ตอนที่ 4 : ป่าหลินตัน
หวังอี้ฟานขมวดคิ้วมุ่นมองยังจ้าวลู่ที่กำลังยิ้มเเย้มหากไม่รู้จักกันดีคงคิดว่าเด็กน้อยผู้นี้ชั่งน่าสรรเสริญยิ่งนักด้วยอุปนิสัยของจ้าวลู่นั้นการกล่าวถามเช่นนี้คงไม่พ้นขอออกไปเที่ยวเล่นยังภายนอกเช่นเคยซึ่งเเต่ละครั้งก็ใช่ว่าจะ ราบลื่นเสนอไป
"เจ้าคิดรึว่าตาเฒ่าเยี่ยงข้าที่ผ่านลมหนาวผ่านฟ้าฝนจะรู้ไม่ทันเด็กน้อยเช่นเจ้า..ลู่เอ๋อร์"
"ท่านปู่ข้า..."
จ้าวลู่ก้มหน้าลดลงต่ำขณะพยายามสงบใจทำสีหน้าเศร้าสร้อยอับจนหนทาง เมื่อหวังอี้ฟานมองเห็นท่าทางของจ้าวลู่ก็ชวนให้รู้สึกระอาเหนื่อยหน่ายสะบัดมือคิดในใจ
ครานี้คงไม่เข้าไปก่อเรื่องยุ่งสร้างวุ่นวายอีกเเล้วกระมังคราก่อนก็ฝูงสัตว์อสูรต่อมาก็ล่อพายุอัสนีบาตเพราะหลงนึกว่าจะสายฟ้าจะกลัดผนึกอัสนีครั้งปรุงยาก็ดันทำเตาหลอมระเบิดเเถมยังดึงดันกลัดยาประหลาดติดไม้ติดมือมาอีกเเล้วยังมิวายบุกรังโจรช่วยเหลือชาวบ้านเเสร้งมีน้ำใจงามเเต่สุดท้ายก็กลับกลายเป็นโจรเสียเองปีศาจน้อยของข้าผู้นี้ก่อเเต่เรื่องก่อเเต่ปัญหาชวนปวดกบาลทุกคราทุกครั้งที่ออกไปยังโลกภายนอก คิดเเล้วก็เหนื่อยหน่าย อัฉริยะชนมากมายที่ต้องตกตายไปก่อนวัยอันควรเพราะก่อปัณหาที่ตนมิอาจจัดการได้หากจะขนภูเขามาเเทนการนับจำนวน ครั้งบดละเอียดเป็นก้อนกรวด
ถึงคาดคะเนยังไม่เท่าจำนวนคนเหล่านั้นที่ตกตายอย่างน่าเสียดาย หวังอี้ฟานเอ่ยปากกล่าวเตือน
"ไปเถอะ หากภัยมาถึงตัว..เจ้าคงรู้ใช่หรือไม่ว่าควรทำเช่นไร "
เมื่อได้ยินคำถามนัยตาของจ้าวลู่พลันคมกล้าขึ้นมาเเถมยังยืดอกกล่าวด้วยเสียงภาคภูมิเเข็งขันว่า
" สามกฏเหล็ก หนึ่งคือหัวใจภูผาโหดเหี้ยมกับตัวเองเเละศัตรู สองคือเมื่อคิดสู้หากภัยถึงตัวจงประมาณตนให้จงดี ข้อสามเมื่อสู้ไม่ได้จงถอยหนีรักษาชีวิตวันใดถึงคราวเจอภัยถึงชีวิตคิดเเล้วว่าเกินกำลังจงอย่าอายที่ตนอ่อนเเอ ข้าจำได้หมดทุกข้อเป็นไงล่ะข้าไปได้หรือยัง "
หวังอี้ฟานยกมือข้างหนึ่งใช้ชายเสื้อป้องปากพยักหน้ารับอมยิ้มเล็กน้อยไปพลางเอ่ยปากกล่าววาจา
"จำได้ก็ดีต่อเจ้า ข้าอนุญาตออกไปได้เเต่ภายในเวลาสามวันหากเจ้ายังไม่กลับข้าหวังอี้ฟานจะตามไปตีก้นถึงที่หากเจ้าเจอกับภัยอันตรายเกินรับมือจงทำลายป้ายหยกเข้าใจหรือไม่ ?"
จ้าวลู่พยักหน้าตบปากรับคำเป็นมั่นเหมาะขณะคิดในใจพลางฉาบใบหน้าไร้เดียงสาประหนึ่งลูกนกผู้มิเคยสยายปีกโผบินในท้องนภา
หากข้าทำลายป้ายหยกท่านก็ตายเร็วขึ้นนะสิ
นิสัยของจ้าวลู่มีรึที่หวังอี้ฟานจะไม่รู้เด็กน้อยตัวร้ายที่ตนเลี้ยงมากับมือคิดอ่านประการใด เเม้นอายุเพียง 13 ปี เเต่กลับมีความคิดอ่านเกินวัยในมุมมองปกตินับได้ว่าถือเป็นเรื่องดีเเละน่าชื่นชมเเต่ในกรณีของจ้าวลู่หวังอี้ฟานนั้นไม่ปราถนาเลยสักนิดเพราะเขาคิดเพียงว่า เด็กก็คือเด็ก ความรักที่หวังอี้ฟานมีต่อจ้าวลู่นั้นประดุจดั่งบิดาห่วงใยบุตรเเละปราถนาเห็นวันที่เขาเติบโต มีอัฉริยะชนไม่น้อยบนโลกเเห่งนี้ที่ตกตายเพราะทะนงตน ซึ่งเขาก็หวังให้หนึ่งในนั้นไม่ใช่จ้าวลู่
เหรียญมักมีสองด้านเสมอเเม้นเด็กน้อยของตัวจะถอดนิสัยจากมารดาเเต่ก็ได้นิสัยมาจากหวังอี้ฟานผู้เลี้ยงดูเฉกเช่นกัน หากจะกล่าวว่าจ้าวลู่ทั้งดื้อรั้นยันก้นกระดูกชนิดฝังรากลึกยากจะถอดถอนเเล้วกระนั้นอีกหนึ่งส่วนยังมิวายมากเลห์เพทุบายดั่งถอดเเบบมาจากหวังอี้ฟาน
ไม่ต่างเป็นลูกเสือลูกตระเข้คงมิผิดนักเเละมีส่วนคล้ายได้รับ เชื้อบ้าจากฝ่ายบิดาผู้เป็นสหายผู้ล่วงลับอีกหนึ่งส่วนผสมร่วมโลงโดยเนื้อเเท้กลายเป็นตัวชักนำหายนะชนิดเเท้ทรู ครั้งจ้าวลู่หากเขาไม่วิ่งรนหาที่เข้าเจอกับปัญหา ปัญหาทั้งหลายทั้งปวงก็จะมาหาเขาเองโดยสดุดี อยู่ร่ำไปคล้ายสวรรค์ลิขิตให้รับบทผู้กล้าและมารร้ายในคนเดียว
หวังอี้ฟานโบกมืออีกครั้งก่อนจะนำมาพายไพล่หลังมองยังร่างของจ้าวลู่ที่กำลังเดินลงเขาไปชนิดเริงร่า ใบหน้าของนักพรตเฒ่าเปี่ยมล้นด้วยความห่วงใยเเอบชี้นิ้วยิงลำเเสงเส้นหนึ่งทิ้งไว้ตราประทับไว้ยังต้นคอของจ้าวลู่โดยมิให้เด็กน้อยตัว ปัญหารู้สึกตัวเเม้เเต่ความระคายเคือง
ป่าหลินตันดินเเดนของสัตว์อสูรดุร้ายนานาชนิดเปรียบเสมือนพื้นที่ต้องห้ามสำหรับมนุษย์เลยก็ว่าได้ เเต่กลับมีเด็กชายใบหน้าอ่อนเยาว์หล่อเหลาเดินสาวเท้าก้าวฮัมเพลงทอดน่องเบิกบานใจสบายอุณาโลมราวกับมาเดินท่องเที่ยวในส่วนหลังบ้านของตน
โดยชนิดที่เรียกได้ว่ามิสนฟ้าดินหรือหน้าอินทร์หน้าพรหมภัยร้ายทั้งหลายแหล่จากสัตว์อสูรกระบี่ไม้ในมือกวาดแกว่งไปมาตัดเเต่งเปิดทางขณะทะยานตัวโบยบินประดุจพญาอินทรีเหนือกิ่งก้านต้นไม้สายตาคู่นั้นจับจ้องค่อยระวังภัยเป็นครั้งคราวหากหวังอี้ฟานรู้ว่า เด็กน้อยของตัวกำลังมาเดินเล่นในป่าหลินตันเเล้วล่ะก็ คงมิเเคล้วเร่งเร้าพลัง เเหวกผ่านมิติปรากฏกายจับเจ้าตัวร้ายมาตีก้นให้เข็ดหลาบเเล้วลากตัวกลับภูผาบ้านหลังน้อยเป็นที่เรียบร้อยเเถมคง สั่งลงโทษในค่ายกลอย่างหนักเขียนคัดลองคำภีสำนึกผิดนับร้อยบทเป็นการใหญ่ เเละเหตุผลเดียวที่จ้าวลู่มายังสถานที่มากภัยถึงชีวิตเช่นนี้คือ ความอยากรู้อยากเห็นล้วนๆ โดยมิมีสิ่งอื่นใดเป็นเหตุจูงใจจะสมบัติทั้งหลายทั้งปวงเองก็มิได้อยู่ในสายตา เเต่ทว่าที่สาวเท้าก้าวเข้ามา
เพราะหวังอี้ฟานสั่งนักสั่งหนาห้ามนักห้ามหนาเเต่เมื่อสบโอกาศมีรึที่เด็กน้อยวัยเลือดร้อนอย่างจ้าวลู่จะทนหักห้ามใจได้
นอกจากมิฟังคำเเล้วยังเบ้ปากคล้ายนกน้อยเเรกบินผจญภัยสู่โลกกว้างเสียด้วยซ้ำหากมิหนำใจตนก็มิคิดจะกลับให้เสียเวลานอกจากจะเกิดเหตุไม่คาดฝัน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
