก็สะพายกระเป๋าเป้เดินออกไปจากบ้านโดยที่ไม่หันหลังกลับมามองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเลยสักนิด
..ถ้าเพียงแค่หันกลับมามองก็จะเห็นคนๆนึงยืนมองตามหลังเค้าไปด้วยแววตาที่ตัดพ้อและมีคำถามมากมายอยู่ในนั้น..
เค้าเคยชินกับการมีคนมานั่งกินข้าวอยู่ตรงข้ามเค้า แล้วก็พูดชมว่ากับข้าวฝีมือเค้านั้นอร่อยแค่ไหน จากนั้นก็จะนั่งเถียงกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทะเลาะกันทุกครั้งหลังอาหาร ...แต่จริงๆแล้วใครจะรู้ ที่ทะเลาะกันนั้นมันไม่ใช่ว่าทะเลาะกันจริงๆ ..ไม่รู้สิ แต่เหมือนว่าที่ทะเลาะกันนั้นมันก็เป็นแค่ฉากบังหน้าของพวกเราทั้งคู่ จริงๆแล้วเหมือนกับว่าพวกเราทั้งคู่แค่ไม่รู้ว่าจะเข้าหากันยังไง จึงได้แต่หาเรื่องทะเลาะกันเพิ่อจะได้มีเรื่องคุย..
แต่ในวันนี้มันไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว แค่หน้าเค้ายังไม่อยากจะมองเลยด้วยซ้ำ...ทำไมมันถึงได้เป็นแบบนี้กันนะ..
"วันนี้พี่ไม่ต้องรอนะ..ผมคงไม่กลับบ้าน"
"อะ..อืม"
"วันนี้นาย...."
"เหมือนเดิมครับ..ไม่ต้องรอ"
"ดะ..เดี๋ยว..."
ยังไม่ทันที่จะได้พูด. อีกคนก็รีบเดินออกไปซะก่อน เค้าจึงได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น...
2 อาทิตย์แล้วที่กงชานเอาแต่เย็นชา ไร้เยื่อใย และทำเหมือนกับว่าจินยองไม่มีความสำคัญอะไรกับเค้าเลย แต่ถึงแม้ว่ากงชานจะเย็นชาและไร้เยื่อใยขนาดไหน..แต่จินยองก็ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง ...ยังคงรอกงชานอยู่ตลอด หวังว่ากงชานจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมในสักวัน ..แค่กลับมาเป็นเหมือนเดิมสักวันก็ยังดี
จินยองทำกับข้าวไว้รอกงชาน ถึงแม้ว่ากงชานจะกลับมาแล้วไม่กิน ถึงแม้ว่าบางวันกงชานจะไม่กลับมา แต่เค้าก็ยังคงดื้อดึงที่จะทำอาหารไว้รออีกคน.. สนใจแต่กงชานจนลืมห่วงตัวเอง เมื่อวันก่อนที่เค้าทำอาหารไว้รอ เป็นวันที่กงชานกลับบ้านเร็ว จินยองเผลอยิ้มออกมาด้วยความลืมตัว แต่ก็ต้องหุบยิ้มลงแทบไม่ทัน เมื่อเห็นว่ากงชานกำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคน หน้าตาของกงชานดูมีความสุขซะจนเก็บไม่มิด รอยยิ้มของกงชานที่ไม๋ได้เห็นมานาน รอยยิ้มที่เค้าอยากเห็นมาตลอด แต่ในวันนี้รอยยิ้มที่เค้าเคยอยากเห็นมันทำร้ายเค้าเหลือเกิน..กงชานเดินคุยโทรศัพท์ผ่านหน้าจินยองไปเหมือนกับว่าจินยองไม่มีตัวตน
"ครับ..ว่าไง ยังไม่นอนอีกนะ หืม...คิดถึงเหมือนกันครับ..แล้วจะตื่นไปเรึยนไหวหรอพรุ่งนี้..ครับ ครับ เอาไว้เจอกันนะ.."
คืนนั้นเป็นคืนที่จินยองไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเอาแต่นั่งร้องไห้อยู่ข้างล่างคนเดียวเงียบๆ นั่งมองอาหารที่ตัวเองตั้งใจทำสุดฝีมือ..แต่กลับโดนเมินอย่างไม่ไยดี
...ทำไมเค้ามันน่าสมเพชขนาดนี้นะ
ด้วยความที่สนใจแต่คนอื่นจนลืมสนใจตัวเอง ทำให้ยิ่งนับวันจินยองยิ่งดูโทรมลงไปทุกที ยิ่งไม่มีชินอูคอยดูแลเพราะติดงานที่ต้องไปทำอย่างเร่งด่วน จินยองก็ยิ่งซูบซีดหนักยิ่งกว่าเดิม.. แล้วดูเหมือนว่าในตอนนี้จินยองจะมีไข้หนักซะด้วย แต่ถึงจะมีไข้หนักยังไงเค้าก็ยังจะฝืนตัวเอง ทำอาหาไว้รอกงชานเหมือนอย่างเคย..
ยิ่งทำก็ยิ่งอาการหนัก พิษไข้ที่บวกกับอาการอ่อนเพลีย พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้อาการหนักขึ้นจนเกิดขีดจำกัดที่คนๆนึงจะต้านไหว
"โย่วววว จินยองอยู่หนาย ชินอูผู้ที่หล่อที่สุดในปฐพีมาแล้ว"
"จินยองง. ยู้ฮู้ววว..."
"จินยองงงง.."
ชินอูขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจที่จินยองไม่ขานรับเค้า จะว่าไม่อยู่บ้านก็ไม่น่าเป็นไปได้ จินยองก็แม่บ้านแม่เรือนซะขนาดนั้น วันๆก็ไม่ออกไปไหน
"จินยอง นายอยู่...เห้ย!!!!!!"
ชินอูตาโตด้วยความตกใจเมื่อเห็นคนที่ตนเรียกนอนฟุบสลบอยู่กับพื้น ถลาเข้าไปประคองอีกคน แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิผิวที่ร้อนจนชินอูยังต้องตกใจ
"นี่จินยอง นายเป็นอะไรเนี่ย!! อย่าเป็นอะไรเชียวนะ!!"
ชินอูรีบอุ้มจินยองไปที่ห้องนอนทันที แล้วจัดการดูแลปฐมพยาบาลจินยองจนได้สติฟื้นขึ้นมา
"......"
"ทำไมนายปล่อยให้ตัวเองไม่สบายได้ขนาดนี้..."
"ชินอู...คือ" จินยองได้แต่หลบสายตา ไม่กล้าตอบคำถาม
"บอกฉันมา.."
"....คือ"
"อย่าโกหกฉันเด็ดขาด"
"......" ยิ่งได้ยินเสียงนิ่งๆที่แฝงไว้ด้วยความเด็ดขาด ก็ยิ่งไม่กล้าสบตา ได้แต่ก้มหน้านิ่งๆ
"เพราะกงชานใช่มั้ย"
"....."
"ใช่รึเปล่า"
"ไม่ใช่แบบนั้นนะ ไม่เกี่ยวอะไรกับกงชานเลยแม้แต่นิด..กงชานเค้าไม่เกี่ยวนะ!"
"...แค่นี้ก็บอกได้แล้วว่าเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว.."
พูดจบชินอูก็ลุกขึ้นแล้วทำท่าจะเดินออกไปนอกห้อง แต่ติดที่มือของจินยองคว้าแขนของเค้าเอาไว้ซะก่อน
"นายจะไปไหนน่ะชินอู"
"ฉันจะไปคุยกับไอ้หมอนั่นให้รู้เรื่อง ว่ามันเป็นบ้าอะไร"
"ชินอู..นายใจเย็นๆก่อนนะ คือกงชานเค้าไม่.."
"เลิกแก้ตัวแทนมันได้แล้วจินยอง!!!"
จินยองสะดุ้งจนสุดตัวเมื่อชินอูตะคอกใส่เค้าเสียงดัง
" แล้วก็ไม่ต้องมาห้ามฉันด้วย"
พูดจบก็เดินออกไปจากห้องด้วยสภาพอารมณ์ที่ใครก็ไม่กล้าเข้ามาขวาง
........................................................
วันนี้ก็ป็นอีกวันที่กงชานกลับบ้านดีก กงชานมองไปรอบๆบ้านด้วยความเคยชินที่จะเห็นใบหน้าสวยๆของจินยองคอยชะเง้อมองมาที่เค้ายามที่เค้ากลับมาถึงบ้าน..แต่ก็ต้องแปลกใจที่วันนี้มันไม่มี... กงชานเดินขึ้นบ้านไปด้วยความรู้สึกผิดหวัง..
จินยองคงเกลียดเค้าไปแล้วสินะ
.... แต่มันก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ
"นายไปไหนมา"
กงชานเงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่บนบันได แอบหวังว่าจะเป็นจินยอง..แต่แล้วก็ต้องผิดหวังรอบสองเมื่อเป็นชินอูแทนที่จะเป็นจินยอง
"เรื่องของผม"
"หึ มันเรื่องของนายอยู่แล้ว ที่ถามเนี่ยไม่ได้อยากจะรู้หรอกนะว่าไปไหนมา...แต่ที่ถามเนี่ยเพราะฉันจะถามนายต่อว่านายให้จินยองอยู่คนเดียวได้ยังไง นายปล่อยให้จินยองเป็นแบบนี้ได้ยังไง!"
"...พี่จินยองเป็นอะไร"
"เคยสนใจด้วยหรอว่าจินยองจะเป็นยังไง คงต้องรอให้จินยองตายก่อนสินะนายถึงจะมาสนใจ"
"พี่เงียบไปดีกว่า มันไม่ใช่เรื่องที่คนนอกอย่างพี่จะมายุ่งซะหน่อย"
"ยังจะมีหน้ามาพูดอีกหรอวะ!!"
พลั่กกกกก!
ชินอูผลักกงชานอย่างแรงจนกงชานเสียหลักล้มลงไป
"นายยังกล้ามาพูดแบบนี้กับฉันอีกหรอ มันเป็นเพราะนายไม่ใช่รึไงที่ทำให้จินยองไม่สบายจนขนาดนี้น่ะ! รูมั้ยว่าตอนที่ฉันกลับมาจินยองถึงกับเป็นลมไปเพราะทนพิษไข้ไม่ได้ เคยสังเกตบ้างรึเปล่าว่าตอนนี้จินยองน่ะโทรมขนาดไหน นายเคยรู้อะไรบ้างมั้ย!!!"
ชินอูเดินไปกระชากคอเสื้อกงชานให้หันมา แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่ากงชานเลือดกำเดาไหล
"นะ...นี่นาย
กงชานเช็ดเลือดออกอย่างไม่ใส่ใจ แล้วมองหน้าชินอูด้วยแววตานิ่งเฉย แต่แล้วสายตาของชินอูก็เหลือบไปเห็นซองจดหมายที่ตกอยู่ข้างๆตัวของกงชาน
ชินอูเดินไปหยิบซองจดหมายที่จ่าหน้าซองถึงกงชานขึ้นมาดู พลันดวงตาก็เบิกต้องเบิกกว้างด้วยความตกใจ
"กงชาน...นะ...นี่นายเป็น"
"ผมคงปิดพี่ไม่ได้สินะ.."
"....!"
"งั้นพี่ช่วยผมหน่อยละกัน"
"....."
"ผมขอร้องล่ะ..อย่าบอกใคร โดยเฉพาะพี่จินยอง"
ทางด้านบาโรและซานดึล
"โอ้ย ทำไมทำมันถึงได้เมื่อยขนาดนี้นะ" -^-
ซานดึลพูดไปพลางบีบนวดตัวเองไป
"นั่งอยู่แต่บนรถเข็นทั้งวัน มันจะไม่เมื่อยได้ไงเล่า"
"เรื่องของฉัน อย่ามายุ่ง"
=_=
ผมทำอะไรผิดหรอ
"นายจะไปไหนก็ไปเลยไป นี่มันก็ดึกแล้วนะ กลับหลุมของนายไปซะทีเถอะ"
แรงเว่อร์ =0=
บาโรได้แต่ส่ายหัวน้อยๆพลางยิ้มขำอย่างช่วยไม่ได้ ก็ใบหน้าหวานๆของซานดึลตอนทำหน้ามุ่ยๆแบบนี้มันน่าจับมาจูบซะจริง
ว่าแล้วก็เดินอ้อมไปด้านหลังแล้วเข็นรถวีลแชร์ไปที่โซฟา แล้วค่อยๆประคองให้ซานดึลลงจากรถอย่างช้าๆ ตอนแรกซานดึลก็มีท่าทีขัดขืน แต่พอบาโรขู่ว่าถ้าไม่ยอมลงมาจากรถเองดีๆเค้าจะอุ้มขึ้นไปนอนบนห้องแทน พูดเพียงเท่านั้นซานดึลก็ยอมทำตัวดีโดยง่ายดาย
"นั่งลงซะ"
"......" เมินแต่ก็ทำตาม
"แล้วก็หันหลังมาด้วย"
" นายจะทำอะไร"
"หันหลังมาเถอะน่า อย่าถามมากจะได้มั้ย"
"จิ๊" หันหลังให้อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
บาโรค่อยๆวางมือไปที่ไหล่เล็กของอีกคน แล้วลงมือนวดให้อย่างเบามือ ซานดึลสะดุ้งไปเล็กน้อยตอนที่บาโรเอามือมาแตะไหล่ แต่พอเริ่มผ่านไปสักพักซานดึลก็นั่งนิ่งยอมให้บาโรนวดไหล่ให้ไปเรื่อยๆ
"เป็นไง ดีขึ้นมั้ย"
"...อืม"
"ชอบรึเปล่า"
"..ก็เฉยๆ"
ซานดึลตอบแบบไม่ค่อยเต็มเสียงนัก อยู่ดีๆหัวใจมันก็กระตุกวูบขึ้นมา แล้วก็เริ่มเร่งจังหวะอัตราการเต้นขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้..
"ชอบก็บอกมาเถอะน่า อย่าปากแข็งไปหน่อยเลย"
"เอ๊ะ นายนี่ยังไง !" พูดพลางหันหลังกลับมาทำท่าจะตีจนบาโรยกมือขึ้นมากันแทบไม่ทัน
"โอเคๆ เฉยๆก็เฉยๆ -.- โด่ว แค่นี้ก็ต้องรุนแรงกันด้วย"
"พอเลยๆ ไม่ต้องนวดมันแล้ว ฉันจะดูทีวี" ซานดึลพูดพร้อมกับหันหน้ากลับมาแล้วก็เปิดทีวีนั่งดูหนังอย่างตั้งใจ บาโรจึงหันมานั่งดูทีวีมั่ง ..แต่ก็ดูไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก เพราะเอาแต่ลอบมองใบหน้าหวานของคนข้างๆแทบจะตลอดเวลา ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่าคนข้างๆนี้...น่ารัก
"ฮ้าววว. "
ซานดึลหาวขึ้นมา เมื่อบาโรเห็นแบบนั้นเลยหันมาถามด้วยความห่วงใย
"นอนเลยมั้ย ฉันจะได้พาขึ้นห้อง" (หืม -.,-)
"ยัง ฉันยังไม่ง่วงซะหน่อย"พูดแล้วก็เบือนหน้าหนี ทั้งๆที่น้ำตาซึมเพราะว่าหาวขึ้นมาอีกรอบ ง่วงจนตาจะปิดแต่ก็ติดที่ว่าฟอร์มจัดเลยปฏิเสธเสียงวแข็งกลับไป
โอเค๊ -___________- ไม่ง่วงก็ไม่ง่วง
5 นาทีผ่านไป
ใครกันที่บอกว่ายังไม่ง่วง ผ่านไปแค่ไม่กี่นาทีก็สลบเหมือดคาไหล่ผมเลย ^^
ผมค่อยๆประคองคนตัวเล็กให้นอนลงบนโซฟาอย่างเบามือ ไม่กล้าทำรุนแรง ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงดัง ไม่งั้นเดี๋ยวซานดึลก็ได้ตื่นขึ้นมาอาละวาดฟาดผมตายคามือพอดี ช่วงนี้ยิ่งอารมณ์แปรปรวนอยู่ด้วย คงยังไม่หายโกรธผมสินะ -^-
“ฉันขอโทษนะซานดึล” นั่งมองใบหน้าหวานที่นอนหลับอยู่บนโซฟาด้วยแววตารู้สึกผิด ฝ่ามือหนาก็ลูบไล้ไปตามใบหน้าเนียนใสเบาๆอย่างทะนุถนอม
ผมนั่งนิ่งๆอยู่สักครู่ ใบหน้าของซานดึลยามหลับน่ารักจนเกินบรรยาย แก้มป่องๆอมชมพู ดวงตากลมโตเมื่อยามที่หลับดูใสซื่อเหมือนเด็กตัวเล็กๆไร้พิษสง โดยไม่ทันที่จะรู้ตัว ใบหน้าชองผมก็ค่อยๆโน้มลงไปจนเกือบจะชิด ห่างกันเพียงไม่กี่เซนต์ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ ซานดึลก็ลืมตาขึ้นมาอย่างกะทันหัน ผมไม่ได้หลบสายตา แต่กลับจ้องมองกลับไปอย่างแฝงความหมากมายในนั้น มันทั้งรู้สึกผิด อยากขอโทษ แล้วก็ความรู้สึกที่ผมรู้สึกมานาน...”รัก”
ผมไม่เคยพูดคำนี้ออกไปซะที แล้วก็ไม่กล้าพอที่จะพูดออกมาในตอนนี้ด้วย
ซานดึลเหมือนกับตกอยู่ในภวังค์ เมื่อมองมาที่คนตรงหน้าแล้วเจอเข้ากับสายตาที่หวานเชื่อมซะจนทำให้ใบหน้าของเค้าร้อนผ่าวขึ้นมา
“นะ...นาย”
พูดยังไม่ทันจบ บาโรก็ปิดปากอีกคนด้วยริมฝีปากของตัวเอง
ซานดึลตาโตด้วยความตกใจ แต่เมื่อผ่านไปสักพัก ด้วยบรรยากาศยามค่ำคืนที่แสนจะเป็นใจ บวกกับรสจูบที่คนตรงหน้ามอบให้อย่างอ่อนโยน ทำให้ซานดึลเผลอจูบตอบกลับไปอย่างลืมตัว มือเล็กก็เผลอโอบรอบคออีกคนแล้วครางเบาๆในลำคอ
เมื่อบาโรถอนจูบออก ซานดึลก็ยังหลับตาพริ้มเหมือนกับว่ายังไม่พอ บาโรมองภาพนั้นยิ้มๆ แล้วก็พูดแหย่ออกมา
“อยากได้อีกหรอ...ถ้าอยากได้อีก คราวนี้ฉันไม่หยุดแล้วนะ”
“บะ...บ้า!!!!” 0/////0
“ฮ่าๆๆ”
ซานดึลรีบลุกขึ้นนั่งทันที แล้วก็เกาหัวแก้เก้อเพราะเขินจนทำตัวไม่ถูก หน้าก็แดงอย่าเห็นได้ชัด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเอามือปิดหน้าอย่างอายๆ ..ยิ่งคิดถึงความรู้สึกเมื่อกี้ตอนที่จูบก็ยิ่งเขิน
“ไปๆ ไปนอนในห้อง เดี๋ยวฉันพาไป”
“มะ...มะ ไม่ต้อง! ฉันไปเองได้!”
ซานดึลโวยวายลั่น กลบเกลื่อนอาการเขินแล้วก็ลากสังขารตัวเองเข้าห้องไปอย่างทุกลักทุเล
ปังงงงงงงงงง!!!
ปิดประตูใส่หน้าแถมอีกที
แค่นี้ก็ต้องถึงกับปิดประตูใส่หน้ากันเลยเรอะ -_-!
แหม่ เดี๋ยวก็ตามเข้าไปจูบถึงในห้องซะเลยนี่ J
ตอนนี้ไรเตอร์แต่งในโทรศัพท์ อาจจะมีคำผิดเยอะไปบ้างก็ขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ
ตอนนี้แต่งแบบจัดหนักคู่บาดึลเพราะยอดคอมเม้นพุ่งมาก ไรเตอร์ปลื้มปิติมากค่ะ T.,T
ขอบคุณทุกคนที่คอมเม้น เอาไว้คราวหน้าถ้าคอมเม้นเยอะอีก ไรเตอร์ก็จะจัดหนักจัดเต็มให้อีกนะ:)
ความคิดเห็น